แชร์

บทที่ 95

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เหล่าไท่จวินกับเยียนเซียวหรานมองมาที่นางพร้อมกัน นางจึงตระหนักได้ว่าดูเหมือนนางจะด่าแม้กระทั่งตนเองด้วย

นางรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย จึงกระแอมไอเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าไม่อาจนับว่าเป็นสายเลือดเดียวกับพวกเขาได้ ถึงอย่างไรข้าก็เติบโตในอารามเต๋ามาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความสัมพันธ์กับพวกเขามานานแล้ว”

เหล่าไท่จวินหลุดหัวเราะ “องค์หญิงกล่าวถูกต้อง”

ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าเหวยอิ้งหวนได้รับพระบัญชาให้สืบสวนเรื่องเยียนเซียวหรานถูกล้อมสังหาร มีคนเก็บกวาดศพทั้งหมดในคืนนั้นจนหมดเกลี้ยง เขาจึงสืบหาสาเหตุไม่เจอในระยะเวลาสั้น ๆ

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะต้องเก็บกวาดทุกอย่างให้สะอาดเรียบร้อยตั้งแต่ต้นจนจบแล้วอย่างแน่อน

ฮ่องเต้เจาหมิงให้เขาไปสืบเรื่องนี้เพื่อแสดงให้เห็นที่ท่าทีของพระองค์ คนที่เล่นลูกไม้อยู่เบื้องหลังเหล่านั้นจะได้ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือชั่วคราว

ช่วงเวลาต่อจากนี้ จวนเยียนอ๋องน่าจะปลอดภัยพอสมควร

เหล่าไท่จวินปิดประตูจวนอ๋องโดยอาศัยข้ออ้างว่าไว้ทุกข์ ส่งคนไปแจ้งข่าวให้กับคนที่สนิทสนมกับจวนอ๋องว่าจะไม่เข้าร่วมงานชุมนุมใด ๆ

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษาหารือกันไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้นำมาใช้อย่างเป็นท
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 96

    เหล่าไท่จวินกวักมือให้ซือเจ๋อเยว่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยแนะนำว่า “นี่คือองค์หญิงเจ๋อเยว่”จ้าวซือหว่านลุกขึ้นมาทำความเคารพอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย “ถวายบังคมองค์หญิงเพคะ”นับตั้งแต่ที่ซือเจ๋อเยว่กลับมายังเมืองหลวง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นองค์หญิง แต่น้อยมากที่จะมีคนคารวะนางด้วยความเคารพถึงเพียงนี้นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้แม่นางจ้าวมาเพราะเรื่องถอนหมั้นหรือ?” จ้าวซือหว่านทำความเคารพเหล่าไท่จวินกับพระชายาเยียนอ๋อง ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ ว่า “งานฝังพระศพท่านอ๋องครั้งก่อน เดิมทีข้าคิดจะมาเจ้าค่ะ” “ท่านพ่อบอกว่าข้าเป็นสตรีที่ยังไม่ได้แต่งงานไม่เหมาะที่จะแสดงตัวต่อหน้าสาธารณะ เขามาที่จวนอ๋องเพื่อไปส่งท่านอ๋องเป็นครั้งสุดท้ายก็พอแล้ว” “แต่ข้าไม่ทราบว่าวันนั้นเขาจะก่อเรื่องขนาดนั้นในจวนอ๋อง ข้าจึงมาที่นี่เพื่อขออภัยเหล่าไท่จวินกับพระชายาเจ้าค่ะ” เหล่าไท่จวินกับพระชายาเยียนอ๋องมองมาที่นางโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ นางจึงกล่าวต่ออีกว่า “วันนี้ข้าไม่ได้มาที่จวนอ๋องเพื่อถอนหมั้น แต่มาหารือเรื่องการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้” “ข้ารู้ว่าคุณชายสามต้องไว้ทุกข์ให้ท่านอ๋องสามปี ข้ายินดีรอสามปีเจ้าค่ะ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 97

