Beranda / รักโบราณ / ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง / ตอนที่ 9 หมู่บ้านแปลกประหลาด

Share

ตอนที่ 9 หมู่บ้านแปลกประหลาด

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-13 20:44:55

ตอนที่ 9

หมู่บ้านแปลกประหลาด

                                                                      

             สองวันผ่านมา หลิวซือนัวได้สติขึ้นอีกครั้งในสถานที่ซึ่งนางไม่คุ้นตา  นางถูกช่วยเอาไว้จากคนผู้หนึ่ง เขาบอกนางว่าตัวเองเป็นหมอและบังเอิญช่วยนางที่ไม่ได้สติเอาไว้ที่ริมลำธารด้านข้างของเรือนพักของเขา

             "ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้" นางเอ่ยขอบคุณท่านหมอพร้อมกับโค้งคำนับอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม

            "ข้าเป็นหมอ ช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องของข้าอยู่แล้ว โชคดีที่เจ้าไม่เป็นอะไรมาก เพียงร่างกายอ่อนล้าเท่านั้น พักผ่อนให้มากก็ไม่เป็นอันใดแล้ว" 

             "ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยยังมีเรื่องอยากจะขอสอบถามท่านหมออีกเรื่องหนึ่งเจ้าค่ะ"

            "แม่นางเชิญถามมาได้เลย"

            "นอกจากข้า ท่านหมอยังช่วยใครเอาไว้อีกหรือไม่เจ้าคะ คือ ตัวข้ากับสหายพลัดตกลงมาด้วยกันเจ้าค่ะ ถ้าท่านหมอพบข้าก็น่าจะพบและช่วยเขาเอาไว้ด้วยเช่นกัน" 

            "ข้าเองกำลังจะถามแม่นางอยู่เช่นเดียวกัน ไม่ผิดข้าช่วยเหลือบุรุษผู้หนึ่งเอาไว้ได้อีกคนหนึ่งเช่นกัน"

             "เขา ข้าหมายถึงบุรุษผู้นั้นน่ะเจ้าค่ะ เขายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมค่ะ" 

             "แน่นอนว่าเขายังมีชีวิต แต่ชีวิตของเขาข้าก็ไม่แน่ใจนักว่าจะยื้อเอาไว้ได้นานเท่าใดกัน"

             "เป็นเพราะพิษในกายของเขาใช่หรือไม่เจ้าคะ ท่านหมอพอจะมีทางช่วยชีวิตเขาบ้างหรือไม่เจ้าคะ" 

              "ตัวข้าแม้จะเป็นหมอ แต่ก็ยังต้องศึกษาวิชาแพทย์อีกมาก ลำพังความรู้ที่ข้ามีในยามนี้แค่ยื้อชีวิตของเขาเอาไว้ได้ถึงตอนนี้ก็ถือว่าสุดความสามารถแล้ว" หมอหนุ่มเอ่ยตอบออกไปตามตรง 

             "เช่นนั้นท่านหมอหมายความว่าสุดท้ายสหายข้าผู้นี้อย่างไรก็คงต้องจบชีวิตลงเช่นนั้นหรือ" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้น ในใจยามนี้นึกสงสารเจ้าของร่างซูบผอมที่บุกป่าฝ่าดงด้วยกันมา

             "ท้ายที่สุดอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าเขาสามารถอดทนรอจนกระทั่งอาจารย์ของข้ากลับมาจากบนเขาได้ก็อาจจะยังพอมีทางรอดชีวิตได้อยู่"

            "อาจารย์ของท่านจะกลับมาเมื่อไหร่หรือเจ้าคะ เร็วที่สุดไม่เกินอีกเจ็ดวัน ช้าที่สุดก็คงไม่เกิดสิบวัน"

              หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่านหมอหลงอยู่นาน นางจึงได้รู้ว่าเวลานี้นางกับคุณชายอวี้นั้นหลังจากที่ตกลงมาจากน้ำตกแล้วน้ำก็พลัดมาจนถึงบริเวณท้ายหมู่บ้านตู๋ซือ

จากการบอกเล่าของท่านหมอหลงนางจึงได้รู้ว่าหมู่บ้านตู๋ซือนี้เป็นหมู่บ้านที่อยู่ลึกลับภายในป่า

             ทุกคนภายในหมู่บ้านแยกตัวจากโลกภายนอกชัดเจน ทุกคนใช้ชีวิตอยู่แค่บริเวณหมู่บ้านและหุบเขาลึกภายในป่ากว้างนี้เท่านั้น

             อีกเรื่องที่นางยังไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินเท่าไหร่นักก็คือเรื่องที่ท่านหมอหลงบอกว่าทุกคนในหมู่บ้านตู๋ซือนี้ล้วนแล้วแต่มีร่างกายเช่นเดียวกันกับคุณชายอวี้ทั้งหมด 

             ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิงหรือว่าเด็กทุกคนล้วนแล้วแต่ผอมจนเหลือแต่กระดูก ไม่มีใครในหมู่บ้านมีเนื้อหนัง ท่านหมอหลงยังกล่าวอีกว่า หากมีใครมีเนื้อหนังมากจนเกินไปก็จะต้องเฉือนเนื้อส่วนเกินนั้นออกไป ไม่เช่นนั้นพวกคนเหล่านั้นจะถูกบูชายัญเพราะถือว่าเป็นการผิดกฎของหมู่บ้านและเป็นการล่วงเกินเทพเจ้า

             ท่านหมอหลงย้ำเตือนนางหลายครั้งว่าห้ามไม่ให้นางออกจากเรือนหมอแห่งนี้ไปโดยเด็ดขาด อีกทั้งห้ามไม่ให้เหล่าคนในหมู่บ้านพบเห็นนางโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจุดจบของนางอาจจะถึงชีวิตได้

             แน่นอนว่าหลิวซือนัวรู้ว่าถ้านางบังเอิญไปเจอคนในหมู่บ้านเข้า ตัวนางที่ปกติก็อวบอิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวคงไม่พ้นจะถูกบังคับให้แล่เนื้อเฉือนหนังตัวเองออก อีกทั้งนางยังเป็นคนจากภายนอกที่หลงเข้ามาในหมู่บ้าน หากมีใครพบเห็นจุดจบนางก็คงไม่อาจหนีพ้นความตายได้โดยง่าย

             การเชื่อฟังท่านหมอหลงจึงเป็นทางเดียวที่นางและคุณชายอวี้จะสามารถรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้ 

            เนื่องด้วยท่านหมอหลงผู้นี้ไม่ได้มีรูปร่างผอมบางเหลือแต่กระดูกอย่างที่เขาได้บอกว่าคนที่หมู่บ้านนี้ต้องมีรูปร่างเช่นนั้นทุกคน นางเองก็ได้ถามไปแล้วว่าเพราะเหตุใดท่านหมอหลงจึงสามารถอยู่ที่นี่ได้ 

            คำตอบที่ได้ ก็คือเขาและท่านอาจารย์ก็เป็นผู้ที่พลัดตกลงมาจากน้ำตกนั่นเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่ตอนนั้นพวกเขาศิษย์อาจารย์โดนจับไปขังเอาไว้ และเตรียมจะถูกบูชายัญแก่เทพแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นเทพที่ชาวบ้านที่นี่นับถือ กราบไหว้บูชา

