เมื่อหนึ่งปีก่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?มือของกู้อวิ๋นซีเคลื่อนลงมาแตะที่หน้าท้องของตัวเองอย่างเผลอไผลเกิดเรื่องอะไรขึ้นนางไม่รู้ นางรู้แค่ว่า ท้องของนางเริ่มเจ็บจี๊ดขึ้นมาอีกแล้วเดิมทีเยียนเป่ยยังมีคำพูดที่อยากจะพูดอีกมากมาย แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ตัวเองเพิ่งจะพูดไปเท่านี้ สีหน้าของพระชายาก็เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ขนาดนี้แล้วใบหน้าของนางขาวซีด คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุ่นราวกับกำลังเจ็บปวดอย่างมาก"พระชายา?" เยียนเป่ยตกใจมาก สายตามองตามมือของนาง มองไปที่บริเวณหน้าท้องของนาง"พระชายา ท่าน...ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่สบายตรงไหนหรือไม่?"ให้ตายเถอะ! เขาไม่ควรพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจพระชายาพวกนี้เลย!หากว่าท่านอ๋องรู้เข้า ท่านอ๋องจะต้องแค้นเขามากแน่ๆ!"พระชายา กระหม่อม...กระหม่อมล่วงเกินท่านแล้ว! ขอพระชายาโปรดอภัย กระหม่อมไม่กล้าอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"แต่กู้อวิ๋นซีก็ยังคงกุมท้องอยู่อย่างนั้นด้วยใบหน้าซีดขาวบริเวณกระหม่อมค่อยๆ มีเหงื่อเย็นผุดซึมออกมาช้าๆท่าทางแบบนี้ดูก็รู้ว่าเจ็บปวดอย่างมากเยียนเป่ยตกใจจนรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว รีบหมุนตัวจะเดินออกไป "พระชายา กระหม่อมจะไปเชิญหมอหลวงมาเดี๋ยวน
"องค์ชายสี่ ท่านไม่ควรจะนั่งตรงนี้นะเพคะ" กู้อวิ๋นซีพูดเตือนด้วยเสียงเบาๆเมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจ นางก็จะลุกขึ้นยืนทันทีแต่นางพบว่าตัวเองไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้หลังจากที่จวินเย่เสวียนนั่งลง เขาก็ใช้ขาของเขาเหยียบกระโปรงของนางเอาไว้นางขยับไม่ได้แล้ว!"องค์ชายสี่!" กู้อวิ๋นซีทั้งโมโหทั้งร้อนใจ!มีคนมองอยู่มากมายขนาดนี้ เขาไม่ระมัดระวังตัวหน่อยเลยเหรอ?ไม่รู้หรือไงว่ามีสายตากี่คู่กำลังจับตามองเขาอยู่?"เจ้าบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคืนนี้ห้ามให้ข้าดื่มเหล้า?"จวินเย่เสวียนก้มหน้า จ้องมองไปยังใบหน้าเล็กๆ ที่กำลังกระวนกระวายของนางเขาหรี่ตามอง สะบัดเสียงหนึ่งที "เจ้าอยากให้ข้าไปแล้วโดนคนพวกนั้นมอมเหล้าเหรอ?""ไม่ใช่แน่นอนอยู่แล้ว!" เขาบาดเจ็บหนักเกินไป หลังจากนอนกลางวันไปงีบหนึ่ง ตอนนี้สีหน้าก็ดูสดใสขึ้นมาเล็กน้อยแล้วคืนนี้ เขาห้ามดื่มเหล้าเด็ดขาด สุขภาพสำคัญที่สุดแต่ว่า ไม่ดื่มก็ไม่ดื่มสิ เขาจะมาวุ่นวายกับนางเพื่ออะไร?"องค์ชายสี่ นี่เป็นโต๊ะของสาวในจวน ท่าน...""ข้าปวดหัว" จวินเย่เสวียนนั่งเท้าคางลงบนโต๊ะ ก้มหน้า ใช้นิ้วเรียวยาวประคองคางของตัวเองเอาไว้ท่าทางแบบนั้นดูแล้วราวกั
