หัวหน้าใหญ่ที่กำลังอุ้มกู้อวิ๋นซีสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็วนั้นคิดไม่ถึงว่า จู่ๆ จะมีมีดเล็กเล่มหนึ่ง ทาบลงมาบนคอของหัวหน้าใหญ่เป็นมีดที่เจ้าเด็กนี่ใช้หั่นเนื้อเมื่อครู่นี้ทุกคนต่างพากันตกตะลึงไม่มีใครเห็นเลยว่า นางได้ซ่อนมีดเล่มนี้เอาไว้หัวหน้าใหญ่เองก็มีสีหน้าตกใจ หลุบสายตาลงไปมองยังมีดที่กดอยู่บนคอของเขา ยังคงไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดีเด็กสาวที่ดูอ่อนแอไม่มีพละกำลังแม้จะฆ่าไก่ได้สักตัว กลับกล้าลงมือกับเขา?"รู้หรือไม่ว่าแค่ข้าออกแรงนิดเดียวก็สามารถหักคอเจ้าได้แล้ว?" สีหน้าของหัวหน้าใหญ่เคร่งขรึมกู้อวิ๋นซีขยับข้อมือนิดเดียว มีดเล่มนั้นก็กดลึกลงไปบนลำคอของหัวหน้าใหญ่จนเกิดเป็นแผลเลือดออก"อย่าทำร้ายหัวหน้าใหญ่นะ!" หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามอีกทั้งพวกโจรภูเขากลุ่มหนึ่งพากันลุกขึ้นยืนพวกผู้หญิงก็ยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ เด็กนี่ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?กู้อวิ๋นซีกระโดดลงออกจากอ้อมแขนของหัวหน้าใหญ่ แค่หัวหน้าใหญ่ขยับ มีดของนางก็ยิ่งกดลึกลงเลือดหยดหนึ่งไหลรินออกมาจากบนลำคอของหัวหน้าใหญ่ ถึงแม้ทุกคนจะโกรธ แต่ก็ไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นไปข้างหน้าสักคนสีหน้าของหัวหน้าใหญ่เย็นเ
กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก สัมผัสได้ว่าฝ่ามือใหญ่ของหัวหน้าใหญ่จับอยู่บนชุดของนางแค่เพียงเขาออกแรงนิดเดียว เสื้อผ้าบนร่างกายของนางก็จะถูกฉีกออกทันทีมือของกู้อวิ๋นซี จับมุมโต๊ะหนึ่งไว้ถึงนิ้วมือจะไม่มีแรงเลย แต่นางก็พยายามจะคว้าจับไว้นางยังจะต้องไปเมืองฝานเพื่อตามหาพี่ใหญ่ นางยังจะต้องช่วยคนในจวนแม่ทัพต่อให้ต้องโดนกระทำย่ำยีขนาดไหน นางก็จะตายไม่ได้ไม่ได้เด็ดขาดนางหลับตาลง เก็บซ่อนความรู้สึกสิ้นหวังทั้งหมดไว้ในดวงตาต่อให้ต้องถูกข่มขืนต่อหน้าทุกคน นางก็จะตายไม่ได้นางจะต้องมีชีวิตต่อไป..."หัวหน้าใหญ่ ข้าช่วยท่านไว้สองครั้ง ไม่ว่าข้าจะต้องการอะไร ท่านก็จะให้ได้ใช่หรือไม่?"จู่ๆ เสียงของจวินเย่เสวียนก็ดังขึ้นฟังดู นอกจากความเย็นชาโดยนิสัย ก็ดูจะสงบเรียบดีสงบนิ่ง เคร่งขรึม เย็นเยียบหัวหน้าใหญ่ที่กำลังจะดึงเสื้อผ้าของกู้อวิ๋นซีออก ชะงักนิ้วมือไปทันที หันไปมองเขาอย่างตกใจ "น้องกู้..."ตอนนี้ร่างกายของเขามันเกร็งเครียดเต็มที่ จนแทบจะระเบิดอยู่แล้วจะมาพูดเรื่องตอบแทนบุญคุณกับเขา...ตอนนี้เนี่ยนะ?จวินเย่เสวียนวางจอกลง ยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเขา"นังตัวแสบนี่ ฤทธิ์เยอะดี
