เธอจ้องซูหว่านนิ่งอยู่สักพัก ถึงได้เรียกเสียงของตัวเองกลับมา "คุณซู คุณรู้ไหมว่าแม่ของคุณเป็นใคร?"ซูหว่านเห็นนายหญิงจิที่เพิ่งคร่ำครวญเรื่องสูญเสียลูกชายไป แต่ทันทีที่เอ่ยปากสิ่งที่เธอเป็นห่วง กลับเป็นแม่ของตัวเอง ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ทว่าก็ส่ายหน้าตามตรง "ไม่รู้ค่ะ..."สีหน้าตึงเครียดของนายหญิงจิ ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ก็ดี ความลับของตระกูลชู เมื่อชูยีตายไปแล้ว ก็ให้มันถูกฝังกลบไปตลอดกาลก็แล้วกัน ส่วนเด็กกำพร้าที่ไม่รู้อะไรเลยคนนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องกลัวเมื่อได้รับคำตอบ นายหญิงจิก็ไม่ได้ปรายตามองซูหว่านอีก หมุนตัวเข้าห้องดับจิต ทิ้งชายวัยกลางคนให้เผชิญหน้ากับซูหว่าน "ร่างของเหยียนโจว พวกเราจะพากลับไป"ซูหว่านขมวดคิ้วอย่างหนักใจ "พี่เขยของฉันทิ้งคำสั่งเสียเอาไว้ ว่าจะฝังที่เดียวกับพี่สาวของฉัน เกรงว่าจะไม่สามารถให้พวกคุณพาไปได้"พ่อของจิเหยียนโจว คุณจิเห็นว่าเธอพูดจานุ่มนวล ทว่าน้ำเสียงกลับหนักแน่น สีหน้าก็ดำทะมึน "เขาเป็นลูกชายของฉัน ฉันจะพาไปด้วยมันก็ก็สมเหตุสมผล ที่สำคัญเขากับชูยีไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย เธอมีสิทธิ์อะไรไปเรียกเขาว่าพี่เขย?"ซูหว่านตอบกลับเสียงเร
ใบหน้าสง่างามของจิป่ายหลิน เผยความอับอายไม่น้อย "ก็แค่หารือกันว่าจะเอาร่างของลูกชายฉันไปฝังไว้ที่ไหน มันจะกลายเป็นทำผิดไปได้ยังไง?"ไม่แปลกใจว่าทำไมคุณซูพูดจาหนักแน่นขนาดนั้น ที่แท้ก็ไต่เต้าขึ้นไปอยู่บนยอดของกลุ่มบริษัทจี้ได้นี่เอง แต่ความกล้าแบบนี้ สุดท้ายแล้วผู้ชายก็เป็นคนมอบมันให้เธออยู่ดีจิป่ายหลินรู้สึกดูถูกอยู่ไม่น้อย ก็เหมือนพี่สาวของเธอ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรแต่อยากจะจับเหยียนโจว วุ่นวายกันมาทั้งชีวิต แม้กระทั่งตอนตายก็ยังทำให้คนอื่นไม่สงบสุขกันไปด้วย จนสุดท้ายก็พรากชีวิตของเหยียนโจวไป ผู้หญิงแบบนี้มีอะไรดี?ซูหว่านมองออกถึงความไม่แยแสของจิป่ายหลิน แต่ความคิดของเธอในเวลานี้ ไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้แต่อย่างใด จึงไม่ได้พูดอะไรให้มากความ แค่บอกว่า "คุณจิไตร่ตรองให้ดี แล้วให้คำตอบฉันภายในสี่ชั่วโมงค่ะ"สี่ชั่วโมง เครื่องบินของจี้ซือหานก็น่าจะถึงอังกฤษแล้ว ซึ่งเธอก็ตัดสินใจได้พอดีว่าจะไปอังกฤษหรือไม่จิเหยียนโจวเป็นลูกชายของจิป่ายหลิน ถ้าเขาจะเอาลูกชายตัวเองไปก็ไม่จำเป็นต้องผ่านซูหว่าน แต่เพราะคำสั่งเสียของลูกชาย ถึงได้เรียกเธอมา และอยากจะบอกเธอสักหน่อย เพราะยังไงซะคำสั่งเสียเธอก็เป