แต่นางกลับกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเสวียนอ๋อง!คนรอบตัว ในตอนแรกทุกคนต่างหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อมา เหล่าหญิงสาวก็พากันตื่นเต้น รอคอย!ต่างพากันรอดูเสวียนอ๋องโมโห ดุด่า จัดการผู้หญิงคนนี้!ที่สำคัญก็คือ พระชายาหลีอ๋องแห่งจวนเสวียนอ๋องคนนี้ หน้าตาสวยงามเกินไป!วันนี้เป็นงานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ พวกคุณหนูลูกขุนนางทั้งหลาย ใครบ้างไม่แต่งตัวจัดเต็มกันมาร่วมงาน?แต่พระชายาหลีอ๋องคนนี้ กลับแต่งตัวชุดขาวเรียบง่าย บนศีรษะก็ไม่ได้มีเครื่องประดับผมที่งดงามอะไรเลยเรียบง่าย สะอาด สง่างาม ราวกับกำลังเยาะเย้ยพวกนางที่แต่งตัวจัดเต็มมาอย่างนั้นแหละ!แต่นาง ก็หน้าตาดีจัดอย่างน่าโมโห!ในใจใครจะพอใจบ้าง?หากว่าในเวลานี้เสวียนอ๋องจะลงโทษพระชายาหลีอ๋อง ภาพนั้นจะต้องน่าดูมากแน่ๆจวินเย่เสวียนกำลังถลึงตาจ้องมองกู้อวิ๋นซีอยู่จริงๆ ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลยยัยผู้หญิงน่าโมโห! ตอนปฏิบัติกับฉู่หลี ไม่รู้ปฏิบัติด้วยท่าทีดีขนาดไหนตอนพูดกับฉู่หลี น้ำเสียงก็อ่อนโยนราวกับสายลมที่พัดโชยเข้ามาเป็นบางครั้งในยามค่ำคืนแต่พอพูดกับเขา กลับโหดแบบนี้!แถมยังกล้าวางชามลงมาแรงๆ ต่อหน้าเขา ด้วยท่า
"ครอบครัวของน้องสี่น้องห้า ดูจะเข้ากันได้ดีเลยนะ"คนที่นั่งอยู่เยื้องๆ กับเจิ้งอ๋องก็คือน้องสามจวินอวิ๋นจีหรืออวิ๋นอ๋องข้างๆ อวิ๋นอ๋องว่างอยู่สองที่นั่งเดิมทีสมควรจะเป็นที่นั่งของจวินเย่เสวียนกับจวินฉู่หลีแต่ตอนนี้ทั้งสองคนกลับไปนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับพระชายาของน้องห้ากันหมด ไม่สนใจตำแหน่งที่จัดไว้เฉพาะท่านอ๋องแบบพวกเขาเลยองค์ชายรองจวินหนานถิงพูดอย่างยิ้มๆ "เดิมทีข้ายังกลัวว่าด้วยนิสัยของน้องสี่ พระชายาของน้องห้าอยู่ในจวนคงจะต้องลำบากไม่น้อย"เขาเบนหน้าไปมองแล้วก็อดที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ได้ "นี่มัน...คิดไม่ถึงจริงๆ!"ขนาดคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างองค์ชายหกจวินห้าวหราน กับองค์ชายเจ็ดจวินหงเหยียน ก็อดที่จะหันไปมองทางนั้นไม่ได้จริงดังว่า คิดไม่ถึงจริงๆตอนนี้สุดยอดคนโหดในบ้านของท่านพี่ห้าที่นั่งอยู่ข้างกายนางจะกำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มอยู่ในตอนนี้บางครั้งก็หันไปมองพระชายาหลีอ๋องบ้าง ไม่รู้ว่าบ่นอะไรจากนั้นพระชายาหลีอ๋องก็จะคีบอาหารให้เขา จากนั้นท่านพี่สี่ก็ไม่สนอะไร พระชายาหลีอ๋องคีบอะไรให้เขาก็กินอันนั้นไม่ปฏิเสธเลย!นี่ไม่เหมือนนิสัยของท่านพี่สี่เลย!อีกอย
ตอนที่จวินฉีเจิ้งกับพระชายาเจิ้งอ๋องเดินเข้ามา จวินเย่เสวียนเพิ่งจะกินแอปเปิ้ลคำสุดท้ายหมดเขาโยนแกนแอปเปิ้ลทิ้งไป จากนั้นก็หันไปค้อนกู้อวิ๋นซี "ข้าปวดหัว""เดี๋ยวกลับไปจะต้มยาให้ รอให้ไข้ลดก็ไม่ปวดหัวแล้ว"ตอนนี้กู้อวิ๋นซีรู้แล้ว ที่องค์ชายสี่บอกว่าปวดหัวเขาไม่ได้ล้อเล่นเขาไข้สูงมากแต่งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ จำเป็นต้องอยู่กับฮ่องเต้และไทเฮาจนจบงาน ถึงจะกลับไปกินยาได้"ตอนนี้ อดทนไปก่อนนะ" น้ำเสียงของกู้อวิ๋นซีอ่อนโยนขึ้นกว่าเมื่อกี้นี้มากแต่จวินเย่เสวียนก็ยังไม่สนใจ คนป่วยยิ่งใหญ่ที่สุด เขาพูดเสียงแหบพร่า "ถ้าทนอีก ข้าก็คงปวดหัวจนตายแล้ว!"