3
ชีวิตคู่หรือคี่ดี
ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่พบสามีบนเตียงนอนเสียแล้ว วธุกามองนาฬิกาที่ติดอยู่ข้างผนังห้อง เจ็ดโมงเช้าแล้วเธอเพิ่งตื่นเป็นเรื่องที่ผิดปกติไปจากทุกวัน เพราะหญิงสาวมักจะตื่นขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อยของงานที่รีสอร์ตในช่วงตีห้าครึ่งในแต่ละวัน หญิงสาวถอนหายใจหนักๆ ให้กับห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย ผ้าปูสีขาวยับยู่ยี่และมีหลักฐานบางอย่างจากการเข้าหออย่างดุเดือดเลือดพล่าน รีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อลงไปยังด้านล่างของบ้าน“คุณวาทหนูชื่อเพลินนะคะ เป็นแม่บ้านของที่นี่ค่ะ” สาวน้อยหน้าตาน่ารักทักวธุกาอย่างยิ้มแย้ม
“แล้วยังไงจ๊ะ” วธุกาถามสาวน้อยที่ถักเปียทั้งสองข้างอย่างชื่นชมในความอ่อนน้อมถ่อมตนของหญิงสาว
“หนูมีหน้าที่มาเก็บกวาดเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้คุณวิเนตย์ทุกเช้า และก็ทำความสะอาดบ้านหลังนี้ค่ะ”
“อ้อ งั้นเหรอ แล้วอาหารเช้าคุณวิเนตย์ของเพลินกินที่ไหนล่ะ”
“กินที่ห้องอาหารของลูกค้าค่ะ”
“ห้องอาหารของลูกค้า?” คิ้วขมวดแน่นเพราะคิดว่าเขาน่าจะรับประทานมื้อเช้าที่บ้านหลังนี้
“ใช่ค่ะ คุณวิเนตย์ให้บอกคุณวาทว่าทุกเช้าก็ให้ไปหาข้าวกินที่ห้องอาหารได้เลย ส่วนคุณวิเนตย์แกจะกินที่นั่นทุกเช้าอยู่แล้วค่ะ วันนี้ก็กินไปแล้วด้วย คุณวาทอาจต้องนั่งกินคนเดียวนะคะ”
“อ้อ เข้าใจแล้วล่ะ เพลินไปทำงานของเธอต่อได้แล้ว” มื้อเช้าแรกในการใช้ชีวิตคู่กลับต้องนั่งรับประทานอาหารเพียงลำพัง คนบ้านั่นไม่คิดจะรอกันบ้างเลย อย่างน้อยปลุกกันบ้างก็ยังดี
บรรยากาศในห้องอาหารช่วงเจ็ดโมงเช้าไม่พลุกพล่านอย่างที่คิด นักท่องเที่ยวที่ขึ้นจากบ้านพักบนแพมาที่นี่ยังน้อยอยู่ วธุกาเลือกนั่งตรงโต๊ะที่มองเห็นแม่น้ำด้านล่างได้อย่างถนัดตา อาหารเช้าประเภทบุฟเฟต์หลากหลายชนิดของลูกค้าก็น่ารับประทานอยู่ไม่น้อย หญิงสาวเลือกที่จะตักข้าวต้มไก่สับและน้ำเปล่าหนึ่งแก้วไปนั่งรับประทานเพียงลำพัง ชมทิวทัศน์ความสวยงามของแมกไม้และสายธารไป ต้องยอมรับว่าทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามกว่าที่รีสอร์ตของยายนวลน้อยมากจริงๆ ไม่แปลกที่ลูกค้าของวิเนตย์จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี ซ้ำยังมีชื่อติดอันดับรีสอร์ตที่ดีที่สุดของจังหวัดอีกด้วย
มื้อเช้าผ่านพ้นไปแล้วเธอจะทำอย่างไรดีในการเป็นภรรยาของเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้ เพราะสามีไม่ได้จัดแจงหน้าที่ให้ก่อนหน้า ตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นเขาเสียแล้ว วธุกาเดินกลับไปยังบ้านหลังใหญ่ของเขาอีกรอบ เสียงดังกุกกักเกิดจากการที่น้ำเพลินกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่
“จะเอาอะไรเพิ่มไหมคะคุณวาท เดี๋ยวเพลินหามาให้” น้ำเพลินตะโกนออกมาจากบันไดที่ตนเองกำลังขัดถูอยู่
“ไม่ต้องหรอกเพลิน ฉันไม่อยากได้อะไรแล้ว”
