Home / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 35%

Share

บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 35%

last update Last Updated: 2024-12-28 12:30:11

ร่างสูงใหญ่ของภีมพลก้าวเดินอย่างเชื่องช้าอยู่ตรงลานจอดรถสำหรับพนักงาน ในมือถือโทรศัพท์ไว้โดยที่สายตาก็จดจ่ออยู่แต่หน้าจอ ใบหน้าระบายยิ้มอ่อนโยน บางคราวก็หัวเราะขลุกขลักในลำคอ เวลาที่ชายหนุ่มก้มลงพิมพ์ข้อความเขาจะหยุดเดิน ราวกับกลัวว่าจะพิมพ์ผิดแล้วต้องเสียเวลาพิมพ์ใหม่

ด้วยความที่มัวแต่สนใจกับแชตในโทรศัพท์ จึงทำให้ไม่รู้ตัวว่าเจ้าของรถยุโรปคันหรูที่เข้ามาจอดเทียบกับเขาเมื่อครู่นั้น กำลังเดินตามหลังมาด้วยแววตาระยิบระยับพลางหันไปพยักพเยิดกับหญิงสาวที่ตนกำลังโอบเอวอยู่

“ม็อทครับ ผมว่าพักหลังมานี้ไอ้ภีมเพื่อนผมดูมันกำลังอินเลิฟยังไงก็ไม่รู้” พชรพูดกับสาวสวยข้างกาย ทำทีเป็นไม่เห็น และไม่สนใจภีมพลที่เดินนำอยู่

“ยังไงหรือคะ” ช่อมาลีแสร้งรับมุกทำเป็นไม่เห็นภีมพลบ้าง ขณะเดินผ่านคนที่กำลังพูดถึง

“ก็ยิ้มคนเดียว หัวเราะคนเดียว แชตไปยิ้มไป ผมสงสัยว่ามันกำลังจีบสาวสักคนแน่ ๆ”

พชรแกล้งเอาหัวไหล่กระทบกับไหล่ของภีมพลตอนเดินแซงไปข้างหน้า คนถูกชนได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร แต่สาวเท้าก้าวตามคู่รักเข้าอาคารไปเงียบ ๆ เขามองพชรกับช่อมาลีที่เดินคุยกันกะหนุงกะหนิงอย่างอารมณ์ดี

คนมีความรักมันดีอย่างนี้นี่เอง...

เมื่อมาถึงด้านใน ช่อมาลีขอตัวออกไปทักทายเพื่อนในวงดนตรี ถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้เป็นนักร้องนำให้วงบัตเตอร์ฟลายแล้ว แต่ก็มักแวะเข้าไปนั่งเล่นพูดคุย รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการร้องเพลงให้นักร้องสาวคนใหม่ของวงอยู่เสมอ

ตอนนี้คลับซุสรับวงดนตรีใหม่เข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งวง เป็นแนวอะคูสติก และเป็นคู่ดูโอชายหญิง ซึ่งจะเล่นในช่วงหัวค่ำประมาณหนึ่งชั่วโมงทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์เช่นเดียวกับวงบัตเตอร์ฟลาย

วันแรกที่ช่อมาลีเห็น และได้ทักทายตอนที่นักร้องใหม่ขึ้นไปแนะนำตัวกับภีมพลและพชรบนออฟฟิศเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น วิคกี้ นักร้องนำสาวก็ดูเป็นมิตรและยิ้มแย้มกับเธอดี ทว่าพอคล้อยหลังสองหนุ่มเจ้าของคลับแล้ว ช่อมาลีกลับได้รับสายตาเหยียดหยามอย่างดูแคลนจากหญิงสาวคนนั้น ทั้งที่เธอพยายามยิ้มให้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยเหยียดยิ้มที่มุมปากจนกลายเป็นเบะออกอย่างรังเกียจ และครั้งนี้ก็เช่นกัน

“เดี๋ยววิคกี้ ฉันถามจริง ๆ เถอะ เธอมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่า ฉันว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนะ”

ช่อมาลีโพล่งถามทันทีเพราะไม่ชอบให้เรื่องคาราคาซัง เธอมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงตรงหน้ามาก่อนแน่นอน แต่ทำไมกิริยาท่าทางที่นักร้องสาวคนนี้แสดงต่อเธอถึงได้ทำเหมือนกับว่าโกรธเกลียดกันมาเป็นร้อยชาติ

“แหม...ฉันจะกล้ามีอะไรกับมาดามแห่งคลับซุสได้เล่า ว่าแต่เธอนี่ก็เก่งนะ จากนักร้องเล่นตามผับตามบาร์ธรรมดาได้เลื่อนฐานะเป็นถึงคู่หมั้นเจ้าของคลับจนได้ ไปทำอีท่าไหนเข้าล่ะคุณโอมเขาถึงได้ติดใจยกย่องผู้หญิงกลางคืนอย่างเธอขึ้นมาเป็นแฟน มีเคล็ดลับดี ๆ ก็บอกฉันมั่งสิ เผื่อฉันจะได้เอาไปใช้กับคุณภีมบ้าง”

วิคกี้ลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา ลืมแม้กระทั่งว่าตนเองก็เป็นผู้หญิงทำงานกลางคืนเช่นเดียวกับคนที่กำลังคุยด้วย เจ้าตัวรู้แค่ว่าผู้หญิงตรงหน้าก็คืออดีตนักร้องสาวสุดเซ็กซี่แห่งวงบัตเตอร์ฟลายผู้โด่งดัง

วิคกี้จำได้ว่าเวลาตนไปเล่นดนตรีที่ไหน มักได้ยินแต่นักเที่ยวกลางคืนพูดถึงวงบัตเตอร์ฟลายไม่ขาดปาก พอได้มาเล่นให้ที่นี่ ได้รู้ว่าอดีตนักร้องสาวคนนี้เป็นถึงคู่หมั้นของพชรจึงทำให้เธออดริษยาไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันวิคกี้ก็เริ่มคาดหวังบางสิ่งบางอย่าง

