Beranda / รักโบราณ / ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง / ตอนที่ 1 ข้านี่แหละหลิวซือนัว

Share

ตอนที่ 1 ข้านี่แหละหลิวซือนัว

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-13 20:09:31

ตอนที่ 1

ข้านี่แหละหลิวซือนัว

          สิบเอ็ดปีมาแล้วที่นางอยู่ในมิตินี้ในฐานะหลิวซือนัว ทุกอย่างในชีวิตราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง นางมีครอบครัวใหญ่ที่แสนอบอุ่น อีกทั้งนางยังเป็นที่รักของคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก ทุกคนในสกุลหลิวล้วนแล้วแต่ดูแลนางอย่างดีราวกับประคองไว้บนมือก็กลัวจะตก อมไว้ในปากก็กลัวจะละลาย ไม่มีสิ่งใดที่นางต้องการแล้วจะไม่ได้

          ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางได้รับล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินหรือสิ่งของต่าง ๆ รวมไปถึงเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องประดับทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นของชั้นเลิศทั้งสิ้น

           ชีวิตของนางต่างจากโลกเดิมอย่างชัดเจนราวกับหลังมือเป็นหน้ามือ จากที่เคยขัดสนกลับมั่งมีมากมายล้นเหลือ จนทำนางเผลอคิดไปว่าหรือชีวิตใหม่ในมิตินี้จะเป็นสิ่งที่สวรรค์ตั้งใจมอบแก่นาง

           ถึงกระนั้นนอกจากทรัพย์สินมากมายและครอบครัวที่อบอุ่นแล้ว ดูเหมือนจะมีสิ่งหนึ่งที่นางอยากจะให้เป็นเช่นเดิมเหมือนในมิติก่อน นั่นก็คือในมิติก่อนนางกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ทว่าในมิตินี้เพียงแค่จิบชาไปหนึ่งถ้วยกับรู้สึกว่าตนอ้วนขึ้นเสียอย่างนั้น เหล่าแม่นางคุณหนูทั้งหลายในเมืองนี้ล้วนแล้วแต่มีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นด้วยกันทั้งสิ้น มีเพียงนางนี่แหละที่ร่างกายอวบอิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัว มองดูแล้วแปลกตาไปจากผู้อื่น

           แต่นั่นใช่สิ่งที่นางใส่ใจที่สุดไม่ ถึงจะไม่พอใจเท่าไหร่นักแต่ก็ไม่ถึงขั้นรู้สึกย้ำแย่ เพียงแค่มีบ้างที่รู้สึกเสียดายที่ต้องห้ามใจตัวเองกับอาหารรสเลิศมากมาย

            ที่มิตินี้ไม่มีอินเตอร์เน็ตไม่มีโทรศัพท์มือถือ ที่จะสามารถให้ความบันเทิงได้เพราะฉะนั้นเรื่องซุบซิบนินทาจึงเปรียบเสมือนความบันเทิงที่ทำได้ง่ายที่สุดในหมู่ผู้คน ราวกับว่ามันเป็นงานอดิเรกหลักๆของคนในมิตินี้ก็ว่าได้

         “คุณหนูถึงเวลาแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้คนสนิทของนาง นามว่าเสี่ยวหนิงเข้ามาเตือนนางที่กำลังมองใบหน้าตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก

          “เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ” นางส่งยิ้มให้เสี่ยวหนิงก่อนจะลุกขึ้นเดินนำเสี่ยวนิ่งออกไปยังโถงด้านหน้า ซึ่งถูกจัดเป็นโถงทำพิธีปักปิ่นของนางในวันนี้

           ยามนี้นางกำลังจะเข้าพิธีปักปิ่นหรือพิธีก้าวสู่วัยสาว หลิวซือนัวที่มาอยู่ที่นี่สิบเอ็ดปีแล้วรู้สึกปีติในใจอยู่นิดหน่อย ที่ว่านางสามารถใช้ชีวิตผ่านช่วงหนึ่งของชีวิตมาได้อย่างสุขสันติ อีกทั้งต่อจากนี้ทุกคนก็จะปฏิบัติต่อนางเช่นผู้ใหญ่คนหนึ่งไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยอีกต่อไป

           อิสระในด้านต่างๆของนางก็คงจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นเช่นกัน และนั่นคงหมายถึงในภายภาคหน้านางก็จะสามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆด้วยตัวเองได้แล้ว

           นอกจากนางแล้วก็ดูเหมือนว่าหลิวฮูหยินหรือก็คือท่านแม่ของนางจะเป็นผู้ที่มีความสุขที่สุดในเวลานี้  เห็นได้ชัดจากการที่ท่านแม่ของนางนั้นนั่งยิ้มแย้มอยู่ในโถงพิธี ใบหน้าก็ดูเบ่งบานเต็มไปด้วยความสุขยิ่ง

             ภายในโถงพิธีมีผู้คนมามายมาร่วมพิธีปักปิ่นของนาง หลิวซือนัวมองเห็นสตรีวัยกลางคนหลายนางที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง เพราะนางอาจจะเคยพบตอนที่ไปงานเลี้ยงด้วยกันกับท่านแม่ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ไม่แปลกที่จะมาร่วมงานด้วยในเมื่อสกุลหลิวของพวกนางนั้นล้วนแล้วแต่เป็นมิตรที่ดีต่อผู้อื่นเสมอมา ซ้ำยังมีหน้ามีตาในสังคมมิน้อย เป็นตระกูลใหญ่ในเมืองเป่ยโจวที่ไม่อาจจะมองข้ามได้

           “คาราวะท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ” นางย่อตัวโค้งคำนับท่านพ่อและท่านแม่ของนางด้วยท่าทีนอบน้อมอ่อนหวาน  

         “เริ่มพิธีปักปิ่นคุณหนูสามแห่งบ้านสกุลหลิว คุณหนูหลิวซือนัวได้”

          พ่อบ้านตู้ผู้เป็นพ่อบ้านประจำสกุลหลิวและผู้นำพิธีในวันนี้เป็นผู้กล่าวขึ้น หลังจากนั้นขั้นตอนต่าง ๆ ก็เริ่มขึ้นตามลำดับ ใช้เวลาเพียงไม่นานพิธีก็เสร็จสิ้น

