ตอนที่อลันมาบรรยายที่คณะแพทย์ของพวกเขา ซีอี้ก็ปิ๊งเธอตั้งแต่แรกพบเพื่อให้ตัวเองได้คู่ควรกับเธอ เขาศึกษาวิชาแพทย์อย่างหนัก จนระยะนี้มีชื่อเสียงประมาณนึงในวงการแพทย์ระดับสากล ถึงได้กล้าสารภาพรักกับเธอแต่มักจะได้รับการปฏิเสธจากอลันอยู่เสมอ กระทั่งวันนี้ เขาถึงได้รู้สาเหตุที่ถูกปฏิเสธที่แท้เธอก็เคยมีบาดแผล ส่วนแผลนั้นเป็นอะไร ซีอี้ไม่ต้องถามก็รู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับความรักแต่สำหรับซีอี้แล้ว เรื่องพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไร เพราะที่เขาชอบ ก็คือตัวตนของเธอเพราะงั้น ไม่ว่าเธอจะมีอดีตยังไง เขาก็มองข้าม และยอมรับได้หมด...อลันยังอยากจะปฏิเสธเขา แต่จู่ๆนิ้วเรียวยาวก็โอบเอวของเธอไว้"คุณหมอซี คุณนี่ใจกว้างซะจริง ผู้หญิงที่ถูกผมเล่นจนไม่เหลือชิ้นดี คุณก็ยังจะชอบ"อลันได้ยินคำว่า "เล่นจนไม่เหลือชิ้นดี" สีหน้าก็ซีด ความเกลียดในใจทำให้เธอผลักซูเหยียนออกโดยอัตโนมัติซูเหยียนที่ถูกอลันผลักออก ทันใดนั้นสีหน้าก็ดำทะมึนลง แต่ยังแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร ยกมือขึ้นเชยคางของอลัน"เธอกลัวว่าฉันจะพูดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียงของเราต่อหน้าคุณหมอซีมากเกินไป ถึงได้ผลักฉันสินะ?"อลันกำหมัดแน่น ช้อนสายตา
อลันเก็บความยินปรีดาที่กำลังจะเห็นชัยชนะไว้ แล้วเผยรอยยิ้มรอคอยให้เขา"ตกลง ฉันจะรอนายอีกหน่อย"เมื่อซูเหยียนเห็นความผิดหวังในแววตาของเธอค่อยๆกลายเป็นความคาดหวัง จิตใจที่ว้าวุ่นก็กลับมาสงบอีกครั้งเขาปล่อยอลันออก อุ้มเธอขึ้นจากพื้น มือคู่นั้นที่กอดเธอเอาไว้ แน่นกว่าครั้งไหนๆไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงเอาแต่รู้สึกว่าหญิงสาวในอ้อมกอดจะทอดทิ้งเขาอย่างโหดร้ายในสักวัน จากนั้นก็ไปอยู่กับคนอื่นซูเหยียนไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า ถึงเวลานั้นเขาควรจะทำยังไง เขาทำได้เพียงแค่กอดอลันในตอนนี้ไว้ให้แน่น อย่างคนไร้เรี่ยวแรงซีอี้ที่ถูกต่อยจนมึนงง พูดอะไรไม่ได้ นอนราบอยู่บนพื้น มองแผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินจากไป แล้วกำหมัดแน่นซูเหยียนอุ้มอลันมาจนถึงห้องผู้อํานวยการ จากนั้นทาบเธอลงกับกำแพง เขาไม่ได้จูบ แต่รีบร้อนอยากจะกินเธอ...อลันที่ถูกบังคับยัดเยียด ทิ้งน้ำหนักลงบนบ่าของเขา ความเยือกเย็นในแววตา ยิ่งฉายความสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ...ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทำเรื่องพรรค์นั้นอยู่ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก็ดังขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...อลันอยากจะไปรับ แต่ซูเหยียนไม่ให้ไป เขาจะทำแล้วทำอีกทำจนหมดแรง
