“คุณไม่คิดว่าข้อเรียกร้องจะโหดร้ายเกินไปหน่อยเหรอ รองหัวหน้าเบเน็ตต์”ฮาร์วีย์พยักหน้า“หากเรายอมรับเงื่อนไขเหล่านั้น นักศิลปะการต่อสู้ในประเทศ H ทั้งหมดจะไม่เหลือศักดิ์ศรีอยู่เลย“เราจะยืนเชิดหน้าในอนาคตได้ยังไง?“พวกเขาถึงขนาดนำผู้บังคับบัญชาเข้ามาเก็บไฟล์และเอกสารทั้งหมดของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้…“เราจะดำเนินงานด้วยตัวเราเองได้ยังไงในอนาคต?“นอกจากนี้ถ้าผมมอบทุกสิ่งอย่างที่ได้เรียนรู้มาให้พวกเขาจริง ๆ พวกเขาก็จะนำไปใช้ต่อสู้กับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ได้ หลังจากนั้นพวกเขาจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ไปจนหมดสิ้น“คุณเป็นคนฉลาดนะรองหัวหน้าเบเน็ตต์ คุณไม่เห็นหรือว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่กำลังพยายามทำลายพวกเราอยู่”ฮาร์วีย์ค่อย ๆ เปิดเผยความเสี่ยงของข้อเรียกร้องเหล่านั้นอย่างใจเย็นมีเงื่อนไขถึงสามข้อที่พุ่งไปที่ฮาร์วีย์โดยเฉพาะ แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นเพียงการทดสอบเท่านั้นเองถ้าประเทศ H ยอมจำนน สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ก็จะมีหนทางที่จะทำให้ประเทศเราทำแบบเดียวกันนั้นอีกครั้ง“คุณกำลังจะบอกอะไรผมกันแน่ฮาร์วีย์?”เด
สีหน้าของโคลตันดูเย็นชาในขณะที่เขาอุทานว่า “นี่ไม่ยุติธรรมเลย!“ผมจะยอมรับมันได้ยังไง!”“ผมเข้าใจคุณอย่างถ่องแท้ แต่แล้วยังไงล่ะ!”เดนหัวเราะอย่างเย็นชา“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่กำลังมีอำนาจอยู่ในขณะนี้ ในเมื่อพวกเขามีโอกาสที่จะกระทำการอะไรที่ไม่ยุติธรรม แล้วคุณจะทำยังไงกับเรื่องนี้ล่ะ?“คุณวางแผนที่จะยุติเรื่องนี้ด้วยการพาคนกลุ่มหนึ่งไปท้าทายสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ในบูโดกันของพวกเขาน่ะเหรอ?"ตื่นทีเถอะ! คุณคิดว่าคุณเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างนั้นเหรอ?“คุณคิดว่าคุณอยู่ยงคงกระพันใช่ไหม?“นอกจากนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนยังสามารถบดขยี้ประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดห้าประเทศเท่านั้น สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย!“ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้นก็คงไม่มีหัวหน้าผู้ฝึกสอนในประเทศของเราหรอก!“คุณคิดว่าเราจะแค่โชว์ผลงานออกมาแบบไหนก็ได้ เพราะเรามีหัวหน้าผู้ฝึกสอนในประเทศของเรางั้นเหรอ?“น่าขันอะไรอย่างนี้!“นอกจากนี้เขายังเป็นคนในราชสำนักด้วย!“เรากำลังพยายามแก้ไขโลกใต้ดิน!“ราชสำนักไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจในเรื่องนี้! คุณไม่เข้าใจเหรอ?“เราไม่สามารถต่อกรกับพว
“ผมไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร”ฮาร์วีย์มีสีหน้าเคร่งขรึม“ผมรู้แค่ว่าไม่มีใครมีสิทธิ์มาบังคับให้เราคุกเข่าได้!”“เราจะไม่คุกเข่า!“นี่คือความภาคภูมิใจของประเทศที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานถึงห้าพันปี!”“ประวัติศาสตร์ยาวนานถึงห้าพันปีเหรอ?”เดนหัวเราะอีกครั้ง และกวาดตามองฮาร์วีย์“ผมบอกคุณทุกอย่างที่ผมอยากจะพูดแล้ว หัวหน้าตอร์เรสควรตัดสินใจว่าเราควรทำยังไงต่อไป“แต่ยังไงก็ตามถ้าคุณสามารถทำอย่างที่พูดได้จริงโดยไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน ผมก็จะยุติความขัดแย้งระหว่างเราทันที แล้วผมจะยอมถูพื้นในหอฝึกยุทธ์ให้คุณด้วย!“แต่ถ้าคุณยอมคุกเข่า ผมจะตอบแทนคุณอย่างสาสมที่ทำให้ขาของลูกสาวและลูกเขยของผมต้องพิการ…”เดนออกไปพร้อมกับคนของเขาพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะไล่หลังเขาไปฮาร์วีย์มองดูอย่างสงสัยในขณะที่เดนเดินจากไปเขาปิดประตูแล้วยิ้มให้โคลตัน“คุณอยู่ในตำแหน่งนี้มาสักพักหนึ่งแล้วนะหัวหน้าตอร์เรส ผมแน่ใจว่าคุณต้องได้เห็นอะไร ๆ แล้ว“นี่ไม่มีอะไรเลย”"ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ?"โคลตันถอนหายใจ สีหน้าของเขาดูแย่มาก“เรื่องนี้มีอะไรมากกว่านั้นฮาร์วีย์“คำพูดของเดนฟังดูรุนแรงไปหน่อย แต่เขาก็พูดถูก“ประเทศข
