ซานซานก้าวขาเดินเข้าไป เรียกซูหว่านด้วยเสียงอ่อนโยนทีนึง "หว่านหว่าน!"เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่ได้ยินมานานของซานซาน ซูหว่านก็เงยหน้าจากหนังสือ แล้วก็เห็นเข้ากับซานซานที่เดินเข้ามาจากด้านนอกคฤหาสต์พอดีเมื่อมองเห็นร่างอันแสนคุ้นเคย ซูหว่านก็อบอุ่นในใจ รีบวางหนังสือในมือลง ลุกขึ้นเดินขึ้นหน้าไป"ซานซาน!"บางทีอาจะเพราะไม่ได้เจอกันนาน ซูหว่านที่รู้สึกตื้นตันไม่น้อย กางแขนทั้งสองข้างออก แล้วกอดซานซานแน่น "ครึ่งปีที่ผ่านมาเธอสบายดีไหม?"ระหว่างเพื่อนสาวไม่ต้องมีคำพูดใดให้มาก แค่กอดเดียวก็ทำให้ซานซานเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมาทั้งใบหน้า "ฉันก็ยังเหมือนเดิมแหละ ทำงานที่ไนท์คลับ วุ่นแต่หาเงิน ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คาดหวัง"เธอพูดจบก็ปล่อยซูหว่านออก ประคองไหล่ของเธอ แล้วสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่ารูปร่างของเธอซูบผอมกว่าเมื่อก่อน ในแววตาที่มีรอยยิ้มก็ผุดความปวดใจออกมา "เธอน่ะสิที่ผอมลงเยอะเลย ครึ่งปีที่ผ่านมาลำบากมามากเลยสินะ?"ซูหว่านกลัวว่าซานซานจะเป็นห่วง ก็ตอบเลี่ยงๆ "ก็ลำบากอยู่ แต่ก็ผ่านมันมาได้"ไอ้บ้าจิเหยียนโจวนั่นจะปฏิบัติกับเธอยังไง ซานซานรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ไม่ได้ไปขุดรอยแผ
ในใจของจี้เหลียงชวนแทบหยุดหายใจ ทั้งอึดอัด ทั้งเสียใจ แต่กลับถามซานซานด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงออก "เธอจะไปนัดบอด? กับใคร?"คำถามนี้ ซานซานไม่ได้ตอบ แต่หันไปหาจี้ซือหานอย่างรักษามารยาท "คุณจี้ หว่านหว่านอยู่ที่บ้านของคุณจะปลอดภัยกว่า ฉันไม่พาเธอกลับแล้วกันค่ะ..."เป้าหมายของจี้ซือหานบรรลุ จึงพยักหน้าให้ซานซานนิดหน่อย แล้วเคลื่อนสายตามาที่ซูหว่าน "พวกเธอคุยกันเถอะ"เขาเก็บคอมพิวเตอร์ ขณะที่ลุกขึ้นเดินผ่านคนรับใช้ ก็สั่งเสียงเย็น "ปรนนิบัติเพื่อนของนายหญิงให้ดี"คำว่านายหญิง ให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยกับซูหว่านได้มาก แล้วก็เอาชนะใจซานซานได้เช่นกันยังไม่แต่งงาน ก็เห็นหว่านหว่านเป็นภรรยาของเขาแล้ว การที่หว่านหว่านยู่ที่นี่ พวกคนใช้ก็จะไม่ดูถูกเธอการปฏิบัติในทุกด้านของจี้ซือหาน ซานซานไม่ติดเลยสักนิดยิ่งไปกว่านี้สามเดือนมานี้ ที่จี้ซือหานกระอักเลือดเกือบตายไม่รู้กี่ครั้งเพราะซูหว่าน ซานซานเห็นมากับตาทั้งหมดเธอคิดว่าชายหนุ่มที่กุมอำนาจสูงสุดคนนี้ รักหว่านหว่านยิ่งกว่าชีวิต ก็นับว่าเพียงพอแล้วจี้เหลียงชวนยังอยากจะถามซานซานให้ชัดเจนว่าตกลงแล้วไปนัดบอดกับใคร แต่ก็ถูกจี้ซือหานกวาดสายตามอ
