กู้อวิ๋นซีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงหลังจากที่กู้หนานฟงออกจากเมืองฝานไปให้เขาฟังอย่างคร่าวๆสีหน้าของกู้หนานฟงเคร่งเครียดขึ้นทันที"ข้าถูกคนวางยาพิษกู่...""ผู้หญิงชุดขาวคนนั้นที่เจอวันนี้เหรอ?" ผู้หญิงคนนั้น ดูก็รู้ว่าปฏิบัติกับพี่ใหญ่ไม่เหมือนคนอื่นสายตาที่มองพี่ใหญ่ ดูก็รู้ว่าชอบมากแต่ก็เผด็จการมาก!"ไม่ใช่ นาง..." กู้หนานฟงคล้ายจะอยากพูดอะไร สายตาวูบไหวน้อยๆเขาพยายามหลบเลี่ยงสายตาของกู้อวิ๋นซี "นางคือผู้มีพระคุณของข้า หากไม่ได้นางข้าคงไม่มีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้""เช่นนั้นตอนนี้ท่าน...""ข้าไม่เป็นไร!" กู้หนานฟงไม่อยากพูดเรื่องที่ตัวเองถูกพิษกู่เยอะเกินไป"ตอนนี้กองทัพใหญ่ของอูฉงล้อมเข้าประชิดเมือง ข้าจำเป็นจะต้องกลับไปป้องกันเมืองเดี๋ยวนี้ เพื่อทำคุณประโยชน์ชดใช้ความผิด ไม่เช่นนั้น คนในจวนแม่ทัพทั้งหมดจะต้องเดือดร้อนไปด้วย"ถึงแม้กู้อวิ๋นซีจะรู้ว่าแววตาของเขาไม่ปกติ แต่ก็ไม่ได้ถามไถ่เพิ่มเติมอีกขอเพียงพี่ใหญ่กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว"ตอนที่ข้ามา ได้ศึกษาแผนที่ของอูฉงกับเมืองฝานมาอยู่บ้าง"เดิมทีคิดว่าสัมภาระของตัวเองถูกโจรภูเขาชิงไปแล้ว คงจะเอาของกลับมาไม่ไ
เมื่อเห็นว่าเดินทางอีกประมาณครึ่งวันก็จะถึงเมืองฝานแล้วกู้หนานฟงก็สั่งให้คนของสิบสองทหารม้าแบ่งกันออกเป็นห้าเส้นทางให้รีบกลับไป จะต้องเอาเรื่องที่กู้อวิ๋นซีเป็นกังวลไปบอกกับค่ายใหญ่ให้ได้คืนนั้น คนที่อยู่กับกู้หนานฟงและกู้อวิ๋นซีมีเพียงเยี่ยนสือเอ้อกับเยี่ยนอีสือเอ้อไปสำรวจเส้นทางข้างหน้าเยี่ยนอีรู้ว่าสองวันนี้กู้อวิ๋นซีไม่ค่อยได้กินอะไรเท่าไร ก็เลยอาศัยจังหวะตอนที่พวกเขาพักผ่อน เข้าไปในป่ากะว่าจะไปล่าไก่ป่ามาสักตัวเพื่อให้พระชายาได้บำรุงสักหน่อยดังนั้น การป้องกันทางด้านกู้อวิ๋นซีกับกู้หนานฟง จึงขาดการป้องกันช่วงขณะหนึ่ง!คืนนี้สีหน้าของกู้หนานฟงไม่ค่อยดีเท่าไรคล้ายว่าจะมีเรื่องหนักอกหนักใจเมื่อเห็นว่ากำลังจะเลยเที่ยงคืนไป กู้หนานฟงก็ให้กู้อวิ๋นซีเข้าไปพักผ่อนที่กระท่อมเล็กของนายพรานในป่า ส่วนตัวเขาก็หาที่นอนเอาข้างนอกในใจกู้อวิ๋นซีรู้สึกไม่สบายใจคืนนี้พี่ใหญ่มีสีหน้าขาวซีด แต่เมื่อนางจับชีพจรให้เขา กลับไม่พบความผิดปกติใดๆมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะทันใดนั้น บริเวณรอบๆ ก็มีลมพัดโหมกระหน่ำกู้อวิ๋นซีลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว กำมีดสั้นไว้ในมือ คลำทางในความมืด
