"เจ้าหมายความว่ายังไง?" ผู้หญิงคนนั้น กลับจวนแม่ทัพไปแล้วเหรอ?จวินเย่เสวียนสลัดผ้าห่มออก ก่อนจะลงจากเตียงมาเนื่องจากอาการเมาค้างจึงทำให้สมองของเขายังคงมึนๆ งงๆ อยู่จังหวะที่ลงมาจากเตียง ขาเขาก็พลันอ่อน จนเกือบจะต้องคุกเข่าลงไปบนพื้นเยียนเป่ยตกใจจนต้องรีบรุดเข้าไปช่วยพยุงเขา"ท่านอ๋อง พระชายาเขียนจดหมายไว้ฉบับหนึ่ง รับสั่งให้คนนำไปมอบให้กับท่านแม่ทัพกู้ที่จวนแม่ทัพ ส่วนนางออกเดินทางไปตั้งแต่ช่วงกลางดึกแล้วพ่ะย่ะค่ะ""อะไรคือออกเดินทางไปตั้งแต่ช่วงกลางดึก?" จวินเย่เสวียนยืนตัวตรง ผลักเขาออกไป "ไม่ใช่กลับจวนแม่ทัพไปแล้วเหรอ?"เยียนเป่ยมองไปที่เขาด้วยท่าทีหวาดกลัว "มะ ไม่ใช่กลับไปจวนแม่ทัพ พระชายาเขียนบอกในจดหมายว่า นางจะไปเมืองฝานเพื่อตามหากู้หนานฟงพ่ะย่ะค่ะ"ความเมามายในแววตาของจวินเย่เสวียน หายไปแล้วมากกว่าครึ่ง "พาใครไปบ้าง?"เยียนเป่ยพูดตอบอย่างหวาดกลัวและเป็นกังวลว่า "พาไปเพียง เพียงสาวรับใช้ของนาง ที่ชื่อว่าอันเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ""นังผู้หญิงโง่!""พระชายา พระชายาไม่โง่เลยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องไม่สู้...ลองอ่านเนื้อหาในจดหมายฉบับนี้ดูก่อนเถิด"พระชายาไม่ได้โง่จริงๆ เพียงแต่ คว
ฝีมือการขี่ม้าของกู้อวิ๋นซีไม่เลวเลยจริงๆจากเมืองหลวงถึงเมืองฝาน ทหารม้าจะต้องใช้เวลาเจ็ดวัน กองทัพทั่วไปต้องใช้เวลาสิบห้าวันแต่นางกลับใช้เวลาเพียงห้าวันแต่ว่า ในห้าวันนี้ นางจะนอนเพียงแค่สองชั่วโมงต่อวันภายในระยะเวลาสั้นๆ แค่ห้าวัน นางก็ซูบผอมลงไปมากแล้วอันเซี่ยมองดูแล้วยังรู้สึกสงสารจับใจ"คะ...คุณชายน้อย ผ่านช่องเขานี้ไปก็จะถึงเมืองฝานแล้ว คืนนี้พวกเรายังจะต้องเร่งเดินทางกันอีกหรือไม่ขอรับ?"อันเซี่ยได้ศึกษาแผนที่มาอย่างดีตั้งนางแล้วนางพูดว่า "คุณชาย ได้ยินว่าระแวกนี้...มีโจรภูเขา""พวกเราแยกกันไปสองทาง""ว่าไงนะ?" อันเซี่ยตกใจ รีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว "ไม่ได้ คุณชาย พวกเราจะต้องไปด้วยกัน ไม่ว่าจะพูดยังไงข้าก็จะไม่แยกจากท่านเด็ดขาด""อันเซี่ย เจ้าฟังข้า ข้าไม่อาจรอได้สักนาที แต่เราก็จะไปเสี่ยงด้วยกันทั้งคู่ไม่ได้ ระหว่างเรา จะต้องมีคนที่สามารถไปถึงเมืองฝานให้ได้"กู้อวิ๋นซียกฝ่ามือของนางขึ้นมา แล้ววาดเครื่องหมายหนึ่งลงไปบนฝ่ามือนาง"เครื่องหมายนี้ เจ้าจงจำไว้ให้ดี ถ้าหากว่าเห็นมัน ก็จะสามารถหาตัวพี่ใหญ่เจอได้ เจ้าต้องจำไว้ให้ดีๆ นะ!"เมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนที่พวกเขาถู