ในเมื่อผู้หญิงตรงหน้าเธอยังใช้มารยาล่อหลอกเจ้าของคลับให้มาตกหลุมรักได้ แล้วทำไมเธอจะทำอย่างเดียวกับเจ้าหล่อนให้ภีมพลมาตกหลุมรักบ้างไม่ได้เล่า

ช่อมาลีแค่นยิ้มมุมปาก ร่างระหงยืนกอดอกจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาสมเพชกึ่งเยาะ

“อ้อ...อยากจับคุณภีมว่างั้น เอางี้ละกันนะ ถ้าเธออยากรู้ว่าฉันใช้ท่าไหน หรือทำยังไงคุณโอมถึงหลงกลฉันได้ ฉันแนะนำว่าให้เธอลองไปถามเขาด้วยตัวเองจะดีที่สุด อย่างว่าแหละนะ ฉันใช้หลายท่า เลยไม่รู้ว่าเขาติดใจท่าไหนที่สุด อ๊ะ! จริงสิ ฉันจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะ คุณภีมน่ะเขาเจ้าชู้ก็จริง แต่ว่า...”

ช่อมาลีหยุดพูดไปชั่วครู่ พลางใช้สายตากวาดมองคนตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าอย่างดูแคลน ก่อนจะเอ่ยออกมาเบา ๆ

“เขาก็เลือกเหมือนกันนะ”

พูดจบร่างสูงโปร่งของช่อมาลีก็เดินหายไปทางห้องหลังเวที ทิ้งให้คนถูกหลอกด่าถึงกับยืนกำมือแน่น เม้มปากจนเป็นเส้นตรงอย่างสะกดกลั้นอารมณ์เต็มที่

“คอยดูฝีมือของฉันบ้างก็แล้วกัน”

วิคกี้พูดอย่างหมายมาด คนอย่างเธอถ้าตั้งใจทำอะไรสักอย่างแล้วต้องทำให้ได้ ซึ่งหมายรวมถึงชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของคลับด้วยเช่นกัน เธอหมายมั่นปั้นความหวังเอาไว้ว่าต้องได้เป็นมาดามคลับซุสอีกคนหนึ่ง และเท่าที่รู้มานั้น ภีมพล เจ้านายอีกคนของเธอก็มีกิตติศัพท์ในเรื่องผู้หญิงใช่ย่อย นับว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อยเพราะมันง่ายสำหรับเธอในการพาตัวเองเข้าไปสนิทสนมกับเขา

ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ด้านบนนั้น พชรกำลังตกใจกับคำบอกกล่าวของเพื่อนสนิทไม่น้อยเมื่ออยู่ดี ๆ คนที่เคยพูดว่าการหมั้นหรือการแต่งงาน ไม่ต่างอะไรกับการที่เอาโซ่หนัก ๆ มาล่ามข้อเท้าเวลาเดิน แต่บัดนี้คนพูดกลับทำหน้าระรื่นบอกว่ากำลังจะเข้าพิธีหมั้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

“เฮ้ย! ถามจริง หมั้นกับใครวะ แกล้อฉันเล่นหรือเปล่าไอ้ภีม”

พชรกระเด้งตัวนั่งหลังตรงทันที ยิ่งเห็นสีหน้าเพื่อนไม่ได้มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด แต่กลับดูรื่นรมย์เสียเหลือเกินก็ยิ่งสงสัย

“พูดจริงน่ะสิ เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาล้อเล่นกัน”

ภีมพลพูดยิ้ม ๆ พลางเดินไปยังตู้เก็บสุรา หยิบวิสกี้ที่เหลืออยู่ประมาณครึ่งขวดออกมารินใส่แก้วให้ตนเองกับพชร

“แกเล่ามาเดี๋ยวนี้เลย อะไรวะ มีอะไรดี ๆ ก็ปิดเงียบกันเฉยเลยไม่บอกไม่กล่าว ทีงานหมั้นของฉันกับม็อท ฉันยังบอกแกคนแรกเลย” พชรต่อว่าเพื่อนไม่จริงจังนัก ส่วนภีมพลก็ไม่ได้คิดมาก หรือถือสาอะไรเพราะรู้นิสัยกันดีอยู่แล้ว

“แกจำผู้หญิงที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่าเชิดเงินฉันไปหมดกระเป๋าเลยได้หรือเปล่า”

ภีมพลเดินถือแก้วสองใบพร้อมกับขวดวิสกี้วางลงบนโต๊ะแล้วนั่งอีกฝั่งหนึ่งของโซฟา ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ก่อนเปิดปากเล่าเรื่องราวทั้งหมดตลอดหลายวันที่ผ่านมาให้เพื่อนรักฟังอย่างหมดเปลือก แน่นอนว่าหลังจากที่พชรฟังจบ เขาก็หัวเราะลั่นห้องทันที

“ฮ่า ๆ น้องเขาเรียกแกว่าคุณอาเลยหรือวะ คุณอาภีมขา...โห...ฟังยังไงก็น้องพ่อชัด ๆ ทำไมแกไม่บอกให้เรียกแกว่าพี่เล่า ปล่อยให้เรียกอาอยู่ได้ ขืนเขาไปเรียกที่ไหนแกไม่อายคนอื่นเขาหรือไง คู่หมั้นตัวเองมาเรียกว่าคุณอา”

พชรพูดไปหัวเราะไป นึกอยากเห็นหน้าสาวน้อยวัยใสคนนั้นเสียแล้ว

“ว่าแต่แกกับน้องเขาอายุห่างกันกี่ปี”

พชรอดถามขึ้นไม่ได้ ในเมื่อภีมพลบอกแค่ว่าเป็นเด็กสาวข้างบ้าน แถมยังเรียกว่าคุณอาอีกต่างหาก

“ไม่รู้ว่ะ ไม่ได้นับ น้องอายเพิ่งเรียนจบม.ปลาย ตอนนี้รอผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่”

คำตอบของภีมพลทำเอาพชรเกือบสำลักวิสกี้ ชายหนุ่มไอโขลก ๆ จนหน้าแดงก่ำ ก่อนจะรีบลุกพรวดไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าขึ้นดื่ม

