"เพื่อนพี่ที่ชื่อว่าซันหรอคะ"ทั้งที่รู้อยู่แล้วก็ แต่ก็อยากถามเพื่อย้ำว่าใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า
"ครับ" "..." "ทำไมมิเกลไปเข้าห้องน้ำนานจัง...เดี๋ยวพี่ไปตามดีกว่า..."แสงเหนือเตรียมจะลุกขึ้นไปแต่เมื่อคิดได้ว่าคิมหันต์น่าจะอยู่ด้วย จึงรีบห้ามเพราะกลัวจะความแตกเสียก่อน "เอ่อ...มิเกลทักมาบอกปวดหนักน่ะค่ะ...เดี๋ยวก็มา" "อ้อ...หรอครับ...งั้นชนกันดีกว่า..." เพล้ง! แก้วแอลกอฮอล์ของทั้งคู่กระทบกันเบาๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ยกดื่มจนหมดแก้ว "เอ้า...ไอ้ซัน...มาพอดีเลย...นั่งก่อนๆ"ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรืออัครวินท์ตั้งใจจะแกล้งเธอกันแน่ ถึงได้เดินโอบเอวผู้หญิงหุ่นเอ็กซ์ เซ็กซี่มาด้วย ไม่พอยังมานั่งข้างๆ เธออีกต่างหาก ทั้งที่พื้นที่ก็มีตั้งเยอะ "เอวา..."เกวรีเอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินวนมานั่งข้างๆ เธอแล้วจับมือเธอเอาไว้เพื่อปลอบใจ "แกโอเคไหม? ...ถ้าไม่โอเค...เรากลับกัน"เธอกระซิบถามเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง "ฉันโอเค...ถ้าทนไม่ไหวเดี๋ยวฉันจัดการเอง...อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครจะเจ๋งกว่าใคร"พูดจบเธอก็ปรายตาไปมองอัครวินท์ที่นั่งข้างๆ แต่ไม่ได้ใกล้กันมาก "อ้าวสวัสดีครับเอวา..."อัครวินท์หันมาทักทายทำเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นเธอ แน่ใจว่าไม่เห็น เอวารินทร์คิด "สวัสดีค่ะ..."เธอตอบแล้วทำเป็นไม่สนใจ แล้วเบนหน้าไปทางอื่น เพราะภาพที่เธอเห็นค่อนข้างที่จะบาดตาไม่อยากมอง เพียงไม่นานมากนักคิมหันต์ก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ทุกคนชนแก้วกันแล้วก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน หมับ! "อุ๊ยคุณซัน...ลิลลี่อายนะคะ..."แขนแกร่งรวบเอวบางของสาวสวยขึ้นมานั่งบนตัก ถึงปากหล่อนจะบอกอายแต่แขนเรียวกับโอบรอบคอของเขาเอาไว้ การกระทำนั้นทำเอาหัวใจของเอวารินทร์นั้นกระตุกวูบไหว อยากจะไปกระชากหล่อนออกไปให้พ้นๆ เสียเดี่ยวนี้ "ไอ้ซัน!...เกรงใจสาวๆ บ้าง...ทำตัวน่าเกลียด"คิมหันต์ปรามเพื่อน เมื่อเห็นท่าทางของเอวารินทร์ที่นิ่งไป "อ้าว...แล้วพี่ซันไม่มีแฟนหรอคะ"เกวรีแสร้งถาม "อ้อ...พอดีเมียตายน่ะครับ..."อัครวินท์ปรายตามามองเอวารินทร์เพียงนิดก่อนที่จะตอบเพื่อนเธอไปด้วยน้ำเสียงยียวนเหมือนปั่นประสาทร่างบางข้างๆ "..."เอวารินทร์นั่งเงียบ แถมเอาแต่ยกดื่มอย่างกับว่าเหล้าเป็นน้ำเปล่า ร่างสูงข้างๆ ยังคงกอดเอวสาวที่ควงมาด้วยอย่างยั่วยวน ไม่เข้าใจทำไมต้องมาเล่นกับความรู้สึกเธอด้วย มันจะมากเกินไปแล้ว มากเกินไปจริงๆ "อ๊ะ!...ใจเย็นสิคะ...คุณนี่ใจร้อนจริงๆ เลย..."ร่างบางก้มลงมากระซิบที่ใบหูของอัครวินท์อย่างยั่วยวน ทำเอาบรรยากาศบนโต๊ะกร่อยไปตามๆ กัน กับการกระทำของอัครวินท์และสาวที่อยู่บนตัก แทบจะได้กันบนโต๊ะอยู่แล้ว เอวารินทร์กำหมัดแน่น เล็บสวยๆ จิกลงบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บแต่มันก็คงเจ็บไม่ถึงครึ่งของหัวใจที่มันเจ็บอยู่ตอนนี้ "มึงกลับไปนัวที่ห้องไหม คนเขากำลังสนุกกัน..."