ซานซานถอนหายใจ แล้วพูดกับซูหว่านเสียงต่ำ "เพราะอยากจะหนีออกจากกรงที่ซูเหยียนสร้างขึ้นมาสำหรับเธอ อลันก็เลยกระโดดตึกลงมาขาหัก ถ้าไม่ใช่เพราะประธานจี้ส่งซูชิงไปแก้แค้น ก็คงไม่มีใครเห็นว่าเธอนอนอยู่บนโพรงหญ้า หลายเดือนที่ผ่านมาต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็ถามด้วยความกังวลว่าสาหัสหรือเปล่า ซานซานตอบว่า "โชคดีที่รักษาได้แล้ว ต่อไปเวลาเดินอาจจะผิกปกตินิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับขาเป๋ แต่ต่อจากนี้เธอไม่สามารถใส่รองเท้าส้นสูงได้อีก..."ทุกครั้งที่ซูหว่านเห็นอลัน เธอมักจะใส่รองเท้าส้นสูง ที่สวยสะกด และอกเผยมั่นใจ ต่อไปไม่สามารถใส่ส้นสูงได้อีก นั่นก็เท่ากับเป็นการตัดขาดความมั่นใจของอลัน นั่นทำให้ซูหว่านยากจะรับได้ "แล้วซูเหยียนล่ะ ไอ้สารเลวนั่นมีจุดจบยังไง?!"ซานซานขมวดคิ้ว "ตระกูลซูเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ซูชิงไม่อาจเอาชีวิตเขาได้ ก็ได้แต่ชกเขาแรงๆไปทีนึง แต่เอาเป็นว่าความแค้นที่เธอถูกเตะนั่น ซูชิงได้เอาคืนให้แล้ว ส่วนเจ้าตัวน่าจะยังรักษาตัวอยู่มั้ง โดนถีบไปหลายครั้งซี่โครกหักอยู่"ซานซานพูดจบ ก็ทอดสายตาลงต่ำ ซ่อนความรู้สึกที่ซับซ้อนเอาไว้จริงๆตอนนั้นซ่งซือเยว่ก็ขัดขวาง
ขณะที่เขากำลังอยากจะบอกลาพี่รอง จู่ๆก็เห็นจี้ซือหานเอ่ยปากเรียกซานซานเอาไว้ "รอเดี๋ยวครับ คุณเฉียว"ซานซานหยุดฝีเท้าลง หมุนตัวกลับมามองจี้ซือหาน "มีอะไรคะ คุณจี้?"จี้ซือหานผายมือเชื้อเชิญ ไปยังทิศทางด้านนอกคฤหาสน์ "ผมมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย"ซานซานพยักหน้าน้อยๆ แล้วเดินออกไป ทั้งสองคนคุยอะไรกันนิดหน่อยด้านนอกไม่กี่ประโยค ซานซานก็กลับไปจี้เหลียงชวนอาศัยจังหวะก่อนที่จี้ซือหานจะเข้าคฤหาสน์ หันไปพูดกับซูหว่านว่า "พี่สะใภ้รอง มีของที่ชอบไหม?"ซูหว่านยังไม่ค่อยชินกับคำเรียก "พี่สะใภ้รอง" เท่าไหร่ จึงนิ่งไปนิดหน่อย แล้วดึงสติกลับมาถามเขา "นายคิดจะทำอะไร?"จี้เหลียงชวนชี้ไปยังซานซานที่อยู่นอกหน้าต่างสูงจรดพื้น แล้วขอความช่วยเหลือจากซูหว่าน "ช่วยผมถามเธอให้หน่อยว่าไปนัดบอดกับใคร ถ้าพี่อยากได้อะไร ผมจะซื้อให้ทุกอย่าง"ซูหว่านยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหาร เงยหน้ามองสำรวจจี้เหลียงชวน "นายจริงจังกับซานซานหรือเปล่า?"คำถามนี้ ทำเอาจี้เหลียงชวนงงไปทันที "จริงจังอะไร?"ซูหว่านเห็นเขาเป็นแบบนั้น ก็รู้ได้ทันทีว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ชัดเลยว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับซานซาน จึงอดถอนหายใจไม่ได้ "นายน้อยท
