"คลุมนี่ไว้ก่อน...แล้วห้ามออกจากห้องน้ำเดี๋ยวพี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน...ห้ามออกมาในสภาพนี้...พี่หวง"อัครวินท์ดึงผ้าขนหนูที่แขวนไว้มายื่นให้เธอหนึ่งผืน ก่อนจะดึงมาพันรอบเอวสอบเอาไว้บ้าง
"เร็วดิวะ!!" "เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้คิม...กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง...กูจะเปลี่ยนรหัสห้อง...มึงแม่งไร้มารยาทชิบ" "เมียมึงพาเมียกูไปไว้ไหน?" "กูจะไปรู้ไหมเนี้ย เอวาไม่ได้บอก"พูดจบอัครวินท์ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดเรียบร้อยๆ ไปยื่นให้เอวารินทร์ในห้องน้ำ ส่วนเขาก็นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วดันร่างเพื่อนออกจากห้องนอนไป "มิเกลไม่ได้อยู่ที่ห้อง มิเกลไปไหนมึงบอกกูมา" "กูไม่รู้..." "มึงก็ไปถามเอวาดิ...งั้นกูจะไปถามเอง" คิมหันต์เตรียมจะลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องไป แต่กลับถูกอัครวินท์ดันตัวนั่งลงไปที่เดิม "มึงอย่าแม้แต่จะเดินเข้าไปดูเมียกูเลยนะ กูเอามึงตายจริงๆ ด้วย...มึงใจเย็นแล้วนั่งรอ...รอเอวาแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยได้ไหม..."อัครวินท์ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ทั้งหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งกลัวเพื่อนจะบุ่มบ่ามเดินเข้าไปเห็นเรือนร่างของเมีย แล้วยังหงุดหงิดที่ถูกบุกรุกอย่างไร้มารยาทในยามวิกาลอีก "เฮ้อ...ขอโทษ..." "ขอโทษเชี้ยไรล่ะ...มึงพังสวรรค์ของกูไปแล้ว...แล้วคือยังไง...ร้อนใจอะไรของมึงนักหนา...มาพรุ่งนี้ไม่ได้หรือไง??"เขากล่าวกับเพื่อนอย่างหงุดหงิด "เออๆ ...ขอโทษจริงๆ ...ก็กูร้อนใจ" "ร้อนใจก็ต้องรอ...มึงหัดรอบ้างดิ..." "ถ้าพี่คิมเป็นแบบนี้เอวาก็ไม่ให้เจอเพื่อนหรอกค่ะ...กลับไปเถอะนะคะ..."ร่างบางเดินออกมาพร้อมกับชุดนอนขายาวแขนยาวที่อัครวินท์เตรียมให้ใส่ ถ้าไม่ติดที่ว่ามีเพื่อนมาเขาคงหาชุดบางๆ สั้นๆ ให้เธอใส่แล้ว แต่ไม่ได้ เขาไม่ยอมให้ใครมาเห็นเรือนร่างเมียสุดที่รักของเขาเด็ดขาด "เอวาพี่ขอร้อง...ถ้าพี่ไม่ได้เคลียร์ตอนนี้พี่เป็นบ้าตายแน่ๆ"คิมหันต์กล่าวด้วยแววตาเว้าวอน "เฮ้อ...งั้นเอวาขอโทรขอมิเกลก่อนนะคะ ถ้ามิเกลให้เจอเอวาก็จะยอม" "โถ่...ถามไปยัยนั่นก็ตอบว่าไม่อยู่แล้ว" "กลับไปเถอะค่ะ...ถ้ารู้คำตอบอยู่แล้ว...ทางที่ดีเอวาว่าพี่ไปเคลียร์กับคู่หมั้นตัวเองดีกว่า...ปล่อยเพื่อนเอวาไปเถอะค่ะ...ถือว่าขอเถอะนะคะ" "พี่ไม่ได้อยากหมั้น มันเป็นความคิดของพ่อ"คิมหันต์เอ่ยพร้อมกับเอามือมากุมกันไว้ที่หว่างขา จากนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างกับคนที่กำลังใช้ความคิด "ขนาดไอ้ซันยังโดนพ่อแม่บังคับ...แล้วพี่ขัดได้ที่ไหน" "โยนงานให้กูแล้วไงไอ้เวร!...ตอนนี้กูอยากแต่งแล้ว...อยากแต่งตอนนี้พรุ่งนี้เลยด้วย"อัครวินท์กล่าว "แล้วถ้าคนที่มึงจะหมั้นด้วย คือคนที่น้องมึงถูกใจล่ะ...มึงยังจะแต่งไหม?" "กูไม่มีน้อง" "เชี้ยซันมึงอย่ากวนตีนกูได้ไหม?" "ก็กูไม่มีน้อง จะให้กูรู้สึกยังไงล่ะ กูไม่เคยเสียสละของรักให้ใครด้วย"อัครวินท์เอ่ยบอกเพื่อน "ช่างเถอะ...ขอโทษและกันที่รบกวนเวลาส่วนตัว" "มึงควรคิดได้ตั้งนานแล้ว...พรุ่งนี้กูจะเปลี่ยนรหัส...ไม่น่าให้มึงรู้เลย!!"