             โชคดีที่เวลานั้นผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่ล้มป่วยลง หัวหน้าหมู่บ้านเองก็ป่วยหนักเช่นเดียวกัน พวกเขาศิษย์อาจารย์จึงขอลองรักษาดู

             จนในที่สุดก็สามารถช่วยหัวหน้าหมู่บ้านและคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านเอาไว้ได้ พวกเขาจึงสามารถรอดชีวิตจากการถูกบูชายัญไปได้ อีกทั้งพวกเขายังยินดีจะช่วยส่งพวกตนศิษย์อาจารย์ออกไปจากหมู่บ้านอย่างปลอดภัยเพื่อเป็นการตอบแทนอีกด้วย

             แต่พวกเขากลับขออยู่ที่หมู่บ้านนี้ต่อเพื่อศึกษาสมุนไพรแปลก ๆ ที่มีอยู่ที่นี่อีกทั้งอาจารย์ของเขายังรับบุตรสาวหัวหน้าหมู่บ้านเป็นลูกศิษย์อีกด้วย เพื่อที่วันหนึ่งหากพวกตนออกไปจากหมู่บ้านแล้ว จะมีคนที่รู้วิชาแพทย์ค่อยรักษาคนในหมู่บ้านต่อไป

            เห็นว่าที่อาจารย์ของท่านหมอหลงขึ้นเขาไปนั้นก็มีศิษย์น้องของเขาผู้เป็นลูกสาวของหัวหน้าเผ่าตามไปด้วย เห็นว่าแม้นางจะเป็นลูกสาวหัวหน้าเผ่าแต่ก็มีจิตใจดีมาก ไม่หัวโบราณคร่ำครึ หากลงเขามาแล้วเจอเข้ากับนางที่เป็นคนต่างถิ่นก็คงไม่เป็นอะไร

             หรือถ้าเกิดสิ่งใดขึ้นตามมาท่านหมอหลงกับอาจารย์ของเขาก็จะเป็นผู้ออกหน้าให้พวกนางเอง อย่างน้อยในฐานะอาจารย์และศิษย์พี่ หากขอร้อง อีกฝ่ายจะต้องยอมแน่

             ในเมื่อต้องรอไปอีกไม่ต่ำกว่าเจ็ดวันสิบวัน สิ่งที่ท่านหมอหลงพอจะใช้ระงับพิษของคุณชายอวี้ได้มีเพียงสูตรยาระงับพิษที่ปรุงกับสมุนไพรถึงสิบสองชนิด ท่านหมอหลงยังเอ่ยอีกว่ามีสมุนไพรที่หายากถึงสามชนิดด้วยกัน ด้วยสามชนิดนี้มีแค่ที่หมู่บ้านตู๋ชือนี้เท่านั้น อีกทั้งสมุนไพรทั้งสามตัวนี้ก็ดูเหมือนจะใช้กับคุณชายอวี้ได้ดีทีเดียว

            "มาเถอะกินข้าวเสีย อีกเดียวท่านหมอหลงนำยามาให้จะได้รีบดื่มตอนยังร้อน ๆ " นางเอ่ยขึ้นกับบุรุษที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่เตียง บนศีรษะของเขายังมีผ้าพันแผลพันเอาไว้เช่นเดิม ที่ดวงตาเองก็มีผ้าผูกเอาไว้เช่นเดิมเหมือนกัน

             "ข้าทานเองได้แล้ว หลายวันนี้รบกวนคุณหนูหลิวแล้ว" เจ้าของดวงตาบาดเจ็บเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่กับมีพลัง เขาเอ่ยเสร็จก็ยื่นมือออกไปเตรียมรับชามข้าวมาถือเอาไว้เอง

             หลายวันมานี้ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองยังไม่ตาย ทั้งยังได้พบกับคุณหนูหลิวผู้นี้

             ยิ่งไปกว่านั้นยังได้พบกับท่านหมอที่บอกว่าพิษที่เขาได้รับพอที่จะมีทางรักษาได้ เขาที่ใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการเดินทางเสาะหาหมอมาทั่วทั้งแดนใต้ จนหมดสิ้นความหวังที่จะรักษาไปแล้ว กลับมามีความหวังขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง

             "ข้าไม่ถือว่าเป็นการรบกวนอันใดหรอก คุณชายอวี้ก็อย่าได้คิดมากเลย เอาไว้ท่านหายป่วยแล้วค่อยตอบแทนข้าก็ได้" นางเอ่ยก่อนจะยืนยันอีกครั้งที่จะป้อนอาหารให้เขา

            "ข้าอวี้หนานไห่ จะจดจำน้ำใจนี้ตลอดไป" 

            "เช่นนั้นก็รีบกินเข้าเถิด น้ำใจของข้าท่านก็ต้องรับไปให้มากๆหน่อยเล่า" เจ้าของเสียงหวานเอ่ยอย่างขบขัน นางป้อนอาหารคนป่วยได้เยอะทีเดียว 

            ท่านหมอหลงยามเมื่อนำยาเข้ามาให้ยังเอ่ยชมเลยมาคุณชายอวี้นั้นทานอาหารได้มากขึ้นแล้ว แม้ว่าจะดูหน่อยยิ่งกว่านางกินไปมากแต่สำหรับร่างกายเขาแล้ว กินอาหารได้เพิ่มเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าดีมากแล้ว

           "ยาที่ข้าปรุงจะช่วยระงับพิษได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นเพื่อให้เจ้าทนรอได้ถึงยามที่อาจารย์ของข้ากลับมาได้ ยาที่ข้าปรุงเจ้าจะต้องกินวันละสามเวลาอย่าได้ขาด ยานี้พอจะทำให้เจ้าทานอาหารได้บ้าง มิใช่กินไม่ได้เลยอย่างแต่ก่อน"

            "ขอบคุณท่านหมอมากขอรับ"

            "แล้วก็แม่นางหลิว ที่เรือนไม้ไผ่ด้านหลังมีห้องหนังสืออยู่ แม่นางเลือกหนังสือจากที่นั้นมาอ่านได้ เอาล่ะพวกท่าน ข้าขอตัวไปเตรียมสมุนไพรก่อน"

            หลังจากท่านหมอหลงไปแล้ว นางจึงช่วยคุณชายอวี้จัดเตียง เพื่อให้เขานอนพักผ่อนต่อไป ส่วนนางก็ออกจากห้องพักของเขาไปที่ห้องหนังสือ

            หนังสือที่นี่มีไม่น้อยทีเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพรต่าง ๆ เรื่องพิษเรื่องการฝังเข็มบ้าง แน่นอนว่านางคงอ่านเรื่องพวกนี้ได้ไม่เข้าใจแน่ ยังดีที่ยังพอมีหนังสือเกี่ยวการดูแลส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นางจึงอยู่อ่านหนังสือที่เรือนหนังสือนี้ได้จนถึงช่วงเย็น

