แชร์

บทที่ 103

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
นางไม่มีทางยอมรับ!

นางใช้น้ำเสียงสงสัยเอ่ยถาม “เมืองเวิ่นซีอยู่ที่ใด? ที่นั่นเคยเกิดเรื่องอันใดที่มีความหมายอย่างนั้นหรือ?”

ร่างกายของนางในที่อยู่ดวงตาของเยียนเซียวหราน ทับซ้อนกับร่างกายของสตรีคนนั้นเมื่อสองปีก่อนหน้าแล้ว

ดวงตาของเยียนเซียวหรานจ้องตรงไปที่นาง คิดจะตามหาเบาะแสจากสีหน้าของนาง

เพียงแต่แสงตะเกียงภายในห้องถูกเขาดับลงเกือบหมดแล้ว บัดนี้เหลือเพียงแสงสว่างรำไรจากตะเกียงน้ำมันอันหนึ่งที่อยู่บริเวณมุมห้องเท่านั้น

แสงสว่างของตะเกียงอันนั้นไม่เพียงพอที่จะส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบนเตียงนอนที่ยังคลุมไปด้วยมุ้งอีกหนึ่งชั้น

ใบหน้าของนางที่อยู่ท่ามกลางความมืดมิด มองสีหน้าของนางได้ไม่ชัดเจนเสียด้วยซ้ำ

เขาเห็นเพียงความสงสัยจากในดวงตาอันแสนงดงามคู่นั้นของนางเท่านั้น

เดิมทีเขามั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากที่เผชิญกับดวงตาคู่นี้ของนาง กลับกลายเป็นว่าไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไร

สายตาของเยียนเซียวหรานจดจ้องไปที่นาง นางเลิกคิ้วเล็กน้อย “หรือว่าเคยเกิดเรื่องใหญ่สุดยอดอะไรกับคุณชายเยียนซานอย่างนั้นหรือ?”

เขาถอนสายตากลับ ลดกระบี่ลง “เปล่า ข้าก็แค่ถามเฉย ๆ เท่านั้น”

เขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 104

    เมื่อเยียนเซียวหรานเห็นป้ายหยกอันนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากเขาเคยเห็นป้ายหยกนั่นมาก่อนซือเจ๋อเยว่ดึงปิ่นปักผมไม้ที่ดูแสนจะธรรมดาอันหนึ่งออกมาจากบนศีรษะ มือทั้งสองข้างทำท่ามุทรา จากนั้นก็แทงลงไปที่ป้ายหยกอันนั้นตอนที่มือของนางแทงลงไป เยียนเซียวหรานได้ยินเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหูเป็นอย่างยิ่งเสียงกรีดร้องนั่นสูงเสียจนแก้วหูของเขารู้สึกเจ็บ หว่างคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน “เสียงอะไรน่ะ!”พลังสีดำที่อยู่บนป้ายหยกนั่นเหมือนกับว่ากำลังจะก่อตัวกันกลายเป็นอาวุธ กำลังจะพุ่งเข้ามาหาเยียนเซียวหรานซือเจ๋อเยว่ไม่ได้ตอบ ยกมือซ้ายขึ้นทำท่ามุทราอีกครั้ง แล้วกดลงไปด้วยความรุนแรงตอนที่นางกดลงไป เยียนเซียวหรานรู้สึกเพียงว่าเสียงกรีดร้องนั่นแสบแก้วหูยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้ซือเจ๋อเยว่สบถคำหยาบออกมา “มารดามันเถอะ วันนี้เจ้าได้ประมือกับข้า ยังคิดว่าจะหนีพ้นอีกหรือ!”นางพูดจบก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาทันที ตอนที่นางยกมือขึ้นพลังสีดำกลุ่มนั้นก็มุดออกไปทางด้านนอกอย่างรวดเร็วนางแค่นเสียงหัวเราะ ใช้ปิ่นปักผมกรีดที่ปลายนิ้วทันควัน เลือดสดๆ ไหลออกมา นางใช้ฝ่ามือที่เปื้อนเลือดข้างนั้น กดพลังสีดำ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 105

