หลังจากที่ร่างบางเดินกระแทกกระเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปึ้ง เธอก็ลุกออกจากเตียงแล้วกลับไปที่ห้องพักของเธอแทน รู้สึกหวิวๆ เหมือนอีกไม่นานจะต้องเจออะไรที่วุ่นวายตามมาแน่ๆ
"โกรธอะไรขนาดนั้น?"เอวารินทร์กลับเข้ามาให้ห้อง แต่ภายในห้องของเธอนั้นไม่มีแม้แต่เงาของเกวรีเลย ดูเหมือนว่าคืนนี้เธออาจจะต้องนอนคนเดียว คงไม่ต้องเดาต่อ ดูท่าแล้วคิมหันต์คงไม่ยอมปล่อยเธอแน่ๆ ร่างบางนั่งมองโทรศัพท์ที่ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ หวังเล็กๆ ว่าจะมีใครบางคนส่งข้อความมาหา แต่กลับไร้วี่แววข้อความนั้น "หรือฉันควรไปง้อ?" แค่คิดว่าเขาโกรธแล้วเงียบหายไปแบบนี้ มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ปกติจะมีเขาคอยป่วน คอยวุ่นวาย คอยบังคับเธอ แต่พอเขาเลือกที่จะหยุด มันทำให้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ "เอ่อ...มะ...มิเกล..." [อ๊ะ...อื้อ...] หลังจากที่เธอตัดสินใจยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อน แต่พอปรายสายรับกลับมีเสียงครางที่พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ อื้ม...เธอเข้าใจแล้วคงไม่ต้องถามอะไร เพราะคำตอบของคืนนี้ก็คงรู้อยู่แล้วว่าต้องนอนคนเดียวจริงๆ "เขาจะทำอะไรอยู่นะ?" "เฮ้อ...พยายามหนีเขาแท้ๆ ...พอเขาเงียบไปก็ใจหายซะงั้น"เธอพูดกับตัวเอง พร้อมกับกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น วันต่อมา...เอวารินทร์ตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอกับเพื่อน ทีแรกนึกว่าตอนเช้าคงจะกลับมา แต่ไม่เลยจนป่านนี้เกือบจะเที่ยงก็ยังไม่มีวี่แววว่าเพื่อนรักจะมา พอเหลือบมองโทรศัพท์มือถือก็ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ ทั้งสิ้น
"เฮ้อ...รู้สึกแปลกๆ แฮะ...นี่ฉันเป็นอะไร?"เธอกล่าวกับตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ กับท่าที และหัวใจที่กระตุกวูบไหวตลอดเวลา แต่เมื่อคิดว่าสิ่งที่ควรจะทำตอนนี้คืออะไร เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรออก "พี่ซัน!...เอวา..." [เธอเป็นใคร?] หัวใจกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินเสียงปลายสายที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของผู้หญิง "..."มือเล็กกำโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูแน่น หน้าชาวาบ ดวงตากลมร้อนผ่าว [มารับโทรศัพท์ของฉันทำไม!! หมดหน้าที่ของเธอแล้วออกไป!!] "..."ด้วยแรงที่ไม่มีทำให้โทรศัพท์หล่นลงพื้นอย่างแรง ทุกอย่างในสมองขาวโพลนไปหมด เกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเธอ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงได้มารับโทรศัพท์ของเขาแบบนี้ "เมื่อคืน...เขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นหรอ?" "แล้วฉันจะไม่พอใจทำไม...ในเมื่อฉันก็ต้องการให้เป็นแบบนี้นี่"ถึงปากจะพูดไปแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมน้ำตากลับไหลออกมา เธอไม่ชอบความรู้สึกหน่วงแบบนี้เลย มันอึดอัด ในหัวมีคำถามมากมาย หัวใจมันรู้สึกปวดหนึบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งที่อิสระของเธอมันกำลังกลับมาแท้ๆ แต่กลับรู้สึกไม่มีความสุขเลย "ฉันเป็นอะไรของฉัน...ทำไมต้องใจหายแบบนี้!"