ฮาร์วีย์คิดว่าในขณะที่เขาพยายามแสดงบทบาทของเขาในฐานะนายน้อย...ซามูเอลก็ยังคงเป็นนายใหญ่ที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในหลงเหมินฮาร์วีย์เชื่อว่าเขาจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าเป็นเพียงตำแหน่งกิตติมศักดิ์แต่ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ ความรับผิดชอบทั้งหมดก็ถูกเทมาให้เขาทันที!ซามูเอลหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นฮาร์วีย์นิ่งอึ้งไป“ด้วยความที่เราได้ทำข้อตกลงกันแล้ว นายก็ไม่สามารถกลับคำพูดได้อีกแล้วนะฮาร์วีย์“คราวนี้นายจะต้องต่อสู้กับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่!“และด้วยความที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของโลกใต้ดิน หลงเหมินจึงมีพลังมหาศาล!“จากนี้เป็นต้นไปนายจะเป็นผู้ควบคุมทรัพย์สมบัติและสายสัมพันธ์ทุกอย่างขององค์กรแห่งนี้“นายไม่ได้เป็นแค่ตัวแทนของตัวนายเองอีกต่อไป“นายต้องต่อสู้เพื่อชื่อเสียงของหลงเหมิน!”ฮาร์วีย์ถอนหายใจ“พอได้แล้วท่านผู้เฒ่า หยุดยั่วยุผมได้แล้ว มีแค่ตัวตลกเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นเองที่ผมต้องจัดการ"มีสายสัมพันธ์บางสายที่เขาไม่อยากจะใช้เลย และมีโทรศัพท์บางสายที่เขาไม่อยากจะโทรไปหาเลย...ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซามูเอลยิ้มหลังจ
“เจ้าชายออสบอร์น!”ซามูเอลตบไคลด์ลอยกระเด็นออกไปทันทีโดยไม่ให้เวลาเขาได้โต้ตอบอะไรเลยหลายคนรีบวิ่งเข้าไปหาไคลด์เพื่อช่วยอุ้มเขาขึ้นมากลุ่มผู้หญิงสวย ๆ ที่อยู่ข้างหลังเขาต่างตกตะลึงพวกเธอไม่คิดว่าจู่ ๆ ชายชราจะตบหน้าไคลด์ได้อย่างง่ายดายฮาร์วีย์ยืนหน้านิ่งอยู่ทางด้านข้างซามูเอลยังคงเป็นนายใหญ่ของหลงเหมิน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ Hแม้แต่นายใหญ่ของตระกูลลึกลับทั้งห้าก็ยังไม่สามารถเอาชนะเหนือเขาได้เลยไคลด์คงอยากจะตายมากถึงได้มาทำอวดเบ่งต่อหน้าซามูเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่เขาจะมีอำนาจด้วยซ้ำไป“กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวฉัน ไอ้สารเลว!"ไคลด์รู้สึกโกรธจนหน้ามืดตามัว เขาไม่สนใจเลยว่าซามูเอลเป็นใครเมื่อมาถึงจุดนี้เขาได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์อินเดียและตระกูลออสบอร์น และได้รับคำสั่งให้ใช้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ เพื่อต่อสู้กับประเทศ Hชายชราคนนี้สามารถทำให้ไคลด์ลอยกระเด็นไปด้วยตัวเขาเองได้อย่างไรกัน?ท้ายที่สุดแล้วไคลด์เป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองมากถ้าเขาไม่ต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง แล้วเขาจะอวดความแข็งแกร่งของตัวเองในฟลัตเวลล์ได้ยังไง?หลังจา
“อย่างนั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ“งั้นฉันจะทำแทนเขาก็แล้วกัน"“เฮ้ย! นายคิดว่านายอยู่ยงคงกระพันเพียงเพราะนายชนะมาแค่สองสามแมตช์บนสังเวียนเหรอ?”ไคลด์ร้องคำรามหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เขาเตรียมที่จะกลืนยาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งเข้าไป ไคลน์พร้อมที่จะให้บทเรียนแก่ฮาร์วีย์ในแบบที่เขาจะไม่มีวันลืม...แต่ในขณะนั้นเองซามูเอลก็พูดขึ้นมาว่า“ในเมื่อไอ้สารเลวคนนี้บอกว่าฉันไม่กล้าแตะต้องตัวเขา งั้นฉันก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นหน่อยว่าเขาคิดผิด“ถ้าไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของฉันก็ต้องมัวหมองไปหมดแน่”ซามูเอลลุกขึ้นจากรถเข็น เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะแดงผิดปกติก็ตาม"โอ้? คุณแน่ใจเหรอที่จะมาต่อกรกับผม ปรมาจารย์บาวเออร์“คุณยืนตัวตรง ๆ ได้หรือเปล่า?“ถ้าคุณแตะต้องตัวผมอีกครั้งล่ะก็ ผมจะฟาดคุณลงกับพื้นอย่างแน่นอน“มันคงไม่ดีแน่ถ้าคุณตัดสินใจเอาเรื่องนี้ไปข่มขู่ผมในอนาคต“คุณแก่แล้วนะ! ทำไมยังไม่ยอมหยุดอวดเก่งสักทีล่ะ?“ไม่มีใครช่วยคุณได้เลยนะถ้าเกิดอะไรขึ้น!”สำหรับไคลด์แล้ว ซามูเอลไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลย เพราะเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุผลเดียวที่ไคลด์ถูกตบหน้าก็เพร
