แชร์

บทที่ 21

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วขึ้นเอ่ย “ข้าเป็นบุตรสาวของเสด็จพ่อ ย่อมต้องเหมือนเขาเป็นธรรมดา”

ทั้งสามรวมตัวกันปรึกหาหารือแผนรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

สุดท้ายจึงตัดสินใจดำเนินการตามแผนที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้าแล้ว โดยชิงโจมตีก่อนเพื่อล่อให้ศัตรูมาติดกับ

ทว่าการเคลื่อนไหวจำต้องเป็นไปโดยระมัดระวังมากขึ้น บัดนี้จวนเยียนอ๋องไม่อาจเลินเล่อได้อีกต่อไป

เหล่าไท่จวินอายุอานามก็มากแล้ว หลังจากนางได้พบเยียนอ๋อง ร่างกายก็เริ่มทรุดจนฝืนไม่อยู่ ซือเจ๋อเยว่จึงพานางกลับไปพักผ่อนยังห้องหับ

เมื่อซือเจ๋อเยว่เดินออกมา ก็พบเยียนเซียวหรานยืนอยู่ภายนอก เห็นได้ชัดว่ากำลังรอนางอยู่

เหตุเพราะเรื่องถุงเงินทำให้นางยังไม่อยากจะอยู่ลำพังสองต่อสองกับเขานัก จึงคิดจะหลีกลี้ออกมาราวกับมองไม่เห็นเขา

เขาค่อยๆ เอ่ยขึ้นมา “องค์หญิงยังมิได้พบพี่ชายใหญ่เลยใช่หรือไม่?”

ซือเจ๋อเยว่ร้อง “อ้อ” ออกมาคำ ก่อนจะตอบ “ยังไม่ได้พบเลย”

เยียนเซียวหรานมองนางพลางเอ่ย “เช่นนั้นข้าจะพาองค์หญิงไปพบเขาเอง”

ซือเจ๋อเยว่ชะงักไปครู่ ส่วนเขาเดินนำทางไปแล้ว เธอนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเกาหัวเดินตามเขาไป

เยียนอ๋องซื่อจื่อสิ้นชีพไปก็นานแล้ว จะ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 22

    วันนี้เมื่อเหวยอิ้งหวนกลับจากวังหลวงมายังศาลต้าหลี่ หนีจ้าน[1]เส้าชิงก็ตรงเข้ามาหาพลางเอ่ย “เรื่องที่ใต้เท้าให้ข้าสืบมีความคืบหน้าแล้วขอรับ”พูดจบเขาก็ส่งม้วนกระดาษให้กับเหวยอิ้งหวนหนีจ้านอายุอานามมากกว่าเหวยอิ้งหวนถึงสิบปี ทั้งยังทำงานที่ศาลต้าหลี่แห่งนี้มานานกว่าเหวยอิ้งหวนอีกด้วยเหวยอิ้งหวนถูกส่งตรงลงมารับตำแหน่งซื่อชิง[2]แห่งศาลต้าหลี่ คราแรกหนีจ้านไม่ได้ยอมรับนับถือเขานักทว่าหลังคลี่คลายคดีความไปไม่น้อยหนีจ้านก็ยอมรับความสามารถของเหวยอิ้งหวนจากใจจริง บัดนี้ทั้งสองจึงเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแล้วเหวยอิ้งหวนเปิดม้วนกระดาษออกดู พินิจดูอย่างละเอียดแล้วเรือนคิ้วก็พลันขมวดมุ่นหนีจ้านเอ่ยถาม “ใต้เท้าเองก็รู้สึกมีสิ่งใดมิชอบมาพากลใช่หรือไม่?”เหวยอิ้งหวนกล่าวเสียงเคร่ง “การรบทัพจับศึกนี้ มีเยียนอ๋องเป็นผู้นำทัพ เขานำทัพทหารม้าบุกตะลุยจนตัวตายบริเวณรอบนอกช่องเขากรงเสือ”“ทว่าเยียนอ๋องซื่อจื่อถูกพบตายในหุบผาห่างจากช่องเขากรงเสือราวหนึ่งร้อยลี้ เมื่อครั้นพบตัว ร่างก็ได้ถูกสัตว์ป่ากัดกินไปเสียแล้ว”“กองทัพเหล่าอื่นๆ มีเสียหายบ้าง ทว่ามิมาก ภายใต้การคุมทัพของผู้ควบคุมทัพพวกเขาตีโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 23

