แน่นอนว่าเอลเลนไม่คิดว่าเธอจะได้เห็นฮาร์วีย์ที่นี่สีหน้าที่ดูงดงามของเธอดูเปลี่ยนไป และเธอก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย...แต่อย่างไรก็ตามเธอรีบหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนเอามือคล้องแขนไซลาสไว้ในขณะที่เดินออกมาฮาร์วีย์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเอลเลน'โลกช่างกลมซะเหลือเกิน...'เขาไม่คิดว่าจะได้เจอะเจอศัตรูมากมายอยู่บนเรืองสำราญลำนี้เขามองอีเดนอย่างสงสัย โดยอีเดนก็ทำสีหน้าเศร้าหมองโดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์กับเอลเลนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันในตอนนี้แล้ว แต่จะบอกว่าเป็นเรื่องสมควรแล้วก็คงจะไม่ได้จากนั้นเขาก็เหลือบมองชายที่สวมชุดสูทของจิวองชี่ผู้ชายคนนั้นดูหล่อเหลา เขามีรูปร่างกำยำแต่มีการแสดงอารมณ์แบบผู้หญิง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนายน้อยที่ถูกเลี้ยงดูมาในตระกูลที่ร่ำรวยชายคนนั้นคงจะเป็นนายน้อยจอห์น ไซลาส จอห์นนั่นเองเขาไม่ใช่ทายาทสายตรง แต่เป็นเพียงเด็กที่บ้านใหญ่ของตระกูลรับมาเลี้ยงเท่านั้น...แต่อย่างไรก็ตามเขามีสถานะสูงสุดในบรรดาผู้คนที่อยู่ที่นี่ทุกคนไซลาสเดินไปข้างหน้าอย่างใจเย็น โดยมีผู้คนมากมายเดินตามหลังเขาไปเขาเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะถามว่า "เกิดอ
"น่าประทับใจจังเลยนะไอ้หนู!“ฉันไม่คิดไม่ฝันนะว่าจะมีใครกล้ามาก่อปัญหาขึ้นที่นี่!“มานี่! เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาที่นี่ให้หมด! แล้วนำบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันมาด้วย!“แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ! บอกคุณพาเทลให้มาทำหน้าที่พิธีกรในพิธีหมั้นเดี๋ยวนี้!“ระวังให้ดีด้วย อย่าให้เธอได้รับผลกระทบอะไรจากการกระทำของคนโง่เง่าเข้าล่ะ!”ไซลาสหยิบซิการ์มวนเรียวยาวออกมา แล้วพ่นควันออกมาอย่างรวดเร็วในขณะที่ทำสีหน้าเย็นชาท้ายที่สุดแล้วผู้คนที่ไม่ได้มาจากสิบตระกูลชั้นนำหรือห้าตระกูลลี้ลับ...ก็ไม่สมควรได้รับความสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิหลังหรือความโกรธแค้นของพวกเขา...เขารู้ตัวว่าจะสามารถบดขยี้ทุกคนแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย!ท้ายที่สุดแล้วเมื่อพิจารณาจากอำนาจของตระกูลจอห์นในฐานะหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำ ก็นับเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะทรงอำนาจได้ถึงขนาดนี้ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันที่ทำพิธีหมั้นล่ะก็ เขาคงจะสั่งให้ลูกน้องยิงทุกคนให้ตายไปแล้วเมื่อมาถึงจุดนี้“บอกทุกคนให้มารวมตัวกันที่นี่! พาผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนนั้นมาที่นี่ด้วย!”ชายหนุ่มผมสั้นพยักหน้าก่อนจะส่งเสียงคำรามเข้าไปในเครื่องวิทยุสื่อสารคนที
ฮาร์วีย์เหลือบมองเอลเลนพร้อมกับยิ้ม“ถ้าผมมาอวดเบ่งที่นี่แล้วจะยังไงเหรอ?”เห็นได้ชัดว่าเขากำลังท้าทายเอลเลนอยู่ในเวลานี้ผู้คนที่อยู่ด้านหลังไซลาสต่างเปลี่ยนสีหน้าทันที พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าแสดงตัวที่ดูสูงส่งและทรงพลังได้ถึงขนาดนี้'เขาต้องอยากตายแน่ ๆ!'ลูกน้องของไซลาสต่างทำท่าพร้อมที่จะให้บทเรียนกับฮาร์วีย์ แต่เอลเลนยกมือขึ้นมาห้ามพวกเขาเอาไว้จากนั้นเธอก็ยิ้มให้ไซลาสแล้วพูดว่า "นายน้อยจอห์น เขาคนนั้นชื่อฮารวีย์ ยอร์กค่ะ“เขาเป็นเพื่อนของฉันเอง“เขาเคยช่วยเราเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็มาหาเรื่องเรา“แต่ถึงกระนั้นฉันกับแม่ก็ตอบโต้ความโกรธแค้นนั้นด้วยความเมตตาเสมอ!”“ให้ผมเป็นคนจัดการเรื่องนี้เองก็แล้วกัน ดีไหมครับ?“ผมจะได้ตอบแทนความช่วยเหลือให้เขาได้ในที่สุด"ไซลาสเริ่มทำสีหน้าเย้าแหย่หลังจากได้ยินคำพูดของเอลเลนเขาหรี่ตามองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าสงสัย“คุณแน่ใจเหรอว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณ?”“ใช่แล้วค่ะ คุณจะปล่อยเขาไปถ้าเขาคุกเข่าให้คุณและคนพวกนั้นใช่ไหมคะ?เอลเลนต้องการแสดงอำนาจในฐานะเมียน้อย แต่เธอมองไม่เห็นสายตาซาบซึ้งใจของไซลาส“อีกอย่างหนึ่งคือวันนี้ยั
“ผมขอบอกคุณเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งไม่ให้ผมพาคนพวกนี้ออกไปได้“ผมขอบอกตรง ๆ“แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้"เอลเลนมีสีหน้าขมขื่น“คุณเป็นอะไรไปแล้วเหรอฮารวีย์?“คุณฟังฉันสักครั้งไม่ได้เหรอ?!“ฉันทำแบบนี้ก็เพราะเห็นแกคุณนะ! ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่เคยเห็นอำนาจของตระกูลจอห์น แต่อย่างน้อยคุณก็ได้เห็นมันแล้ว!“คุณอาจจะไม่เข้าใจพลังอำนาจอย่างนี้! คุณไม่สามารถเอาชนะได้หรอก!“ตื่นได้แล้ว!”เอเลนเดินกระทืบเท้าในขณะใส่ส้นสูงเข้าไปหาฮาร์วีย์ในความคิดของเธอนั้นเธอกำลังจะกลายร่างเป็นผีเสื้อแล้วเธอเชื่อว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะดูถูกฮาร์วีย์ในจุดนี้เธอหรี่ตามองฮาร์วีย์ก่อนจะตัวสั่นสะท้านขึ้นมาราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้“ฉันเข้าใจแล้ว!” เธออุทานออกมา“ฉันรู้ว่าทำไมคุณถึงได้ทำตัวบุ่มบ่ามเช่นนี้!“คุณรู้ว่าฉันกำลังจะเข้าพิธีหมั้น คุณรู้ว่าฉันได้พบเนื้อคู่ของฉันแล้ว! นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่สบายอกสบายใจนัก!“ฉันรู้ว่าฉันยังอยู่ในใจคุณ!“คุณต่อต้านฉันก่อนหน้านี้ก็เพราะคุณต้องการให้ฉันยอมจำนนต่ออำนาจของคุณ!“น่าเสียดายที่คุณหลงลืมไปอย่างหนึ่ง คนน่าสงสารอย่างคุณนั้นไม
'นี่มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย?!'ทุกคนต่างเงียบกริบพวกเขาอ้าปากค้างทันที!การกระทำของฮาร์วีย์ช่างเกินความคาดหมายของทุกคนอย่างมาก ทุกคนต่างมีความรู้สึกไม่เชื่อสายตาเมื่อมองภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่มีใครคิดว่าฮาร์วีย์จะหยิ่งผยองได้ถึงขนาดที่ตบไซลาสจนลอยกระเด็นไปเพราะไซลาสเป็นถึงนายน้อยของตระกูลจอห์นเลยนะ!ถึงแม้เขาจะเป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงของบ้านใหญ่ แต่สายเลือดบางส่วนของตระกูลจอห์นก็ยังไหลเวียนอยู่ในตัวเขา!ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปได้ แต่เขาก็ยังเป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ของนายน้อยคนโตของตระกูลจอห์นนะ!สถานะ ตัวตน และอำนาจของเขานั้นช่างสูงส่งเกินกว่าใครจะจิตนาการได้!ผู้คนที่ร่ำรวยและทรงอำนาจมากมายนับไม่ถ้วนมักจะคอยเอาอกเอาใจคนอย่างไซลาส!เขามีความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน!นอกจากนายน้อยและเจ้าชายในตระกูลชั้นนำแล้ว จะมีใครกล้าดูหมิ่นคนอย่างไซลาสได้อีกล่ะ?แต่ถึงกระนั้นบุคคลสำคัญคนนี้ก็ถูกตบหน้าบนเรือสำราญของเขาเอง...ไม่มีใครยอมรับเรื่องแบบนั้นได้คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ตกใจมากมีเหงื่อไหลหยดจนเปียกชุ่มแผ่นหลังของเธอ เธอไม่อยากจะเชื่อในความบุ่มบ่ามของฮาร์วี
