ที่แท้ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ไม่เคยให้โอกาสนางเลย!ที่แท้ เขาไม่เคยเชื่อในตัวนางเลย!มู่อันหนิงกำมือของตัวเองแน่น ในใจยิ่งรู้สึกแห้งแล้งขึ้นทุกที"ท่านไม่เคยอนุญาตให้ข้าแตะต้องตัวท่าน คืนนั้นที่ข้าขอกอดท่าน แต่ท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ เป็นเพราะว่าท่านรู้ว่านางกำลังมองดูอยู่ ใช่หรือไม่?"เหตุในนางจึงสัมผัสไม่ได้นะว่าตอนนั้นกู้อวิ๋นซีอยู่ใกล้ๆ ด้วย?รู้จักกันมาสิบปี เพราะว่าเลือดของนางสามารถควบคุมพิษที่อยู่ในร่างของจวินฉู่หลีได้ ดังนั้น จวินเย่เสวียนจึงปฏิบัติดีกับนางมาโดยตลอดนับได้ว่าเป็นมิตรแต่ถึงกระนั้น ไม่ว่านางจะแสดงออกหลายครั้งว่ามีใจให้เขา แต่เขาก็ทำตัวเย็นชากลับมาตลอดเอาแต่ปฏิเสธอยู่ร่ำไป ไม่เคยจะอนุญาตให้นางได้เข้าใกล้ตัวเองครั้งนี้ นางบอกว่าท่านแม่ต้องการให้นางรับช่วงต่อพรรคไป๋ถัน ดังนั้นต่อไปนางคงไม่มีโอกาสได้มาพบกับเขาอีกแล้วเพียงหวังอยากจะกอดเขา เพื่อตัดความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อเขาแรกเริ่มเดิมทีเขาก็ปฏิเสธ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด จู่ๆ เขาก็ยินยอมมู่อันหนิงยังคิดว่า ในที่สุดจวินเย่เสวียนก็มีใจให้กับนางสักทีคิดไม่ถึง ที่เขาตกลง เป็นเพราะต้องการจะยั่วโมโหผู้หญิงอีกคนต่าง
รอยยิ้มของจวินเย่เสวียน เย็นชามากเลยจริงๆไม่เพียงเย็นชา แถมยังน่ากลัวด้วยมู่อันหนิงไม่รู้ว่าตัวนางกำลังกลัวอะไร แต่เมื่อได้เห็นเขายิ้ม นางก็รีบถอยหลังสองก้าวทันทีโดยสัญชาตญาณ"เย่เสวียน ท่าน...หมายความว่ายังไง?""ตอนนี้ฉู่หลีก็อยู่ในค่ายทหารของข้า" จวินเย่เสวียนพูดอย่างเย็นชามู่อันหนิงยกมือขึ้นมา กดลงไปบนหัวใจของตัวเองไม่ เย่เสวียนของนาง คงจะไม่ไร้ใจกับนางถึงเพียงนี้หรอก!เป็นไปไม่ได้!แต่ด้วยท่าทางของเขาในตอนนี้ กลับกำลังบอกนางอย่างชัดเจนว่า ไม่มีอะไร ที่เป็นไปไม่ได้!"ดังนั้น ที่ท่านพาข้ามา ไม่ใช่เพื่อช่วยข้า และก็ไม่ใช่เพราะว่าสงสารข้า ท่าน...ท่านก็แค่ต้องการใช้เลือดของข้า เพื่อควบคุมพิษในร่างกายของจวินฉู่หลี?"จวินเย่เสวียนไม่พูดอะไรมู่อันหนิงแทบจะถูกเขาบีบจนเป็นบ้าอยู่แล้ว"เหตุใดท่านจึงทำกับข้าเช่นนี้!"เขาหมุนตัวกลับไปมู่อันหนิงกรีดร้องออกมา "หากข้าบอกว่า จากนี้ต่อไปข้าจะไม่ช่วยจวินฉู่หลี..."ทันใดนั้น จวินเย่เสวียนก็หันหน้ากลับมา สะบัดฝ่ามือใหญ่หนึ่งทีมู่อันหนิงรู้สึกเพียงว่าแรงปราณแข็งแกร่งจากฝ่ามือ กำลังพุ่งตรงมานางรีบออกท่าเพื่อป้องกันทันทีตูม เสีย
