เจียงโม่ก่นด่าเสร็จ ก็พูดขึ้นต่อ "แต่คุณซูก็กล้าหาญอยู่ เธอยืนอยู่ที่เดิมอยู่แปบนึง ก็อยากจะเข้าร้านอาหารไปหาคุณ คงอยากจะถามคุณต่อหน้าให้รู้เรื่อง แต่ถูกรปภ.รั้งตัวเอาไว้""อันนี้ต้องโทษฉัน ฉันกลัวว่าจะมีคนสอดแนม ก็เลยเหมาร้าน แล้วก็กลัวคนในกลุ่มจะมาหาฉันได้ทุกเมื่อ ก็เลยสั่งรปภ.ไว้ว่าจะต้องแสดงการ์ดเชิญ นายก็คงเข้าใจดี การ์ดเชิญเป็นรหัสลับของกลุ่ม"ภาพจากกล้องวงจรปิด เปลี่ยนไปฉายภาพที่เซิ่งจิ่นห้ามไม่ให้ซูหว่านเคาะกระจก เมื่อเห็นภาพนี้ เจียงโม่ก็หันกลับมาตบที่เซิ่งจิ่นอีกครั้ง"ทั้งที่เธอก็รู้ว่าร้านนั้นติดตั้งกระจกLOW-E ไม่บอกคุณซูก็ว่าแย่แล้ว ยังจะไปห้ามเธอ สมควรตาย!"เซิ่งจิ่นโดนตบจนไม่มีแรงจะขัดขืน ความเจ็บปวดขนนิ้วมือ ข้อมือ ใบหน้า ทำให้เธอนอนราบอยู่บนพื้น พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียวเจียงโม่ตบเสร็จ ก็ดึงสายตากลับมา มองจี้ซือหานที่กำลังสั่นไปทั้งตัว"ขอโทษ ตอนที่ออกจากร้านอาหาร ฉันขอให้ทุกคนใส่หูฟังไร้สายไว้ เพื่อจะได้สะดวกในการติดต่อกับคนอื่นๆ เพราะงั้นคุณซูที่ตามมาด้านหลัง พยายามตะโกนเรียกชื่อคุณ แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น อีกทั้งคืนนั้นฝนตกหนัก พวกเราที่กำลังติดต่ออยู่กับสำน
ทันใดนั้นเขาก็จําได้ว่าเธอเคยไปหาเครื่องมือวาดภาพที่ห้องหนังสือมาก่อน หว่านหว่านในตอนนั้น ได้พบสิ่งที่หายไปแล้วหรือเปล่า เพียงแต่ว่าเธอแสร้งทำว่าไม่เห็น เพราะหว่านหว่านของเขาอยากอยู่กับเขาจริงๆ...ครั้งที่สองที่เขาทำร้ายหัวใจของเธอ เธอถึงได้หยิบของเหล่านั้นมาใหม่ แล้วอยากยุติความสัมพันธ์กับเขาตั้งแต่ต้นอีกครั้งแต่เขากลับไม่ได้สังเกตเห็น แล้วยังถูกคำพูดของเธอที่ว่า "ก็แค่เล่นสนุก ทำไมต้องจริงจัง" มายั่วให้โมโหจนขาดสติ แล้วไม่เพียงแค่ขืนใจเธอ กักขังเธอ แต่ยังบังคับให้เธอมีลูกโดยไม่สนอะไรทั้งนั้นหว่านหว่านที่เดิมทีก็มีบาดแผลในใจอยู่แล้ว ยังมาเห็นเขาที่เป็นแบบนี้อีก เกรงว่าจะยิ่งผิดหวังจนถึงขีดสุด ถึงได้ไม่อยากคุยกับเขาแม้แต่คำเดียว...เขาโง่มาก เมื่อไหร่ที่เจอเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเธอ ไอคิวของเขาก็จะลดลงเป็นศูนย์ ทั้งอีคิว ทั้งสติล้วนควบคุมไม่ได้มือสั่นเทาของจี้ซือหานโยนแท็บเล็ตทิ้ง มือข้างนึงกุมดวงตา ก้มหน้า ความเสียใจที่เหนือคณานับทำให้เขารู้สึกหนาวสั่น...ปัญหาระหว่างเขากับเธอ ไม่ใช่แค่เข้าใจผิดแต่เพียงผิวเผิน แต่หัวใจของหว่านหว่านเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า จนยากจะกลับ