คืนนี้กู้หนานฟงดูผิดปกติเมื่อเข้ากลางดึก สีหน้าของเขาก็เริ่มขาวซีดตอนนี้ที่เขาปรากฎตัวออกมา ก็ใช้กำแพงของกระท่อมไม้ช่วยพยุงตัวเอาไว้ ค่อยๆ เดินเข้ามาทีละก้าวแต่ว่าชัดเจนว่า เขารู้สึกร้อนใจ แต่ละก้าวล้วนเร่งรีบ มีหลายก้าวที่เกือบจะล้มขมำลงไปแล้ว"พี่ใหญ่..." กู้อวิ๋นซีตกใจ รีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว "ท่านบาดเจ็บหรือ? ใครทำร้ายท่าน?""ข้าไม่เป็นไร ซีเออร์ อย่า...เข้ามา"ตอนนี้กู้หนานฟงกลับมองเพียงเยี่ยนอี พูดขึ้นอย่างร้อนรน "อย่า...ทำร้ายนาง นาง...ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี"กู้อวิ๋นซีหันมามอง ถึงได้เห็นผู้หญิงชุดขาวที่ถูกฝ่ามือของเยี่ยนอีเข้าไปจนต้องนอนกองอยู่บนพื้นเป็นคนที่ไล่ตามพี่ใหญ่ตอนอยู่ที่พรรคไป๋ถันในวันนั้น คนที่ไม่ยอมให้พี่ใหญ่จากไปคนนั้น!"เขาคือผู้มีพระคุณของพี่ใหญ่!" กู้อวิ๋นซีรีบบอกเยี่ยนอีตกตะลึงนิดหน่อย ถึงค่อยถอนกำลังฝ่ามือออกผู้หญิงชุดขาวรีบดีดตัวลุกขึ้นทันที ไม่สนใจเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของตัวเอง นางรีบเดินไปทางกู้หนานฟงอย่างรวดเร็วกู้อวิ๋นซีโบกมีดสั้นในมือ ขวางหน้านางเอาไว้ผู้หญิงชุดขาวรีบพูดว่า "สามวันผ่านไปแล้ว คืนนี้พิษกู่ในตัวเขาจะกำเริบ! ข้ามาเพื่อช่ว
กู้อวิ๋นซีขมวดคิ้วมุ่น "ทำไม? ข้าเป็นไม่ได้เหรอ?"แววตาของมู่เฟยหย่ายังคงสงสัย "แต่ว่า จวินฉู่หลีไม่สามารถแต่งภรรยามีทายาทได้นี่นา!"กู้อวิ๋นซีคิดไปถึงวันนั้นทันที วันที่นางถูกวางยา ในช่วงที่สะลึมสะลืออยู่นั้น ได้ยินบทสนทนาระหว่างมู่หงยื่อและมู่อันหนิงขนาดมู่หงยื่อยังพูดว่า จวินฉู่หลีไม่สามารถแต่งภรรยามีทายาทได้"เหตุใดเจ้าจึงพูดเช่นนี้?" กู้อวิ๋นซีรู้สึกเกร็งเครียดในใจ แต่บนใบหน้าก็ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมามู่เฟยหย่าเป็นคนไม่คิดมาก นางกล่าวว่า "ตอนสมัยเด็กจวินฉู่หลีถูกพิษ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถถอนพิษได้ ทำได้เพียงอาศัยยาของพี่สาวข้าควบคุมพิษเอาไว้...""ดังนั้น พี่สาวเจ้ากับเสวียนอ๋อง รู้จักกันมานานแล้วอย่างนั้นเหรอ?" กู้อวิ๋นซีก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตัวเองต้องใส่ใจเรื่องของพวกเขาด้วยบางที อาจจะแค่ประหลาดใจก็เป็นได้มู่เฟยหย่าพยักหน้าลง "รู้จักกันมาหลายปีแล้ว พี่สาวของข้าชอบเสวียนอ๋องมากมาโดยตลอด น่าเสียดายที่แม่ของข้าไม่อนุญาตให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน"กู้อวิ๋นซีไม่ได้ถามเรื่องนี้ต่อวันนี้นางได้ยินจวินเย่เสวียนพูดว่า มู่อันหนิงเป็นหญิงศักดิ์สิทธิ์เกรงว่าคงจะเป็นประมาณว่า เป็นห