    เมื่อพวกเขาแยกย้ายกันไปแล้ว เหวยอิ้งหวนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าซือเจ๋อเยว่ได้ตั้งโต๊ะเอาไว้หน้าประตูใหญ่จวนเยียนอ๋องเหนือโต๊ะมีผ้าขาวแขวนเอาไว้ เนื้อความบนผ้าขาวเขียนเอาไว้ว่า “แม่นยำดั่งเทพทายทัก มีเสนอล้วนสนอง”เหวยอิ้งหวน “…”เขาหลงเชื่อลูกไม้ของนางเข้าแล้ว!เมื่อซือเจ๋อเยว่เห็นเขาก็ยิ้มทักทาย “ใต้เท้าเหวย อยากลองให้ข้าทำนายโชคชะตาให้หรือไม่?”โคมไฟที่แขวนเอาไว้บนประตูร่อนลมส่องสะท้อนไปบนใบหน้าของนาง ทำให้สีหน้าของนางมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าปกติไม่น้อย โดยเฉพาะดวงตาคู่โตที่สุกใสเปล่งประกายยามค่ำคืนเช่นนี้ นางดูราวกับภูตพรายพราวสเน่ห์ ชวนใหลหลงกระชากจิตใจเหวยอิ้งหวนสงบจิตสงบใจแล้วจึงเดินไปหานางพลางกล่าว “องค์หญิงกำลังทำสิ่งใดอยู่หรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบตามตรง “เช่นที่ใต้เท้าเหวยเห็น ข้าทำนายโชคชะตาให้ผู้คนอยู่”ประกายนัยตาของของเหวยอิ้งหวนหรี่ลง “ฝ่าบาทมีพระราชโองการให้ปิดล้อมจวนเยียนอ๋อง องค์หญิงทำเช่นนี้ มิใช่ว่าไม่ค่อยเหมาะสมหรอกหรือ?”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยถามด้วยงวยงง “พระราชโองการของเสด็จอาบอกห้ามไม่ให้ผู้ใดในจวนเยียนอ๋องออกไปด้านนอก ทว่าข้าก็มิได้ออกไปจากจวน”“ขอถามใต้เท้าเหวยหน่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 24

    กระบี่ในมือของเยียนเซียวหรานสะท้อนแสงเงินเย็นเยือก สายตาเย็นชาหรี่ลง “หากเจ้ากล้าทำร้ายองค์หญิงแม้เพียงนิด ข้าจะต้องให้เจ้าถูกกุดหัวทั้งเป็นให้จงได้”ทั้งร่างของเขาอาบเอิบด้วยจิตสังหาร เปี่ยมรัศมีหาญกล้าสามารถ เส้นผมสีดำพลิ้วไหวตามสายลม ในค่ำคืนเช่นนี้ราวกับเทพสังหารมาเยือนโลกมนุษย์ก็มิปานซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทีของเขาแล้วก็เกิดประหลาดใจ คล้ายว่าเขากำลังโกรธเคือง?เหวยอิ้งหวนเอ่ยถาม “เจ้าเป็นใคร? เหตุใดจึงบุกเข้ามาในจวนเยียนอ๋องกลางดึกเช่นนี้?”ชายชุดดำหาได้สนใจเขาแม้แต่นิด คมกระบี่ค่อยๆ กรีดลงบนคอของซือเจ๋อเยว่พลางขู่ “ข้าจะนับถึงสาม หากพวกเจ้ายังมิหลีกไป ก็เตรียมเก็บศพนางได้เลย!”พูดจบก็เริ่มนับ “หนึ่ง!”ซือเจ๋อเยว่เริ่มโอดร้อง “ฮือๆ” ขึ้นมา “พวกเจ้าถอยไปเร็ว ถอยไป ข้ามิอยากตาย!”เยียนเซียวหรานเห็นนางร้องไห้เสียงแผ่วเช่นนั้น เรือนคิ้วก็ขมวดขึ้นน้อยๆ แม้ยามปกตินางจะดูแข็งแกร่งเพียงใด ทว่าท้ายที่สุดก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุสิบกว่าปีเท่านั้นจะเกิดกลัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเขาโบกมือเป็นนัยให้องครักษ์ของจวนอ๋อง เหล่าองครักษ์จึงได้ถอยห่างเปิดทางออกชายชุดดำเห็นว่าเหวยอิ้งหวนยังคงยืนขว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 25

