Share

บทที่ 15

Author: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่เงยหน้าขึ้นแต่โดยดี เมื่อฮ่องเต้เจาหมิงเห็นท่าทางของนางก็ใจลอยเล็กน้อย

รูปร่างหน้าตาของซือเจ๋อเยว่คล้ายคลึงกับอวิ๋นไท่เฟยห้าส่วน อีกหลายส่วนก็เหมือนกับอดีตฮ่องเต้ รูปโฉมของนางรวมข้อดีของทั้งสองไว้ ดูงดงามอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของนางเหมือนกับอดีตฮ่องเต้มาก เป็นนัยน์ตาดอกท้อน่าหลงใหล แววตากระจ่างใส มีความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กสาว

ฮ่องเต้เจาหมิงมองนางก็ไม่รู้เหมือนกันว่านึกถึงเรื่องอะไร ถึงได้ดูเหม่อลอยอยู่บ้าง

ขันทีที่อยู่ด้านข้างเก็บฎีกาที่เขาตรวจเสร็จแล้วทำให้เขาได้สติกลับมา เขาถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “เจ้าหน้าตาเหมือนกับเสด็จพี่มาก”

ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้ม ฮ่องเต้เจาหมิงมองนางแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อยอย่างเจ้าช่างเหลวไหลเหลือเกิน”

“อยู่ดี ๆ เจ้าก็ยืนกรานว่าจะแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสาม เกรงว่าคนที่ไม่รู้เรื่องคงนึกว่าเจิ้นบังคับให้เจ้าทำเช่นนี้”

“หากไม่ใช่เพราะเสด็จแม่ของเจ้าบอกว่า เสด็จพี่ได้หมั้นหมายให้เจ้าแต่งงานกับเยียนอ๋องซื่อจื่อในตอนที่เจ้ายังเด็ก เมื่อเจ้ารู้เรื่องนี้แล้วต้องการแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสามให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรเจิ้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Pusanisa Nok Siriwuth
สนุกมากค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 16

    ซือเจ๋อเยว่พลันนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เขาเดินถือดาบเพื่อตามหานางทั่วหมู่บ้านขึ้นมา นางรู้ว่าหากวันนี้ไม่ให้คำตอบ เขาอาจจะสับนางเป็นชิ้นๆ ได้เลย นางครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “สำนักเต๋าให้มา” เยียนเซียวหรานจดจ้องนัยน์ตาของนางพลางย้อนถาม “สำนักเต๋าให้มา?” “ใช่แล้ว” ซือเจ๋อเยว่ตอบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “สำนักเต๋าของเรามีธรรมเนียมการแจกสิ่งของแก่ศิษย์ทุกปี” “ของสิ่งนี้ได้รับจากสำนักเต๋าเมื่อสามปีก่อน ข้าเห็นว่าถุงเงินนี้มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์จึงเอ่ยปากขอจากท่านอาจารย์ใหญ่มาหนึ่งใบ” นางพูดจบแล้วถามด้วยสีหน้าสงสัย “ถุงเงินใบนี้มีอะไรผิดปกติหรือ?” เยียนเซียวหรานไม่ตอบ เพียงมองนางด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าไต่สวน แม้นางตื่นเต้นแทบตาย แต่กลับไม่เผยพิรุธบนใบหน้า นางทำเป็นมองเขาด้วยสายตาฉงนพลางถาม “เหตุใดน้องสามถึงมองข้าเช่นนี้?” เยียนเซียวหรานไม่พบพิรุธจากสีหน้าของนาง ชั่วครู่จึงเกิดความไม่แน่ใจว่านางโกหกหรือไม่ เขาถอนสายตาแล้วพูดเสียงอ่อนลง “ไม่มีอะไร แค่คิดว่าลวดลายของถุงเงินนี้ดูแปลกตาดี” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มกล่าว “มันเป็นล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 17