แสงเหนือเอ่ยขึ้น "ไม่!...กูเป็นพวกชัดเจน...ไม่ชอบอะไรที่คลุมเครือ..."คำพูดของเขายังคงกระแทกแดกดันร่างบางข้างๆ เอวารินทร์ ยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมดอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเหล่า ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อข่มอารมณ์ที่มันร้อนรุ่มอยู่ในใจ ข้างกายเริ่มที่จะลูบไล้กันมากขึ้นๆ ผู้หญิงที่เขาควงมาด้วยก้มลงไปซุกไซร้ซอกคอของอัครวินท์ จนเริ่มที่จะหมดความอดทนกับความท้าทาย ปึ่ง!!! พลั๊ก! กรี๊ดดดด!! แก้วเหล้ากระทบลงบนโต๊ะด้วยความแรง ทุกคนในโต๊ะรวมทั้งรอบๆ ต่างมองมาที่ต้นเสียงเป็นตาเดียว จากนั้นเอวารินทร์ก็ลุกขึ้น พร้อมกับผลักผู้หญิงที่นั่งบนตักอัครวินท์ออกจนเธอง่ายหลังล้มไปกองอยู่กับพื้น "กรี๊ดดดด! แกทำบ้าอะไรของแกห๊ะ!!"เสียงแหลมๆ เอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ แกร๊ก!! เอวารินทร์หยิบปืนพกที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นจ่อไปทางร่างสาวที่ล้มลงด้วยแววตาเรียบนิ่งแต่กลับดุดันและน่ากลัว คาดไม่ออกเลยว่าเธอคิดจะทำอะไรอยู่ "หึ!"คิมหันต์ยกยิ้มด้วยความพอใจกับท่าทีของเมียเพื่อนที่หวงผัว ส่วนอัครวินท์เองก็ยกยิ้มเช่นกันที่แผนยั่วโมโหสำเร็จ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ "ออกไป!!...ถ้ายังไม่อยากตายเพราะแย่งผัวคนอื่นก็ออกไป!!"เอวารินทร์เอ่ยเสียงเย็นยะเยือก "อุ้ย!"คิมหันต์อุทานพร้อมสูดปาก "ผะ...ผัว...มะ...หมายความว่าไงคะคุณซัน?"เธอหันไปถามอัครวินท์ที่นั่งหน้านิ่ง แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบ "ไว้ค่อยนัดเจอกันใหม่นะครับลิลลี่"แต่เหมือนอัครวินท์จะไม่จบ อยากปั่นหัวอีกสักนิด "อยากตายหรือไง จะแกล้งกันไปถึงไหน!!"เธอตวาดเสียงดังลั่น ปลายกระบอกปืนเปลี่ยนเป็นหันมาทางอัครวินท์แทน "ใจเย็นนะน้องเอวา...คนแตกตื่นกันหมดแล้ว"แสงเหนือเอ่ยปราม "เออแก...ใจเย็นก่อน...วางปืนลง" เธอยอมลดปืนลงตามที่เพื่อนบอก เกวรีจึงรีบรับปืนไปเก็บไว้ในกระเป๋าให้เพื่อนดังเดิม "ก็ต้องการแบบนี้เองไม่ใช่หรือไง?"อัครวินท์กล่าว "เอวาต้องการอยู่ห่าง ไม่ได้บอกให้พี่ไปเอากับคนอื่น!!" "ไหนบอกว่าจะไม่เสียใจ?" "คนบ้าแล้วมันจำเป็นต้องทำกันขนาดนี้หรือไงเล่า!" ตุบ ตุบ ตุบ!!! มือเล็กทุบไปที่ไหล่ของอัครวินท์รัวๆ พร้อมกับน้ำตาของเธอก็ไหลอาบแก้มลงมา อารมณ์ที่มันกั้นเอาไว้ตั้งแต่แรกมันพังทลายลงมาหมด หัวใจมันบอบช้ำเจ็บแปล๊บ ทั้งที่เธอเองก็ไล่ให้เขาไป แต่ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงได้เจ็บเองแบบนี้ หมับ!! พรึ่บ! มือหนารวบมือที่ทุบตีเขาไว้ จากนั้นก็คว้าเอวบางให้นั่งลงมาที่ตักแกร่งของเขาแทนแล้วกอดไว้ ใบหน้าสวยฟุบลงร้องไห้กับไหล่กว้างจนตัวสั่นเทา "อึก...ฮึก...คนใจ...อึก...ร้าย...เอวาไม่รักพี่ซันแล้ว..."