หลังจากที่เครื่องบินแลนด์ดิ้งที่เมืองเอ จี้ซือหานก็ดึงเข็มที่แปะติดอยู่หลังมือด้วยความรวดเร็ว และลุกขึ้นลงจากเครื่องบินอาเจ๋อเห็นเขาที่แม้แต่ยืนยังยืนไม่มั่น แต่กลับฝืนร่างกายเดินโซเซออกไปด้านนอกเขารีบพุ่งเข้าไปประคองจี้ซือหาน พยุงเขาออกจากสนามบินซูชิงที่รู้ว่าประธานจี้กลับประเทศมา ก็เตรียมรถมารอที่ด้านนอกสนามบินตั้งนานแล้วพอเห็นเขาเดินออกมาจากสนามบิน ก็รีบเข้าไปต้อนรับ "ประธานจี้"จี้ซือหานพยักหน้ารับเฉยชา แล้วหันไปมองอาเจ๋อ "นายกลับไปเถอะ"อาเจ๋อตอบรับอย่างนอบน้อมคำนึง แล้วหมุนตัวจากไปด้วยความรวดเร็วเขาติดตามคุณเย่ จะปรากฏตัวขึ้นก็ต่อเมื่อมีภารกิจเมื่ออาเจ๋อกลับไปแล้ว ซูชิงก็มองไปยังจี้ซือหานที่หน้าซีด ร่างกายดูซูบผอมลงเขาจำได้ว่าสี่เดือนก่อน สีหน้าท่าทางของประธานจี้ยังดีๆอยู่ แต่ตอนนี้กลับมีสภาพอิดโรยคนที่จะทำให้ประธานจี้ที่เย่อหยิ่งเย็นชากลายเป็นสภาพนี้ได้ เกรงว่าจะมีแค่คุณซูเท่านั้นพวกเขาสองคนน่าจะได้เจอกันที่วอชิงตัน แล้วทะเลาะกัน ประธานจี้ถึงได้โกรธจนเสียสุขภาพซูชิงลอบสังเกตอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ประคองจี้ซือหานเข้าไปในรถด้วยความรวดเร็ว"ประธานจ
จี้ซือหานกำมือที่ซีดจนถึงกระดูก ก้มหัวที่เย่อหยิ่งลงขอร้องซานซาน "คุณเฉียว ผมมีเรื่องสำคัญมากจะต้องบอกเธอ รบกวนคุณบอกผมทีว่าเธออยู่ที่ไหน ได้ไหม..."ซานซานเห็นจี้ซือหานที่สูงศักดิ์ พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงขอร้อง ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเธอลังเลอยู่ชั่วอึดใจ ก็ตอบไปว่า "คุณจี้ ฉันไม่รู้จริงๆ แต่ฉันแน่ใจว่าโปรเจคในครั้งนี้ของพวกเขาอยู่ในประเทศ คงไปไม่กี่วันก็กลับ คุณกลับไปก่อนไหม รอเธอกลับมาแล้วฉันจะติดต่อคุณไป..."จี้ซือหานไม่ยอมเสียเวลาอีกแม้แต่วินาทีเดียว "คุณเฉียว ช่วยติดต่อเธอให้ผมได้ไหม?"ระหว่างทางที่เขามาที่วิลล่า เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์นับไม่ถ้วนแล้วโทรไปหาซูหว่าน แต่ไม่มีคนรับสายเบอร์เครื่องที่ใช้สำหรับทำงาน ถูกเธอบล็อกไปแล้ว โทรไม่ติด เบอร์แปลก เธอก็ไม่รับ ได้แต่ขอให้ซานซานช่วยซานซานเห็นว่าจี้ซือหานดึงดันจนถึงขั้นนี้ ก็เหนื่อยใจ แต่ยังหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรเบอร์ของซูหว่านเธอโทรไปที่เบอร์ใหม่และเบอร์เก่าของซูหว่าน โทรติดต่อกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครรับซานซานอยากจะตัดใจ แต่จี้ซือหานกลับส่งสัญญาณให้เธอโทรต่อไป ซานซานจึงได้แต่โทรไปเรื่อยๆ...ซูหว่านอยู่ในเขตพัฒ