ความรู้สึกมันจุกในอกมันเหมือนถูกบีบหัวใจจนรู้สึกอึดอัด และไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเขา เธอไม่เข้าใจเหตุผลของตัวเองด้วยซ้ำว่ามาที่นี่ทำไม แกร๊ก!! ยังไม่ทันที่เธอจะกดกริ่ง อยู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออก แต่แทนที่ร่างสูงจะแสดงท่าทีดีใจที่เห็นเธอ กลับทำเฉยเมยแล้วแทรกตัวหลบออกไปจากห้อง ทิ้งให้ร่างบางยืนตัวแข็งทื่อไม่ยอมขยับไปไหน การกระทำเมื่อครู่ของร่างสูงที่เคยออดอ้อนเอาใจเธอ มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ใบหน้าหล่อที่ชอบยิ้มให้เธอตอนนี้ก็ไม่ปรากฏให้เห็น มีแค่ใบหน้าไร้อารมณ์ แถมสายตาคมกริบที่ดุดันตลอดเวลาที่จ้องเข้ามามันยิ่งเป็นคำตอบว่าเขาเปลี่ยนไป "ต้องการแบบนี้เอง...จะเรียกร้องอะไร?"เธอกล่าวกับตัวเองแล้วตัดสินใจเดินออกจากหน้าห้องเขาไป ตอนนี้สมองตื้อไปหมด เพื่อนก็ติดต่อไม่ได้ แถมตอนนี้ก็ไม่รู้จะต้องไปไหนดี อยากกลับ แต่ถ้ากลับไปก็เท่ากับว่าเธอทิ้งเพื่อน "เฮ้อ..."ร่างบางถอนหายใจออกมาไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้ว "อ้าว...น้องเอวามาคนเดียวหรอครับ"แสงเหนือเอ่ยทัก พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามเธอ "ค่ะ...พี่เหนือมาทานข้าวหรอคะ" "เปล่าครับพี่มีนัดคุยงานกับคิมแล้วก็ซัน"แสงเหนือกล่าว "อ้อ..." "แล้ว...มิเกลล่ะครับ?"ไม่พูดเปล่าแต่สายตากลับสอดส่องมองหาอีกคนที่ปกติจะตัวติดกัน "เอ่อ...อีกสักพักก็คงมาค่ะ...ติดธุระอยู่"เธอแก้ตัวแทนเพื่อน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าธุระของเพื่อนคืออะไร "อ้อ...เพื่อนพี่มาพอดีเลย เดี๋ยวพี่คุยงานก่อนนะครับ"แสงเหนือกล่าวพร้อมกับจะลุกไปนั่งอีกที่ "นั่งนี่ก็ได้เหนือ...ยังไงก็คนกันเอง..."อัครวินท์เอ่ยขึ้น พร้อมกับนั่งลงข้างๆ เอวารินทร์ "เอ่อ...เอางั้นก็ได้"แสงเหนือตอบแล้วนั่งลงดังเดิม "สาวมึงไม่มาหรอเหนือ?"คิมหันต์เอ่ยถาม "ไม่มาว่ะน้องเอวาบอกว่าติดธุระ"คำตอบของแสงเหนือทำเอาคิมหันต์หันมามองหน้าเอวารินทร์ด้วยความพอใจกับคำแก้ตัวแทนเพื่อนของเธอ "อ้อ...ธุระ...เอาเถอะเริ่มกันเลยไหม" "เอ่อ...กูหิวข้าว...สัางอะไรมากินก่อนไม่ได้หรอ"อัครวินท์กล่าวขึ้น เหมือนจะรู้ว่าร่างบางข้างๆ จะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า หัวใจดวงเล็กวูบไหวเล็กน้อยเมื่อแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่สเขาแอบเป็นห่วง "เอ่อ...เอวาขอตัวดีกว่าพี่ๆ จะได้คุยงานกัน"ทันทีที่เธอกำลังจะลุกขึ้น อัครวินท์ก็คว้าหมับเข้าไปที่แขนเล็กของเธอเสียก่อน หมับ! "ทานข้าวด้วยกันก่อนสิครับ..."เสียงสุภาพแต่ไม่ใช่โทนเสียงของคนรักกัน มันเป็นโทนเสียงที่ใช้กับคนอื่น เธอไม่ชอบความรู้สึกห่างเหินแบบนี้เลย แล้วยังแววตาที่มองมามันเย็นชากับเธอเหลือเกิน แต่ถึงอย่างไร เธอก็ยอมนั่งลง ในเมื่อเล่นบทไม่รู้จักกันก็ย่อมได้ เธอทำได้อยู่แล้ว ก็ดี อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะตะบะแตกก่อน "อุ้ย!..."ทันทีที่เธอนั่งลงมือหนาก็ลากไล้เข้ามาใต้กระโปรงสั้นกุดของเธอเบาๆ จนเธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าร่างสูงจะมือไวแบบนี้ แถมการกระทำของเขาที่มันอยู่ใต้โต๊ะ ทำให้อีกสองชีวิตที่ร่วมโต๊ะอาหารไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย มือเล็กคว้ามือของเขาเอาไว้แล้วปัดออกอย่างหัวเสีย ในเมื่อเลือกที่จะเย็นชาใส่ จะมาทำตัวรุ่มร่ามใส่กันแบบนี้ทำไม เธอคิดในใจ "กูเรียกเด็กมานั่งด้วยได้ป้ะ"อัครวินท์กล่าวขึ้น ทำให้คิมหันต์ช้อนสายตามามองเอวารินทร์ก่อนที่จะหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยท่าทีสงสัยว่าเพื่อนของเขากำลังคิดจะทำอะไร "ตามบาย" "มึงเอาด้วยไหมคิม"อัครวินท์หันไปถามคิมหันต์เพื่อหาเพื่อนเล่น "ไม่อ่า...