ยิ้มนี้ เป็นรอยยิ้มของฉู่หลีชัดๆ!หนึ่งปีที่ผ่านมา ตอนที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ฉู่หลีก็ยิ้มแบบนี้เลย!กู้อวิ๋นซีจ้องมองไปที่รอยยิ้มตรงมุมปากของของจวินเย่เสวียน จนลืมหายใจไปชั่วขณะหนึ่งฉู่หลี เขาก็คือฉู่หลี!จวินเย่เสวียนนัยน์ตาเคร่งขรึม ที่มุมปากยังคงมีรอยยิ้มอยู่บางส่วนแต่รอยยิ้มนั้นกลับเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเย็นเยียบน่ากลัวในฉับพลัน "ทำไม? ถึงตอนนี้ ยังคงแยกระหว่างข้ากับสามีของเจ้าไม่ออกอีกอย่างนั้นหรือ?""หรือว่า เจ้าหวังอยากให้ข้าเป็นสามีของเจ้ามากกว่า?"ไอเย็นเยียบนี้...ทำให้กู้อวิ๋นซีตั้งสติขึ้นได้ฉับพลัน "องค์ชายสี่...""ยังรู้ด้วยเหรอว่าข้าคือองค์ชายสี่ของเจ้า!" จวินเย่เสวียนสะบัดเสียงเย็นกู้อวิ๋นซีกระพริบตาปริบๆ อยากจะมองหน้าเขาให้ชัดเจน แต่ไม่ว่ายังไงก็มองไม่ชัดสักทีเมื่อครู่ มีจังหวะหนึ่งที่นางคิดว่า เขาเป็นฉู่หลีจริงๆ!พอมาดูตอนนี้ เขาก็ได้เปลี่ยนกลับไปเป็นองค์ชายสี่โดยสมบูรณ์แล้วกู้อวิ๋นซีรู้สึกว่าสมองของนางดูจะใช้การไม่ได้แล้ว"องค์ชายสี่ ท่าน...มาเพื่อช่วยข้าจริงๆ ใช่ไหม?"ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทะเลาะกับเขา เมื่อกี้นางสิ้นหวังมากจริงๆ และก็กลัวมากด้วยห
จวินเย่เสวียนถูกนางทำจนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือจะร้องไห้ดีในหน้าเล็กๆ นั้น ขยับเข้ามาอยู่ตรงหน้าของตัวเอง เพื่อรอให้เขาตบแถมยังเร่งให้เร็วๆ อีก!กู้อวิ๋นซีก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ได้แต่ปิดตารอต่อไปแต่สิ่งที่นางได้จากการรอ ไม่ใช่บทลงโทษจากเขา แต่เป็น ไออุ่นๆ ที่ข้อมือจวินเย่เสวียนจับมือของนางไว้ ใช้พลังปราณรักษาบาดแผลที่ข้อมือของนางอุ่นจัง บาดแผลก็เหมือนจะไม่ค่อยเจ็บแล้ว"องค์ชายสี่..." กู้อวิ๋นซีลืมตาขึ้น มองเขาถึงแม้บนใบหน้าของจวินเย่เสวียนจะมีรอยแผลเป็น แต่ใบหน้านี้ กลับยังดูหล่อเหลาอย่างบอกไม่ถูกนางตบเขา แต่เขากลับไม่เพียงไม่เกลียดนาง ยังมาช่วยนางความจริง หากว่าคนที่นางได้พบตอนนั้นไม่ใช่ฉู่หลี บางที...นางก็คงจะชอบองค์ชายสี่ไปแล้วมั้ง?กู้อวิ๋นซีดึงสติกลับมาทันที รีบหลบสายตาลง ไม่มองเขาอีกนี่นางคิดอะไรเนี่ย?นางเป็นภรรยาของฉู่หลีนะ ห้ามคิดอะไรเกินเลยกับองค์ชายสี่เด็ดขาด"องค์ชายสี่ อีกเดี๋ยวพวกเราจะทำเช่นไรดี? ด้านล่างคงจะมีคนเฝ้าอยู่เต็มไปหมดใช่หรือไม่?""เจ้ารู้ด้วยเหรอว่าด้านล่างมีคนเฝ้าอยู่ แล้วยังกล้าจับหัวหน้าใหญ่เป็นตัวประกันบังคับให้พาออกไปอีก?"เขารั