"ฉู่หลี!" กู้อวิ๋นซีเปิดม่านของกระโจมออกทันทีผู้ชายในชุดเกราะนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะน้ำชา กำลังดูแผนที่ภูมิศาสตร์อยู่เมื่อได้ยินเสียงเรียก เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองแต่กู้อวิ๋นซีกลับต้องอึ้งไปทำไมถึงเป็นเขาไปได้?"ท่าน..." กู้อวิ๋นซีตะลึงงัน มองเขาที่เหมือนกับจวินฉู่หลีราวกับแกะ แต่กลับมีใบหน้าที่เย็นชาฉับพลันก็ลืมสิ้นทุกอย่างจวินเย่เสวียนวางแผนที่ภูมิศาสตร์ลง จ้องนางด้วยสายตาเย็นชา "ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าไม่อนุญาตให้เจ้าออกจากห้องนอนของเจ้า?""เยี่ยนอี!" แววตาเขาเข้มขรึมด้านนอก เยี่ยนอีก็รีบเข้ามาทันทีเขาเปิดม่านประตูเดินเข้ามา คารวะอย่างนอบน้อม "ท่านอ๋อง!""ไสหัวไปรับโทษเองซะ!""พ่ะย่ะค่ะ!" เยี่ยนอีหมุนตัวเดินออกจากประตูไปไม่นานกู้อวิ๋นซีก็ได้ยินเสียงการโบยดังเข้ามาจากด้านนอกนางร้อนใจ!"เป็นข้าที่แอบหนีมาเอง เกี่ยวอะไรกับเขาด้วยล่ะ?"ถ้าจะลงโทษ ก็ควรลงโทษนางสิถึงจะถูก!แต่ นางก็เพียงมาหาสามีของตัวเอง นางมีความผิดอะไรล่ะ?"ข้าสั่งให้เขาเฝ้าเจ้าไว้ เขาทำไม่ได้ ก็ควรได้รับโทษ" ใบหน้าของจวินเย่เสวียนเย็นชาไร้ความรู้สึก"ท่าน...ท่านจะไร้ความรู้สึกเกินไปแล้ว!"กู้
เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เขาตาบอดใจบอด ช่วยผู้หญิงคนอื่นมารังแกตัวนางหนึ่งชั่วโมงให้หลัง ในตอนนี้เขากลับกดนางไว้บนเตียง!ผู้ชายคนนี้ จะหน้าด้านหน้าทนเกินไปแล้ว!"ปล่อยข้านะ!" กู้อวิ๋นซีใช้กำลังขัดขืนแต่จวินเย่เสวียนกลับจ้องนางอยู่อย่างนั้น สายตาเย็นชา ไม่พูดอะไรเลยแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือกู้อวิ๋นซีร้อนใจ พูดอย่างโมโห "ท่านคือท่านพี่สี่ของฉู่หลีนะ! ท่านไม่ใช่ฉู่หลี! ท่านจะมาทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร!"จวินเย่เสวียนจ้องกลับไปยังดวงตาที่แดงระเรื่อของนาง จิตใจที่เย็นชาแข็งกระด้าน ก็พลันอ่อนยวบลงอย่างประหลาดขนาดตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ ว่าตัวเองเป็นอะไรไปเขาพูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า "หากว่าข้า...เป็นฉู่หลีของเจ้าล่ะ?"กู้อวิ๋นซีตกใจเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สบประสานเข้ากับสายตาของเขาสรุปแล้วเขาเป็นฉู่หลีจริงๆ หรือไม่?หากว่าเขาเป็นฉู่หลี เหตุใดจึงต้องทำกับนางเช่นนี้?นางกลัวมากจริงๆเขาเข้าใจบ้างหรือเปล่า?"องค์ชายสี่ อย่าแกล้งข้าอีกเลย หากข้าอยู่กับองค์ชายสี่ โทษสถานเบาคือประหาร สถานหนักต้องประหารเก้าชั่วโคตร ไม่เคยคิดแทนข้าบ้างเลยหรือไง?"ประกายประหลาดในดวงตาของจวินเย่เสวียนหายไ