เวลางานกูไม่ชอบให้ผู้หญิงมาวุ่นวายด้วย"ปากก็ตอบไปแต่สายตาก็มองเอวารินทร์ที่นั่งตัวเกร็งด้วยความเป็นห่วง สงสัยทั้งคู่จะต้องมีปัญหากันแน่ๆ ถึงได้ประชดประชันกันแบบนี้ คิมหันต์คิด "งั้น...ก็รีบๆ คุยหน่อยและกันกูนัดสาวไว้" ปึ่ง!! "เอวาขอตัวนะคะ...พอดีคิดได้ว่ามิเกลจะพาไปซื้อของ"มือเล็กทุบโต๊ะก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกไป สร้างความตกใจให้แสงเหนืออยู่ไม่น้อย ส่วนอัครวินท์ก็ยกยิ้มอย่างพอใจที่เห็นท่าทีของเธอ คงจะเริ่มรู้ใจแล้วล่ะสิ เขาคิด คิมหันต์: ซันมึงทำเชี้ยไรของมึง ทะเราะกันหรอ? คิมหันต์ทักแชทส่วนตัวมาถาม ด้วยความสงสัย ซัน:อืม ก็ในเมื่อไม่รู้ใจตัวเองกูก็แค่กระตุ้นให้รู้เร็วๆ คิมหันต์:มันจะไม่ยิ่งแย่หรอวะ ซัน:ไม่หรอก กูคุมสถานการณ์อยู่ ปล่อยให้อยู่กับตัวเองเดี๋ยวก็รู้ตัวเองนั่นแหละ ว่าแต่มึงเถอะ ปล่อยมิเกลออกมาได้แล้วมั้ง คิมหันต์:ไม่ได้ มึงดูหน้าไอ้เชี้ยเหนือดิ จริงจังชิบ ซัน: กูขอ...ให้มิเกลมาอยู่เป็นเพื่อนเอวาที"เอวา..."เกวรีเอ่ยเรียกเพื่อนที่เดินเล่นอยู่ขายหาด จากนั้นไม่นานร่างบางก็หันมาหาเธอ"มิเกล...แกหายไปไหนมา...แล้วนี่แกเป็นอะไรไหม?"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยท่าทีตกใจพร้อมกับจับเพื่อนหมุนไปมา เพื่อตรวจดูรอยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามตัว"ไม่หรอก...แค่โดนบังคับเรื่องเดียวนั่นแหละ...แกทะเราะกับพี่ซันหนักเลยหรอ?"เธอถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง"ไม่เชิง...""แล้ว...รู้ใจตัวเองบ้างหรือยัง?""ไม่แน่ใจ...""เฮ้อ...แล้วอยากกลับไหม?""ไม่ได้อยากกลับ...แต่อยากเปลี่ยนที่เที่ยว""แกอยากเปลี่ยนที่เที่ยว หรือแกแค่อยากหนีใคร...เอวา...ปกติแกเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ว่ากับเรื่องไหนก็ตาม...แต่ฉันไม่เข้าใจ...ทำไมเรื่องนี้แกถึงได้เป็นแบบนี้?""มิเกล...แกอย่าว่าฉัน...ฉันกำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร?""หรือจริงๆ แล้วแกรักพี่ซัน...แต่แค่แกไม่รู้ตัว""รักมันเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นเลย?""มันแล้วแต่กรณี...บางคนก็เกิดขึ้นตั้งแต่แรกสบตากันก็รู้เลยว่าใช่...แต่บางคนก็เกิดขึ้นไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหน""เพราะแบบนี้ไงฉันถึงหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันเองก็อยากชัดเจนกับความรู้สึกบ้าๆ นี่เหมือน
@ บ้านอัครเดชาชัย"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ อย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว"แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว"นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว""มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด"ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆ ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา"หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย
@ภัตราคารสุดหรูบรรยากาศในภัตตาคารสุดหรูชั้นบนสุด เห็นวิวชัดทุกมุมกลางเมือง ได้ถูกจับจองโดยคุณหญิงวินทร์รวี เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย"ซัน! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมห๊ะ!!"คุณหญิงวินทร์รวีเอ็ดลูกชายที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นปมแบบนี้ "ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับ""ก็แม่บังคับจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?"