            ตกเย็นนางก็แวะไปที่ห้องครัวเพื่อเป็นลูกมือท่านหมอหลงทำอาหารและเตรียมต้มยา

ในอดีตนางในอายุยี่สิบกว่า ๆ ทำอาหารไม่เป็นสักอย่าง ทว่ายามนี้ในมิติใหม่และชีวิตใหม่นี้ มารดาของนางพอจะสอนเข้าครัวบางเล็กน้อย ทำให้นางพอจะหยิบจับข้าวของในครัวคล่องมืออยู่บ้าง

             เมื่อมื้อเย็นเสร็จสิ้น เป็นเช่นเดิม หลิวซือนัวยังคงทำตัวประหนึ่งสาวใช้ของคุณชายอวี้ นางช่วยเขาล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า และปรนนิบัติทานอาหารและป้อนยา

             ทุกครั้งที่คุณชายอวี้ขัดขืน นางก็จะดื้อดึงเช่นเดิม ยังไงนางก็จะปรนนิบัติเขาให้ได้ เพราะที่เรือนหมอแห่งนี้เรื่องที่พอจะทำให้นางพอจะแก้เบื่อได้บ้างก็คงมีแต่การปรนนิบัติเขาเท่านั้น 

            จะให้ค่อยไปรบกวนเวลาของท่านหมอที่ศึกษาหาวิชาแพทย์ต่าง ๆ อยู่ก็เกรงว่าจะเป็นการรบกวนเวลาอันมีข้าของอีกฝ่าย ฉะนั้นสามวันมานี้หลิวซือนัวจึงได้แทบจะตัวติดอยู่กับคุณชายแซ่อวี้ผู้นี้ตลอดเวลา

            "ข้าเป็นคนเป่ยเจียง จะเดินทางไปหาพี่ชายที่เป่ยจู แล้วเจ้าล่ะจะไปเป่ยจูทำไมกัน ไปหาหมอหรือ" 

           คืนนี้หลังจากที่นางให้อวี้หนานไห่ดื่มยาเสร็จแล้ว ก่อนจะกลับห้องพักของตัวเองจึงรั้งอยู่พูดคุยกับเขาต่ออีกครู่หนึ่ง

           "ข้าเป็นคนเป่ยจูอยู่แต่เดิม ออกเดินทางทั่วแดนใต้กลับไร้หมอที่จะรักษาข้าได้ ครั้งนี้ตั้งใจกลับไปตายที่บ้าน" เขาเล่าเรื่องตัวเองอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน

             "เมืองเป่ยจูใหญ่มากใช่หรือไม่ ข้าได้ยินว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแดนใต้ทีเดียว ภายในเมืองคงครึกครื้นน่าดูเชียว"

             "เป็นเมืองใหญ่และติดกับทะเลน่ะ เรียกได้ว่าเป็นท่าการค้าขนาดใหญ่ก็ว่าได้ เพราะว่าติดทะเลจึงมีพ่อค้าจากต่างแคว้นต่างถิ่นมากมายทีเดียว"

             "เช่นนั้นถ้าไปที่เมืองเป่ยจูก็จะได้เห็นสินค้าแปลกตามากมายใช่หรือไม่"

             "แน่นอนย่อมเป็นเช่นนั้น เอาไว้ถ้าเจ้าได้ไปที่เป่ยจูจริง ข้าจะทำหน้าที่เจ้าบ้านต้อนรับคุณหนูหลิวอย่างดีแน่นอน"

             "เจ้าสัญญาแล้วนะคุณชายอวี้ หากข้าไปเยือนเมื่อไหร่ท่านจะต้องต้อนรับข้าให้ดีด้วย"

             จากตอนแรกจุดหมายของนางคือเมืองเป่ยจูยามนี้กลับมาอยู่ที่หมู่บ้านกลางป่าเขาลึกลับ หากโชคดีออกไปจากที่นี่ได้ก็คงจะต้องเดินทางกลับเป่ยเจียง ไม่อาจตรงไปที่เมืองเป่ยจูได้อีกแล้ว 

            นางหายไปหายวันขนาดนี้แล้ว เรื่องคงไปถึงพี่ใหญ่นางแล้วว่านางหายตัวไป ไม่รู้ว่ายามนี้เสี่ยวหนิง เสี่ยวชิง แม่นางกู่หรูและคนอื่น ๆ จะยังปลอดภัยหรือไม่ นางได้แต่หวังให้ทุกคนปลอดภัยมีชีวิตรอด

           หลิวซือนัวและอวี้หนานไห่เองก็จะต้องรอดปลอดภัยด้วยเช่นกัน รอจนคุณชายอวี้ถอนพิษได้แล้ว พวกนางก็จะรีบออกจากหมู่บ้านนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อกลับไปหาครอบครัวของตน

           พวกนางคุยกันต่อ นางถามถึงข้าวของรวมไปถึงอาหารขึ้นชื่อของเป่ยจู เขาเองก็ตอบมาอย่างละเอียด จบจนค่ำมากแล้ว นางจึงจะขอตัวกลับห้องพักของตน

            ยังไม่ทันที่จะได้เปิดประตูออกจากห้องพักของคุณชายอวี้ ด้านนอกเรือนพักก็มีเสียงคนหลายคนวิ่งเข้ามาที่เรือนหมอเสียก่อน 

           โชคดีที่นางดับเทียนได้ทัน ภายในห้องพักจึงไม่มีแสงสว่างหลงเหลืออยู่พอที่จะเป็นที่สงสัยของผู้มาใหม่หลายคน

             "ท่านหมอหลง อยู่หรือไม่ ป้าจวงอยู่ๆก็หมดสติไป"

             "ท่านหมอหลง ท่านหมออยู่ที่ไหนขอรับ

              "ท่านหมอหลง ท่านหมอเจ้าคะ"

            คนเหล่านี้ร้องเรียกไปด้วยสำรวจตามห้องต่างๆไปด้วย จนหลิวซือนัวอดกลัวไม่ได้ว่าห้องที่นางอยู่อาจจะถูกเปิดออกเมื่อไหร่ก็ได้

           นางค่อยๆก้าวเดินจากประตูเพื่อไปรวมกับคุณชายอวี้ที่นอนอยู่บนเตียง 

           "มีคนมา พวกเขาจะเจอเราหรือไม่" นางกระซิบถามคนบนเตียงเสียงเบา

            "อย่าได้กังวนไปเลย เจ้ารีบปีนขึ้นเตียงมาก่อนเถอะ" เขารีบกระซิบตอบกับไป

            หลิวซือนัวไม่รอช้า นางปีนข้ามร่างสูงเข้าไปนั่งอยู่ที่เตียงด้านในตามที่เขาบอก

            หากประตูถูกเปิดเข้ามาจริงๆอย่างน้อยๆก็ยังมีม่านกันเตียงที่พอจะบังพวกนางเอาไว้ได้ 

             "ท่านหมอหลง ท่านหมอท่านหลับแล้วหรือขอรับ"

            เสียงพูดดังขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดนางก็รู้สึกว่าพวกเขามาหยุดลงที่หน้าประตูห้องของพวกเขาแล้ว อีกไม่นานประตูคงถูกเปิดเข้ามาและพวกนางก็คงจะถูกพบเข้า 