ความหมายของจี้ซือหานก็คือ ไม่ต้องการให้เธอเข้ามายุ่งแบบนี้ก็ดี ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เมื่อเกิดความเข้าใจผิด เจ้าตัวแก้ไขด้วยตัวเอง จะดูจริงใจมากกว่าแต่เจียงโม่ยังกังวลนิดหน่อย เธอกลัวว่าเพื่ออธิบายให้ชัดเจนแล้ว จี้ซือหานจะเปิดเผยเรื่องขององค์กร และตัวตนลังเลอยู่ไม่กี่วินาที เจียงโม่ก็เลือกที่จะหมุนตัวกลับไป แล้วกำชับว่า"ประธานจี้ สถานะของคุณเกี่ยวข้องถึงชีวิตของทุกคนในS คุณจะอธิบายกับเธอก็ได้ แต่ห้ามเปิดเผยตัวตนเด็ดขาด..."จี้ซือหานช้อนดวงตาคมเหมือนนกอินทรีย์ที่แดงก่ำ กวาดมองเจียงโม่อย่างเย็นชา"ฉันเชื่อใจซูหว่าน"เขาจะบอกเธอ เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา และจะไม่ปิดบังอะไรต่อเธออีกแบบนี้ต่อไปถ้าเขาต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อองค์กร หว่านหว่านก็จะไม่เข้าใจเขาผิดอีกเจียงโม่ที่อยู่ข้างๆ อยากจะพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อใส่เขาสักที แล้วค่อยด่าเขาว่าไอ้คนบ้ารักไม่ลืมหูลืมตาแต่สุดท้ายเธอก็อดทนเอาไว้ได้ ไม่ได้พูดอะไร แค่ส่งสายตาให้อาเจ๋อ แล้วจึงเดินออกจากห้องผู้ป่วยโดยแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่อาเจ๋อได้รับสัญญาณจากเจียงโม่ ปรายตามองเซิ่งจิ่นที่สลบอยู่นิดหน่อย แล้วอาศัยโอ
จี้เป่ยเฉิงที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเครื่องส่งสัญญาณอยู่ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ก็ถอดถุงมือแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากชุดทำงานเมื่อเห็นว่าจี้ซือหานโทรมา จี้เป่ยเฉิงก็รีบเดินออกไปข้างนอก กดรับโทรศัพท์ "พี่รอง ไม่ง่ายเลยนะ กว่าจะเปิดเครื่องได้ พี่รู้หรือเปล่าว่าจี้เหลียงชวนบริหารกลุ่มบริษัทจี้ซะเละตุ้มเป๊ะ ช่วงนี้พวกเราหัวหมุนจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว พี่..."จี้เป่ยเฉิงยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเสียงเย็นของจี้ซือหานตัดบทขึ้นมา "นายรีบมาวอชิงตัน รับช่องต่อโปรเจคองค์การนาซ่า"จี้เป่ยเฉิงนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป ก็อึ้งไปเล็กน้อย แล้วถาม "เกิดอะไรขึ้น?"ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลโปรเจคองค์การนาซ่าที่เคยวางตัวเอาไว้ก็คือเขา ตอนนี้เอาโปรคเจคมาคืนให้เขาอีก จะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในประเทศแน่หรือว่าไอ้จี้เหลียงชวนมันขายกลุ่มบริษัทจี้ไปแล้ว???จี้เป่ยเฉิงไม่ได้ยินคำอธิบายจากจี้ซือหาน ได้รับแค่คำสั่ง "รีบมาทันที"จี้ซือหานสั่งเสร็จ ก็กดวางสายไปทันที ช้อนสายตาขึ้นมองอาเจ๋อ "เตรียมเครื่องบิน เราจะกลับกันเดี๋ยวนี้"เขารอไม่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว แค่อยากเจอหน้าซูหว่านเร็วๆอาเจ๋อรับคำ จากนั้นสั่งคนรับใช้ให้ช่วย