เสียงเรียบนิ่งนั้นเถียงแม่ จนผู้เป็นแม่ตาเขม็งใส่อย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีเอาแต่ขัด"ถ้าแกทำตัวไม่ดี ฉันปลดแกแน่ไอ้ซัน!"ผู้เป็นพ่อกล่าวท้วงขึ้นอีกคน จนอัครวินท์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ต้องทำเป็นระบายยิ้มออกมาเมื่อประตูห้องหรูเปิดออกพร้อมกับแขกผู้มาใหม่อีก3คนอัครวินท์มองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินก้มหน้าก้มตาตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามา ใบหน้าหวานเฉี่ยวนั้นทำเอาอัครวินท์สะดุดตา ตากลมโตเป็นประกาย ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ปากบางน่าจุ๊ฟนั้นอีก แถมหุ่นก็ดี ผิวขาวใสออร่าเปล่งปลั่งนั่นอีก สวยไร้ที่ติเลย เขาคิดในใจ"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า"เอวารินทร์เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะปรายตาไปมองว่าที่เจ้าบ่าวจอมแสบที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง นี่น่ะหรอคนที่จะให้มาปรา
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย
"ห๊ะ! แต่งงาน!"เกวรีและจีโน่อุทานพร้อมกันจนลั่นห้อง"อืม..."ใบหน้าผิดหวังของเธอเจื่อนลงก่อนจะกระดกไวน์ชั้นดีลงคอ"สมัยไหนแล้วแกจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ไม่ได้ป้ะ"จีโน่เดือดพล่าน ก็แหงละหลังเรียนจบเขากะจะขอเธอเป็นแฟน แต่นี่อะไร อยู่ๆก็ถูกใครไม่รู้ตัดหน้าไปเสียก่อน"หึ่ย แกใจเย็น"แต่ก็ถูกเกวรีปรามไว้ก่อนที่นายนี่จะออกอาการจนมากเกินไป"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่มันเป็นข้อตกลงของพ่อแม่ฉันและครอบครัวเขา คงอยากให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกเขาละมั่งเห็นว่าคบกับดาราคนหนึ่งอยู่ คงมาเกาะลูกเขาอะไรทำนองนั้นมั้ง""แล้วสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่"คำถามของจีโน่ถามด้วยเสียงที่จริงจัง"คงตอนที่ฉันจัดการยัยนั่นไปจากชีวิตลูกเขาได้""หวังว่าจะจัดการแต่ยัยนั่นนะ ไม่ใช่ให้เขามาจัดการแก"จีโน่ยังคงกล่าวต่อ"แกไม่ต้องห่วง ฉันเป็นใคร จำคำพูดฉันไว้ว่านายนั่นจะไม่ได้แตะต้องฉันแม้แต่ปลายขน"เธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์กระดกอีกรอบ"งั้นถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน"ก็รักไปแล้วนี่เนาะ เธอจะทำอะไรก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจเธอหากว่าเธอจะต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนอื
"เอาตารางเรียนมา"ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องของเอวารินทร์ไปอยู่ๆ ร่างสูงก็หันกลับมาแล้วขอตารางเรียนของเธอ"เอาไปทำไม?"เธอถามอย่างไม่เข้าใจ"จะได้รู้ว่าต้องมารับกี่โมง อย่าถามมากได้ไหม คิดว่าฉันอยากทำมากหรอ?"เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์"ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ฉันไปเองได้!"ควับ! หมับ!อัครวินท์เดินไปคว้าโทรศัพท์ของเอวารินทร์มาถือไว้ก่อนที่จะจับมือเธอมาแสกนลายนิ้วมือ"นี่เอามานะ! ของส่วนตัวน่ะเข้าใจไหม?""..."ร่างสูงเอี้ยวตัวหลบก่อนจะปัดๆ เลื่อนๆ จากนั้นก็ยัดมันกลับไปไว้ในมือเล็กของเธอ และเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร"อะไรของเขาเนี้ย!"เอวารินทร์กล่าวอย่างหงุดหงิดอีกด้าน...~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เมื่อเดินออกมาจากห้องของเอวารินทร์ได้ไม่นาน อยู่ๆ เบอร์ของคนรักของเขาก็ปรากฏขึ้น เขาระบายยิ้มออกมา ก่อนที่จะกดรับ"ครับ"[ซัน วันนี้ฉัตรถ่ายละครเสร็จค่ำๆ เจอกันนะคะ]"โอเคครับ"[ไว้เจอกันนะคะ ซัน พอดีว่ารถฉัตรเสียน่ะค่ะเอ่อ...คือ...มันก็เก่ามากแล้วตกรุ่นแล้วด้วย ฉัตรอายเพื่อนๆ ที่กอง...ถ้าซันไม่ว่าอะไร...ฉัตรขอยืม...]"เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้"[จริงหรอคะ อุ้ย เกรงใจซันจังเลย จะด