    วันนี้หลังจากเขามาถึงจวนเยียนอ๋องแล้ว ยังไม่ทันได้ลงมือทำสิ่งใด ก็ถูกเยียนเซียวหรานพบเข้าเสียก่อนจากนั้นก็เป็นการเอาชีวิตรอด ตลอดต้นจนจบล้วนไม่มีผู้ใดเข้าใกล้เขาเลย นอกเสียจากซือเจ๋อเยว่หรือว่า...จดหมายฉบับนั้นจะเป็นซือเจ๋อเยว่ใส่เข้ามา?เขามองนางด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ซือเจ๋อเยว่เพียงแค่เลิกคิ้วให้เขาน้อยๆ แล้วกระพริบตาปริบๆ อีกครั้งทีแม้ว่านางจะไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใด ทว่าชายชุดดำก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องสงสัยว่านางกำลังด่าเขาว่า “โง่เง่า!”ชายชุดดำ “...”เขาเองก็อยากจะด่ากลับไปเช่นกัน หากแต่ร่างกายของเขาเย็นเฉียบเสียจนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคคำเดียวแล้วเหวยอิ้งหวนเปิดจดหมายออกพึ่งพาแสงจากโคมไฟอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขานิ่งค้างไปซือเจ๋อเยว่เอ่ยถาม “ใต้เท้าเหวย ในจดหมายเขียนไว้ว่าอย่างไรหรือ?”เหวยอิ้งหวนหาได้ตอบคำถามของนาง เพียงกล่าว “ค่ำคืนนี้ทำองค์หญิงตกพระทัยเสียแล้ว”ว่าจบก็หันกล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างเคียง “พาเหล่าผู้ต้องสงสัยกลับไปยังศาลต้าหลี่”เมื่อเจ้าหน้าที่จับชายชุดดำมัดเอาไว้แล้ว ก็ลากเขาขึ้นมาจากพื้น ยามที่ชายชุดดำถูกลากตัวออกไปเขาก็ยังคงถลึงตาจ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 26

    เยียนเซียวหรานกอดนางไว้ตามสัญชาตญาณยามนี้นัยน์ตาดอกท้อเย้ายวนของนางลืมไม่ค่อยขึ้น จึงได้แต่พึมพำ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องสนใจข้า”เมื่อพูดจบนางหลับตา แล้วหมดสติไปทันทีเยียนเซียวหราน “...”หญิงสาวในอ้อมกอดอรชรบอบบาง เมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดเขา ราวกับไม่ค่อยมีน้ำหนักตอนนางมีสติ ฉลาดมีไหวพริบ เมื่อยามหมดสติ กลับน่ารักน่าเอ็นดูน้อยมากที่เยียนเซียวหรานจะใกล้ชิดหญิงสาวเช่นนี้ ความใกล้ชิดเดียวที่มีคือเมื่อสองปีก่อนยามนี้เมื่อนางตกอยู่ในอ้อมกอด นางได้กลิ่นหอมจางๆ ของกล้วยไม้จากตัวนางขณะเดียวกัน ยังรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มของร่างนาง นั่นเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากร่างของบุรุษอย่างสิ้นเชิงเขารีบผละออกจากนางราวถูกไฟดูด ทว่าวินาทีที่ผละออกก็รีบดึงตัวนางกลับมาอีกครั้งองครักษ์หลายคนที่อยู่ข้างกันเบิกตาโต แต่ไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใดเยียนเซียวหรานหันมององครักษ์เหล่านั้น พวกเขารีบพากันถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นโบกมือพัลวัน “พวกเรายิ่งไม่ได้ขอรับ!”“คุณชายสามรีบอุ้มองค์หญิงกลับไปที่ห้องเถอะขอรับ ดูเหมือนนางอาการไม่ค่อยดี”เยียนเซียวหรานรู้ว่าตอนนี้ควรพานางกลับไปที่ห้อง แต่ว่า...พวกองครักษ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 27

