โคลตันบอกเลขาและผู้ช่วยของเขาให้นำทางไปยังร้านอาหารใต้ดินบริเวณชั้นล่างพนักงานต้อนรับยิ้มเมื่อเห็นโคลตัน“ยินดีต้อนรับค่ะผู้อาวุโสตอร์เรส คุณดูกระฉับกระเฉงเหมือนเดิมเลยนะคะ!“วันนี้เหมือนเดิมใช่ไหมคะ?”โคลตันยิ้ม"ใช่แล้ว ฉันขอใช้ห้องวิมานฟ้านะ นำอาหารจานเด่นและไวน์มาให้ฉันด้วย”จากนั้นโคลตันก็ยิ้มให้ฮาร์วีย์“อาหารที่นี่มีไม่มาก แต่ทุกจานอร่อยมาก ๆ! นายควรลองกินดู”ฮาร์วีย์ยิ้ม เขากำลังจะพูดอะไรออกมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากทางด้านหลัง“นั่นผู้อาวุโสตอร์เรสใช่ไหม?“ช่างบังเอิญจริง ๆ! แต่คุณมาช้าไปหน่อยนะ“ขอโทษนะ แต่เราจองห้องวิมานฟ้าเอาไว้แล้ว”ฮาร์วีย์หันไปมองโดยสัญชาตญาณ เขาเห็นชายคนหนึ่งในชุดคลุมสีเหลืองที่มีผู้คนมากมายรายล้อมอยู่ ใบหน้าที่ดูคุ้นเคยก็อยู่ข้าง ๆ เขาด้วยผู้ชายคนนั้นคือไคลด์!ฮาร์วีย์จ้องมองอย่างสงสัย เขาไม่คิดว่าไคลด์จะกล้าปรากฏตัวต่อหน้าเขาเนื่องจากฮาร์วีย์ไม่ใช่จุดสนใจหลัก และไคลด์ยังไม่ได้พูดอะไรโง่ ๆ ออกมาเลย ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจอยู่เฉย ๆ ในขณะนั้นไคลด์ดูภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนเขาจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา ราวกั
"พอได้แล้ว! เธอคิดว่าคุณมีสิทธิ์จะพูดได้รึไง?” เดนร้องบอกแล้วก้าวเท้าไปข้างหน้า“เธอเอามารยาทไปเก็บไว้ที่ไหน?“เธอลืมทุกอย่างที่ฉันสอนไปหมดแล้วเหรอ?“หัวหน้าตอร์เรสจะไม่กล้าต่อสู้กับเราเพื่อชิงห้องวิมานฟ้า ถ้าเราพูดออกไปอย่างนั้น!“แต่ยังไงก็ตามเธอไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้น!“หัวหน้าตอร์เรสจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้!“เธอควรไตร่ตรองในเรื่องนี้เมื่อเรากลับไป!”หลังจากดุเลขาแล้วเดนก็มองไปที่โคลตันพร้อมกับยิ้มให้เล็ก ๆ“ขอโทษนะครับคุณโคลตัน เลขาของผมพูดขวานผ่าซากไปหน่อย โปรดอย่าถือสาเธอเลย!”จากนั้นเขาก็จ้องมองเลขาอย่างเย็นชา“เธอยังไม่ขอโทษอีกเหรอ?”เลขาคนนั้นเอามือกอดอกหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ฉันขอโทษค่ะ หัวหน้าตอร์เรส”"ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้หรอกนะ“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกที่ถูกสอนมาไม่ดี เพราะท้ายที่สุดแล้วปากสกปรก ๆ ก็ไม่สามารถเอ่ยคำสุภาพ ๆ ออกมาได้หรอก“แน่นอนว่าคุณจะไม่รู้ว่าจะต้องประพฤติตัวยังไงในเมื่อคุณใช้ชีวิตอยู่ในท่อน้ำใต้ดินมาตลอดชีวิต”ใบหน้าของโคลตันเรียบเฉย เขาดูสงบนิ่งอย่างมากหลังจากนั่งอยู่ในตำแหน่งสำคัญเช่นนี้มาหลายปี เขาจึงไม่กลัวคำพูดเพี
“เนื่องจากไคลด์เป็นเจ้าชายในตระกูลออสบอร์น จึงเป็นธรรมดาที่เขาต้องเป็นพลเมืองของประเทศนี้“เขาจะทำอะไรไม่ดีต่อประเทศเพียงเพราะเขาไม่สามารถทานอะไรง่าย ๆ ได้อย่างนั้นเหรอ?“บางทีข่าวลืออาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ บางทีสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่อาจรวมตัวกันต่อต้านเราก็เพราะเขา“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฉันจะตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไป“ฉันไม่กลัวที่จะบอกคุณในเรื่องนี้เช่นกันเดน“พวกคุณจากโกลด์เด้น พาเลซเริ่มใกล้ชิดกับชาวอินเดียมากขึ้นแล้วในตอนนี้ ทางที่ดีก็ไม่ควรให้ผมสืบเจออะไรเข้าล่ะ“ถ้าผมเจออะไรเข้าล่ะก็ คุณไม่มีทางหนีรอดได้แน่!”โคลตันหันกลับมาและทำท่าทางเชิญฮาร์วีย์เข้าไปในห้องพิเศษนั้น“เราต้องใช้ห้องนี้แล้วนะ” เขาร้องบอกอย่างเย็นชา“ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะหัวหน้าตอร์เรส ห้องนี้มีคนใช้งานแล้วค่ะ!”หญิงสาวสวยรูปร่างเพรียวบางในชุดเครื่องแบบสีดำเดินออกมาหยุดยั้งโคลตันเอาไว้“นี่หมายความว่ายังไงโซเฟีย?” โคลตันถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาผู้หญิงคนนั้นคือโซเฟีย ลี เป็นผู้จัดการของสถานประกอบการแห่งนั้น โซเฟียยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของโคลตัน “เนื่องจากสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้จ่ายค่