             วินาทีต่อมา ประตูก็ถูกผลักเข้ามาจริงๆ

            แอ๊ด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 10 ไม่นึกเสียใจ

    ตอนที่ 10ไม่นึกเสียใจภายในห้องพักที่ไม่มีแม้แต่แสงจากเทียนสักเล่มหนึ่ง (จะมีได้อย่างไร ในเมื่อนางเป็นคนดับเทียนเองกับมือ) หนึ่งชายหนึ่งหญิง กำลังนั่งตัวแข็งทือยู่บนเตียงใหญ่ พร้อมกับคำภาวนาในใจ แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าภาวนาไปก็เท่านั้นแต่นางก็ยังภาวนาต่อไปแอ๊ด...เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ก่อนเจ้าของฝีเท้าหนัก ๆ ก็ก้าวเข้ามาภายในห้อง"ท่านหมอหลง อยู่หรือไม่ขอรับ" "ท่านหมอหลับไปแล้วหรือเปล่า เจ้าลองเข้าไปเรียกดูที่เตียงเถอะ" ชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น"ได้" บุรุษผู้หนึ่งรับคำ เงาร่างที่ก้าวเข้ามาใกล้ ๆ เตียงทำให้เจ้าของร่างอวบอิ่มตื่นเต้นจนเผลอกลั้นหายใจไปครู่หนึ่งเลยทีเดียว โชคดีที่คุณชายอวี้สะกิดนางให้รู้สึกตัว คุณชายอวี้เอามือของเขาสอดเข้าไปใต้หมอน ก่อนจะหยิบมีดเล่มหนึ่งขึ้นมาถือไว้มืออีกข้างหนึ่งของเขายื่นมาจับมือนาง ก่อนจะง่ายฝ่ามือนางขึ้น และใช้นิ้วมือของเขาเขียนประโยคหนึ่งที่มือของนางทีละคำได้จังหวะก็หนีออกไปซะ ข้าจะไม่ขอเป็นภาระของเจ้าหลังจากประโยคเหล่านี้ถูกเขียนเสร็จ มือของนางถูกเขากุมเอาไว้แน่ ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะถูกปล่อยออกอย่างแผ่วเบาหลิวซือนัวรับรู้ได้ในทันทีว่าเขาจะสู้ตาย

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 11 เริ่มการค้นหา

    ตอนที่ 11เริ่มการค้นหารอดมาจากความตายได้ถือเป็นปาฎิหาริย์ สำหรับเสี่ยวชิงและกู่หรูเป็นอย่างมาก กู่หรูยังจำเหตุการณ์ที่นางร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันกับเสี่ยวชิงได้ วันนั้นนางและเขาในฐานะที่เป็นบ่าวยินยอมและเต็มใจอย่างยิ่งที่จะสละชีวิตเพื่อให้ผู้เป็นนายทั้งสองของตนหนีรอดทั้งเสี่ยวชิงและนางหมายจะตั้งตนเป็นดั่งเช่นกำแพงเหล็กกล้าที่ทนทาน พวกนางอดทนต่อสู้จนบาดแผลเต็มตัวแต่ก็ยังยืนหยัด เลือดไหลนองเต็มพื้นก็ยังคงกำดาบในมือเอาไว้แน่น ถึงแม้ว่าสุดท้ายพวกตนจะไม่สามารถยืนต้านพวกโจรเอาไว้ได้อีกแต่ก็ถือว่าถ่วงเวลาไปได้ไม่น้อยทีเดียว อย่างน้อย ๆ ก็คงจะพอให้ผู้เป็นนายตนหนีไปได้ไกลพอสมควรแล้วคงจะเป็นเพราะสวรรค์เกิดเมตตาเห็นว่าพวกนางภักดีจึงยังไม่อยากให้ตาย หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะพวกนางยังพอจะมีโชคดีเหลือติดตัวอยู่บ้าง จึงทำให้ในช่วงเวลาที่เกือบจะถือว่าเป็นช่วงเวลาสุดของชีวิต พี่ชายนางกู่เหอถึงได้ตามมาได้ทันพร้อมกับหน่วยลาดตระเวนของทางการที่ดูเหมือนว่าเป็นเสี่ยวหนิง สาวใช้ของคุณหนูหลิวเป็นผู้ตามให้มาช่วย ยามที่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังความตายจึงได้รู้ว่า ตอนนี้นางและเสี่ยวชิงถูกพามารักษาตัวที่หม

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 12 หมอเทวดาอู๋อิน

    ตอนที่ 12หมอเทวดาอู๋อินดึกสงัด คืนนี้อยู่ ๆ นางก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกไม่ใคร่จะสบายใจนัก เจ้าของมือเรียวสวยรินน้ำใส่ชาม ก่อนจะยกดื่มหมดชามในคราเดียว ไม่ใช่ว่านางรู้สึกกระหาย เพียงต้องการให้ร่างกายได้รับความสดชื่นเพิ่มเข้ามาเพียงเท่านั้นแต่ก็ดูเหมือนน้ำเต็มชามนั้นจะไม่ได้ช่วยให้ใจนางสงบลงได้เลยร่างบางจึงลุกขึ้นสวมใส่เสื้อตัวนอกให้เรียบร้อย หมายจะออกไปเดินเล่นเสียหน่อยให้ได้ผ่อนคลายบางตั้งแต่ที่ต้องอยู่ที่หมู่บ้านตู๋ชือแห่งนี้ ทุกวันคืนผ่านพ้นไปได้อย่างไม่ค่อยง่ายดายนัก ต้องคอยหลบซ่อนกลัวว่าจะถูกพบเห็นเข้า ในทุกๆวันนางไม่อาจแสดงความกังวลใจออกมาได้ จำต้องเก็บเอาไว้ภายในใจ และแสดงความร่าเริงออกมาแทน คุณชายอวี้ผู้นั้นค่อนข้างมืดมนทีเดียว ในใจเขาน่าจะมีเรื่องราวในด้านร้ายๆให้ค่อยคิดอยู่ตลอดเวลา หากเพิ่มความกังวลใจต่างๆของนางเข้าไปอีก ผลลัพธ์ก็คงจะเลวร้ายยิ่งกว่าแล้วนางก็คิดว่านางคิดถูกแล้วที่แสดงท่าทีร่าเริงออกมา หลายวันมานี้มันทำให้คุณชายอวี้นั่นผ่อนคลายลงได้อย่างมาก และนางคิดว่านั่นเป็นการดีต่อการรักษาของเขาเป็นอย่างมากรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนว่าจะเข้าที่เข้าทางเช่นกัน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 13 สตรีผู้มีรูปโฉมดั่งในคัมภีร์

