เขากอดเธอไว้แน่น แต่ก็ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่ของเธอเลย ความรู้สึกว่างเปล่าเช่นนี้ แทบจะทำให้เขาเป็นบ้า!แถมเธอยังถามเขาด้วยสีหน้าเย็นชาต่ออีกว่า "คุณจะเอาหรือเปล่า ถ้าไม่เอาก็ปล่อยฉันไปได้แล้ว"จี้ซือหานรู้สึกเพียงว่าตัวเองเจ็บปวดจนยากที่จะหายใจ เจ็บปวดจนแทบจะพูดไม่ออก ทำได้เพียงกดศีรษะของเธอเอาไว้ที่หน้าอกของเขา หวังอยากให้เธอได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายของเขา แต่เธอที่ไม่ได้รักเขา จะสนใจได้ยังไงว่าเขาจะเจ็บปวดสักเท่าไร...ซูหว่านออกแรงผลักเขา แต่ก็ไม่เป็นผลอะไรเลย เขาก็ยังคงกอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเธอไปเธอรู้สึกจนใจ ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ "คุณจะให้ฉันทำยังไงกันแน่ถึงจะยอมปล่อยฉันไป"น้ำเสียงเย็นชาแฝงไว้ด้วยความแข็งกร้าวของจี้ซือหานดังขึ้นจากข้านบนศีรษะของเธอ "ฉันต้องการให้เธอรักฉัน"เมื่อได้ฟังประโยคนี้ หัวใจของซูหว่านก็สั่นไหวน้อยๆ แต่ใบหน้ากลับเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ผู้หญิงในอ้อมกอดเขายังคงเงียบไม่พูดอะไร จี้ซือหานก็รู้แล้วว่าคำตอบของเธอคืออะไรเขาก้มหน้าลงแล้วถามเธอด้วยดวงตาที่แดงก่ำ "ซูหว่าน เธอจะรักฉันไม่ได้สักครั้งเลยเหรอ?"รักเขาสักครั้ง ต่อให้แค่วันเดียวก็ยังดี ให้
ซูหว่านได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น มองเขาด้วยความรู้สึกที่ยากจะเชื่อ "เขา...ยังไม่ตาย?"จี้ซือหานกำมือแน่น หลังจากที่พยายามกดความรู้สึกเจ็บปวดราวกับหัวใจแตกสลายแล้วก็พยักหน้าลงเบาๆ "ยังไม่ตาย"เขาเห็นว่า ดวงตาที่เดิมทีไร้ความรู้สึกของเธอค่อยๆ เปล่งประกายออกมาหลังจากได้ยินคำว่ายังไม่ตายอย่างที่คิด มีเพียงซ่งซือเยว่ถึงจะทำให้เธอมีปฏิกริยาตอบสนองได้ ส่วนเขา ไม่ว่าจะทำอะไร เธอก็ไม่เคยสนใจเลยริมฝีปากบางของจี้ซือหานยกยิ้มขึ้นน้อยๆ ราวกับกำลังหัวเราะเยาะตัวเองหลังจากที่ซูหว่านได้ยินคำตอบแบบหนักแน่นจากปากของเขา ขอบตาของเธอก็ค่อยๆ แดงเรื่อขึ้นน้อยๆ "ไม่ใช่ว่าเขา..."ข่าวรายงานว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะตรอมใจไปแล้ว ซานซานก็บอกว่าเขาตายแล้ว ทำไมถึง...จี้ซือหานตอบกลับมาประโยคหนึ่งอย่างเรียบเฉยว่า "ฉันช่วยเขาไว้"ดวงตาที่รื้นไปด้วยหยาดน้ำตาของซูหว่าน ฉายประกายของความประหลาดใจ เป็นจี้ซือหานที่ช่วยซ่งซือเยว่ไว้เหรอเธอค่อนข้างตกใจ ความรู้สึกแปลกประหลาดค่อยๆ เกิดขึ้นในใจของเธอ สุดท้ายก็พูดออกมาประโยคหนึ่งว่า "ขอบคุณ"คำว่าขอบคุณ ยิ่งสร้างความห่างเหินระหว่างพวกเขามากขึ้นไปอีก จี้ซือหานฟังแล้วรู้สึ