“คุณกำลังบอกว่าคุณอยากให้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้และตะวันออกไกลถอนตัวออกไปเหรอ?”โคลตันตัวแข็งทื่อ จากนั้นก็ถอนหายใจ“ฟังดูเป็นแผนที่ดีแต่มันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?“ประเทศในแถบทะเลใต้กลัวเรื่องความแข็งแกร่งของประเทศเรา เราจะเล่นงานพวกมันให้หมด“ประเทศทางตะวันออกไกลก็มีความสัมพันธ์กับอเมริกาด้วย…”“พวกเขาจะบีบบังคับให้ประเทศทางตะวันออกไกลต่อต้านเรา เพื่อปกป้องตำแหน่งของพวกเขาในฐานะตำรวจของสหประชาชาติ“พูดง่าย ๆ ก็คือแผนนี้ยากที่จะทำได้สำเร็จ”โดยปกติแล้วโคลตันไม่เคยคิดถึงแผนการนี้มาก่อน แต่เขาเชื่อว่าต่อให้ทำไปก็ไม่มีทางสำเร็จ“เรายังไม่สามารถจัดการกับชาติตะวันออกไกลได้ แต่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”ฮาร์วีย์ยิ้ม“ผมรู้จักดีน คอบบ์ ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา“ด้วยสถานะของเขาในประเทศของเรานี้ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาในการที่เขาจะโน้มน้าวประเทศของตัวเอง“ถ้าผมใช้โอกาสนี้ทำให้ให้ประเทศทางตะวันออกไกลกลับมา…“แผนของเราจะประสบความสำเร็จ“เรายังมีโอกาส”โคลตันมีกำลังใจมากขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาเด้งตัวขึ้นมาทันทีก่อนจะหัวเราะออกมา“นายช่า
ในขณะที่ฮาร์วีย์กำลังคิดหาวิธีจัดการกับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่อยู่นั้น...ภายในลานบ้านของตระกูลออสบอร์นไคลด์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ห่างไกลออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งสำหรับเขาแล้วภูเขาศักดิ์สิทธิ์หรือทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์มีดีแค่เพียงทางสัญญลักษณ์เท่านั้น ที่เหลือนอกนั้นก็ไม่ก่อประโยชน์อะไรเลยแต่ถ้าเขาต้องการขึ้นสู่อำนาจในฐานะหัวหน้าตระกูลออสบอร์นแล้วล่ะก็ เขาก็จำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้เขาไม่เคยใส่ใจในประเทศชาติหรือประชาชนของเขาเลยเขาต้องการเพียงอำนาจ...อำนาจโดยสมบูรณ์ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นลูกหลานของทั้งตระกูลออสบอร์นและราชวงศ์ของอินเดีย“เจ้าชายออสบอร์น…”ประตูที่อยู่ทางด้านหลังของเขาถูกผลักให้เปิดออกชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคนเดินเข้ามา พวกเขาทั้งหมดเป็นคนอินเดียและยังมีอายุน้อยกันด้วยพวกเขาคือคนวรรณะพราหมณ์ ซึ่งเป็นประชาชนที่มีอำนาจมากที่สุดในอินเดียที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาทั้งหมดได้รับการอบรมจากชนชั้นสูงมาตั้งแต่เด็กพวกเขาไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์เท่านั้น แต่ทักษะการต่อสู้ของพวกเขาก็ยังดีเด่นเป็นพิเศษอีกด้วยแต่ถึงกระนั้นค
"ดี!"ไคลด์ยิ้ม“ในที่สุดพวกเขาก็ตอบแทนผลประโยชน์ที่ฉันมอบให้พวกเขาไป“ในที่สุดการทำงานหนักของฉันก็สัมฤทธิ์ผล!“แต่นี่ก็ยังไม่เพียงพอหรอก สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของอเมริกาและยุโรปเหนือยังไม่ได้เข้าร่วมขบวนการกับเราเลย“ประเทศ H จะต้องเสร็จแน่ ๆ ถ้าพวกนั้นเข้ามาร่วมด้วย! ศิลปะการต่อสู้ของประเทศนั้นจะต้องล่มสลาย!“เอเซอร์ ไปนิวยอร์กเพื่อดูว่าคุณจะสามารถโน้มน้าวให้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาเข้าร่วมกับเราได้ไหม“แอสเชน ไปที่ดินแดนพระอาทิตย์ฯ จะได้พูดคุยกับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของยุโรปเหนือเกี่ยวกับเรื่องนี้“ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันอยากให้ฮาร์วีย์ตายอย่างสยดสยอง!”"