คืนนั้น ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกเช้าวันต่อมา กู้หนานฟงตกใจตื่นขึ้นมา ก็บอกว่าจะรีบกลับไปเมืองฝานทันทีส่วนมู่เฟยหย่า แน่นอนว่าก็ยินดีที่จะตามเขากลับไปหนานหลิงเด็กคนนี้ ใส่ใจพี่ใหญ่ของนางจริงๆแต่การที่ไม่สามารถถอนพิษหนอนกู่ของพี่ใหญ่ได้ ยังไงก็เป็นอันตรายอยู่ดีเมื่อคืนกู้อวิ๋นซีนอนหลับได้อย่างไม่สบายใจเลย เอาแต่นอนฝันร้ายตลอดนางฝันไปถึงคืนวันแต่งงานฝันถึงผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังนางที่กำลังครอบครองนางอย่างบ้าคลั่งคนนั้นตอนที่นางหันหน้ากลับไป ก็เห็นว่าเขาส่งยิ้มอย่างเย็นชามาให้กับนาง "เป็นอย่างไร? พอใจในตัวข้าหรือไม่?"กู้อวิ๋นซีตกใจจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากที่ตื่นขึ้นมา ร่างกายเย็นเฉียบ เหงื่อแตกทั้งตัวนางจำเป็นที่จะต้องรีบกลับไป จำเป็นจะต้องพบฉู่หลีให้ได้!...ตอนที่ทั้งห้าคนมาถึงเมืองฝาน ก็ได้รับข่าวหนึ่งทันที เมื่อคืน ทหารอูฉงฝีมือดีกลุ่มหนึ่ง แอบข้ามแม่น้ำจินชวนมาเพื่อจะลอบโจมตีโชคดีที่เยี่ยนอีได้สั่งให้คนรีบส่งข่าวกลับมาก่อนแล้ว ทหารกลุ่มนั้นถึงได้ถูกพวกเขากำจัดทิ้งไปได้ทั้งหมด!"ล้วนเป็นความดีความชอบของซีเออร์!" กู้หนานฟงตบไหล่ของกู้อวิ๋นซีเบาๆ" เสวียนอ๋องม
กู้อวิ๋นซีซัดเข็มเงินสองเล่มออกไปโดยสัญชาตญาณป้องกันตัวคิดไม่ถึงว่า พลังฝ่ามือของมู่อันหนิง กลับหายไปในพริบตาหายไปหมดเลย!รวบรวมพลังและเก็บกลับได้ขนาดนี้ วรยุทธ์ของผู้หญิงคนนี้สูงส่งถึงเพียงไหนกันเชียว แค่คิดก็รู้แล้วกู้อวิ๋นซีมองนางที่ถูกเข็มเงินของตัวเองซัดไปโดนด้วยใบหน้าเรียบเฉย แล้วก็ดูท่าทางที่ล้มลงไปบนพื้นราวกับได้รับบาดเจ็บหนักอย่างไร้อารมณ์ด้วยเช่นกันจังหวะที่มู่อันหนิงเก็บพลังจากฝ่ามือของนาง กู้อวิ๋นซีก็รู้แล้วว่าตัวเองตกหลุมพลางเข้าแล้วนอกศาลาริมน้ำ ร่างสูงเพรียวร่างหนึ่งกำลังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วมู่อันหนิงหันหน้ากลับไปมองเขา ขมวดคิ้วมุ่น "เย่เสวียน"จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร สีหน้าเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์อะไรเลยเขาเพียงกวาดสายตามองไปยังร่างของกู้อวิ๋นซี จากนั้นก็เดินไปอยู่ตรงหน้าของมู่อันหนิง ยื่นมือให้นางมู่อันหนิงค่อยๆ ยื่นมือออกไปอย่างอ่อนแรง อาศัยแรงจากฝ่ามือใหญ่ของเขา ฉุดตัวเองให้ลุกขึ้นมาแต่ก็คล้ายกับว่าตัวนางยังคงอ่อนแอมากอยู่ หลังจากที่ยืนขึ้นแล้ว ร่างกายก็อ่อนแรง ล้มลงไปในอ้อมแขนของจวินเย่เสวียนทันทีกู้อวิ๋นซีมองดูจวินเย่เสวียนจวินเย่เสวียนสีหน