หลังจากที่แฟนสาวสุดเซ็กซี่เดินออกไปจากห้องของอัครวินท์ เขาก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมาปัดๆ เลื่อนๆ ดูตารางเรียนของเอวารินทร์ที่ส่งไว้ในไลน์โดยเขาเป็นคนส่งเองนั้น ก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที"มีเรียน9โมง"เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงตอนนี้ที่บ่งบอกเวลาเกือบจะ8โมงแล้วจึงรีบระเรงนิ้วเรียวนั้นทักหาหญิงสาวที่คอยตามหลอกหลอนและเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเขาจะว่าไปตั้งแต่เจอหน้าใบหน้าสวยหวานปนเฉี่ยวนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวเขาตลอด'เดี๋ยวฉันไปส่ง'จากนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีอีกด้าน...ตึ้ง!Sun:เดี๋ยวฉันไปส่งข้อความในแอพเขียวเด้งแจ้งเตือนเอวารินทร์ที่กำลังนั่งแต่งหน้าทำผมที่หน้ากระจก เธอเหลือบมองข้อความชั่วครู่ก่อนที่จะเร่งมือทำทุกอย่าง เพื่อชิ่งออกไปก่อนเขา"หึ! ไม่มีทาง อย่าได้หวังจะไปส่งฉันเชียว หนุ่มๆ เห็นฉันก็ดับพอดี"พูดจบก็รีบวางแปรงแต่งหน้าลงและหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมาสะพายก่อนจะหยิบรีโมทรถคันหรูคู่ใจมาควงอย่างอารมณ์ดี ร่างบางสาวเท้าเข้ามาในลิฟท์จากนั้นก็รีบวิ่งตรงไปยังลานจอดรถที่มีความปลอดภัยระดับสูงติ๊ด! ปึ่ง!แต่เมื่อรีโมทกดปลดล็อคยังไม่ทันที่จะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับก็ถูกชายร่างสูงผลักประ
วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย"เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี""แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?""ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ""แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน""เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ""ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย"ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเ
"เอวา..."เกวรีเอ่ยเรียกเพื่อนที่เดินเล่นอยู่ขายหาด จากนั้นไม่นานร่างบางก็หันมาหาเธอ"มิเกล...แกหายไปไหนมา...แล้วนี่แกเป็นอะไรไหม?"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยท่าทีตกใจพร้อมกับจับเพื่อนหมุนไปมา เพื่อตรวจดูรอยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามตัว"ไม่หรอก...แค่โดนบังคับเรื่องเดียวนั่นแหละ...แกทะเราะกับพี่ซันหนักเลยหรอ?"เธอถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง"ไม่เชิง...""แล้ว...รู้ใจตัวเองบ้างหรือยัง?""ไม่แน่ใจ...""เฮ้อ...แล้วอยากกลับไหม?""ไม่ได้อยากกลับ...แต่อยากเปลี่ยนที่เที่ยว""แกอยากเปลี่ยนที่เที่ยว หรือแกแค่อยากหนีใคร...เอวา...ปกติแกเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ว่ากับเรื่องไหนก็ตาม...แต่ฉันไม่เข้าใจ...ทำไมเรื่องนี้แกถึงได้เป็นแบบนี้?""มิเกล...แกอย่าว่าฉัน...ฉันกำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร?""หรือจริงๆ แล้วแกรักพี่ซัน...แต่แค่แกไม่รู้ตัว""รักมันเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นเลย?""มันแล้วแต่กรณี...บางคนก็เกิดขึ้นตั้งแต่แรกสบตากันก็รู้เลยว่าใช่...แต่บางคนก็เกิดขึ้นไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหน""เพราะแบบนี้ไงฉันถึงหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันเองก็อยากชัดเจนกับความรู้สึกบ้าๆ นี่เหมือน