    แต่ซือเจ๋อเยว่ยังมีลมหายใจอยู่ ซ้ำยังพูดได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์สายตาที่นางมองซือเจ๋อเยว่เต็มไปด้วยความสงสัย แล้วเอ่ยเสียงค่อย “ท่านย่า ข้าจะอยู่ดูแลองค์หญิง”เหล่าไท่จวินรู้ว่านางเป็นคนละเอียดอ่อน แม้จะไม่ช่ำชองในวิชาแพทย์แต่อย่างไรก็พอรู้ ให้นางดูแลซือเจ๋อเยว่จึงเหมาะสมที่สุดทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น เหล่าไท่จวินก็ยังกำชับนาง “เจ้าต้องตื่นตัวเสียบ้าง อย่านอนหลับลึก หากองค์หญิงไม่สบายตรงไหน เจ้าต้องรีบมาแจ้งข้า”เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้าเหล่าไท่จวินไม่ค่อยวางใจจึงหันมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง ต่อมาจึงพาทุกคนออกจากห้องนางซือเจ๋อเยว่ไม่ได้ทรมานอย่างนี้นานแล้ว แขนขาล่องลอยไร้เรี่ยงแรง ร่างกายอ่อนปวกเปียก เหมือนแช่อยู่ในน้ำทั้งตัว กระทั่งหายใจติดขัดนางรู้สึกราวกับตัวเองกำลังตกลงไปในเหวลึก หินพิทักษ์ใจตรงหน้าอกร้อนวูบวาบ ร้อนจนนางรู้สึกทรมาน ทว่ากลับทำให้นางหายใจได้อีกครั้งมือเท้าของนางเย็นเฉียบ หนาวจนปวดร้าวไปถึงกระดูกร่างกายของนางกลายเป็นวงจรประหลาด แขนขาหนาวเย็น หน้าอกร้อนวูบวาบ ทั้งสองสิ่งปะทะกัน บางครั้งนางรู้สึกร้อนจนใกล้ตาย แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าใกล้จะหนาวตายเช่นกันใน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 28

    เยียนเซียวหรานคำนึงถึงสถานะของทั้งสอง จึงดันซือเจ๋อเยว่ออก แต่นางกลับกอดเขาไม่ยอมปล่อยเขากลัวนางบาดเจ็บ จึงไม่กล้าออกแรงดึงนาง ดังนั้นนางจึงได้คืบเอาศอกนอนอยู่บนตักเขาเสียเลยเรื่องเช่นนี้เขากระดากปากที่จะพูดซือเจ๋อเยว่จับใจความสำคัญในคำพูดของเขา “เมื่อคืนข้าไข้ขึ้นสูงหรือ?”เยียนเซียวหรานหันมองนาง “องค์หญิงอาจจะไม่รู้ แต่ท่านนอนไปสองวันสองคืนแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ “!!!”ไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้มาก่อน!เยียนเซียวหรานถามนาง “องค์หญิงมีอาจารย์ทั้งหมดกี่คน?”ซือเจ๋อเยว่ตอบทันควัน “เก้าคน”เยียนเซียวหรานตอบเสียงเรียบ “ยังดีที่มีแค่เก้าคน”ซือเจ๋อเยว่ไม่เข้าใจ “อะไรคือยังดีที่มีแค่เก้าคน?”เยียนเซียวหรานมองนางแล้วอมยิ้ม “ตอนองค์หญิงฝัน อาจารย์คนหนึ่งด่าไปสองชั่วยาม อาจารย์เก้าคนก็คือสิบแปดชั่วยาม”“หากมากกว่านี้อีกหน่อย แล้วด่ากันต่อไปเช่นนี้ ตอนตื่นมาลำคอขององค์หญิงอาจจะเสียหายไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!”จู่ๆ นางพบว่าผิวเผินเยียนเซียวหรานดูเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่ภายในกลับร้ายไม่เบาตอนนี้ลำคอของนางแห้งผาก นางอยากดื่มน้ำเยียนเซียวหรานยกน้ำมาหนึ่งถ้วย นางหันมองเข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 29

    ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่มีชีพจร นางหันมองอีกฝ่ายอย่างตะลึง “ทำไมองค์หญิงถึงไม่มีชีพจร?”ซือเจ๋อเยว่ดึงแขนเสื้อลง “ตำแหน่งชีพจรของข้าไม่เหมือนกับคนทั่วไป หากตรวจอย่างคนทั่วไป ไม่เจอชีพจรหรอก”ก่อนหน้านี้ตอนเยียนซุ่ยซุ่ยอ่านตำราแพทย์เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอของจริงนางถามซือเจ๋อเยว่ “แล้วชีพจรขององค์หญิงอยู่ที่ใด?”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้ ทว่าดูเหมือนอาจารย์ใหญ่ของข้าจะรู้ แต่เขาไม่บอกข้า”เยียนซุ่ยซุ่ยทำหน้าสงสัย ยังคิดจะช่วยนางหาตำแหน่งของชีพจร แต่กลับถูกปฏิเสธซือเจ๋อเยว่ถามเยียนเซียวหราน “ช่วงที่ข้านอนหลับ มีข่าวคราวจากศาลต้าหลี่บ้างหรือไม่?”เยียนเซียวหรานตอบ “มี เหวยอิ้งหวนเคยมาที่จวนอ๋องหนึ่งครั้ง คนชุดดำที่พวกเราจับได้ ถูกคนฆ่าตายระหว่างถูกส่งกลับไปที่ศาลต้าหลี่”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินเรื่องนี้ ไม่แปลกใจสักนิด “ฆ่าได้ดี หากเขาถูกฆ่า จะยิ่งยืนยันได้ว่ามีคนต้องการใส่ร้ายจวนเยียนอ๋อง”“เดิมทีเสด็จอายังสงสัยจวนเยียนอ๋อง ยามนี้เมื่อมีคนลงมือเล่นงานจวนอ๋อง ยิ่งเห็นได้ชัดว่าจวนเยียนอ๋องคือผู้บริสุทธิ์”ความจริง ตั้งแต่ตอนที่นางกับเยียนเซี

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 294

    "ไม่มีคำว่าแต่อันใดทั้งนั้น" นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน "หากท่านไม่รีบออกไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!" ซือเจ๋อเยว่ "…" เมื่อคืนที่ผ่านมานางได้ยินเยียนเซียวหรานบอกว่าราชครูไม่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และไม่ชอบพบเจอคนแปลกหน้า นางคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้น อย่างน้อยก็การที่เขาเร่งเดินทางไกลกลับมาเพื่อใช้กระบี่ฟันไป๋จื้อเซียนครั้งนั้น ก็หมายความว่าเขาหาใช่คนที่เพิกเฉยต่อปัญหาของผู้คนโดยสิ้นเชิง นางยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เมื่อเขาเดาเจตนาของนางได้ เขากลับส่งนักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวที่ดุดันมาไล่นางออกไป หากเรื่องนี้เกิดขึ้นที่อื่น นางคงจะบุกขึ้นเขาไปถามเขาให้รู้เรื่อง แต่ที่นี่คือเมืองหลวง อีกทั้งกระบี่ของเขาคราวก่อนทรงพลังจนเกินคาด ราชครูผู้นี้คงเป็นยอดฝีมือที่นางไม่อยากขัดแย้งด้วย ดังนั้น นางจึงทำได้แค่พาเยียนเซียวหรานเดินออกจากค่ายกลไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากค่ายกล นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวก็รีบปิดซุ้มประตูที่เชิงเขาทันที ซึ่งปกติแทบไม่เคยปิด เขาปิดประตูอย่างรุนแรงจนซือเจ๋อเยว่ที่เดินช้ากว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 293