“แก…”ไคลด์หายใจหอบด้วยความโกรธ...แต่ทันทีที่กำลังจะลงมือจัดการ เขาก็ต้องยับยั้งตัวเองเอาไว้เขาคิดว่าซามูเอลน่าจะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังการแสดงท่าทีเก่งกล้าอย่างนั้นออกมาถ้าไคลด์ยังบังคับมือของเขาให้ทำงานต่อไป ซามูเอลก็คงจะมีข้ออ้างที่จะเอาชีวิตเขาได้นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการแก้ไขสถานการณ์ทั้งหมดนี้ไคลด์บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์โดยไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลย ก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมา“ผมล้อเล่นน่ะครับนายใหญ่บาวเออร์!“ผมก็แค่เป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา!“ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยที่ทำหยาบคายกับคุณมาก“ผมจะไม่ทำผิดซ้ำสองอีกแน่นอน!”เพียะ!ซามูเอลเหวี่ยงหลังมือไปบนใบหน้าของไคลด์อีกครั้ง ทำให้เขาล้มลงกับพื้น"อะไรกัน? แกคิดว่าแกเป็นคนเก่งกล้าอย่างนั้นเหรอ?“แกคิดว่านายใหญ่บาวเออร์ขุดหลุมพรางให้แกกระโดดลงไป...“จนทำให้แกรู้สึกกลัวขึ้นมาเหรอ?“แกเป็นคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรไม่ใช่เหรอ?“แกไม่ใช่เจ้าชายแห่งตระกูลออสบอร์นหรอกเหรอ?“แกไม่ใช่ผู้สืบทอดราชวงศ์อินเดียหรอกเหรอ?"อะไรกัน? แกยอมแพ้เพราะกลัวตายอย่างนั้นเหรอ?”“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าแกกล้าทำอะไรกับฉันล่ะก็ ฉัน
ฮาร์วีย์อดที่จะเหลือบมองซามูเอลไม่ได้ หลังจากที่เห็นไคลด์เดินจากไปด้วยความขุ่นเคือง อย่างที่นายใหญ่ของหลงเหมินคาดการณ์ไว้นั่นแหละถึงแม้ว่าจะล้มเหลวในการฝึกฝนตัวเองให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติ แต่เขาก็ยังคงมีความโดดเด่นเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะลดลงครึ่งหนึ่งก็ตามตำแหน่งของเขาในฐานะรากฐานสำคัญของประเทศนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อการแสดงเท่านั้นไคลด์คงอยากจะตายถึงได้มาต่อกรกับซามูเอลด้วยตัวเองนับเป็นเรื่องดีที่เขารู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุดถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงตายไปแล้วเขาจะถูกกล่าวหาว่าพยายามลอบสังหารนายใหญ่ของหลงเหมินด้วย“นายเห็นไหม คุณยอร์ก?“ไม่ว่าศัตรูจะมีความฉลาดแกมโกงขนาดไหน พวกเขาก็ยังสู้ความแข็งแกร่งอันบริสุทธิ์ไม่ได้”ซามูเอลทำสีหน้าเห็นใจในขณะที่มองดูไคลด์เดินจากไปฮาร์วีย์ได้แต่ยิ้ม“นี่เป็นบทเรียนที่ดีทีเดียว…“น่าเสียดายที่ยังเก่งกล้าได้ไม่พอ ไม่อย่างนั้นก็คงได้เห็นความโหดเหี้ยมกว่านี้แล้ว“ผมจะจดจำคำสั่งสอนของคุณไว้…”ซามูเอลถอนหายใจ“ฉันช่วยอะไรไม่ได้ ตอนนี้ฉันแก่เกินไปแล้ว ฉันไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็ไม่เก่งกล้าเหมือนเมื่อก่อนด้วย
“ชัยชนะอยู่ตรงหน้าเราแล้ว!”“พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีก! นอกจากจะต้องยอมรับเงื่อนไขของเราเท่านั้น“เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วเรายังต้องกลัวอะไรอีกล่ะ?!”ไคลด์หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนดื่มไวน์ลงไป“ส่งผู้เชี่ยวชาญของอินเดียไปตอนนี้เลย“หาโอกาสกำจัดไอ้เฒ่าสารเลวนั่นซะ!”“เจ้าชายออสบอร์นครับ!”อีโบนี่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูเป็นกังวล“คนที่แทรกซึมเข้ามาในประเทศ H ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จูลิโอ การ์เซียอบรมสั่งสอนมาทั้งนั้น!