หลังจากที่ร่างบางเดินกระแทกกระเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปึ้ง เธอก็ลุกออกจากเตียงแล้วกลับไปที่ห้องพักของเธอแทน รู้สึกหวิวๆ เหมือนอีกไม่นานจะต้องเจออะไรที่วุ่นวายตามมาแน่ๆ"โกรธอะไรขนาดนั้น?"เอวารินทร์กลับเข้ามาให้ห้อง แต่ภายในห้องของเธอนั้นไม่มีแม้แต่เงาของเกวรีเลย ดูเหมือนว่าคืนนี้เธออาจจะต้องนอนคนเดียว คงไม่ต้องเดาต่อ ดูท่าแล้วคิมหันต์คงไม่ยอมปล่อยเธอแน่ๆร่างบางนั่งมองโทรศัพท์ที่ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ หวังเล็กๆ ว่าจะมีใครบางคนส่งข้อความมาหา แต่กลับไร้วี่แววข้อความนั้น"หรือฉันควรไปง้อ?"แค่คิดว่าเขาโกรธแล้วเงียบหายไปแบบนี้ มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ปกติจะมีเขาคอยป่วน คอยวุ่นวาย คอยบังคับเธอ แต่พอเขาเลือกที่จะหยุด มันทำให้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ"เอ่อ...มะ...มิเกล..."[อ๊ะ...อื้อ...] หลังจากที่เธอตัดสินใจยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อน แต่พอปรายสายรับกลับมีเสียงครางที่พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ อื้ม...เธอเข้าใจแล้วคงไม่ต้องถามอะไร เพราะคำตอบของคืนนี้ก็คงรู้อยู่แล้วว่าต้องนอนคนเดียวจริงๆ"เขาจะทำอะไรอยู่นะ?""เฮ้อ...พยายามหนีเขาแท้ๆ ...พอเขาเงี
"หูหนวกหรือไงพี่ซัน!!"เอวารินทร์ท้วง แต่ยิ่งเธอดิ้น เขากลับยิ่งกระชากแรงขึ้น แถมขายาวๆ ของเขาก็ทำให้เธอแทบจะวิ่งตาม"...""พี่ซันเอวาเจ็บ...ปล่อยเอวาเดี๋ยวนี้!!"ติ้ง!!เสียงลิฟต์เปิดออก อัครวินท์ลากร่างบางเข้าไปด้านใน เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เขาก็ดันร่างบางเข้าไปชิดผนักแล้วใช้แขนแกร่งค้ำยันเอาไว้โดยมีร่างบางอยู่ตรงกลาง"โสด!! หึ!...""เอวาไม่ได้ไปบอกใครว่าโสดนะ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ"เธอพยายามหว่านล้อม"ไม่บอกแล้วไอ้เหนือมันพูดแบบนั้นออกมาได้ไง?"เสียงเข้มข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ "รู้ใช่ไหมว่าต้องเจอกับอะไร?""รู้ค่ะ..."เองารินทร์หลุบตาลงต่ำเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิดมือหนาเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ประกบริมฝีปากลงไปบดขยี้อย่างแรงอยู่หลายนาที มือหนาอีกข้างซุกซนลูบไล้บั้นท้ายงามงอนของร่างบาง"อื้อ~"เสียงครางของร่างบางเผลอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำเอาคนที่กำลังโกรธจัดถึงกับยกยิ้มร้ายอย่างพอใจมือหนาล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงสั้นตัวจิ๋วของเธอแล้วขย้ำบั้นท้ายของเธออย่างหมั่นเขี้ยว ปากก็บดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนร่างบางต้องทุบอกแกร่งเพื่อเป็นสัญญาณให้เขารู้ว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจติ้ง!!เมื่อถึ
หลังจากเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวและของจิปาถะต่างๆ เพื่อที่จะได้เพียงพอต่อ1อาทิตย์ ทั้งสองสาวก็กลับมายังห้องพัก แต่พอมาถึงก็เกือบจะเย็นแล้ว จึงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปดินเนอร์กับแสงเหนือตามที่ได้นัดกันเอาไว้"พี่เหนือนี่เขาน่ารักเนาะ ตรงๆ ดีอ่า"เอวารินทร์เอ่ยขึ้น พร้อมกับแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง"ก็น่ารักดี แต่ต้องรอดูไปเรื่อยๆ""ถ้าพี่เขาดีเสมอต้นเสมอปลาย...แกจะคบกับเขาป้ะ?""