           มีงานเลี้ยงน้ำชายามบ่ายเพื่อรับรองแขกที่มารวมงานต่ออีกเล็กน้อย  พ่อบ้านตู้ก็ยังเป็นผู้จัดการดูแลทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อยเหมือนอย่างเคย ส่วนตัวนางนั้นหลังจากที่ร่วมพูดคุยกับฮูหยินหลายคนจากหลากหลายสกุล ที่มารดาของนางพาไปแนะนำและคาราวะพอสมควรแล้ว ถึงได้ขอตัวลากลับไปพักที่เรือนของตน

        หลิวซือนัวกลับเข้าเรือนจันทร์หอม ซึ่งเป็นเรือนที่พักของนาง เรือนพักแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นางเติบโตและอาศัยมาตั้งแต่ยังเยาว์วัยจนถึงบัดนี้ เมื่อกลับถึงเรือนแล้ว นางก็ให้เสี่ยวหนิงช่วยนางเปลี่ยนปิ่นปักผมอันใหม่

         โดยที่นางนำปิ่นปักผมที่ท่านพ่อท่านแม่มอบให้ในพิธีวันนี้เก็บใส่กล่องอย่างดี ก่อนจะให้เสี่ยวหนิงนำไปเก็บนางก็อดไม่ได้ที่จะหยิบปิ่นปักผมออกมาชื่นชมอีกครั้งหนึ่งอย่างละเอียด      

          ปิ่นหยกแกะสลักเป็นลวดลายดอกบัวที่กำลังบานสะพรั่ง ดูเรียบหรูทว่าลวดลายกลับแกะสลักได้อย่างประณีตยิ่งนัก ปิ่นปักผมอันนี้ย่อมต้องมีมูลค่าไม่น้อยอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะท่านพ่อและท่านแม่นั้นย่อมต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่นางเสมอ  

          “เสี่ยวหนิง นำไปเก็บเถอะ ต่อจากนี้เจ้าก็ช่วยข้าดูแลปิ่นปักผมอันนี้ให้ดีด้วย”       

           “เจ้าค่ะคุณหนู บ่าวทราบแล้ว”

            หลิวซือนัวนั้นเริ่มเข้ามาเรียนรู้และช่วยงานกิจการร้านอาภรณ์สกุลหลิวตั้งแต่เมื่อปีก่อน ทว่าไม่เคยเปิดเผยในคนภายนอกรับรู้ จะมีแค่เพียงคนของสกุลหลิวเท่านั้นที่รู้

            วันนี้ในที่สุดนางก็ได้ออกมาทำงานอย่างเปิดเผย ซ้ำยังได้เป็นตัวแทนของร้านอาภรณ์สกุลหลิวเต็มตัวเป็นวันแรก โดยครั้งนี้นางมาเยือนถึงร้านเครื่องหอมสกุลอี้เพื่อเป็นตัวแทนทำการค้าด้วยตัวเอง

            ทว่าผู้ใดจะคิดเหล่าว่าทันทีที่นางก้าวเท้าเข้าไปยังร้านเครื่องหอมสกุลอี้นั้นกับมาได้เวลาเหมาะทีเดียว เพราะดูเหมือนว่าจะมีเหล่าสตรีหลายคนกำลังพูดถึงนางอยู่อย่างสนุกสนาน

            “ได้ยินมาว่า วันก่อนที่บ้านสกุลหลิวจัดพิธีปักปิ่นเสียใหญ่โต คงกลัว ว่าคนทั้งเมืองจะไม่ทราบกระมังว่าบุตรสาวสกุลหลิวถึงวัยออกเรือนแล้ว”    

            “ข้าก็ได้ยินมาเช่นกัน ว่ากันว่าในวันนั้นมีฮูหยินจากหลายสกุลใหญ่ในเมืองไปร่วมเป็นแขกหลายคนทีเดียว สงสัยสกุลหลิวคงอดใจไม่ไหวอยากตบแต่งบุตรสาวให้เป็นฝั่งเป็นฝาโดยเร็วกระมัง”  

           “วันนั้นเชิญแขกมากมายแล้วอย่างไร ข้าได้ยินมาว่าคุณหนูสามสกุลหลิวผู้นี้ไม่ได้มีสิ่งใดโดดเด่น รูปโฉมก็ไม่ได้งดงามเป็นที่เลื่องลือ เห็นทีว่าหากสกุลหลิวคิดจะให้นางตบแต่งออกไปจริง ก็คงจะต้องลงทุนลงแรงกันไปอีกไม่น้อย”

             เสียงหัวเราะอย่างขบขันที่ดังขึ้น ยิ่งเป็นสิ่งย้ำเตือนได้เป็นอย่างดี ว่าพวกนางนั้นเห็นหลิวซือนัวเป็นเพียงเรื่องสนุกปากเพียงเท่านั้น

             “เสี่ยวหนิง การนินทาผู้อื่นสามารถทำได้อย่างเปิดเผยถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันหรือ” นางทำทีเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทของตนเสียงดัง จนสตรีทั้งสามที่เมื่อครู่พากันนินทานางอย่างสนุกปาก ต่างหันมองมาที่พวกนางด้วยสายตาไม่พอใจนัก คงเป็นเพราะว่านางเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาแฝงการนินทาผู้อื่นของพวกนางเข้าพอดี

              “เรียนคุณหนู บ่าวเองไม่เคยนินทาลับหลังผู้อื่นมาก่อน จึงไม่ทราบเจ้าค่ะ” เสี่ยวหนิงตอบกลับคุณหนูของนางเสียงดัง นางเข้าใจดีว่าคุณหนูตั้งใจเอ่ยถามนางเพราะเหตุใด

            “ไม่ทราบว่าพวกเจ้าสองคนนายบ่าวสูงส่งมาจากไหนกัน คำพูดของพวกข้าถึงไม่เข้าหูพวกเจ้าถึงเพียงนั้น”           

            แม่นางผู้สวมใส่อาภรณ์สีชมพูอ่อน ดูอ่อนหวานเรียบร้อย ทว่ายามนี้กับใช้น้ำเสียงแข็งกร้าวไม่น่าฟัง ซึ่งสวนทางกับรูปลักษณ์ภายนอกของตนอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งนางยังเป็นคนแรกที่รีบปรี่เข้ามาหาพวกนางนายบ่าวด้วยท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมากอีกด้วย    