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่มีความจำเป็นต้องถามอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า” ครั้งนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้หันกลับมามองนางอีก และนางก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ นางหมุนตัวแล้วเดินจากไป เยียนเซียวหรานมองเปลวเทียนที่ลุกไหวอยู่ในศาลบรรพชน ก่อนจะถอนหายใจเสียงยาว เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมาที่ห้อง นางครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเยียนเซียวหรานในปีนี้ นางคิดหลายตลบก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ในสถานการณ์เช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่ดูคล้ายจะสมเหตุสมผล คืออาจเป็นเพราะลุงเขยของเยียนเซียวหรานมาเยือน จึงทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ นางยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใส่ใจจะคิดต่อ และหันไปวางแผนว่าหากได้พบกับราชครูในวันรุ่งขึ้น นางจะเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยจัดการไป๋จื้อเซียนได้อย่างไร เช้าวันรุ่งขึ้น เยียนเซียวหรานมาตามที่นัดไว้ เขาพานางไปยังหอพยากรณ์ดวงดาวเพื่อพบกับราชครู แม้จะเรียกว่าหอ แต่ที่แท้แล้วคือกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่อดีตฮ่องเต้สร้างขึ้นเพื่อราชครู ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งที่แห่งนั้น ก็สามารถเฝ้าดูดวงดาวและทำนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 292

    แท้จริงแล้วราชครูมีการไปมาหาสู่กับเยียนอ๋อง ในเมืองหลวงเขาแทบไม่มีสหายที่ใด เยียนอ๋องกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ครั้งล่าสุดก่อนที่เยียนอ๋องจะออกศึก ราชครูเคยมาพบเยียนอ๋องครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเขาหารือเรื่องใดกันนั้น เยียนเซียวหรานไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันในห้องหนังสือ หลังจากจวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ราชครูก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ในค่ำคืนนั้นเมื่อเยียนเซียวหรานพบราชครูที่เรือนพักในจวนหนิงกั๋วกง เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเยียนเซียวหราน ที่ราชครูยอมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ปกติเมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะพำนักอยู่ในหอพยากรณ์ดวงดาว ไม่ว่าจะมีเรื่องใดที่ไม่สำคัญจริง เขาจะไม่มีทางออกมา ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความกังวล “แต่ไป๋จื้อเซียนนั้นเป็นภัยใหญ่ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” “เกรงว่าไม่นานเกินรอเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งจัดการยากขึ้น” “ไม่ว่าราชครูจะยินยอมพบข้าหรือไม่ ข้าคงต้องหาวิธีพบเขาให้ได้” เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่าน” ซือเจ๋อเยว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 291

    เขานึกถึงภาพในช่วงหลายวันที่ผ่านมายามนางนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีวี่แววของลมหายใจใด ๆ หัวใจเขาเจ็บปวดราวกับถูกบีบคั้นจนแทบทนไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เสมอว่าสภาพร่างกายของนางไม่แข็งแรง แต่ทุกครั้งที่เขาได้พบนาง นางกลับมีรอยยิ้มเปี่ยมล้นบนใบหน้า ร่างกายของนางดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาไม่เคยคิดว่านางเป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม และไม่เคยคิดว่าสภาพร่างกายของนางจะแย่ถึงเพียงนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเตือนเขา ว่านางบอบบางยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้มากนัก เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้ องค์หญิงพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนให้ดีเถอะ”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเสียงเบา “สภาพร่างกายของข้า ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” “เมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้าอาจอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย แต่หากเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม” เยียนเซียวหรานขมวดคิ้วแน่น บัดนี้เขาไม่อยากได้ยินคำว่า ‘ตาย’ อีกแล้ว ซือเจ๋อเยว่นั่งลงข้างเขา ใช้มือทั้งสองประคองคางของตนเองไว้พลางเอ่ยขึ้น “อีกอย่าง ไป๋จื้อเซียนนั่นเป็นข้าที่ปล่อยออกมาเอง” “เรื่องครั้งนี้จะไปโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” “

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 290

    เยียนเซียวหรานหลุบตาลง “ท่านย่าสั่งสอนได้ถูกต้อง ครั้งนี้เป็นข้าที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตอนนี้องค์หญิงฟื้นแล้ว ท่านย่าลงโทษข้าเถิดขอรับ”เหล่าไท่จวินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ท่านย่า เรื่องนี้โทษน้องสามไม่ได้จริง ๆ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ตอนนั้นสถานการณ์พิเศษ”“ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเข้ากับไป๋จื้อเซียนที่นั่น หากไม่ใช่เพราะน้องสามปกป้องข้าจนสุดชีวิตละก็ ข้าก็คงตายไปแล้ว”“ดังนั้นท่านย่าอย่าได้ลงโทษน้องสามเลย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน”เหล่าไท่จวินถอนหายใจ “องค์หญิงไม่ต้องร้องขอความเมตตาแทนเขา เขาเป็นบุรุษ เดิมทีก็ควรปกป้องญาติผู้หญิงในครอบครัวอยู่แล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขายืนหน้านิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นนางมองมา ก็สบตากับนางแวบหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตาคืนกลับมาซือเจ๋อเยว่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “วันนั้นข้าเห็นเหนียนเหนียนหมดสติไปเช่นกัน เหนียนเหนียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เยียนเหนียนเหนียนโผล่หน้าออกมาจากทางด้านหลังของเหล่าไท่จวิน “ข้าไม่เป็นไร แค่หมดสติเป็นครู่เดียวเท่านั้น ในไม่ช้าก็หายดีแล้ว”“ร่างกายของข้าแข็งแรง องค์หญิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 289

    ตอนที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นยันต์พวกนั้นก็หรี่ตาลงทันที เมื่อตระหนักได้ว่าทรงพลัง ก็โยกหลบอย่างรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ฉวยโอกาสยื่นนิ้วออกไป ยันต์พวกนั้นก็ไล่ตามไป๋จื้อเซียนไป ร่างกายของเขามียันต์ห้าอัสนีบาตแผ่นหนึ่งแปะอยู่เขาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มองไปทางด้านนอกห้องแวบหนึ่ง รู้ว่าหากวันนี้ไม่หนีไป เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ จึงวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตอนที่เขาวิ่งหนี เมฆฝนก่อตัวขึ้น ไล่ตามเขาภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผู้ดูแลพาท่านหมอเดินเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนลูกตาเกือบถลนออกมาถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นไป๋จื้อเซียน แต่เขามองเห็นสายฟ้าบนท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายฟ้าหน้าตาแบบนี้ทันทีที่ไป๋จื้อเซียนวิ่งหนี ห้องก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตะเกียงน้ำมันที่มุมห้องยังคงสว่างอยู่ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้น ทันทีที่หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าคนที่ฟันกระบี่ใส่ไป๋จื้อเซียนก็คือเยียนเหนียนเหนียนนางรู้สึกผิดปกติ ต่อให้นางแปะยันต์แผ่นหนึ่งบนกระบี่ของเยียนเหนียนเหนียน กระบี่เล่มนั้นของนางร้ายกาจกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตที่ไป๋จื้อเซียนวางเอาเม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 288

    ครู่ต่อมา ซือเจ๋อเยว่หยิบอาวุธเวทย์อีกชิ้นหนึ่งออกมา เพียงแต่นางยังไม่ทันเข้าไปหา ก็ถูกเส้นผมสีดำของเขากวาดลอยกระเด็นออกไปเยียนเซียวหรานอยากจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกผ้าต่วนสีแดงรัดลำคอเอาไว้เขากล่าวอย่างยากลำบาก “องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้นกระอักเลือดออกมา ไป๋จื้อเซียนไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้ตรงหน้าของนางพอดีเลือดพ่นใส่มือของไป๋จื้อเซียน มือของเขาเป็นรูทันทีเขาค่อนข้างประหลาดใจ “นักพรตหญิงน้อย ร่างกายของเจ้ามีความพิเศษนี่นา!”ปากเขาพูดไป มือกลับบีบลำคอของนางเอาไว้ “กินตบะของเจ้า จะต้องบำรุงมากแน่!”ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ เป็นวิญญาณมาหนึ่งพันปี เป็นครั้งแรกที่ได้เจอร่างกายอย่างนางเขาเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง หากได้กินวิญญาณของนาง เท่ากับเป็นการบำเพ็ญตบะห้าร้อยปีถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยประมือกับนางมาก่อน แต่ครั้งก่อนนางไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก เขาไม่รู้ว่านางจะมีร่างกายที่พิเศษเช่นนี้บัดนี้ค้นพบแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันทีเพียงแต่คนที่มีร่างกายเช่นนาง เนื่องจากร่างกายพิเศษมากเกินไป ดังนั้นอยากจะกลืนกินนางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซือเจ๋อเยว่ใช้มือปาดเลือดที่มุมปาก ยื่นมื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 287