ก็คงคบ แกก็รู้ฉันแพ้คนเอาใจใส่""แล้ว...พี่คิมล่ะ?""ก็...ไม่รู้สิ...พูดยากว่ะแก...เขาเป็นคนแรกของฉัน...แต่ก็นั่นแหละต่างคนต่างเมา...อีกอย่างเรื่องแบบนี้ก็ปกติป้ะ?""อืม...จะว่าไปฉันก็...คิดถึงพี่ซันอยู่นะ...พอห่างกันออกมาแบบนี้แล้ว""คิดถึงก็โทรหา...อย่าทำอะไรให้มันซับซ้อน..."เกวรีกล่าว พร้อมกับตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ"ขออยู่แบบนี้อีกนิด จะได้แน่ใจว่าจริงๆ แล้วฉันก็ต้องการเขา"~เสียงโทรศัพท์ของมิเกล~'พี่แสงเหนือ'"เอวาเสร็จหรือยังพี่เหนือโทรตามแล้ว""เสร็จแล้วๆ"เอวารินทร์วางแปรงปัดแก้มลงแล้วลุกไปสะพายกระเป๋าทันที"ค่ะพี่เหนือ..."[น้องมิเกลครับ...พี่ถึงแล้วนะครับ...จองห้องไว้แล้ว...ชั้นบนสุดห้องกระจก1008นะครับ]
"มาพักผ่อนกันหรอครับสาวๆ"แสงเหนือเอ่ยถามระหว่างที่ส่งเมนูอาหารคืนพนักงานหลังจากที่สั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มาพักผ่อนค่ะสักอาทิตย์"เอวารินทร์ตอบ เพราะแผนมาพักสมองของเธอ อยากอยู่คนเดียวนานหน่อย แต่ในเมื่อเอาเพื่อนมาด้วยเลยลากมาอยู่ด้วยกันเลย"แล้วพี่เหนือละคะมาทำอะไร...มาพักผ่อนเหมือนกันหรอคะ"เกวรีถาม"เปล่าครับ...พี่มาทำงาน...มาดูทำเลทำรีสอร์ทน่ะ...แต่เหมือนเจ้าของที่ดินที่พี่สนใจเขาจะยังไม่อยากขาย""อ้อ...อยากได้มากเลยหรอคะ...ทำไมถึงไม่ไปหาที่อื่น">เกวรี"ถูกใจครับ...ทั้งทำเล...และปัจจัยอื่นๆ หลายอย่าง...พี่เสนอราคาสูงด้วยแต่ก็ไม่ยอมขาย..."ใบหน้าแสงเหนือดูเป็นกังวลเล็กๆ"งั้นก็แปลว่าจะอยู่นี่นานเลยหรอคะ? ...">เกวรี"ครับ...จนกล่าวเขาจะใจอ่อน""เอาใจช่วยนะคะ...ขอให้เขาใจอ่อนเร็วๆ""อื้ม...เมื่อกี้เพื่อนพี่ที่เป็นหุ้นส่วนรีสอร์ทบอกจะมาที่นี่กับเพื่อนอีกคน...เผื่อน้องเอวาสนใจเพื่อนพี่...พี่จะแนะนำให้รู้จัก"แสงเหนือกล่าวบอกเอวารินทร์ที่เอาแต่จ้องโทรไม่วางตา พร้อมขมวดคิ้วจนเป็นปม"น้องเอวา...น้องเอวาครับ!!""คะ...เมื่อกี้พี่เหนือว่าไงนะคะ?""พี่เหนือบอกว่าเพื่อนเขาจะมาอีก2คน...เขาจะแ
ผ่านไปไม่นานมากนักคิมหันต์ก็เข้ามาในคอนโดของอัครวินท์เป็นที่เรียบร้อย แต่สภาพเพื่อนค่อนข้างที่จะอนาจารเป็นอย่างมาก สภาพเปลือยไม่พอแถมยังโดนล็อกข้อมือติดกับเตียงอีกต่างหาก"เชี้ยซัน!! มึงไปทำอีท่าไหนวะถึงได้มีสภาพทุเรศแบบนี้...""มึงเลิกพูดมากแล้วมาไขกุญแจกูสักทีเถอะ อย่าให้มึงเจอแบบกูก็แล้วกัน!!""ไอ้จิม...หน้าที่มึงแล้ว"คิมหันต์หันไปสั่งลูกน้องให้ไปปลดกุญแจ พร้อมกับมองเพื่อนด้วยแววตาที่สมเพช"สาบานได้เลยว่าคาสิโนว่าแบบมึงโดนผู้หญิงหลอกแบบนี้ กูล่ะเชื่อมึงเลยไอ้ซัน"เขากล่าวออกมาเมื่อเพื่อนเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง"ทีมึงล่ะ หลับจนไม่รู้ว่าเมียหาย!!"อัครวินท์สวน"ไม่ใช่เมีย!!""ไม่ใช่เมียแต่เอาเขา มึงจะทำอะไรกูไม่เคยว่านะ...แต่ช่วยให้เกียรติผู้หญิงหน่อย กูเตือนด้วยความหวังดี""มึงก็รู้กูมีคู่หมั้นแล้ว"แววตาคมหลบต่ำลงเล็กน้อย"แล้วมึงไปดึงเขาเข้ามาทำไม!!""ทีแรกก็กะจะเล่นๆ ก็มิเกลน่าสนใจดี""เล่นหลายรอบเชียวนะมึงอ่า ไม่เรียกว่าเล่นแล้วมั้ง""พูดมากชิบ...กูให้ไอ้จิมล็อคมึงไว้แบบเดิมดีไหมเนี้ย??"อัครวินทน์เดินไปหยิบเสื้อผ้าอีกห้องหนึ่งมาสวมใส่ จนเรียบร้อยจากนั้นก็มาเช็คระบบติดตามในโทรศัพท์ที