สวนคฤหาสน์ตระกูลจี้หลังจากที่อลันตรวจอาการป่วยจี้ซือหานแล้ว ก็ขมวดคิ้วและพูดเตือนว่า "ประธานจี้ คุณเลือดออกในกระเพาะอาหารหลายครั้งแล้ว แล้วยังไม่กินอะไรหลายวันติดต่อกันอีก ทำให้สุขภาพแย่ลงมากนะคะ ถ้าคุณยังไม่พักผ่อนให้เพียงพอ เกรงว่าร่างกายของคุณคงจะรับไม่ไหวก่อนค่ะ"จี้ซือหานไม่ใส่ใจคำพูดของอลันเลยสักนิด เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ในห้องหนังสือ มองออกไปข้างนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอยดวงตาทั้งสองที่เดิมทีเต็มไปด้วยประกาย ตอนนี้กลับไร้ชีวิตชีวา เหมือนดั่งหลุมดำที่ไม่มีแสงประกายเลยสักนิดอลันเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ก็ส่ายหัวเบา ๆ หลังจากที่ทิ่มเข็มลงบนหลังมือของเขาแล้วก็พูดกับเขาอีกครั้งว่า "ประธานจี้ ไม่มีสุขภาพที่ดี คุณจะจีบคุณซูกลับมาได้ยังไงคะ เข้มแข็งขึ้นมาให้ได้ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลยค่ะ"หลังจากที่เธอพูดจบ เห็นจี้ซือหานยังไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใด ๆ จึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก จากนั้นถือกล่องยาลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปจากห้องหนังสือหลังจากที่อลันเดินจากไป จี้ซือหานก็ค่อย ๆ ละสายกลับมา มองไปที่ตู้นิรภัย หลังจากที่จ้องมองอยู่นานสองนาน จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นยืนเขาผลักเสาใส่น้ำเกลือเดินไปข้างหน้าต
พอเห็นเป็นข้อความที่คุณเย่ส่งมา ซูหว่านก็นิ่งไปชั่วขณะคุณเย่ไม่ได้ตอบข้อความของเธอกลับหลายเดือนแล้ว เธอคิดว่าเขาไม่สนใจเธอแล้วซะอีก คิดไม่ถึงว่าห่างหายไปนานขนาดนี้แล้วยังตอบกลับมาอีกเธอบีบโทรศัพท์มือถือไว้แน่น ตื่นเต้นเล็กน้อย และถามเสิ่นหนานอี้ว่า "ยังจำคุณเย่ได้หรือเปล่า เขาตอบข้อความฉันกลับมาแล้ว นัดเจอกับฉันด้วย"เสิ่นหนานอี้รับโทรศัพท์ของเธอมา หลังจากที่ดูแวบหนึ่งก็จิ้มไปที่หน้าจอและพูดอย่างมั่นใจว่า "นัดเขาออกมา ฉันจะช่วยเธอจัดการเขาให้ตายไปข้างหนึ่ง!"ซูหว่านนึกถึงตอนที่อยู่ในลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลเมื่อครั้งก่อน คุณเย่โดนเสิ่นหนานอี้บีบเค้นจนต้องหนีด้วยความตาลีตาเหลือก จึงเชื่อในความชั่วร้ายของเขาเธอถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ก้มหน้าลงไปพิมพ์ หลังจากพิมพ์เสร็จ ก็มองไปที่เสิ่นหนานอี้ด้วยสีหน้าที่มึนงงอีกครั้ง"นัดช่วงเวลาไหน? นัดไปที่ไหน? หลังจากที่นัดแล้ว จะจับเขายังไงล่ะ?"ยังวางแผนกันไม่เรียบร้อย ก็นัดอีกฝ่ายอย่างหุนหันพลันแล่น ถึงเวลาจริง ๆ ก็ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้ มีแต่ตัวเองจะเสียเปรียบแทนเสิ่นหนานอี้แย่งโทรศัพท์ของเธอมา พิมพ์อย่างรวดเร็ว "พรุ่งนี้มาเจอฉ