    เห็นกิริยาเช่นนี้ของนาง ทำเขาหรี่ตาเพ่งมองแล้วตัดสินใจเดินตามนางไปทางเรือนจี้หลิ่ว เหล่าไท่จวินกังวลเมื่อนางออกไป โล่งใจเมื่อเห็นนางกลับมา นางรีบถามซือเจ๋อเยว่ “ฝ่าบาททำให้องค์หญิงลำบากใจหรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า เอ่ย “นอกจากเขาไม่ทำให้ข้าลำบากใจ ยังมอบของขวัญให้ข้าด้วยซ้ำ” เหล่าไท่จวินเห็นหยกแขวนในมือนางพลันประหลาดใจ ในอดีตเมื่อเหล่าไท่จวินเข้าวังก็เคยได้เห็นหยกแขวนชิ้นนี้อยู่บนพระวรกายมังกรของฮ่องเต้เจาหมิง ซือเจ๋อเยว่จึงอธิบายที่มาของหยกแขวนชิ้นนี้สั้นๆ เหล่าไท่จวินได้ฟังแล้วตกอยู่ในห้วงคำนึง แต่ซือเจ๋อเยว่สรุปว่า “เสด็จอาอาจใจแคบต่อข้า แต่จะไม่ทำการใดให้คนอื่นมองออก” “ครานี้ข้าได้แต่งเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสาม เกรงว่าจะเป็นแผนการของคนอื่น” “ขอเพียงเขาไม่คิดเล่นงานจวนเยียนอ๋องถึงตาย จวนเยียนอ๋องก็ยังเอาตัวรอดต่อไปได้” เหล่าไท่จวินพยักหน้าเข้าใจพลางเอ่ย “องค์หญิงกล่าวมีเหตุผล” น้ำเสียงทุ้มลึกของเยียนเซียวหรานดังขึ้น “ต้องบอกว่าการปราชัยของเสด็จพ่อทำให้มองสถานการณ์จริงได้ชัดขึ้น” “พูดได้ไม่เต็มปากว่าเขาไม่ค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 18

    เหล่าไท่จวินตกใจ เยียนเซียวหรานรีบประคองนางแล้วพูดว่า “ท่านย่า องค์หญิงอัญเชิญวิญญาณได้ขอรับ” “คราวก่อนที่หน้าประตูวัง ข้าได้พบพี่ใหญ่ด้วย” เนื่องจากวิญญาณของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่เขาเห็นนั้นไม่สมบูรณ์ ความคิดยุ่งเหยิง จึงชี้ชัดได้ว่าก่อนสิ้นลมต้องได้รับความทรมานสุดแสน สภาพที่น่าสังเวชของเยียนอ๋องซื่อจื่อนั้น เขาไม่อยากเอ่ยต่อหน้าเหล่าไท่จวิน ด้วยกลัวนางตรอมใจ เหล่าไท่จวินดวงตาแดงระเรื่อ นางรีบถามซือเจ๋อเยว่ “หากองค์หญิงอัญเชิญวิญญาณท่านอ๋องได้จริง ข้าจะมองเห็นเขาหรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ได้เห็นแน่ เพียงแต่...” นางเบนสายตาส่งสัญญาณไปทางเยียนเซียวหราน เขาถอนหายใจพลางเอ่ย “ครั้งนั้นองค์หญิงอัญเชิญวิญญาณของพี่ใหญ่มา สภาพของเขาไม่ดีนัก” “พวกเราจึงไม่อาจรู้ได้ว่าเสด็จพ่อจะเป็นอย่างไร อีกทั้งสุขภาพของท่านย่ามิสู้ดี...” “ข้ารับไหว” เหล่าไท่จวินพูดแทรกแล้วยืนยันว่า “ข้าไม่ได้อ่อนแอปานนั้น” “ในสถานการณ์เช่นนี้ ขอเพียงข้าได้เห็นเสด็จพ่อของเจ้าอีกครั้งก็ดีใจแล้ว” ซือเจ๋อเยว่มองหน้าเยียนเซียวหรานแล้วเริ่มเตรียมการ “ตกลงตามนี้ ข้าจะรอฟ้าม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 19