วธุกานั่งอยู่ในบ้านโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยจนได้เวลาเที่ยง หญิงสาวรู้ว่าที่นี่มีร้านอาหารเปิดให้ลูกค้าได้สั่งอาหารตอนเที่ยงรับประทาน ซึ่งอาจจะหมายรวมถึงตัวเธอด้วย สรุปเช้าเที่ยงเย็นก็คือรับประทานที่ห้องอาหารของรีสอร์ตนั่นเอง
หญิงสาวเดินผ่านจุดบริการลูกค้าก็พบว่ามีพนักงานอยู่เพียงสองคน และลูกค้าที่ทยอยเข้ามาพักก็หลายสิบคน วธุกานึกแปลกใจเพราะว่าเวลาเที่ยงไม่น่าจะเป็นเวลาเข้ามาพักของลูกค้าใหม่ เพราะรีสอร์ตแต่ละแห่งในแถบนี้เข้าพักบ่ายสองและออกตอนเที่ยงเหมือนกันหมด
“มีอะไรให้ช่วยไหมจ๊ะ” เพราะวธุกาเองก็ทำหน้าที่นี้เหมือนกันที่รีสอร์ตของยายนวลน้อย ดูจากสีหน้าของพนักงานก็รู้ได้ในทันทีว่ากำลังมีปัญหา
“คือว่าลูกค้าจะเข้าพักก่อนเวลาแต่ว่าทางเรายังทำความสะอาดห้องพักไม่เรียบร้อยเลยค่ะคุณวาท” พนักงานต้อนรับตอบกลับมาด้วยสีหน้าหนักใจ สายตาก็ชำเลืองไปยังกลุ่มลูกค้าที่จ้องเขม็งกลับมาไม่ลดละ
“แล้วยังไงจ๊ะ”
“คือว่าดาแนะนำให้ลูกค้าไปเที่ยวแถวๆ นี้ก่อนสักสองชั่วโมงค่อยกลับมาใหม่ แต่ลูกค้าโวยวายค่ะบอกว่าไม่อยากไปไหนแล้ว” ท้ายๆ ประโยคถูกเอ่ยออกมาราวกระซิบบอก วธุกาหันมองลูกค้าซึ่งมีราวสิบคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หญิงสาวเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือไหว้ทุกคน
“สวัสดีค่ะ คุณลูกค้า”
“ว่าไงครับ” คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าครอบครัวมองวธุกาเหมือนเอาเรื่อง แต่หญิงสาวก็ใช้อาวุธประจำกายคือรอยยิ้มหวานๆ เข้าสู้
“เดินทางมาจากไหนกันคะเนี่ย”
“กรุงเทพฯ” คำตอบก็แข็งๆ กระด้าง แต่คนผ่านงานบริการมาก่อนมีหรือจะหวั่นเกรง
“ทานอาหารกันมาหรือยังคะ” หญิงสาวถามพร้อมกับเหลือบตาไปมองเด็กชายตัวน้อยที่มีอายุราวห้าหกขวบ
“ยังเลยครับ แล้วนี่ผมจะเข้าพักได้หรือยัง”
“คืออย่างนี้นะคะคุณลูกค้า ลูกค้าที่พักก่อนหน้าเพิ่งเช็กเอาต์ออกไปเมื่อกี้นี้เอง แม่บ้านเพิ่งเข้าไปทำความสะอาด ห้องพักก็เลยยังไม่เรียบร้อยดีเลยค่ะ ถ้ายังไงคุณลูกค้าสามารถลงไปทานมื้อเที่ยงรอก่อนที่ห้องอาหารได้นะคะ เกรงว่าเจ้าตัวเล็กจะหิวเสียก่อน เดี๋ยวทางเราจะเร่งให้พนักงานเก็บกวาดห้องให้เร็วที่สุดนะคะ” วธุกาพูดพร้อมยิ้มให้กับเด็กชายตัวน้อย
“ความผิดผมใช่ไหมที่มาเร็วเกินไป” หนุ่มใหญ่ยังคงหน้างอไม่เลิก ไม่ยอมโอนอ่อนลงง่ายๆ
“ใครจะกล้าไปว่าลูกค้าล่ะคะ แค่ให้เกียรติมาพักที่รีสอร์ตเรานี่ก็เป็นพระคุณเหลือหลายแล้ว เชิญที่ห้องอาหารก่อนไหมคะที่นั่นลมเย็นสบายดีนะคะมองเห็นวิวแม่น้ำด้วย แล้วหากว่าทานอิ่มแล้วแม่บ้านยังเก็บห้องไม่เสร็จก็ไม่เป็นไรค่ะ ก็ลงไปชมแม่น้ำก่อนได้ มีแพส่วนกลางให้ลูกค้าเดินเล่นพักผ่อนได้ค่ะ”
“อืม พูดแบบนี้ค่อยโอเคหน่อย นี่อะไรเอะอะก็จะไล่ให้ไปเที่ยวที่อื่นท่าเดียว พนักงานคุณนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ” ลูกค้าขี้โมโหหันไปทำตาดุใส่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งตอนนี้ก็หลบตาหนีลูกค้ากันเป็นพัลวัน
“ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ กระเป๋าเอาลงมาแล้วก็ฝากไว้กับน้องๆ เขาก่อนก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องขนกันหลายรอบ” วธุกาเดินนำลูกค้าทั้งสิบคนไปยังห้องอาหาร พร้อมกับนำเมนูมาให้สั่งไปพลางๆ ซึ่งระหว่างนั้นพนักงานก็รีบเร่งให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องพักให้เร็วที่สุด
“ไม่ได้คุณวาทนี่แย่เลยนะคะ ดาเผลอปากไปค่ะเผลอไปบอกว่าเชิญลูกค้าเที่ยวน้ำตกละแวกนี้ก่อนก็ได้นะคะสองชั่วโมง คือดาหวังดีค่ะคุณวาทไม่อยากให้เขามานั่งรอเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นว่าเราใจดำกับลูกค้าเสียอย่างนั้น คือเคยมีลูกค้าคนอื่นเขาอยากให้ดาแนะนำที่เที่ยว เขาไม่อยากรอตอนที่เราทำความสะอาดห้อง ดาเลยชินที่จะบอกลูกค้าแบบนี้” ศิรดาประชาสัมพันธ์หน้าตาแสนสวยยิ้มแหยๆ อย่างรู้ตัวว่าผิดให้กับภรรยาเจ้าของรีสอร์ต ไม่คิดว่าความปรารถนาดีที่ตนเองเคยบอกลูกค้าท่านอื่นๆ จะใช้ไม่ได้กับครั้งนี้
“ส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่หรือวัยรุ่นกันใช่ไหมที่พูดแบบนั้นได้”
“ก็ใช่ค่ะ ดาขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ทีหลังก็ระมัดระวังคำพูดให้มากกว่านี้นะ เขามาจากกรุงเทพฯ คงขับรถมาเหนื่อยๆ และเป็นครอบครัวใหญ่มีเด็กคนแก่ด้วย คงไม่อยากไปเที่ยวไหนต่อหรอก แค่สองชั่วโมงเอง กินข้าวเดินเล่นดูแม่น้ำห้องพักไปก็พอดีแหละ เร่งแม่บ้านหน่อย”
“ค่ะ ดาจะระมัดระวังกว่านี้ค่ะคุณวาท” ศิรดาได้รับบทเรียนราคาแพงในครั้งนี้ และคงจะเป็นประสบการณ์เตือนใจในเรื่องนี้ไปอีกนาน
“แล้วใครใช้ให้คุณมายุ่งกับงานของผมไม่ทราบ” เสียงเข้มๆ ของวิเนตย์ดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึงจุดบริการเสียอีก
“คุณวิเนตย์” วธุกาหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจว่าตนเองทำอะไรผิด ทำไมสามีจะต้องมองมาด้วยสายตาไม่พึงพอใจถึงเพียงนั้น
“ศิรดา”
“คะคุณวิเนตย์” ศิรดาขานรับแบบหงอๆ
ตอนที่ : 7 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 2 “ทำงานไม่ได้เรื่องขนาดต้องให้เมียฉันมาช่วยเลยหรือยังไง หรือว่าต้องให้เปลี่ยนคนใหม่” พูดตำหนิใส่พนักงานแล้วสายตาก็หรี่มองภรรยาแบบไม่พอใจ “เอ่อ ดาขอโทษค่ะคุณวิเนตย์” “ไม่ต้องมาขอโทษ ปัญหาแค่นั้นยังแก้ไขเองไม่ได้ต่อไปฉันจะไว้ใจให้เธอดูแลจุดนี้ได้ยังไง” “คุณวิเนตย์คะ” วธุกาเรียกเขาเบาๆ “อะไร!” แต่สามีเธอกลับตวาดกลับมาให้หน้าเสีย “ฉันแค่อยากบอกว่าลูกค้ากำลังเดินมาทางนี้ค่ะ เบาๆ เสียงหน่อย แค่นี้แหละค่ะที่อยากบอก” พูดเสร็จว