เอลเลนโกรธมาก เรื่องราวต่าง ๆ กำลังจะดูเลวร้ายลงอย่างมากเธอรู้สึกว่าเธอทำดีกับฮาร์วีย์เพียงพอแล้วนะ...เธอทุ่มเทใจเพื่อให้ฮาร์วีย์มีโอกาสรอดชีวิต แล้วยังให้โอกาสเขาได้แก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองด้วย...แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เขาไม่เพียงแต่ไม่ชื่นชมในความดีของเธอเท่านั้น แต่ยังถึงขั้นตบหน้าไซลาสด้วย'เมื่อมาถึงขั้นนี้ก็แปลว่าเขามันรนหาที่ตาย!''ใครให้สิทธิ์นั้นกับเขาเหรอ?!''ใครทำให้เขากล้าถึงขนาดนั้น?!''ช่างน่าประทับใจ! ช่างน่าประทับใจ!'ไซลาสเป็นคนมีประสบการณ์โชกโชน เขากลับมาได้สติอีกครั้งก่อนจะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา ในขณะที่ยับยั้งความอาฆาตแค้นเอาไว้ ในเวลานี้เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกโกรธเกรี้ยวออกมาเลย“ฉันเคยเห็นพวกบ้า ๆ มามากมายในโกลด์เด้น แซนส์...“แต่ถึงแม้ว่าเขาจะมาจากห้าตระกูลลึกลับหรือสิบตระกูลชั้นนำ...“พวกเขายังไม่กล้าทำอวดดีต่อหน้าฉันแบบนี้หรอก!“แกไม่เพียงแต่เสียโอกาสเดียวที่มีอยู่ไปเท่านั้น แต่ยังทำให้ฉันโกรธเป็นอย่างมากด้วย!ไซลาสเอามือลูบหน้าที่บวมเล็กน้อย“วันนี้แกจะต้องชดใช้ในความโอหังของแก!“โอ้โห? แกคิดว่าแกดูน่าประทับใจขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?ฮ
“เฮ้! เด็กหนุ่มสมัยนี้ช่างไม่กลัวเกรงอะไรเลย!“เขาไม่รู้จักแสดงความเคารพเพียงเพราะเขามีความสามารถนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นน่ะเหรอ?ทันใดนั้นก็มีร่างคนในชุดคลุมปรากฎตัวขึ้นบนชั้นสองเธอเอามือกอดอก...เผยให้เห็นร่องอกอันงดงามในขณะทำหน้าดูถูกเหยียดหยามฮาร์วีย์เครื่องแต่งกายของเธอดูค่อนข้างโบราณราวกับว่าเธอไม่ได้เกิดในช่วงเวลาปัจจุบันผิวสีแทนและมืออันหยาบกร้านก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นแตะราวบันไดก่อนจะร่อนลงมาอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์พร้อมกับพลิกตัวอย่างสง่างาม หลังจากนั้นก็เผยให้เห็นความภาคภูมิใจนิดหน่อยบนใบหน้าหลังจากมองเห็นดาบที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเธอแล้ว ผู้คนก็เริ่มคิดว่าเธอคงเป็นนางเอกที่เคยเห็นในภาพยนตร์ชายผมสั้นรู้สึกปลาบปลื้มเมื่อเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น“คุณโลว์! เร็วเข้า! ฆ่าพวกเขาซะ!“ไอ้สารเลวพวกนี้กำลังดูหมิ่นนายน้อยจอห์นอยู่!”เทรย์ก้าวออกไปข้างหน้าแล้วจ้องมองผู้หญิงคนนั้น“หลีกไป!” เขาร้องบอกอย่างเย็นชา“แกคิดว่าแกมีสิทธิ์ที่จะพูดอย่างนั้นกับฉันเหรอ?”คุณเคย์ลี โลว์หัวเราะอย่างดูถูกเหยียดหยาม“ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาที ป
“แกกล้าดียังไงถึงมาแตะต้องตัวฉัน ไอ้สารเลว?! ฉันจะฆ่าแก!” เทรย์ร้องบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาจากนั้นเขาดึงมีดเล่มใหญ่ออกมาก่อนที่ฮาร์วีย์จะรั้งตัวเขาเอาไว้หลังจากรู้สึกได้ถึงความชื่นชมของไซลาสและคนอื่น ๆ แล้ว คุณเคย์ลีก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมากเธอชี้ไปที่ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!“ดูให้ดี ๆ สิฮาร์วีย์! นี่คือคุณเคย์ลี โลว์จาก 'ประตูสวรรค์!' ซึ่งเป็นสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์“เธอไม่เพียงแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่เธอยังเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้กับนายน้อยจอห์นด้วย!“เธอได้ฆ่าผู้คนไปมากกว่าจำนวนมื้ออาหารที่คุณกินมาทั้งชีวิตซะอีกนะ!”เอลเลนมองฮาร์วีย์อย่างสมเพชเวทนา“คงจะแย่มากเลยถ้าคุณทำให้เธอโกรธขึ้นมาล่ะก็...“ฉันคงหยุดยั้งเธอเอาไว้ไม่ได้ถ้าเธอต้องการที่จะฆ่าคุณขึ้นมาจริง ๆ"“ประตูสวรรค์เหรอ?”ฮาร์วีย์หรี่ตามองเคย์ลี“แกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร? แต่อยากจะต่อสู้กับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?“แกเป็นเพียงตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้จากประเทศ H ใช่ไหม?”เคย์ลีทำสีหน้าเริงร่า“ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นแค่หุ่