หลังจากที่จี้ซือหานพาตัวของซูหว่านออกจากสนามบินก็ได้ขึ้นรถหรูคันหนึ่งไปซูหว่านนั่งอยู่ที่เบาะนั่งด้านหลัง ในตอนที่กำลังดึงเข็มขัดนิรภัยเตรียมจะคาดนั้นนิ้วมือเรียวยาวของจี้ซือหานก็คว้าเข็มขัดนิรภัยไปแล้วช่วยเธอคาดหลังจากที่คาดดีแล้ว เขาก็เหลือบดวงตาที่ยาวรีสวยราวดอกท้อของตัวเองขึ้นมามองที่ซูหว่านเมื่อเห็นใบหน้าที่สงบนิ่ง อีกทั้งร่างกายที่นั่งตัวตรงทื่อของเธอ ก็หันไปสั่งให้ซูชิงออกรถในทันทีหลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกไป ซูหว่านก็หันหน้าออกไปมองทางหน้าต่างอย่างเงียบๆจี้ซือหานเองก็หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่พูดอะไรเช่นกันทั้งๆ ที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนเบาะนั่งแถวเดียวกัน แต่เหมือนกับระหว่างกลางมีแม่น้ำสายใหญ่ขวางกั้น ช่างดูห่างเหินราวกับคนแปลกหน้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานเท่าไร จี้ซือหานก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเธอ...เธอนั่งชิดกับประตูรถ หน้าต่างถูกเลื่อนลงมาครึ่งบาน ลมจากภายนอกที่พัดเข้ามาเบาๆ ทำให้เส้นผมสั่นถูกพัดกระเจิงท่าทางตอนที่เธอหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ช่างดูสงบว่าง่าย เหมือนกับตอนที่เคยอยู่กับเขา ราวกับว่าไม่เปลี่ยนไปเลยจี้ซือหานที่มองเห็น
แต่จี้ซือหานกลับใช้มือข้างหนึ่งจับคางของเธอเอาไว้ บังคับให้เธอต้องหันมาสบตากับเขาผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ยังคงดูสูงส่งเหมือนในอดีต เขายังคงดูหล่อเหลาไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิดมีเพียงขอบตาใต้ดวงตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นเท่านั้นที่ดูดำคล้ำขึ้น แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับหน้าตาของเขาเลยผมของเขาที่ถูกจัดทรงอย่างเรียบร้อยยิ่งทำให้เขาดูสูงส่งเกินเอื้อมเข้าไปอีก...เสื้อเชิ๊ตขาวภายใต้เสื้อสูท ถูกเขาปลดกระดุมออกสองเม็ด...คอเสื้อที่เปิดออกน้อยๆ เผยให้เห็นกระดูกไหปราร้าอย่างชัดเจน...ด้านล่างนั้นเป็นแผ่นอกแข็งแกร่ง และขายาวๆนี่เป็นครั้งแรกที่ซูหว่านได้มองเขาอย่างละเอียดหลังจากที่กลับมา ทั้งรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็คล้ายว่าไม่เปลี่ยนไปเลยในตอนที่จี้ซือหานเห็นเงาร่างของตัวเองปรากฎอยู่ในดวงตาของเธอ เขาก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นน้อยๆ ก็มีแต่ในเวลานี้เท่านั้นที่เธอจะมีเขาอยู่ในสายตาเขาใช้มือคู่สวยของตัวเองลูบไปที่ผมสั้นของเธอเบาๆ "ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนเธอชอบไว้ผมยาว"ขนตาของซูหว่านกระเพื่อมไหวน้อยๆ ที่เมื่อก่อนเธอชอบไว้ผมยาวก็เพราะว่าเขาชอบคนผมยาว เธอก็เลยไม่เคยที่จะตัดตอนนี้ถูกจิเหยียนโจวบังคับให้ต้อง