    ตอนที่ 13สตรีผู้มีรูปโฉมดั่งในคัมภีร์จางซีรีบร้อนหมายจะเดินไปบอกอาจารย์เกี่ยวกับรูปเหมือนของแม่นางหลิวที่นางเคยเห็นอยู่ในคัมภีร์โบราณของหมู่บ้าน ทว่ายังไม่ทันที่นางจะได้เข้าไปแจ้งต่อท่านอาจารย์และศิษย์พี่หลงถึงเรื่องนี้ท่านพ่อของนางหรือก็คือหัวหน้าหมู่บ้านตู๋ชือ ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมาอยู่ที่เรือนหมอท้ายหมู่บ้านได้ ทั้งที่ในตามปกติแล้วหากท่านต้องการพบนางก็มักจะใช้ลูกพี่ลูกน้องของนางหรือไม่ก็คนในหมู่บ้าน ให้มาตามนางให้ไปพบ เนื่องด้วยขาข้างขวาของท่านพ่อของนางเดินเหินไม่สะดวกเพราะโรคเรื้อรัง จึงไม่เคยมาด้วยตนเองเลยสักครั้งครั้งนี้น่าแปลกที่ท่านพ่อกับเดินมาถึงที่นี่ด้วยตนเอง ไม่ใช่ว่ารู้เรื่องของคนทั้งสองที่ศิษย์พี่ของนางได้ช่วยเอาไว้หรอกนะ แต่นางอาจจะคิดมากไปเอง เพราะหากท่านพ่อล่วงรู้ว่ามีคนนอกอยู่ในหมู่บ้านจริง คงพาคนมาหลายคนเพื่อจับตัวกลับไปแล้ว ไม่มีนางมาคนเดียวเช่นนี้"ท่านพ่อ ท่านมาที่นี่ด้วยตัวเองได้เช่นไร อยากพบข้าหรือเจ้าคะ ทำไมไม่ให้คนอื่นมาเรียกข้าเล่า" จางซีเอ่ยถามบิดาตน นางยิ้มแย้มเอ่ยถามอย่างปกติ พยายามไม่แสดงท่าทีผิดปกติใด ๆ "พ่อไม่ได้มาท้ายหมู่บ้านนานแล้ว ในฐานะหัวหน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 14 พิธีรำลึกองค์เทพ

    ตอนที่ 14พิธีรำลึกองค์เทพพิธีรำลึกองค์เทพ ของหมู่บ้านตู๋ชือ คือพิธีที่ทุกคนในหมู่บ้านจะต้องร่วมกันสวดวิงวอนและขอบคุณในความเมตตาขององค์พิธีนี้ช่วงกลางวันจะให้ทุกคนในหมู่บ้านมารวมตัวกัน ณ ลานพิธีในหมู่บ้าน ซึ่งทุกคนจะร่วมกันสวดบูชาองค์เทพโดยไม่กินหรือดื่มสิ่งใดจนกว่าพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วจึงอนุญาตให้รับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ อีกทั้งในยามค่ำคืนก็จะเป็นการร่ายรำบูชาองค์เทพ โดยจะมีการร่ายรำไม่หยุดตลอดทั้งคืน ทุกคนในหมู่บ้านห้ามไม่ให้มีผู้ใดไม่เข้าร่วมพิธีรวมไปถึงออกจากพิธีกลางคันก็ไม่ได้ พิธีรำลึกนี้จัดจะจัดโดยคำสั่งของหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้น โดยที่จะมีตระกูลร่างทรงเทพประจำหมู่บ้าน เป็นผู้เลือกสรรวันเวลา ที่หมู่บ้านตู๋ชือแห่งนี้ห่างหายจากการทำพิธีรำลึกเช่นนี้ไปกว่าสิบปีแล้ว เพราะทางตระกูลร่างทรงเทพประจำหมู่บ้านไม่ได้มีการเอ่ยสั่งให้จัด เนื่องด้วยไม่ได้มีฤกษ์งามยามดีที่เหมาะแก่การจัดพิธีนี้แปลกที่ผ่านมาสิบปี อยู่ ๆ พิธีรำลึกองค์เทพนี้ก็ถูกสั่งให้จัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้าจางซีบอกเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับพิธีรำลึกให้อาจารย์กับศิษย์พี่ของนางฟัง "มีอีกเรื่องห

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 15 เรื่องราวที่อยู่ในใจ

    ตอนที่ 15 เรื่องราวที่อยู่ในใจ"เสี่ยวไห่ ข้าอยากจะไปล่าสัตว์ในป่าซะหน่อย อยู่แต่ในเมืองเช่นนี้รู้สึกอุดอู้ยิ่งนัก เจ้าจะไปกลับข้าหรือไม่""พี่เฟิงชวนข้าทั้งที ข้าย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว""ดีมาก เจ้าสมกับเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับข้า!!!""ข้าขอตัวไปเตรียมอุปกรณ์ล่าสัตว์ก่อนก็แล้วกันพี่รอข้าสักเดี๋ยวก่อน""ไม่มีปัญหา เจ้ารีบไปนำของ ๆ เจ้ามาเถอะ""พี่เฟิง ผู้ติดตามของข้ากู่เหอไม่อยู่ คงใกล้กลับแล้ว เดี๋ยวข้าขอส่งจดหมายไปเรียกเจ้านั้นให้ตามพวกเราไปล่าสัตว์ด้วยจะดีกว่า พี่เฟิงคงยังไม่ทราบเจ้ากู่เหอล่าสัตว์เก่งทีเดียว""เสี่ยวไห่ พี่ว่าเจ้าไม่ต้องเรียกคนของเจ้าให้ตามมาหรอก กว่าคนของเจ้าจะมาพวกเราก็คงล่าสัตว์กันเสร็จแล้ว พวกเราไปกันสองคนเช่นนี้ล่ะดีแล้ว""พี่เฟิง กล่าวเช่นนี้ ก็เอาตามที่พี่เฟิงว่า พวกเราสองคนพี่น้องเข้าป่าไปล่าสัตว์ด้วยกันแค่สองคน""หนานไห่ เหมือนว่าเจ้าจะยิงถูกหมาป่าตัวหนึ่งเข้าแล้ว เจ้ารีบลงไปดูฝีมือการยิงธนูของเจ้าเถอะ"เจ้าของใบหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตรเอ่ยกับเขา อวี้หนานไห่ ลงจากม้าตรงไปยังจุดที่ธนูของเขายิงออกไปเมื่อครู่ ก็พบว่าธนูที่ยิงออกมานั้นยิงถูกเจ้าหมาป่าตัวหนึ่งจริง ๆ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 16 เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

    ตอนที่ 16เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนแค่อีกนิดเดียวเท่านั้น อีกแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดก็จะออกจากเขตของหมู่บ้านไปได้แล้ว หากไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ ไม่รู้ว่าพวกบุรุษสูงใหญ่กว่าสิบคนนี้โผล่มาจากที่ใดกัน พอรู้ตัวอีกทีก็ตกอยู่ในวงล้อมของพวกเขาเข้าซะแล้ว"ในหมู่บ้านกำลังจะจัดพิธีสำคัญขึ้น พวกท่านไม่อยู่แล้วตามคำเชิญของข้าซะหน่อยหรือ"เสียงดังเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลังของกลุ่มคนที่ล้อมพวกนางเอาไว้ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะฝ่าเข้ามาในวงล้อมเพื่อเผชิญหน้ากับพวกนาง"ท่านพ่อ..." เพียงคำเดียวที่แม่นางจางซีเอ่ยออกมาก็ทำให้หลิวซือนัวรู้สถานะของคนที่น่าจะเป็นผู้นำคนเหล่านี้มาล้อมพวกนางเอาไว้ได้ในทันที"ซีเอ๋อร์ เจ้าจะพา แขก ออกไปจากหมู่บ้านได้อย่างไร ทุกเรื่องในหมู่บ้านมิใช่ต้องให้พ่อเป็นคนสั่งการหรือ แต่เจ้ากับมีความคิดซ้ำยังกระทำการปิดบังเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน""ท่านพ่อ...ข้าแค่..."สีหน้าของแม่นางจางซียามนี้ช่างดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างเห็นได้ชัด ซ้ำแววตายังสั่นไหวแฝงไปด้วยความหวาดกลัวดังกล่าว"แค่เห็นคนอื่นดีกว่าพ่อแท้ ๆ ดีกว่าคนในหมู่บ้าน" เสียงเย็นของผู้เป็นถึงหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขึ้นกับผู้เป็