“พระเจ้า! เพิ่งจบม.ปลาย ไอ้ภีม! นี่แกพรากผู้เยาว์หรือวะ”

“พรากบ้าอะไร ยังไม่เคยทำอะไรเขา...ก็แค่เกือบไป”

ภีมพลส่ายหน้าให้กับความคิดของเพื่อน ยอมรับว่าเขาคิดทะลึ่งกับรวิชาบ้างเป็นบางครั้งตามประสาผู้ชาย แต่ไม่เคยคิดจะทำอย่างที่ใจต้องการเลยสักครั้ง เพราะติดที่ว่าอีกฝ่ายยังเด็กเกินไป เขาอยากให้เธอค่อย ๆ เรียนรู้การแสดงความรักในแบบ “ผู้ใหญ่” แบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า และครูผู้สอนก็ต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น

“ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องหมั้นเลยนี่ แกนึกยังไงถึงได้ตกปากรับคำว่าจะหมั้นกับเขาวะ” พชรยังคงสงสัยไม่หาย ถ้าเป็นแค่เรื่องที่ภีมพลเล่ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจทางครอบครัวของรวิชา หรือเรื่องหุ้นส่วนที่หวังจะเคลมบริษัทโดยการเข้าทางบุตรสาวนั้น ก็มีวิธีแก้ไขในรูปแบบอื่นอีกตั้งหลายทาง ไม่น่าจะเลยเถิดมาถึงการหมั้นหมายนี่ได้

“ก็ไม่มีอะไร ฉันเอ็นดูน้องอายมาตั้งแต่เด็ก รักเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง เรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะช่วยไม่ได้ ก็แค่หมั้น”

ภีมพลตอบเสียงสูงพลางกรอกน้ำสีอำพันเข้าปากราวกับต้องการกลบเกลื่อนพิรุธ

“ปากก็บอกเอ็นดู แต่ใจน่ะอยากให้น้องเขาดูเอ็นมากกว่าล่ะมั้งไอ้ภีม แกอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว อย่านึกว่าฉันไม่รู้ โธ่ ทำมาเป็นพูดว่ารักเหมือนน้องเหมือนนุ่ง แต่ใจจริงก็ไม่อยากให้น้องนุ่งผ้ามากกว่า” พชรหรี่ตามองอย่างจับผิด ในขณะที่คนถูกจับผิดคลี่ยิ้มกว้าง ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาให้ตนเองต้องถูกล้ออีก

“นี่แสดงว่าที่แกแชตไปยิ้มไปเมื่อกี้นี้ก็คือแชตคุยกับน้องเขาล่ะสิ” พชรถามพลางกลั้นหัวเราะเต็มที่

“เออ!” สิ้นคำตอบของภีมพล พชรก็หัวเราะลั่นออกมาอีกอย่างอดไม่อยู่

Related chapters

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 70%

    เช้าวันถัดมา ภีมพลเดินเข้ามาในบ้านของว่าที่คู่หมั้นอย่างสนิทชิดเชื้อราวกับเป็นบ้านของตนเอง ชายหนุ่มนั่งรอรวิชาที่ห้องรับแขก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาสาวน้อยที่แต่งตัวอยู่ข้างบน เพื่อบอกว่าตนมารออยู่ข้างล่างแล้ว พลางเอ่ยขอบคุณมาลัยที่เอาน้ำมาเสิร์ฟให้รวิชากึ่งวิ่งกึ่งเดินลงบันไดมาหลังจากที่เขาส่งข้อความไปบอกไม่นานนัก ความจริงเธอแต่งตัวเสร็จสักพักใหญ่แล้ว แต่ที่ยังไม่ลงมาเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอตื่นเต้นแค่ไหนกับการต้องนั่งรถไปกับเขาสองต่อสองภีมพลลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อรวิชาเดินลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย ตาคมกวาดมองคนตรงหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความพึงพอใจ วันนี้สาวน้อยของเขาช่างน่ารักเหลือเกิน พักนี้เขารู้สึกว่าไม่ว่ารวิชาจะใส่ชุดอะไรก็ดูดี น่ารักสมวัยไปเสียทุกอย่าง จนกลายเป็นเขาเสียเองที่ต้องพยายามแต่งตัวให้เข้ากับวัยของเธอเพื่อไม่ให้ดูแก่จนเกินไป“น้องอายจะกินมื้อเช้าก่อนไหม หิวหรือเปล่า หรือว่ากินแล้ว” เขาถามเสียงอ่อนเพราะเห็นว่ายังเช้าอยู่ คิดว่าเธอคงยังไม่ได้กินมื้อเช้าแน่นอนรวิชามองหน้าเขาพลางเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะถามกลับ

    Last Updated : 2024-12-28
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 100%

    “ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่คงทำงานหนักน่าดูเลยนะคะ น้องอายเห็นท่านไม่ค่อยกลับบ้านเลย นี่ก็เห็นว่าต้องขึ้นเหนือไปดูแปลงเพาะปลูกของเกษตรกรอีก”“ใช่ค่ะ ตอนนี้บริษัทเราประมูลได้ออเดอร์ล็อตใหญ่จากดูไบ พวกผู้บริหารตื่นเต้นกันใหญ่เลยค่ะ วันก่อนเพิ่งประชุมกันว่าต้องมีการลงทุนเพิ่ม รวมถึงการจ้างพนักงานเพิ่มด้วย เพราะที่นี่ก็มีพนักงานแค่สามสิบกว่าคน ถ้าต้องทำล็อตของดูไบ คนแค่นี้ไม่พอแน่ ๆ”หวานอธิบายไปยิ้มไป เพราะการมีออเดอร์ล็อตใหญ่เข้ามา รายได้ของบริษัทก็ต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานอย่างพวกเธอก็ต้องหวังผลไปถึงโบนัสปลายปีด้วยถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาบริษัทจะประสบสภาวะขาดทุน เพราะข่าวลือ และการใส่ร้ายป้ายสีเรื่องวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ รวมถึงโดนตัดราคาจากแบรนด์น้องใหม่ แต่ประธานบริหารก็ไม่ยอมปลดพนักงานออกแม้แต่คนเดียว ทั้งยังจ่ายโบนัสให้กับทุกคนตอนสิ้นปีตามปกติอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะแค่เดือนเดียวก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพนักงานทุกคนจึงยอมทุ่มเทแรงกายแรงใจและสมอง รวมถึงความจงรักภักดีกับองค์กรอย่างถึงที่สุด“สามสิบกว่าคน เดี๋ยวนี้บริษัทเร