จี้ซือหานยิ้มอ่อนให้กับคำถามของเธอ ดูเหมือนจะอยากปฏิบัติด้วยความจริงใจแต่ภายใต้การล้อมของตำรวจ และพนักงาน เขาไม่สามารถตอบกลับได้เมื่อเสิ่นหนานอี้เห็นว่าคนที่มาคือจี้ซือหาน กลับตกตะลึงมากกว่าซูหว่านเสียอีก..."ท่านประธานจี้ งานอดิเรกสุดพิเศษของคุณ คงไม่ใช่การปลอมตัวมาแอบบังคับคนอื่นหรอกนะครับ?"จี้ซือหานขมวดคิ้วเล็กน้อย ความเย็นชาที่เผยออกมาทางแววตานั้นเย็นประดุจน้ำแข็งก่อตัวอยู่บนร่างของเสิ่นหนานอี้เสิ่นหนานอี้สัมผัสถึงแววตานั้น มองดูเท้าของตัวเองโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่วันนี้ไม่ได้ใส่รองเท้าแตะออกมาจี้ซือหานค่อย ๆ ละสายตาออกมามองไปที่ซูหว่าน เห็นเธอจ้องมองตนเองตาแข็ง ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างฉับพลันเขาอยากบอกความจริงกับเธอจะแย่ กลับลืมไปแล้วว่าในอดีต ตนเองเคยใช้วิธีการแบบนั้นบังคับเธอถ้าเธอรู้ว่าเขาก็คือคุณเย่ คงมีแต่จะทำให้โกรธแค้นเขามากยิ่งขึ้นเพราะในสายตาของเธอนั้น คุณเย่ก็คืออาชญากรคนหนึ่งที่ให้อภัยไม่ได้...จี้ซือหานยืนอยู่กับที่ หลังจากครุ่นคิดสองสามวิ ความหดหู่ใจที่อยู่ในดวงตาก็ค่อย ๆ จางหายไปเขาเอ่ยปากเล็กน้อย ถามซูหว่านกลับ "คุณเย่อะไรกัน?"ซูหว่านได้ยินเช่นนี้
ห้องฝั่งตรงข้าม หลังจากที่อาเจ๋อพาจี้ซือหานเข้าไปแล้ว ก็มองรอบ ๆ ภายในห้องพบว่าคนที่เปิดห้องไม่อยู่พอดี อาเจ๋อค่อยโล่งอกเขาหันหลังมา หันหน้าไปหาจี้ซือหาน ชูบัตรที่อยู่ในมือขึ้นมาแล้วยิ้มอย่างมั่นใจ"ประธานจี้ เทคโนโลยีด้านมืดของผมใช้ได้ไหมครับ"จี้ซือหานตบลงไปที่ไหล่ของเขา หลังจากที่ชื่นชมเสร็จแล้ว แววตาก็เย็นชาขึ้นมา"อาเจ๋อ นายส่งคนติดตามฉันเหรอ?"มือที่เรียวยาวกดลงไปบนไหล่นั้นราวกับเป็นภาระอันหนักอึ้งที่มองไม่เห็นหล่นทับลงมา ทับจนอาเจ๋อรู้สึกกดดันเป็นอย่างมากร่างกายของเขาแข็งทื่อ สีหน้าขาวซีด กลัวจนไม่กล้ามองหน้าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่พริบตาเดียว ได้แต่ก้มหน้ารายงานแต่โดยดี"คุณหนูเจียงกลัวว่าตัวตนของคุณจะถูกเปิดเผย ผมจึงต้องส่งคนติดตามคุณตลอดเวลาน่ะครับ..."จี้ซือหานเม้มปากบาง ๆ เล็กน้อย เผยความหนาวเย็นออกมาทางหางตา "นายอย่าลืมว่านายกำลังทำงานกับใคร"ผู้ชายพูดเตือนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เห็นได้ชัดว่าจิตใจอาเจ๋อได้รับการกระทบอย่างรุนแรง ทำให้เขารู้สึกผิดต่อคุณเย่มากยิ่งขึ้นอาเจ๋อเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยความเคารพ "อาเจ๋อรู้ดี ชีวิตของผมเป็นคุณที่ช่วยไว้ แน่นอนว่าต้องเชื่