เสียงประท้วงอู้อี้กล่าวขึ้น มือหนาอีกข้างปล่อยจากข้อมือเธอมาเป็นลูบแผ่นหลังขาวเนียนของเธอแทน แผ่นหลังที่ไร้ซึ่งผ้าปกปิด ถ้าไม่ติดว่าต้องปลอบใจอยู่คงหยิกหลังเธอเพื่อลงโทษแล้ว "เกิดอะไรขึ้นวะ...กูตกข่าวอะไร?"แสงเหนือเอ่ยขึ้น เพราะยังงงกับสถานการณ์ตรงหน้า "เมียมัน...จะแต่งงานกันเดือนหน้า"คิมหันต์อธิบาย "แล้วมึงไม่บอกกูล่ะว่ารู้จักกัน"แสงเหนือกล่าว "ก็เอวาหนีมา มันเป็นความต้องการของเอวาตั้งแต่แรกก็แค่ตามน้ำไป...ก็ว่าจะบอกมึงเหมือนกัน""สบายใจขึ้นยัง...หื้ม!"เสียงอบอุ่นของอัครวินท์ถามขึ้นเมื่อร่างบางหยุดร้องไปพักหนึ่งแล้ว"อื้ม...""รู้ใจตัวเองหรือยัง?""รู้แล้ว!"เธอผละหน้าออกจากไหล่กว้างแล้วเตรียมจะลุกออกจากตักของเขา แต่มือหนาก็รั้งสะโพกเธอเอาไว้ให้นั่งอยู่ก่อน"รู้ว่าอะไร?""..."ร่างบางไม่ตอบแต่ก้มหน้าแล้วหลุบตาต่ำลงเพื่อหลบสายตาคนที่เอาแต่จ้องหน้าเธอ"รู้ว่ารักพี่ซัน..."เธอตัดสินใจเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ยิน และก็พอใจกับคำตอบเป็นอย่างมากมือหนากำชับกอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับจูบไปที่หน้าผากของเธอหนักๆ"เมียพี่โหดชะมัด!!""ถ้าคิดจะมีกิ๊ก...เอวาจะรัวกระสุนไม่ยั้ง""เมียมึงโหดจริง!! แบบนี้แหละถึงกำหราบคนอย่างมึงได้"คิมหันต์เอ่ยขึ้น"แฮปปี้เอ็นดิ้งกันเเล้วเนาะ...ชนๆ ฉลองหน่อย">แสงเหนือ"มาค่ะ เดี๋ยวมิเกลชงเหล้าให้"ว่าแล้วเธอก็จัดแจงแก้วมาวางไว้ตรงหน้าเธอแล้วคีบน้ำเเข็งเติมเหล้าเติมโซดาแล้วชงเสริฟทันทีบรรยากาศบนโต๊ะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไม่หน้าอึดอัดเหมือนก่อนหน้า"เดี๋ยวเอวาไปนั่งที่ตัวเองดีกว่าค่ะ"ร่างบางเตรียมลุกออกไปจากตักแต่มือหนาก็ยังคงรั้งเอาไว้อีก"นั่งตรงนี้!!""เอ่อ...""วันนั้นเอวาทำอารมณ์พี่
วันต่อมา...จุฟ จุฟ จุฟ!!"อื้ม..."ร่างสูงส่งเสียงงัวเงียในลำคอเพราะถูกปลุกด้วยการระดมจูบทั่วใบหน้าหล่อให้ตื่นจากห้วงนิทรา"ตื่นได้แล้วค่ะ...เช้าแล้วน้า...ไม่ตื่นเอวาจะไม่ทำแค่จูบแล้วนะคะ..."เมื่อได้ยินแบบนั้นความเจ้าเล่ห์ก็เข้ามาในห้วงความคิดทันทีหมับ!"อื้อ..."มือหนากอดร่างบางเอาไว้แล้วทำทีเป็นงัวเงีย พลิกเธอลงมานอนข้างๆ จากนั้นใช้ท่อนขาพาดร่างเล็กเอาไว้ประหนึ่งว่าเธอเป็นหมอนข้าง"ว๊าย...พี่ซัน...""เมื่อคืนรู้ไหมครับ...ว่าเอวาทำพี่ค้างอีกแล้ว..."เสียงหวานๆ แต่แหบพร่าเอ่ยขึ้น"ไม่รู้ค่ะ..."เธอทำหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว"รู้ไหมครับว่าต้องทบต้นทบดอก...""อื้ม..."ยังไม่ทันที่ร่างบางจะตอบออกไป คำพูดของเธอก็ถูกกลืนลงไปด้วยปากหยักของร่างสูง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่ามาเป็นขึ้นคร่อมร่างเธอแทน"พี่หิว...""หิว??""ครับ...อยากจะกลืนกินเอวาทั้งตัวเลย..."อัครวินท์ก้มกระซิบเสียงกระเส่าข้างๆ ใบหูของเธอพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆ เป่าลดลงมาที่ซอกคอของคนตัวเล็กจนรู้สึกถึงความสยิวที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้"แต่เอวาหิวข้าว...ขอไปกินข้าวก่อนได้ไหมคะ...เอวานัดเพื่อนไว้แล้ว...""ถ้าไปกินข้าวก่อน.