ตอนที่ : 8 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 3 หญิงสาวไม่มีวันทำใจได้หรอกในเรื่องนี้ ในเมื่อเขาไม่ให้ยุ่งงานในบ้าน แต่ให้ออกนอกบ้านไปได้ เรื่องอะไรที่เธอจะอยู่ให้ชอกช้ำใจ วธุกาไม่มีรถขับ แต่หญิงสาวก็ยังมีเพื่อนสนิทที่พอจะขับรถมารับถึงรีสอร์ตแห่งนี้ได้เหมือนกัน “แกออกมากับฉันแบบนี้คุณวิเนตย์เขาจะไม่โกรธเอาเหรอ เพิ่งแต่งงานเองนะ” นนท์นทีเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนประถมเอ่ยขึ้นระหว่างที่ขับรถพาวธุกาออกจากวิเนตย์ธารารีสอร์ตไป “เขาคงไม่โกรธแกหรอกนนท์อย่าคิดมาก ฉันอยากหาที่สงบๆ พักสมองเสียหน่อย ขอฉันไปนอนที่รีสอร์ตของแกนะ” “ยัยวาท แกพูดอะไรออกมา กลับไปนอนที่บ้านยายนวลน้อยยังจะดีเสียกว่ามานอนกับฉันนะ ฉันเป็นผู้ชายนะถึงจะเคยแก้ผ้าเล่นน้ำมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้
ตอนที่ : 9 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 4 ส่วนวธุกาที่กำลังจะเดินเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ของสามี หญิงสาวมองเห็นเขานั่งอยู่ตรงระเบียงสายตามองเหม่อลงไปยังแม่น้ำด้านล่าง ที่มีบ้านพักบนแพของลูกค้าเรียงรายอยู่นับแปดสิบห้อง หญิงสาวเดินเงียบๆ ตรงไปหาเขาจนได้ระยะใกล้พอสมควร “คุณวัสบอกว่าคุณอยากเจอฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามพร้อมกับเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสามี เขาผินหน้าดุๆ กลับมามอง สายตาจ้องเขม็งราวกับเธอไปทำเรื่องผิดอะไรมา “อะไรคะ” ถูกจ้องแบบไม่ละสายตาแบบนี้วธุกาเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเท่าไหร่ ‘คนบ้าอะไรหน้าตาดุชะมัด’ “คุณหายไปไหนมาทั้งวัน รู้ไหมผมถามใครก็ไม่มีใครรู้” นั่นปะไรสิ่งที่เขาต้องการหาเรื่องเธอ หญิงสาวกลอ
ตอนที่ : 10 หัวใจว้าวุ่น4หัวใจว้าวุ่น คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 12 หัวใจว้าวุ่น 3 มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง “คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ” “ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน “ผมพูดจบแล้วนะครับ” “อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน” ‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ “มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย” “งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว” “ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน” “ฮั
ตอนที่ : 13 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน5แน่ใจนะว่าฮันนีมูน วธุกาได้ฟังแผนการฮันนีมูนของสามีแล้วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ พ่อเจ้าประคุณช่างคิดออกมาได้ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันแบบนี้ แผนการฮันนีมูนห้าวันสี่คืนของเขามันช่างน่าประทับใจมาก (อันนี้ประชด) วันที่ 1-2 พักที่ห้องสวีตบนแพ มีอาหารเช้าเย็นให้เป็นแบบบุฟเฟต์ ชมวิวแม่น้ำสวยๆ หรือไม่ก็ใส่เสื้อชูชีพลงไปลอยคออยู่หน้าที่พัก ช่วง 16.00 น. แพก็ลากเราไปไกลจากรีสอร์ตหนึ่งกิโลกว่าๆ แล้วปล่อยให้ลงน้ำลอยคอกลับมาที่พักอย่างสนุกสนาน&nbs
ตอนที่ : 14 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 2 “คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ “ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน “คุณวิเนตย์” “หืมว่าไง” “เอ่อ คือว่าฉัน
