Share

บทที่ 6

ในดวงตาเยียนเซียวหรานมีความเย้ยหยัน “ต่อให้ไม่มีท่าน ครั้งนี้จวนเยียนอ๋องก็ยากจะผ่านเคราะห์กรรมไปได้”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้เขาหันมองนาง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะทำให้มีคนตายเพิ่มไปไย”

“องค์หญิงโปรดฟังข้าสักคำ หากครั้งนี้จากไปแล้ว อย่ากลับมาที่เมืองหลวงอีก”

เมื่อพูดจบเขายัดตัวรอกไว้ในมือนาง “องค์หญิงไปเถอะ หากไม่รีบไป คงไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ”

ซือเจ๋อเยว่รู้สึกสับสน นำตัวรอกไปเกี่ยวไว้กับเชือก แล้วหันมองเขาอีกครั้ง ต่อมาเลื่อนตัวรอกไปตามเชือกจนถึงฝั่งตรงข้าม

เมื่อนางยืนจนมั่นคงแล้ว เยียนเซียวหรานถึงได้ดึงตัวรอกกลับไป

นางช้อนตามองเขา แม้ชายหนุ่มจะตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แต่ยังคงเปล่งประกายดั่งดวงจันทรา

เมื่อเขาเห็นนางหันมอง เพียงลอบมองหนึ่งครั้ง พลันหันหลังกระโดดลงจากหอ

ซือเจ๋อเยว่กระโดดลงมาจากต้นไม้ แล้วมุ่งหน้าไปที่ประตูเมือง

แรกเริ่มนางเดินค่อนข้างเร็ว หลังจากเดินไปประมาณห้าสิบก้าว จึงค่อยๆ เดินช้าลง

เพราะเขาได้ยินเสียงโวยวายของทหาร ซ้ำยังคลับคล้ายคลับคลาได้ยินเสียงตำหนิของเหล่าไท่จวิน

นางนำหนังสือหย่าที่เหล่าไท่จวินมอบให้ออกมา พบว่าด้านในสอดตั๋วเงินไว้หนึ่งใบ จำนวนเงินไม่มาก แต่เพียงพอสำหรับเป็นค่าเดินทางให้นางกลับสำนักเต๋า

นางนึกถึงค่ำคืนที่ได้อยู่กับเยียนเซียวหราน จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ

นางติดค้างเขาหนึ่งคืน แล้วจะทนดูเขาตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?

ซือเจ๋อเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ มือกำเป็นหมัด แล้วหันหลังเดินมุ่งหน้าไปที่ประตูใหญ่จวนเยียนอ๋อง

ภายในจวน เยียนเซียวหรานยืนขวางหน้าโลงเยียนอ๋อง “ฮ่องเต้แค่รับสั่งว่าไม่ให้คนในจวนเยียนอ๋องออกไป แล้วนี่หนิวกงกงคิดจะทำสิ่งใด?”

โลงศพของเยียนอ๋องถูกถีบจนคว่ำ เผยให้เห็นศพที่อยู่ในโลง

บนศพเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย บนใบหน้ายังมีคราบเลือดเกาอยู่ ซ้ำขายังขาดไปหนึ่งข้าง

พระชายาเยียนอ๋องและเหล่าไท่จวินยืนขนาบซ้ายขวาข้างโลง ดวงตาเหล่าไท่จวินแดงก่ำ ส่วนพระชายาเยียนอ๋องกลับร้องไห้โฮ

เมื่อครู่หลังจากหนิวกงกงพาทหารองครักษ์ล้อมจวนอ๋องเยียน เขาได้พาคนบุกเข้ามา

หลังจากเข้ามาเขาบอกว่าอยากเคารพศพเยียนอ๋อง เยียนเซียวหรานจึงไม่ขัดขวาง ปล่อยให้เขาเข้ามาในห้องทำพิธีศพ

ทว่าเมื่อเข้ามาถึงเขากลับถีบโลงศพของเยียนอ๋องจนคว่ำ เยียนเซียวหรานจึงทะเลาะกับเขาทันที

สถานการณ์ระหว่างองครักษ์ในจวนกับทหารองครักษ์ที่หนิวกงกงพามาตึงเครียดมาก พอพูดไม่เข้าหูก็จะลงไม้ลงมือทันที

หนิวกงกงหัวเราะ “ข้าได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ให้มาดูเยียนอ๋อง คุณชายสามไม่ต้องตื่นเต้น”

เขาเหลือบมองภายในโลง แล้วเอ่ยขึ้น “แม่ทัพพ่ายศึกอย่างเยียนอ๋อง สมควรจะถูกสับเป็นหมื่นชิ้น”

“วันนี้เขาแค่เสียขาไปข้างเดียว โลกนี้ช่างไร้ซึ่งความยุติธรรม”

“ทหาร มานำศพของเยียนอ๋องไปสับให้เละแล้วโยนให้สุนัขกิน”

เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเย็น “ใครกล้า!”

หนิวกงกงเบิกตารูปสามเหลี่ยมมองเยียนเซียวหราน “คุณชายสามคิดจะต่อต้านหรือ?”

พระชายาผู้เฒ่าค้ำไม้เท้าเดินไปตรงหน้าหนิวกงกง “ฮ่องเต้เพียงรับสั่งว่าเยียนอ๋องพ่ายศึก จึงกักบริเวณทุกคนในจวนอ๋อง”

“มิได้ทรงลงโทษจวนเยียนอ๋อง ยามนี้หนิวกงกงบุกเข้ามาก่อเรื่องในห้องทำพิธี ไม่เกินไปหน่อยหรือ?”

หนิวกงกงหัวเราะเสียงดัง “ก่อเรื่อง? เหล่าไท่จวินช่างน่าขันยิ่งนัก ข้าก็แค่ทวงความยุติธรรมให้กับเหล่าทหารที่ตายไปในสงครามเท่านั้น”

“เยียนอ๋องพลาดท่าเสียที ทำให้ทหารตายที่ชายแดนเป็นแสนนาย คนอย่างเขาคู่ควรแก่การกราบไหว้หรือ สมควรถูกสับเป็นหมื่นชิ้นต่างหาก”

“ที่ข้าทำเช่นนี้ ก็แค่ทำตามความต้องการของชาวบ้าน หากเหล่าไท่จวินดึงดันขัดขวาง อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”

เมื่อพูดจบเขายื่นมือไปผลักเหล่าไท่จวิน เยียนเซียวหรานรีบรับตัวไว้ทันที แล้วยกขาถีบหนิวกงกงจนล้มลงบนพื้น

ตั้งแต่เยียนอ๋องตายไป เยียนเซียวหรานก็อดกลั้นมาตลอด เมื่ออดทนมาถึงตอนนี้ เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ

หนิวกงกงโมโห “คุณชายสามลงมือกับข้า คิดจะขัดราชโองการหรือ?”

“ทหาร จับตัวเขาเดี๋ยวนี้”

เขาไม่เคยมีความบาดหมางกับจวนเยียนอ๋อง ครั้งนี้มาเพราะได้รับบัญชาเท่านั้น

ตอนนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าจวนเยียนอ๋องขายขาติ สิ่งที่เขาต้องทำคือยั่วโมโหทุกคนในจวน ให้พวกเขาลงมือต่อต้าน

ขอเพียงพวกเขากล้าลงมือ เขาจึงจะสามารถตั้งความผิดข้อหาขัดราชโองการกับขายชาติให้ทุกคนในจวนได้

เมื่อถูกตั้งข้อหารุนแรงเช่นนี้ คนในจวนเยียนอ๋องต้องถูกประหารเก้าชั่วโคตรแน่นอน

และวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คนในจวนเยียนอ๋องต่อต้าน คือการทำลายศพของเยียนอ๋อง

เพราะเมื่อใดที่ลงมือกับศพของเยียนอ๋อง ทั่วทั้งจวนเยียนอ๋องต้องเดือดดาล เขาถึงจะสามารถตั้งข้อหาได้

ขณะนี้เรื่องราวกำลังเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ ในแววตาเขามีแต่ความดีใจ ราวกับมองเห็นศพกลาดเกลื่อนทั่วจวนเยียนอ๋อง

เหล่าไท่จวินยืนขวางทหารองครักษ์อยู่ตรงกลาง “กงกง มีเรื่องใดค่อยพูดค่อยจากันดีๆ เถิด”

หนิวกงกงตั้งใจมาหาเรื่องอยู่แล้ว จะไปค่อยพูดค่อยจากับคนในจวนเยียนอ๋องได้อย่างไร

เขาแอบดึงมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมา คิดจะแทงเหล่าไท่จวิน ขอเพียงเลือดตกยางออก เรื่องในวันนี้คงไม่อาจจบลงด้วยดี

ทว่าเขายังไม่ทันได้เข้าใกล้เหล่าไท่จวิน พลันรู้สึกปวดร้าวที่ท้ายทอย

เมื่อเขายื่นมือไปจับ มันบวมจนกลายเป็นก้อน

เขาเอ่ยอย่างแค้นเคือง “ผู้ใดกัน?”