ซูหว่านวางสายไปชั่วขณะ ก็ได้รับข้อความจากจี้ซือหานอีก[หว่านหว่าน ไม่ใช่ว่าเธฮช่วยอะไรไม่ได้นะ แต่ฉันกลัวว่าเธอจะเจออันตราย เลยไม่อยากให้เธอเข้าร่วม][ฉันรับรองว่าอีกสองวันฉันจะกลับไปแน่ เธออย่าโกรธเลยได้ไหม?]นิ้วมือของซูหว่านลูบหน้าจอไปมา จ้องข้อความ ครุ่นคิดไม่กี่วินาที ก็ก้มหน้าพิมพ์[ก็ได้ ฉันจะรอคุณที่บ้านนะ]เธอช่วยเหลืออะไรไม่ได้จริงๆนั่นแหละ ตามเขาไปอังกฤษ อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนของเขาก็ได้ ไม่ได้จะดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นภาระเขาเปล่าๆซูหว่านที่รู้ตัวเองดี เห็นจี้ซือหานตอบข้อความกลับมา ถึงได้วางโทรศัพท์ลงขณะที่เธอตั้งใจจะไปหาพ่อแม่ของจิเหยียนโจว จอร์จก็เข้ามาในห้องผู้อํานวยการ แล้วส่งดิสก์-Uให้เธอกับมือ"นี่คือสิ่งที่ฉันเจอที่ห้องดูหนังในบ้านของเคซีย์ ข้างในเป็นวิดีโอที่พี่สาวของเธอทิ้งเอาไว้ให้จิ เธอยังไม่เคยเจอพี่สาว เอาไปดูสิ..."ขอบตาของจอร์จยังแดงอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาร้องไห้อยู่ตลอด โดยเฉพาะหลังจากที่ดูคลิปนี้แล้ว เขาร้องไห้เพราะความเสียใจยิ่งกว่าเดิมได้ยินว่าเป็นคลิปของพี่สาว หัวใจของซูหว่านก็เจ็บจี๊ด มือที่รับดิสก์-Uมา ก็สั่นตามไปด้วยอลันให้เธอยืมคอมพิวเตอร์
นายหญิงจิรักษามารยาทอย่างที่ผู้หญิงชนชั้นสูงควรจะมี แล้วอธิบายอย่างเกรงอกเกรงใจกับซูหว่าน"คุณซู หลายปีก่อนหน้านั้นที่ชูยีตามจีบเหยียนโจว ฉันเคยพูดกับเธอเอาไว้ว่าจะไม่ให้เธอเข้าตระกูลของเรา และเธอก็พูดเองว่าไม่ได้แต่งเข้าตระกูลก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้อยู่เคียงข้างเหยียนโจวก็พอ คุณก็รู้ว่าตระกูลแบบพวกเราน่ะ ไม่มีทางยอมรับลูกสะใภ้ที่สถานะไม่เทียบเท่ากับเราอยู่แล้ว เพราะงั้นคงไม่สามารถให้ชื่อเสียงเรียงนามกับเธอได้"ซูหว่านกวาดตามองนายหญิงจิตั้งแต่หัวจรดเท้าแวบนึง พบว่าตั้งแต่ต้นจนจบอีกฝ่ายไม่กล้ามองหน้าเธอตรงๆ ก็รู้สึกตะหงิดๆ "นายหญิงจิ คุณรู้จักฉันหรือเปล่า?"มือที่เกาะสามีของนายหญิงจิ ก็สั่นเล็กน้อย ทว่ายังแสร้งทำเป็นนิ่งได้อยู่ แล้วกระตุกมุมปากนิดนึง "ฉันใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษมานาน จะไปรู้จักเธอได้ยังไง?"งั้นทำไมคุณถึงไม่กล้ามองหน้าฉัน?ขณะที่ซูหว่านกำลังคิดว่าจะถามออกไป นายหญิงจิก็ลุกขึ้น มองหน้าเธอตรงๆ "คุณซู ฉันพูดสิ่งที่จะพูดไปชัดเจนแล้ว พี่สาวของเธออยากอยู่กับเหยียนโจวโดยไม่ต้องการสถานะเอง ตอนที่เธอยังมีชีวิตก็ยังไม่ต้องการสถานะนี้ คิดว่าตายไปแล้วก็คงไม่ได้สนใจเหมือนกัน"ตอนที่พี