"พระชายา!" เยี่ยนอีรีบไล่ตามไปทันที ไปดักอยู่เบื้องหน้าของกู้อวิ๋นซี"เยี่ยนอี สามีของข้ามาแล้ว เจ้ามีสิทธิอะไรและเหตุผลอะไร มาขวางไม่ให้ข้าไปเจอเขา?" กู้อวิ๋นซีถลึงตามองเขาเยี่ยนอีรู้สึกลำบากใจ "พระชายา มีรับสั่งให้ท่านอยู่ในห้อง ท่าน...""เขาไม่แยกแยะดีชั่ว เขาเป็นพี่ชายประสาอะไร? ผู้ชายเช่นนี้ มีสิทธิ์อะไรจะมาสั่งข้า?"กู้อวิ๋นซีก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว "หลีกไป!"แต่เยี่ยนอีกลับยังยืนตัวตรงท่านอ๋องมีรับสั่งให้เขาส่งพระชายากลับห้อง เขาไม่อาจให้นางไปที่ค่ายทหารได้"เยี่ยนอี เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถขวางข้าไว้ได้จริงๆ เหรอ?"นอกจากว่า เขากล้าที่จะฆ่านาง!กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก ทันใดนั้นก็กระแทกตัวเข้าไปทางหน้าอกเขาทันทีเมื่อเห็นว่า ร่างกายของทั้งคู่ใกล้จะปะทะกันแล้วเยี่ยนอีก็ตกใจจนต้องถอยหลังออกไปตามสัญชาตญาณร่างกายของพระชายา ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถแตะต้องได้!กู้อวิ๋นซีอาศัยจังหวะที่เขาไม่ทันระวัง วิ่งผ่านหน้าเขาไปทันทีนางรู้ว่าค่ายทหารอยู่ที่ไหน ตอนที่กลับมา นางไปสอบถามมาเรียบร้อยแล้วบนโลกนี้ จะต้องมีจวินฉู่หลีหนึ่งคน จวินเย่เสวียนหนึ่งคนแน่แต่ตอนนี้ ฐานะของทั้งสองคน ทำ
ที่แท้ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ไม่เคยให้โอกาสนางเลย!ที่แท้ เขาไม่เคยเชื่อในตัวนางเลย!มู่อันหนิงกำมือของตัวเองแน่น ในใจยิ่งรู้สึกแห้งแล้งขึ้นทุกที"ท่านไม่เคยอนุญาตให้ข้าแตะต้องตัวท่าน คืนนั้นที่ข้าขอกอดท่าน แต่ท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ เป็นเพราะว่าท่านรู้ว่านางกำลังมองดูอยู่ ใช่หรือไม่?"เหตุในนางจึงสัมผัสไม่ได้นะว่าตอนนั้นกู้อวิ๋นซีอยู่ใกล้ๆ ด้วย?รู้จักกันมาสิบปี เพราะว่าเลือดของนางสามารถควบคุมพิษที่อยู่ในร่างของจวินฉู่หลีได้ ดังนั้น จวินเย่เสวียนจึงปฏิบัติดีกับนางมาโดยตลอดนับได้ว่าเป็นมิตรแต่ถึงกระนั้น ไม่ว่านางจะแสดงออกหลายครั้งว่ามีใจให้เขา แต่เขาก็ทำตัวเย็นชากลับมาตลอดเอาแต่ปฏิเสธอยู่ร่ำไป ไม่เคยจะอนุญาตให้นางได้เข้าใกล้ตัวเองครั้งนี้ นางบอกว่าท่านแม่ต้องการให้นางรับช่วงต่อพรรคไป๋ถัน ดังนั้นต่อไปนางคงไม่มีโอกาสได้มาพบกับเขาอีกแล้วเพียงหวังอยากจะกอดเขา เพื่อตัดความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อเขาแรกเริ่มเดิมทีเขาก็ปฏิเสธ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด จู่ๆ เขาก็ยินยอมมู่อันหนิงยังคิดว่า ในที่สุดจวินเย่เสวียนก็มีใจให้กับนางสักทีคิดไม่ถึง ที่เขาตกลง เป็นเพราะต้องการจะยั่วโมโหผู้หญิงอีกคนต่าง