ทันใดนั้นเขาก็จําได้ว่าเธอเคยไปหาเครื่องมือวาดภาพที่ห้องหนังสือมาก่อน หว่านหว่านในตอนนั้น ได้พบสิ่งที่หายไปแล้วหรือเปล่า เพียงแต่ว่าเธอแสร้งทำว่าไม่เห็น เพราะหว่านหว่านของเขาอยากอยู่กับเขาจริงๆ...ครั้งที่สองที่เขาทำร้ายหัวใจของเธอ เธอถึงได้หยิบของเหล่านั้นมาใหม่ แล้วอยากยุติความสัมพันธ์กับเขาตั้งแต่ต้นอีกครั้งแต่เขากลับไม่ได้สังเกตเห็น แล้วยังถูกคำพูดของเธอที่ว่า "ก็แค่เล่นสนุก ทำไมต้องจริงจัง" มายั่วให้โมโหจนขาดสติ แล้วไม่เพียงแค่ขืนใจเธอ กักขังเธอ แต่ยังบังคับให้เธอมีลูกโดยไม่สนอะไรทั้งนั้นหว่านหว่านที่เดิมทีก็มีบาดแผลในใจอยู่แล้ว ยังมาเห็นเขาที่เป็นแบบนี้อีก เกรงว่าจะยิ่งผิดหวังจนถึงขีดสุด ถึงได้ไม่อยากคุยกับเขาแม้แต่คำเดียว...เขาโง่มาก เมื่อไหร่ที่เจอเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเธอ ไอคิวของเขาก็จะลดลงเป็นศูนย์ ทั้งอีคิว ทั้งสติล้วนควบคุมไม่ได้มือสั่นเทาของจี้ซือหานโยนแท็บเล็ตทิ้ง มือข้างนึงกุมดวงตา ก้มหน้า ความเสียใจที่เหนือคณานับทำให้เขารู้สึกหนาวสั่น...ปัญหาระหว่างเขากับเธอ ไม่ใช่แค่เข้าใจผิดแต่เพียงผิวเผิน แต่หัวใจของหว่านหว่านเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า จนยากจะกลับ
ความหมายของจี้ซือหานก็คือ ไม่ต้องการให้เธอเข้ามายุ่งแบบนี้ก็ดี ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เมื่อเกิดความเข้าใจผิด เจ้าตัวแก้ไขด้วยตัวเอง จะดูจริงใจมากกว่าแต่เจียงโม่ยังกังวลนิดหน่อย เธอกลัวว่าเพื่ออธิบายให้ชัดเจนแล้ว จี้ซือหานจะเปิดเผยเรื่องขององค์กร และตัวตนลังเลอยู่ไม่กี่วินาที เจียงโม่ก็เลือกที่จะหมุนตัวกลับไป แล้วกำชับว่า"ประธานจี้ สถานะของคุณเกี่ยวข้องถึงชีวิตของทุกคนในS คุณจะอธิบายกับเธอก็ได้ แต่ห้ามเปิดเผยตัวตนเด็ดขาด..."จี้ซือหานช้อนดวงตาคมเหมือนนกอินทรีย์ที่แดงก่ำ กวาดมองเจียงโม่อย่างเย็นชา"ฉันเชื่อใจซูหว่าน"เขาจะบอกเธอ เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา และจะไม่ปิดบังอะไรต่อเธออีกแบบนี้ต่อไปถ้าเขาต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อองค์กร หว่านหว่านก็จะไม่เข้าใจเขาผิดอีกเจียงโม่ที่อยู่ข้างๆ อยากจะพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อใส่เขาสักที แล้วค่อยด่าเขาว่าไอ้คนบ้ารักไม่ลืมหูลืมตาแต่สุดท้ายเธอก็อดทนเอาไว้ได้ ไม่ได้พูดอะไร แค่ส่งสายตาให้อาเจ๋อ แล้วจึงเดินออกจากห้องผู้ป่วยโดยแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่อาเจ๋อได้รับสัญญาณจากเจียงโม่ ปรายตามองเซิ่งจิ่นที่สลบอยู่นิดหน่อย แล้วอาศัยโอ