    Last Updated : 2024-12-28
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 9 คู่หมั้นของผม - 25%

    รวิวรรณมองบุตรสาวที่หมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ด้วยแววตารักใคร่ มะรืนนี้เป็นวันหมั้นหมายแล้ว ดูท่าทางเจ้าตัวจะตื่นเต้นมาก เพราะทันทีที่เธอกลับมาถึงบ้าน บุตรสาวสุดที่รักก็ดึงมือชวนไปดูชุดที่ภีมพลซื้อให้ อีกทั้งยังทดลองทำผมหลายทรงแล้วถามความเห็นมารดาอย่างตนด้วยว่าทรงไหนสวยที่สุด“คุณแม่ว่าน้องอายทำผมเป็นลอนดีไหมคะ จะได้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ถ่ายรูปออกมาจะได้สวยด้วย” เสียงเจื้อยแจ้วของรวิชาเรียกรอยยิ้มของคนที่กำลังเดินเข้ามาใหม่ได้ไม่น้อย“ลูกสาวของพ่อ ทำทรงไหนก็สวยทั้งนั้นแหละ”อาทิตย์นั่งลงข้างภรรยาพร้อมกับหันไปยิ้มให้กันอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขัน ใครกันหนอที่หน้าหงิกหน้างอไม่อยากหมั้นกับคนแก่ แล้วดูตอนนี้สิ ตื่นเต้นจนแทบนั่งไม่ติด“แต่น้องอายก็อยากได้ทรงที่สวยที่สุดนี่นา เอางี้ดีกว่า ในสายตาของคุณพ่อ คุณพ่อว่าทรงไหนดีคะ ระหว่างมัดรวบไว้สูง ๆ หรือม้วนเป็นลอน หรือว่าปล่อยยาวตรงลงมาธรรมดา ๆ ไม่ต้องทำอะไรกับมัน”อาทิตย์ทำทีเป็นครุ่นคิดทั้งที่ในใจอยากจะหัวเราะออกมาเต็มที่ แต่ไม่อยากให้บุตรสาวงอน

    Last Updated : 2024-12-29
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 9 คู่หมั้นของผม - 50%

    “ผมขอให้คำสัตย์กับพี่ว่าตลอดระยะเวลาที่น้องอายยังเป็นนักศึกษา ผมไม่มีวันทำเรื่องไม่เหมาะไม่ควรกับน้องอายเป็นอันขาด พี่เชื่อใจผมได้ และผมก็ขอยืนยันด้วยว่าตลอดเวลาที่ผมอยู่ในฐานะคู่หมั้นของน้องอาย จะไม่มีข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิงมาให้ระแคะระคายหูพี่แน่นอน ผมขอรับปากพี่ไว้ตรงนี้เลย”ภีมพลกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สิ่งที่เขาพูดออกไปนั้นเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว“ขอบคุณมากครับคุณภีม”อาทิตย์คลี่ยิ้มพลางลุกขึ้นแล้วยื่นมือออกไปข้างหน้า ภีมพลจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือออกไปบีบกระชับแน่นหนักเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของตนเองพิธีหมั้นเป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่มีพิธีรีตองมากนัก แขกที่เชิญมามีแค่เพื่อนสนิท โดยทางฝั่งภีมพลมีพชรควงคู่มากับช่อมาลี และอีกคนคือเธียรทัต เพื่อนสนิทที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ทางฝั่งรวิชามีแค่พรรณรายกับอารดา เพื่อนร่วมโรงเรียนมาร่วมงานด้วยเท่านั้นเพราะรวิชากำชับไม่ให้บอกใครทางด้านผู้ใหญ่มีแค่บิดามารดาของทั้งสองฝ่าย นอกเหนือจากนั้นก็มีลูกน้องของภีมพลอีกสี่คนที่มาร่วมงานซ

    Last Updated : 2024-12-29
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 9 คู่หมั้นของผม - 75%

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ เราก็แค่สนุกกันเกินไปหน่อย อย่างว่าแหละนะตอนเข้าด้ายเข้าเข็มใครจะมามัวนั่งสนใจกระเป๋า”ปากกล้าแต่ขาสั่น ประโยคนี้เหมาะกับกลวิชรในตอนนี้ที่สุด เพราะเพียงเห็นประกายตาวาวโรจน์ของคนตรงหน้าก็ทำเอารู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันทีภีมพลแค่นยิ้มมุมปาก เขาก้าวไปยืนจนแทบชิดกับตัวของกลวิชรจนอีกฝ่ายต้องผงะถอย“แต่เท่าที่ฉันเห็นมันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ทีหลังจะพูดจะจาหัดระวังปากไว้หน่อย ถ้ายังอยากมีฟันไว้เคี้ยวข้าว ครั้งนี้ฉันจะถือเสียว่าโดนหมามันเลียปาก แต่ถ้าครั้งหน้ายังเกรียนไม่เลิกก็อย่าหาว่าฉันรังแกเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแกก็แล้วกัน ฉันเตือนแกแล้วนะ” ภีมพลพูดเสียงลอดไรฟัน แสยะยิ้มใส่กลวิชรอย่างอาฆาตมาดร้ายก่อนจะออกคำสั่ง“ไสหัวไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”กลวิชรผละไปขึ้นรถที่จอดไว้หน้าบ้านอย่างฮึดฮัดขัดใจ สตาร์ตรถได้ก็ขับกระชากออกไปอย่างเร็วจนล้อบดถนนเสียงดังสนั่น ภีมพลมองตามหลังท้ายรถคันนั้นอย่างหมายมาดแล้วหันไปพูดกับลูกน้องที่ยืนอยู่แถวนั้น“เป็นต่อ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” เขาพ