จากนั้นคิมหันต์ก็เดินออกจากคอนโดของเขาไปด้วยท่าทีผิดหวัง ผิดหวังที่ไม่ได้คำตอบ "ต่อกันไหม?"เมื่อเพื่อนกลับออกไปแล้วร่างสูงก็หันขึ้นมามองร่างบางที่ยืนใช้ความคิดอยู่ แต่ก็ต้องหยุดความคิดลงเพราะสายตากลมโตของเธอจ้องเขม็งมา "มันใช่เวลาทะลึ่งไหมเนี้ยห๊ะพี่ซัน!" "ขอโทษครับ...แต่มันค้าง...นะๆๆ"พูดจบเขาก็รวบตัวร่างเล็กลงมานั่งบนตัก จากนั้นก็ซุกซนใช้มือสอดเข้าไปในเสื้อนอนของเธอ ตามด้วยบีบเคล้นอกอวบอย่างมันส์มือ จากนั้นบทรักแสนเร่าร้อนก็บรรเลงขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่มีใครมาขัดจังหวะอีกแล้ว หลายวันต่อมา... "วันนี้พี่เข้าบริษัท...ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวที่บ้านแม่นะครับแม่บ่นคิดถึง"ร่างสูงเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ต เอวารินทร์จึงเดินไปหยิบสูทตัวนอกมาสวมใส่ให้ ตามด้วยผูกเนคไทให้เขา ร่างสูงมองดูใบหน้าแต่การกระทำของร่างเล็กอยู่ตรงหน้าด้วยความหลงไหล ไม่ว่าจะทำอะไรหยิบจับอะไรก็น่ามองไปซะหมด นี่เขาหลงรักเธอหมดใจจริงๆ ใช่ไหม "มองขนาดนี้...ขึ้นเตียงไหมคะ"เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ "อืม...น่าสนใจ..." พลั๊ก!! มือน้อยๆ ตีเข้าไปที่อกแกร่งอย่างแรง "พูดเล่นค่ะ...คิดเป็นแต่เรื่องเดียวหรือไง?" "ก็เอวาชี้โพรงให้กระรอกเองนะ" หมับ!! ฟอด ฟอด!! ร่างสูงตวัดแขนมาโอบรอบเอวบางเอาไว้ ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนวลเนียนทั้งสองข้างของเอวารินทร์อย่างแสนรัก นี่เขากลายเป็นคนคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไหร่กัน "ไปทำงานได้แล้วค่ะ..." "ไม่อยากไปเลย...อยากนอนกอดเมีย..." "วันนี้จะไปเยี่ยมจีโน่นะคะ ไม่ได้ไปหลายวันแล้ว" "ไปเยี่ยมมันทำไม?"เมื่อได้ยินร่างบางพูดถึงเพื่อนคนนั้นอัครวินท์ก็ขมวดคิ้วพร้อมกับถามขึ้นเสียงห้วนอย่างไม่พอใจทันที "ก็เพราะใครล่ะคะ เพื่อนเอวาถึงเป็นแบบนี้?" "พี่ไม่ได้สั่ง ไอ้คิมเป็นคนสั่ง!" "แต่ก็สมรู้ร่วมคิดกันนี่คะ...ใจร้ายชะมัด" "ไม่ให้ไป...ถ้าไปได้เห็นดีกันแน่!!"จากนั้นร่างสูงก็ฟึดฟัดออกจากห้องไปด้วยท่าทีที่หัวเสีย "อะไรกัน แค่ไปเยี่ยมเพื่อนก็หึงหรอ...เป็นเอามาก!!"1เดือนผ่านมา...วันแต่งงานงานแต่งของเอวารินทร์และอัครวินท์จัดขึ้นที่โรงแรมหรู6ดาว แขกเรื่อในงานก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีมากมายอย่างล้นหลาม พ่อแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ต่างยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติที่ในที่สุดวันนี้ลูกสาวและลูกชายของสองตระกูลได้ปรองดองกัน"ขอให้มีความสุขมากๆ นะตาซัน หนูเอวา...วันนี้แม่มีความสุขที่สุดที่เห็นลูกชายสุดที่รักของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที แม่ดีใจที่หนูเอวากำหราบเจ้าซันของแม่จนอยู่หมัด ขอบใจมากๆ นะลูกที่ยอมเป็นลูกสะใภ้ของแม่ด้วยความเต็มใจ"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยอวยพรพร้อมกับรดน้ำสังข์ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด"ครับแม่/ค่ะคุณแม่"ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกัน ก่อนจะหันไปสบตากันและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข วันนี้เจ้าสาวของเขาในชุดไทยสีเงินดูสวยออร่าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยสะดุดตาที่สุดจนไม่อาจละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย"วันนี้เอวาสวยที่สุดเลยนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยชมเจ้าสาวพร้อมกับเอียงคอไปหอมแก้มของเธอ ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ถึงคิวรดน้ำต้องกระแอมเรียก"อะ...