บางทีนายหญิงจิคงจะสังเกตได้ว่าอาการของตัวเองนั้นชัดเจนเกินไป ก็รีบยกมือขึ้นจัดแจงแขนเสื้อ แล้วมองซูหว่านโดยไม่ทิ้งร่องรอยเดิม"คุณซู ในเมื่อพี่สาวของเธอคลอดลูกสาวไว้ให้ลูกชายฉัน งั้นก็ให้เธอฝังในสุสานตระกูลจิ ในฐานะภรรยาของเหยียนโจวก็แล้วกัน"ขณะที่เธอโล่งอก ก็เสนอเงื่อนไขออกมา "แต่เด็กคนนั้น หลังจากนี้ให้ฉันเป็นคนเลี้ยงดูแก"จอร์จเห็นว่านายหญิงจิต้องการตัวเด็ก จึงตระหนักได้ว่าตัวเองเปิดเผยข้อมูลมากเกินไป ก็รีบพูดเสริมขึ้นมา "คำสั่งเสียของจิ คือให้คุณซูเป็นคนดูแลลูกครับ"พ่อแม่ของจิเหยียนโจว เป็นคนเห็นแก่ผลประโยชน์มาโดนตลอด ตอนที่จิเชื่อฟัง ก็จะให้เขาเป็นทายาท พอไม่เชื่อฟังปุ๊บ ก็ยอมยกอำนาจการสืบทอดให้กับหลานชายหุ่นเชิดที่อยู่ในการควบคุมของตัวเอง ดีกว่ายกให้จิ สามีภรรยาคู่นี้ยังปฏิบัติกับลูกชายแบบนี้ แล้วนับประสาอะไรกับหลานสาว?ซูหว่านเองก็เข้าใจตรรกะนี้ จึงรีบพูดต่อ "คำสั่งเสียนี้อยู่ในหนังสือสัญญา เขาให้ฉันเป็นคนดูแล"นายหญิงจิโมโหพวกเขาจนหัวเราะออกมา นี่มันตรรกะอะไร ปู่ย่าของเด็กก็ยังมีชีวิตแข็งแรงดีกันทั้งคู่ ทำไมต้องให้น้ามาดูแล?ในใจของนายหญิงจิคิดแบบนั้น ทว่าก็รับปาก "คุณ
เธอถือโกศไว้ ลูบไปมาสองสามที "พี่ ต่อไปฉันจะไปเยี่ยมที่อังกฤษบ่อยๆนะ"เธอพูดจบ ก็หยิบผ้าสีดำคลุมลงบนโกศซานซานกางร่มให้เธอ ทั้งสองคนต้อนรับโกศของชูยี กลับไปที่วิลล่าของซูหว่าน...หลังจากดำเนินการทั้งหมดนี้เสร็จ เวลาก็ผ่านไปสองวันพอดี ในระหว่างนั้น จี้ซือหานจะรายงานความปลอดภัยให้เธอทุกๆหนึ่งชั่วโมงเธอจึงไม่ได้เป็นห่วงขนาดนั้นอีก ทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากที่หลับลึกไประยะนึง ก็ยื่นมือไปล้วงหาโทรศัพท์หลังหมอนเมื่อคืน จี้ซือหานส่งข้อความมาบอกเธอว่า กั่วกัวถูกเขาพาตัวกลับมาแล้วและเครื่องบินส่วนตัวของเขาจะถึงสนามบินเมืองเอในวันพรุ่งนี้เวลาสิบโมงเช้า สิบห้านาทีเธอมองเวลาแวบนึง คาดการณ์ว่าใกล้จะลงเครื่องแล้ว ถึงได้ควานรายชื่อผู้ติดต่อแล้วโทรหาเขา แต่เขาปิดเครื่องเธอนึกว่าเขายังไม่ได้ลงเครื่อง จึงลุกขึ้นมาอาบน้ำอาบท่า จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็แพ็คเสื้อผ้าสองสามชุดหลังจากที่เตรียมตัวไปอังกฤษเสร็จ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใหม่ เห็นว่าเขาไม่ได้โทรกลับมา ในใจก็ดิ่งลงทันทีเธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง โทรหาจี้ซือหานอยู่หลายครั้ง ก็โทรติดตลอด ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้รับส