บทที่ 99กู้อวิ๋นซีคิดว่า จวินเย่เสวียนจะต้องโกรธแน่กระทั่งว่า สามารถเอาชีวิตนางได้ตลอดเวลาแต่นางผิดไปจวินเย่เสวียนเพียงแค่มองนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นจากตัวนางเดินจากไปกู้อวิ๋นซีถูกกักบริเวณไว้แล้วเพียงแต่ครั้งนี้ คนที่เฝ้านางเปลี่ยนเป็นเยี่ยนสือเอ้อแทนนางก็ไม่ได้งอแงจะออกไปข้างนอกอีกเหนื่อยแล้วเหนื่อยล้าทั้งกายและใจสาวใช้ยกอาหารมาให้สามมื้อ นางก็ไม่ได้แตะต้องเอาแต่นอนอยู่บนเตียง สมองว่างเปล่าก็ไม่รู้ว่ากำลังพักผ่อน หรือกำลังคิดเรื่องชีวิตอยู่กันแน่จนกระทั่งเวลาพลบค่ำ จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้น"ท่านอ๋อง" เยี่ยนสือเอ้อคารวะอย่างนอบน้อมกู้อวิ๋นซีกำผ้าห่มเอาไว้ หันหน้าหนีไป ขนาดมองยังไม่มองคนที่เดินเข้าประตูมาเขานั่งลงที่ข้างเตียงในใจกู้อวิ๋นซีรู้สึกรำคาญมาก จึงได้ลุกขึ้นนั่งทันควัน จ้องมองเขา "ท่านอย่าได้รังแก..."ทันใดนั้น นางก็อึ้งไปจ้องเขม็งมองไปยังไฝเสน่ห์ที่หางตาเม็ดนั้นของเขาทีแรก ก็ไม่อยากจะเชื่อ ต่อมา ก็แสดงสีหน้าเย้ยหยันออกมา"องค์ชายสี่ ท่านคิดว่าท่านวาดไฝเสน่ห์ขึ้นมาเม็ดหนึ่ง สวมใส่เสื้อผ้าของฉู่หล
ปลายนิ้วของกู้อวิ๋นซีกำลังสั่นเทารอยยิ้มตรงมุมปากของจวินฉู่หลีเริ่มจางหายไปเล็กน้อยเขามองไปที่กู้อวิ๋นซีด้วยสีหน้าจริงจัง "ต้นกกเขียวขจีริมแม่น้ำ น้ำค้างในฤดูใบไม้ร่วงแข็งเป็นเกล็ด"กู้อวิ๋นซีรู้สึกสั่นคลอนในใจอย่างแรงนี่คือคืนที่นางกับฉู่หลีตกลงเรื่องความสัมพันธ์กัน พวกเขานั่งอยู่ในทุ่งดอกไม้ด้วยกันทั้งคืนเป็นกลอนที่เขาพูดขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในวันถัดไป!ความคลางแคลงสงสัยเล็กๆ ในใจของกู้อวิ๋นซี ในที่สุดก็หมดไป!"ฉู่หลี ต่อไป อย่าไปจากข้าอีกได้ไหม" นางจับฝ่ามือใหญ่ของเขาไว้แน่นจวินฉู่หลีไม่ได้ตอบคำถามนี้ เพียงแค่มองนางนิ่งๆ พูดด้วยเสียงอ่อนโยน "อย่าโกรธท่านพี่สี่เลย เขาไม่ได้มีเจตนาร้าย"กู้อวิ๋นซีส่ายหน้า "ข้าจะโกรธหรือไม่ ก็คงไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขาหรอก""ไม่ สำหรับเขา มันมีความหมายมาก" จวินฉู่หลีพูดอย่างหนักแน่นกู้อวิ๋นซีขยับริมฝีปาก อยากจะพูดอะไรมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดีสุดท้าย นางก็ปล่อยจวินฉู่หลี แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆ ว่า "ข้ากับองค์ชายสี่...""ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเชื่อเจ้า""ฉู่หลี...""พรุ่งนี้แม่ทัพกู้จะไปออกรบที่เมืองชิง เจ้าอยากไปหรือไม่?