เมื่อจี้ซือหานปล่อยซูหว่านออก ก็ลูบใบหน้าที่แดงระเรื่อนั้น "หว่านหว่าน ช่วงบ่ายฉันต้องออกไปข้างนอกหน่อย"ได้ยินว่าเขาจะออกไป หัวใจของซูหว่านก็บีบตัว "ไปไหน?"เขาทอดดวงตาต่ำ แล้วจูบหน้าผากของซูหว่านอีกครั้ง "ไปแค่บริษัท ไม่ต้องห่วงนะ"ซูหว่านได้ยินว่าเขาจะไปบริษัท ก็พยักหน้าวางใจ จี้ซือหานจึงได้จับมือเธอมานั่งลงหน้าโต๊ะอาหารเมื่อป้อนซุปกับของบำรุงให้เธอไปไม่น้อยแล้ว ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาซูชิง ให้เขาพาคนเขาคอยคุ้มกันซูหว่านตลอดเวลาซูชิงที่กำลังดูแลอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ได้รับสาย ก็รีบส่งถ้วยข้าวต้มลงในให้พยาบาล จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินทางมายังคฤหาสน์มีซูชิงกับกลุ่มบอดี้การ์ดอยู่ด้วย จี้ซือหานจึงได้ออกจากคฤหาสน์แล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่ขอแต่งงาน...จี้เหลียงชวนที่มาก่อกวนการนัดบอดของซานซาน ถูกซานซานด่าชุดใหญ่ ในใจก็หงุดหงิดเป็นอย่างมากแต่ต่อให้จะหงุดหงิดแค่ไหน เรื่องที่พี่รองกำชับเอาไว้ เขาก็ทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเมื่อมองดูแผนที่ตัวเองสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือทางธนบัตร จี้เหลียงชวนก็ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้เวรซะจริง ชาวบ้านขอแต่งงานกันหวานชื่น ในขณะที่เขาต้อง
ซานซานขับรถมายังริมทะเล ซูหว่านที่นั่งเบาะข้างคนขับมองสำรวจทะเลนอกหน้าต่าง คลับคล้ายเหมือนจำได้ว่า จี้ซือหานเคยพาเธอมาที่นี่เย็นในวันนั้น เขานึกว่าเธอนอนกับกู้จิ่งเซินไปแล้ว ก็เลยใช้ตัวตนของคุณเย่ส่งข้อความมานับไม่ถ้วน โทรหาเป็นร้อยสาย แต่เธอก็ไม่ได้รับ เขาจึงต้องขับรถบูกัตติมาสกัดกั้นเธอที่โรงรถ แล้วสถานที่ที่พาเธอมาก็คือทะเลแห่งนี้จี้ซือหานในตอนนั้น ใช้แขนข้างนึงคร่อมไปกับหน้าต่างรถ ล้อมเธอเอาไว้ในอ้อมอก ก้มหน้าสอบสวนว่าเธอกับกู้จิ่งเซินเคยนอนด้วยกันกี่ครั้ง ไตร่สวนว่าในหัวใตของเธอมีเขาอยู่หรือเปล่า ทั้งยังใช้เงินห้าสิบล้านเพื่อแลกกับการไม่ให้เธอไปชอบกู้จิ่งเซิน ในขณะที่เธอรอให้เขาพูดมาตลอดว่ารักเธอพวกเขาในอดีตบางทีอาจจะไม่เคยคิดว่าวันนี้เขาจะขอเธอแต่งงาน และเธอก็ยินดีสุดหัวใจที่จะแต่งงานกับเขาซานซานจอดรถลงหน้าตึกนิทรรศการสี่เหลี่ยมจตุกรัส "หว่านหว่าน ถึงแล้ว งานเลี้ยงจัดขึ้นที่นี่ ฉันพาเธอเข้าไปแล้วกัน..."เสียงของซานซานดึงความคิดที่ล่องลอยของซูหว่านให้กลับมา "ซานซาน ที่นี่สร้างตึกนิทรรศการขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?"เธอจำได้ว่าสามปีก่อนตอนที่จี้ซือหานพาเธอมา ทะเลแห่งนี้เป็นพื้