    นางที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ เพียงทำตามสัญชาตญาณของตน ทำเรื่องที่มีผลประโยชน์ต่อตนเองเท่านั้นตอนที่นางชอนไชเข้าไปในปากของเยียนเซียวหราน ก็เป็นเพียงเพราะว่าตรงนั้นทำให้นางรู้สึกสบาย สามารถผ่อนคลายความรู้สึกไม่สบายอันใหญ่หลวงที่เกิดจากการเสียเลือดได้ตอนแรกเยียนเซียวหรานยังพอสามารถรักษาสติสัมปชัญญะเอาไว้ได้ บอกกับตนเองว่าไม่ได้แต่ว่าตอนที่กลิ่นอายของนางแทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ สติสัมปชัญญะของเขาก็พังทลายไปจนหมดสิ้นเขายื่นมือไปโอบที่เอวของนาง กดนางลงไปใต้ร่างกายอย่างรุนแรงตอนที่เขากดเข้ามา อาการข้างเคียงของการเสียเลือดของนางปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์ หมดสติไปเรียบร้อยแล้วเรื่องแบบนี้เยียนเซียวหรานไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ไม่มีหนทางอื่น ทั้งหมดเพียงแค่ทำตามสัญชาตญาณของตนเท่านั้นในไม่ช้าจากที่เขาเป็นฝ่ายตามก็กลายเป็นฝ่ายนำ มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระโปรงของนางในเวลานี้ มีแมวตัวหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนหน้าต่าง ส่งเสียงร้อง ‘เมี้ยว’ เสียงดัง เยียนเซียวหรานได้สติทันที สติที่กระจัดกระจายกลับคืนมาเขาหันหน้ามองซือเจ๋อเยว่ที่หมดสติไปแล้วที่ถูกทับอยู่ใต้ร่างกายของเขา แล้วก็มองปลายจม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 106

    จ้าวซือหว่านกุมหน้าอก เปิดประตูตู้ที่อยู่ในห้องพระโพธิสัตว์ใบหน้าเมตตาองค์หนึ่งที่แต่เดิมวางไว้อยู่ในตู้ใบนั้น ในเวลานี้พระโพธิสัตว์ได้แตกสลายกลายเป็นผงอย่างน่าประหลาดหลังจากพระโพธิสัตว์แตกละเอียดแล้ว พลังชั่วร้ายสีดำที่สะสมอยู่ข้างในจึงปลิวไปทั่วสารทิศเมี่อสาวใช้เห็นพระโพธิสัตว์ที่แตกละเอียดแล้ว จึงกล่าวด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ “เมื่อครู่ตอนที่บ่าวเห็นพระโพธิสัตว์ ท่านยังดี ๆ อยู่เลย เหตุใดตอนนี้ถึงได้แตกเองเล่าเจ้าคะ?”จ้าวซือหว่านกำลังจ้องมองพระโพธิสัตว์ที่แตกละเอียดรูปนั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”สาวใช้เห็นเลือดไหลออกมาจากมุมปากของนาง รีบกล่าว “คุณหนู ข้าจะไปเชิญท่านหมอมาให้ท่าน!”จ้าวซือหว่านกล่าวเสียงขรึม “ไม่ต้องเชิญหมอ ข้าจะเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง เจ้าช่วยนำไปส่งให้ข้าที่จวนหนิงกั๋วกงทันที มอบให้คุณชายรอง”สาวใช้ไม่ค่อยเข้าใจอยู่ครู่หนึ่ง จ้าวซือหว่านอาเจียนเป็นเลือดแต่กลับไม่ไปเชิญท่านหมอ แต่กลับจะเขียนจดหมายหาคุณชายรองแห่งจวนหนิงกั๋วกงนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ จึงยืนงงอยู่ตรงนั้นจ้าวซือหว่านไม่อธิบายกับนางเช่นกัน เพียงกล่าว “อย่ามัวแต่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 107