กู้อวิ๋นซีมักรู้สึกว่า ประโยคนี้แปลกประหลาดนิดหน่อยแต่นางก็ไม่มีโอกาสจะได้คิดนานจวินฉู่หลีก้มศีรษะลง จูบไปบนริมฝีปากของนางมือที่ดันอยู่ตรงหน้าอกของเขา สำหรับเขามันไม่สามารถช่วยต้านทานอะไรไว้ได้เลยกู้อวิ๋นซีกลับยังอยากที่จะผลักเขาออกด้วยสัญชาตญาติอย่างหนึ่งนางรู้สึกว่าตัวเองงงไปหมดแล้ว ทำไมมักรู้สึกว่า จูบของฉู่หลี ถึงได้เหมือนกลิ่นอายขององค์ชายสี่ขนาดนั้นได้?จนนางไม่อาจแยกได้เลยราวกับว่า ขนาดจูบของฉู่หลีตอนแต่งงานเป็นความรู้สึกอย่างไร นางก็ลืมไปหมดแล้วในหัวสมองว่างเปล่าไปหมด"อยู่ใต้ร่างของข้า ยังกล้าเหล่อลอยอีกเหรอ?" จวินฉู่หลีหรี่ตาลง ฉับพลันก็จับตัวนางพลิกไปด้านหลังกู้อวิ๋นซีตื่นกลัวขึ้นฉันพลีน รีบพูดอย่างร้อนรนว่า "ฉู่หลี อย่าทำแบบนี้! ขะ ข้าอยากมองหน้าเจ้า!"ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร กู้อวิ๋นซีในคืนนี้ ถึงได้ต่อต้านท่านี้เป็นพิเศษการต้องหันหลังให้เขา ทำให้มองสีหน้าของเขาได้ไม่ชัดตอนที่มองไม่เห็นอะไร นางกลัวว่าตัวเองจะคิดฟุ้งซ่าน!หมู่นี้หัวใจของนางค่อนข้างอ่อนแอขนาดตัวนางเองยังไม่รู้เลยว่า เหตุใดตัวเองจึงกลายเป็นเช่นนี้!เมื่อก่อนนาง กระทำสิ่งใดล้วนมีสติมั
เมื่อเห็นจวินฉู่หลีที่สวมชุดเกราะทั้งชุด ในมือถือดาบเล่มใหญ่เดินออกมา หัวใจของกู้อวิ๋นซีก็ราวกับมีอะไรบางอย่างกระแทกเข้าอย่างจัง!นี่มัน องค์ชายสี่ชัดๆ!โดยเฉพาะ บนศีรษะเขาที่สวมเกราะหัว ทำให้แทบจะปกปิดใบหน้าไว้ได้อย่างมิดชิดมองไม่เห็นไฝเสน่ห์ที่หางตา ใบหน้าก็แทบจะมองไม่เห็นสวมชุดเกราะทั้งตัว แถมมีราศีเผด็จการ ดุดันที่รุนแรง หากไม่ใช่นางเห็นว่าจวินฉู่หลีสวมชุดเกราะเดินออกมาด้วยตัวเอง กู้อวิ๋นซีจะต้องเข้าใจว่า คนที่นางเห็นจะต้องเป็นจวินเย่เสวียนแน่นอนแต่งตัวเช่นนี้ หากบอกว่าเขาคือเสวียนอ๋อง ใครจะกล้าปฏิเสธบ้าง?จวินฉู่หลีโบกมือหนึ่งทีเยียนเป่ยก็ร้องตะโกนขึ้นเสียงดังทันควัน "เปลี่ยนธงแม่ทัพ!"ด้านหน้า ธงแม่ทัพที่มีอักษรกู้ ถูกเปลี่ยนเป็นอักษรคำว่า "เสวียน" ทันที!เสวียนอ๋องจะออกรบด้วยตัวเอง ยังมีอะไรที่เอากลับคืนมาไม่ได้อีก?กองทัพใหญ่ออกเดินทางจากเมืองฝาน เมื่อออกไป ทัพใหญ่ของอูฉงก็ถอนกำลังกลับไปนานแล้วความจริง ตั้งแต่วันที่กองทัพใหญ่ของเสวียนอ๋องมาถึง ก็มีร่องรอยว่ากองทัพใหญ่ของอูฉงค่อยๆ ถอนกำลังออกไปแล้วตอนหลัง เมื่อเสวียนอ๋องประกาศว่าจะยึดเมืองชิง กองทัพใหญ่ของอูฉง