"ฉันอยากกลับแล้วเอวา ฉันไม่อยากอยู่เที่ยวต่อแล้ว ฉันไม่อยากเจอเขา...ฉันไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้"เกวรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ แต่ด้วยเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เธอจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา"โอเค...ฉันจะพากลับ...แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อน...โอเคไหม...ฉันอยู่ข้างๆ แกเสมอ"เอวารินทร์กุมมือเพื่อนเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เชิงให้กำลังใจเธอบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ช่างหน้าอึดอัด เพราะคิมหันต์เอาแต่จ้องมองร่างบางที่ทำทีท่าไม่สนใจเขา มันน่าหงุดหงิดจริงๆ"แล้วมึงไม่กินล่ะ"อัครวินท์เอ่ยถามเพื่อนที่นั่งกอดอกพิงพนักพิงเก้าอี้ พร้อมกับจ้องมองร่างบางตาแทบไม่กระพริบ"ไม่กินก็ลุกไปที่อื่น รำคาญลูกตา"นี่เป็นคำพูดของเกวรี ซึ่งมันทำให้ร่างสูงรีบจับส้อมมาจิ้มไก่เข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดแต่ไม่อยากลุกออกไปไหน เลยจำใจต้องกินทั้งที่ตาก็จ้องกันอย่างกับจะฟาดฟันกันตรงนั้น"เอ่อ...เรารีบกินกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพมืด""ใครจะกลับ?"คิมหันต์ถาม"เอวากับมิเกลค่ะ...""เอวากลับไปกับซันสิครับ..."คิมหันต์กล่าว"ไม่ได้ค่ะ เอวามากับมิเกล...ก็ต้องกลับพร้อมมิ
"คลุมนี่ไว้ก่อน...แล้วห้ามออกจากห้องน้ำเดี๋ยวพี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน...ห้ามออกมาในสภาพนี้...พี่หวง"อัครวินท์ดึงผ้าขนหนูที่แขวนไว้มายื่นให้เธอหนึ่งผืน ก่อนจะดึงมาพันรอบเอวสอบเอาไว้บ้าง"เร็วดิวะ!!""เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้คิม...กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง...กูจะเปลี่ยนรหัสห้อง...มึงแม่งไร้มารยาทชิบ""เมียมึงพาเมียกูไปไว้ไหน?""กูจะไปรู้ไหมเนี้ย เอวาไม่ได้บอก"พูดจบอัครวินท์ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดเรียบร้อยๆ ไปยื่นให้เอวารินทร์ในห้องน้ำ ส่วนเขาก็นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วดันร่างเพื่อนออกจากห้องนอนไป"มิเกลไม่ได้อยู่ที่ห้อง มิเกลไปไหนมึงบอกกูมา""กูไม่รู้...""มึงก็ไปถามเอวาดิ...งั้นกูจะไปถามเอง"คิมหันต์เตรียมจะลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องไป แต่กลับถูกอัครวินท์ดันตัวนั่งลงไปที่เดิม"มึงอย่าแม้แต่จะเดินเข้าไปดูเมียกูเลยนะ กูเอามึงตายจริงๆ ด้วย...มึงใจเย็นแล้วนั่งรอ...รอเอวาแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยได้ไหม..."อัครวินท์ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ทั้งหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งกลัวเพื่อนจะบุ่มบ่ามเดินเข้าไปเห็นเรือนร่างของเมีย แล้วยังหงุดหงิดที่ถูกบุกรุกอย่างไร้มารยาทในยามวิกาลอีก"เฮ้