“แต่เราก็ไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้!” โคลตันร้องบอก"แน่นอนครับ"ฮาร์วีย์ยิ้มแล้วมองไปที่พนักงานต้อนรับคนนั้น“คุณได้ยินที่โซเฟียพูดใช่ไหม เราทานอาหารได้ฟรี”พนักงานต้อนรับคนนั้นทำสีหน้าดูหมิ่นเหยียดหยาม เธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ จะยังคงกินอาหารที่นี่หลังจากโดนดูหมิ่นไปอย่างหนักแล้วแต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงส่งยิ้มจาง ๆ ให้พวกเขา“ถ้าคุณยังอยากจะทานอาหารที่นี่อยู่ก็เชิญทางนี้ค่ะ”"ไม่จำเป็น!"ฮาร์วีย์ยิ้มให้เธอก่อนจะกดโทรศัพท์ออกไป“เอารถกระบะมาที่นี่สิบคัน ฉันจะเอาอาหารทั้งหมดกลับไป”หนึ่งชั่วโมงต่อมาโซเฟียก็เดินออกมาจากห้องวิมานฟ้าพร้อมกับเดนและไคลด์ ซึ่งได้กินอาหารและดื่มไวน์จนพุงกางดูจากสารรูปแล้วพวกเขาต้องดื่มกันหนักมากแน่ ๆเมื่อพนักงานต้อนรับเห็นทุกคนเดินออกมา เธอก็รีบวิ่งไปยื่นใบเสร็จรับเงินให้“นี่คือค่าใช้จ่ายของหัวหน้าตอร์เรสค่ะรองหัวหน้าเบเน็ตต์ ก่อนกลับไปพวกเขายังฝากขอบคุณที่คุณให้การต้อนรับเขาด้วย”พนักงานต้อนรับเหงื่อแตกพลั่ก ๆ“พวกเขาอยู่ทานอาหารที่นี่จริง ๆ เหรอ?”เดนมีสีหน้าขบขัน“โคลตันต้องแก่แล้วจริง ๆ เขาเริ่มไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรแ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูหมิ่นโคลตันได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายเงินสี่ล้านสามแสนดอลลาร์เพื่อเป็นค่าชดใช้คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าใครกันแน่ที่โดนดูหมิ่นที่นี่!ที่สำคัญกว่านั้นคือเดนรู้สึกว่าเขาเป็นคนวอนหาเรื่องนี้เอง'นี่เป็นเรื่องน่าอับอาย! นี่เป็นเรื่องที่ยกโทษให้ไม่ได้!'หลายคนตกใจเมื่อเห็นเดนอยู่ในห้องของโคลตันคนงานหลายคนจากสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้เข้ามาส่งเสียงดังอยู่ที่นี่“ใจเย็น ๆ ครับรองหัวหน้าเบเน็ตต์ คุณเป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่นะ ฉะนั้นอย่าโมโหไปเลยครับ“ถ้าคุณตายจากหลอดเลือดสมองแตก ทุกคนที่นี่ก็จะต้องโชคร้าย“หัวหน้าตอร์เรสชอบห้องทำงานนี้มาก เขาจะไม่สามารถใช้ห้องนี้ได้ถ้าเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น”ฮาร์วีย์มองดูเดนอย่างใจเย็นในขณะที่กำลังจิบชา"อีกอย่างหนึ่งนะ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับหัวหน้าตอร์เรส ฉันเป็นคนสั่งให้คนงานกวาดของทุกอย่างออกมาเอง”“ฉันกำลังคิดหาทางให้รางวัลพวกเขาอยู่เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณนะ รองหัวหน้าเบเน็ตต์”“คนของฉันมีความสุขกับอาหารพวกนั้นมาก”เนื่องจากโกดังของร้านอาหารมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ทุกคนจากหน่วยงานบังคับ
“แต่ยังไงก็ตามคุณมาเตะประตูจนพัง และเริ่มกระโดดโลดเต้นอยู่ที่นี่ก่อนที่เราจะได้พูดอะไรกันเสียอีก“คนที่เข้าใจจะคิดว่าคุณโกรธเพราะคุณไม่สามารถเลี้ยงอาหารเราได้…“แต่คนที่ไม่เข้าใจจะคิดว่าคุณอยู่ฝ่ายเดียวกับชาวอินเดียพวกนั้น“ผมขอเตือนคุณนะรองหัวหน้าเบเน็ตต์ คุณควรลดเสียงลงจะดีกว่า“ถ้าไม่อย่างนั้นความรับผิดชอบทั้งหมดก็อาจตกไปอยู่กับคุณได้”ฮาร์วีย์มองเดนด้วยท่าทีเย้าแหย่“วาจาแหลมคมจริงนะไอ้สารเลว! แกก็ดีแต่พูดจะทำอะไรได้อีก?!”เดนโกรธมาก เขาอยากจะตบฮาร์วีย์ให้ตายเสียเหลือเกินแต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถต่อกรกับฮาร์วีย์ได้ และเขาไม่สามารถตะโกนด่าในที่สาธารณะได้ด้วยเดนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์หลอดเลือดสมองของเขาจะต้องแตกแน่ ๆ ถ้าไม่ทำอย่างนั้น“รองหัวหน้าเบเนตต์ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้“ทำไมคุณไม่พูดถึงข้อตกลงของคุณกับไคลด์แทนล่ะ?”“เราได้มอบห้องวิมานฟ้าให้กับคุณ อย่าบอกนะว่าคุณสองคนไม่ได้คุยอะไรกันเลยตลอดบ่ายนี้?” โคลตันพูดขึ้นเพื่อเป็นการคลี่คลายสถานการณ์“ถ้าคุณสามารถจัดการกับกับเรื่องนี้ได้ ผมจะจ่ายค่าอาหารคืนให้คุณเป็นสิบเท่า”"ดี!
