Share

บทที่ 7

Author: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่หันไปสอบถามทหารองครักษ์คนหนึ่ง “เมื่อครู่หนิวกงกงหาว่าข้าเป็นสุนัข เจ้าได้ยินหรือไม่?”

ทหารองครักษ์หมอบลงกับพื้น “ได้ยินขอรับ”

ซือเจ๋อเยว่ลองถามอีกหลายคน พวกเขาล้วนตอบว่าได้ยิน

ซือเจ๋อเยว่อมยิ้มแล้วมองหนิวกงกง “หากข้าเป็นสุนัข มารดาข้าก็ต้องเป็นสุนัข”

“หากมารดาข้าเป็นสุนัข บิดาข้าก็ต้องเป็นหมา หากพ่อข้าเป็นสุนัข พี่น้องของเขาก็ต้องเป็นสุนัขด้วยน่ะสิ”

เมื่อหนิวกงกงได้ยินเช่นนั้นพลันเข้าใจทันที ซือเจ๋อเยว่ใช้ป้ายทองคำเชยคางเขาขึ้น “หนิวกงกง เจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก ถึงกับด่าทอฮ่องเต้ต่อหน้าธารกำนัล!”

หนิวกงกงรีบตอบ “ข้าเปล่านะ...”

ซือเจ๋อเยว่ใช้ป้ายทองคำตบหน้าเขาแรงๆ “เหอะ ยังกล้าปฏิเสธอีก! เมื่อครู่ทุกคนได้ยินกันทั้งนั้น เจ้ายังคิดจะปัดสวะหรือ!”

หนิวกงกง “...”

เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ทำร้ายเขาคือซือเจ๋อเยว่

เขาจึงยิ้มแห้ง “องค์หญิง นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด!”

ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พอหมิ่นพระเกียรติเสด็จอาเสร็จก็บอกว่าเข้าใจผิด หนิวกงกง เจ้านี่ใจกล้าไม่น้อย!”

“เจ้าวางใจเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปเฝ้าเสด็จอาแต่เช้า เพื่อจะได้กราบทูลให้ทราบเรื่องที่มีคนหาว่าพระองค์เป็นสุนัข”

เส้นเลือดบนหน้าผากหนิวกงกงปูดโปน พร้อมกัดฟันตอบ “วันนี้กระหม่อมมาปฏิบัติหน้าที่ ขอองค์หญิงโปรดอย่าขัดขวาง!”

ซือเจ๋อเยว่กอดอกพร้อมกล่าวขึ้น “ข้าขัดขวางเจ้าทำหน้าที่หรือ?”

“เช่นนั้นเจ้าลองบอกข้าสิ เสด็จอาแค่ไม่ให้คนในจวนออกไปข้างนอก แต่เจ้ากลับบุกมาทำลายห้องทำพิธี”

“เจ้าเก่งกล้าสามารถขนาดนี้ ทำโดยพลการเช่นนี้ ถ้าอย่างไรข้าฟาดหัวกบาลเจ้าเสียเลยดีหรือไม่?”

เมื่อพูดจบนางยกป้ายทองคำขึ้นเตรียมฟาดใส่หัวหนิวกงกง

หนิวกงกงอยากจะสับนางให้เละ แต่ด้วยฐานันดรของนาง หนำซ้ำยังมีป้ายทองคำพระราชทาน ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่ตอบโต้

เขาจึงต้องพาทหารองครักษ์ออกจากจวนอ๋องอย่างไม่เต็มใจ

ตอนที่เดินไปถึงหน้าประตู เขาหันมาถลึงตาใส่ซือเจ๋อเยว่

วันนี้แผนการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อนางปรากฏตัว ทำให้แผนการของเขาล้มไม่เป็นท่า

ซือเจ๋อเยว่คิดแค่ว่าหมาถลึงตาใส่

นางยืนอยู่บนบันได้ในจวนอ๋อง แล้วตะโกนเสียงดัง “จวนเยียนอ๋องจงรักภักดี เสด็จอาถึงได้ให้ข้าแต่งเข้าจวนเยียนอ๋อง”

“หลายปีมานี้ หากไม่มีจวนเยียนอ๋องคอยเฝ้าชายแดน ปกป้องแคว้นต้าฉู่ ชาวเผ่าต๋าต๋าคงทลายด่านลงใต้มานานแล้ว”

“ชีวิตที่สุขสบายของทุกคนในยามนี้ ล้วนแลกมาด้วยเลือดเนื้อของเหล่าทหารชายแดน”

“จวนเยียนอ๋องแค่พ่ายศึกเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้พวกเจ้าลืมความดีของพวกเขาจนหมดแล้วหรือ?”