1เดือนผ่านมา...วันแต่งงานงานแต่งของเอวารินทร์และอัครวินท์จัดขึ้นที่โรงแรมหรู6ดาว แขกเรื่อในงานก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีมากมายอย่างล้นหลาม พ่อแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ต่างยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติที่ในที่สุดวันนี้ลูกสาวและลูกชายของสองตระกูลได้ปรองดองกัน"ขอให้มีความสุขมากๆ นะตาซัน หนูเอวา...วันนี้แม่มีความสุขที่สุดที่เห็นลูกชายสุดที่รักของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที แม่ดีใจที่หนูเอวากำหราบเจ้าซันของแม่จนอยู่หมัด ขอบใจมากๆ นะลูกที่ยอมเป็นลูกสะใภ้ของแม่ด้วยความเต็มใจ"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยอวยพรพร้อมกับรดน้ำสังข์ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด"ครับแม่/ค่ะคุณแม่"ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกัน ก่อนจะหันไปสบตากันและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข วันนี้เจ้าสาวของเขาในชุดไทยสีเงินดูสวยออร่าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยสะดุดตาที่สุดจนไม่อาจละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย"วันนี้เอวาสวยที่สุดเลยนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยชมเจ้าสาวพร้อมกับเอียงคอไปหอมแก้มของเธอ ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ถึงคิวรดน้ำต้องกระแอมเรียก"อะ...แฮ่ม...ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนานๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ นะลูก"อัครเดชกล่าวอวยพรบ้าง พร้อมกับส่ง
"เอวา...ตื่นได้แล้วครับ...เช้าแล้วน้า..."เสียงนุ่มทุ้มปลุกร่างเล็กที่เอาแต่นอนซุกอกแกร่งของเขาใต้ผ้าห่มผืนหนา"อื้ม...""อย่าครางแบบนี้สิครับ...มันแข็งนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยด้วยเสียงเจ้าเล่ห์"..."ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากคนขี้เซา"ตื่นได้แล้วครับ..."จุ๊บ!เมื่อปลุกไม่ตื่นเขาจึงกดจูบหนักๆ บนหน้าผากของเธอ จมูกโด่งก้มลงมาหอมที่แก้มนวลหนักๆ และตามด้วยริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจไม่รู้ว่าเธอละเมอหรือเคลิ้มไปกับเขา ทำให้เธอเผลอเผยอปากรับลิ้นร้อนๆ ของเขาเข้าไปเกี่ยวตวัดหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น"อื้อ..."เสียงหวานครางเบาๆเขาดูดเม้มริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อยๆ จจากตอนแรกแค่ต้องการจะปลุก แต่ตอนนี้กลับทำให้ความเป็นชายของเขามันชูชันขึ้นพร้อมสู้ศึกอีกครั้ง แค่ได้สัมผัสแค่นี้ความต้องการมันก็มีมากขึ้นแล้วฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงเต้าอวบ นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ดประทุมถันเบาๆ เพื่อเร้าอารมณ์ของร่างบางให้คล้อยตามไปกับเขา ในเวลาต่อมาร่างของเขาก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างของเธอแล้ว จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นทั้งซ้ายและขวาอย่างหลงไหล"อื้ม...พี่ซัน...""ตื่นแล้วหรอครับ...หื้ม..."ด
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ
"เอวา...ตื่นได้แล้วครับ...เช้าแล้วน้า..."เสียงนุ่มทุ้มปลุกร่างเล็กที่เอาแต่นอนซุกอกแกร่งของเขาใต้ผ้าห่มผืนหนา"อื้ม...""อย่าครางแบบนี้สิครับ...มันแข็งนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยด้วยเสียงเจ้าเล่ห์"..."ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากคนขี้เซา"ตื่นได้แล้วครับ..."จุ๊บ!เมื่อปลุกไม่ตื่นเขาจึงกดจูบหนักๆ บนหน้าผากของเธอ จมูกโด่งก้มลงมาหอมที่แก้มนวลหนักๆ และตามด้วยริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจไม่รู้ว่าเธอละเมอหรือเคลิ้มไปกับเขา ทำให้เธอเผลอเผยอปากรับลิ้นร้อนๆ ของเขาเข้าไปเกี่ยวตวัดหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น"อื้อ..."เสียงหวานครางเบาๆเขาดูดเม้มริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อยๆ จจากตอนแรกแค่ต้องการจะปลุก แต่ตอนนี้กลับทำให้ความเป็นชายของเขามันชูชันขึ้นพร้อมสู้ศึกอีกครั้ง แค่ได้สัมผัสแค่นี้ความต้องการมันก็มีมากขึ้นแล้วฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงเต้าอวบ นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ดประทุมถันเบาๆ เพื่อเร้าอารมณ์ของร่างบางให้คล้อยตามไปกับเขา ในเวลาต่อมาร่างของเขาก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างของเธอแล้ว จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นทั้งซ้ายและขวาอย่างหลงไหล"อื้ม...พี่ซัน...""ตื่นแล้วหรอครับ...หื้ม..."ด
1เดือนผ่านมา...วันแต่งงานงานแต่งของเอวารินทร์และอัครวินท์จัดขึ้นที่โรงแรมหรู6ดาว แขกเรื่อในงานก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีมากมายอย่างล้นหลาม พ่อแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ต่างยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติที่ในที่สุดวันนี้ลูกสาวและลูกชายของสองตระกูลได้ปรองดองกัน"ขอให้มีความสุขมากๆ นะตาซัน หนูเอวา...วันนี้แม่มีความสุขที่สุดที่เห็นลูกชายสุดที่รักของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที แม่ดีใจที่หนูเอวากำหราบเจ้าซันของแม่จนอยู่หมัด ขอบใจมากๆ นะลูกที่ยอมเป็นลูกสะใภ้ของแม่ด้วยความเต็มใจ"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยอวยพรพร้อมกับรดน้ำสังข์ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด"ครับแม่/ค่ะคุณแม่"ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกัน ก่อนจะหันไปสบตากันและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข วันนี้เจ้าสาวของเขาในชุดไทยสีเงินดูสวยออร่าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยสะดุดตาที่สุดจนไม่อาจละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย"วันนี้เอวาสวยที่สุดเลยนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยชมเจ้าสาวพร้อมกับเอียงคอไปหอมแก้มของเธอ ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ถึงคิวรดน้ำต้องกระแอมเรียก"อะ...