“คุณไม่คิดว่าข้อเรียกร้องจะโหดร้ายเกินไปหน่อยเหรอ รองหัวหน้าเบเน็ตต์”ฮาร์วีย์พยักหน้า“หากเรายอมรับเงื่อนไขเหล่านั้น นักศิลปะการต่อสู้ในประเทศ H ทั้งหมดจะไม่เหลือศักดิ์ศรีอยู่เลย“เราจะยืนเชิดหน้าในอนาคตได้ยังไง?“พวกเขาถึงขนาดนำผู้บังคับบัญชาเข้ามาเก็บไฟล์และเอกสารทั้งหมดของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้…“เราจะดำเนินงานด้วยตัวเราเองได้ยังไงในอนาคต?“นอกจากนี้ถ้าผมมอบทุกสิ่งอย่างที่ได้เรียนรู้มาให้พวกเขาจริง ๆ พวกเขาก็จะนำไปใช้ต่อสู้กับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ได้ หลังจากนั้นพวกเขาจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ไปจนหมดสิ้น“คุณเป็นคนฉลาดนะรองหัวหน้าเบเน็ตต์ คุณไม่เห็นหรือว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่กำลังพยายามทำลายพวกเราอยู่”ฮาร์วีย์ค่อย ๆ เปิดเผยความเสี่ยงของข้อเรียกร้องเหล่านั้นอย่างใจเย็นมีเงื่อนไขถึงสามข้อที่พุ่งไปที่ฮาร์วีย์โดยเฉพาะ แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นเพียงการทดสอบเท่านั้นเองถ้าประเทศ H ยอมจำนน สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ก็จะมีหนทางที่จะทำให้ประเทศเราทำแบบเดียวกันนั้นอีกครั้ง“คุณกำลังจะบอกอะไรผมกันแน่ฮาร์วีย์?”เด
สีหน้าของโคลตันดูเย็นชาในขณะที่เขาอุทานว่า “นี่ไม่ยุติธรรมเลย!“ผมจะยอมรับมันได้ยังไง!”“ผมเข้าใจคุณอย่างถ่องแท้ แต่แล้วยังไงล่ะ!”เดนหัวเราะอย่างเย็นชา“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่กำลังมีอำนาจอยู่ในขณะนี้ ในเมื่อพวกเขามีโอกาสที่จะกระทำการอะไรที่ไม่ยุติธรรม แล้วคุณจะทำยังไงกับเรื่องนี้ล่ะ?“คุณวางแผนที่จะยุติเรื่องนี้ด้วยการพาคนกลุ่มหนึ่งไปท้าทายสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ในบูโดกันของพวกเขาน่ะเหรอ?"ตื่นทีเถอะ! คุณคิดว่าคุณเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างนั้นเหรอ?“คุณคิดว่าคุณอยู่ยงคงกระพันใช่ไหม?“นอกจากนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนยังสามารถบดขยี้ประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดห้าประเทศเท่านั้น สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย!“ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้นก็คงไม่มีหัวหน้าผู้ฝึกสอนในประเทศของเราหรอก!“คุณคิดว่าเราจะแค่โชว์ผลงานออกมาแบบไหนก็ได้ เพราะเรามีหัวหน้าผู้ฝึกสอนในประเทศของเรางั้นเหรอ?“น่าขันอะไรอย่างนี้!“นอกจากนี้เขายังเป็นคนในราชสำนักด้วย!“เรากำลังพยายามแก้ไขโลกใต้ดิน!“ราชสำนักไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจในเรื่องนี้! คุณไม่เข้าใจเหรอ?“เราไม่สามารถต่อกรกับพว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข