Share

บทที่ 108

Penulis: เจียงหนานเยียน
หัวสมองของซือเจ๋อเยว่มีภาพที่ไม่เหมาะกับเด็กเกิดขึ้น เมื่อคืนนี้นางกับเยียนเซียวหรานคงไม่ได้...

การคาดเดานี้ทำให้นางกระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียง แต่ก็ถูกนางปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากร่างกายของนางไม่มีความผิดปกติใด ๆ

นางนั่งลงไปอีกครั้ง คิดว่าอย่างไรเสียเมื่อคืนนี้ก็ต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างที่นางไม่รู้อย่างแน่นอน

ในเวลานี้ ประตูห้องของนางถูกเคาะ นางรีบไปเปิดประตู เป็นพระชายาเยียนอ๋อง

พระชายาเยียนอ๋องเห็นว่านางยังไม่ล้างหน้าแต่งตัว ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับรังนก ก็ยิ้มบาง ๆ “ข้ามารบกวนการพักผ่อนขององค์หญิงอย่างนั้นหรือ?”

ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “เปล่าเจ้าค่ะ ข้าตื่นแล้ว”

พระชายาเยียนอ๋องจึงกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ดี วันนี้ที่ข้ามาหาองค์หญิงตั้งแต่เช้าตรู่ เป็นเพราะมีเรื่องอยากจะหารือกับองค์หญิง”

“เสด็จแม่มีอะไรเชิญตรัสมาเพคะ” ซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “คนครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจเพคะ”

พระชายาเยียนอ๋องกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย “วันนี้จวนตระกูลจ้าวส่งเทียบเชิญมาตั้งแต่เช้าตรู่ อยากจะนัดข้าไปไหว้พระที่วัดเป้ากั๋วด้วยกัน”

“ท่านอ๋องจากไปนานแล้ว สุสานอ๋องก็ได้ปิดซ่อมแซมเสร็จเร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 109

    เขามาหานางเพื่อหารือรายละเอียดของการ ‘เชิญป้าย’ ทุกอิริยาบถล้วนจะต้องถูกต้องตามขนบประเพณี จะผิดแผกไม่ได้แม้แต่นิดเดียวหลังจากพวกเขาคุยธุระเสร็จ ซือเจ๋อเยว่ก็ทนไม่ไหว ถามเยียนเซียวหราน “หลังจากที่เมื่อคืนนี้ข้าทำลายป้ายหยกแล้ว ท่านมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง?”เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่ง ย้อนถามด้วยสีหน้าปกติ “องค์หญิงคิดว่าข้าควรมีความรู้สึกอะไร?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะมีความรู้สึกอะไร?หรือว่าเขาไม่เข้าใจ ตอนที่นางถามคำถามประโยคเมื่อครู่นี้ ครึ่งประโยคแรกก็เป็นเพียงแค่การบังหน้าเท่านั้น?เพียงแต่เมื่อนางเผชิญกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขา ครู่หนึ่งก็มีความไม่แน่ใจอยู่เล็กน้อยว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่นางเกิดความหงุดหงิดใจต่อใบหน้าของเขาอย่างประหลาด ‘หน้าตาก็หล่อดีอยู่หรอก แต่วัน ๆ เอาแต่ปั้นหน้า เดาอารมณ์บนใบหน้าของเขาไม่ออกเลยสักนิด’ในเวลาแบบนี้ ต่อให้นางมาเพื่อสืบข่าว ก็ไม่ควรปล่อยไก่ต่อหน้าของเขานางจึงปั้นหน้าบ้าง กล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ “ป้ายหยกชิ้นนั้นผิดปกติมาก”“เจ้าก็รู้ว่าสุขภาพของข้าอันที่จริงไม่ค่อยสู้ดีนัก หลังจากที่กำจัดวิญญาณร้ายที่สิงสู่อยู่ในป้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 110

    ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ลำบากน้องสามแล้ว”นางพูดจบก็ถามอีกว่า “หลังจากที่เมื่อคืนนี้ข้าสูญเสียสติสัมปชัญญะไป ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่เหมาะสมใช่หรือไม่?”สายตาของเยียนเซียวหรานเจือจาง ดวงตาเย็นชาคู่นั้นดูเหมือนจะมองนางออก สุดท้ายแล้วก็กล่าวเพียง “ไม่มี”เรื่องที่นางเป็นกังวล เขาก็ยิ่งเป็นกังวลถึงว่าเมื่อคืนนี้จะเป็นนางที่เป็นฝ่ายจูบเขาก่อน แต่สุดท้ายคนที่สูญเสียการควบคุมกลับกลายเป็นเขาในเรื่องนี้ พวกเขามีสัญญาลับที่ถือว่ารู้กันแค่พวกเขานั่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดเปิดเผยออกมา แม้ว่าจะเกิดขึ้นจริงก็ตาม แต่กลับไม่สามารถพูดเปิดเผยออกมาได้ทั้งในเรื่องนี้ เยียนเซียวหรานมีความร้อนตัวของเขาอยู่เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดสองคำนี้ของเขา ก็นับว่าเข้าใจความหมายของเขาแล้วไม่ว่าจะพูดจากมุมใดมุมหนึ่ง ในเรื่องนี้พวกเขาต่างใช้วิธีการจัดการที่เหมือนกันซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีก็ดี”เยียนเซียวหรานเห็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความผ่อนคลายของนาง ราวกับว่าได้ยกหินก้อนยักษ์ในใจของนางได้ถูกยกออกไปแล้วเขาจึงรู้ว่าคำพูดประโยคนั้นที่นางพูดว่าสูญเสียสติสัมปชัญญะเมื่อครู่นี้ เป็นเรื่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 111  

    “แต่ยังมีอีกหนึ่งค่ายกลที่ขโมยดวงชะตาของเจ้าโดยเฉพาะยังไม่ถูกทำลายไป ต่อให้ไม่มีพลังชั่วร้ายเหล่านั้น และเจ้าก็ไม่ได้ตายเร็วปานนั้นแล้ว ทว่ากลับมีผลกระทบรุนแรงมากอยู่ดี” เยียนเซียวหรานถาม “ผลกระทบที่ว่าคืออะไร?” ซือเจ๋อเยว่มองเขาพลางพูด “เมื่อดวงชะตาของคนผู้หนึ่งถูกขโมยไปแล้ว คนผู้นั้นจะดวงซวยขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านพ้นไป” “จนสุดท้ายเจ้าอาจถึงแก่กรรมด้วยเพราะข้าวติดคอ เดินล้มหัวฟาดหรือสำลักน้ำตาย รูปแบบการตายอันน่าประหลาดพิศวงมีสารพัด ที่คนทั่วไปไม่กล้าแม้แต่จะคาดคิด” เยียนเซียวหราน “…” สิ่งเหล่านี้แค่ได้ฟังก็ปวดหัวแล้ว เขาถามซือเจ๋อเยว่ “ตอนนี้สถานการณ์ข้าเป็นเช่นไร?” ซือเจ๋อเยว่กล่าวตอบ“ดวงชะตาของเจ้าถูกคนขโมยมาเป็นเวลานานมากแล้ว แม้ยังไม่เข้าสู่ช่วงระยะสุดท้าย แต่ยังมีค่ายกลพลังชั่วร้ายที่ดูดพลังดวงชะตาเจ้าอยู่โดยเฉพาะ” “ดังนั้นชะตาของเจ้ามีแต่จะย่ำแย่เสียยิ่งกว่าผู้ที่ขโมยดวงชะตาของเจ้าไปมาก หากไม่ได้ข้าที่ก่อนหน้านี้ช่วยเจ้าสลายพลังชั่วร้ายไว้ถึงสองครา ไม่แน่เจ้าอาจจะตายไปแล้ว” เมื่อครั้งนางได้พบเขาในคราแรก ก็รู้สึกว่าเขาช่างประหลาดเสียนี่กระไร ทั้งท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 112  

    ในใจซือเจ๋อเยว่พลันเกิดความรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย แม้เมื่อคืนนางต่อเวลาชีวิตได้ไม่น้อยในเวลาอันสั้น แต่ระยะนี้เส้นสีแดงมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้นมาก เส้นชีวิตอันน้อยนิดเพียงเท่านี้แทบจะไม่พอใช้เสียแล้วสิ นางก็ยังไม่รู้ด้วยว่าครั้งหน้าจะต้องใช้วิธีการเช่นไร จึงจะต่อเวลาชีวิตอีกสักระยะหนึ่งจากเขาได้ นางลอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะเดินออกไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน มีชีวิตอยู่ช่างยากเย็นเสียจริง! แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่อยากตาย! เยียนเซียวหรานเหลือบมองนางแวบหนึ่ง มิได้เอ่ยอันใด เพียงแค่เดินตามนางออกไป บัดนี้พระชายาเยียนอ๋องกำลังจัดเตรียมข้าวของสำหรับไปอารามพุทธในวันพรุ่งนี้ เมื่อเห็นว่าพวกเขาเข้ามา จึงเรียกให้มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เยียนเซียวหรานช่วยไปพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไร้เจตนาแอบแฝง “เสด็จแม่ หยกแขวนชิ้นนั้นที่เสด็จแม่ให้ลูกมาสอดไว้ใต้หมอนก่อนหน้านี้ได้มาจากที่ใดหรือ?” พระชายาเยียนอ๋องได้ฟังเขาถามเช่นนี้ พลันถามกลับด้วยความฉงนเล็กน้อย “เหตุใดจู่ ๆ ถึงถามเรื่องนี้เล่า?” เยียนเซียวหรานเอ่ยตอบ “ครานี้ลูกประสบเคราะห์ภัยจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด สามารถเปลี่ยนเคราะห์ร้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 113  