    Last Updated : 2024-12-29
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 9 คู่หมั้นของผม - 100%

    ภีมพลพารวิชาเดินเข้าทางประตูสำหรับพนักงาน เพื่อจะพาหญิงสาวขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นส่วนของออฟฟิศ ทุกครั้งที่เจอพนักงาน ชายหนุ่มจะแนะนำรวิชาให้ทุกคนรู้จักในฐานะคู่หมั้นโดยไม่ปิดบัง สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนที่จู่ ๆ เจ้านายหนุ่มหล่อทั้งสองคนก็ประกาศตัวหมั้นหมายตามกันไปติด ๆมีเพียงวิคกี้ที่ยืนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อระงับอารมณ์กราดเกรี้ยวและมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของภีมพลด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เพราะไม่ว่ามองอย่างไรก็แค่เด็กเมื่อวานซืน แต่ทำไมถึงคว้าเอาชายหนุ่มที่เธอหมายปองไปครอบครองได้ อดคิดไม่ได้ว่าเด็กสาวคนนี้คงผ่านเรื่องอย่างว่ามาอย่างโชกโชนกระมังถึงได้จับเจ้าพ่อซุสได้อยู่หมัด“อย่าเผลอเชียวนะนังเด็กน้อย” วิคกี้เหยียดยิ้มมุมปากเมื่อคิดว่าเด็กสาวอย่างรวิชาคงจะไม่คณามือของตนสักเท่าไร แค่เด็กสาวใจแตกคนหนึ่ง ถ้าเธอเป่าหูเสียหน่อยก็คงจับสองคนนี้แยกกันได้ไม่ยาก“วันนี้ลูกค้าไม่ค่อยเยอะเท่าไรเพราะไม่ใช่คืนสุดสัปดาห์ อาสั่งให้เด็กเตรียมโต๊ะตรงโซนวีไอพีให้เรากับเพื่อนแล้วนะ แล้วเพื่อนเราจะมาถึงกี่ทุ่มล่ะ”ภีมพลชวนคุยร

    Last Updated : 2024-12-29
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 10 หึงไม่รู้ตัว - 25%

    ทั้งสามคนนั่งเพลิดเพลินกับความสนุกสนานที่รายล้อมรอบตัว รวิชาได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่พรรณรายพามา เขาชื่อสกลธี และด้วยความที่สกลธีเป็นเกย์ควีนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีเลิศ เธอจึงสามารถสนิทกับเขาได้อย่างรวดเร็ว“เออใช่ ฉันก็ลืมเล่าให้แกฟังเลยยายอาย ที่จริงวันนี้น่ะฉันชวนพี่ทิวมาด้วยนะ แต่เห็นพี่ทิวบอกว่าต้องไปเยี่ยมพี่วิชรที่โรงพยาบาล แกรู้ไหมว่าพี่วิชรเป็นอะไร”พรรณรายพูดออกท่าออกทางอย่างตื่นเต้น มองสีหน้าของเพื่อนสนิทที่กำลังมองมาตาแป๋วรอให้ตนเป็นคนเฉลยคำตอบ“พี่วิชรโดนซ้อมอาการหนักมาก ถึงกับต้องหามส่งโรงพยาบาลเลยนะแก ฉันว่างานนี้อาภีมของแกมีเอี่ยวแหง ๆ”พรรณรายยักคิ้วให้รวิชาเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองคาดเดานั้นถูกต้องแน่นอน เพราะเพิ่งมีเรื่องกันไปเมื่อตอนบ่าย“ทำไมแกมั่นใจขนาดนั้น อาจจะไม่ใช่อาภีมก็ได้ แกก็รู้ว่าพี่วิชรน่ะกร่างไปทั่วนั่นแหละ” แม้จะคิดเหมือนเพื่อน ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะแก้ต่างให้คู่หมั้น“แหม วันนี้พี่วิชรมีเรื่องกับใครล่ะจ๊ะถ้าไม่ใช่คู่หมั้นสุดหล่อของเธอน่ะ”&

    Last Updated : 2024-12-30
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 10 หึงไม่รู้ตัว - 50%

    “เตือน? เตือนเรื่องอะไรคะ” รวิชาขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัย ในใจเริ่มคิดไปถึงข่าวลือหนาหูของคู่หมั้นหมาด ๆ ที่เธอได้ยินมาจากพรรณรายถึงเรื่องความเจ้าชู้ของเขา และไหนจะภาพบาดตาเมื่อครู่นี้อีก“ก็คุณภีมน่ะสิคะ เขาค่อนข้างขึ้นชื่อในเรื่องผู้หญิง ยิ่งทำงานกลางคืนที่ต้องใกล้ชิดกับพวกสาว ๆ สวย ๆ ก็ยิ่ง...เอ่อ...อย่าว่าแต่พวกลูกค้าสาว ๆ เลยค่ะ ขนาดนักร้องหรือเด็กเสิร์ฟหน้าตาดีหน่อยส่วนใหญ่ก็ต้องเคยผ่านคุณภีมมาแล้วทั้งนั้น ขนาดพี่เองก็ยัง...เอ่อ...พี่ไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะ แต่ที่พี่เอามาบอกก็เพราะว่าอยากให้น้องทำใจรับเรื่องนี้ของเขาให้ได้นะคะ ไม่งั้นคงคบกันไม่ยืด พี่เห็นน้องยังเด็กมาก กลัวจะรับไม่ได้ก็เลยต้องมาบอกเอาไว้ก่อน”รวิชาเผลอกำมือแน่นจนเล็บจิกฝ่ามืออย่างลืมตัว เธอไม่รู้ว่าทำไมต้องโกรธ และทำไมในอกมันจุกจนเหมือนหายใจไม่ออกในเมื่อรู้มาก่อนล่วงหน้าแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้ อีกทั้งเธอกับเขาก็แค่หมั้นกันหลอก ๆ แล้วทำไมเธอถึงรู้สึกทนไม่ได้เมื่อได้ยินว่าเขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากหน้าหลายตา รวมถึงคนที่อยู่ตรงหน้านี่ด้วย“แต่พี่ขอร้องอย่า