"อะ...อื้อ..."มือทั้งสองข้างของกู้อวิ๋นซีวางอยู่บนหน้าอกของจวินเย่เสวียน คิดจะพลักเขาออกโดยสัญชาตญาณองค์ชายสี่ จูบนาง...แต่นางจำได้ว่า เมื่อกี้เขาพูดว่าให้นาง เชื่อฟัง อย่าดื้อ!นางไม่กล้าออกแรง และก็เพราะว่าไม่มีแรงเนื่องจากโดนฝ่ามือตบไปที่ไหล่เมื่อครู่ด้วยมือทั้งสองข้างจึงได้เปลี่ยนมากำปกเสื้อของเขาเอาไว้แทน ไม่กล้าขยับริมฝีปากของจวินเย่เสวียน ประทับลงไปบนริมฝีปากของนางเบาๆเดิมทีคิดว่าจะกดจูบลงไปเบาๆ เท่านั้นแต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าใหญ่จะผลักประตูเปิดแล้วเดินเข้ามาจริงๆนัยน์ตาของจวินเย่เสวียนเคร่งขรึม จึงได้จูบหนักขึ้นทันทีอย่างลืมตัวคนตัวเล็กใต้ร่างตกใจแย่แล้ว เดิมคิดจะผลักเขาออกแต่จวินเย่เสวียนกลับจับเอามือทั้งสองของนางไปไว้ด้านบนหัว ด้วยมือข้างเดียวส่วนอีกมือหนึ่งก็ลูบลงไปด้านล่างตามคอเสื้อที่ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว"อื้อ..."กู้อวิ๋นซีเบิกตาโพลง ครั้งนี้นางตกใจจริงๆ คิดจะขัดขืนสุดกำลังแต่นางไม่อาจดิ้นหลุดออกได้มือขององค์ชายสี่กำลังจับไปที่...ของนาง"อื้อๆ..."ตอนที่หัวหน้าใหญ่เข้ามา ก็เห็นภาพนี้เข้าทันทีน้องกู้ทาบทับบนร่างของแม่หญิงคนงามอยู่ ร่
ทันใดนั้นจวินเย่เสวียนก็ก้มหน้าลงไปใกล้กู้อวิ๋นซีตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่คัดค้านเสียงเบาว่า "องค์ชายสี่...อย่าทำแบบนี้ มือ...มือ...""มือทำไม?" จวินเย่เสวียนถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่ามือของตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่เพราะว่ารู้ ลมหายใจถึงได้สับสนวุ่นวายถึงเพียงนี้กู้อวิ๋นซีร้อนใจจนดวงตาทั้งคู่แดงก่ำเขายังจะถามอีกว่า "มือทำไม" ! มือของเขา...ยังกำ..."องค์ชายสี่...""อย่าพูด" ริมฝีปากของจวินเย่เสวียน ขยับเข้าใกล้เพิ่มขึ้นอีกใกล้กันขนาดนี้ ลมหายใจที่เขาพ่นออกมาก็ปะทะเข้าหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างจังจังหวะหัวใจของเขา ราวกับสอดประสานจังหวะไปพร้อมกับจังหวะหัวใจของนางอย่างไรอย่างนั้นหัวใจของคนทั้งคู่ ต่างก็เต้นระรัวไปพร้อมกัน!ร้อน! ร้อนจนรู้สึกทรมานไปทั้งร่าง"อืม..." นางแค่เพียงอยากจะออกไปจากใต้ร่างของเขา แต่คิดไม่ถึงว่า เพิ่งจะขยับนิดเดียว ความร้อนรุ่มจากการสัมผัสของฝ่ามือเขาจะยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีกแค่ขยับ ก็อดที่จะร้องอือออในลำคอออกมาไม่ได้หัวใจของจวินเย่เสวียน ถูกเสียงร้องอือออของนางทำให้สติหลุดลอยไปหมด!นี่...เจ้าตัวเล็กช่างยั่วยวนนัก!ลมหายใจของเขาหนัก
จิตสำนึกกับความต้องการของจวินเย่เสวียนกำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง!ขนาดกู้อวิ๋นซียังรู้สึกได้จากลมหายใจที่สับสนนี้ ว่ามันกำลังสู้กันดุเดือดเพียงไรนางไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย ก้มหน้าลงไปมอง ในสายตาก็เห็นว่าฝ่ามือของเขายังคงกอบกุมอยู่บนร่างกายของนางร่างกายของนางเกร็งแข็งไปหมด รู้สึกทั้งหวาดกลัวและไม่สบายใจอยากจะผลักเขาออกอย่างรุนแรง แต่ก็กลัวว่าการขัดขืนของนาง จะทำให้เขากระทำการอะไรที่น่ากลัวตอบกลับมาอีก"อย่าขยับ" เสียงของจวินเย่เสวียนดังขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งดูแหบและโหดกว่าเมื่อครู่อย่างพยายามอดกลั้นอดกลั้นความเจ็บปวด!ขนาดกู้อวิ๋นซีเองก็ยังรับรู้ได้นางไม่กล้าขยับแล้วจริงๆ!หวังเพียงว่าเขาจะสงบจิตใจได้อย่างรวดเร็ว รีบพานางออกไปสักทีสภาพในตอนนี้ ช่างน่าอายจนอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินไปเลยจริงๆ!ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ลมหายใจของจวินเย่เสวียนจึงสงบลงได้บ้าง ในที่สุด เขาก็เงยหน้าขึ้นจากลำคอของนางก้มลงไปมองหน้านาง ดวงตาของเด็กนี่ยังมีน้ำตาคลออยู่ มองเขาด้วยสายตาที่หวาดกลัวความต้องการที่จวินเย่เสวียนพยายามควบคุมได้อย่างยากลำบาก ก็ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง"หลับตา ห้ามมองข้า!" เขา
สิบสองทหารม้ามาแล้ว!ด้านนอก เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดจวินเย่เสวียนวางกู้อวิ๋นซีไว้บนแขนด้านหนึ่งของตนเองกู้อวิ๋นซีตกใจจนตะลึงไป ไม่อยากจะเชื่อเลย นี่นางกำลังนั่งอยู่บนแขนขององค์ชายสี่หรือเนี่ย!เขาอุ้มนางด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือ ก็จับกระบี่ยาวเอาไว้ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปเอามาตอนไหนมือถือกระบี่ยาว เท้าก็เตะประตูห้องของหัวหน้าใหญ่ให้เปิดออก"น้องกู้..." หัวหน้าใหญ่ได้ยินเสียงต่อสู้ด้านนอกแล้ว ตอนนี้ก็สร่างเมาเรียบร้อยแล้วผลักหญิงสาวในอ้อมกอดออก เพิ่งจะใส่เสื้อผ้าเสร็จเตรียมจะออกไปดูสถานการณ์ด้านนอก ก็เห็นจวินเย่เสวียนถีบประตูเข้ามาแล้วแม่หญิงคนงามที่เขาคิดถึงคนนั้น ตอนนี้ก็นั่งอยู่บนแขนของเขา!ถึงอย่างไรก็เป็นหญิงสาวที่บรรลุนิติภาวะแล้ว น้องกู้อุ้มนางด้วยแขนข้างเดียว แถมยังสามารถให้นางนั่งได้อยู่มั่นคงขนาดนั้น!กำลังแขนนี่ น่าตกใจมากขนาดเขาที่เป็นถึงหัวหน้าใหญ่ค่ายโจรภูเขามาหลายปี ยังเทียบไม่ติดเลยแต่ตอนนี้ น้องกู้ถือกระบี่ยาวบุกเข้ามา หมายความว่ายังไงกันแน่?"เจ้านี่ฉีกเสื้อผ้าของเจ้า เจ้าคิดจะทำเช่นไร?" จวินเย่เสวียนยกมือข้างหนึ่ง ชี้ปลายกระบี่ไปที่หัวหน้าใหญ่แล้วหันไ