           หลิวซือนัวเห็นเช่นนี้จึงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น            

           “ตัวข้าแม้ไม่ได้สูงส่งมาจากไหน ทว่ากลับเข้าใจดีว่าผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีนั้นย่อมไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่นลับหลังอย่างสนุกปากเช่นที่พวกเจ้ากระทำเมื่อครู่”

            “นินทาผู้อื่นแล้วเกี่ยวอันใดกับเจ้า อย่ามายุ่งเรื่องของผู้อื่นจะดีกว่า หรือว่าบังเอิญคุณหนูสกุลหลิวนั่นเป็นคนรู้จักของเจ้า เจ้าถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนนางเช่นนี้”      

            “นั่นสิ ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแท้ ๆ ช่างยุ่งไม่เข้าเรื่องเสียจริง”

             “พวกเรากล้า พูดย่อมไม่กลัวถูกผู้อื่นได้ยินอยู่แล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องยุ่งให้ได้เสียหน่อย เช่นนั้นก็อย่าให้ต้องมีเรื่องมีราวกันเลยจะดีกว่า”

              “เอาอย่างนี้เป็นอย่างไร ร้านเครื่องหอมนี้เป็นของสกุลอี้ข้า ไม่สู้เจ้าเลือกเครื่องหอมที่ถูกใจสักสองสามอันสิ ข้ายินดีจะมอบให้เจ้านำกลับไปได้เลย ถือซะว่าเป็นของขวัญจากข้า”

               หลิวซือนัวจ้องมองไปที่เจ้าของคำพูดเมื่อครู่ ซึ่งนางเพิ่งบอกว่าตัวเองคือคุณหนูสกุลอี้ผู้เป็นเจ้าของร้านเครื่องหอมแห่งนี้ แถมนางยังมาแสดงความใจกว้างเพื่อแก้ปัญหา

              ทว่าทีท่าของแม่นางอี้ผู้นี้ช่างดูเย่อหยิ่งขัดใจนางยิ่งนัก นางยิ่งมองก็ยิ่งไม่ชอบใจแม่นางอี้ผู้นี้มากขึ้น มากยิ่งขึ้น

              “เครื่องหอมบ้านข้ามีมากมายพอแล้ว คงไม่ต้องรบกวนแม่นางอี้หรอก ท่านเก็บเอาไว้ให้พวกนางก็แล้วกัน” หลิวซือนัวเอ่ย

                “อวดดีเสียจริง” แม่นางผู้สวมชุดสีชมพู่อ่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียไม่พอใจ

               “ร้านเครื่องหอมสกุลอี้ขึ้นชื่อแค่ไหนในเมืองนี้ เจ้าไม่รู้หรืออย่างไร ระวังจะเสียดายภายหลัง”

               “ของสิ่งใดที่ข้าหลิวซือนัวไม่ต้องการ ข้าย่อมไม่มีวันนึกเสียใจแน่ พวกเจ้าเองก็อย่าได้เสียใจต่อการกระทำของตนที่หลังก็แล้วกัน”

                 หลังจากที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมจริงจัง หลิวซือนัวก็เดินออกมาจากร้านเครื่องหอมสกุลอี้ทันที

                 นางตัดสินใจจบการค้ากับสกุลอี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น อีกทั้งรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่งที่สกุลหลิวไม่ต้องร่วมทำการค้ากับสกุลอี้ที่ลับหลังก็ไม่ได้มองสกุลหลิวอย่างจริงใจเช่นนี้

                 การค้าในครั้งนี้ต้องจบลงตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ร้านอาภรณ์สกุลหลิวไม่ได้เสียผลประโยชน์แต่อย่างใด ทว่าหากเป็นทางสกุลอี้กลับต้องตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว เพราะต่อจากนี้สกุลอี้คงต้องลำบากหาผ้าจากที่อื่นมาทำเครื่องหอมแทน เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอกับต้นทุนที่สูงขึ้นเพราะต้องซื้อขายผ้าจากร้านในเมืองอื่น หรือจากร้านเล็ก  ๆ ในเมืองที่มีราคาสูงกว่า

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 2 ข่าวลือหนาหู

    ตอนที่2ข่าวลือหนาหู หลายวันที่ผ่านมานี้ มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับการมีปากเสียงกันระหว่างคุณหนูสกุลหลิวและคุณหนูสกุลอี้ บ้างลือกันไปว่าคุณหนูหลิวเกิดความริษยาต่อคุณหนูอี้เพราะคุณหนูอี้นั่นมีรูปโฉมงดงามกว่า บ้างก็ว่าเป็นเพราะคุณหนูหลิวอยากแสดงอำนาจในมือตนให้เป็นที่ประจักษ์และคุณหนูอี้นั้นก็กลายมาเป็นผู้รับเคราะห์กรรมไปโดยไร้ความผิด ผู้คนที่ได้ยินข่าวลือต่างพากันสงสารคุณหนูสกุลอี้ เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพวกผู้คนที่พากันสงสารคุณหนูสกุลอี้นั้นย่อมต้องพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณหนูหลิวในทางที่ไม่ดี “คุณหนูเจ้าคะ ข่าวลือพวกนี้ต้องเป็นคุณหนูอี้ผู้นั้นเป็นผู้สร้างขึ้นแน่นอนเลยเจ้าค่ะ” เสี่ยวหนิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง นางในยามนี้รู้สึกโมโหแทนคุณหนูของนางเป็นอย่างมาก จนแทบอยากจะออกไปป่าวประกาศในทุกคนรู้กันให้ทั่วเมือง ว่าแท้จริงแล้วคุณหนูอี้ผู้นั้นเป็นคนเช่นไร “ก็แค่ข่าวลือเรื่องหนึ่งเท่านั้น ไม่นานผู้คนก็จะพากันลืมไปเอง” นางเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น มือก็พลิกดูแบบลายปักในมือตนด้วยทีท่านิ่งเฉย “นางจงใจทำให้ชื่อเสียงคุณหนูเสียหา