ขณะที่เธอกำลังดูจนอินอยู่นั้น เนบิวลาบนกระเบื้องจู่ๆก็สลายหายไป และมีดอกกุหลาบPink O'Haraเข้ามาแทนที่จนเต็มพื้นส่วนเนบิวลาที่เคยอยู่เบื้องล่าง ก็พุ่งขึ้นไปโผล่อยู่ด้านบนเหนือศีรษะอย่างรวดเร็ว...ขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นไปมองนั้น กำแพงทั้งสี่ทิศของอาคารซือหว่าน จู่ๆก็มีแสงเหนือสีเขียวปรากฎขึ้น...เมื่อเห็นแสงเหนือเหล่านั้น หัวใจของซูหว่านก็สั่นไหว นี่เป็น...แสงเหนือที่สร้างขึ้นมาที่แท้ เขาก็จำได้มาโดยตลอดว่าเธออยากไปดูแสงเหนือ เขาไม่เคยลืมเลย...ที่ไปฟินแลนด์สองครั้งต่างก็มีเรื่องเกิดขึ้น แสงเหนือที่สร้างขึ้นมานี้ จะเป็นของเธอตลอดไป เธออยากดูนานแค่ไหนก็ได้ดั่งใจเมื่อเข้าใจเจตนารมณ์ของจี้ซือหาน หัวใจของเธอก็ชุ่มด้วยความหวานทีละน้อย จนเหมือนทำให้เธอตกลงไปในบ่อน้ำผึ้ง หวานจนมีน้ำตาคลอที่หางตาตอนที่เธอยืนอยู่กับที่ มองภาพเคลื่อนไหวไปมานั้น ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาว ก็เดินออกมาจากแสงเหนือช้าๆ...แสงอ่อนๆ สาดส่องมารอบๆเขาทุกสารทิศ จนทำให้เขาราวกับเทพบุตรลงมาจุติ สง่างามสูงส่งจนมนุษย์ไม่อาจเข้าใกล้หรือสัมผัสถึง...และผู้ชายที่ราวกับเทพบุตรคนนี้นี่เอง ที่เต็มใจลงมาเกลือกกลั้วบนโลกมนุษย์ร่ว
ซูหว่านยกนิ้วมือเรียวขาวขึ้นชี้ไปยังกล่องแหวนเพชรในมือของเขา แล้วคลายความสงสัยให้ "คุณเตรียมคำปฏิญาณรักมาไม่ใช่หรอ?"จี้เหลียงชวนที่ซ่อนตัวอยู่ห่างๆ รวมถึงคนในตระกูลจี้ที่แอบอยู่ในซอกหลืบ ก็พากันหลุดขำออกมา...เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ ซูหว่านก็ชะงักไป หันกลับไปรอบๆก็ไม่เห็นใคร ขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น จี้ซือหานก็จับมือเธอเอาไว้เขาอ้าริมฝีปากพะงาบๆ พยายามจะพูดคำปฏิญาณรักออกมาหลายครั้ง ทว่าก็พูดไม่ออก สุดท้ายจึงได้แต่ถามอย่างร้อนใจ "แต่งหรือไม่แต่ง?"ซูหว่านกล้ารับประกันเลยว่า ถ้าเธอยังไม่ตอบตกลงอีก เกรงว่าจี้ซือหานจะร้อนใจตายแน่ จึงรีบพยักหน้าให้เขายิ้มๆ "แต่ง!"ไม่แต่งให้เขา แล้วจะแต่งให้ใคร นับตั้งแต่วินาทีที่ขายร่างกายให้เขา ก็ถูกกำหนดให้เป็นคนของเขาแล้ว โชคชะตาแห่งรักที่กำหนดมา ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้คำว่าแต่งแค่คำเดียว ทำเอาความตึงเครียดและความกระวนวายบนใบหน้าของจี้ซือหานค่อยๆสลายไป แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอ่อนๆ...เขาจับมือเล็กขาวนาวลของซูหว่าน สวมแหวนเพชรที่สลักชื่อของพวกเขาสองคนเอาไว้ลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอตำแหน่งนี้อยู่ใกล้กับหัวใจมากที่สุด มีความหมายแฝงว่าได้นำอีกฝ่ายมาไ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