ตอนที่อลันมาบรรยายที่คณะแพทย์ของพวกเขา ซีอี้ก็ปิ๊งเธอตั้งแต่แรกพบเพื่อให้ตัวเองได้คู่ควรกับเธอ เขาศึกษาวิชาแพทย์อย่างหนัก จนระยะนี้มีชื่อเสียงประมาณนึงในวงการแพทย์ระดับสากล ถึงได้กล้าสารภาพรักกับเธอแต่มักจะได้รับการปฏิเสธจากอลันอยู่เสมอ กระทั่งวันนี้ เขาถึงได้รู้สาเหตุที่ถูกปฏิเสธที่แท้เธอก็เคยมีบาดแผล ส่วนแผลนั้นเป็นอะไร ซีอี้ไม่ต้องถามก็รู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับความรักแต่สำหรับซีอี้แล้ว เรื่องพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไร เพราะที่เขาชอบ ก็คือตัวตนของเธอเพราะงั้น ไม่ว่าเธอจะมีอดีตยังไง เขาก็มองข้าม และยอมรับได้หมด...อลันยังอยากจะปฏิเสธเขา แต่จู่ๆนิ้วเรียวยาวก็โอบเอวของเธอไว้"คุณหมอซี คุณนี่ใจกว้างซะจริง ผู้หญิงที่ถูกผมเล่นจนไม่เหลือชิ้นดี คุณก็ยังจะชอบ"อลันได้ยินคำว่า "เล่นจนไม่เหลือชิ้นดี" สีหน้าก็ซีด ความเกลียดในใจทำให้เธอผลักซูเหยียนออกโดยอัตโนมัติซูเหยียนที่ถูกอลันผลักออก ทันใดนั้นสีหน้าก็ดำทะมึนลง แต่ยังแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร ยกมือขึ้นเชยคางของอลัน"เธอกลัวว่าฉันจะพูดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียงของเราต่อหน้าคุณหมอซีมากเกินไป ถึงได้ผลักฉันสินะ?"อลันกำหมัดแน่น ช้อนสายตา
อลันเก็บความยินปรีดาที่กำลังจะเห็นชัยชนะไว้ แล้วเผยรอยยิ้มรอคอยให้เขา"ตกลง ฉันจะรอนายอีกหน่อย"เมื่อซูเหยียนเห็นความผิดหวังในแววตาของเธอค่อยๆกลายเป็นความคาดหวัง จิตใจที่ว้าวุ่นก็กลับมาสงบอีกครั้งเขาปล่อยอลันออก อุ้มเธอขึ้นจากพื้น มือคู่นั้นที่กอดเธอเอาไว้ แน่นกว่าครั้งไหนๆไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงเอาแต่รู้สึกว่าหญิงสาวในอ้อมกอดจะทอดทิ้งเขาอย่างโหดร้ายในสักวัน จากนั้นก็ไปอยู่กับคนอื่นซูเหยียนไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า ถึงเวลานั้นเขาควรจะทำยังไง เขาทำได้เพียงแค่กอดอลันในตอนนี้ไว้ให้แน่น อย่างคนไร้เรี่ยวแรงซีอี้ที่ถูกต่อยจนมึนงง พูดอะไรไม่ได้ นอนราบอยู่บนพื้น มองแผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินจากไป แล้วกำหมัดแน่นซูเหยียนอุ้มอลันมาจนถึงห้องผู้อํานวยการ จากนั้นทาบเธอลงกับกำแพง เขาไม่ได้จูบ แต่รีบร้อนอยากจะกินเธอ...อลันที่ถูกบังคับยัดเยียด ทิ้งน้ำหนักลงบนบ่าของเขา ความเยือกเย็นในแววตา ยิ่งฉายความสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ...ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทำเรื่องพรรค์นั้นอยู่ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก็ดังขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...อลันอยากจะไปรับ แต่ซูเหยียนไม่ให้ไป เขาจะทำแล้วทำอีกทำจนหมดแรง
