เมื่อเสิ่นหนานอี้ได้ข่าวก็รีบตามมา แต่ร่างกายของจิเหยียนโจวถูกแช่แข็งไปแล้วเขายืนอยู่ในห้องดับจิต มองจิเหยียนโจวที่ถูกคลุมด้วยผ้าขาวอย่างไม่อยากจะเชื่อแตกต่างจากที่ซูหว่านเห็น จิเหยียนโจวในเวลานี้เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่จนสะอาดสะอ้านเขาเหมือนกับคนที่นอนหลับไป นอนอย่างเงียบๆอยู่ตรงนั้น ความเงียบเชียบดั่งปกติ ไม่มีกลิ่นอายของการเสียชีวิตเสิ่นหนานอี้สาวขายาวๆเดินเข้าไป ยื่นมือออกหวังอยากจะสัมผัสใบหน้าของจิเหยียนโจว แต่ก็พบว่าเขาไม่มีความกล้านั้น"อาจารย์..."เขาพึมพำทีนึง ถ้าเป็นปกติใครก็ตามที่มารบกวนการนอนหลับของอาจารย์ อาจารย์จะต้องลุกขึ้นมาต่อยสักหมัดแน่ๆอาจารย์ของเขามีแรงในการลุกจากที่นอน แต่ตอนนี้ เขากลับนอนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ ไม่สะทกสะท้านอะไรกับการที่ถูกเขารบกวนเสิ่นหนานอี้แสบจมูกขึ้นมา รอบๆดวงตาก็แดงก่ำ "อาจารย์ คุณเป็นอะไรไป ไหนบอกว่าจะรอให้ผมล้มคุณให้ได้ไม่ใช่หรอ?"วันที่เขาประกาศตัวออกจากการเป็นศิษย์ จิเหยียนโจวตบบ่าของเขา แล้วพูดกับเขาว่า "หนานอี้ รอให้นายได้ถ้วยรางวัลมากกว่าอาจารย์ แล้วอาจารย์จะสร้างห้องเล็กๆทองคำให้นายนะ"อาจารย์รู้ว่าเขาชอบทองคำ เดี๋ยวก็ซื้อทองคำ
เสิ่นหนานอี้คุกเข่าลงกับพื้น หันหน้าเข้าหาจิเหยียนโจว แล้วผงกหัวลงสามครั้งเขากับอาจารย์สัญญากันเอาไว้ หากได้ถ้วยรางวัลมากกว่าอาจารย์ อาจารย์จะสร้างห้องทองคำเล็กๆให้เขาแต่เห็นได้ชัดว่าชาตินี้เป็นไปไม่ได้แล้ว งั้นชาติหน้าก็แล้วกันหวังว่าชาติหน้า เขาจะยังได้เป็นศิษย์ของจิเหยียนโจวถึงตอนนั้น ให้เขาเป็นฝ่ายสร้างห้องทองคำให้อาจารย์ก็แล้วกันยังไงซะชาตินี้ เขาก็ยังไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณ อาจารย์ก็จากไปก่อนตอนที่เสิ่นหนานอี้คุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้อย่างปวดใจจนน้ำตาอาบหน้า จอร์จก็ยื่นมือไปจบบ่าเขา"ก่อนที่จิจะจากไป เขาฝากบริษัทภายใต้ชื่อของเขากับนาย...""เขาหวังว่า นายจะนำพาบริษัทสู่สายตาคนทั้งโลก..."คำร้องขอที่ยากจะสำเร็จ ทว่าสามารถทำให้เสิ่นหนานอี้ยืนหยัดต่อไปได้อาจารย์ของเขา ส่งเสียเขา ชี้แนะเขาก่อนตาย แม้จะตายไปแล้วก็ยังไม่วายคิดเผื่อเขาเสิ่นหนานอี้ที่เป็นคนร่าเริงแจ่มใสมาตลอด ตอนนี้ จู่ๆก็เสียศูนย์จนราวกับเป็นคนละคนซูหว่านยังคงนั่งอยู่ในห้องผู้ป่วย เอนศีรษะลงพิงบนไหล่ของจี้ซือหาน รอฟังข่าวอยู่เงียบๆจี้ซือหานส่งอาเจ๋อไปขัดขวางเครื่องบินส่วนตัวของเคซีย์ ไม่รู้ว่าขวางสำเร