เอวารินทร์ขับรถมาจนถึงคฤหาสน์หลังงามภายนอกดูเหมือนจะเป็นแค่บ้านคนรวยแต่พอมองเข้าไปมีบอร์ดี้การ์ดเต็มไปหมดทั่วทุกมุมคฤหาสน์"เชี้ย!! บ้านมาเฟียป้ะเนี่ย"เอวารินทร์อุทานกับตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าคิมหันต์นั้นเป็นใคร"มาหาใครครับคุณ"ชายชุดดำหน้าตาน่าเกรงขามเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอจอดรถแล้วด่อมๆ มองๆ อยู่หน้าทางเข้าคฤหาสน์"เอ่อ...มาหาพี่คิมหันต์กับมิเกลค่ะ เพื่อนฉัน""อ้อ...คุณมิเกล...เชิญด้านในก่อนครับ"จากนั้นประตูก็เลื่อนออกอัตโนมัติ แล้วร่างบางก็ขับไปจอดเทียบตรงทางเข้าประตูบ้านของคิมหันต์ทันทีไม่นาน เกวรีก็วิ่งออกมา ด้วยใบหน้ารุกรี้รุกรนแปลกๆ"พี่คิมล่ะ?""นอนอยู่ยังไม่ตื่น แกพาฉันออกไปทีฉันไม่อยากอยู่บ้านกับอีตาบ้านี่ หื่นกาม!!""สงสัยจะหื่นกามยกแก๊งค์..."เอวารินทร์กล่าวก่อนจะจูงมือเกวรีไปที่รถของตัวเอง"แล้วออกมาแบบนี้พี่คิมเขาไม่ว่าหรอ??""ก็เขาไม่รู้ไง รีบไปกันเถอะค่อยคุยกัน"ทั้งคู่ขับออกมาจากหน้าคฤหาสน์ แต่ระหว่างที่กำลังจะออกไปที่ประตูสุดท้าย ก็ถูกการ์ดกันเอาไว้ก่อน"ขอโทษครับ...นายสั่งไม่ให้คุณออกไปจากที่นี่ครับ...""พี่คิมบอกให้ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนได้ เมื่อกี้นี้เลย หรือจะขัดค
ริมฝีปากหยักกัดขบเม้มตามซอกคอ ตามเนินอกจนเป็นรอยฟัน ไม่ว่าเธอจะร้องห้ามเท่าไหร่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดความป่าเถื่อนลงได้"พี่ซัน...เอวาไม่หนีแล้ว...อึก...ขอร้องปล่อยเอวาก่อนได้ไหม"เสียงขอร้องสั่นเครือ ทำเอาร่างสูงชะงักไปชั่วครู่"ไม่ทันแล้ว...""ไม่ทำได้ไหม...""แต่พี่มีอารมณ์...มันลงไม่ได้""อ่อนโยนกว่านี้ได้ไหม??""..."ร่างสูงเงียบไป"นะคะ...เอวาไม่ชอบให้พี่ซันรุนแรงแบบนั้นเลย"เสียงหวานออดอ้อนด้วยแววตาน่าสงสาร เรียกความเห็นใจจากร่างสูง"ถ้าอยากให้อ่อนโยน...ก็ทำให้พี่พอใจ""ค่ะ...ปล่อยมือเอวาก่อนสิคะ"มือหนาค่อยๆ คลายออกเมื่อเสียงหวานเอ่ยขอ เอาอีกแล้ว สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่ใจอ่อน ขนาดจะดุเธอ ยังใจอ่อนกับอีแค่คำอ้อนหวานหู เขานี่มันกระจอกชะมัด"...""นอนลงมาสิคะเอวาจะทำให้"ร่างสูงนอนราบลงบนที่นอนอย่างว่าง่าย กลับกลายเป็นเกมส์พลิกซะงั้นมือเล็กเอื้อมไปถอดกางเกงชั้นในราคาแพงที่มันบดบังความใหญ่โตเกินขนาดของเขาออก จากนั้นก็คว้าหมับเข้าไปรูดท่อนลำที่มันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าสองสามครั้งปากเล็กครอบครองท่อนเอ็น เรียวลิ้นเล็กๆ ละเบียดละไมตวัดไปมาที่ปลายหัวหยักนั่นเบาๆ"อ๊าส์~"เสียงครางกดต
"ลองทานนี่ดูสิเอวา"อัครวินท์ตักปลาหมึกผัดไข่เค็มของโปรดเธอให้ร่างบางพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้"นี่กำลังทำคะแนนอยู่ใช่ไหมคะ?"ร่างบางจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน"อืม...จะว่างั้นก็ได้""วันนี้ไม่เข้าประชุมหรอคะ??""ไม่ครับ วันนี้พี่จะอยู่กับเอวา...พ่อบอกให้อยู่ง้อเอวาให้สำเร็จ...วันนี้พ่อเลยจะประชุมแทน""นี่บอกพ่อเลยหรอคะ?"เธอทำเสียงไม่พอใจกับความขี้ฟ้องของเขา ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ หาตัวช่วยซะได้"ก็ใครบอกให้เอวาตีตัวออกห่างจากพี่ล่ะ""แต่นี่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะคะ พี่ซันก็รู้ว่าครอบครัวเราอยากให้แต่งงานกัน สุดท้ายถ้าไม่ยอมอยู่ด้วยกันเขาก็หาทางมาบีบบังคับเราอยู่ดี แล้วแบบนี้เอวาก็ไม่รู้น่ะสิว่าจริงๆ แล้วที่อยู่ด้วยกันเนี้ยเพราะความเคยชิน ไม่ใช่เพราะรัก"ร่างบางพยายามอธิบายให้เขาได้เข้าใจ"อยู่ด้วยกันทุกวันก็รักได้นิ ขนาดพี่ยังรักเอวาเลย""นั่นมันพี่ซันไม่ใช่เอวา เอวาอยากรักพี่ซันเพราะใจเอวาเอง ไม่ใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องรัก...เอวาอิ่มแล้วค่ะ"เมื่อถูกขัดใจจากนั้นเธอก็รวบช้อนส้อมแล้วเดินเข้าห้องไปทันที"เฮ้อ...เอาไงดีล่ะไอ้ซัน...งานหยาบไหมล่ะมึง"คนตัวสูงเอามือมาลูบหน้าเพื