แชร์

บทที่ 97

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
พระชายาเยียนอ๋องถอนหายใจเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “แต่เซียวเอ๋อร์ต้องไว้ทุกข์ หากพวกเจ้าจะแต่งงานกัน อย่างน้อยต้องรออีกสามปี”

“แต่ช่วงวัยสาวของสตรีช่างสั้นนัก ให้เจ้ารออีกสามปี...”

“ข้ายินดีเจ้าค่ะ!” จ้าวซือหว่านเอ่ยเสียงดัง “อย่าว่าแต่สามปีเลย ต่อให้สามสิบปีข้าก็ยินดีรอ”

พระชายาเยียนอ๋องเอ่ยด้วยความปลาบปลื้มมากว่า “เด็กดี ทำให้เจ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว”

จ้าวซือหว่านยิ้มน้อย ๆ ดวงตาแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ราวกับว่าการได้แต่งงานกับเยียนเซียวหรานเป็นความโชคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนางจริง ๆ

ซือเจ๋อเยว่ปรบมือกล่าวว่า “แม่นางจ้าวช่างมีคุณธรรมอย่างยิ่ง! ก่อนหน้านี้ข้าเข้าใจแม่นางจ้าวผิดไปแล้ว”

บรรยากาศภายในโถงบุปผาเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายขึ้นมาทันที ทุกคนกล่าวชมเชยจ้าวซือหว่านไม่หยุด แต่นางกลับแย้มยิ้มอย่างสง่างามและเขินอายอยู่ตลอด

ซือเจ๋อเยว่มองอยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นมาเป็นครั้งคราวไม่กี่ประโยค

เรื่องที่จวนเยียนอ๋องกับจวนจ้าวพูดคุยว่าจะถอนหมั้นก่อนหน้านี้ก็ถือว่าให้มันผ่านไป

เมื่อจ้าวซือหว่านออกจากจวนเยียนอ๋องมานั่งบนรถม้า ก็มีมือข้างหนึ่งดึงนางเข้าไปในรถม้า

นางอุทานเบา ๆ หลังจากนั้นก็ล้มลง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 98

    เพียงแต่ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าคำพูดที่ทำให้เสียบรรยากาศเช่นนี้ หากนางเอ่ยออกมาตอนนี้คงจะทำลายบรรยากาศจริง ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระหว่างนางกับเยียนเซียวหรานยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเปิดเผยต่อผู้ใดได้ ทำให้นางร้อนตัว เหล่าไท่จวินมองเรื่องราวลึกซึ้งกว่าพระชายาเยียนอ๋องเล็กน้อย “เรื่องนี้ต้องคอยดูกันต่อไปแล้วค่อยว่ากันอีกที”“หากจ้าวซือหว่านยินดีรอเซียวเอ๋อร์สามปีจริง ๆ หลังจากที่นางแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแล้ว พวกเราต้องปฏิบัติต่อนางให้ดี ๆ”พระชายาเยียนอ๋องเอ่ยอย่างหนักแน่นว่า “ท่านแม่ก็เห็นแล้ว นางรักมั่นต่อเซียวเอ๋อร์นะเจ้าคะ”“หลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน จะต้องเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กันดี ไม่นานก็จะมีทายาทให้จวนเยียนอ๋องได้”เหล่าไท่จวินดับฝันของนาง “ต่อให้พวกเขาจะแต่งงานกันก็ยังต้องรออีกสามปีให้หลัง ภายภาคหน้าไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอื่นหรือไม่” พระชายาเยียนอ๋องเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “ซือหว่านรักมั่นต่อเซียวเอ๋อร์ถึงเพียงนี้ บางทีเรื่องอื่น ๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่เรื่องนี้ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแน่นอนเจ้าค่ะ”“เพียงแต่ว่ายังต้องรออีกสามปี ทำให้ซือหว่านไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ” เ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 99

    ซือเจ๋อเยว่ไม่มีทางยอมรับอย่างแน่นอน “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ากำลังดีใจแทนเจ้า” “เสด็จแม่บอกว่าแม่นางจ้าวรักมั่นต่อน้องสาม รออีกสามปี พวกเจ้าแต่งงานกัน ไม่นานก็จะมีทายาทให้จวนอ๋องได้” หากก่อนหน้านี้เยียนเซียวหรานรู้สึกแค่ว่านางกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น คราวนี้เขายิ่งมั่นใจโดยสิ้นเชิงแล้ว เขาอยู่กับซือเจ๋อเยว่มานาน เข้าใจนิสัยของนางอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเขาถามนางว่า “เจ้าคิดว่าจ้าวซือหว่านไม่ดีหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางเอ่ยว่า “นางดีหรือไม่ ข้าไม่ได้เป็นคนตัดสิน เจ้าต่างหากที่เป็นคนตัดสิน”นางกล่าวจบก็เดินผ่านเขาไป ตั้งใจจะตรงกลับไปที่ห้องแต่เยียนเซียวหรานคว้าแขนของนางไว้ นางจึงมองมาที่เขา “มีอะไรหรือ?”เยียนเซียวหรานเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วถามนางว่า “ท่านมีคนที่ชมชอบหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “มีสิ!”เยียนเซียวหรานประหลาดใจอยู่บ้าง ดวงตาของซือเจ๋อเยว่โค้งขึ้นเล็กน้อย “ข้าแต่งงานกับพี่ชายใหญ่ของเจ้า ย่อมต้องชอบพี่ชายใหญ่ของเจ้าสิ!” นางกล่าวจบก็สลัดมือของเขาออก ก่อนจะก้าวยาว ๆ เดินไปข้างหน้านางเดินพลางยื่นมือไปบีบนวดแขน ปากก็พึมพำว่า “นี่โตมากับการกินผักขมตั้งแต่เด็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 100

    เฟิ่งจือเซี่ยตอบกลับว่า “ความฝันของน้องสามไม่ใช่การเป็นแม่ทัพที่ออกศึกในสนามรบ แต่เป็นบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่ที่เขียนตำราเผยแพร่ทฤษฎีของตนเอง” “เสด็จพ่อคิดว่าสมองของเขามีปัญหา ก่อนหน้านี้จึงฟาดเขาไปไม่น้อยเลย”“เมื่อก่อนเขาคัดลอกหลักคำสอนของคัมภีร์และคำกล่าวโบราณลับหลังเสด็จพ่อไว้ไม่น้อย แต่ก็เผาทิ้งทั้งหมดก่อนที่เสด็จพ่อจะกลับบ้าน”“วันนี้เขาเผาของพวกนี้ น่าจะคงคิดว่าของพวกนี้ไม่มีประโยชน์แล้วจริงๆ”อันที่จริงซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยเข้าใจพฤติกรรมนี้ของเยียนเซียวหราน รู้ทั้งรู้ว่าไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังเขียนไปด้วย เผาไปด้วยนางฟังเรื่องพวกนี้แล้วกลอกตารอบหนึ่ง นึกถึงวิธีการที่สามารถจูบเขาได้หลังจากที่นางส่งเฟิ่งจือเซี่ยกลับไปแล้ว นางก็แอบเข้าไปในเรือนของเยียนเซียวหราน นับตั้งแต่ที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง บ่าวรับใช้ในจวนก็ถูกไล่ออกไปไม่น้อย ในเรือนของเยียนเซียวหรานมีเด็กรับใช้เพียงคนเดียวชื่อว่าฉางเซิงก่อนที่ซือเจ๋อเยว่จะเข้ามาก็ได้สอบถามไว้เรียบร้อยแล้วว่า เยียนเซียวหรานไม่ชอบให้มีคนอยู่ในห้องตอนที่เขาพักผ่อน เมื่อนางเข้ามา ฉางเซิงก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องของบ่าวไพร่แล้ว หากเยียนเซียวหราน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 101

    นางกล่าวอย่างอึกอัก “ข้า... ข้า...”นางยังหาเหตุผลไม่ได้ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมาจากด้านนอกเยียนเซียวหรานรู้ว่าจะต้องเป็นฉางเซิงเด็กรับใช้กลับมาแล้ว ในเวลานี้เสื้อผ้าของเขาไม่เรียบร้อย ถ้าหากให้ผู้อื่นพบว่าซือเจ๋อเยว่อยู่ในห้องของเขา จะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเดิมทีเขาก็ไม่ได้นับว่ามีน้ำใจต่อนางสายตาของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที จูงมือซือเจ๋อเยว่ ผลักนางไปบนเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวนางไว้ แล้วก็ปล่อยมุ้งลงเขากลัวโดนฉางเซิงจะระแคะระคาย จึงรีบดีดกระดุมเพื่อดับตะเกียงอีกดวงอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาทำเรื่องนี้เสร็จ ฉางเซิงก็เดินเข้ามาพอดี “คุณชาย หนังสือที่คุณชายให้ข้าไปหา หาเจอทั้งหมดแล้ว ให้วางไว้ที่ไหนขอรับ?”หลังจากที่เขาเดินเข้ามาก็พบว่าภายในห้องมืดสนิท จึงกล่าว “เอ๋ ตะเกียงดับตั้งแต่ตอนไหน ข้าจะไปจุดตะเกียงให้คุณชายขอรับ”นับหลังจากที่เยียนอ๋องเกิดเรื่อง เยียนเซียวหรานมักจะร่ำเรียนอย่างขยันขันแข็ง หรืออ่านหนังสือ หรือครุ่นคิดเรื่องบางอย่างทุกคืนแม้ว่าตอนที่เยียนเซียวหรานได้รับบาดเจ็บกลับมาที่จวนอ๋อง ก็ไม่เคยขาดช่วงมาก่อนดังนั้นเมื่อฉางเซิงเห็นว่าแสงภายใ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 102

    เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินประโยคนี้ ก็ชักกระบี่ที่แขวนอยู่บริเวณหัวเตียงออกมา วางพาดไว้บนลำคอของนาง “องค์หญิงโปรดระวังคำพูดด้วย!”ซือเจ๋อเยว่เคยเห็นท่าทางการลงมือของเขา เจตนาสังหารคุกรุ่น แต่ในเวลานี้ นางกลับไม่รู้สึกถึงเจตนาสังหารบนร่างกายของเขาเลยแม้แต่นิดเดียวในทางกลับกัน นางเพียงรู้สึกถึงความลำบากใจและเขินอายของเขาเดิมทีซือเจ๋อเยว่เกรงว่าเขาจะจำนางได้ จะสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็นขึ้นมาในขณะที่นางกำลังค้นพบ หลังจากที่นางนำเรื่องทำลายดวงชะตาที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์วัยไปฝากไว้ที่เขา นางก็รู้ว่าต่อไปนางก็คงหลีกเลี่ยงเขาไม่พ้นเกรงว่าคืนนี้นางจะต้องใช้วิธีการสกปรกเพื่อหลับนอนกับเขา ใช้ความปราดเปรียวของเขา สุดท้ายก็จะสังเกตเห็น ถึงเวลานั้นจะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอนในเมื่อเป็นเช่นนี้ มิสู้นางลองเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติตัวกับเขานางเม้มริมฝีปากยิ้มเบา ๆ “น้องสามคิดจะฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ?”มือที่จับกระบี่ของเยียนเซียวหรานสั่นระริกโดยไม่รู้ตัวซือเจ๋อเยว่ยื่นนิ้วสองนิ้วออกมาหนีบปลายกระบี่เอาไว้ เหลือบตามองเขากล่าว “น้องสาม อาวุธทำร้ายผู้คนได้ง่าย”“ถ้าหากเจ้าไม่อยากตายละก็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 103

    นางไม่มีทางยอมรับ!นางใช้น้ำเสียงสงสัยเอ่ยถาม “เมืองเวิ่นซีอยู่ที่ใด? ที่นั่นเคยเกิดเรื่องอันใดที่มีความหมายอย่างนั้นหรือ?”ร่างกายของนางในที่อยู่ดวงตาของเยียนเซียวหราน ทับซ้อนกับร่างกายของสตรีคนนั้นเมื่อสองปีก่อนหน้าแล้วดวงตาของเยียนเซียวหรานจ้องตรงไปที่นาง คิดจะตามหาเบาะแสจากสีหน้าของนางเพียงแต่แสงตะเกียงภายในห้องถูกเขาดับลงเกือบหมดแล้ว บัดนี้เหลือเพียงแสงสว่างรำไรจากตะเกียงน้ำมันอันหนึ่งที่อยู่บริเวณมุมห้องเท่านั้นแสงสว่างของตะเกียงอันนั้นไม่เพียงพอที่จะส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบนเตียงนอนที่ยังคลุมไปด้วยมุ้งอีกหนึ่งชั้นใบหน้าของนางที่อยู่ท่ามกลางความมืดมิด มองสีหน้าของนางได้ไม่ชัดเจนเสียด้วยซ้ำเขาเห็นเพียงความสงสัยจากในดวงตาอันแสนงดงามคู่นั้นของนางเท่านั้นเดิมทีเขามั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากที่เผชิญกับดวงตาคู่นี้ของนาง กลับกลายเป็นว่าไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไรสายตาของเยียนเซียวหรานจดจ้องไปที่นาง นางเลิกคิ้วเล็กน้อย “หรือว่าเคยเกิดเรื่องใหญ่สุดยอดอะไรกับคุณชายเยียนซานอย่างนั้นหรือ?”เขาถอนสายตากลับ ลดกระบี่ลง “เปล่า ข้าก็แค่ถามเฉย ๆ เท่านั้น”เขา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 104

    เมื่อเยียนเซียวหรานเห็นป้ายหยกอันนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากเขาเคยเห็นป้ายหยกนั่นมาก่อนซือเจ๋อเยว่ดึงปิ่นปักผมไม้ที่ดูแสนจะธรรมดาอันหนึ่งออกมาจากบนศีรษะ มือทั้งสองข้างทำท่ามุทรา จากนั้นก็แทงลงไปที่ป้ายหยกอันนั้นตอนที่มือของนางแทงลงไป เยียนเซียวหรานได้ยินเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหูเป็นอย่างยิ่งเสียงกรีดร้องนั่นสูงเสียจนแก้วหูของเขารู้สึกเจ็บ หว่างคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน “เสียงอะไรน่ะ!”พลังสีดำที่อยู่บนป้ายหยกนั่นเหมือนกับว่ากำลังจะก่อตัวกันกลายเป็นอาวุธ กำลังจะพุ่งเข้ามาหาเยียนเซียวหรานซือเจ๋อเยว่ไม่ได้ตอบ ยกมือซ้ายขึ้นทำท่ามุทราอีกครั้ง แล้วกดลงไปด้วยความรุนแรงตอนที่นางกดลงไป เยียนเซียวหรานรู้สึกเพียงว่าเสียงกรีดร้องนั่นแสบแก้วหูยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้ซือเจ๋อเยว่สบถคำหยาบออกมา “มารดามันเถอะ วันนี้เจ้าได้ประมือกับข้า ยังคิดว่าจะหนีพ้นอีกหรือ!”นางพูดจบก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาทันที ตอนที่นางยกมือขึ้นพลังสีดำกลุ่มนั้นก็มุดออกไปทางด้านนอกอย่างรวดเร็วนางแค่นเสียงหัวเราะ ใช้ปิ่นปักผมกรีดที่ปลายนิ้วทันควัน เลือดสดๆ ไหลออกมา นางใช้ฝ่ามือที่เปื้อนเลือดข้างนั้น กดพลังสีดำ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 105

    นางที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ เพียงทำตามสัญชาตญาณของตน ทำเรื่องที่มีผลประโยชน์ต่อตนเองเท่านั้นตอนที่นางชอนไชเข้าไปในปากของเยียนเซียวหราน ก็เป็นเพียงเพราะว่าตรงนั้นทำให้นางรู้สึกสบาย สามารถผ่อนคลายความรู้สึกไม่สบายอันใหญ่หลวงที่เกิดจากการเสียเลือดได้ตอนแรกเยียนเซียวหรานยังพอสามารถรักษาสติสัมปชัญญะเอาไว้ได้ บอกกับตนเองว่าไม่ได้แต่ว่าตอนที่กลิ่นอายของนางแทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ สติสัมปชัญญะของเขาก็พังทลายไปจนหมดสิ้นเขายื่นมือไปโอบที่เอวของนาง กดนางลงไปใต้ร่างกายอย่างรุนแรงตอนที่เขากดเข้ามา อาการข้างเคียงของการเสียเลือดของนางปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์ หมดสติไปเรียบร้อยแล้วเรื่องแบบนี้เยียนเซียวหรานไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ไม่มีหนทางอื่น ทั้งหมดเพียงแค่ทำตามสัญชาตญาณของตนเท่านั้นในไม่ช้าจากที่เขาเป็นฝ่ายตามก็กลายเป็นฝ่ายนำ มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระโปรงของนางในเวลานี้ มีแมวตัวหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนหน้าต่าง ส่งเสียงร้อง ‘เมี้ยว’ เสียงดัง เยียนเซียวหรานได้สติทันที สติที่กระจัดกระจายกลับคืนมาเขาหันหน้ามองซือเจ๋อเยว่ที่หมดสติไปแล้วที่ถูกทับอยู่ใต้ร่างกายของเขา แล้วก็มองปลายจม

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status