“รังแกคนชรากับสตรีมันแน่จริงที่ไหนกัน หากแน่จริงก็ไปตัดหัวชาวเผ่าต๋าต๋าที่สนามรบสิ!”

ทหารองครักษ์ตรงประตูทางเข้าถูกต่อว่าจนก้มหน้าลง

ตอนซือเจ๋อเยว่กลับเข้ามาในจวนอ๋อง เหลือบมองหนิวกงกงแวบหนึ่ง “เจ้าเป็นคนใจคอโหดเหี้ยม เข่นฆ่าคนดี มีคนตายด้วยน้ำมือเจ้าหลายชีวิต”

“คืนนี้วิญญาณเหล่านั้นจะมาทวงชีวิต เจ้ากลับไปจัดเตรียมงานศพให้ตัวเองเถอะ”

หนิวกงกงแค่นหัวเราะกับคำพูดของนาง ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

ในสายตาของเขา ต่อให้คืนนี้ไม่อาจยั่วยุจนคนในจวนเยียนอ๋องลงมือ แต่อย่างไรครั้งนี้คนในจวนก็ต้องตายจนหมด

ส่วนเรื่องคนที่เคยตายด้วยน้ำมือของเขาเหล่านั้น ก็แค่คนตาย จะทำอะไรเขาได้?

ระหว่างที่เขาเดินไปข้างหน้า รู้สึกปวดข้อพับ จากนั้นยืนไม่มั่น จึงหกล้มลงพื้นดังตุบ

ซือเจ๋อเยว่พูดอย่างจริงจัง “หนิวกงกงกำลังขอขมาเยียนอ๋องหรือ? ท่านบอกว่ารับรู้แล้ว แต่ไม่คิดจะให้อภัยเจ้า”

หนิวกงกง “...”

เยียนอ๋องตายไปแล้ว ขอขมาบ้าบออะไรกัน!

ซือเจ๋อเยว่มองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นสองมือทำท่ามุทรา แล้วดันไปทิศทางของเขา จากนั้นหันหลังกลับจวน

มีทหารองครักษ์คนหนึ่งอดไม่ไหวจึงเข้าไปประคองหนิวกงกง พร้อมเอ่ยขึ้น “กงกง องค์หญิงเจ๋อเยว่ดูผิดแผกไม่น้อย”

“วันนี้นางบอกว่ากวนมามาจะตาย แล้วกวนมามาก็ตายจริงๆ...”

เขายังพูดไม่ทันจบ พลันถูกหนิวกงกงตบหน้า “เจ้าแช่งให้ข้าตายหรือ?”

ทหารองครักษ์คนนั้นรีบปฏิเสธ หนิวกงกงจ้องเขาอย่างเหี้ยมเกรียม “วันนี้เจ้าเป็นคนแรกที่ยืนยันว่าข้าด่าทอองค์หญิงเจ๋อเยว่สินะ?”

ทหารองครักษ์คนนั้นตกใจจนหน้าซีด ไม่กล้าพูดอีกต่อไป

แต่หนิวกงกงยังไม่หายแค้น จึงทำร้ายทุบตีทหารองครักษ์คนนั้น

เขาถีบไปด้วยพลางด่าทอไปด้วย “ใครใช้ให้เจ้าปากมาก ข้าจะตีสุนัขอย่างเจ้าให้ตาย”

เขามองไม่เห็นเงาดำที่ล้อมเขาไว้จากรอบด้าน เขาแค่รู้สึกหนาว จนสั่นไปทั้งตัวอย่างอดไม่ได้

เขารวบเสื้อบนตัวให้กระชับขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกหนาวอยู่ดี จึงด่าทอไม่หยุด “อากาศบ้าอะไรกัน ทำไมอยู่ๆ ถึงได้หนาวขนาดนี้?”

เขาชี้ไปที่องครักษ์คนหนึ่ง “เอาเสื้อคลุมของเจ้ามาให้ข้าสิ”

วันนี้เขาอุตส่าห์วางแผนมาอย่างดี แต่กลับถูกซือเจ๋อเยว่ใช้ป้ายทองคำตบจนแผนเสียหมด เขาต้องรีบกลับไปกราบทูล

หลังจากสวมเสื้อคลุม เขารีบขี่ม้ามุ่งหน้าไปทางวังหลวงทันที

ส่วนซือเจ๋อเยว่กลับเข้าไปในจวนเยียนอ๋อง แล้วรีบปิดประตูใหญ่พร้อมลงกลอนทันที

เมื่อหันมองนางเห็นเยียนเซียวหรานยืนอยู่ด้านหลัง

นางยกนิ้วหัวแม่มือให้เขา “หินที่คุณชายสามดีดออกไปเมื่อครู่ ทำให้หนิวกงกงคุกเข่าลงอย่างสวยงาม”

เมื่อได้ยินนางเอ่ยชม เยียนเซียวหรานรู้สึกเขินเล็กน้อย ใบหน้าจึงแดงระเรื่อ

เขาเอ่ยเสียงค่อย “ข้าไร้ความสามารถ จึงไม่อาจสังหารเขาได้ทันที”

ซือเจ๋อเยว่ยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้าดูดวงเป็น คืนนี้เขาต้องตายแน่นอน”

“คนอย่างเขา ให้คุณชายสามต้องลงมือ มีแต่จะทำให้มือคุณชายแปดเปื้อน”

มีหลายชีวิตต้องตายด้วยมือหนิวกงกง วันนี้หลังจากนางดับเปลวไฟวิญญาณบนหัวไหล่เขา ดวงวิญญาณเหล่านั้นต้องมาคิดบัญชีกับเขาแน่

เยียนเซียวหรานเห็นนางยิ้มอย่างมั่นใจ แววตาดูดีใจไม่น้อย

ในใจเขาเกิดความรู้สึกคุ้นเคยอีกแล้ว จึงเอ่ยถาม “องค์หญิง ก่อนหน้านี้พวกเราเคยพบกันหรือไม่?”

ซือเจ๋อเยว่ปฏิเสธทันควัน “ข้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวงไม่กี่วัน ก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่สำนักเต๋ามาตลอด คุณชายสามไม่เคยเห็นข้าหรอก”

เยียนเซียวหรานหันมองนางอีกครั้ง แล้วเก็บกดความรู้สึกคุ้นเคยนั้นเอาไว้

ตอนนี้จวนเยียนอ๋องตกอยู่ในยามคับขัน เขาเองไม่มีแก่ใจไปคิดมากเรื่องพวกนี้ จึงเอ่ยถามอีกเรื่อง “องค์หญิงไปแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมยังย้อนกลับมาอีก?”

ซือเจ๋อเยว่คงบอกเขาไม่ได้ว่า นางเคยหลับนอนกับเขาแล้ว จึงไม่อาจเห็นเขาตายไปต่อหน้าต่อตา

นางพูดอย่างขึงขัง “ข้าเคารพนับถือเยียนอ๋องและคุณชายทั้งหลาย ไม่อยากให้พวกเขาถูกเหยียนหยาม และไม่อยากให้ดวงวิญญาณของพวกเขาไม่สงบสุข”

ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน เหล่ไท่จวินได้พาพระชายาเยียนอ๋องและคุณหนูทั้งหลายมาหา

พวกนางทำความเคารพซือเจ๋อเยว่พร้อมกัน “ขอบพระทัยองค์หญิง”

ซือเจ๋อเยว่นึกไม่ถึงว่าพวกนางจะกล่าวขอบคุณอย่างเป็นพิธีการเช่นนี้ จึงรีบเข้าไปประคองเหล่าไท่จวิน “ท่านย่า ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว”

นางยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ข้าแต่งเข้าจวนเยียนอ๋องแล้ว ย่อมถือว่าเป็นคนในจวนอ๋องด้วย”

“วันนี้เมื่อที่บ้านเจอวิกฤต ข้าจะหนีเอาตัวรอดคนเดียวได้อย่างไร?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Petcharat Sumranchit
นางเอกใจง่ายหรือไร หรือไม่ก้อโรคจิต คิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง…
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 8

    นางหยุดสักครู่แล้วพูดต่อ “ข้าเชื่อว่าเสด็จพ่อคือผู้บริสุทธิ์ ต่อให้ข้าจะไปจากจวนอ๋อง ก็ควรรอให้คดีของจวนเยียนอ๋องกระจ่างเสียก่อน”“ข้าคือบุตรีเพียงคนเดียวของอดีตฮ่องเต้ เป็นถึงองค์หญิง หากข้าถูกประกาศจับ จะเสื่อมพระเกียรติไปถึงเสด็จพ่อของข้า”นางเลือกกลับจวนเยียนอ๋อง และยังคงเป็นสะใภ้ใหม่ของเยียนอ๋องซื่อจื่อ สมควรเรียกเหล่าไท่จวินว่าท่านย่าพระชายาผู้เฒ่ามองนางอย่างเปี่ยมเมตตา พร้อมเอ่ยเสียงอ่อนโยน “องค์หญิงละม้ายอดีตฮ่องเต้มากนัก มีเมตตาปรานีและมีคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่”“เสียดายที่ซื่อจื่อ...เฮ้อ! เขาไม่มีวาสนาเอง”พระชายาเยียนอ๋องดึงมือซือเจ๋อเยว่ “วันนี้องค์หญิงช่วยจวนเยียนอ๋องเอาไว้ ทั่วทั้งจวนซาบซึ้งในพระคุณยิ่งนัก”นางมองดูซือเจ๋อเยว่ แล้วนึกถึงเยียนอ๋องซื่อจื่อที่เสียไปแล้ว น้ำตาไหลพรากลงมาเป็นสายในยามปกติที่สำนักเต๋า ซือเจ๋อเยว่มักพบเจออาจารย์ทั้งหลายที่หน้าด้านและนิสัยประหลาดผู้ที่อ่อนโยนราวสายน้ำอย่างพระชายาเยียนอ๋อง นางไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว ชั่วขณะนั้นจึงวางตัวไม่ถูก ได้แต่หันไปขอความช่วยเหลือจากเหล่าไท่จวินเหล่าไท่จวินสูดหายใจเข้าลึก “วันนี้จวนเยียนอ๋องถูกล้อม หนิวก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 9

    หากไม่ได้รับการตักเตือนจากซือเจ๋อเยว่ ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะซ่อนจดหมายไว้ในอ่างปลา?แววตาตื้นตันที่พระชายาผู้เฒ่ามองซือเจ๋อเยว่มากขึ้นกว่าเดิม หากจดหมายเหล่านี้ถูกคนของศาลต้าหลี่หาพบ จวนอ๋องต้องถูกประหารเก้าชั่วโคตรนางเอ่ยกับเยียนเซียวหราน “รีบทำลายจดหมายพวกนี้ซะ”เยียนเซียวหรานนำอ่างมาแล้วเผาจดหมายทิ้งเขาเพิ่งจะเผาจดหมายเสร็จ องครักษ์ก็เข้ามารายงาน “เรียนเหล่าไท่จวิน คุณชายสาม คนของศาลต้าหลี่มาขอรับ”ทุกคนหันไปสบตากัน คนของศาลต้าหลี่ช่างรวดเร็วนัก!หากพวกเขาช้าไปอีกนิด คงได้เกิดเรื่องใหญ่เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเข้ม “ท่านย่า ข้าจะออกไปพบคนของศาลต้าหลี่”เหล่าไท่จวินพยักหน้าเพียงแต่เยียนเซียวหรานเพิ่งเดินออกจากเรือน เหวยอิ้งหวนก็พาคนเข้ามาพอดีเขาทำความเคารพเหล่าไท่จวิน “เหล่าไท่จวินโปรดอภัย ที่ข้ามารบกวนกลางดึก เพราะต้องทำตามพระบัญชา”“ข้าเชื่อว่าเยียนอ๋องจงรักภักดีและกล้าหาญ เขาตายไปในสนามรบ ถือเป็นความสูญเสียของแคว้นต้าฉู่”เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเข้ม “จวนเยียนอ๋องเปิดเผยจริงใจ ไม่กลัวถูกสอบสวน”เหล่าไท่จวินพยักหน้า “ไม่ว่าใต้เท้าเหวยอยากตรวจสอบอย่างไร จวนเยียนอ๋องล้ว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 10