    Last Updated : 2024-12-30

Latest chapter

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 18 ความสูญเสียที่คาดไม่ถึง - 20%

    คิ้วของรวิชาขมวดมุ่น สงสัยว่าทำไมเธอต้องด่าเขาด้วย และภีมพลก็ไม่ให้เธอสงสัยนาน เขาบีบกระชับมือนุ่มก่อนตัดสินใจเปิดปากพูดสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปทั้งหมด“อาไม่เคยรังเกียจน้องอาย ตรงกันข้าม อาอยากทำอะไร ๆ อย่างที่คนอื่นเขาเอ่อ...อย่างที่คู่หมั้นคู่อื่นเขาทำกันนั่นแหละ แต่เรายังเด็ก อายุยังไม่ถึงยี่สิบเลยด้วยซ้ำ และอาก็สัญญาไว้กับพ่อของเราด้วยว่าจะไม่ทำอะไรเราจนกว่าเราจะเรียนจบ ทีนี้เข้าใจอาบ้างหรือยัง”รวิชาคิดตามที่ชายหนุ่มพูดแล้วทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ ถ้าไม่เพราะคำถามสุดท้ายที่เอ่ยถามออกมา ซึ่งทำเอาภีมพลถึงกับอดหัวเราะออกมาไม่ได้“แล้วทำไมอาภีมต้องวิ่งหนีเข้าห้องน้ำด้วยล่ะคะ ที่ออฟฟิศอาภีมก็เข้าห้องน้ำ เมื่อกี้อาภีมก็วิ่งเข้าห้องน้ำอีก”“นี่จะให้อาพูดออกมาตรง ๆ ให้ได้เลยใช่ไหมเนี่ย ฮ่า ๆ”ภีมพลหัวเราะร่า คิดว่าถึงเวลาที่ควรเปิดอกคุยกันจริง ๆ แล้วกระมัง จะว่าไปแล้วรวิชาก็ไม่ใช่เด็กเล็กที่จะไม่รู้เรื่องเซ็กซ์ หรือความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย เพียงแต่สาวน้อยของเขายังอ่อนด้อยกับเรื่องพรรค์นี้ อีกทั้งย

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 17 เข้าใจผิด - 100%

    ยามมองผู้หญิงเหล่านั้น แม้พวกหล่อนจะยิ้มให้ แต่รวิชาระแวงไปหมดว่าคนพวกนี้ยิ้มเยาะอยู่หรือเปล่า แอบสมเพชเธออยู่ในใจไหม ความคิดด้านร้ายวิ่งวนอยู่ในหัวจนรวิชาชักสีหน้าบึ้งตึงไม่เก็บอารมณ์อีกต่อไป“น้องอายเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เวียนหัวไหมที่อาพาเดินไปเดินมา หรือว่าปวดขา อาพาไปพักบนห้องข้างบนก่อนไหมแล้วตอนเขาเริ่มงานค่อยลงมาอีกที”ภีมพลถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าของคนข้างกาย รวิชาพยักหน้า ตอบรับคำชวนของเขา เพราะยิ่งอยู่เธอก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เวลาที่มีผู้หญิงมาก้อร่อก้อติกใส่เขาภีมพลจูงมือสาวน้อยพาเดินเข้าไปในตัวอาคาร จากนั้นจึงพาขึ้นบันไดไปชั้นสามที่เป็นห้องพักของเขา เมื่อขึ้นมาถึงจึงพาเธอไปนั่งบนเตียงและเขาก็หย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ เพราะห้องนี้ไม่มีโซฟา“เบื่อหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามอย่างอาทร เห็นใจเธอไม่น้อยเพราะงานนี้เธอแทบไม่รู้จักใครนอกจากเขาและเจ้าบ่าวเจ้าสาวของงาน เธอจึงไม่สามารถปลีกตัวไปนั่งที่ไหนได้ นอกจากเดินตามเขาต้อย ๆ ไปทั่วฮอลล์“ไม่เบื่อหรอกค่ะ” แม้ปากจะบอกอย่างนั้น แต่สีหน้าที่แสดงออกมากลับต

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 17 เข้าใจผิด - 75%

    ภีมพลผงกศีรษะรับคำ ก่อนหันไปพยักหน้ากับรวิชาให้เดินไปด้วยกันที่รถเมื่อเข้ามานั่งในรถ หญิงสาวก็เหลือบมองเขา เห็นชายหนุ่มนั่งเงียบไม่พูดไม่จาก็อดก้มมองตัวเองในคืนนี้ไม่ได้ เธอแต่งแบบนี้แล้วไม่สวยหรอกหรือ เขาถึงได้ไม่ออกปากชมสักคำในขณะเดียวกัน คนที่นั่งประจำอยู่หลังพวงมาลัยกลับรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เดรสที่สาวน้อยคู่หมั้นใส่วันนี้นั้น เพิ่งรู้ว่าเวลานั่งมันจะร่นขึ้นไปสูงจนเกือบถึงขาอ่อน ไหนจะหน้าอกหน้าใจที่อวบอิ่มดุนดันออกมาจากคอเสื้ออีก...ให้ตายสิ เด็กบ้าอะไรยิ่งโตยิ่งสวย ยิ่งโตยิ่งอึ๋ม!“อุ๊ย!”รวิชาอุทานเบา ๆ เมื่อโทรศัพท์มือถือหลุดมือกระเด็นไปตกอยู่แทบเท้าของเขา เพราะข้อศอกของเธอกับเขาชนกันพอดีตอนเธอเปิดกระเป๋าจะหยิบมันออกมา“เดี๋ยวอาหยิบให้จ๊ะ”ภีมพลบอกอย่างหวังดี แต่หญิงสาวกลับส่ายหน้าหวือเพราะเขากำลังขับรถอยู่ เกรงว่าจะเกิดอันตรายเข้าตอนก้มควานหาโทรศัพท์ให้เธอ“ไม่เป็นไรค่ะ อาภีมกำลังขับรถอยู่ มันอันตรายเดี๋ยวน้องอายหยิบเอง”ว่าแล้วหญิงสาวก็ค้อมตัวลงควานมือไปหาโทรศัพท์ใ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 17 เข้าใจผิด - 50%