รับทราบ!"คนหนุ่มสาวกลุ่มนั้นต่างโค้งคำนับก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจไคลด์หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาข้าง ๆ เขา และหมุนวนไปรอบ ๆ…ไม่กี่วันต่อมาทุกอย่างก็ดูสงบเงียบในขณะที่ฮาร์วีย์กำลังคิดว่าเขาควรจะไปทะเลใต้เพื่อช่วยดีนหรือไม่นั้น...ก็มีโทรศัพท์อีกสายหนึ่งโทรหาเขาเป็นสายของแฮโรลด์ บาวเออร์นายน้อยคนที่เจ็ดของตระกูลบาวเออร์ เขาโทรมาเชิญฮาร์วีย์ให้ไปพบกันที่บ้านพักคนชราของตระกูลบาวเออร์ฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจแฮโรลด์มากนัก แต่สุ
ฮาร์วีย์มีท่าทีไม่ค่อยอยากจะเชื่อ เขามาอยู่ที่ฟลัตเวลล์นานแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้พบกับซามูเอลเลยแต่ยังไงก็ตามแฮโรลด์โทรหาฮาร์วีย์ก็เพราะจุดประสงค์นี้เท่านั้นฮาร์วีย์หรี่ตาในขณะที่จ้องมองไปที่วิลล่าหลังนั้น จากนั้นก็มีคนสองสามคนปรากฏตัวขึ้นหนึ่งในนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนที่นายน้อยของหลงเหมินและตระกูลบาวเออร์รอคอยมานาน เขาก็คือซามูเอล บาวเออร์ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“ท่านหัวหน้าของหลงเหมินป่วยจริง ๆ เหรอ?”“เขามีภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ร้ายแรงเท่าที่ใคร ๆ คิด เขาจะไม่ตายจากอาการป่วยนี้หรอก" แฮโรลด์ตอบอย่างใจเย็น“มีข่าวลือว่าเขากำลังจะตายในไม่ช้าแพร่กระจายออกไป เพราะเขาต้องการพิจารณาว่านายน้อยในตระกูลคนไหนที่ดูเหมาะสมจะรับตำแหน่งต่อจากเขา"“นี่เป็นข่าวลวงเหรอ?” ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆใบหน้าของแฮโรลด์ดูซีดลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น“นี่เป็นเรื่องปกติของตระกูลใหญ่ ๆ อย่างตระกูลของพวกเราใช่ไหม?“มีเพียงผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงเท่านั้นที่สามารถเก็บเรื่องความตายให้เป็นความลับได้ นี่คือมาตราฐาน“นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงมีผู้คนบอกว่าตระกูลใหญ่ ๆ มักจะดูไร้อารมณ์"ฮาร
"ผม…"“...ขอปฏิเสธ" ฮาร์วีย์ตอบหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง“ผมคงเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนไปแล้วถ้าผมอยากจะเป็น ทำไมผมจะต้องรอมาจนถึงเดี๋ยวนี้ด้วยล่ะ?“นอกจากนี้คุณก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคนยังไง ผมไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงและเงินทอง"ซามูเอลไม่แปลกใจนักหลังได้ยินการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาของฮาร์วีย์“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็ทำได้เพียงส่งข่าวกลับไปหาบิ๊กบอสและกาวิน" เขาตอบ“ฉันแน่ใจว่าพวกเขาต้องรู้สึกผิดหวัง"ฮาร์วีย์ยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกซามูเอลถอนหายใจแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด“แล้วนายมีแผนจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงล่ะ?“ท้ายที่สุดแล้วการโต้เถียงกันไปมากับกลุ่มคนจากอินเดียและประเทศในแถบหมู่เกาะต่าง ๆ ก็ไม่ใช่สไตล์ของเรานะ"“เราจะจัดการกับเรื่องนี้แบบเดียวกับที่พวกเขากำลังวางแผนจะจัดการกับผมนั่นแหละ" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“พวกเขาทุ่มความพยายามอย่างมากในการรวมกลุ่มสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้เข้าด้วยกัน“ในเมื่อพวกเขามั่นใจว่าจะโค่นล้มผมด้วยวิธีนี้ได้...“ผมก็ไม่รังเกียจที่จะเล่นสนุกกับพวกเขาสักหน่อย"ซามูเอลปล่อยหัวเราะออกมา“ถ้าอยากจะเล่นกับคนพวกนั้น นายก็ต้องเป็นนายน้อยของหลงเหมินอย่างเป็นทา