ซูหว่านเคยเจอเจียงโม่แค่สองครั้ง ทุกครั้งมักจะสัมผัสได้ถึงความงามที่ไม่เหมือนใครจากตัวของเธอความงามแบบนี้ เป็นความงามที่ปรายตามองแค่แวบเดียว ทุกคนก็ต้องยอมจำนน งามจนมองแค่แวบเดียว ก็ไม่อาจละสายตาไปไหนได้อีกในขณะเดียวกัน ออร่าความสูงศักดิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเธอ ก็ทำให้ผู้คนอดรู้สึกต่ำต้อยไม่ได้ซูหว่านก้มหน้าลง ทว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายกลับจับมือของเธอ ประสานนิ้วทั้งสิบเข้าด้วยกัน ให้ความอบอุ่นปลอดภัยที่เพียงพอกับเธอจี้ซือหานจับมือของซูหว่านแน่น แล้ววางลงบนต้นขาเรียวยาวของตัวเอง จากนั้นมือข้างนึงเท้าคาง มองไปยังเจียงโม่ด้วยความเฉยเมย"เรื่องของเคซีย์ อธิบายมาให้ชัด ไม่งั้นพอกลับสำนักงานใหญ่ ก็จงรับโทษด้วยตัวเองไปซะ"เห็นเขาไม่แม้แต่จะพูดเกริ่นนำ แต่เข้าเรื่องทันที เจียงโม่ก็รู้ว่าเขากลัวภรรยาสุดสวยจะเข้าใจผิด...เจียงโม่ลอบพ่นคำว่า "ไอ้คนคลั่งรักจนหน้ามืด" ใส่เขาในใจ ทว่ากลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ สาวเท้าเดินเข้ามาเธอเองก็คร้านจะพูดพร่ำทำเพลงกับเขา หยิบหน้ากากลายสีขาวดำออกมาจากในกระเป๋า แล้วยื่นไปตรงหน้าจี้ซือหาน"นายน่าจะเข้าใจนะ?"นี่เป็นหน้ากากของพ่อบุญธรรมของเธอ หรือก็
ตอนที่ซูหว่านตื่นขึ้นมา ก็พบว่าจี้ซือหานไปอังกฤษแล้วไม่บ่อยนักที่เธอจะโกรธจี้ซือหาน ทว่าครั้งนี้เธอโกรธจนตัวสั่น หัวใจเต้นแรงไม่หยุดทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะไปอังกฤษด้วยกัน แต่หลังจากที่จี้ซือหานกล่อมเธฮจนหลับ เขากลับเดินทางไปคนเดียวเธอกดหัวใจที่โหวงเหวง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเขา แต่อีกฝ่ายปิดเครื่องมือของซูหว่านที่กำโทรศัพท์สั่นไม่หยุด เดาได้ว่าเขายังอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว แต่ก็ยังโทรหาเขาอย่างบ้าคลั่งซานซานเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา เห็นเธอนั่งอยู่บนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ ก็รีบเข้ามาประคองเธอลุกขึ้น"หว่านหว่าน ทำไมเธอมาไปนั่งบนพื้นแบบนั้น?"ซูหว่านกระวนกระวายใจจนยืนไม่ติด ต้องอาศัยพิงที่มุมผนัง ถึงได้ความรู้สึกปลอดภัยกลับมา "ซานซาน เขาออกไปตอนไหน?"หลังจากที่ซานซานระคองเธอให้นั่งลงบนโซฟาแล้ว มองหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแวบนึง "ไปเมื่อเช้า ตอนนี้น่าจะยังอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว เธอไม่ต้องห่วง ถ้าเขาลงเครื่องแล้ว ก็น่าจะโทรกลับหาเธอแน่นอน"ซูหว่านวางโทรศัพท์ลง ปวดหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้า "ก่อนที่เคซีย์จะบังคับให้จิเหยียนโจวไปตาย จิตใจของฉันก็ไม่สงบ ตอนนี้หัวใจของฉันมันเต้นตุ้มๆต่
เธอจ้องซูหว่านนิ่งอยู่สักพัก ถึงได้เรียกเสียงของตัวเองกลับมา "คุณซู คุณรู้ไหมว่าแม่ของคุณเป็นใคร?"ซูหว่านเห็นนายหญิงจิที่เพิ่งคร่ำครวญเรื่องสูญเสียลูกชายไป แต่ทันทีที่เอ่ยปากสิ่งที่เธอเป็นห่วง กลับเป็นแม่ของตัวเอง ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ทว่าก็ส่ายหน้าตามตรง "ไม่รู้ค่ะ..."สีหน้าตึงเครียดของนายหญิงจิ ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ก็ดี ความลับของตระกูลชู เมื่อชูยีตายไปแล้ว ก็ให้มันถูกฝังกลบไปตลอดกาลก็แล้วกัน ส่วนเด็กกำพร้าที่ไม่รู้อะไรเลยคนนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องกลัวเมื่อได้รับคำตอบ นายหญิงจิก็ไม่ได้ปรายตามองซูหว่านอีก หมุนตัวเข้าห้องดับจิต ทิ้งชายวัยกลางคนให้เผชิญหน้ากับซูหว่าน "ร่างของเหยียนโจว พวกเราจะพากลับไป"ซูหว่านขมวดคิ้วอย่างหนักใจ "พี่เขยของฉันทิ้งคำสั่งเสียเอาไว้ ว่าจะฝังที่เดียวกับพี่สาวของฉัน เกรงว่าจะไม่สามารถให้พวกคุณพาไปได้"พ่อของจิเหยียนโจว คุณจิเห็นว่าเธอพูดจานุ่มนวล ทว่าน้ำเสียงกลับหนักแน่น สีหน้าก็ดำทะมึน "เขาเป็นลูกชายของฉัน ฉันจะพาไปด้วยมันก็ก็สมเหตุสมผล ที่สำคัญเขากับชูยีไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย เธอมีสิทธิ์อะไรไปเรียกเขาว่าพี่เขย?"ซูหว่านตอบกลับเสียงเร
ใบหน้าสง่างามของจิป่ายหลิน เผยความอับอายไม่น้อย "ก็แค่หารือกันว่าจะเอาร่างของลูกชายฉันไปฝังไว้ที่ไหน มันจะกลายเป็นทำผิดไปได้ยังไง?"ไม่แปลกใจว่าทำไมคุณซูพูดจาหนักแน่นขนาดนั้น ที่แท้ก็ไต่เต้าขึ้นไปอยู่บนยอดของกลุ่มบริษัทจี้ได้นี่เอง แต่ความกล้าแบบนี้ สุดท้ายแล้วผู้ชายก็เป็นคนมอบมันให้เธออยู่ดีจิป่ายหลินรู้สึกดูถูกอยู่ไม่น้อย ก็เหมือนพี่สาวของเธอ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรแต่อยากจะจับเหยียนโจว วุ่นวายกันมาทั้งชีวิต แม้กระทั่งตอนตายก็ยังทำให้คนอื่นไม่สงบสุขกันไปด้วย จนสุดท้ายก็พรากชีวิตของเหยียนโจวไป ผู้หญิงแบบนี้มีอะไรดี?ซูหว่านมองออกถึงความไม่แยแสของจิป่ายหลิน แต่ความคิดของเธอในเวลานี้ ไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้แต่อย่างใด จึงไม่ได้พูดอะไรให้มากความ แค่บอกว่า "คุณจิไตร่ตรองให้ดี แล้วให้คำตอบฉันภายในสี่ชั่วโมงค่ะ"สี่ชั่วโมง เครื่องบินของจี้ซือหานก็น่าจะถึงอังกฤษแล้ว ซึ่งเธอก็ตัดสินใจได้พอดีว่าจะไปอังกฤษหรือไม่จิเหยียนโจวเป็นลูกชายของจิป่ายหลิน ถ้าเขาจะเอาลูกชายตัวเองไปก็ไม่จำเป็นต้องผ่านซูหว่าน แต่เพราะคำสั่งเสียของลูกชาย ถึงได้เรียกเธอมา และอยากจะบอกเธอสักหน่อย เพราะยังไงซะคำสั่งเสียเธอก็เป
ซูหว่านวางสายไปชั่วขณะ ก็ได้รับข้อความจากจี้ซือหานอีก[หว่านหว่าน ไม่ใช่ว่าเธฮช่วยอะไรไม่ได้นะ แต่ฉันกลัวว่าเธอจะเจออันตราย เลยไม่อยากให้เธอเข้าร่วม][ฉันรับรองว่าอีกสองวันฉันจะกลับไปแน่ เธออย่าโกรธเลยได้ไหม?]นิ้วมือของซูหว่านลูบหน้าจอไปมา จ้องข้อความ ครุ่นคิดไม่กี่วินาที ก็ก้มหน้าพิมพ์[ก็ได้ ฉันจะรอคุณที่บ้านนะ]เธอช่วยเหลืออะไรไม่ได้จริงๆนั่นแหละ ตามเขาไปอังกฤษ อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนของเขาก็ได้ ไม่ได้จะดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นภาระเขาเปล่าๆซูหว่านที่รู้ตัวเองดี เห็นจี้ซือหานตอบข้อความกลับมา ถึงได้วางโทรศัพท์ลงขณะที่เธอตั้งใจจะไปหาพ่อแม่ของจิเหยียนโจว จอร์จก็เข้ามาในห้องผู้อํานวยการ แล้วส่งดิสก์-Uให้เธอกับมือ"นี่คือสิ่งที่ฉันเจอที่ห้องดูหนังในบ้านของเคซีย์ ข้างในเป็นวิดีโอที่พี่สาวของเธอทิ้งเอาไว้ให้จิ เธอยังไม่เคยเจอพี่สาว เอาไปดูสิ..."ขอบตาของจอร์จยังแดงอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาร้องไห้อยู่ตลอด โดยเฉพาะหลังจากที่ดูคลิปนี้แล้ว เขาร้องไห้เพราะความเสียใจยิ่งกว่าเดิมได้ยินว่าเป็นคลิปของพี่สาว หัวใจของซูหว่านก็เจ็บจี๊ด มือที่รับดิสก์-Uมา ก็สั่นตามไปด้วยอลันให้เธอยืมคอมพิวเตอร์
นายหญิงจิรักษามารยาทอย่างที่ผู้หญิงชนชั้นสูงควรจะมี แล้วอธิบายอย่างเกรงอกเกรงใจกับซูหว่าน"คุณซู หลายปีก่อนหน้านั้นที่ชูยีตามจีบเหยียนโจว ฉันเคยพูดกับเธอเอาไว้ว่าจะไม่ให้เธอเข้าตระกูลของเรา และเธอก็พูดเองว่าไม่ได้แต่งเข้าตระกูลก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้อยู่เคียงข้างเหยียนโจวก็พอ คุณก็รู้ว่าตระกูลแบบพวกเราน่ะ ไม่มีทางยอมรับลูกสะใภ้ที่สถานะไม่เทียบเท่ากับเราอยู่แล้ว เพราะงั้นคงไม่สามารถให้ชื่อเสียงเรียงนามกับเธอได้"ซูหว่านกวาดตามองนายหญิงจิตั้งแต่หัวจรดเท้าแวบนึง พบว่าตั้งแต่ต้นจนจบอีกฝ่ายไม่กล้ามองหน้าเธอตรงๆ ก็รู้สึกตะหงิดๆ "นายหญิงจิ คุณรู้จักฉันหรือเปล่า?"มือที่เกาะสามีของนายหญิงจิ ก็สั่นเล็กน้อย ทว่ายังแสร้งทำเป็นนิ่งได้อยู่ แล้วกระตุกมุมปากนิดนึง "ฉันใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษมานาน จะไปรู้จักเธอได้ยังไง?"งั้นทำไมคุณถึงไม่กล้ามองหน้าฉัน?ขณะที่ซูหว่านกำลังคิดว่าจะถามออกไป นายหญิงจิก็ลุกขึ้น มองหน้าเธอตรงๆ "คุณซู ฉันพูดสิ่งที่จะพูดไปชัดเจนแล้ว พี่สาวของเธออยากอยู่กับเหยียนโจวโดยไม่ต้องการสถานะเอง ตอนที่เธอยังมีชีวิตก็ยังไม่ต้องการสถานะนี้ คิดว่าตายไปแล้วก็คงไม่ได้สนใจเหมือนกัน"ตอนที่พี