วินาทีต่อมา เขารู้สึกปวดที่มือ จากนั้นมือที่จับมีดสั้นกระตุก แล้วมีดก็ตกลงบนพื้น

เมื่อเยียนเซียวหรานเห็นมีดสั้น เข้าใจจุดประสงค์ของหนิวกงกงทันที ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เหล่าไท่จวินกลับขวางเขาเอาไว้ แล้วส่ายหน้า

หากตอนนี้ต่อสู้กับหนิวกงกง ถือว่ายื่นชนักของตนไปให้อีกฝ่ายถือไว้

เยียนเซียวหรานเข้าใจเหตุผลนี้ดี จึงได้แต่อดกลั้นความโกรธเอาไว้

หนิวกงกงตะโกนเสียงดัง “หมาบ้าที่ไหนกล้าทำร้ายข้า!”

เสียงหญิงสาวใสกังวานดังขึ้น “เจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก ถึงกับกล้าด่าทออดีตฮ่องเต้และฝ่าบาท!”

ซือเจ๋อเยว่เอามือไพล่หลังข้างหนึ่ง แล้วเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า

เยียนเซียวหรานและเหล่าไท่จวินต่างแปลกใจเมื่อเห็นซือเจ๋อเยว่ นางไปแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วย้อนกลับมาทำไม?

หนิวกงกงไม่รู้จักนาง จึงเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าคือผู้ใด?”

ซือเจ๋อเยว่ไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับเดินไปข้างกาย แล้วฟาดลงไปบนใบหน้าของเขาหลายฝ่ามือ

เมื่อทหารองครักษ์เห็นดังนั้น จึงชักดาบและฟันไปที่นาง

ระหว่างที่พวกเขาฟันดาบลงมา นางรีบยกมือขึ้น แล้วเผยให้เห็นป้ายตรงเอวสีทองวิบวับ

บนป้ายมีตัวอักษรโดดเด่นสี่พยางค์ ดั่งเจิ้น[1]มาเยือน

เหล่าทหารองครักษ์ตกใจจนสะดุ้ง ไม่มีใครกล้าลงมืออีกต่อไป พากันคุกเข่าทันที

หนิวกงกงมองซือเจ่อเยว่อย่างตระหนก “ท่านคือองค์หญิงเจ๋อเยว่หรือ?”

ซือเจ๋อเยว่มองเขาด้วยดวงตาเย็นชา จากนั้นเอ่ยขึ้น “คุกเข่า!”

หนิวกงกงเคยได้ยินเรื่องราวของนางมาก่อน จึงไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา นางจึงนำป้ายทองคำฟาดใส่หน้าหนิวกงกง

ป้ายทองคำค่อนข้างมีน้ำหนัก แต่นางกลับนำมาใช้แทนอิฐ เมื่อฟาดลงไปอย่างนั้น จึงทำให้หน้าผากของหนิวกงกงมีเลือดออก

หลังจากฟาดเสร็จ นางได้ใช้ป้ายทองคำฟาดไปที่หัวไหล่หนิวกงกง จนทำให้เปลวไฟวิญญาณตรงหัวไหล่เขาดับมอด พลังหยิน[2]จึงมารวมตัวกันที่เขา

นางตวาด “คุกเข่า!”

นางดูทรงพลังมาก หนิวกงกงมองดูป้ายทองคำ แต่ก็มองนางไม่ออก จึงได้แต่คุกเข่าลงพื้นอย่างไม่เต็มใจ

------------------------------------------------------------------------

[1] เจิ้น สรรพนามที่ฮ่องเต้ใช้แทนตัวเอง แปลว่าข้าพเจ้า

[2] พลังหยิน พลังความเย็นในลัทธิเต๋า

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status