เธอเคยบอกว่าจะไม่มีทางเป็นมือที่สามของใครเด็ดขาด เขาจะทำเรื่องที่ทำให้เธอผิดหวังได้อย่างไรเขากอดเธอเอาไว้แน่นแล้วพูดความในใจออกไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ "ถ้าหากว่าเธอไม่กลับมา ตลอดชีวิตนี้ฉันก็คงไม่ยอมแต่งงานกับใคร"เมื่อซูหว่านได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป ความรังเกียจในสายตาถูกแทนที่ด้วยความตกใจ ราวกับคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความตั้งใจแบบนี้เธอรู้สึกตกใจมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แล้วก็ไม่ได้ถามด้วยว่าทำไมสุดท้ายเขาถึงไม่ได้แต่งงานกับหนิงหว่านจี้ซือหานยกมือขึ้นมาลูบไปที่แก้มของเธอ "คนที่ฉันอยากแต่งงานด้วยมาตลอดก็คือเธอ"น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมแต่ก็แฝงไว้ด้วยความลึกซึ้งที่พยายามจะปกปิด ซูหว่านรู้สึกหวั่นไหวในใจ แต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็หายไปเพราะความไม่เชื่อจี้ซือหานอ้าปากบางเล็กน้อย อยากจะพูดอะไรต่อแต่เสียงของซูชิงก็ดังขึ้นมาจากข้างหน้า "ประธานจี้ ถึงแล้วครับ"จี้ซือหานเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย มองไปทางซูหว่านอย่างอาลัย จากนั้นก็กอดเธอแน่นอีกครั้งแต่ซูหว่านกลับใช้สีหน้าเรียบเฉยมองเขา ราวกับกำลังโทษที่เขาไม่ยอมรักษาคำพูดจี้ซือหานยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างขมขื่น จากนั้นก็พูดออกมาเบาๆ ว่า
จี้ซือหานแบมือออกมา มองดูไปที่รอยแผลบนฝ่ามือของตัวเอง แล้วจู่ๆ ก็ยิ้มออกมาน้อยๆรอยยิ้มอย่างสิ้นหวังสุดขีดแบบนั้น ซูหว่านก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก...เธออดที่จะก้าวขาขยับเดินเข้าไปใกล้เขาไม่ได้ แต่เขากลับพูดว่า "อย่าเข้ามาเลย"เขาไม่ได้หันหน้ากลับมาอีก แต่น้ำเสียงแหบพร่าก็ได้ดังออกมาจากในรถ "คฤหาสน์ที่อยู่ข้างหน้าหลังนั้นก็คือที่ๆ เขาพักอยู่ในตอนนี้ เธอเข้าไปหาเขาเถอะ"ซูหว่านมองไปยังทิศที่ตั้งคฤหาสน์แว๊บหนึ่ง แล้วก็หันมามองผู้ชายในรถแว๊บหนึ่ง สุดท้ายก็เก็บสายตาแล้วหมุนตัวเดินออกไปทางทิศของคฤหาสน์ในตอนที่เห็นเงาร่างเล็กๆ นั้นเดินออกไปหาซ่งซือเยว่โดยไม่อาลัยวาวรณ์ ขอบตาของจี้ซือหานก็ค่อยๆ แดงขึ้น...เขาค่อยๆ กำฝ่ามือของตัวเองช้าๆ ราวกับตัดสินใจที่จะปิดผนึกเรื่องราวในอดีตทั้งหมด ไม่พูดถึงอีก แล้วก็จะไม่ดึงดันอะไรอีกซูชิงหันหน้ากลับมามองที่จี้ซือหาน "ประธานจี้ คุณเองก็เคยฆ่าตัวตายเพราะเธอนะครับ..."จี้ซือหานยกริมฝีปากบางขึ้นแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า "เรื่องพวกนี้ต่อไปห้ามบอกให้เธอรู้"ซูชิงขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ "เพราะอะไรครับ?"เขาเองก็ทำเรื่องมากมายเพื่อคุณ