    วิญญาณของเยียนอ๋องมีความเสถียรและมีสติกว่าวิญญาณของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ประตูวัง เยียนอ๋องโค้งคำนับให้ซือเจ๋อเยว่แบบสุดซึ้งพลางเอ่ย “ขอบพระทัยองค์หญิงที่ช่วยดูแลจวนเยียนอ๋องในช่วงนี้ น้ำพระทัยใหญ่หลวง เกรงว่ากระหม่อมได้ตอบแทนชาติหน้าแล้ว” แม้เขาตายแล้วจะเข้าสู่ยมโลกทันที แต่เขาได้ยินเรื่องที่ซือเจ๋อเยว่ได้รับเลือกให้แต่งงานกับบุตรชายผู้ล่วงลับและเรื่องราวต่างๆ ของนางจากอินชา เหล่าไท่จวินและเยียนเซียวหรานรู้เพียงว่าซือเจ๋อเยว่ทำนายชะตาและดูโหงวเฮ้งเป็น แต่ไม่ล่วงรู้ความสามารถอื่นของนาง แต่เยียนอ๋องได้ยินเรื่องราวของนางจากอินชา ทั้งยังรู้ว่านางเก่งกาจทักษะเวทสำนักเต๋า แม้แต่อินชายังเกรงกลัวนางไม่น้อย ซือเจ๋อเยว่คำนับตอบพลางเอ่ย “เสด็จพ่อโปรดอย่าเกรงใจ เมื่อข้าแต่งเข้าจวนอ๋องแล้วย่อมกลายเป็นคนของจวนอ๋อง” “ระหว่างคนในครอบครัวไม่ต้องมากพิธี วันนี้ข้าอัญเชิญเสด็จพ่อมาเพราะอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่ช่องเขากรงเสือ?” เยียนอ๋องทวนความจำ “หลังจากได้รับพระราชโองการ ข้าได้นำทัพทหารแลม้าออกสู้ศึกกับชาวเผ่าต๋าต๋าหลายต่อหลายครั้ง” “กลับพบว่ารถขนเสบียงอาหาร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 20

    สงครามครั้งนี้ เยียนอ๋องเป็นจอมทัพทหารบก ทหารและม้าทั้งหมดอยู่ภายใต้บัญชาของเขา กองทัพทรงพลังที่สุดยังคงเป็นกองทัพหย่งอันของเยียนอ๋อง ครานี้ฮ่องเต้เจาหมิงกลับส่งขุนนางพลเรือนมาเป็นผู้ควบคุมทัพ อำนาจของผู้ควบคุมทัพเหลือล้น สามารถจำกัดเยียนอ๋องได้ เยียนอ๋องพูดได้ไม่เต็มปาก แต่เยียนเซียวหรานรู้ดีว่าในสมรภูมิครั้งนี้ เยียนอ๋องจะต้องถูกควบคุมไว้ทุกครั้ง แม้ว่าทางใต้มีชาวเผ่าต๋าต๋าหลายแสนคน เยียนเซียวหรานย่อมรู้ถึงประสิทธิภาพของกองทัพหย่งอันและในสงครามปกติไม่มีทางถูกกวาดล้างทั้งกองทัพ ยังมิได้เอ่ยถึงว่าครั้งนี้ต้าฉู่ยังรวบรวมกองทัพชายแดนกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นนายมาเป็นทัพเสริม ในยามที่เยียนอ๋องนำทัพหย่งอันเข้ากวาดล้างก็ได้สังหารชาวเผ่าต๋าต๋าในจำนวนที่เท่ากำลังพล หลังจากที่พวกเขาพลีชีพ กองทัพของผู้ควบคุมทัพจึงบุกเข้ามาไล่ล่าสังหารชาวเผ่าต๋าต๋าที่บาดเจ็บหนักจนปราชัยและถอนทัพออกจากช่องเขากรงเสือ ชายแดนบังเกิดสันติภาพชั่วคราว ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงวิเคราะห์ “เสด็จพ่อนำกองทัพหย่งอันสู้จนตัวตายในช่องเขากรงเสือซึ่งทำให้ศัตรูบาดเจ็บหนัก”

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 21

    ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วขึ้นเอ่ย “ข้าเป็นบุตรสาวของเสด็จพ่อ ย่อมต้องเหมือนเขาเป็นธรรมดา”ทั้งสามรวมตัวกันปรึกหาหารือแผนรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าสุดท้ายจึงตัดสินใจดำเนินการตามแผนที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้าแล้ว โดยชิงโจมตีก่อนเพื่อล่อให้ศัตรูมาติดกับทว่าการเคลื่อนไหวจำต้องเป็นไปโดยระมัดระวังมากขึ้น บัดนี้จวนเยียนอ๋องไม่อาจเลินเล่อได้อีกต่อไปเหล่าไท่จวินอายุอานามก็มากแล้ว หลังจากนางได้พบเยียนอ๋อง ร่างกายก็เริ่มทรุดจนฝืนไม่อยู่ ซือเจ๋อเยว่จึงพานางกลับไปพักผ่อนยังห้องหับเมื่อซือเจ๋อเยว่เดินออกมา ก็พบเยียนเซียวหรานยืนอยู่ภายนอก เห็นได้ชัดว่ากำลังรอนางอยู่เหตุเพราะเรื่องถุงเงินทำให้นางยังไม่อยากจะอยู่ลำพังสองต่อสองกับเขานัก จึงคิดจะหลีกลี้ออกมาราวกับมองไม่เห็นเขาเขาค่อยๆ เอ่ยขึ้นมา “องค์หญิงยังมิได้พบพี่ชายใหญ่เลยใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ร้อง “อ้อ” ออกมาคำ ก่อนจะตอบ “ยังไม่ได้พบเลย”เยียนเซียวหรานมองนางพลางเอ่ย “เช่นนั้นข้าจะพาองค์หญิงไปพบเขาเอง”ซือเจ๋อเยว่ชะงักไปครู่ ส่วนเขาเดินนำทางไปแล้ว เธอนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเกาหัวเดินตามเขาไปเยียนอ๋องซื่อจื่อสิ้นชีพไปก็นานแล้ว จะ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 22

    วันนี้เมื่อเหวยอิ้งหวนกลับจากวังหลวงมายังศาลต้าหลี่ หนีจ้าน[1]เส้าชิงก็ตรงเข้ามาหาพลางเอ่ย “เรื่องที่ใต้เท้าให้ข้าสืบมีความคืบหน้าแล้วขอรับ”พูดจบเขาก็ส่งม้วนกระดาษให้กับเหวยอิ้งหวนหนีจ้านอายุอานามมากกว่าเหวยอิ้งหวนถึงสิบปี ทั้งยังทำงานที่ศาลต้าหลี่แห่งนี้มานานกว่าเหวยอิ้งหวนอีกด้วยเหวยอิ้งหวนถูกส่งตรงลงมารับตำแหน่งซื่อชิง[2]แห่งศาลต้าหลี่ คราแรกหนีจ้านไม่ได้ยอมรับนับถือเขานักทว่าหลังคลี่คลายคดีความไปไม่น้อยหนีจ้านก็ยอมรับความสามารถของเหวยอิ้งหวนจากใจจริง บัดนี้ทั้งสองจึงเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแล้วเหวยอิ้งหวนเปิดม้วนกระดาษออกดู พินิจดูอย่างละเอียดแล้วเรือนคิ้วก็พลันขมวดมุ่นหนีจ้านเอ่ยถาม “ใต้เท้าเองก็รู้สึกมีสิ่งใดมิชอบมาพากลใช่หรือไม่?”เหวยอิ้งหวนกล่าวเสียงเคร่ง “การรบทัพจับศึกนี้ มีเยียนอ๋องเป็นผู้นำทัพ เขานำทัพทหารม้าบุกตะลุยจนตัวตายบริเวณรอบนอกช่องเขากรงเสือ”“ทว่าเยียนอ๋องซื่อจื่อถูกพบตายในหุบผาห่างจากช่องเขากรงเสือราวหนึ่งร้อยลี้ เมื่อครั้นพบตัว ร่างก็ได้ถูกสัตว์ป่ากัดกินไปเสียแล้ว”“กองทัพเหล่าอื่นๆ มีเสียหายบ้าง ทว่ามิมาก ภายใต้การคุมทัพของผู้ควบคุมทัพพวกเขาตีโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 23

    เมื่อพวกเขาแยกย้ายกันไปแล้ว เหวยอิ้งหวนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าซือเจ๋อเยว่ได้ตั้งโต๊ะเอาไว้หน้าประตูใหญ่จวนเยียนอ๋องเหนือโต๊ะมีผ้าขาวแขวนเอาไว้ เนื้อความบนผ้าขาวเขียนเอาไว้ว่า “แม่นยำดั่งเทพทายทัก มีเสนอล้วนสนอง”เหวยอิ้งหวน “…”เขาหลงเชื่อลูกไม้ของนางเข้าแล้ว!เมื่อซือเจ๋อเยว่เห็นเขาก็ยิ้มทักทาย “ใต้เท้าเหวย อยากลองให้ข้าทำนายโชคชะตาให้หรือไม่?”โคมไฟที่แขวนเอาไว้บนประตูร่อนลมส่องสะท้อนไปบนใบหน้าของนาง ทำให้สีหน้าของนางมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าปกติไม่น้อย โดยเฉพาะดวงตาคู่โตที่สุกใสเปล่งประกายยามค่ำคืนเช่นนี้ นางดูราวกับภูตพรายพราวสเน่ห์ ชวนใหลหลงกระชากจิตใจเหวยอิ้งหวนสงบจิตสงบใจแล้วจึงเดินไปหานางพลางกล่าว “องค์หญิงกำลังทำสิ่งใดอยู่หรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบตามตรง “เช่นที่ใต้เท้าเหวยเห็น ข้าทำนายโชคชะตาให้ผู้คนอยู่”ประกายนัยตาของของเหวยอิ้งหวนหรี่ลง “ฝ่าบาทมีพระราชโองการให้ปิดล้อมจวนเยียนอ๋อง องค์หญิงทำเช่นนี้ มิใช่ว่าไม่ค่อยเหมาะสมหรอกหรือ?”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยถามด้วยงวยงง “พระราชโองการของเสด็จอาบอกห้ามไม่ให้ผู้ใดในจวนเยียนอ๋องออกไปด้านนอก ทว่าข้าก็มิได้ออกไปจากจวน”“ขอถามใต้เท้าเหวยหน่อ

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 272

    ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถาม “เจ้ามีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”มุมปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นเล็กน้อย “ไหน ๆ คืนนี้องค์หญิงก็มาแล้ว ไม่เติมอายุขัยสักหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางร้อง‘หา’ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่งเยียนเซียวหรานเหลือบตาขึ้น สายตาจดจ้องไปที่นางกล่าว “องค์หญิงอยากจะอายุยืนยาวร้อยปีไม่ใช่หรือ?”“ข้าเกรงว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ วันข้างหน้าองค์หญิงจะมาหาเรื่องข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางคิดว่าเขาค่อนข้างผูกพยาบาทวันนั้นนางก็แค่พูดเล่นกับเขาต่อหน้าของเหล่าไท่จวินเท่านั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำในเวลานี้นางรู้ว่านางมีตัวเลือกอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออยู่ต่อเสียเลย ข้อสองคือรีบหนีไปอย่างแรกจะน่าอายเกินไปหน่อย อย่างหลังจะขี้ขลาดเกินไปหน่อยนางครุ่นคิดครู่หนึ่ง คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะเริ่มจากทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตัวเองหากทำตัวขี้ขลาดในเวลาแบบนี้ ต่อไปนางจะมาหาเขาได้อย่างไร? ต่อให้มาหาเขาด้วยอย่างหน้าด้านอีก คิดว่าก็อาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้ดังนั้นนางจึงถอดรองเท้า แล้วกระโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 271