“ถึงจะมีไม่มากนักแต่ตัวตนของพวกเขาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ“คนพวกนี้ซ่อนตัวอยู่ในประเทศนี้มานานแล้ว การที่พวกเขาจะเปิดเผยตัวตนออกมาในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงจะไม่คุ้มค่านักหรอก...“โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจะมาต่อต้านซามูเอล ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขายังคงเป็นนายใหญ่ของหลงเหมินอยู่“ถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้าเขาก็อาจมีข้ออ้างที่จะกวาดล้างพวกเราทั้งหมดได้“เมื่อเป็นอย่างนั้นทุกแผนการที่เราเตรียมไว้ก็จะพังทลายหมด!“ฟังผมหน่อยเถอะครับเจ้าชายออสบอร์น! ยังไม่สายเกินไปหรอกที่จะแก้แค้น!”พลั่ก!ไคลด์ยืนขึ้นแล้วเตะเอโบนี่ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยสีหน้าเย็นชา“แกกำลังสั่งสอนฉันอ
ดวงตาของไคลด์กระตุกอย่างบ้าคลั่ง หลังจากได้ยินชื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอนในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศ H เขารู้ดีว่าชื่อนั้นหมายถึงอะไรเขาไม่เคยพบหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนนี้มาก่อนเลย…แต่เขาสามารถบอกได้เลยว่าคน ๆ นี้มีความแข็งแกร่งขนาดไหน โดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของแอนเซล ตอร์เรส ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาคนแรกของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์นั่นเองเสียงของเวอร์มิลเลียนเบาลงเมื่อมองเห็นสีหน้าของไคลด์“นอกจากนี้ เจ้าชายออสบอร์น…“คุณเป็นบุคคลที่มีคุณค่าสูง ทำไมต้องไปต่อกรกับคนที่กำลังจะตายอย่างนั้นด้วยล่ะ?“ไม่มีใครยืนอยู่หลังกำแพงที่กำลังจะพังทลายลงหรอกค่ะ“เรามีพละกำลังที่แข็งแกร่งอยู่ในตอนนี้ คุณยังมีกองกำลังส่วนใหญ่ของตระกูลที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของคุณ...“พูดได้เลยว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้มีความสามารถชั้นยอดเพียงไม่กี่คนในประเทศ H“แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะไปต่อสู้กับหลงเหมินในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้“ท้ายที่สุดแล้วก็จะส่งผลเสียต่อแผนการอันยิ่งใหญ่ของคุณได้!“เราควรรอจนกว่าเราจะบดขยี้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H และฮาร์วีย์ได้สำเร็จ"เมื่อเรากลับไปยังอินเดีย เราก็สาม
ในวันรุ่งขึ้นขณะที่ไคลด์ยังคงมีอารมณ์ขุ่นมัวอยู่อย่างมากมายนั้น...ฮาร์วีย์ได้เรียกรถแท็กซี่ไปยังอาคารสำนักงานของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้นอกจากจะอยากเห็นว่าโคลตันกำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ เขาก็ยังอยากพูดคุยกับเขาในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนด้วยเมื่อพิจารณาจากบุคลิกของไคลด์ ท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์ก็เชื่อว่าชายที่หยิ่งผยองคนนี้จะไม่เพียงแค่นั่งเฉย ๆ และไม่ทำอะไรเลยหลังจากต้องทนทุกข์กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่การกระทำของซามูเอลดูเหมือนเป็นการกระทำที่บุ่มบาม แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังบังคับให้ไคลด์ดึงไพ่ใบสุดท้ายออกมาในขณะที่ศัตรูไม่ทันได้ระวังตัว ก็จะสามารถเล่นงานพวกเขาได้ง่ายขึ้นทันทีที่ฮาร์วีย์เข้าไปในห้องทำงาน โคลตันก็ใช้มือทุบโต๊ะอย่างฉุนเฉียว“ไอ้สารเลว! ไอ้พวกขี้ขลาด!“รองผู้นำพวกนั้นไร้ประโยชน์จริง ๆ เหรอ?!”“หรือว่าคนจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นคิดว่าพวกเขาเหนือกว่าคนอื่น? พวกเขาไม่สนใจความรุ่งโรจน์ของประเทศตัวเองเลยหรือไง?“นี่เป็นเรื่องที่แย่มากที่พวกเขาไม่ยอมยืนหยัดอยู่ข้างฉันในช่วงเวลาอันสำคัญเช่นนี้...“พวกเขายังคงรบเร้าให้ฉันยอมรับเงื่อนไขนั้นโดยเร็วที