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย ก็ทำให้ร่างของคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นตัวแข็งทื่อไปเขาค่อยๆ หันหน้ากลับมาช้าๆ มองมายังคนที่ยืนอยู่บนบันได...เธอสวมชุดเดรสยาวสีแดง ผมสั้น สายลมอ่อนโยนที่พัดผ่านเผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามใบหน้าในความทรงจำที่เขาเคยฝันถึงนับครั้งไม่ถ้วน ถึงแม้การแต่งตัวจะไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเขาทอดสายตามองผ่านแสงอาทิตย์ ผ่านทุ่งดอกไม้ ได้แต่มองเธออยู่อย่างนั้น แต่กลับไม่กล้าที่จะขยับตัวแม้แต่นิด ทำได้แค่มองดูอยู่ไกลๆ...เธอเคยปรากฎตัวด้วยวิธีนี้หลายครั้ง แต่ทุกครั้งตอนที่เขาวิ่งเข้าไปหาเธอ เธอก็จะหายไปตลอดคนที่อยู่ตรงหน้านี้เกรงว่าก็คงจะเป็นภาพลวงตาอีกตามเคย แตะต้องไม่ได้ เช่นนั้นก็อย่าไปรบกวนเธอ ให้เธอได้อยู่ตรงนี้นานๆ หน่อย..."ซือเยว่..."น้ำเสียงอ่อนหวานดังเรียกชื่อเขาขึ้นอีกครั้ง ทำให้เขารู้สึกเหมือนฝัน...จนกระทั่งเมื่อเขาเห็นเธอค่อยๆ เดินลงจากบันได ผ่านทุ่งดอกไม้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาถึงได้มีปฏิกริยาตอบสนองหนังสือที่ถืออยู่ในมือร่วงหล่นลงไปทันที เขาเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองช้าๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อสา
แต่ว่า ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนส่งเธอเข้าไปในกองเพลิงเองกับมือ แต่ทำไมเธอถึงยังมายืนอยู่ตรงหน้าเขาได้แบบไร้รอยขีดข่วนเช่นนี้...เขาสงสัยว่าเธอไม่ใช่ตัวจริง แต่นิ้วมือที่โอบอยู่บริเวณด้านหลังของเธอ กลับสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเธอ นี่มันคนตัวเป็นๆ ชัดๆเขาใช้มือที่สั่นระริกของตัวเอง ประคองร่างของหญิงสาว ที่นอนร้องไห้ฟูมฟาย ซบตักของเขาอยู่ ใช้สองมือประคองใบหน้าของเธอ จ้องมองเธออย่างละเอียดถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานถึงสามปี แต่เธอก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กลับกันใบหน้าที่ข่าวซีดในอดีตกลับกลายเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นมาราวกับได้ลาขาดจากโรคร้ายที่ทุกข์ทรมานในอดีต ตอนนี้เธอได้มีชีวิตใหม่ที่สดใส...เขามองเธอ ก่อนจะอ้าปากเรียกออกไปเบาๆ "หว่านหว่าน..."ซูหว่านเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "ฉันอยู่นี่"เธออยู่นี่ เธออยู่นี่มาตลอด...ใบหน้าที่เปียกชื้นของซ่งซือเยว่เองก็ปรากฎรอยยิ้มออกมาเช่นกัน "ยังดีนะที่ฉันเชื่อฟังคำพูดของเธอ"ซูหว่านไม่ค่อยเข้าใจนัก "คำพูดอะไร?"ซ่งซือเยว่อึ้งไป ดูท่า...เธอคงลืมสิ่งที่เคยพูดกับเขาไว้ แต่ว่าไม่เป็นไร แค่เขาจำได้ก็