กู้อวิ๋นซีถูกจับได้แล้วที่ช่องเขาด้านหน้ามีโจรภูเขาสิบกว่าคนบุกเข้ามา ปิดล้อมนางไว้ในช่องเขาแห่งนี้ด้านหน้าหัวหน้ารองก็นำกำลังคนไล่ตามขึ้นมาเมื่อหัวหน้าสามเห็นรูปลักษณ์ภายนอกของกู้อวิ๋นซี นัยน์ตาพลันเคร่งขรึม จ้องไปที่หัวหน้ารอง "แค่นี้? เจ้าถึงกับขนาดต้องใช้ธนูฝ่าเมฆาเลยเหรอ?"ไม่รู้หรือไงว่าธนูฝ่าเมฆาในค่ายของพวกเขามันเป็นของล้ำค่าขนาดไหน?ของแพงขนาดนั้น ถึงจับเจ้าหนุ่มนี้ต้มกินก็ชดใช้ไม่ไหวหรอก!"นี่..." หัวหน้ารองรู้อยู่แล้วว่าตัวเองวู่วามไปหน่อย แต่ว่ามันโมโหนี่!"ฝีมือการขี่ม้าของเจ้าเด็กนี่ยอดเยี่ยมเกินไป พี่น้องเราสิบกว่าคนก็ตามไม่ทัน""ในช่องเขาก็วางค่ายกลท่อนไม้ไว้แล้วไม่ใช่หรือ?"พูดถึงเรื่องนี้ หัวหน้ารองก็ยิ่งโมโห "ใช้หมดแล้ว หลบได้หมด!""หลบได้หมด?" สายตาของหัวหน้าสามมองไปที่หน้าของกู้อวิ๋นซีอีกครั้งในที่สุดรูปร่างเล็กๆ ถ้าเทียบกับรูปร่างสูงใหญ่กำยำของพวกเขาแล้ว ก็เหมือนกับเป็นคนแคระคนหนึ่งถึงแม้เสื้อผ้าบนตัวจะสมบูรณ์ครบถ้วน แต่ก็เก่ามาก ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนมีเงินอะไรบนใบหน้าก็มีแต่คราบดินโคลน ดูก็ไม่ชัดว่าหน้าตาเป็นยังไงแต่ม้าที่ขี่มานั้น ก็ดูจะมีราคาอ
ใบหน้าของกู้อวิ๋นซีสกปรก เสื้อผ้าบนร่างกายก็เก่าๆแต่ตอนที่นางยื่นสัมภาระมาให้ มือนั้นกลับขาวเนียนละเอียดภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง ขาวจนแทบจะเรืองแสงได้!"หัวหน้ารอง หัวหน้าสาม นางเป็นเด็กสาว!" โจรภูเขาคนนั้นร้องขึ้นอย่างตกใจ!หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามต่างพากันอึ้งไป หัวหน้าสามโบกดาบใหญ่ในมือหนึ่งทีกู้อวิ๋นซีก็บังคับม้าถอยหลังทันที แต่ก็ไม่ทันดาบเล่มใหญ่นั้นไม่ได้โดนตัวนาง แต่ลมจากดาบก็พัดผ่านที่บริเวณบนหัวนางผ้าคลุมผมบนหัวถูกดาบตวัดลงมาฉับพลันกลุ่มเส้นผมยาวก็ตกลงมาราวกับน้ำตกเป็นเด็กสาวจริงๆ ด้วย!กู้อวิ๋นซีกระทุ้งท้องม้าหนึ่งที ตะโกนเสียงดัง "รีบวิ่ง!""ริอาจหลอกลวงข้า!" หัวหน้าสามยื่นมือวาดดาบออกไป "จะหนีไปไหน?"กู้อวิ๋นซีรู้สึกเพียงว่ามีลมแรงๆ พัดมาที่ตัวนางรู้สึกอึดอัดในอก กลิ่นเลือดคาวๆ พุ่งขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากทันทีนางยกมือขึ้นมาเตรียมจะขัดขืน แต่เนื่องจากเดินทางมาห้าวันห้าคืนแล้ว ตอนนี้นางไม่ได้เหลือแรงมากมายฝ่ามือนั้นกระทบลงบนตัวนางกู้อวิ๋นซีรู้สึกภาพตรงหน้ามืดสนิท ในที่สุดเรี่ยวแรงในร่างกายก็หมดลง จนกลิ้งตกจากหลังม้าลงมาหมดสิ้นสติไป...กู้อวิ๋นซีตื่น