แฮ่ม...ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนานๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ นะลูก"อัครเดชกล่าวอวยพรบ้าง พร้อมกับส่ง
"เอวา...ตื่นได้แล้วครับ...เช้าแล้วน้า..."เสียงนุ่มทุ้มปลุกร่างเล็กที่เอาแต่นอนซุกอกแกร่งของเขาใต้ผ้าห่มผืนหนา"อื้ม...""อย่าครางแบบนี้สิครับ...มันแข็งนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยด้วยเสียงเจ้าเล่ห์"..."ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากคนขี้เซา"ตื่นได้แล้วครับ..."จุ๊บ!เมื่อปลุกไม่ตื่นเขาจึงกดจูบหนักๆ บนหน้าผากของเธอ จมูกโด่งก้มลงมาหอมที่แก้มนวลหนักๆ และตามด้วยริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจไม่รู้ว่าเธอละเมอหรือเคลิ้มไปกับเขา ทำให้เธอเผลอเผยอปากรับลิ้นร้อนๆ ของเขาเข้าไปเกี่ยวตวัดหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น"อื้อ..."เสียงหวานครางเบาๆเขาดูดเม้มริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อยๆ จจากตอนแรกแค่ต้องการจะปลุก แต่ตอนนี้กลับทำให้ความเป็นชายของเขามันชูชันขึ้นพร้อมสู้ศึกอีกครั้ง แค่ได้สัมผัสแค่นี้ความต้องการมันก็มีมากขึ้นแล้วฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงเต้าอวบ นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ดประทุมถันเบาๆ เพื่อเร้าอารมณ์ของร่างบางให้คล้อยตามไปกับเขา ในเวลาต่อมาร่างของเขาก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างของเธอแล้ว จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นทั้งซ้ายและขวาอย่างหลงไหล"อื้ม...พี่ซัน...""ตื่นแล้วหรอครับ...หื้ม..."ด
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
@ บ้านอัครเดชาชัย"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ อย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว"แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว"นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว""มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด"ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆ ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา"หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย
@ภัตราคารสุดหรูบรรยากาศในภัตตาคารสุดหรูชั้นบนสุด เห็นวิวชัดทุกมุมกลางเมือง ได้ถูกจับจองโดยคุณหญิงวินทร์รวี เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย"ซัน! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมห๊ะ!!"คุณหญิงวินทร์รวีเอ็ดลูกชายที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นปมแบบนี้ "ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับ""ก็แม่บังคับจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?"