แฮ่ม...ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนานๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ นะลูก"อัครเดชกล่าวอวยพรบ้าง พร้อมกับส่ง
"คลุมนี่ไว้ก่อน...แล้วห้ามออกจากห้องน้ำเดี๋ยวพี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน...ห้ามออกมาในสภาพนี้...พี่หวง"อัครวินท์ดึงผ้าขนหนูที่แขวนไว้มายื่นให้เธอหนึ่งผืน ก่อนจะดึงมาพันรอบเอวสอบเอาไว้บ้าง"เร็วดิวะ!!""เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้คิม...กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง...กูจะเปลี่ยนรหัสห้อง...มึงแม่งไร้มารยาทชิบ""เมียมึงพาเมียกูไปไว้ไหน?""กูจะไปรู้ไหมเนี้ย เอวาไม่ได้บอก"พูดจบอัครวินท์ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดเรียบร้อยๆ ไปยื่นให้เอวารินทร์ในห้องน้ำ ส่วนเขาก็นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วดันร่างเพื่อนออกจากห้องนอนไป"มิเกลไม่ได้อยู่ที่ห้อง มิเกลไปไหนมึงบอกกูมา""กูไม่รู้...""มึงก็ไปถามเอวาดิ...งั้นกูจะไปถามเอง"คิมหันต์เตรียมจะลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องไป แต่กลับถูกอัครวินท์ดันตัวนั่งลงไปที่เดิม"มึงอย่าแม้แต่จะเดินเข้าไปดูเมียกูเลยนะ กูเอามึงตายจริงๆ ด้วย...มึงใจเย็นแล้วนั่งรอ...รอเอวาแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยได้ไหม..."อัครวินท์ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ทั้งหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งกลัวเพื่อนจะบุ่มบ่ามเดินเข้าไปเห็นเรือนร่างของเมีย แล้วยังหงุดหงิดที่ถูกบุกรุกอย่างไร้มารยาทในยามวิกาลอีก"เฮ้
"ฉันอยากกลับแล้วเอวา ฉันไม่อยากอยู่เที่ยวต่อแล้ว ฉันไม่อยากเจอเขา...ฉันไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้"เกวรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ แต่ด้วยเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เธอจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา"โอเค...ฉันจะพากลับ...แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อน...โอเคไหม...ฉันอยู่ข้างๆ แกเสมอ"เอวารินทร์กุมมือเพื่อนเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เชิงให้กำลังใจเธอบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ช่างหน้าอึดอัด เพราะคิมหันต์เอาแต่จ้องมองร่างบางที่ทำทีท่าไม่สนใจเขา มันน่าหงุดหงิดจริงๆ"แล้วมึงไม่กินล่ะ"อัครวินท์เอ่ยถามเพื่อนที่นั่งกอดอกพิงพนักพิงเก้าอี้ พร้อมกับจ้องมองร่างบางตาแทบไม่กระพริบ"ไม่กินก็ลุกไปที่อื่น รำคาญลูกตา"นี่เป็นคำพูดของเกวรี ซึ่งมันทำให้ร่างสูงรีบจับส้อมมาจิ้มไก่เข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดแต่ไม่อยากลุกออกไปไหน เลยจำใจต้องกินทั้งที่ตาก็จ้องกันอย่างกับจะฟาดฟันกันตรงนั้น"เอ่อ...เรารีบกินกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพมืด""ใครจะกลับ?"คิมหันต์ถาม"เอวากับมิเกลค่ะ...""เอวากลับไปกับซันสิครับ..."คิมหันต์กล่าว"ไม่ได้ค่ะ เอวามากับมิเกล...ก็ต้องกลับพร้อมมิ
วันต่อมา...จุฟ จุฟ จุฟ!!"อื้ม..."ร่างสูงส่งเสียงงัวเงียในลำคอเพราะถูกปลุกด้วยการระดมจูบทั่วใบหน้าหล่อให้ตื่นจากห้วงนิทรา"ตื่นได้แล้วค่ะ...เช้าแล้วน้า...ไม่ตื่นเอวาจะไม่ทำแค่จูบแล้วนะคะ..."เมื่อได้ยินแบบนั้นความเจ้าเล่ห์ก็เข้ามาในห้วงความคิดทันทีหมับ!"อื้อ..."มือหนากอดร่างบางเอาไว้แล้วทำทีเป็นงัวเงีย พลิกเธอลงมานอนข้างๆ จากนั้นใช้ท่อนขาพาดร่างเล็กเอาไว้ประหนึ่งว่าเธอเป็นหมอนข้าง"ว๊าย...พี่ซัน...""เมื่อคืนรู้ไหมครับ...ว่าเอวาทำพี่ค้างอีกแล้ว..."เสียงหวานๆ แต่แหบพร่าเอ่ยขึ้น"ไม่รู้ค่ะ..."เธอทำหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว"รู้ไหมครับว่าต้องทบต้นทบดอก...""อื้ม..."ยังไม่ทันที่ร่างบางจะตอบออกไป คำพูดของเธอก็ถูกกลืนลงไปด้วยปากหยักของร่างสูง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่ามาเป็นขึ้นคร่อมร่างเธอแทน"พี่หิว...""หิว??""ครับ...อยากจะกลืนกินเอวาทั้งตัวเลย..."อัครวินท์ก้มกระซิบเสียงกระเส่าข้างๆ ใบหูของเธอพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆ เป่าลดลงมาที่ซอกคอของคนตัวเล็กจนรู้สึกถึงความสยิวที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้"แต่เอวาหิวข้าว...ขอไปกินข้าวก่อนได้ไหมคะ...เอวานัดเพื่อนไว้แล้ว...""ถ้าไปกินข้าวก่อน.
"สบายใจขึ้นยัง...หื้ม!"เสียงอบอุ่นของอัครวินท์ถามขึ้นเมื่อร่างบางหยุดร้องไปพักหนึ่งแล้ว"อื้ม...""รู้ใจตัวเองหรือยัง?""รู้แล้ว!"เธอผละหน้าออกจากไหล่กว้างแล้วเตรียมจะลุกออกจากตักของเขา แต่มือหนาก็รั้งสะโพกเธอเอาไว้ให้นั่งอยู่ก่อน"รู้ว่าอะไร?""..."ร่างบางไม่ตอบแต่ก้มหน้าแล้วหลุบตาต่ำลงเพื่อหลบสายตาคนที่เอาแต่จ้องหน้าเธอ"รู้ว่ารักพี่ซัน..."เธอตัดสินใจเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ยิน และก็พอใจกับคำตอบเป็นอย่างมากมือหนากำชับกอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับจูบไปที่หน้าผากของเธอหนักๆ"เมียพี่โหดชะมัด!!""ถ้าคิดจะมีกิ๊ก...เอวาจะรัวกระสุนไม่ยั้ง""เมียมึงโหดจริง!! แบบนี้แหละถึงกำหราบคนอย่างมึงได้"คิมหันต์เอ่ยขึ้น"แฮปปี้เอ็นดิ้งกันเเล้วเนาะ...ชนๆ ฉลองหน่อย">แสงเหนือ"มาค่ะ เดี๋ยวมิเกลชงเหล้าให้"ว่าแล้วเธอก็จัดแจงแก้วมาวางไว้ตรงหน้าเธอแล้วคีบน้ำเเข็งเติมเหล้าเติมโซดาแล้วชงเสริฟทันทีบรรยากาศบนโต๊ะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไม่หน้าอึดอัดเหมือนก่อนหน้า"เดี๋ยวเอวาไปนั่งที่ตัวเองดีกว่าค่ะ"ร่างบางเตรียมลุกออกไปจากตักแต่มือหนาก็ยังคงรั้งเอาไว้อีก"นั่งตรงนี้!!""เอ่อ...""วันนั้นเอวาทำอารมณ์พี่