    พระชายาเยียนอ๋องถอนหายใจเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “แต่เซียวเอ๋อร์ต้องไว้ทุกข์ หากพวกเจ้าจะแต่งงานกัน อย่างน้อยต้องรออีกสามปี” “แต่ช่วงวัยสาวของสตรีช่างสั้นนัก ให้เจ้ารออีกสามปี...”“ข้ายินดีเจ้าค่ะ!” จ้าวซือหว่านเอ่ยเสียงดัง “อย่าว่าแต่สามปีเลย ต่อให้สามสิบปีข้าก็ยินดีรอ”พระชายาเยียนอ๋องเอ่ยด้วยความปลาบปลื้มมากว่า “เด็กดี ทำให้เจ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว”จ้าวซือหว่านยิ้มน้อย ๆ ดวงตาแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ราวกับว่าการได้แต่งงานกับเยียนเซียวหรานเป็นความโชคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนางจริง ๆซือเจ๋อเยว่ปรบมือกล่าวว่า “แม่นางจ้าวช่างมีคุณธรรมอย่างยิ่ง! ก่อนหน้านี้ข้าเข้าใจแม่นางจ้าวผิดไปแล้ว”บรรยากาศภายในโถงบุปผาเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายขึ้นมาทันที ทุกคนกล่าวชมเชยจ้าวซือหว่านไม่หยุด แต่นางกลับแย้มยิ้มอย่างสง่างามและเขินอายอยู่ตลอดซือเจ๋อเยว่มองอยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นมาเป็นครั้งคราวไม่กี่ประโยค เรื่องที่จวนเยียนอ๋องกับจวนจ้าวพูดคุยว่าจะถอนหมั้นก่อนหน้านี้ก็ถือว่าให้มันผ่านไป เมื่อจ้าวซือหว่านออกจากจวนเยียนอ๋องมานั่งบนรถม้า ก็มีมือข้างหนึ่งดึงนางเข้าไปในรถม้า นางอุทานเบา ๆ หลังจากนั้นก็ล้มลง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 98

    เพียงแต่ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าคำพูดที่ทำให้เสียบรรยากาศเช่นนี้ หากนางเอ่ยออกมาตอนนี้คงจะทำลายบรรยากาศจริง ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระหว่างนางกับเยียนเซียวหรานยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเปิดเผยต่อผู้ใดได้ ทำให้นางร้อนตัว เหล่าไท่จวินมองเรื่องราวลึกซึ้งกว่าพระชายาเยียนอ๋องเล็กน้อย “เรื่องนี้ต้องคอยดูกันต่อไปแล้วค่อยว่ากันอีกที”“หากจ้าวซือหว่านยินดีรอเซียวเอ๋อร์สามปีจริง ๆ หลังจากที่นางแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแล้ว พวกเราต้องปฏิบัติต่อนางให้ดี ๆ”พระชายาเยียนอ๋องเอ่ยอย่างหนักแน่นว่า “ท่านแม่ก็เห็นแล้ว นางรักมั่นต่อเซียวเอ๋อร์นะเจ้าคะ”“หลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน จะต้องเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กันดี ไม่นานก็จะมีทายาทให้จวนเยียนอ๋องได้”เหล่าไท่จวินดับฝันของนาง “ต่อให้พวกเขาจะแต่งงานกันก็ยังต้องรออีกสามปีให้หลัง ภายภาคหน้าไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอื่นหรือไม่” พระชายาเยียนอ๋องเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “ซือหว่านรักมั่นต่อเซียวเอ๋อร์ถึงเพียงนี้ บางทีเรื่องอื่น ๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่เรื่องนี้ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแน่นอนเจ้าค่ะ”“เพียงแต่ว่ายังต้องรออีกสามปี ทำให้ซือหว่านไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ” เ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 99

    ซือเจ๋อเยว่ไม่มีทางยอมรับอย่างแน่นอน “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ากำลังดีใจแทนเจ้า” “เสด็จแม่บอกว่าแม่นางจ้าวรักมั่นต่อน้องสาม รออีกสามปี พวกเจ้าแต่งงานกัน ไม่นานก็จะมีทายาทให้จวนอ๋องได้” หากก่อนหน้านี้เยียนเซียวหรานรู้สึกแค่ว่านางกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น คราวนี้เขายิ่งมั่นใจโดยสิ้นเชิงแล้ว เขาอยู่กับซือเจ๋อเยว่มานาน เข้าใจนิสัยของนางอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเขาถามนางว่า “เจ้าคิดว่าจ้าวซือหว่านไม่ดีหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางเอ่ยว่า “นางดีหรือไม่ ข้าไม่ได้เป็นคนตัดสิน เจ้าต่างหากที่เป็นคนตัดสิน”นางกล่าวจบก็เดินผ่านเขาไป ตั้งใจจะตรงกลับไปที่ห้องแต่เยียนเซียวหรานคว้าแขนของนางไว้ นางจึงมองมาที่เขา “มีอะไรหรือ?”เยียนเซียวหรานเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วถามนางว่า “ท่านมีคนที่ชมชอบหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “มีสิ!”เยียนเซียวหรานประหลาดใจอยู่บ้าง ดวงตาของซือเจ๋อเยว่โค้งขึ้นเล็กน้อย “ข้าแต่งงานกับพี่ชายใหญ่ของเจ้า ย่อมต้องชอบพี่ชายใหญ่ของเจ้าสิ!” นางกล่าวจบก็สลัดมือของเขาออก ก่อนจะก้าวยาว ๆ เดินไปข้างหน้านางเดินพลางยื่นมือไปบีบนวดแขน ปากก็พึมพำว่า “นี่โตมากับการกินผักขมตั้งแต่เด็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 100