เสียงเรียบนิ่งนั้นเถียงแม่ จนผู้เป็นแม่ตาเขม็งใส่อย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีเอาแต่ขัด"ถ้าแกทำตัวไม่ดี ฉันปลดแกแน่ไอ้ซัน!"ผู้เป็นพ่อกล่าวท้วงขึ้นอีกคน จนอัครวินท์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ต้องทำเป็นระบายยิ้มออกมาเมื่อประตูห้องหรูเปิดออกพร้อมกับแขกผู้มาใหม่อีก3คนอัครวินท์มองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินก้มหน้าก้มตาตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามา ใบหน้าหวานเฉี่ยวนั้นทำเอาอัครวินท์สะดุดตา ตากลมโตเป็นประกาย ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ปากบางน่าจุ๊ฟนั้นอีก แถมหุ่นก็ดี ผิวขาวใสออร่าเปล่งปลั่งนั่นอีก สวยไร้ที่ติเลย เขาคิดในใจ"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า"เอวารินทร์เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะปรายตาไปมองว่าที่เจ้าบ่าวจอมแสบที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง นี่น่ะหรอคนที่จะให้มาปรา
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ
"เอวา...ตื่นได้แล้วครับ...เช้าแล้วน้า..."เสียงนุ่มทุ้มปลุกร่างเล็กที่เอาแต่นอนซุกอกแกร่งของเขาใต้ผ้าห่มผืนหนา"อื้ม...""อย่าครางแบบนี้สิครับ...มันแข็งนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยด้วยเสียงเจ้าเล่ห์"..."ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากคนขี้เซา"ตื่นได้แล้วครับ..."จุ๊บ!เมื่อปลุกไม่ตื่นเขาจึงกดจูบหนักๆ บนหน้าผากของเธอ จมูกโด่งก้มลงมาหอมที่แก้มนวลหนักๆ และตามด้วยริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจไม่รู้ว่าเธอละเมอหรือเคลิ้มไปกับเขา ทำให้เธอเผลอเผยอปากรับลิ้นร้อนๆ ของเขาเข้าไปเกี่ยวตวัดหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น"อื้อ..."เสียงหวานครางเบาๆเขาดูดเม้มริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อยๆ จจากตอนแรกแค่ต้องการจะปลุก แต่ตอนนี้กลับทำให้ความเป็นชายของเขามันชูชันขึ้นพร้อมสู้ศึกอีกครั้ง แค่ได้สัมผัสแค่นี้ความต้องการมันก็มีมากขึ้นแล้วฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงเต้าอวบ นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ดประทุมถันเบาๆ เพื่อเร้าอารมณ์ของร่างบางให้คล้อยตามไปกับเขา ในเวลาต่อมาร่างของเขาก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างของเธอแล้ว จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นทั้งซ้ายและขวาอย่างหลงไหล"อื้ม...พี่ซัน...""ตื่นแล้วหรอครับ...หื้ม..."ด
1เดือนผ่านมา...วันแต่งงานงานแต่งของเอวารินทร์และอัครวินท์จัดขึ้นที่โรงแรมหรู6ดาว แขกเรื่อในงานก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีมากมายอย่างล้นหลาม พ่อแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ต่างยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติที่ในที่สุดวันนี้ลูกสาวและลูกชายของสองตระกูลได้ปรองดองกัน"ขอให้มีความสุขมากๆ นะตาซัน หนูเอวา...วันนี้แม่มีความสุขที่สุดที่เห็นลูกชายสุดที่รักของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที แม่ดีใจที่หนูเอวากำหราบเจ้าซันของแม่จนอยู่หมัด ขอบใจมากๆ นะลูกที่ยอมเป็นลูกสะใภ้ของแม่ด้วยความเต็มใจ"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยอวยพรพร้อมกับรดน้ำสังข์ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด"ครับแม่/ค่ะคุณแม่"ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกัน ก่อนจะหันไปสบตากันและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข วันนี้เจ้าสาวของเขาในชุดไทยสีเงินดูสวยออร่าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยสะดุดตาที่สุดจนไม่อาจละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย"วันนี้เอวาสวยที่สุดเลยนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยชมเจ้าสาวพร้อมกับเอียงคอไปหอมแก้มของเธอ ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ถึงคิวรดน้ำต้องกระแอมเรียก"อะ...แฮ่ม...ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนานๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ นะลูก"อัครเดชกล่าวอวยพรบ้าง พร้อมกับส่ง
"คลุมนี่ไว้ก่อน...แล้วห้ามออกจากห้องน้ำเดี๋ยวพี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน...ห้ามออกมาในสภาพนี้...พี่หวง"อัครวินท์ดึงผ้าขนหนูที่แขวนไว้มายื่นให้เธอหนึ่งผืน ก่อนจะดึงมาพันรอบเอวสอบเอาไว้บ้าง"เร็วดิวะ!!""เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้คิม...กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง...กูจะเปลี่ยนรหัสห้อง...มึงแม่งไร้มารยาทชิบ""เมียมึงพาเมียกูไปไว้ไหน?""กูจะไปรู้ไหมเนี้ย เอวาไม่ได้บอก"พูดจบอัครวินท์ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดเรียบร้อยๆ ไปยื่นให้เอวารินทร์ในห้องน้ำ ส่วนเขาก็นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วดันร่างเพื่อนออกจากห้องนอนไป"มิเกลไม่ได้อยู่ที่ห้อง มิเกลไปไหนมึงบอกกูมา""กูไม่รู้...""มึงก็ไปถามเอวาดิ...งั้นกูจะไปถามเอง"คิมหันต์เตรียมจะลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องไป แต่กลับถูกอัครวินท์ดันตัวนั่งลงไปที่เดิม"มึงอย่าแม้แต่จะเดินเข้าไปดูเมียกูเลยนะ กูเอามึงตายจริงๆ ด้วย...มึงใจเย็นแล้วนั่งรอ...รอเอวาแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยได้ไหม..."อัครวินท์ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ทั้งหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งกลัวเพื่อนจะบุ่มบ่ามเดินเข้าไปเห็นเรือนร่างของเมีย แล้วยังหงุดหงิดที่ถูกบุกรุกอย่างไร้มารยาทในยามวิกาลอีก"เฮ้
"ฉันอยากกลับแล้วเอวา ฉันไม่อยากอยู่เที่ยวต่อแล้ว ฉันไม่อยากเจอเขา...ฉันไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้"เกวรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ แต่ด้วยเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เธอจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา"โอเค...ฉันจะพากลับ...แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อน...โอเคไหม...