    ตอนที่นางได้ยินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าใดนัก ดวงสมรสของลู่จิ่นเหนียง นั่นก็ทำได้เพียงเป็นอนุของคนอื่นเท่านั้นปกติการเป็นอนุ ขอเพียงแค่ฝั่งผู้ชายชอบนาง ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในดวงสมรสสิ่งเหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า อวิ๋นเยว่หยางรับลู่จิ่นเหนียงเป็นอนุเพราะมีจุดประสงค์อื่น เขาไม่ได้ชอบลู่จิ่นเหนียงเมื่อซือเจ๋อเยว่นึกถึงท่าทางที่หยิ่งผยองเกินความเป็นจริงของลู่จิ่นเหนียง รู้ว่าหากครั้งนี้ลู่จิ่นเหนียงไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่จวนหนิงกั๋วกง ก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจเพียงแต่เรื่องนี้ตามที่เหล่าไท่จวินได้กล่าว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องแล้ว นางก็คร้านจะช่วยเป็นธุระให้ลู่จิ่นเหนียงบัดนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือเรื่องที่อวิ๋นเยว่หยางขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหรานไปสองครั้งก่อนนางได้ตามหาค่ายกลนั่นแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แล้วก็ตามหาค่ายกลอันนั้นไม่เจออีก เกรงว่าดวงชะตาของเยียนเซียวหรานจะถูกขโมยไปจนหมดแล้วหลายวันมานี้ซือเจ๋อเยว่คิดอยู่หลายวิธี หลังจากตัดออกไปจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หรือว่าแบบนั้น ความเสี่ยงก็มากทั้งนั้นนางคิดอยู่หลายตลบ คิดว่าบางทีอาจจะสาม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 270

    ซุ่ยซุ่ยของนางยังไม่ออกเรือน สถานการณ์ของจวนเยียนอ๋องเป็นแบบนี้ นางต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมเสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นภาระของพวกเขาเหล่าไท่จวินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “แม้ว่าวันนี้เวินชิงจะรับปากองค์หญิง ต้องทำตามที่รับปาก”“ต่อไปเจ้ามีเวลาว่าง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างข้า”เบ้าตาของจู้อี๋เหนียงแดงเล็กน้อย คุกเข่าลงบนพื้นกล่าวเสียงเบา “ลูกอกตัญญู ทำให้เหล่าไท่จวินต้องเป็นห่วง”เหล่าไท่จวินยื่นมือออกไปประคองนางลุกขึ้น จับมือของนางแล้วตบเบา ๆ “เรื่องในอดีตก็ให้ผ่านไป พวกเราต้องมองไปข้างหน้า”จู้อี๋เหนียงเช็ดน้ำตากล่าว “ข้าเชื่อฟังเหล่าไท่จวิน”ซือเจ๋อเยว่ชอบบรรยากาศของจวนเยียนอ๋องที่สุด เหล่าไท่จวินเป็นคนชราที่เฉลียวฉลาด ถึงแม้คนในจวนจะมากมาย แต่นางกลับน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งตอนที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง คนที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดไม่ใช่เหล่าไท่จวิน แล้วก็ไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง แต่ทว่าเป็นจู้อี๋เหนียงก่อนหน้านี้จู้อี๋เหนียงเป็นคนอมทุกข์มาตลอด ออกจากเรือนน้อยมากเหล่าไท่จวินไปปลอบใจจู้อี๋เหนียงเป็นประจำในจวนมีของของดีอะไร เหล่าไท่จวินก็จะคิดถึงนาง ไม่ใช่เพราะว่านางเป็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 269

    “อย่างไรเสียจวนหนิงกั๋วกงก็ดีกว่าจวนเยียนอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงของจวนเยียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินดีช่วยพี่ชายของเจ้าให้เลื่อนตำแหน่ง”“ตามที่ข้ามอง จวนเยียนอ๋องที่ไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักปรับตัวเช่นนี้ก็สมควรล่มสลาย!”ลู่จิ่นเหนียงได้ฟังคำพูดพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกมีตรงไหนผิดปกติ เดิมทีจวนเยียนอ๋องก็ยึดติดกับหลักการมากเกินไปต่อให้เยียนซื่อจะปฏิบัติต่อนางดีมากแค่ไหน ทันทีที่นางพูดเรื่องที่ให้เขาช่วยเหลือ เขาก็จะชักสีหน้าทันทีเมื่อเปรียบเทียบกัน จวนหนิงกั๋วกงมีความเปิดกว้างมากกว่า แล้วก็เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเรื่องนี้ เมื่อนางมองเห็นเครื่องประดับและผ้าเหล่านี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นแบบเก่าอีกแล้วลู่ฮูหยินกล่าวอีกว่า “คุณชายรองให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก อยากจะให้เจ้ารีบเจ้าจวนเร็วหน่อย”“วันนี้ข้าได้ปรึกษากับท่านพ่อของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้จะส่งตัวเจ้าเข้าจวนหนิงกั๋วกง ตามความต้องการของจวนกั๋วกง”ลู่จิ่นเหนียงตกตะลึงไปทันที “ไปจวนหนิงกั๋วกงวันพรุ่งนี้? นี่มันจะรีบเกินไปหน่อยหรือไม่?”ลู่ฮูหยินตอบ “รีบที่ไหนกัน นี่เห็นได้ชัดเจนว่าจวนหนิงกั๋วกงให้ความสำคัญกับ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 267

    นางกับเยียนเซียวหรานตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งด้านในร้านมีผ้าหลากหลายที่สุดเยียนเซียวหรานกลัวว่านางจะเกิดเรื่อง จึงเดินตามหลังนางตลอดทุกฝีก้าวซือเจ๋อเยว่เลือกผ้าให้แต่ละคน รวมกันทั้งหมดสิบกว่าพับ พวกเขาไม่สะดวกถือไปด้วย จึงให้เถ้าแก่มอบหมายให้คนส่งไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีที่ซือเจ๋อเยว่จ่ายเงินเสร็จ ก็เห็นลู่จิ่นเหนียงพาสาวใช้เดินเข้ามาหา ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ จึงมีความประหลาดใจเล็กน้อยลู่จิ่นเหนียงเป็นเพราะครั้งก่อนซือเจ๋อเยว่เคยฉีกหน้านาง นางจึงไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เป็นอย่างยิ่งในเวลานี้เมื่อเจอกัน นางยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม “องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลย”ซือเจ๋อเยว่คุ้นเคยกับการมองหน้านางแวบหนึ่ง ใต้ตาของนางดำคล้ำ คาดว่านางน่าจะเอาเด็กออกแล้ว ต่อไปก็คงจะไม่มีลูกของตัวเองอีกนอกจากนี้แล้ว ชีวิตในวังหลวงของนางมีเต็มความซับซ้อน เมื่อเห็นฉากนี้ ต่อไปลู่จิ่นเหนียงคงจะใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างขรุขระสีหน้าของนางยังนับว่าพอถูไถไปได้ ใบหน้าเหมือนว่ายังพอมีความสุขอยู่บ้างในเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดแล้วก็ย่อมให้อภัย ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตอบ ตั้งใจที่จะออกไปพร้อมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 266

    ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยหมดสติไปเพราะตื่นเต้นเกินไป พวกท่านส่งนางกลับไปเถอะ”คำพูดที่นางพูดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่อครู่นี้ บรรดาคนในวังหลวงที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยินกันหมดพวกเขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้มีคนหลายคนร่วมแรงกันประคองอวิ๋นไท่เฟยขึ้นมา แล้วรีบวิ่งออกไปคนของวังหลวงที่ถูกวิญญาณรายล้อมคนนั้น ในเวลานี้วิญญาณปล่อยนางไปแล้ว ทันทีที่นางได้รับอิสระ ก็รีบวิ่งหนีอย่างโซซัดโซเซกลางวันแสก ๆ เลยนะ!พวกเขาเจอเรื่องแบบนี้ น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ!ฮองเฮามองไม่เห็นวิญญาณ เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้อวิ๋นไท่เฟยตกใจจนหมดสติไปทันที จากนั้นกลุ่มคนก็วิ่งหนีกันฉี่ราดสารรูปเช่นนี้ของพวกเขา ตอนที่มาอวดดีมากขนาดไหน ตอนกลับไปก็ดูไม่จืดมากเท่านั้นฮองเฮากับอวิ๋นไท่เฟยประมือกันมาหลายครั้ง ถึงแม้นางจะชนะมากกว่าแพ้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการสู้กันด้วยวาจา ไฉนเลยจะมีความสุขเท่าครั้งนี้?นางมองซือเจ๋อเยว่กล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าทำอะไรพวกเขา?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “หม่อมฉันก็อาศัยอยู่ในสำนักเต๋ามาเป็นเวลานาน ถึงอย่างไรก็ยังพอมีความสามารถเป็นของ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 265