    พระชายาเยียนอ๋องผงกศีรษะ “ใช่แล้ว ซือหว่านมีความรู้และเข้าใจกฎเกณฑ์ แยกแยะผิดถูกได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีความรู้สึกพิเศษต่อเซียวเอ๋อร์” “หากนางแต่งเข้าจวนอ๋อง ต้องเป็นสะใภ้ที่ดีเหมือนกันกับองค์หญิงแน่นอน” ซือเจ๋อเยว่ “...” นางไม่อยากถูกเอาไปเปรียบเทียบกับจ้าวซือหว่านเท่าไรนัก ทว่าเรื่องราวในตอนนี้ยังไม่กระจ่างชัด นางคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องพูดอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าพระพักตร์พระชายาเยียนอ๋อง จึงทำเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น เยียนเซียวหรานถามพระชายาเยียนอ๋อง “พรุ่งนี้แม่นางจ้าวก็ไปอารามพุทธหรือขอรับ?” พระชายาเยียนอ๋องพยักหน้า “นางจะไปด้วย หากไม่ใช่เพราะนางเตือนสติว่าวัดเป้ากั๋วทำแผ่นป้ายวิญญาณดีที่สุด ข้าก็จะไปเชิญป้ายที่วัดซีซานแล้ว” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางพูด “แม่นางจ้าวช่างเป็นคนใส่ใจที่คิดการอันใดรอบคอบจริง ๆ เจ้าค่ะ” พระชายาเยียนอ๋องอมยิ้มพลางเอ่ย “ใช่ นางเป็นสตรีที่ดีโดยแท้” นางเอ่ยจบก็กล่าวชื่นชมจ้าวซือหว่านยกใหญ่ไปอีกรอบหนึ่ง ซือเจ๋อเยว่นั่งฟังด้วยความใจเย็น ไม่แสดงความคิดเห็นอันใดทั้งสิ้น นางกำลังคิดเรื่องหนึ่งในใจ ด้านนี้เพิ่งทำลายหยกแขวนได้ จ้าวซือหว่านก็เชิญพวกเขาไปที

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 114  

    เรื่องการเขียนยันต์ สำหรับคนสำนักเต๋าแล้ว ที่จริงมีความยากสูงมาก มีเพียงผู้ที่เข้าถึงแก่นของวิชาเต๋าอย่างถ่องแท้ทั้งยังฝึกการเขียนยันต์ด้วย จึงสามารถเขียนออกมาได้ และอัตราความสำเร็จก็ยังไม่นับว่าสูงมากนัก แต่สำหรับซือเจ๋อเยว่ผู้เป็นอัจฉริยะแห่งลัทธิเต๋า การเขียนยันต์จึงแสนจะง่ายดายราวกับกินข้าวดื่มน้ำก็ไม่ปาน ถึงขั้นที่ในเวลาปกติตอนนางเกียจคร้าน ไม่อยากเขียนยันต์ แค่ใช้มือร่ายคาถาของลัทธิเต๋าก็ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเช่นกัน แต่วิญญาณร้ายเมื่อคืนนี้ทำให้นางฉุกคิดได้ว่าศัตรูที่อยู่เบื้องหลังนั้นหาใช่ธรรมดาไม่ แค่อาศัยการร่ายคาถาด้วยมือยังยากนักที่จะจัดการมันให้สิ้นซากได้ นางมิอาจเอาเลือดของตนเองมาใช้จัดการได้อีกแล้ว แค่ด้วยสถานการณ์ร่างกายของนางตอนนี้ ก็ทานทนต่อสิ่งหนักหน่วงกว่านี้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ฉะนั้นการตระเตรียมยันต์ที่มีอานุภาพสูงไว้หลายแผ่น จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง นางเพิ่งเขียนยันต์เสร็จ เยียนเหนียนเหนียนก็มาเที่ยวเล่นหานาง เห็นนางเขียนยันต์อยู่ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยจึงถาม “องค์หญิง นี่คือยันต์หรือ?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ยันต์ห้าอัสนีบาตพวกนี้ขับไล่ภูตผีวิญญาณร้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 115  

