อันเซี่ยกลับเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าสิ้นหวังแต่เมื่อเห็นคุณหนูที่ยังนอนหลับไม่ได้สติอยู่ นางก็พยายามทำใจฮึดสู้ขึ้นมานางเดินไปตักน้ำมาอ่างหนึ่งจากสวนด้านหลัง ระหว่างทางก็ไม่รู้ว่าทำหกไปเท่าไรเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอแต่อย่างน้อยก็ยังพอที่จะใช้บิดผ้าขนหนูเพื่อมาแปะไว้บนหน้าผากของกู้อวิ๋นซี เพื่อช่วยลดอุณหภูมิให้นางนางใช้ยาไม่เป็น ในหอหนิงซีแห่งนี้ นอกจากยาในกล่องยาของคุณหนูก็ไม่มียาอื่นๆ อีกเคราะห์กรรมในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะสามารถผ่านมันไปได้หรือไม่ถูกวางยา แท้งลูก มีไข้สูง..."คุณหนู ท่านจะต้องเข้มแข็งไว้นะเจ้าคะ จะต้องกลับมาแข็งแรงดีนะเจ้าคะ"อันเซี่ยกุมมือที่เย็นเยียบของกู้อวิ๋นซีเอาไว้ ไอออกมาสองที ตอนที่ไอก็มีเลือดกระเด็นออกมาติดอยู่ข้างริมฝีปาก ทำให้ตอนนี้มีแต่กลิ่นคาวเลือดเต็มไปหมดแต่นางไม่สนใจ ยังคงกุมมือเล็กๆ ของกู้อวิ๋นซีเอาไว้แน่น "คุณหนู จวนอ๋องแห่งนี้ นอกจากท่านอ๋องสองคนแล้ว คนอื่นๆ ต่างก็อยากให้พวกเราตายไปกันทั้งนั้น""แต่พวกเขาไม่กล้าฆ่าพวกเราตรงๆ พวกเขาอยากจะขังพวกเราไว้จนตายอยู่ในนี้ ให้พวกเราค่อยๆ ตายไปเอง""คุณหนู ท่านจะต้องหายดี จะต้องไม่ทำใ
พวกนางถูกขังมาครึ่งเดือนแล้วทหารองครักษ์ไม่อนุญาตให้พวกนางก้าวออกไปด้านนอกเลยแม้แต่ครึ่งก้าวและก็ไม่มีใครเข้ามาส่งข้าวของให้หอหนิงซีแห่งนี้ ราวกับเป็นเรือนร้างในเรือนที่กว้างขวางเช่นนี้ นอกจากนายบ่าวสองคนที่เดินออกไปข้างนอกบ้างเป็นบางครั้ง ก็ไม่มีคนอื่นอีก"คุณหนู คืนนี้ข้าจะออกไปดู ไปดูสิว่าเสวียนอ๋องทำอะไรอยู่กันแน่!"ครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่เคยมาเยี่ยมหาคุณหนูเลยสักครั้ง!อันเซี่ยพูดอย่างโมโห "หรือว่า เขาเชื่อคำพูดของหลานโจวจริงๆ เชื่อว่าคุณหนูจงใจที่จะไม่เก็บ...ไม่เก็บ..."สายตาของอันเซี่ยมองไปยังตรงบริเวณท้องน้อยของกู้อวิ๋นซีคำพูดต่อจากนั้น นางไม่กล้าพูดออกไปอีกเด็กได้จากร่างกายของคุณหนูไปกว่าครึ่งเดือนแล้วชุดกระโปรงที่เปื้อนเลือดนั้น นางได้นำไปฝังไว้ที่ด้านหลังหอ ราวกับว่า นางได้ฝังลูกของคุณหนูไปแล้วจริงๆนางรู้ดีจนถึงตอนนี้ แค่คุณหนูคิดถึงลูกนางก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดใจแต่ว่า กู้อวิ๋นซีไม่ได้อ่อนแออย่างที่นางคิดเรื่องที่ไม่มีทางแก้ไข นางก็ทำได้เพียงยอมรับความจริงเท่านั้น"ใช้ร่างกายตัวเองทดสอบพิษ เพื่อปรุงซีรั่มให้อาหลี เป็นเรื่องที่ข้าทำเองอย่างเต็มใจจริงๆ เคร
พลังปราณวิชาตัวเบาของอันเซี่ยฟื้นฟูกลับมาแล้วตอนนี้การจะกระโดดขึ้นบนกำแพงสูงก็เป็นเรื่องง่ายดายทีเดียวเดิมทีนางคิดแค่จะไปหยิบเอาวัตถุดิบออกมาจากห้องครัวใหญ่ในเรือนด้านหลังบางส่วนเท่านั้นแต่ว่าเมื่อได้ออกมาก็รู้สึกไม่พอใจไม่รู้อะไรดลใจถึงได้ไปที่หอชมจันทร์บรรยากาศในหอชมจันทร์เหมือนกับหอหนิงซีไม่มีผิด ช่างเงียบสงบไม่ออกมานานขนาดนี้ อันเซี่ยเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่จวนอ๋องบ้างแต่การคุ้มกันที่หอชมจันทร์ดูจะมากกว่าเมื่อก่อนอีกอย่างน้อยหนึ่งเท่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?อันเซี่ยจำที่คุณหนูกำชับไว้ได้ ห้ามบุ่มบ่าม แต่ว่า นางอยากจะเข้าไปพูดกับเสวียนอ๋องด้วยตัวเองสักประโยคว่าเขาเข้าใจคุณหนูผิดแล้ว!ความรู้สึกที่คุณหนูมีต่อเสวียนอ๋อง เป็นเรื่องจริงสิ่งที่หลานโจวพูดทั้งหมด ล้วนเป็นเรื่องโกหก!อันเซี่ยลังเลอยู่นาน แต่สุดท้ายก็อดไม่ไหว กระโดดขึ้นไปบนหลังคาหอชมจันทร์นางรู้ว่าห้องนอนของเสวียนอ๋องอยู่ที่ไหนพยายามคลำไปตลอดทาง ในที่สุดก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากด้านนอกห้องนอนของจวินเย่เสวียน"ข้าก็เพียงเข้าไปดูเขาเท่านั้น เหตุใดเจ้าเอาแต่ขวางข้าเช่นนี้? ข้าก็เรียนหม
"อ๊า!" อันเซี่ยรู้สึกเจ็บปวดที่น่อง ปึก เสียงนางล้มลงไปบนพื้นกระบี่ยาวของทหารองครักษ์พาดลงไปบนลำคอของนางทันที"นี่...ไม่ใช่สาวใช้จากหอหนิงซีหรอกเหรอ?" มีทหารนายหนึ่งจำได้แต่มู่อันหนิงกลับเดินเข้ามาช้าๆ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "สาวใช้จากหอหนิงซีอะไรกันล่ะ? คนจากหอหนิงซีทำผิดต่อเสวียนอ๋อง ยังถูกกักบริเวณอยู่เลย จะหนีออกมาได้อย่างไร?"รอยยิ้มในสายตาของนางแฝงไว้ด้วยความเย็นชาจากจิตสังหาร"คือ...""ข้าคือสาวใช้ประจำตัวของพระชายาหลีอ๋องชื่อว่าอันเซี่ย ข้าเพียงอยากมาพบท่านอ๋อง ข้าไม่ใช่คนร้าย!" อันเซี่ยตะโกนเสียงดัง"พูดเหลวไหลอะไร? เจ้านั่นแหละคนร้าย! ทหาร สังหารนางซะ!"นังแพศยากู้อวิ๋นซี จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตายใจ!มู่อันหนิงยังคิดว่านางถูกขังนานขนาดนั้น น่าจะตายไปได้ตั้งนานแล้ว!คิดไม่ถึงเลยว่านังแพศยานั่นจะยังไม่ตาย แถมยังพยายามหาวิธีที่จะพลิกเกมอีกนางไม่วันยอมให้นางมีโอกาสพลิกเกมได้แน่"เร็ว! ฆ่านางซะ!"แต่ทหารองครักษ์ที่อยู่โดยรอบกลับเพียงชี้กระบี่ไปทางอันเซี่ย แต่ไม่มีใครสักคนที่กล้าเดินขึ้นไปสังหารนางนี่เป็นสาวใช้ของหอหนิงซีชัดๆ ถึงแม้คนที่อยู่ในที่นั้นจะไม่ได้รู้จักหมดท
อันเซี่ยรู้สึกสิ้นหวังมากต้องโทษที่นางไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของคุณหนู!นางไม่กลัวที่จะต้องตาย แต่กลัวว่าหากคุณหนูเห็นสภาพศพที่ถูกแยกชิ้นส่วนของนางจะเสียใจจนสิ้นหวังขออภัยนะเจ้าคะคุณหนู ข้าไม่สามารถรับใช้ท่านได้อีกแล้วนางหลับตาลง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบี่ยาวของมู่อันหนิง นางไม่ได้หลบ แต่กลับรวบรวมความกล้าชนยืดอกของตัวเองออกไปรับทันทีถึงอย่างไรก็ต้องตาย นางจะไม่ยอมโดนดูถูกเด็ดขาด!เดิมคิดว่าจะต้องตายแน่นอนคิดไม่ถึงว่ากลับได้ยินเพียงเสียงเคร้งคล้ายกับเสียงกระบี่ยาวสองเล่มกระทบกันความเจ็บปวดที่คาดการณ์เอาไว้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับร่างกายของนางมีคนมาช่วยนางแล้ว!เป็นคนของเสวียนอ๋องอย่างนั้นเหรอ?อันเซี่ยดีใจสุดขีด รีบลืมตาขึ้นในทันทีกลับคิดไม่ถึงว่าเงาร่างด้านหน้าที่ปรากฎสู่สายตาจะเป็นของกู้อวิ๋นซี"คุณหนู!" อันเซี่ยพยายามอดกลั้นความเจ็บปวด ยืนขึ้นมาอย่างยากลำบาก จากนั้นก็เดินทุลักทุเลมาอยู่ข้างกายของกู้อวิ๋นซี"คุณหนู ระวังผู้หญิงสารเลวคนนี้นะเจ้าคะ! อาวุธลับของนาง...อาวุธลับมีพิษ!"อยากจะปกป้องให้กู้อวิ๋นซีไปยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง แต่คิดไม่ถึงว่า ยังไม่ทันจะเดินขึ้นไปก็ถ
เมื่อเหล่าทหารองครักษ์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจในทันใดเมื่อมองใบหน้าที่จริงจังของกู้อวิ๋นซี แต่ละคนก็พลันรู้สึกอับอายขึ้นมาในฉับพลันท่านอ๋องสองคน คนหนึ่งออกนอกเมืองไป ส่วนอีกคนก็ป่วยหนักไม่สบาย ขนาดเยียนเป่ยกับเยี่ยนอียังไม่มีคำสั่งใดๆเหตุใดพวกเขาถึงได้เชื่อฟังคำสั่งของมู่อันหนิงลงมือรังแกพระชายาของจวนอ๋องตัวเองได้?"แต่...แต่นางบอกว่า...ท่านทำร้ายทายาทของราชวงศ์..." ไม่รู้ว่าทหารองครักษ์คนไหน ก้มหน้าพูดออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบาในใจของทุกคนเองก็มีความสงสัยนี้ก่อนหน้านี้ที่หอหนิงซีเคยเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ได้ยินว่าเสวียนอ๋องเปิดป่วยหนักขึ้นที่หอหนิงซีดังนั้น เมื่อมีคนบอกว่าท่านอ๋องกักบริเวณกู้อวิ๋นซี ทุกคนก็เลยพากันเชื่อความจริง ท่านอ๋องอีกทั้งคนที่อยู่ข้างกายท่านอ๋อง ก็ไม่มีใครเคยพูดอะไรเลยจริงๆ"พวกเจ้าอย่าได้ไปฟังนางพูดจาเหลวไหล!"มู่อันหนิงจ้องหน้าพวกเขาอย่างโมโห แล้วพูดว่า "นางทำให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าต้องหมดสติไม่ยอมฟื้น พวกเจ้ายังจะเชื่อฟังที่นางพูดอีกเหรอ?"เหล่าทหารองครักษ์ยังคงลังเลอยู่อย่างนั้นการที่ท่านอ๋องหมดสติไม่ยอมฟื้นย่อมต้องเกี่ยวกับพระชายาหลีอ๋องอยู่แล้
อันเซี่ยเองก็พบความจริงข้อนี้แล้ว รีบดึงตัวกู้อวิ๋นซีในทันที "คุณหนู นาง...นางซ่อนไว้ซะมิดเลย"พวกทหารองครักษ์คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่อันหนิงแน่!เป็นเช่นนี้ต่อไป คุณหนูคงจะต้องตายด้วยน้ำมือของมู่อันหนิงแน่ทหารองครักษ์สิบกว่านายเองก็ตกใจจนอ้าปากค้าคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะมีวรยุทธ์สูงส่งเพียงนี้!เมื่อก่อนนางปกปิดเอาไว้ ทุกคนจึงไม่มีใครดูออก!"พระชายา รีบไปหาเยี่ยนอีเถอะ!" ในจวนอ๋องของพวกเขา เกรงว่าขนาดเยียนเป่ยเองก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่อันหนิงเลยมีก็แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งข้างกายของเสวียนอ๋อง เยี่ยนอี ถึงจะต่อกรกับผู้หญิงคนนี้ได้!เดิมทีสิบกว่าคนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะปกป้องกู้อวิ๋นซีสักเท่าไร แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นวรยุทธ์ที่กู้อวิ๋นซีปกปิดเอาไว้ แต่ละคนก็พากับเลือดร้อนขึ้นมาในทันใดจะไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงคนนี้ทำอันตรายพระชายาของพวกเขาได้แน่!"พระชายา รีบไป! ไปหอชมจันทร์ หาเยี่ยนอี เร็ว!"มีหลายคนถือกระบี่วิ่งเข้าไปทางมู่อันหนิงกู้อวิ๋นซีรีบคว้าแขนของอันเซี่ยแล้วหมุนตัววิ่งออกไปทันที "อันเซี่ย เร็ว!"อันเซี่ยกัดฟัน พยายามให้ความร่วมมืออย่างสุดความสามารถแต่นางเดิ
ในตอนที่มู่อันหนิงยังไม่ทันที่จะได้ตอบสนองอะไร กู้อวิ๋นซีก็สะบัดมือส่งเข็มเงินสามเล่มไปทางตำแหน่งหัวใจของมู่อันหนิง"เจ้า..." มู่อันหนิงไม่คาดคิดเรื่องนี้มาก่อนว่านางจะกล้าใช้วิธียอมตายเพื่อทำร้ายตัวเองได้เช่นนี้!มู่อันหนิงตกใจจนรีบชักกระบี่ยาวกลับโดยสัญชาติญาณ เซถอยหลังไป พยายามหลบเข็มเงินสามเล่มนั้นคิดไม่ถึงว่าจะมีอีกสามเล่มส่งมาตรงหน้านางนังผู้หญิงแพศยา!เคร้งๆ ๆ มู่อันหนิงกับเข็มเงินทั้งสามเล่มเอาไว้ได้!กำลังจะลงมือกับกู้อวิ๋นซี แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีจะไม่สนใจสิ่งใด อาศัยจังหวะที่นางหลบเข็มเงิน มาอยู่ตรงหน้าของนางได้จากนั้นก็ใช้หัวกระแทกเข้าที่ตัวของนาง"อื้อออ" มู่อันหนิงถูกชนจนล้มลงไปกับพื้น ที่ตำแหน่งหัวใจถูกเข็มเงินเล่มหนึ่งปักไว้อยู่รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอย่างมาก มู่อันหนิงอ้าปากกระอักเลือดออกมาฝ่ามือของนางตบไปที่ไหล่ของกู้อวิ๋นซี ออกแรงผลักกู้อวิ๋นซีออกไป จากนั้นก็ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นมองไปที่ใบหน้าของกู้อวิ๋นซี"นังแพศยา เจ้ากล้าทำร้ายข้า! ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!"สะบัดกระบี่ยาวหนึ่งที ครั้งนี้ไม่มีการลังเลใดๆ ออกแรงแทงไปที่ใบหน้าของกู้อวิ๋น