    ในขณะที่เหวยอิ้งหวนสั่งให้คนไปค้นจวนอ๋อง เยียนเซียวหรานยืนมองอยู่ด้านนอกเขาเห็นว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นไม่ได้ไปที่ใดเลย มุ่งหน้าตรงไปที่ห้องหนังสือของเยียนอ๋อง ทำให้แววตาของเขาเยือกเย็นขึ้นเป็นไปตามคาด จดหมายเหล่านี้มีคนนำมาไว้แต่แรกเขาไม่ได้ขัดขวางเจ้าหน้าที่เหล่านั้นค้นจวน แต่เขาก็กลัวว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสยัดสิ่งอื่นเอาไว้ดังนั้นจึงสั่งให้องครักษ์คอยติดตามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นตลอด เพื่อป้องกันพวกเขาฉวยโอกาสพวกเจ้าหน้าที่เกือบจะพลิกแผ่นดินจวนอ๋องเยียน ช่องลับในห้องหนังสือถูกเปิดออกทั้งหมดส่วนอ่างปลาถุกเจ้าหน้าที่ปัดจนคว่ำเยียนเซียวหรานเห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่ปัดอ่างปลาคว่ำกำลังควานหาบางอย่างในทราย ดวงตาของเขาเข้มขึ้น แล้วจดจำใบหน้าเจ้าหน้าที่คนนี้ไว้หน้าผากเจ้าหน้าที่คนนั้นมีเหงื่อซึม เยียนเซียวหรานเอ่ยถาม “ต้องให้โม่ทรายจนละเอียดแล้วค้นหาต่อหรือไม่?”เจ้าหน้าที่ “...”เขาหันมองเยียนเซียวหราน ดวงตาอีกฝ่ายเยือกเย็น คมกล้าดุจมีดดาบเจ้าหน้าที่กระแอมเสียงค่อย “ไม่ต้อง”หลังจากผ่านไปสองชั่วยาม เจ้าหน้าที่เหล่านี้ค้นหาทั่วจวนอ๋องหนึ่งรอบ แต่กลับไม่พบสิ่งใดเลยเหวยอิ้งหวนได้ยิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 11

    เหวยอิ้งหวนเป็นคนใจเย็นสุขุมมาโดยตลอด แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ก็พลันนึกถึงคำพูดที่ซือเจ๋อเยว่เอ่ยกับเขาเมื่อคืน ก่อนที่เขาจะรู้สึกชาที่หนังศีรษะเขาไม่ได้ฟังคนของสำนักจิงจ้าวพูดต่อ แต่ให้เด็กรับใช้ขับรถม้ากลับบ้านทันทีเขากลับถึงบ้านก็ถามว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ที่ใด?” เด็กรับใช้ตอบว่า “วันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าอยากกินใบบัว พอฟ้าสางก็พาคนไปเก็บที่ริมน้ำแล้วขอรับ”เหวยอิ้งหวนหน้าซีดเผือดในพริบตา เขาเรียกข้ารับใช้ที่ว่ายน้ำเก่งหลายคนรีบไปยังสถานที่ที่มารดาเหวยเก็บใบบัว เมื่อเขาไปถึงแล้วเห็นกับตาว่ามารดาพลัดตกจากเรือลงไปในทะเลสาบ เขาก็ตกใจกลัวแทบตายข้ารับใช้ลงน้ำไปช่วยคนทันที ไม่นานก็ช่วยมารดาขึ้นมาเนื่องจากมารดาได้รับการช่วยเหลือทันเวลา ถึงแม้นางจะได้รับความตกใจกลัว โดนอากาศเย็นและสำลักน้ำไปหลายอึก แต่ว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต หลังจากที่เหวยอิ้งหวนจัดการเรื่องมารดาเหวยเรียบร้อยแล้ว เขายังคงอกสั่นขวัญหายอยู่บ้างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดต่อกันสองเรื่องนี้ ซือเจ๋อเยว่ล้วนกล่าวถูกต้องเขารู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดแฝงไปด้วยกลิ่นอายความพิศวง ทำให้เขารู้สึกหนาวหลังเมื่อก่อนเขาไม่เคยเชื่อเร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 12

    เยียนเซียวหรานเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “องค์หญิงดูดวงให้คนอื่น ดูหนึ่งคนแลกหนึ่งชีวิต ค่อนข้างน่าตกใจกลัวเลยทีเดียว” ซือเจ๋อเยว่ “...”นางครุ่นคิดแล้วพบว่ามันดูเป็นแบบนี้จริง ๆ เลยกระแอมไอเบา ๆ กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องบังเอิญทั้งนั้น!” นางกล่าวจบก็มองมาที่ใบหน้าของเขา ก่อนจะพบว่าไออัปมงคลบนใบหน้าของเขารุนแรงมากขึ้น นี่เป็นโหงวเฮ้งที่จะต้องเสียชีวิตอย่างอนาถ สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย เยียนเซียวหรานเห็นนางมองมาก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยในตอนแรก เมื่อพบว่าสายตาของนางผิดปกติจึงเอ่ยถามว่า “ข้าก็จะตายแล้วเหมือนกันใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่เดินวนรอบตัวเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าดูโหงวเฮ้งของเจ้าไม่ออก แต่ว่าตราบใดที่มีข้าอยู่ เจ้าจะไม่ตาย” ไออัปมงคลบนตัวเขาเพิ่มขึ้นไม่น้อยในชั่วข้ามคืน เรื่องนี้แปลกพิกลเล็กน้อยเดิมทีเขาเป็นคนที่มีบุญบารมีมาก ไม่ควรมีไออัปมงคลเช่นนี้ ยิ่งไม่ควรมีไออัปมงคลเพิ่มขึ้นมากถึงเพียงนี้ในชั่วข้ามคืนหากปล่อยให้สั่งสมไออัปมงคล มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะเสียชีวิตอย่างอนาถ ยามนี้นางต้องคิดหาวิธีช่วยเขาสลายไออัปมงคลบ้างนางยื่นมือทำท่ามุทรา แล้วตบหน้าอกของเขาเบา ๆเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 13

    ซือเจ๋อเยว่ยังต้องแลกด้วยชีวิตของนางอย่างน้อยหนึ่งเดือนอีกด้วย! เพียงแต่นางคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับเยียนเซียวหราน เพื่อไม่ให้เขารู้สึกผิด สีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ดวงของข้าแย่ลงเพราะได้รับไออัปมงคลบนตัวข้าหรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ไออัปมงคลจะส่งผลกระทบต่อโชคชะตาของคน ผ่านไปนานเข้ายังเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตด้วย” “หากไม่สามารถหาต้นตอของไออัปมงคลบนตัวเจ้าได้ ข้าก็ต้องถอนคำพูดที่ข้าบอกเจ้าไว้เมื่อเช้า ข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้เช่นกัน” เยียนเซียวหรานขบคิดอย่างละเอียด จำได้เพียงว่าตนเองเริ่มโชคร้ายตั้งแต่สองปีก่อน เขาเดินอยู่ริมถนน อิฐกระเบื้องข้างทางจะต้องหล่นใส่เขาแน่นอน กระทะน้ำมันเดือดริมถนนก็จะสาดโดนตัวเขาด้วย... อุบัติเหตุเช่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ใช่เพราะเขามีวิทยายุทธ์สูงส่ง ร่างกายปราดเปรียว เกรงว่าคงตายไปนานแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นไม่มีเรื่องอะไรพิเศษเกิดขึ้นกับตัวเขาเลย หากต้องบอกว่ามี เช่นนั้นก็คือเขาเคยหลับนอนกับสตรีนางหนึ่ง หลังจากนั้นมาเขาก็มีโชคร้ายติดตัว เพียงแต่ว่าเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ เขาไม่มีทางบอกซือเจ๋อเยว่อย่างแน่นอนเขาเอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 14