    เฟิ่งจือเซี่ยตอบกลับว่า “ความฝันของน้องสามไม่ใช่การเป็นแม่ทัพที่ออกศึกในสนามรบ แต่เป็นบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่ที่เขียนตำราเผยแพร่ทฤษฎีของตนเอง” “เสด็จพ่อคิดว่าสมองของเขามีปัญหา ก่อนหน้านี้จึงฟาดเขาไปไม่น้อยเลย”“เมื่อก่อนเขาคัดลอกหลักคำสอนของคัมภีร์และคำกล่าวโบราณลับหลังเสด็จพ่อไว้ไม่น้อย แต่ก็เผาทิ้งทั้งหมดก่อนที่เสด็จพ่อจะกลับบ้าน”“วันนี้เขาเผาของพวกนี้ น่าจะคงคิดว่าของพวกนี้ไม่มีประโยชน์แล้วจริงๆ”อันที่จริงซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยเข้าใจพฤติกรรมนี้ของเยียนเซียวหราน รู้ทั้งรู้ว่าไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังเขียนไปด้วย เผาไปด้วยนางฟังเรื่องพวกนี้แล้วกลอกตารอบหนึ่ง นึกถึงวิธีการที่สามารถจูบเขาได้หลังจากที่นางส่งเฟิ่งจือเซี่ยกลับไปแล้ว นางก็แอบเข้าไปในเรือนของเยียนเซียวหราน นับตั้งแต่ที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง บ่าวรับใช้ในจวนก็ถูกไล่ออกไปไม่น้อย ในเรือนของเยียนเซียวหรานมีเด็กรับใช้เพียงคนเดียวชื่อว่าฉางเซิงก่อนที่ซือเจ๋อเยว่จะเข้ามาก็ได้สอบถามไว้เรียบร้อยแล้วว่า เยียนเซียวหรานไม่ชอบให้มีคนอยู่ในห้องตอนที่เขาพักผ่อน เมื่อนางเข้ามา ฉางเซิงก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องของบ่าวไพร่แล้ว หากเยียนเซียวหราน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 101

    นางกล่าวอย่างอึกอัก “ข้า... ข้า...”นางยังหาเหตุผลไม่ได้ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมาจากด้านนอกเยียนเซียวหรานรู้ว่าจะต้องเป็นฉางเซิงเด็กรับใช้กลับมาแล้ว ในเวลานี้เสื้อผ้าของเขาไม่เรียบร้อย ถ้าหากให้ผู้อื่นพบว่าซือเจ๋อเยว่อยู่ในห้องของเขา จะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเดิมทีเขาก็ไม่ได้นับว่ามีน้ำใจต่อนางสายตาของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที จูงมือซือเจ๋อเยว่ ผลักนางไปบนเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวนางไว้ แล้วก็ปล่อยมุ้งลงเขากลัวโดนฉางเซิงจะระแคะระคาย จึงรีบดีดกระดุมเพื่อดับตะเกียงอีกดวงอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาทำเรื่องนี้เสร็จ ฉางเซิงก็เดินเข้ามาพอดี “คุณชาย หนังสือที่คุณชายให้ข้าไปหา หาเจอทั้งหมดแล้ว ให้วางไว้ที่ไหนขอรับ?”หลังจากที่เขาเดินเข้ามาก็พบว่าภายในห้องมืดสนิท จึงกล่าว “เอ๋ ตะเกียงดับตั้งแต่ตอนไหน ข้าจะไปจุดตะเกียงให้คุณชายขอรับ”นับหลังจากที่เยียนอ๋องเกิดเรื่อง เยียนเซียวหรานมักจะร่ำเรียนอย่างขยันขันแข็ง หรืออ่านหนังสือ หรือครุ่นคิดเรื่องบางอย่างทุกคืนแม้ว่าตอนที่เยียนเซียวหรานได้รับบาดเจ็บกลับมาที่จวนอ๋อง ก็ไม่เคยขาดช่วงมาก่อนดังนั้นเมื่อฉางเซิงเห็นว่าแสงภายใ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 102

    เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินประโยคนี้ ก็ชักกระบี่ที่แขวนอยู่บริเวณหัวเตียงออกมา วางพาดไว้บนลำคอของนาง “องค์หญิงโปรดระวังคำพูดด้วย!”ซือเจ๋อเยว่เคยเห็นท่าทางการลงมือของเขา เจตนาสังหารคุกรุ่น แต่ในเวลานี้ นางกลับไม่รู้สึกถึงเจตนาสังหารบนร่างกายของเขาเลยแม้แต่นิดเดียวในทางกลับกัน นางเพียงรู้สึกถึงความลำบากใจและเขินอายของเขาเดิมทีซือเจ๋อเยว่เกรงว่าเขาจะจำนางได้ จะสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็นขึ้นมาในขณะที่นางกำลังค้นพบ หลังจากที่นางนำเรื่องทำลายดวงชะตาที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์วัยไปฝากไว้ที่เขา นางก็รู้ว่าต่อไปนางก็คงหลีกเลี่ยงเขาไม่พ้นเกรงว่าคืนนี้นางจะต้องใช้วิธีการสกปรกเพื่อหลับนอนกับเขา ใช้ความปราดเปรียวของเขา สุดท้ายก็จะสังเกตเห็น ถึงเวลานั้นจะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอนในเมื่อเป็นเช่นนี้ มิสู้นางลองเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติตัวกับเขานางเม้มริมฝีปากยิ้มเบา ๆ “น้องสามคิดจะฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ?”มือที่จับกระบี่ของเยียนเซียวหรานสั่นระริกโดยไม่รู้ตัวซือเจ๋อเยว่ยื่นนิ้วสองนิ้วออกมาหนีบปลายกระบี่เอาไว้ เหลือบตามองเขากล่าว “น้องสาม อาวุธทำร้ายผู้คนได้ง่าย”“ถ้าหากเจ้าไม่อยากตายละก็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 103

    นางไม่มีทางยอมรับ!นางใช้น้ำเสียงสงสัยเอ่ยถาม “เมืองเวิ่นซีอยู่ที่ใด? ที่นั่นเคยเกิดเรื่องอันใดที่มีความหมายอย่างนั้นหรือ?”ร่างกายของนางในที่อยู่ดวงตาของเยียนเซียวหราน ทับซ้อนกับร่างกายของสตรีคนนั้นเมื่อสองปีก่อนหน้าแล้วดวงตาของเยียนเซียวหรานจ้องตรงไปที่นาง คิดจะตามหาเบาะแสจากสีหน้าของนางเพียงแต่แสงตะเกียงภายในห้องถูกเขาดับลงเกือบหมดแล้ว บัดนี้เหลือเพียงแสงสว่างรำไรจากตะเกียงน้ำมันอันหนึ่งที่อยู่บริเวณมุมห้องเท่านั้นแสงสว่างของตะเกียงอันนั้นไม่เพียงพอที่จะส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบนเตียงนอนที่ยังคลุมไปด้วยมุ้งอีกหนึ่งชั้นใบหน้าของนางที่อยู่ท่ามกลางความมืดมิด มองสีหน้าของนางได้ไม่ชัดเจนเสียด้วยซ้ำเขาเห็นเพียงความสงสัยจากในดวงตาอันแสนงดงามคู่นั้นของนางเท่านั้นเดิมทีเขามั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากที่เผชิญกับดวงตาคู่นี้ของนาง กลับกลายเป็นว่าไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไรสายตาของเยียนเซียวหรานจดจ้องไปที่นาง นางเลิกคิ้วเล็กน้อย “หรือว่าเคยเกิดเรื่องใหญ่สุดยอดอะไรกับคุณชายเยียนซานอย่างนั้นหรือ?”เขาถอนสายตากลับ ลดกระบี่ลง “เปล่า ข้าก็แค่ถามเฉย ๆ เท่านั้น”เขา

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status