    พวกเขาร่วมมือกันอยากจะจับตัวไป๋จื้อเซียนเอาไว้เป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งเรื่องหนึ่งเขารู้ว่าในเวลานี้ไม่มีเวลาห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนาง นางก็ต้องเป็นคนจบเรื่องนางพูดกับเยียนเซียวหรานเบา ๆ “เจ้าถ่วงเวลาเขาไว้สักสิบวินาที”เยียนเซียวหรานพยักหน้า มือของซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาอย่างรวดเร็วไป๋จื้อเซียนเห็นสัญลักษณ์มือของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะจับตัวข้าเอาไว้อีกอย่างนั้นหรือ?”เขาพูดจบก็พุ่งตัวเข้ามาหานาง พุ่งตรงเข้ามาควักหัวใจของนางกระบี่ไม้ท้อในมือของเยียนเซียวหรานพันเข้าใส่ไป๋จื้อเซียนทันทีทั้งสองอย่างปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไป๋จื้อเซียนหัวเราะเบา ๆ “ฮ่า น่าสนุก! แต่วันนี้ ที่ตรงนี้เป็นถิ่นของข้า ข้าเป็นใหญ่!”เส้นผมสีดำของเขาแผ่สยาย ผ้าต่วนสีแดงบนร่างกายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าใส่เยียนเซียวหรานที่แฝงไปด้วยเจตนาสังหารต่อให้วิชากระบี่ของเยียนเซียวหรานจะดีแค่ไหน กระบี่ไม้ท้อไม่ใช่อาวุธแหลมที่สามารถตัดโลหะหรือหยกได้ จึงถูกพันธนาการเอาไว้ทันทีเขารีบชักกระบี่ติดตัวของตนเองที่อยู่บริเวณเอวของตนเองออกมา ฟันเข้าใส่เส้นผมสี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 286

    ค่ำคืนนี้ ซือเจ๋อเยว่มาตามที่คาดไว้!เขามองเยียนเซียวหรานด้วยสายตาเย็นยะเยือก หันหน้ากลับไปมองค่ายกลที่ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้ายเขาเฝ้าอยู่ที่ เป็นเพราะกลิ่นอายจากตัวของซือเจ๋อเยว่กับค่ายกลนั่นค่อนข้างคล้ายคลึงกับกลิ่นอายที่เคลื่อนตัวอยู่บนร่างกายหของอวิ๋นเยว่หยางครั้งก่อนที่เขาเจอกับเยียนเซียวหรานแบบรีบร้อนเกินไปหน่อย ประกอบกับซือเจ๋อเยว่ก็อยู่ตรงนั้นด้วย ดังนั้นเขาจำไม่ได้ในทันทีว่ากลิ่นอายบนตัวของอวิ๋นเยว่หยางคือกลิ่นอายของเยียนเซียวหรานในเวลานี้ทันทีที่ค่ายกลถูกทำลาย กลิ่นอายพวกนั้นก็ไหลย้อนกลับ เขาจึงสัมผัสได้อย่างชัดเจนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนค่อนข้างเกิดความสนใจเป็นเพราะเขารู้ว่า เป็นการยากที่คนคนหนึ่งจะมีกลิ่นอายของคนอื่นติดอยู่อย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นไปไม่ได้หากติดแล้ว นั่นก็แสดงว่าโชคชะตาของทั้งสองคนรวมเข้าด้วยกันแล้วไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหราน กล่าว “น่าสนุก”เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง “นักพรตหญิงน้อย เจ้าหมอนี่ดีกับเจ้าเหลือเกินนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีชะตาชีวิตร่วมกันกับเจ้า”เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status