    จนมาแน่ใจว่าสุนิตาไม่น่าคบหาสมาคมด้วย เพราะพฤติกรรมของเจ้าตัวที่มีต่อคู่หมั้นของเธอ รวิชาสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่าสุนิตาชอบพูดถึงภีมพลอยู่บ่อยครั้ง หนำซ้ำยังชอบมองเขาด้วยสายตาหวานเชื่อมราวกับเชิญชวน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบ รวิชาไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาแย่งเขาไปอย่างเด็ดขาด!ก่อนหน้านี้ ภีมพลส่งข้อความไปบอกว่ากำลังคุยอยู่กับสุนิตา และถ้าจะเดินมาหาก็อย่าเพิ่งแสดงตัว ให้เธอรอฟังอยู่เงียบ ๆ ก่อน จากนั้นเขาก็กดโทร. เข้าเครื่องเธอ รวิชาจึงได้ยินทุกประโยคที่สองคนนั้นคุยกัน“หมดเรื่องยุ่ง ๆ กันสักทีนะ”ภีมพลเดินเข้ามาโยกศีรษะของรวิชาเบา ๆ หญิงสาวหันมายิ้มให้ ก่อนจะบอกลาเพื่อนทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วเดินตามคู่หมั้นหนุ่มไปขึ้นรถที่จอดเอาไว้คิดแล้วก็โล่งใจไปอีกเปลาะที่หมดปัญหาเรื่องสุนิตาไปได้ ทีนี้ก็คงเหลือแต่เรื่องบรรดาผู้หญิงมากหน้าหลายตาของเขาที่วิคกี้ขยันส่งภาพมาให้เธอดู คู่หมั้นของเธอก็ช่างกระไร ทำไมถึงได้เป็นคน “ทั่วถึง” ขนาดนั้นก็ไม่รู้ ผู้หญิงที่ไหนเข้าหาก็ไม่เคยปฏิเสธ ไปยืนปล่อยให้พวกหล่อนทั้งกอดทั้งซบอยู่ได้ คิดแล้วก็น

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 17 เข้าใจผิด - 25%

    วันต่อมา ภีมพลขับรถไปรับรวิชาที่มหาวิทยาลัย โดยไปก่อนเวลาเลิกเรียนเล็กน้อย ชายหนุ่มอยู่ในชุดลำลองเพราะไม่ได้เข้าออฟฟิศ ตั้งใจไว้ว่าจะพาคู่หมั้นสาวไปหาซื้อชุดสำหรับไปงานแต่งงานของพชรกับช่อมาลี เพราะเมื่อวานเขาลืมบอกว่างานแต่งงานจะจัดในคืนวันเสาร์ที่จะถึง ไม่รู้ว่าหญิงสาวจะมีโปรแกรมไปไหนกับบิดามารดาหรือเปล่าชายหนุ่มเดินเตร่อยู่แถวนั้นระหว่างรอรวิชา ก่อนหน้านี้เขาส่งข้อความไปบอกแล้วว่าจะมารับ เธอก็ตอบกลับว่าเลิกเรียนตอนบ่ายสองโมงสี่สิบห้า เขาดูเวลา ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสองโมงครึ่งเท่านั้น อีกสิบห้านาทีรวิชาก็จะเลิกเรียนแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปไหนไกลจากตึกคณะเรียนของเธอ“คุณภีมคะ” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มต้องชะงักเท้าอยู่กับที่แล้วหันไปมองเจ้าของเสียง เขาลอบถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร“มารับอายหรือคะ”สุนิตาเดินยิ้มหวานเข้ามาใกล้พร้อมกับพนมมือไหว้อย่างชดช้อย และเมื่อเงยหน้าขึ้นก็ช้อนตามองเขาอย่างมีจริตจะก้าน“ใช่...แล้วนี่เธอไม่ขึ้นเรียนหรือไง”ชายหนุ่มตอบอย่างเสียไม่ได้ จากนั้นก็หยิบโทรศ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 16 ข่าวลือ - 100%

    ด้านคนที่ถูก “แปะมือ” ไว้ก็ได้แต่ตัวแข็งค้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเพราะเกรงว่าสาวเจ้าจะรู้ว่าเผลอทำอะไรลงไป แล้วจะพานอับอายจนเข้าหน้ากันไม่ติดอีกรวิชาทำมือบอกเขาว่าจะไปนั่งเล่นที่โซฟา โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าโล่งอกของชายหนุ่ม เพราะเห็นเขากำลังคุยเรื่องงานกับปลายสายด้วยสีหน้าเคร่งเครียดหญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดเครื่องดูเผื่อว่าสกลธีกับอารดาจะฝากข้อความไว้ ทว่าทันทีที่เปิดเครื่อง สัญญาณเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นทันทีจนเจ้าตัวผวา ยิ่งเห็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเธอก็ยิ่งไม่กล้ารับสาย ได้แต่ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น เป็นเวลาเดียวกับที่ภีมพลวางสายจากคู่สนทนาพอดี“ให้อารับแทนไหม” เห็นสีหน้าของเธอ เขาก็รู้แล้วว่าน่าจะเป็นสายจากไอ้พวกหื่นกามที่ติดต่อมาทางเฟซบุ๊กปลอม เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่โทร. มามันจะพูดว่าอย่างไรบ้างรวิชาพยักหน้าเร็ว ๆ พร้อมส่งโทรศัพท์ไปให้เขา ภีมพลกดรับสายทันทีเพราะเกรงว่าคนที่โทร. มาจะถอดใจวางไปก่อน ชายหนุ่มยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูแล้วรอฟังหญิงสาวมองหน้าเขาด้วยความอยากรู้ว่าปลายสายพูด