ฉันอยู่ข้างๆ แกเสมอ"เอวารินทร์กุมมือเพื่อนเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เชิงให้กำลังใจเธอบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ช่างหน้าอึดอัด เพราะคิมหันต์เอาแต่จ้องมองร่างบางที่ทำทีท่าไม่สนใจเขา มันน่าหงุดหงิดจริงๆ"แล้วมึงไม่กินล่ะ"อัครวินท์เอ่ยถามเพื่อนที่นั่งกอดอกพิงพนักพิงเก้าอี้ พร้อมกับจ้องมองร่างบางตาแทบไม่กระพริบ"ไม่กินก็ลุกไปที่อื่น รำคาญลูกตา"นี่เป็นคำพูดของเกวรี ซึ่งมันทำให้ร่างสูงรีบจับส้อมมาจิ้มไก่เข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดแต่ไม่อยากลุกออกไปไหน เลยจำใจต้องกินทั้งที่ตาก็จ้องกันอย่างกับจะฟาดฟันกันตรงนั้น"เอ่อ...เรารีบกินกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพมืด""ใครจะกลับ?"คิมหันต์ถาม"เอวากับมิเกลค่ะ...""เอวากลับไปกับซันสิครับ..."คิมหันต์กล่าว"ไม่ได้ค่ะ เอวามากับมิเกล...ก็ต้องกลับพร้อมมิ
วันต่อมา...จุฟ จุฟ จุฟ!!"อื้ม..."ร่างสูงส่งเสียงงัวเงียในลำคอเพราะถูกปลุกด้วยการระดมจูบทั่วใบหน้าหล่อให้ตื่นจากห้วงนิทรา"ตื่นได้แล้วค่ะ...เช้าแล้วน้า...ไม่ตื่นเอวาจะไม่ทำแค่จูบแล้วนะคะ..."เมื่อได้ยินแบบนั้นความเจ้าเล่ห์ก็เข้ามาในห้วงความคิดทันทีหมับ!"อื้อ..."มือหนากอดร่างบางเอาไว้แล้วทำทีเป็นงัวเงีย พลิกเธอลงมานอนข้างๆ จากนั้นใช้ท่อนขาพาดร่างเล็กเอาไว้ประหนึ่งว่าเธอเป็นหมอนข้าง"ว๊าย...พี่ซัน...""เมื่อคืนรู้ไหมครับ...ว่าเอวาทำพี่ค้างอีกแล้ว..."เสียงหวานๆ แต่แหบพร่าเอ่ยขึ้น"ไม่รู้ค่ะ..."เธอทำหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว"รู้ไหมครับว่าต้องทบต้นทบดอก...""อื้ม..."ยังไม่ทันที่ร่างบางจะตอบออกไป คำพูดของเธอก็ถูกกลืนลงไปด้วยปากหยักของร่างสูง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่ามาเป็นขึ้นคร่อมร่างเธอแทน"พี่หิว...""หิว??""ครับ...อยากจะกลืนกินเอวาทั้งตัวเลย..."อัครวินท์ก้มกระซิบเสียงกระเส่าข้างๆ ใบหูของเธอพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆ เป่าลดลงมาที่ซอกคอของคนตัวเล็กจนรู้สึกถึงความสยิวที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้"แต่เอวาหิวข้าว...ขอไปกินข้าวก่อนได้ไหมคะ...เอวานัดเพื่อนไว้แล้ว...""ถ้าไปกินข้าวก่อน.
"สบายใจขึ้นยัง...หื้ม!"เสียงอบอุ่นของอัครวินท์ถามขึ้นเมื่อร่างบางหยุดร้องไปพักหนึ่งแล้ว"อื้ม...""รู้ใจตัวเองหรือยัง?""รู้แล้ว!"เธอผละหน้าออกจากไหล่กว้างแล้วเตรียมจะลุกออกจากตักของเขา แต่มือหนาก็รั้งสะโพกเธอเอาไว้ให้นั่งอยู่ก่อน"รู้ว่าอะไร?""..."ร่างบางไม่ตอบแต่ก้มหน้าแล้วหลุบตาต่ำลงเพื่อหลบสายตาคนที่เอาแต่จ้องหน้าเธอ"รู้ว่ารักพี่ซัน..."เธอตัดสินใจเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ยิน และก็พอใจกับคำตอบเป็นอย่างมากมือหนากำชับกอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับจูบไปที่หน้าผากของเธอหนักๆ"เมียพี่โหดชะมัด!!""ถ้าคิดจะมีกิ๊ก...เอวาจะรัวกระสุนไม่ยั้ง""เมียมึงโหดจริง!! แบบนี้แหละถึงกำหราบคนอย่างมึงได้"คิมหันต์เอ่ยขึ้น"แฮปปี้เอ็นดิ้งกันเเล้วเนาะ...ชนๆ ฉลองหน่อย">แสงเหนือ"มาค่ะ เดี๋ยวมิเกลชงเหล้าให้"ว่าแล้วเธอก็จัดแจงแก้วมาวางไว้ตรงหน้าเธอแล้วคีบน้ำเเข็งเติมเหล้าเติมโซดาแล้วชงเสริฟทันทีบรรยากาศบนโต๊ะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไม่หน้าอึดอัดเหมือนก่อนหน้า"เดี๋ยวเอวาไปนั่งที่ตัวเองดีกว่าค่ะ"ร่างบางเตรียมลุกออกไปจากตักแต่มือหนาก็ยังคงรั้งเอาไว้อีก"นั่งตรงนี้!!""เอ่อ...""วันนั้นเอวาทำอารมณ์พี่