จี้เป่ยเฉิงที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเครื่องส่งสัญญาณอยู่ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ก็ถอดถุงมือแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากชุดทำงานเมื่อเห็นว่าจี้ซือหานโทรมา จี้เป่ยเฉิงก็รีบเดินออกไปข้างนอก กดรับโทรศัพท์ "พี่รอง ไม่ง่ายเลยนะ กว่าจะเปิดเครื่องได้ พี่รู้หรือเปล่าว่าจี้เหลียงชวนบริหารกลุ่มบริษัทจี้ซะเละตุ้มเป๊ะ ช่วงนี้พวกเราหัวหมุนจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว พี่..."จี้เป่ยเฉิงยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเสียงเย็นของจี้ซือหานตัดบทขึ้นมา "นายรีบมาวอชิงตัน รับช่องต่อโปรเจคองค์การนาซ่า"จี้เป่ยเฉิงนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป ก็อึ้งไปเล็กน้อย แล้วถาม "เกิดอะไรขึ้น?"ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลโปรเจคองค์การนาซ่าที่เคยวางตัวเอาไว้ก็คือเขา ตอนนี้เอาโปรคเจคมาคืนให้เขาอีก จะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในประเทศแน่หรือว่าไอ้จี้เหลียงชวนมันขายกลุ่มบริษัทจี้ไปแล้ว???จี้เป่ยเฉิงไม่ได้ยินคำอธิบายจากจี้ซือหาน ได้รับแค่คำสั่ง "รีบมาทันที"จี้ซือหานสั่งเสร็จ ก็กดวางสายไปทันที ช้อนสายตาขึ้นมองอาเจ๋อ "เตรียมเครื่องบิน เราจะกลับกันเดี๋ยวนี้"เขารอไม่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว แค่อยากเจอหน้าซูหว่านเร็วๆอาเจ๋อรับคำ จากนั้นสั่งคนรับใช้ให้ช่วย
ตอนที่อลันมาบรรยายที่คณะแพทย์ของพวกเขา ซีอี้ก็ปิ๊งเธอตั้งแต่แรกพบเพื่อให้ตัวเองได้คู่ควรกับเธอ เขาศึกษาวิชาแพทย์อย่างหนัก จนระยะนี้มีชื่อเสียงประมาณนึงในวงการแพทย์ระดับสากล ถึงได้กล้าสารภาพรักกับเธอแต่มักจะได้รับการปฏิเสธจากอลันอยู่เสมอ กระทั่งวันนี้ เขาถึงได้รู้สาเหตุที่ถูกปฏิเสธที่แท้เธอก็เคยมีบาดแผล ส่วนแผลนั้นเป็นอะไร ซีอี้ไม่ต้องถามก็รู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับความรักแต่สำหรับซีอี้แล้ว เรื่องพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไร เพราะที่เขาชอบ ก็คือตัวตนของเธอเพราะงั้น ไม่ว่าเธอจะมีอดีตยังไง เขาก็มองข้าม และยอมรับได้หมด...อลันยังอยากจะปฏิเสธเขา แต่จู่ๆนิ้วเรียวยาวก็โอบเอวของเธอไว้"คุณหมอซี คุณนี่ใจกว้างซะจริง ผู้หญิงที่ถูกผมเล่นจนไม่เหลือชิ้นดี คุณก็ยังจะชอบ"อลันได้ยินคำว่า "เล่นจนไม่เหลือชิ้นดี" สีหน้าก็ซีด ความเกลียดในใจทำให้เธอผลักซูเหยียนออกโดยอัตโนมัติซูเหยียนที่ถูกอลันผลักออก ทันใดนั้นสีหน้าก็ดำทะมึนลง แต่ยังแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร ยกมือขึ้นเชยคางของอลัน"เธอกลัวว่าฉันจะพูดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียงของเราต่อหน้าคุณหมอซีมากเกินไป ถึงได้ผลักฉันสินะ?"อลันกำหมัดแน่น ช้อนสายตา