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 3 มุ่งหน้าสู่เป่ยจู

    ตอนที่ 3มุ่งหน้าสู่เป่ยจู เป็นเวลากว่าห้าวันมาแล้วที่พวกนางเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองเป่ยจู ตลอดทางแม้ไม่ได้สะดวกสบายเท่าใดนักแต่ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว เดินทางลงใต้ในครั้งนี้ ท่านพ่อท่านแม่ส่งผู้คุ้มกันที่คุ้นชินกับการเดินทางและมีวรยุทธ์ อีกทั้งยังเป็นคนที่ไว้ใจได้มาทั้งหมดห้าคนด้วยกัน โดยที่หนึ่งในห้าคนนี้นั้นยังเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเสี่ยวหนิงอีกด้วย พี่ชายของเสี่ยวหนิงผู้นี้มีชื่อว่าเสี่ยวชิง ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าในการเดินทางครั้งนี้ แน่นอนว่านางเองก็คุ้นชินกับเสี่ยวชิงเป็นอย่างดี การเดินทางของนางในครั้งนี้จึงไม่มีสิ่งใดน่ากังวลใจ จนกระทั่งเมื่อเวลาหนึ่งก้านธูปก่อนที่อยู่ ๆ ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนักโดยไม่ให้พวกนางทันได้ตั้งตัว “คุณหนูเจ้าคะ เมื่อครู่พี่ชายบอกกับข้าว่า ข้างหน้าอีกไม่ไกลจะมีอารามร้างอยู่ พวกเราสามารถไปหลบฝนที่นั่นก่อนได้เจ้าคะ” หลิวซือนัวได้ฟังก็รู้สึกใจชื่นขึ้นมา เพราะดูท่าแล้วฝนนี้คงจะไม่หยุดตกง่าย ๆ เป็นแน่ อีกทั้งถนนเรียบชายป่าที่มีต้นไม้มากมายเช่นนี้หากฝืนเดินทางต่อไปย่อมมีแต่อันตราย อย่างไรก็ต้อ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 4 ผู้ร่วมทางคนใหม่

    ตอนที่ 4ผู้ร่วมทางคนใหม่ กว่าฝนจะหยุดตกลงมาก็เป็นเวลาเช้าวันใหม่แล้ว ขบวนเดินทางทั้งสองที่หยุดพักหลบฝนตั้งแต่เมื่อคืนต่างก็พากันเตรียมตัวที่จะออกเดินทางกันต่อแล้ว ยามนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งนัก ราวกับว่าเมื่อวานมิได้มีพายุฝนตกหนักมาก่อน ดั่งคำที่ว่าฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ ท้องฟ้าเบื้องหน้าของนางในยามนี้งดงามมากจริง ๆ กลุ่มก้อนเมฆรวมตัวกันเป็นรูปร่างคล้ายกับปลาทองที่กำลังแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า “เสี่ยวหนิง” นางเอ่ยเรียกสาวใช้คนสนิท ที่กำลังตรวจดูสิ่งของที่ถูกลำเรียงขึ้นไปยังรถม้าอย่างตั้งอกตั้งใจ “เจ้าคะ คุณหนู” นางขานรับคำคุณหนูของตนทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก ก่อนจะเดินไปที่ทางด้านหน้าทางเข้าอารามที่คุณหนูของนางยืนอยู่ “บ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งหรือเจ้าคะ” “เจ้าลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าดูสิ” สิ้นเสียงของคุณหนูที่เอ่ยออกมา เสี่ยวหนิงก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าทันที ก่อนจะร้องออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ “บนท้องฟ้า เมฆปรากฏเป็นรูปปลาทอง เป็นมงคลนักเจ้าค่ะคุณหนู” “ข้ารู้แล้ว จึง

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง     ตอนที่ 5 น้ำใจของนาง

    ตอนที่ 5น้ำใจของนาง อาจเป็นเพราะยาที่กู่เหอให้คุณชายของเขาทานไปเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ทำให้มือหนาที่เคยกุมมือของนางเอาไว้แน่ค่อย ๆ ผ่อนแรงลงทว่าเขาก็ยังคงจับมือของนางเอาไว้อยู่ หลิวซือนัวค่อย ๆ ดึงมือของนางออกจากมือใหญ่ของเขาอย่างช้า ๆ ครั้นอยู่ ๆ เจ้าของมือหนาที่เคยเกาะกุมมือนางเอาไว้แน่นราวปอกเหล็ก ก็สะบัดมือนางออกทันที ทั้งยังผลุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วทั้งที่นางสามารถมองออกได้อย่างชัดเจนว่า เวลานี้เขาไร้เรี่ยวแรงเพียงใดแต่ก็ยังฝืนลุกขึ้นมานั่งจนได้ “ท่านรีบร้อนลุกขึ้นมาเช่นนี้ ร่างกายท่านอาจจะยังรับไม่ไหว หากหมดสติลงไปอีก ข้าว่าคงจะไม่ดีแน่” หลิวซือนัวเอ่ยขึ้น นางลุกขึ้นไปนั่งลงที่อีกฟากหนึ่งของรถม้าซึ่งตรงกันข้ามกับที่ร่างสูงของบุรุษตาบอดนั่งอยู่ “เจ้าเป็นใครกัน” เขาเอ่ยถามขึ้นเสียงแหบแห้ง ทุกคำพูดในยามนี้ของเขาถูกเอ่ยออกมาได้อย่างยากลำบาก “ข้าก็คือคนอีกกลุ่มหนึ่งที่หลบพายุอยู่ที่อารามร้างเช่นกันกับท่านเมื่อ คืน” นางเอ่ยตอบกลับไปอย่างใจเย็น จู่ ๆ ครั้งหนึ่งยามที่นางมองไปทางเขา เมื่อครู่กับรู้สึกสงสารเวทนา เขาข

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 6 โรงเตี้ยมกลางป่า

    ตอนที่ 6โรงเตี้ยมกลางป่า "บ่าวทำตามที่คุณชายสั่งเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ" กู่หรูรายงานผู้เป็นนายของนาง "คุณหนูหลิวยังฝากบ่าวมาบอกท่านอีกว่า ระหว่างท่านกับนางไม่ได้มีผู้ใดติดค้างหรือต้องตอบแทนบุญคุณใด ๆ ต่อกันอีกเจ้าค่ะ" กู่หรูเมื่อรายงานเรื่องทั้งหมดแล้ว ครั้นเมื่อเห็นคุณชายของนางยังคงนิ่งเงียบอยู่ก็รู้ทันทีว่าตนควรออกไปได้แล้ว นางจึงโค้งนำนับครั้งหนึ่งก่อนจะออกจากห้องพักของผู้เป็นนายไป ปล่อยให้กู่เหอพี่ชายนางอยู่ค่อยรับใช้คุณชายต่อเพียงผู้เดียว เหตุที่อวี้หนานไห่นิ่งเงียบเช่นนี้เพราะเขากำลังใช้ความคิดอยู่ เขารู้ดีว่าคุณหนูหลิวที่กู่หรูเอ่ยถึงเมื่อครู่นางเข้าใจดีว่าเขาต้องการสิ่งใดจึงให้คนนำชาชั้นดีไปให้นาง ตั้งแต่ที่วัดร้าง เขาเองด้วยความที่ระวังตัวมาก จึงได้ให้กู่เหอนำชาสมุนไพรชั้นดีไปให้อีกขบวนหนึ่งเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเขาเข้าใจในสถานการณ์ของเขาและยอมที่จะทนหนาว ทุกคนในขบวนของคุณหนูหลิวไม่มีใครใส่ใจหรือตกใจกับชาชั้นดีเช่นนี้ แสดงว่าพวกเขาต่างก็ถูกฝึกมาอย่างดี คุณหนูหลิวผู้นี้ก็ไม่ใช่สายของโจรป่าที่กำลังระบาดหนักอยู

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 7 ปราการด่านสุดท้าย

    ตอนที่ 7ปราการด่านสุดท้าย "รีบพาผู้ติดตามทั้งหมดของพวกเราขึ้นรถม้าเร็วเข้าเถอะ" หลิวซือนัวเอ่ยสั่ง พลางมองไปยังผู้ติดตามทั้งสี่คนของนางที่ยามนี้สลบเพราะถูกวางยานอนหลับและแต่ละคนก็ยังคงไม่ได้สติ "หากนำพวกเขาขึ้นรถม้า แล้วคุณหนูกับคุณชายอวี้จะทำเช่นไรเล่าขอรับ" เสี่ยวชิงถามขึ้นอย่างลังเล อย่างไรก็ไม่อาจทิ้งผู้ติดตามเหล่านี้ได้จริง ๆ ทว่าความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดที่เขาจะต้องนึกถึงก่อนเป็นอันดับแรกก็คือความปลอดภัยของคุณหนูและน้องสาวของเขา วูบหนึ่งเสี่ยวชิงเผลอคิดอย่างเห็นแก่ตัวขึ้นมา หากจำเป็นต้องเลือกเขาก็จะเลือกพาแค่คุณหนูและน้องสาวของเขาหนีไปเท่านั้น "ถ้ามัวแต่ชักช้ากันอยู่เช่นนี้ สุดท้ายแล้วก็คงไม่มีใครรอด" เป็นอวี้หนานไห่ที่เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย "เสี่ยวชิงทำตามที่ข้าบอก นำพวกเขาขึ้นไปให้ครบทุกคน แล้วให้เสี่ยวหนิงทำหน้าที่ควบคุมรถม้าไปยังตัวเมืองเพื่อแจ้งทางการ หรือถ้าเจอหมู่บ้าน หน่วยมือปราบลาดตะเวนก็จงรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือ ส่วนข้า คุณชายอวี้ กู่เหอ เสี่ยวชิง จะขี่ม้าหนีไปอีกทางหนึ่ง" หลิวซือนัวเอ่ยถึงแผนการของตน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 8 ไม่ไร้หนทาง

    ตอนที่ 8ไม่ไร้หนทาง นางไม่รู้ว่ายามนี้ตัวเองควบม้ามาไกลแค่ไหนแล้ว รู้แค่ว่าต้องมุ่งไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เช่นนั้นก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอด จากเคยมีผู้ติดตามหลายคนยามนี้เหลือเพียงแค่นางกับบุรุษใกล้ตายผู้หนึ่งเท่านั้น เพราะว่าไม่รู้ทางจึงไม่รู้ว่ายามนี้พวกตนกำลังอยู่ที่ไหน รู้แค่เพียงว่ามองไปทางใดล้วนแล้วแต่มีต้นไม้เล็กใหญ่ปกคลุมอยู่เต็มไปหมด บุรุษกระดูกผู้ไม่รักชีวิตตน ที่เวลานี้ซ้อนอยู่ด้านหลังนางดูเหมือนจะมีบางอย่างแปลกไปอีกแล้ว นางรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังตัวสั่นคล้ายกับอาการที่เป็นเช่นเดียวกันกับในรถม้า "เจ้าเป็นอะไรหรือไม่" นางเอ่ยถามพลางควบคุมม้าให้ลดความเร็วลงเพื่อเตรียมหยุด หลิวซือนัวไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับมานางจึงเอ่ยต่ออีก "พวกเราน่าจะมาไกลมากแล้ว หยุดพักสักหน่อยก่อนเถอะ" เมื่อม้าหยุดแล้วนางจึงแกะเชือกที่มัดตัวนางกับเจ้าของร่างซีดเซียวออกเพื่อที่จะได้ลงม้าได้สะดวก แต่เมื่อแกะเชือกออกแล้ว ร่างสูงที่ไร้เรี่ยวแรงก็แทบจะไม่อาจทรงตัวอยู่ได้ โชคดีที่นางคว้าตัวเขาเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะตกลงไป

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 9 หมู่บ้านแปลกประหลาด

    ตอนที่ 9หมู่บ้านแปลกประหลาด สองวันผ่านมา หลิวซือนัวได้สติขึ้นอีกครั้งในสถานที่ซึ่งนางไม่คุ้นตา นางถูกช่วยเอาไว้จากคนผู้หนึ่ง เขาบอกนางว่าตัวเองเป็นหมอและบังเอิญช่วยนางที่ไม่ได้สติเอาไว้ที่ริมลำธารด้านข้างของเรือนพักของเขา "ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้" นางเอ่ยขอบคุณท่านหมอพร้อมกับโค้งคำนับอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม "ข้าเป็นหมอ ช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องของข้าอยู่แล้ว โชคดีที่เจ้าไม่เป็นอะไรมาก เพียงร่างกายอ่อนล้าเท่านั้น พักผ่อนให้มากก็ไม่เป็นอันใดแล้ว" "ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยยังมีเรื่องอยากจะขอสอบถามท่านหมออีกเรื่องหนึ่งเจ้าค่ะ" "แม่นางเชิญถามมาได้เลย" "นอกจากข้า ท่านหมอยังช่วยใครเอาไว้อีกหรือไม่เจ้าคะ คือ ตัวข้ากับสหายพลัดตกลงมาด้วยกันเจ้าค่ะ ถ้าท่านหมอพบข้าก็น่าจะพบและช่วยเขาเอาไว้ด้วยเช่นกัน" "ข้าเองกำลังจะถามแม่นางอยู่เช่นเดียวกัน ไม่ผิดข้าช่วยเหลือบุรุษผู้หนึ่งเอาไว้ได้อีกคนหนึ่งเช่นกัน" "เขา ข้าหมายถึงบุรุษผู้นั้นน่ะเจ้าค่ะ เขายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมค่ะ" "แน่นอนว

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13

Bab terbaru

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ 1แม่สามีของข้านั้นดียิ่งนักเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่นางแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่สกุลอวี้ อวี้หนานไห่มีน้องสาวอยู่หนึ่งคนชื่ออวี้จินเชียง จากที่อวี้หนานไห่เล่าให้ฟังก็คือ อวี้จินเชียงนั้นอยู่ที่บ้านเดิมกับท่านยายของพวกเขาตั้งแต่ยังเยาว์เพราะมีร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง อีกไม่นานอวี้หนานไห่ก็จะพานางไปเยี่ยมท่านตาท่านยายและน้องสาวของเขาเพราะว่าฮูหยินอวี้ไม่ใช่สิ เวลานี้นางควรจะเรียกว่าท่านแม่สามีถึงจะถูก เอ็นดูนางเป็นพิเศษดูแลต้อนรับนางเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างอบอุ่น เหมือนกับว่านางเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงลูกสะใภ้ ซ้ำยังชอบให้ท้ายนางอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะยกเลิกไม่ต้องให้นางมาคารวะทุกเช้า ให้เปลี่ยนมาเป็นมาทานมือเช้าเป็นเพื่อนนางบ้างก็พอ ยิ่งเป็นเรื่องข้าวของเครื่องประดับหรืออาภรณ์ แน่นอนว่าอาภรณ์ใหม่ ๆ ของนางไม่มีวันขาดแคลนเพราะว่านางเป็นบุตรสาวจากสกุลที่เปิดร้านอาภรณ์ แต่ยิ่งนางมีเสื้อผ้ามากมายเท่าไหร่ ท่านแม่สามีก็ยิ่งจะยื่นเครื่องประดับจำนวนมากมาให้นาง ทั้งของที่ประมูลมา ของที่หาซื้อได้ตามร้านหรือว่าเครื่องประดับที่ต้องสั่งทำจนยามนี่นางมีเครื่องประดั

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 45 คำนับฟ้าดิน (จบ)

    ตอนที่ 45คำนับฟ้าดิน"หนึ่ง คำนับฟ้าดิน""สอง คำนับบิดามารดา""สาม สามีภรรยาคำนับกันและกัน"หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอ ด้านเจ้าบ่าวก็ถูกรั้งตัวเอาไว้ในงานเลี้ยงมงคล เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานดื่มอวยพร เป็นธรรมเนียมปกติที่ในงานมงคลเช่นนี้เจ้าบ่าวจะต้องถูกมอมเหล้าจากแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายรวมไปถึงญาติมิตรต่าง ๆ ที่มาร่วมงานอวี้หนานไห่ไม่ยอมให้ตนต้องตกเป็นเป้าให้ผู้อื่นมอมเหล้านานเกินไป เข้าทักทายแขกที่มาร่วมงานอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามก็แอบปลีกตัวออกมาแล้วคืนเข้าหอเวลามีค่าแค่ไหน ไม่ต้องให้ผู้ใดต้องมาบอกเขาก็รู้ดี ทันทีที่เข้าได้ก้าวเข้ามาในเรือนหอของตน บนเตียงก็พบกับภรรยา ใช่แล้วหลิวซือนัวภรรยาของเขา และนางจะเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์หลังจากคืนนี้ไป"อวี้หนานไห่เป็นเจ้าหรือ" เจ้าสาวของเขาซึ่งนั่งคลุมหน้าตัวตรงอยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น"เป็นข้าเองภรรยารัก เจ้าควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว" เขาเอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหานาง และใช้ไม้ตวัดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดออกจากศีรษะของนางยามเมื่อผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ความงดงามที่แสนตราตรึงในใจเขาก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าของนางในเวลานี้ค่อน

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 44 ความจริงใจของข้า

    ตอนที่ 44ความจริงใจของข้า"ดู ๆ ข้าก็คิดอยู่ว่าคุณหนูหลิวเหมือนใคร นางเหมือนฮูหยินหลิวนี่เอง ไม่ไหวหน้าผู้อื่นเช่นนี้ไม่มีผิด""ข้าน่ะหรือไม่ไว้หน้า พวกเจ้าต่างหากที่ไม่ไว้หน้ากันก่อน" ฮูหยินหลิวตอกกลับทันที แม่สื่อพวกนี้นางทนพูดดีด้วยอีกไม่ได้แล้ว"ฮูหยิน ท่านใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ" สาวใช้คนสนิทของฮูหยินหลิวรีบเข้ามาห้ามผู้เป็นนายตน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะย่ำแย่ลงไปทุกทีแล้ว"จะให้ข้าใจเย็นได้อย่าง...." ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยจบประโยค ผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งเข้าเหมือนมีเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างเสียก่อน"ฮูหยิน ฮูหยินขอรับ""มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเรื่องตรงหน้ายังไม่ทันได้สะสางก็ดูท่าว่าจะมีเรื่องใหม่เข้ามาแทรกเสียแล้ว"มีขบวน มีขบวน...ใหญ่ ขบวนใหญ่" อาจจะเป็นเพราะวิ่งมาด้วยความเร็ว ซ้ำยังตื่นเต้นจึงทำให้บ่าวชายผู้นี้พูดออกมาไม่รู้ความจนฮูหยินหลิวต้องเอ่ยถามซ้ำหลายรอบ"ขบวน ขบวนอะไร ขบวนอะไรใหญ่กันแน่""เหมือนว่าจะเป็นขบวนสินสอดสินะ" แม่สื่อคนที่หนึ่งผู้ขึ้น บ่าวชายที่มาแจ้งข่าวก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับว่าใช่"คงเป็

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 43 สู่ขอ

    ตอนที่ 43สู่ขออาจจะเป็นเพราะเดินทางไกลมาหลายวัน และก็ไม่ได้นอนพักดี ๆ มาตลอดทาง วันนี้หลิวซือนัวเลยตื่นสายกว่าปกติถึงหนึ่งชั่วยามด้วยกัน กว่าที่จะแต่งตัวหวีผมเสร็จก็กินเวลาช่วงเช้าไปไม่น้อยแล้ว"คุณหนูเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่ให้บ่าวมาแจ้งท่านว่า หากคุณหนูแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณหนูไปพบฮูหยินใหญ่ที่โถงรับรองด้วยเจ้าค่ะ""ได้ข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปแจ้งท่านแม่นะว่าประเดี๋ยวข้าแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบเข้าไปหาท่าน""เจ้าค่ะคุณหนู"สาวใช้ที่ท่านแม่ให้มาแจ้งข่าวนางจากกลับไปแล้ว เวลานี้จึงเหลือเพียงแค่นาง เสี่ยวหนิง และสาวใช้ในเรือนอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังช่วยพวกนางเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ในวันนี้อยู่"เสี่ยวหนิง เจ้าว่าเหตุใดท่านแม่ถึงได้ให้คนมาตามข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ จะมีแขกสำคัญมาหรือไงนะ""บ่าวคิดว่าไม่น่าจะมีแขกนะเจ้าค่ะ ตั้งแต่เช้าไม่เห็นว่าในโรงครัวคึกคักเลย" ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยออกมาตามที่นางคิด เพราะถ้าหากในจวนมีแขกสำคัญ ปกติแล้วในครัวก็มักจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะต้องมีการเตรียมอาหารเอาไว้รับรองแขก"เช่นนั้นแล้วท่านแม่จะเรียกให้ข้าไปพบที่ห้องโถงทำไมกัน" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจคงมีแต่รีบ

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 42 จาก

    ตอนที่ 42จากอีกเพียงวันเท่านั้นนางก็จะต้องเดินทางกลับเมืองเป่ยโจวแล้ว ตามกำหนดการเดินทางกลับที่ท่านแม่ของนางได้กำหนดเอาไว้ พี่ใหญ่ของนางหลิงเค่อกับพี่สะใภ้ฉือหนานเองก็จะเดินทางไปส่งนางกลับจวนและถือโอกาสให้พี่ฉือหนานได้กลับไปเยี่ยมบ้านเดิมด้วย หลังจากวันนั้นที่อวี้หนานไห่และนางได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ความสัมพันธ์ของพวกนางก็มีสถานะเป็นคนรักของกันและกันอย่างเปิดเผย แต่เปิดเผยที่ว่านี้ก็จะมีแค่คนในครอบครัวของพวกนางเท่านั้นที่รู้ ส่วนคนนอกนางและอวี้หนานไห่ก็ไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านั้นจะคิดจะพูดถึงพวกนางอย่างไรมีบางครั้งที่นางและอวี้หนานไห่ออกไปเดินเล่นที่ตลาดด้วยกันบ้างก็ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารต่าง ๆ ในเมือง หลายครั้งก็มีข่าวลือตามมาบ้างทว่าส่วนใหญ่จะลือไปทางที่พวกนางเป็นสหายกันเสียมากกว่า ไม่มีการลือหรือการพูดไปถึงเรื่องเชิงชู้สาวใด ๆ ทั้งสิ้นแน่นอนว่าเรื่องลือเช่นนี้ไม่ถือเป็นผลเสียกับนาง หนำซ้ำยังถือว่าเป็นผลดีต่อร้านสกุลอาภรณ์สกุลหลิวไม่น้อยเช่นกัน เพราะผู้ใดที่อยากสนิทสนมกับหมู่ตึกอวี้ฟางก็จะต้องเข้าหาร้านอาภรณ์สกุลหลิวซึ่งลือกันว่าเป็นสหายกับหมู่ตึกอวี้ฟางเพื่อทำต

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 41 รัก

    ตอนที่ 41รัก"ที่ห้องโถงใหญ่เอะอะอะไรกัน เหตุใดถึงได้เสียงดังมาถึงนี่ เจ้าไปดูหน่อยเถอะ" ฉือหนานเอ่ยขึ้น ก่อนจะสั่งให้สาวใช้คนสนิทของนางออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในวันมงคลเช่นนี้นอกจากฉือหนานแล้วในห้องรับรองขนาดเล็กซึ่งอยู่ติดกับห้องโถงใหญ่ก็มีหลิวซือนัวน้องสามีของนาง และก็ฉือฮั่วลูกพี่ลูกน้องของนางที่มาเยี่ยมนางจากบ้านเกิดเมื่อสองวันก่อนใครจะคิดเล่าว่าการมาที่นี่ของฉือฮั่วซึ่งอ่อนวัยกว่านางเกือบสี่ปีจะทำให้นางได้เจอกับรักแรกพบที่นี่ หนำซ้ำยังถูกสู่ขออย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า นางและผู้เป็นสามีที่ถือเป็นญาติสนิทจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของฉือฮั่วแทนบิดามารดาของนางที่ไว้ใจฝากฝังบุตรสาวเอาไว้ด้วยเพราะเชื่อมั่นและไว้ใจนางกับสามีด้วยเพราะว่าทั้งฝ่ายสู่ขอและฝ่ายถูกสู่ขอต่างก็มีใจต่อกัน การตัดสินใจจริงเป็นไปอย่างดี ทุกฝ่ายตกลงปลงใจที่จะปลูกเรือนร่วมกันวันนี้แค่แลกหนังสือสินสอดเสร็จสิ้นก็หาวันดีจัดงานแต่งได้เลย ด้านหลิวซือนัวยามนี้นางกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกผ้าไหมสีแดงเพื่อตัดชุดแต่งงานให้กับฉือฮั่ว สำหรับฉือฮั่วนั้นนางก็เห็นเป็นสหายมาเนิ่นนาน ซ้ำเมื่อพี่ฉือหนานแต่งเข้ามาจวนสกุลหลิวแล้

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 40 ผู้ใดจะแย่งนางไป ข้าไม่ยอม

    ตอนที่ 40ผู้ใดจะแย่งนางไป ข้าไม่ยอมตลอดสามวันที่เขาต้องเดินทางออกจากเมืองเป่ยจู ไม่มีวันใดเลยที่เขาไม่กังวลหรือคิดถึงนาง ยิ่งเรื่องที่ได้ตัวแม่นมเฉียวผู้ซึ่งเป็นคนอยู่เบื้องหลังการที่นางหมดสติไปด้วยแล้ว เขากับทางการมีการพูดคุยกันเอาไว้แล้วว่าเรื่องทุกอย่างต้องจัดการให้เรียบร้อยและเงียบที่สุด จะต้องไม่ให้มีเรื่องอะไรที่จะมากระทบต่อชื่อเสียงของนางได้เป็นอันขาดอวี้หนานไห่รู้สึกเสียดายที่ตนไม่ได้ไปจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ก็คิดเอาไว้ว่าหลิวเค่อพี่ชายของหลิวซือนัวคงจัดการต่อไปได้ดีเช่นกัน นั่นจึงทำให้เขารู้สึกเบาใจได้เปราะหนึ่ง เมื่อเขากลับเข้ามาในเมืองเป่ยจู ก็สั่งให้รถม้าจอดที่ร้านขนมชื่อดังที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าออกทิศตะวันตกเพื่อซื้อขนมจากร้านนี้ติดมือไปฝากหลิวซือนัว แม้เขาจะมีของฝากขึ้นชื่อจากพื้นที่ ๆ เขาเพิ่งกลับมาอยู่แล้วก็เถอะ แต่ก็ยังอยากเอาของฝากกลับไปให้นางหลาย ๆ อย่าง นางจะได้ดีใจที่ได้เห็นของฝากมากมายจากเขาในระหว่างที่รอให้ทางร้านห่อขนมที่เขาสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน รวมไปถึงขนมที่เขาเพิ่งเลือกซื้อเพิ่มเติมอยู่นั้น ก็มีสตรีวัยกลางคนสองคนก้าวเข้ามาเลือกซื้อขน

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 39 ร้องขออย่างจริงใจ

    ตอนที่ 39ร้องขออย่างจริงใจเช้าวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่แสนจะวุ่นวายสำหรับหลิวซือนัว ตั้งแต่เช้าพี่ใหญ่ให้คนมาเรียกนางไปพบก่อนจะบอกนางว่าทางการพบตัวคนที่เป็นคนใส่ยาบางอย่างในดอกไม้จนทำให้นางหมดสติพลัดตกน้ำไปจนเกือบตายแล้วพี่ใหญ่ยังเอ่ยอีกว่าพรุ่งนี้ทางการต้องการให้นางเข้าไปเพื่อสอบปากคำบางอย่าง การไต่สวนคดีนี้จะทำโดยเงียบเชียบไม่ให้ภายนอกรู้ เพื่อให้ไม่เป็นที่เล่าลือกันไปผิด ๆ หลิวซือนัวเองก็คิดว่าจัดการเรื่องราวเหล่านี้ ให้เสร็จเงียบ ๆ จะดีซะกว่า เพราะว่านอกจากคนในครอบครัวและอวี้หนานไห่แล้วก็ไม่มีใครอื่นรู้ว่าเรื่องที่นางหมดสติพลัดตกทะเลไม่ใช่เพียงอุบัติเหตุพรุ่งนี้ไปที่ศาลประจำเมืองนางก็จะได้รู้แล้วว่าผู้ใดที่อยู่เบื้องหลังและ ต้องการทำร้ายนาง อีกเพียงแค่วันเดียวนางก็จะรู้แล้วว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่ ต้องการให้นางตายหนำซ้ำยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้หลังจากที่นางกลับเรือนพักของตนมาได้ไม่นาน ก็มีสาวใช้มาแจ้งว่ามีคนมาของพบนาง "คุณหนูเจ้าค่ะ สาวใช้ที่เรือนหน้ามาแจ้งว่ามีคนมาขอพบท่านเจ้าค่ะ นางบอกว่าเป็นคุณหนูหยวนจือจากสกุลเวินมาขอพบท่าน" เสี่ยวหนิงเอ่ยรายงาน ตามที่สาวใช้ที่มาแจ้ง

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 38 ไม่อยากบอกลา

    ตอนที่ 38ไม่อยากบอกลา“ในเมืองเป่ยจู เจ้าคงเป็นบุรุษที่น่าอิจฉาที่สุด”“ทำไมเจ้าถึงกล่าวเช่นนี้” เขาถามออกมาอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่ออยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาซะอย่างนั้น“รอบตัวเจ้า มีสตรีงดงามมากมายรายล้อมอยู่ บุรุษใดบ้างจะไม่อิจฉา” นางเอ่ยตอบเขา ก่อนจะพยักพเยิดไปทางที่เหล่าแม่นางจากหอหยวนหมิงรวมตัวเตรียมพร้อมจะลงเรืออยู่"ข้าไม่เคยสนใจพวกนาง" เขาตอบไปในทันที"เป็นไปไม่ได้ที่บุรุษจะไม่สนใจสตรี ยิ่งสตรีแสนงามด้วยแล้ว" "เป็นไปได้ ข้านี่ไง""หากพวกนางมาได้ยินเข้าคงจะเสียใจแย่""เรื่องนั้นข้าไม่เคยคิดที่จะสนใจ" เขาเอ่ยออกมาตามความเป็นจริง ในชีวิตเขามีสตรีที่เขาจะให้ความสนใจเพียงแค่สามคนก็พอแล้ว แค่ ท่านแม่ น้องสาว และนางเท่านั้นไม่นานผู้ดูแลหอหยวนหมิงผู้ที่เคยขวางไม่ให้นางเข้าไปในหอก็เข้ามาหา"คารวะนายน้อยอวี้ คารวะคุณหนูหลิว" เจ๋อเหนียงเอ่ยขึ้นก่อนจะโค้งให้คนทั้งคู่"แม่นางเจ๋อเหนียง พวกเราพบกันอีกแล้วนะ" นางเอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร "ครั้งก่อนเป็นข้าไม่รู้ความ จึงได้กระทำการล่วงเกินคุณหนู ข้าต้องขออภัยด้วยนะเจ้าค่ะ" นางรู้ดีว่าตนควรขออภัยคุณหนูตรงหน้า อีกทั้งไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นก

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status