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 17 วาระสุดท้าย และความจริงทั้งหมด

    ตอนที่ 17วาระสุดท้าย และความจริงทั้งหมดกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ บุรุษผู้มีผ้าคาดปกปิดดวงตาอยู่ในขณะนี้ยืนอยู่ท่ามกลางกองศพที่นอนแน่นิ่งอยู่บนอันเยือกเย็นมือทั้งสองข้างของเขาในยามนี้เต็มไปด้วยคราบเลือดของคนที่ถูกเขาสังหารด้วยมืดสั้นที่เขาพกติดตัวอยู่เสมอ"คิดไม่ถึงว่าคนตาบอดอย่างเจ้าจะฆ่าคนได้โหดเหี้ยมเช่นนี้" หัวหน้าหมู่บ้านจางเอ่ยขึ้น เพื่อจะถ่วงเวลาหวังให้คนของตนที่ยังเหลืออยู่ค่อย ๆ ขยับเข้าไปล้อมเจ้าบุรุษตาบอดนี้เอาไว้สตรีผู้นั้นกับหมอสองคนหนีไปได้แล้ว เขาไม่อาจเสียเหยื่อบูชายัญคนสุดท้ายที่เหลือไปได้อีก อย่างไรก็ต้องจับบุรุษตาบอดผู้นี้ไปบูชายัญให้ได้"เจ้ายังนำคนเป็น ๆ ไปเผาบูชายัญได้เลย เหตุใดข้าจะทำบ้างไม่ได้" อวี้หนานไห่ตอกกลับไป เขาไม่ได้ฆ่าผู้บริสุทธิ์เช่นที่ผู้เฒ่าแซ่จางผู้นี้กำลังทำ แต่เขาฆ่าเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น คนที่ถูกเขาฆ่าล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ต้องการฆ่าเขาทั้งนั้น คนเหล่านี้จบชีวิตลงไปก็สมควรแล้ว"พูดได้ดี เอาไว้ข้าได้เจ้ามาเป็นเครื่องบูชายัญเมื่อไหร่ ข้าสัญญาว่าจะค่อย ๆ กรีดเนื้อของเจ้าออกมาทีละนิด ๆ ก่อนจะเผาให้เจ้าตายไปช้า ๆ ก็แล้วกัน""วิปลาส""ข้า

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19

Bab terbaru

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ 1แม่สามีของข้านั้นดียิ่งนักเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่นางแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่สกุลอวี้ อวี้หนานไห่มีน้องสาวอยู่หนึ่งคนชื่ออวี้จินเชียง จากที่อวี้หนานไห่เล่าให้ฟังก็คือ อวี้จินเชียงนั้นอยู่ที่บ้านเดิมกับท่านยายของพวกเขาตั้งแต่ยังเยาว์เพราะมีร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง อีกไม่นานอวี้หนานไห่ก็จะพานางไปเยี่ยมท่านตาท่านยายและน้องสาวของเขาเพราะว่าฮูหยินอวี้ไม่ใช่สิ เวลานี้นางควรจะเรียกว่าท่านแม่สามีถึงจะถูก เอ็นดูนางเป็นพิเศษดูแลต้อนรับนางเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างอบอุ่น เหมือนกับว่านางเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงลูกสะใภ้ ซ้ำยังชอบให้ท้ายนางอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะยกเลิกไม่ต้องให้นางมาคารวะทุกเช้า ให้เปลี่ยนมาเป็นมาทานมือเช้าเป็นเพื่อนนางบ้างก็พอ ยิ่งเป็นเรื่องข้าวของเครื่องประดับหรืออาภรณ์ แน่นอนว่าอาภรณ์ใหม่ ๆ ของนางไม่มีวันขาดแคลนเพราะว่านางเป็นบุตรสาวจากสกุลที่เปิดร้านอาภรณ์ แต่ยิ่งนางมีเสื้อผ้ามากมายเท่าไหร่ ท่านแม่สามีก็ยิ่งจะยื่นเครื่องประดับจำนวนมากมาให้นาง ทั้งของที่ประมูลมา ของที่หาซื้อได้ตามร้านหรือว่าเครื่องประดับที่ต้องสั่งทำจนยามนี่นางมีเครื่องประดั

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 45 คำนับฟ้าดิน (จบ)

    ตอนที่ 45คำนับฟ้าดิน"หนึ่ง คำนับฟ้าดิน""สอง คำนับบิดามารดา""สาม สามีภรรยาคำนับกันและกัน"หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอ ด้านเจ้าบ่าวก็ถูกรั้งตัวเอาไว้ในงานเลี้ยงมงคล เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานดื่มอวยพร เป็นธรรมเนียมปกติที่ในงานมงคลเช่นนี้เจ้าบ่าวจะต้องถูกมอมเหล้าจากแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายรวมไปถึงญาติมิตรต่าง ๆ ที่มาร่วมงานอวี้หนานไห่ไม่ยอมให้ตนต้องตกเป็นเป้าให้ผู้อื่นมอมเหล้านานเกินไป เข้าทักทายแขกที่มาร่วมงานอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามก็แอบปลีกตัวออกมาแล้วคืนเข้าหอเวลามีค่าแค่ไหน ไม่ต้องให้ผู้ใดต้องมาบอกเขาก็รู้ดี ทันทีที่เข้าได้ก้าวเข้ามาในเรือนหอของตน บนเตียงก็พบกับภรรยา ใช่แล้วหลิวซือนัวภรรยาของเขา และนางจะเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์หลังจากคืนนี้ไป"อวี้หนานไห่เป็นเจ้าหรือ" เจ้าสาวของเขาซึ่งนั่งคลุมหน้าตัวตรงอยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น"เป็นข้าเองภรรยารัก เจ้าควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว" เขาเอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหานาง และใช้ไม้ตวัดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดออกจากศีรษะของนางยามเมื่อผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ความงดงามที่แสนตราตรึงในใจเขาก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าของนางในเวลานี้ค่อน

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 44 ความจริงใจของข้า

    ตอนที่ 44ความจริงใจของข้า"ดู ๆ ข้าก็คิดอยู่ว่าคุณหนูหลิวเหมือนใคร นางเหมือนฮูหยินหลิวนี่เอง ไม่ไหวหน้าผู้อื่นเช่นนี้ไม่มีผิด""ข้าน่ะหรือไม่ไว้หน้า พวกเจ้าต่างหากที่ไม่ไว้หน้ากันก่อน" ฮูหยินหลิวตอกกลับทันที แม่สื่อพวกนี้นางทนพูดดีด้วยอีกไม่ได้แล้ว"ฮูหยิน ท่านใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ" สาวใช้คนสนิทของฮูหยินหลิวรีบเข้ามาห้ามผู้เป็นนายตน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะย่ำแย่ลงไปทุกทีแล้ว"จะให้ข้าใจเย็นได้อย่าง...." ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยจบประโยค ผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งเข้าเหมือนมีเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างเสียก่อน"ฮูหยิน ฮูหยินขอรับ""มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเรื่องตรงหน้ายังไม่ทันได้สะสางก็ดูท่าว่าจะมีเรื่องใหม่เข้ามาแทรกเสียแล้ว"มีขบวน มีขบวน...ใหญ่ ขบวนใหญ่" อาจจะเป็นเพราะวิ่งมาด้วยความเร็ว ซ้ำยังตื่นเต้นจึงทำให้บ่าวชายผู้นี้พูดออกมาไม่รู้ความจนฮูหยินหลิวต้องเอ่ยถามซ้ำหลายรอบ"ขบวน ขบวนอะไร ขบวนอะไรใหญ่กันแน่""เหมือนว่าจะเป็นขบวนสินสอดสินะ" แม่สื่อคนที่หนึ่งผู้ขึ้น บ่าวชายที่มาแจ้งข่าวก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับว่าใช่"คงเป็

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 43 สู่ขอ

    ตอนที่ 43สู่ขออาจจะเป็นเพราะเดินทางไกลมาหลายวัน และก็ไม่ได้นอนพักดี ๆ มาตลอดทาง วันนี้หลิวซือนัวเลยตื่นสายกว่าปกติถึงหนึ่งชั่วยามด้วยกัน กว่าที่จะแต่งตัวหวีผมเสร็จก็กินเวลาช่วงเช้าไปไม่น้อยแล้ว"คุณหนูเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่ให้บ่าวมาแจ้งท่านว่า หากคุณหนูแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณหนูไปพบฮูหยินใหญ่ที่โถงรับรองด้วยเจ้าค่ะ""ได้ข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปแจ้งท่านแม่นะว่าประเดี๋ยวข้าแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบเข้าไปหาท่าน""เจ้าค่ะคุณหนู"สาวใช้ที่ท่านแม่ให้มาแจ้งข่าวนางจากกลับไปแล้ว เวลานี้จึงเหลือเพียงแค่นาง เสี่ยวหนิง และสาวใช้ในเรือนอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังช่วยพวกนางเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ในวันนี้อยู่"เสี่ยวหนิง เจ้าว่าเหตุใดท่านแม่ถึงได้ให้คนมาตามข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ จะมีแขกสำคัญมาหรือไงนะ""บ่าวคิดว่าไม่น่าจะมีแขกนะเจ้าค่ะ ตั้งแต่เช้าไม่เห็นว่าในโรงครัวคึกคักเลย" ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยออกมาตามที่นางคิด เพราะถ้าหากในจวนมีแขกสำคัญ ปกติแล้วในครัวก็มักจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะต้องมีการเตรียมอาหารเอาไว้รับรองแขก"เช่นนั้นแล้วท่านแม่จะเรียกให้ข้าไปพบที่ห้องโถงทำไมกัน" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจคงมีแต่รีบ

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 42 จาก

    ตอนที่ 42จากอีกเพียงวันเท่านั้นนางก็จะต้องเดินทางกลับเมืองเป่ยโจวแล้ว ตามกำหนดการเดินทางกลับที่ท่านแม่ของนางได้กำหนดเอาไว้ พี่ใหญ่ของนางหลิงเค่อกับพี่สะใภ้ฉือหนานเองก็จะเดินทางไปส่งนางกลับจวนและถือโอกาสให้พี่ฉือหนานได้กลับไปเยี่ยมบ้านเดิมด้วย หลังจากวันนั้นที่อวี้หนานไห่และนางได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ความสัมพันธ์ของพวกนางก็มีสถานะเป็นคนรักของกันและกันอย่างเปิดเผย แต่เปิดเผยที่ว่านี้ก็จะมีแค่คนในครอบครัวของพวกนางเท่านั้นที่รู้ ส่วนคนนอกนางและอวี้หนานไห่ก็ไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านั้นจะคิดจะพูดถึงพวกนางอย่างไรมีบางครั้งที่นางและอวี้หนานไห่ออกไปเดินเล่นที่ตลาดด้วยกันบ้างก็ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารต่าง ๆ ในเมือง หลายครั้งก็มีข่าวลือตามมาบ้างทว่าส่วนใหญ่จะลือไปทางที่พวกนางเป็นสหายกันเสียมากกว่า ไม่มีการลือหรือการพูดไปถึงเรื่องเชิงชู้สาวใด ๆ ทั้งสิ้นแน่นอนว่าเรื่องลือเช่นนี้ไม่ถือเป็นผลเสียกับนาง หนำซ้ำยังถือว่าเป็นผลดีต่อร้านสกุลอาภรณ์สกุลหลิวไม่น้อยเช่นกัน เพราะผู้ใดที่อยากสนิทสนมกับหมู่ตึกอวี้ฟางก็จะต้องเข้าหาร้านอาภรณ์สกุลหลิวซึ่งลือกันว่าเป็นสหายกับหมู่ตึกอวี้ฟางเพื่อทำต

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 41 รัก

    ตอนที่ 41รัก"ที่ห้องโถงใหญ่เอะอะอะไรกัน เหตุใดถึงได้เสียงดังมาถึงนี่ เจ้าไปดูหน่อยเถอะ" ฉือหนานเอ่ยขึ้น ก่อนจะสั่งให้สาวใช้คนสนิทของนางออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในวันมงคลเช่นนี้นอกจากฉือหนานแล้วในห้องรับรองขนาดเล็กซึ่งอยู่ติดกับห้องโถงใหญ่ก็มีหลิวซือนัวน้องสามีของนาง และก็ฉือฮั่วลูกพี่ลูกน้องของนางที่มาเยี่ยมนางจากบ้านเกิดเมื่อสองวันก่อนใครจะคิดเล่าว่าการมาที่นี่ของฉือฮั่วซึ่งอ่อนวัยกว่านางเกือบสี่ปีจะทำให้นางได้เจอกับรักแรกพบที่นี่ หนำซ้ำยังถูกสู่ขออย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า นางและผู้เป็นสามีที่ถือเป็นญาติสนิทจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของฉือฮั่วแทนบิดามารดาของนางที่ไว้ใจฝากฝังบุตรสาวเอาไว้ด้วยเพราะเชื่อมั่นและไว้ใจนางกับสามีด้วยเพราะว่าทั้งฝ่ายสู่ขอและฝ่ายถูกสู่ขอต่างก็มีใจต่อกัน การตัดสินใจจริงเป็นไปอย่างดี ทุกฝ่ายตกลงปลงใจที่จะปลูกเรือนร่วมกันวันนี้แค่แลกหนังสือสินสอดเสร็จสิ้นก็หาวันดีจัดงานแต่งได้เลย ด้านหลิวซือนัวยามนี้นางกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกผ้าไหมสีแดงเพื่อตัดชุดแต่งงานให้กับฉือฮั่ว สำหรับฉือฮั่วนั้นนางก็เห็นเป็นสหายมาเนิ่นนาน ซ้ำเมื่อพี่ฉือหนานแต่งเข้ามาจวนสกุลหลิวแล้

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 40 ผู้ใดจะแย่งนางไป ข้าไม่ยอม

    ตอนที่ 40ผู้ใดจะแย่งนางไป ข้าไม่ยอมตลอดสามวันที่เขาต้องเดินทางออกจากเมืองเป่ยจู ไม่มีวันใดเลยที่เขาไม่กังวลหรือคิดถึงนาง ยิ่งเรื่องที่ได้ตัวแม่นมเฉียวผู้ซึ่งเป็นคนอยู่เบื้องหลังการที่นางหมดสติไปด้วยแล้ว เขากับทางการมีการพูดคุยกันเอาไว้แล้วว่าเรื่องทุกอย่างต้องจัดการให้เรียบร้อยและเงียบที่สุด จะต้องไม่ให้มีเรื่องอะไรที่จะมากระทบต่อชื่อเสียงของนางได้เป็นอันขาดอวี้หนานไห่รู้สึกเสียดายที่ตนไม่ได้ไปจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ก็คิดเอาไว้ว่าหลิวเค่อพี่ชายของหลิวซือนัวคงจัดการต่อไปได้ดีเช่นกัน นั่นจึงทำให้เขารู้สึกเบาใจได้เปราะหนึ่ง เมื่อเขากลับเข้ามาในเมืองเป่ยจู ก็สั่งให้รถม้าจอดที่ร้านขนมชื่อดังที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าออกทิศตะวันตกเพื่อซื้อขนมจากร้านนี้ติดมือไปฝากหลิวซือนัว แม้เขาจะมีของฝากขึ้นชื่อจากพื้นที่ ๆ เขาเพิ่งกลับมาอยู่แล้วก็เถอะ แต่ก็ยังอยากเอาของฝากกลับไปให้นางหลาย ๆ อย่าง นางจะได้ดีใจที่ได้เห็นของฝากมากมายจากเขาในระหว่างที่รอให้ทางร้านห่อขนมที่เขาสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน รวมไปถึงขนมที่เขาเพิ่งเลือกซื้อเพิ่มเติมอยู่นั้น ก็มีสตรีวัยกลางคนสองคนก้าวเข้ามาเลือกซื้อขน

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 39 ร้องขออย่างจริงใจ

    ตอนที่ 39ร้องขออย่างจริงใจเช้าวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่แสนจะวุ่นวายสำหรับหลิวซือนัว ตั้งแต่เช้าพี่ใหญ่ให้คนมาเรียกนางไปพบก่อนจะบอกนางว่าทางการพบตัวคนที่เป็นคนใส่ยาบางอย่างในดอกไม้จนทำให้นางหมดสติพลัดตกน้ำไปจนเกือบตายแล้วพี่ใหญ่ยังเอ่ยอีกว่าพรุ่งนี้ทางการต้องการให้นางเข้าไปเพื่อสอบปากคำบางอย่าง การไต่สวนคดีนี้จะทำโดยเงียบเชียบไม่ให้ภายนอกรู้ เพื่อให้ไม่เป็นที่เล่าลือกันไปผิด ๆ หลิวซือนัวเองก็คิดว่าจัดการเรื่องราวเหล่านี้ ให้เสร็จเงียบ ๆ จะดีซะกว่า เพราะว่านอกจากคนในครอบครัวและอวี้หนานไห่แล้วก็ไม่มีใครอื่นรู้ว่าเรื่องที่นางหมดสติพลัดตกทะเลไม่ใช่เพียงอุบัติเหตุพรุ่งนี้ไปที่ศาลประจำเมืองนางก็จะได้รู้แล้วว่าผู้ใดที่อยู่เบื้องหลังและ ต้องการทำร้ายนาง อีกเพียงแค่วันเดียวนางก็จะรู้แล้วว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่ ต้องการให้นางตายหนำซ้ำยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้หลังจากที่นางกลับเรือนพักของตนมาได้ไม่นาน ก็มีสาวใช้มาแจ้งว่ามีคนมาของพบนาง "คุณหนูเจ้าค่ะ สาวใช้ที่เรือนหน้ามาแจ้งว่ามีคนมาขอพบท่านเจ้าค่ะ นางบอกว่าเป็นคุณหนูหยวนจือจากสกุลเวินมาขอพบท่าน" เสี่ยวหนิงเอ่ยรายงาน ตามที่สาวใช้ที่มาแจ้ง

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 38 ไม่อยากบอกลา

    ตอนที่ 38ไม่อยากบอกลา“ในเมืองเป่ยจู เจ้าคงเป็นบุรุษที่น่าอิจฉาที่สุด”“ทำไมเจ้าถึงกล่าวเช่นนี้” เขาถามออกมาอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่ออยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาซะอย่างนั้น“รอบตัวเจ้า มีสตรีงดงามมากมายรายล้อมอยู่ บุรุษใดบ้างจะไม่อิจฉา” นางเอ่ยตอบเขา ก่อนจะพยักพเยิดไปทางที่เหล่าแม่นางจากหอหยวนหมิงรวมตัวเตรียมพร้อมจะลงเรืออยู่"ข้าไม่เคยสนใจพวกนาง" เขาตอบไปในทันที"เป็นไปไม่ได้ที่บุรุษจะไม่สนใจสตรี ยิ่งสตรีแสนงามด้วยแล้ว" "เป็นไปได้ ข้านี่ไง""หากพวกนางมาได้ยินเข้าคงจะเสียใจแย่""เรื่องนั้นข้าไม่เคยคิดที่จะสนใจ" เขาเอ่ยออกมาตามความเป็นจริง ในชีวิตเขามีสตรีที่เขาจะให้ความสนใจเพียงแค่สามคนก็พอแล้ว แค่ ท่านแม่ น้องสาว และนางเท่านั้นไม่นานผู้ดูแลหอหยวนหมิงผู้ที่เคยขวางไม่ให้นางเข้าไปในหอก็เข้ามาหา"คารวะนายน้อยอวี้ คารวะคุณหนูหลิว" เจ๋อเหนียงเอ่ยขึ้นก่อนจะโค้งให้คนทั้งคู่"แม่นางเจ๋อเหนียง พวกเราพบกันอีกแล้วนะ" นางเอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร "ครั้งก่อนเป็นข้าไม่รู้ความ จึงได้กระทำการล่วงเกินคุณหนู ข้าต้องขออภัยด้วยนะเจ้าค่ะ" นางรู้ดีว่าตนควรขออภัยคุณหนูตรงหน้า อีกทั้งไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นก

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status