    จ้าวซือหว่านพิงไปที่อกของเขา พลางกล่าว “หากท่านสงสารข้าจริง ก็ควรจะแต่งงานกับข้า”อวิ๋นเยว่หยางถอนหายใจ “ตอนนี้เจ้ายังเป็นคู่หมั้นของเยียนเซียวหราน ข้าจะแต่งงานกับเจ้าได้อย่างไร?”“ทันทีที่เยียนเซียวหรานตาย ข้าจะรีบยกขบวนสินสอดมาที่จวนของเจ้าทันที”คำพูดเช่นนี้ จ้าวซือหว่านได้ฟังมาหลายครั้งแล้ว กล่าวเสียงเบา “ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะท่านพอใจในดวงชะตาของเยียนเซียวหราน ข้าจะต้องหมั้นหมายกับเขาหรือ?”“ตอนนี้ท่านยังหยิบยกเรื่องนี้มาแก้ตัวอีก ใจร้ายเกินไปแล้ว!”อวิ๋นเยว่หยางโอบนางเอาไว้กล่าว “นี่ก็เป็นเรื่องที่จนหนทางไม่ใช่หรือไร!”“ในใจของข้า เจ้าเป็นคนสำคัญมาโดยตลอด ข้าพูดคำไหนคำนั้น ขอเพียงเยียนเซียวหรานตาย ข้าจะแต่งงานกับเจ้าแน่นอน”จ้าวซือหว่านดึงมือของเขามาไว้ที่หัวใจของนาง กล่าวเสียงเบา “ทรวงอกของข้าเจ็บปวดมาก”อวิ๋นเยว่หยางหัวเราะออกมาเบา ๆ โอบนางแน่นขึ้นอีกหน่อย “เช่นนั้นข้าจะช่วยนวดให้เจ้าเป็นอย่างดีเลย”การนวดของเขาย่อมต้องเป็นการมีสัมพันธ์สวาทกับจ้าวซือหว่านอย่างแน่นอนเพียงแต่เดิมจ้าวซือหว่านก็มีอาการบาดเจ็บ ที่คืนนี้เชิญเขามา เดิมก็มีเจตนาจะลองหยั่งเชิงดู ท่าทีของเขาในเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 108

    หัวสมองของซือเจ๋อเยว่มีภาพที่ไม่เหมาะกับเด็กเกิดขึ้น เมื่อคืนนี้นางกับเยียนเซียวหรานคงไม่ได้...การคาดเดานี้ทำให้นางกระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียง แต่ก็ถูกนางปฏิเสธอย่างรวดเร็วเนื่องจากร่างกายของนางไม่มีความผิดปกติใด ๆนางนั่งลงไปอีกครั้ง คิดว่าอย่างไรเสียเมื่อคืนนี้ก็ต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างที่นางไม่รู้อย่างแน่นอนในเวลานี้ ประตูห้องของนางถูกเคาะ นางรีบไปเปิดประตู เป็นพระชายาเยียนอ๋องพระชายาเยียนอ๋องเห็นว่านางยังไม่ล้างหน้าแต่งตัว ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับรังนก ก็ยิ้มบาง ๆ “ข้ามารบกวนการพักผ่อนขององค์หญิงอย่างนั้นหรือ?”ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “เปล่าเจ้าค่ะ ข้าตื่นแล้ว”พระชายาเยียนอ๋องจึงกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ดี วันนี้ที่ข้ามาหาองค์หญิงตั้งแต่เช้าตรู่ เป็นเพราะมีเรื่องอยากจะหารือกับองค์หญิง”“เสด็จแม่มีอะไรเชิญตรัสมาเพคะ” ซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “คนครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจเพคะ”พระชายาเยียนอ๋องกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย “วันนี้จวนตระกูลจ้าวส่งเทียบเชิญมาตั้งแต่เช้าตรู่ อยากจะนัดข้าไปไหว้พระที่วัดเป้ากั๋วด้วยกัน”“ท่านอ๋องจากไปนานแล้ว สุสานอ๋องก็ได้ปิดซ่อมแซมเสร็จเร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 109

    เขามาหานางเพื่อหารือรายละเอียดของการ ‘เชิญป้าย’ ทุกอิริยาบถล้วนจะต้องถูกต้องตามขนบประเพณี จะผิดแผกไม่ได้แม้แต่นิดเดียวหลังจากพวกเขาคุยธุระเสร็จ ซือเจ๋อเยว่ก็ทนไม่ไหว ถามเยียนเซียวหราน “หลังจากที่เมื่อคืนนี้ข้าทำลายป้ายหยกแล้ว ท่านมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง?”เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่ง ย้อนถามด้วยสีหน้าปกติ “องค์หญิงคิดว่าข้าควรมีความรู้สึกอะไร?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะมีความรู้สึกอะไร?หรือว่าเขาไม่เข้าใจ ตอนที่นางถามคำถามประโยคเมื่อครู่นี้ ครึ่งประโยคแรกก็เป็นเพียงแค่การบังหน้าเท่านั้น?เพียงแต่เมื่อนางเผชิญกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขา ครู่หนึ่งก็มีความไม่แน่ใจอยู่เล็กน้อยว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่นางเกิดความหงุดหงิดใจต่อใบหน้าของเขาอย่างประหลาด ‘หน้าตาก็หล่อดีอยู่หรอก แต่วัน ๆ เอาแต่ปั้นหน้า เดาอารมณ์บนใบหน้าของเขาไม่ออกเลยสักนิด’ในเวลาแบบนี้ ต่อให้นางมาเพื่อสืบข่าว ก็ไม่ควรปล่อยไก่ต่อหน้าของเขานางจึงปั้นหน้าบ้าง กล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ “ป้ายหยกชิ้นนั้นผิดปกติมาก”“เจ้าก็รู้ว่าสุขภาพของข้าอันที่จริงไม่ค่อยสู้ดีนัก หลังจากที่กำจัดวิญญาณร้ายที่สิงสู่อยู่ในป้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 110

    ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ลำบากน้องสามแล้ว”นางพูดจบก็ถามอีกว่า “หลังจากที่เมื่อคืนนี้ข้าสูญเสียสติสัมปชัญญะไป ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่เหมาะสมใช่หรือไม่?”สายตาของเยียนเซียวหรานเจือจาง ดวงตาเย็นชาคู่นั้นดูเหมือนจะมองนางออก สุดท้ายแล้วก็กล่าวเพียง “ไม่มี”เรื่องที่นางเป็นกังวล เขาก็ยิ่งเป็นกังวลถึงว่าเมื่อคืนนี้จะเป็นนางที่เป็นฝ่ายจูบเขาก่อน แต่สุดท้ายคนที่สูญเสียการควบคุมกลับกลายเป็นเขาในเรื่องนี้ พวกเขามีสัญญาลับที่ถือว่ารู้กันแค่พวกเขานั่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดเปิดเผยออกมา แม้ว่าจะเกิดขึ้นจริงก็ตาม แต่กลับไม่สามารถพูดเปิดเผยออกมาได้ทั้งในเรื่องนี้ เยียนเซียวหรานมีความร้อนตัวของเขาอยู่เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดสองคำนี้ของเขา ก็นับว่าเข้าใจความหมายของเขาแล้วไม่ว่าจะพูดจากมุมใดมุมหนึ่ง ในเรื่องนี้พวกเขาต่างใช้วิธีการจัดการที่เหมือนกันซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีก็ดี”เยียนเซียวหรานเห็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความผ่อนคลายของนาง ราวกับว่าได้ยกหินก้อนยักษ์ในใจของนางได้ถูกยกออกไปแล้วเขาจึงรู้ว่าคำพูดประโยคนั้นที่นางพูดว่าสูญเสียสติสัมปชัญญะเมื่อครู่นี้ เป็นเรื่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 111  

    “แต่ยังมีอีกหนึ่งค่ายกลที่ขโมยดวงชะตาของเจ้าโดยเฉพาะยังไม่ถูกทำลายไป ต่อให้ไม่มีพลังชั่วร้ายเหล่านั้น และเจ้าก็ไม่ได้ตายเร็วปานนั้นแล้ว ทว่ากลับมีผลกระทบรุนแรงมากอยู่ดี” เยียนเซียวหรานถาม “ผลกระทบที่ว่าคืออะไร?” ซือเจ๋อเยว่มองเขาพลางพูด “เมื่อดวงชะตาของคนผู้หนึ่งถูกขโมยไปแล้ว คนผู้นั้นจะดวงซวยขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านพ้นไป” “จนสุดท้ายเจ้าอาจถึงแก่กรรมด้วยเพราะข้าวติดคอ เดินล้มหัวฟาดหรือสำลักน้ำตาย รูปแบบการตายอันน่าประหลาดพิศวงมีสารพัด ที่คนทั่วไปไม่กล้าแม้แต่จะคาดคิด” เยียนเซียวหราน “…” สิ่งเหล่านี้แค่ได้ฟังก็ปวดหัวแล้ว เขาถามซือเจ๋อเยว่ “ตอนนี้สถานการณ์ข้าเป็นเช่นไร?” ซือเจ๋อเยว่กล่าวตอบ“ดวงชะตาของเจ้าถูกคนขโมยมาเป็นเวลานานมากแล้ว แม้ยังไม่เข้าสู่ช่วงระยะสุดท้าย แต่ยังมีค่ายกลพลังชั่วร้ายที่ดูดพลังดวงชะตาเจ้าอยู่โดยเฉพาะ” “ดังนั้นชะตาของเจ้ามีแต่จะย่ำแย่เสียยิ่งกว่าผู้ที่ขโมยดวงชะตาของเจ้าไปมาก หากไม่ได้ข้าที่ก่อนหน้านี้ช่วยเจ้าสลายพลังชั่วร้ายไว้ถึงสองครา ไม่แน่เจ้าอาจจะตายไปแล้ว” เมื่อครั้งนางได้พบเขาในคราแรก ก็รู้สึกว่าเขาช่างประหลาดเสียนี่กระไร ทั้งท

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status