    วินาทีที่อัสนีสายนั้นผ่าฟาดลงมา เยียนเหนียนเหนียนพลันรู้สึกได้อย่างแท้จริงว่านางเกือบจะถูกคร่าชีวิตไปแล้ว! นางมองจ้องซือเจ๋อเยว่ด้วยใบหน้าประจบประแจงพลางเอ่ย “องค์หญิง ต่อไปท่านก็คือบุคคลตัวอย่างของข้า ไม่ว่าอะไรข้าจะฟังท่านทุกอย่าง!” ซือเจ๋อเยว่มองนางพลางหัวเราะ “จากนี้ไประวังหน่อย อย่าเห็นอะไรก็แปะบนร่างตัวเองอีก!” เยียนเหนียนเหนียนย่อมพยักหน้าหงึก ๆ เรื่องในวันนี้ได้เปิดโลกทัศน์ของนางแล้วจริง ๆ แล้วนางไหนเลยยังกล้าแตะต้องของแบบนั้นอีก? นางดึงแขนเสื้อของซือเจ๋อเยว่แล้วถาม “ยันต์นี้สุดยอดมาก ขายให้ข้าสักหลายแผ่นได้หรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่ถามนาง “เจ้าจะเอายันต์ห้าอัสนีบาตไปทำอันใด?” เยียนเหนียนเหนียนกล่าวตอบ “ก่อนนี้ข้าไม่เชื่อว่าบนโลกจะมีสิ่งเช่นนี้อยู่ ทว่าตอนนี้ดูแล้วเกรงว่าคงมีอยู่จริง” “ข้ารู้สึกว่าพี่สามดวงชะตาไม่ค่อยสู้ดีนัก กลัวก็แต่ว่าบนร่างจะมีสิ่งอัปมงคลเช่นนี้อยู่ ข้าอยากซื้อสักหน่อยเพื่อเอาไปแปะบนร่างเขา จะได้ช่วยปัดเป่าพลังชั่วร้ายออกไปได้บ้าง” ซือเจ๋อเยว่ “…” นางคิดว่ายังไม่ทันปัดเป่าพลังชั่วร้ายออกไปจากร่างเยียนเซียวหรานจนหมด กลับถูกยันต์ห้าอัสนีบาตผ่าตาย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 116  

    ซือเจ๋อเยว่เอ่ยถึงตรงนี้พลันชะงักไปครู่หนึ่ง “และหลังจากคนตายไป นอกจากว่าในใจยังยึดติดอยู่เท่านั้นจึงจะรั้งอยู่ต่อที่โลกวิญญาณ ส่วนวิญญาณทั่วไปล้วนกลายเป็นดวงวิญญาณหวนกลับสู่ยมโลก” “ดังนั้น นอกจากช่วงเทศกาลจงหยวนที่ประตูยมโลกเปิดอ้า ข้าก็ไม่ค่อยได้พบเห็นวิญญาณบ่อยนัก” เยียนเหนียนเหนียนฟังจนคล้ายเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ “องค์หญิง คราวหน้าเมื่อเจ้ามองเห็นวิญญาณ จะให้ข้าเห็นบ้างได้หรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่ “…” ก่อนนี้นางก็รู้แล้วว่าเยียนเหนียนเหนียนใจกล้ามาก แต่ผู้ที่เป็นฝ่ายขอ ‘เจอผี’ เองเช่นนี้ก็ดูจะใจกล้าเกินไปหน่อย และยัยหนูคนนี้นิสัยค่อนข้างใจกล้าบ้าบิ่น ไม่รู้ว่าสิ่งใดคือความกลัว หาโอกาสให้นางได้เจอสักหน่อย บางทีอาจทำให้นางสงบเสงี่ยมขึ้นบ้าง ซือเจ๋อเยว่พยักหน้าพลางพูด “ได้ ถ้ามีโอกาสข้าจะให้เจ้าได้เจอ” เยียนเหนียนเหนียนถามนางอีก “องค์หญิง เสด็จพ่อกับเสด็จพี่พวกเขาต่างไปที่ยมโลกกันแล้วหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “นอกจากซื่อจื่อแล้ว ที่เหลือล้วนไปกันหมดแล้วละ” ขณะความคิดนี้ผุดขึ้นในใจนาง ก็เหลือบไปเห็นเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ไม่รู้มานั่งอยู่บนขอบหน้าต่างตั้งแต่เมื่อไร นางอึ้งไป

Bab terbaru

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status