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ
ตอนที่ : 55 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 3 หญิงสาวไม่อาจเห็นได้ว่าคุณหมอกับนางพยาบาลทำอะไรกับร่างกายของเธอ เพราะว่ามีผ้าคลุมกั้นไว้ไม่ให้มองเห็น แต่ว่าคำพูดของพวกเขาเหล่านั้นดังชัดเจนในความรู้สึก ถูกสั่งให้เบ่งคลอดเหมือนเบ่งอุจจาระ คิดแล้วก็ยังงงไม่หายมันเหมือนกันตรงไหน มือไม้เย็นเฉียบทั้งที่เครื่องปรับอากาศนั้นเปิดเบาๆ เบ่งไปก็เจ็บไป จนรู้สึกได้ว่าท่อนล่างชาไปหมดแล้วในตอนนี้ แต่แล้วคุณหมอก็เปล่งเสียงตื่นเต้นออกมา “หัวออกมาแล้วค่ะคุณแม่! ออกแรงเบ่งครั้งสุดท้ายเลยค่ะ เอ้าเบ่ง! อือ...อึ๊บ!” พรวด!!! รู้สึกเหมือนเธอจะได้ยินเสียงแบบนี้ จากนั้นความเจ็บทั้งมวลก็หายไป สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือ โล่ง สักพักนางพยาบาลก็นำเจ้าตัวเล็กมาพร้อมเผยให้เห็นเพศอย่างชัดเจน “ผู้หญิงน
ตอนที่ : 54 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 2 ‘ยัยวาทแกจะไปซื้อของไว้ก่อนคลอดทำไม โบราณเขาถือ’ ผู้เป็นป้าบอกไว้เสียน่ากลัวในวันที่เธอไปเยี่ยมลูกชายของอรตี แต่มีหรือเธอจะไม่เตรียมของไว้ก่อน เพราะพอเข้าห้องคลอดไปแล้วใครจะไปซื้อของให้ลูก สามีของเธอก็ใช่ว่าจะเลือกของพวกนี้เป็นเลยทีเดียว คนเป็นแม่หาข้อมูลไว้เรียบร้อยและเตรียมพร้อมเสมอ เลือกเสื้อผ้าผ้าอ้อมในลวดลายที่เป็นกลางใส่ได้ทั้งชายและหญิง จากนั้นพอคลอดเสร็จแล้วค่อยไปเลือกซื้อใหม่อีกรอบ พอถึงเวลานี้จริงๆ จึงสะดวกและรวดเร็วมาก วิเนตย์สั่งงานเอกวัสเอาไว้พร้อมกับบอกว่าตัวเขาอาจจะอยู่โรงพยาบาลไปเลยหากวธุกาคลอดจริง จากนั้นก็พาภรรยาขึ้นรถขับไปโรงพยาบาลในตัวเมืองทันที ระหว่างทางคนท้องก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด “คุณแน่ใจนะว่ามูกเลือดจริงๆ คุณวาท”&
ตอนที่ : 53 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ20ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ พอเริ่มเข้าเดือนที่แปดวธุกาก็น้ำหนักพุ่งพรวดจาก 48 กิโลกรัมช่วงก่อนท้อง มาเป็น 60 กิโลกรัมในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งคู่รอที่จะลุ้นเพศของลูกตอนคลอดเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะหญิงหรือชายพวกเขาก็รักไม่ต่างกัน ส่วนคนกำลังจะเป็นพ่อก็เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คอยเตือนให้ภรรยานับช่วงเวลาที่ลูกดิ้นตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด หลังจากได้รับสมุดตารางบันทึกการดิ้นของทารกเอาไว้ในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าทารกที่อยู่ในครรภ์ยังปกติดีหรือเปล่า หากผิดปกติก็จะได้ไปพบหมอได้ทันเวลา “หลังกินข้าวเจ้าตัวเล็กดิ้นไปกี่ครั้งแล้วคุณวาท” วิเนตย์เดินเข้ามาถามหลังจากภรรยาเพิ่งรับประทานมื้อเที่ยงไปหมาดๆ คนท้องเลยหันไปหยิบสมุดตา