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 16 ข่าวลือ - 75%

    เสียงโทรศัพท์ของรวิชาดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเบอร์ใหม่ ไม่ใช่เบอร์เดียวกันกับที่โทร. มาเมื่อครู่ หญิงสาวจึงจัดการปิดเสียง แล้วกดโทร. ออกหาคู่หมั้นหนุ่ม รอสายไม่นาน ภีมพลก็กดรับสาย“ว่าไงครับน้องอาย” แค่ได้ยินเสียงเท่านั้น เธอก็อยากให้เขามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าในตอนนี้เหลือเกิน“อาภีมอยู่ที่ออฟฟิศหรือเปล่าคะ น้องอายไปหาได้ไหม”น้ำเสียงเศร้าสร้อยของสาวน้อยส่งผลให้ชายหนุ่มวางมือจากแฟ้มเอกสารทันที เขาเอนหลังพิงเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ด้วยท่าทางผ่อนคลาย แล้วถามด้วยความเป็นห่วง“น้องอายเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้อาขับรถไปรับที่มหาวิทยาลัยดีไหม”“อย่าเลยค่ะอาภีม น้องอายนั่งรถไปหาเองดีกว่า จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา แต่วันนี้อาภีมไม่ได้ไปทำธุระที่ไหนใช่ไหมคะ” เกรงใจเขาก็เกรงใจ แต่ในยามที่มีเรื่องไม่สบายใจ เธอกลับคิดถึงเขาที่สุด“ไม่ได้ไปไหนครับ มาหาได้เลยอาจะรอนะ” เสียงทุ้มอ่อนโยนของเขาช่วยให้ใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง หญิงสาวรับคำแล้วกดวางสาย ในขณะที่ภีมพลก็กดโทรศัพท์ออกไปหาชุมชาย เลข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 16 ข่าวลือ - 50%

    “เฮ้อ แย่เนอะ สมัยพวกเราเรียนมัธยมยังไม่เห็นมีแบบนี้เลย”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้คุยอะไรกันต่อ เตชินทร์ก็เดินเข้ามาหา แล้วทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับรวิชาอย่างถือวิสาสะ เขาหันมาส่งยิ้มให้อารดาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปคุยกับรวิชา“แย่หน่อยนะครับ เจอใครไม่เจอดันไปเจอไอ้วิชร”ชายหนุ่มเปิดรอยยิ้มกว้างจนตายิบหยี ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสสไตล์หนุ่มเกาหลีที่กำลังนิยมทำเอาคนมองอย่างอารดาตาพร่า เสียงทุ้มของเขายามเอื้อนเอ่ยฟังดูนุ่มนวลชวนหลงใหล แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้คุยและยิ้มให้กับเธอ แต่หญิงสาวก็อดเผลอนั่งจ้องเขาไม่ได้“ขอบคุณพี่มาก ๆ เลยนะคะที่ช่วยไว้ พี่ชื่อ...”รวิชาพูดค้างไว้แค่นั้น เตชินทร์จึงแนะนำตัวเอง“เตชินทร์ครับ เรียกพี่ชินทร์เฉย ๆ ก็ได้ พี่อยู่ปีสามคณะเดียวกับน้องนั่นละ แต่ช่วงวันปฐมนิเทศพี่ติดธุระเลยไม่ได้มาร่วมงาน น้องอายเลยไม่เคยได้เจอหน้าพี่ แต่พี่เห็นน้องอายบ่อยเลยนะเพียงแต่ไม่กล้าเข้ามาทัก”เตชินทร์คลี่ยิ้มกว้างอีกครั้ง คราวนี้อารดาต้องแอบจิกเนื้อของตัวเอง เตือนสติให้เลิกมองเขา หัว

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 16 ข่าวลือ - 25%

    รวิชาเดินเข้ามหาวิทยาลัยเพียงลำพัง เมื่อคืนเธอได้แชตกับเพื่อนสนิททั้งสองคนเกี่ยวกับภาพข่าวที่ออกมา และปฏิกิริยาของคนที่เข้ามาโพสต์ อดแปลกใจไม่ได้ว่าบางคนนั้นไม่เคยรู้จักเธอด้วยซ้ำ แต่มาพูดต่อว่าเธอเสีย ๆ หาย ๆ ราวกับรู้จักกันมาเนิ่นนาน จึงลงความเห็นกันว่าเธอคงไม่ค่อยเป็นที่ปรารถนาของนักศึกษาผู้หญิงเท่าไร ไม่ว่าจะรุ่นเดียวกันหรือรุ่นพี่เธอเดาว่าอาจเป็นพราะการที่ตนเป็นจุดเด่นมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตนเป็นจุดสนใจของเพศตรงข้าม รวมไปถึงการใช้กระเป๋าและนาฬิกาแบรนด์หรูมาเรียน รวิชาจึงพยายามลดความเป็นจุดเด่นของตัวเองลง โดยเริ่มปรับปรุงเกี่ยวกับเรื่องเครื่องประดับติดกายพวกนี้ก่อนวันนี้เธอสะพายกระเป๋าแฮนด์เมดใบละไม่กี่ร้อยที่ซื้อจากตลาดนัดสวนจตุจักรตั้งแต่สมัยมัธยมมาเรียน ใส่นาฬิกาเรือนเดิมที่เคยใส่ตอนเรียนมัธยมปลาย การที่ตัวเองเป็นเด็กใหม่แต่ถ้าทำตัวให้น่าหมั่นไส้แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม ก็อาจจะทำให้เธอใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้ไม่ราบรื่นนักเสียงกระหึ่มของรถสปอร์ตคันหรูที่ดังอยู่ด้านหลังไม่ได้ทำให้รวิชาสนใจจนต้องหันไปมอง หญิงสาวยังคงเดินไปเรื่อย ๆ

DMCA.com Protection Status