อลันเก็บความยินปรีดาที่กำลังจะเห็นชัยชนะไว้ แล้วเผยรอยยิ้มรอคอยให้เขา"ตกลง ฉันจะรอนายอีกหน่อย"เมื่อซูเหยียนเห็นความผิดหวังในแววตาของเธอค่อยๆกลายเป็นความคาดหวัง จิตใจที่ว้าวุ่นก็กลับมาสงบอีกครั้งเขาปล่อยอลันออก อุ้มเธอขึ้นจากพื้น มือคู่นั้นที่กอดเธอเอาไว้ แน่นกว่าครั้งไหนๆไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงเอาแต่รู้สึกว่าหญิงสาวในอ้อมกอดจะทอดทิ้งเขาอย่างโหดร้ายในสักวัน จากนั้นก็ไปอยู่กับคนอื่นซูเหยียนไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า ถึงเวลานั้นเขาควรจะทำยังไง เขาทำได้เพียงแค่กอดอลันในตอนนี้ไว้ให้แน่น อย่างคนไร้เรี่ยวแรงซีอี้ที่ถูกต่อยจนมึนงง พูดอะไรไม่ได้ นอนราบอยู่บนพื้น มองแผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินจากไป แล้วกำหมัดแน่นซูเหยียนอุ้มอลันมาจนถึงห้องผู้อํานวยการ จากนั้นทาบเธอลงกับกำแพง เขาไม่ได้จูบ แต่รีบร้อนอยากจะกินเธอ...อลันที่ถูกบังคับยัดเยียด ทิ้งน้ำหนักลงบนบ่าของเขา ความเยือกเย็นในแววตา ยิ่งฉายความสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ...ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทำเรื่องพรรค์นั้นอยู่ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก็ดังขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...อลันอยากจะไปรับ แต่ซูเหยียนไม่ให้ไป เขาจะทำแล้วทำอีกทำจนหมดแรง
หลังจากที่เครื่องบินแลนด์ดิ้งที่เมืองเอ จี้ซือหานก็ดึงเข็มที่แปะติดอยู่หลังมือด้วยความรวดเร็ว และลุกขึ้นลงจากเครื่องบินอาเจ๋อเห็นเขาที่แม้แต่ยืนยังยืนไม่มั่น แต่กลับฝืนร่างกายเดินโซเซออกไปด้านนอกเขารีบพุ่งเข้าไปประคองจี้ซือหาน พยุงเขาออกจากสนามบินซูชิงที่รู้ว่าประธานจี้กลับประเทศมา ก็เตรียมรถมารอที่ด้านนอกสนามบินตั้งนานแล้วพอเห็นเขาเดินออกมาจากสนามบิน ก็รีบเข้าไปต้อนรับ "ประธานจี้"จี้ซือหานพยักหน้ารับเฉยชา แล้วหันไปมองอาเจ๋อ "นายกลับไปเถอะ"อาเจ๋อตอบรับอย่างนอบน้อมคำนึง แล้วหมุนตัวจากไปด้วยความรวดเร็วเขาติดตามคุณเย่ จะปรากฏตัวขึ้นก็ต่อเมื่อมีภารกิจเมื่ออาเจ๋อกลับไปแล้ว ซูชิงก็มองไปยังจี้ซือหานที่หน้าซีด ร่างกายดูซูบผอมลงเขาจำได้ว่าสี่เดือนก่อน สีหน้าท่าทางของประธานจี้ยังดีๆอยู่ แต่ตอนนี้กลับมีสภาพอิดโรยคนที่จะทำให้ประธานจี้ที่เย่อหยิ่งเย็นชากลายเป็นสภาพนี้ได้ เกรงว่าจะมีแค่คุณซูเท่านั้นพวกเขาสองคนน่าจะได้เจอกันที่วอชิงตัน แล้วทะเลาะกัน ประธานจี้ถึงได้โกรธจนเสียสุขภาพซูชิงลอบสังเกตอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ประคองจี้ซือหานเข้าไปในรถด้วยความรวดเร็ว"ประธานจ