เขา...ทำไมถึงมาปรากฎตัวอยู่ที่นี่ได้?กู้อวิ๋นซีรู้สึกเพียงหัวใจของตัวเองสั่นไหวอย่างรุนแรงไม่รู้ว่าด้วยความตกใจหรือดีใจ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นความซึ้งใจหรือว่าหวาดกลัวกันแน่เขาน่ากลัวยิ่งกว่าโจรภูเขาแต่ตอนนี้เขา บางทีอาจจะเป็นความหวังเดียวของนางแต่เมื่อหลายวันก่อนนางเพิ่งจะตบหน้าเขาไป ด้วยความดูถูกสุดๆด้วยนิสัยของเขา ไม่ฆ่านางก็นับว่าเป็นโชคดีสุดๆ แล้ว แล้วจะช่วยนางได้ยังไงอีก?คนที่เดินเข้ามาพร้อมกับหัวหน้าใหญ่ในเวลานี้ เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นจากดาบประทับอยู่ถึงแม้รอยแผลเป็นบนใบหน้าจะดูน่ากลัว แต่ด้วยท่าทีสูงศักดิ์ของเขากลับทำให้คนมองไม่อาจละสายตาได้ตอนที่พวกผู้หญิงได้เห็นเขา ต่างก็ตกตะลึงไปตามกันไม่เพียงไม่ตกใจกับรอยแผลเป็นน่าเกลียดบนใบหน้าของเขา แต่กลับมองด้วยสายตาหลงไหลเหตุใดจึงมีผู้ชายเช่นนี้อยู่ได้ หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว แต่ทั้งตัวกลับมีเสน่ห์ดึงดูดให้คนหลงใหล?"หัวหน้าใหญ่ คนนี้..." หัวหน้ารองมีสีหน้าประหลาดใจผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ ดูแล้วไม่ธรรมดาเลย!"โชคดีที่ได้น้องกู้คนนี้!" หัวหน้าใหญ่ตบไหล่ของชายหนุ่มคนนั้นก่อนพูดอย่างยิ้มแย้มว่า "หา
เมื่อเห็นว่ามือของหัวหน้าใหญ่ ใกล้จะจับโดนหน้าอกของนางแล้วกู้อวิ๋นซีก็ตกใจจนรีบหันตัวหลบทันทีหัวหน้าใหญ่ตาโตเป็นประกาย แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร กลับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข "เจ้าหนูน้อยฝีมือดีไม่เบาเลยนิ"พูดจบก็ยื่นมือออกมาจับอีกครั้งครั้งนี้เขาจับแขนของกู้อวิ๋นซีเอาไว้ได้ แล้วดึงนางมาอยู่ตรงหน้าเขาหัวหน้าใหญ่สีหน้าเย็นชา จ้องไปที่นางแล้วพูดออกมาอย่างหยาบโลน "ลองหลบอีกครั้งสิ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะจับเจ้าแก้ผ้าออกเสียตรงนี้ แล้วโชว์หนังสดให้พี่น้องทั้งหลายได้ดูเลยเป็นไง?"กู้อวิ๋นซีตกใจจนแทบจะลืมหายใจ กำหมัดเล็กๆ ไว้แน่นสายตาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางจวินเย่เสวียน แต่ก็เห็นจวินเย่เสวียนนั่งลงประจำที่กับผู้หญิงคนนั้นไปแล้วผู้หญิงคนนั้นรินเหล้าให้เขาจอกหนึ่ง เขายังดื่มมันลงไปอีกด้วยยังไม่ทันจะละสายตากลับมา กู้อวิ๋นซีก็รู้สึกร่างกายของนางเบาหวิว ถูกหัวหน้าใหญ่อุ้มขึ้นมาทั้งตัวหัวหน้าใหญ่อุ้มนางกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง ทิ้งตัวนางลงบนพื้นตรงระหว่างขาของเขา"มา พี่น้องทั้งหลาย ดื่ม!"ทั้งสุราทั้งเนื้อถูกยกขึ้นมา กู้อวิ๋นซีถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้กินอะไรมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม
หัวหน้าใหญ่ที่กำลังอุ้มกู้อวิ๋นซีสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็วนั้นคิดไม่ถึงว่า จู่ๆ จะมีมีดเล็กเล่มหนึ่ง ทาบลงมาบนคอของหัวหน้าใหญ่เป็นมีดที่เจ้าเด็กนี่ใช้หั่นเนื้อเมื่อครู่นี้ทุกคนต่างพากันตกตะลึงไม่มีใครเห็นเลยว่า นางได้ซ่อนมีดเล่มนี้เอาไว้หัวหน้าใหญ่เองก็มีสีหน้าตกใจ หลุบสายตาลงไปมองยังมีดที่กดอยู่บนคอของเขา ยังคงไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดีเด็กสาวที่ดูอ่อนแอไม่มีพละกำลังแม้จะฆ่าไก่ได้สักตัว กลับกล้าลงมือกับเขา?"รู้หรือไม่ว่าแค่ข้าออกแรงนิดเดียวก็สามารถหักคอเจ้าได้แล้ว?" สีหน้าของหัวหน้าใหญ่เคร่งขรึมกู้อวิ๋นซีขยับข้อมือนิดเดียว มีดเล่มนั้นก็กดลึกลงไปบนลำคอของหัวหน้าใหญ่จนเกิดเป็นแผลเลือดออก"อย่าทำร้ายหัวหน้าใหญ่นะ!" หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามอีกทั้งพวกโจรภูเขากลุ่มหนึ่งพากันลุกขึ้นยืนพวกผู้หญิงก็ยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ เด็กนี่ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?กู้อวิ๋นซีกระโดดลงออกจากอ้อมแขนของหัวหน้าใหญ่ แค่หัวหน้าใหญ่ขยับ มีดของนางก็ยิ่งกดลึกลงเลือดหยดหนึ่งไหลรินออกมาจากบนลำคอของหัวหน้าใหญ่ ถึงแม้ทุกคนจะโกรธ แต่ก็ไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นไปข้างหน้าสักคนสีหน้าของหัวหน้าใหญ่เย็นเ
กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก สัมผัสได้ว่าฝ่ามือใหญ่ของหัวหน้าใหญ่จับอยู่บนชุดของนางแค่เพียงเขาออกแรงนิดเดียว เสื้อผ้าบนร่างกายของนางก็จะถูกฉีกออกทันทีมือของกู้อวิ๋นซี จับมุมโต๊ะหนึ่งไว้ถึงนิ้วมือจะไม่มีแรงเลย แต่นางก็พยายามจะคว้าจับไว้นางยังจะต้องไปเมืองฝานเพื่อตามหาพี่ใหญ่ นางยังจะต้องช่วยคนในจวนแม่ทัพต่อให้ต้องโดนกระทำย่ำยีขนาดไหน นางก็จะตายไม่ได้ไม่ได้เด็ดขาดนางหลับตาลง เก็บซ่อนความรู้สึกสิ้นหวังทั้งหมดไว้ในดวงตาต่อให้ต้องถูกข่มขืนต่อหน้าทุกคน นางก็จะตายไม่ได้นางจะต้องมีชีวิตต่อไป..."หัวหน้าใหญ่ ข้าช่วยท่านไว้สองครั้ง ไม่ว่าข้าจะต้องการอะไร ท่านก็จะให้ได้ใช่หรือไม่?"จู่ๆ เสียงของจวินเย่เสวียนก็ดังขึ้นฟังดู นอกจากความเย็นชาโดยนิสัย ก็ดูจะสงบเรียบดีสงบนิ่ง เคร่งขรึม เย็นเยียบหัวหน้าใหญ่ที่กำลังจะดึงเสื้อผ้าของกู้อวิ๋นซีออก ชะงักนิ้วมือไปทันที หันไปมองเขาอย่างตกใจ "น้องกู้..."ตอนนี้ร่างกายของเขามันเกร็งเครียดเต็มที่ จนแทบจะระเบิดอยู่แล้วจะมาพูดเรื่องตอบแทนบุญคุณกับเขา...ตอนนี้เนี่ยนะ?จวินเย่เสวียนวางจอกลง ยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเขา"นังตัวแสบนี่ ฤทธิ์เยอะดี