    ซือเจ๋อเยว่เอ่ยกับนางกำนัลทางด้านข้างว่า “ขนมที่ข้ากินตอนที่เข้ามาครั้งก่อนรสชาติไม่เลวเลย ข้าหิวแล้ว เจ้าไปเอามาให้ข้าสักจานที”นางกำนัลมองไปทางอวิ๋นไท่เฟย นางพยักหน้าเบา ๆ นางกำนัลก็ถอยออกไปหยิบขนม อวิ๋นไท่เฟยเห็นซือเจ๋อเยว่ไม่ยอมรับนางก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า “เจ๋อเยว่ เจ้าเป็นธิดาของข้า ไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใดกับเจ้า ข้าทำเพื่อเจ้าทั้งนั้น” “เจ้าอย่าโทษที่ข้าเข้มงวดกับเจ้ามากเกินไป เจ้าเติบโตอยู่ในอารามเต๋ามาตั้งแต่เล็ก ไม่รู้ว่าน้ำในวังแห่งนี้ลึกมากเพียงใด ข้าลำบากมากเพียงใด” “ข้ากลัวว่าเจ้าไม่รู้อะไรเลยจนพลาดพลั้งเสียชีวิต”ซือเจ๋อเยว่มองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดนางกำนัลยกขนมมาพอดี ซือเจ๋อเยว่หยิบขนมชิ้นหนึ่งไปให้อาหารมดที่ริมกำแพงเพียงพริบตาเดียว มดเหล่านั้นก็หงายท้องกันหมดนางกำนัล “...”นางรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่ไม่ทำตามอุบายเกินไปแล้ว นางบอกเองว่าอยากกินขนม แต่เอามาป้อนมดเช่นนี้ นี่ล้อนางเล่นหรือ? ซือเจ๋อเยว่ถามอวิ๋นไท่เฟยว่า “นี่ก็คือสิ่งที่ท่านทำดีต่อข้า?”อวิ๋นไท่เฟย “...”ซือเจ๋อเยว่โยนขนมในมือลงไปในจาน ปัดเศษขนมบนมือแล้วเอ่ยว่า “อวิ๋นไท่เฟย เลิกเสแสร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 15

    ซือเจ๋อเยว่เงยหน้าขึ้นแต่โดยดี เมื่อฮ่องเต้เจาหมิงเห็นท่าทางของนางก็ใจลอยเล็กน้อยรูปร่างหน้าตาของซือเจ๋อเยว่คล้ายคลึงกับอวิ๋นไท่เฟยห้าส่วน อีกหลายส่วนก็เหมือนกับอดีตฮ่องเต้ รูปโฉมของนางรวมข้อดีของทั้งสองไว้ ดูงดงามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของนางเหมือนกับอดีตฮ่องเต้มาก เป็นนัยน์ตาดอกท้อน่าหลงใหล แววตากระจ่างใส มีความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กสาวฮ่องเต้เจาหมิงมองนางก็ไม่รู้เหมือนกันว่านึกถึงเรื่องอะไร ถึงได้ดูเหม่อลอยอยู่บ้าง ขันทีที่อยู่ด้านข้างเก็บฎีกาที่เขาตรวจเสร็จแล้วทำให้เขาได้สติกลับมา เขาถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “เจ้าหน้าตาเหมือนกับเสด็จพี่มาก” ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้ม ฮ่องเต้เจาหมิงมองนางแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อยอย่างเจ้าช่างเหลวไหลเหลือเกิน” “อยู่ดี ๆ เจ้าก็ยืนกรานว่าจะแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสาม เกรงว่าคนที่ไม่รู้เรื่องคงนึกว่าเจิ้นบังคับให้เจ้าทำเช่นนี้” “หากไม่ใช่เพราะเสด็จแม่ของเจ้าบอกว่า เสด็จพี่ได้หมั้นหมายให้เจ้าแต่งงานกับเยียนอ๋องซื่อจื่อในตอนที่เจ้ายังเด็ก เมื่อเจ้ารู้เรื่องนี้แล้วต้องการแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสามให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรเจิ้

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status