หลังจากที่เครื่องบินแลนด์ดิ้งที่เมืองเอ จี้ซือหานก็ดึงเข็มที่แปะติดอยู่หลังมือด้วยความรวดเร็ว และลุกขึ้นลงจากเครื่องบินอาเจ๋อเห็นเขาที่แม้แต่ยืนยังยืนไม่มั่น แต่กลับฝืนร่างกายเดินโซเซออกไปด้านนอกเขารีบพุ่งเข้าไปประคองจี้ซือหาน พยุงเขาออกจากสนามบินซูชิงที่รู้ว่าประธานจี้กลับประเทศมา ก็เตรียมรถมารอที่ด้านนอกสนามบินตั้งนานแล้วพอเห็นเขาเดินออกมาจากสนามบิน ก็รีบเข้าไปต้อนรับ "ประธานจี้"จี้ซือหานพยักหน้ารับเฉยชา แล้วหันไปมองอาเจ๋อ "นายกลับไปเถอะ"อาเจ๋อตอบรับอย่างนอบน้อมคำนึง แล้วหมุนตัวจากไปด้วยความรวดเร็วเขาติดตามคุณเย่ จะปรากฏตัวขึ้นก็ต่อเมื่อมีภารกิจเมื่ออาเจ๋อกลับไปแล้ว ซูชิงก็มองไปยังจี้ซือหานที่หน้าซีด ร่างกายดูซูบผอมลงเขาจำได้ว่าสี่เดือนก่อน สีหน้าท่าทางของประธานจี้ยังดีๆอยู่ แต่ตอนนี้กลับมีสภาพอิดโรยคนที่จะทำให้ประธานจี้ที่เย่อหยิ่งเย็นชากลายเป็นสภาพนี้ได้ เกรงว่าจะมีแค่คุณซูเท่านั้นพวกเขาสองคนน่าจะได้เจอกันที่วอชิงตัน แล้วทะเลาะกัน ประธานจี้ถึงได้โกรธจนเสียสุขภาพซูชิงลอบสังเกตอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ประคองจี้ซือหานเข้าไปในรถด้วยความรวดเร็ว"ประธานจ
จี้ซือหานกำมือที่ซีดจนถึงกระดูก ก้มหัวที่เย่อหยิ่งลงขอร้องซานซาน "คุณเฉียว ผมมีเรื่องสำคัญมากจะต้องบอกเธอ รบกวนคุณบอกผมทีว่าเธออยู่ที่ไหน ได้ไหม..."ซานซานเห็นจี้ซือหานที่สูงศักดิ์ พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงขอร้อง ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเธอลังเลอยู่ชั่วอึดใจ ก็ตอบไปว่า "คุณจี้ ฉันไม่รู้จริงๆ แต่ฉันแน่ใจว่าโปรเจคในครั้งนี้ของพวกเขาอยู่ในประเทศ คงไปไม่กี่วันก็กลับ คุณกลับไปก่อนไหม รอเธอกลับมาแล้วฉันจะติดต่อคุณไป..."จี้ซือหานไม่ยอมเสียเวลาอีกแม้แต่วินาทีเดียว "คุณเฉียว ช่วยติดต่อเธอให้ผมได้ไหม?"ระหว่างทางที่เขามาที่วิลล่า เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์นับไม่ถ้วนแล้วโทรไปหาซูหว่าน แต่ไม่มีคนรับสายเบอร์เครื่องที่ใช้สำหรับทำงาน ถูกเธอบล็อกไปแล้ว โทรไม่ติด เบอร์แปลก เธอก็ไม่รับ ได้แต่ขอให้ซานซานช่วยซานซานเห็นว่าจี้ซือหานดึงดันจนถึงขั้นนี้ ก็เหนื่อยใจ แต่ยังหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรเบอร์ของซูหว่านเธอโทรไปที่เบอร์ใหม่และเบอร์เก่าของซูหว่าน โทรติดต่อกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครรับซานซานอยากจะตัดใจ แต่จี้ซือหานกลับส่งสัญญาณให้เธอโทรต่อไป ซานซานจึงได้แต่โทรไปเรื่อยๆ...ซูหว่านอยู่ในเขตพัฒ