พอเขาเอ่ยถึงกั่วกัว ซูหว่านถึงได้หันเหความสนใจไปที่กั่วกัวเมื่อเห็นเด็กน้อยที่เคยอ้วนตุ้บตั้บ จู่ๆก็ผอมลง ก็รู้สึกปวดใจทันทีเธอรีบคลายจี้ซือหานออก ยองตัวลงนั่ง กุมใบหน้าเล็กๆของกั่วกัว"กั่วกัว ทำไมหนูผอมลงขนาดนี้?"เมื่อเห็นคุณน้าของตัวเอง กั่วกัวก็เผยอริมผฃฝีปากเล็กๆสีชมพู ราวกับอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมาเห็นท่าทางของกั่วกัวก้มหน้าลงเล่นของเล่นในมือ ไม่พูดอะไรสักคำ ในใจของซูหว่านก็เป็นทุกข์มากขึ้นต้องเป็นเพราะกั่วกัวถูกเคซีย์บังคับให้เล่นเกมยิงปืน เห็นพ่อแท้ๆของตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ถึงได้กลายเป็นคนไม่พูดแบบนี้สินะ?จี้ซือหานฝืนร่างกายอันสั่นเทา แล้วอธิบายให้ซูหว่านฟัง "เธอได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีปฏิกิริยาสนองต่อความเครียด หลังจากนี้ต้องพาไปพบจิตแพทย์"หลังจากที่เคซีย์บีบจิเหยียนโจวจนตาย ก็เริ่มทารุณเด็กขึ้นมา หลายวันมานี้ขังกั่วกัวที่เอาแต่ร้องห่มร้องไห้เอาไว้ในห้องมืดเล็กๆ แล้วยังใช้โซ่ตรวนล่ามเธอเอาไว้อีกด้วย ให้เธอกินข้าวกินน้ำเพียงน้อยนิด ถ้าเขามาไม่ทัน เกรงว่าเด็กคงจะมีชีวิตรอดไม่พ้นสามวันเมื่อได้ยินสิ่งที่กั่วกัวต้องเ
จี้ซือหานเปิดประตูรถออก ประคองซูหว่านข้าไปนั่งในรถ จากนั้นกัดฟันโน้มตัวลงนั่งข้างกายเธอเมื่อชายหนุ่มพิงลงบนเก้าอี้เบาๆ แม้แต่เส้นผมที่ร่วงลงมาปรกใบหน้า ก็ยังสั่นตามไปด้วย...ซูชิงที่นั่งอยู่ข้างหน้า เห็นเขาเจ็บจนสภาพเป็นแบบนี้ มือที่อุ้มกั่วกัวอยู่ ก็เผลอออกแรงโดยไม่รู้ตัวเมื่อกี้ตอนที่จี้ซือหานอยู่ต่อหน้าซูหว่าน แผ่นหลังหันมาทางเขาพอดี เขาก็เลยได้เห็นชัดเต็มสองตาเสื้อเชิ้ตราคาแพงตัวนั้น ด้านบนเปื้อนเลือดเป็นหย่อมๆ ราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานเขาตกใจจนเกือบร้องออกมา ทว่านิ้วมือที่พาดหลังของชายหนุ่ม กลับทำสัญลักษณ์ให้เขาอย่างรวดเร็ว...เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณซู ดูเหมือนประธานจี้จะไม่เห็นความเป็นความตายของตัวเองอยู่ในสายตา เขาไม่ยอมแม้แต่จะทำให้เธอกังวลซูชิงไม่อาจสาธยายออกมาได้ว่า ความรักที่ประธานจี้มีต่อคุณซูมันลึกซึ้งมากขนาดไหน ได้แต่เรียกให้คนขับขับเร็วอีกหน่อย เร็วกว่านี้อีกหน่อย...แม้ว่าชายหนุ่มจะเข็บจนเหงื่อผุดออกมาเต็มหน้าผาก แต่ก็ยังกอดเธอเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงเธอสุดๆเลยซูหว่านเงยหน้าขึ้นมองเขาหลายครั้ง แต่ก็ถูกเขากดศีรษะเอาไว้ ไม่ให้เงยหน้า