จี้ซือหานกำมือที่ซีดจนถึงกระดูก ก้มหัวที่เย่อหยิ่งลงขอร้องซานซาน "คุณเฉียว ผมมีเรื่องสำคัญมากจะต้องบอกเธอ รบกวนคุณบอกผมทีว่าเธออยู่ที่ไหน ได้ไหม..."ซานซานเห็นจี้ซือหานที่สูงศักดิ์ พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงขอร้อง ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเธอลังเลอยู่ชั่วอึดใจ ก็ตอบไปว่า "คุณจี้ ฉันไม่รู้จริงๆ แต่ฉันแน่ใจว่าโปรเจคในครั้งนี้ของพวกเขาอยู่ในประเทศ คงไปไม่กี่วันก็กลับ คุณกลับไปก่อนไหม รอเธอกลับมาแล้วฉันจะติดต่อคุณไป..."จี้ซือหานไม่ยอมเสียเวลาอีกแม้แต่วินาทีเดียว "คุณเฉียว ช่วยติดต่อเธอให้ผมได้ไหม?"ระหว่างทางที่เขามาที่วิลล่า เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์นับไม่ถ้วนแล้วโทรไปหาซูหว่าน แต่ไม่มีคนรับสายเบอร์เครื่องที่ใช้สำหรับทำงาน ถูกเธอบล็อกไปแล้ว โทรไม่ติด เบอร์แปลก เธอก็ไม่รับ ได้แต่ขอให้ซานซานช่วยซานซานเห็นว่าจี้ซือหานดึงดันจนถึงขั้นนี้ ก็เหนื่อยใจ แต่ยังหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรเบอร์ของซูหว่านเธอโทรไปที่เบอร์ใหม่และเบอร์เก่าของซูหว่าน โทรติดต่อกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครรับซานซานอยากจะตัดใจ แต่จี้ซือหานกลับส่งสัญญาณให้เธอโทรต่อไป ซานซานจึงได้แต่โทรไปเรื่อยๆ...ซูหว่านอยู่ในเขตพัฒ
สวนคฤหาสน์ตระกูลจี้หลังจากที่อลันตรวจอาการป่วยจี้ซือหานแล้ว ก็ขมวดคิ้วและพูดเตือนว่า "ประธานจี้ คุณเลือดออกในกระเพาะอาหารหลายครั้งแล้ว แล้วยังไม่กินอะไรหลายวันติดต่อกันอีก ทำให้สุขภาพแย่ลงมากนะคะ ถ้าคุณยังไม่พักผ่อนให้เพียงพอ เกรงว่าร่างกายของคุณคงจะรับไม่ไหวก่อนค่ะ"จี้ซือหานไม่ใส่ใจคำพูดของอลันเลยสักนิด เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ในห้องหนังสือ มองออกไปข้างนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอยดวงตาทั้งสองที่เดิมทีเต็มไปด้วยประกาย ตอนนี้กลับไร้ชีวิตชีวา เหมือนดั่งหลุมดำที่ไม่มีแสงประกายเลยสักนิดอลันเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ก็ส่ายหัวเบา ๆ หลังจากที่ทิ่มเข็มลงบนหลังมือของเขาแล้วก็พูดกับเขาอีกครั้งว่า "ประธานจี้ ไม่มีสุขภาพที่ดี คุณจะจีบคุณซูกลับมาได้ยังไงคะ เข้มแข็งขึ้นมาให้ได้ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลยค่ะ"หลังจากที่เธอพูดจบ เห็นจี้ซือหานยังไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใด ๆ จึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก จากนั้นถือกล่องยาลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปจากห้องหนังสือหลังจากที่อลันเดินจากไป จี้ซือหานก็ค่อย ๆ ละสายกลับมา มองไปที่ตู้นิรภัย หลังจากที่จ้องมองอยู่นานสองนาน จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นยืนเขาผลักเสาใส่น้ำเกลือเดินไปข้างหน้าต
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