    อวิ๋นไท่เฟยโกรธจนตัวสั่น ตะคอกด้วยเสียงเย็นชา "เจ้าไปเรียนกฎระเบียบแปลก ๆ อันใดมาจากข้างนอก? ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วันนี้ข้าจะสอนเจ้าให้รู้จักมารยาทเอง!"  ซือเจ๋อเยว่กวักนิ้วเรียก "เชิญท่านลองเข้ามาได้ตามสบาย"  ท่าทีเยือกเย็นของซือเจ๋อเยว่ ทำให้อวิ๋นไท่เฟยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เนื่องด้วยความโกรธ นางจึงไม่ได้คิดอันใดมาก จึงสั่งให้ข้ารับใช้สาวของนางไปสั่งสอนซือเจ๋อเยว่  ซือเจ๋อเยหาได้หลบเลี่ยงไม่ ร่ายคาถาใส่ร่างกายของนางกำนัลคนนั้นโดยตรง ทันใดนั้นนางกำนัลรู้สึกถึงลมเย็นยะเยือกพัดผ่านหลัง  นางอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง จึงพบว่ามีวิญญาณตนหนึ่งเกาะอยู่บนหลังของตน  วิญญาณตนนั้นมีลิ้นที่ยาวเหยียด มันเผยรอยยิ้มอันน่ากลัวแสดงฟันขาวซีดให้นางเห็น ก่อนจะยื่นลิ้นมายังตัวนาง  นางกำนัลตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง กรีดร้องเสียงดัง "อย่าฆ่าข้านะ!"  จากนั้นนางก็รู้สึกคล้ายดั่งว่ามีบางอย่างบีบรัดคอ หายใจไม่ออก ใบหน้าของนางจึงแดงก่ำ  ภาพที่น่าประหลาดเช่นนี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก  ซือเจ๋อเยว่ หันไปถามข้ารับใช้คนอื่น ๆ "พวกเจ้าอยากลองบ้างหรือไม่?"  ข้ารับใช้ที่เดิม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 264

    ซือเจ๋อเยว่ได้ยินเสียงตะโกนของอวิ๋นไท่เฟย คิ้วของนางเลิกขึ้นเล็กน้อย  แม้เป็นเวลานี้ก็ยังไร้สำนึกถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะพบ  ฮองเฮาส่งสายตาถามซือเจ๋อเยว่ ว่านางต้องการให้ช่วยหรือไม่  ซือเจ๋อเยว่าส่ายหัวเบา ๆ เรื่องของอวิ๋นไท่เฟยเช่นนี้ นางสามารถจัดการเองได้  นางยกถ้วยชาขึ้นจิบเบา ๆ แล้วถือถ้วยชาเดินออกไป  ฮองเฮาเห็นท่าทีสงบนิ่งของซือเจ๋อเยว่ ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย นางชื่นชอบในบุคลิกของซือเจ๋อเยว่  ฮองเฮามองเห็นเงาของตนเองในวัยเยาว์ในตัวซือเจ๋อเยว่ แต่ความกล้าหาญของซือเจ๋อเยว่กลับมากกว่านางในวัยเยาว์มากนักซือเจ๋อเยว่เสมือนกุหลาบที่กำลังเบ่งบานนอกวัง งดงามและชวนหลงใหล แต่เต็มไปด้วยหนามแหลม ผู้ใดแตะต้องก็จะทิ่มแทงผู้นั้น  ฮองเฮาอยากรู้ว่าวันนี้ซือเจ๋อเยว่จะจัดการอวิ๋นไท่เฟยอย่างไร จึงเดินตามออกไป  แม้ฮองเฮามั่นใจว่าซือเจ๋อเยว่าสามารถรับมือกับอวิ๋นไท่เฟยได้ แต่เพราะที่นี่คือพระราชวัง หากอวิ๋นไท่เฟยพาคนมามาก ซือเจ๋อเยว่าอาจเสียเปรียบ  ฮองเฮาจึงออกไปดูสถานการณ์ หากซือเจ๋อเยว่ถูกอวิ๋นไท่เฟยรังแก นางจะช่วยเหลือได้บ้าง  ซือเจ๋อเยว่เพิ่งจะเดินออกมา อวิ๋นไท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status