กู้อวิ๋นซีอยากจะกรอกตาบนใส่เขาเหลือเกิน เขาที่เป็นเสวียนอ๋องอ่อนแอถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?เขาไม่ใช่คนแข็งแกร่งขนาดที่มีดฟันลงมาบนร่างยังไม่กระพริบตาเลยเหรอ?คืนนี้ ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้งอแงนักแต่กู้อวิ๋นซีก็ทำอะไรไม่ได้ ด้วยอุณหภูมิร่างกายของเขาในตอนนี้ เกรงว่าน่าจะสูงประมาณสักสี่สิบองศาแล้วถือซะว่าไข้ที่สูงทำให้ก้านสมองของเขาไหม้ไปละกัน ในเวลานี้ทำได้เพียงปลอบใจเท่านั้น"อดทนอีกหน่อยนะ เดี๋ยวพองานเลี้ยงจบ ขึ้นไปบนรถม้าแล้วข้าจะฝังเข็ม
"ซีเออร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" จวินฉู่หลีตกใจมาก รีบช่วยตบหลังเบาๆ ให้นางทันทีจวินเย่เสวียนที่เดิมทีกำลังปวดหัวอยู่ก็รีบวางจอกน้ำลงแล้วหันไปมองใบหน้าขาวซีดของกู้อวิ๋นซีทันทีกู้อวิ๋นซีอยากจะพูดว่า "ไม่เป็นไร" แต่พออ้าปาก ก็รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนอีกครั้งฝ่ามือใหญ่ของจวินเย่เสวียนประทับลงบนหลังของนาง กำลังภายในแข็งแกร่งก็ถูกถ่ายทอดเข้ามาทันทีกู้อวิ๋นซีรู้สึกเพียงอุ่นๆ ที่หลัง ไม่นาน ความอุ่นนี้ก็แผ่ขยายไปทั้งร่าง ขนาดท้องนางก็รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย"เกิดอะไรขึ้น?" ถึงแม้น้ำเสียงของจวินเย่เสวียนจะยังคงเย็นชาเช่นเดิม แต่คนที่ฟังก็รับรู้ได้ถึงกระแสความอ่อนโยนที่แฝงอยู่ด้านใน"ข้าไม่เป็นไร ขอบพระทัยท่านพี่สี่ที่เป็นห่วง" กู้อวิ๋นซีคำนับให้เขาโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะพลักมือเขาออกจากแผ่นหลังของตัวเองอย่างแนบเนียนจวินเย่เสวียนสะบัดเสียงอย่างเย็นชา นิ้วเรียวยาวกลับมากดอยู่บริเวณขมับของตัวเอง เขาเริ่มปวดหัวอีกแล้วจวินฉีเจิ้งมองดูการกระทำของทั้งสามคน สายตาแหลมคมกำลังจะเริ่มพูดอะไรแต่พระชายาเจิ้งอ๋องที่อยู่ด้านหลังกลับพูดขึ้นมาเบาๆ ก่อน "พระชายาหลีอ๋อง...คงจะไม่ได้แพ้ท้องหรอกนะ?"แพ้ท้
"ข้าไม่ได้ท้องจริงๆ ก็แค่ท้องเสียเพราะกินของผิดสำแดง"กู้อวิ๋นซีดิ้นรนมาตลอดทาง แต่ ไม่มีใครสนใจนางเลยจวินเย่เสวียนวางนางลงบนเตียงเบาๆ หันหน้ากลับมาตะโกนพูดกับเยียนเป่ย "หมอล่ะ?"เยียนเป่ยไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ยังเข้าใจว่าพระชายาหลีอ๋องได้รับบาดเจ็บเมื่อถูกท่านอ๋องตะคอกใส่ก็ตกใจจนรีบคุกเข่าลงกับพื้น "สะ สั่งคนไปตามแล้วพ่ะย่ะค่ะ...""เจ้าไปเอาตัวเขามาเองเลยไป!""พ่ะย่ะค่ะ!" ไม่บ่อยครั้งที่จะได้เห็นท่านอ๋องใจร้อนขนาดนี้ เยียนเป่ยตกใจจนรีบออกไปทันทีโชคดีที่หลานโจวมาถึงพอดีเยียนเป่ยรีบพาตัวหลานโจวเข้ามาทันที "ท่านอ๋อง หลานโจวมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!""รีบมา ตรวจชีพจรให้นาง!"จวินเย่เสวียนรอไม่ไหวแล้ว รีบเดินสาวเท้าเข้าไป คว้าคอเสื้อของหลานโจวมาจนถึงข้างเตียงจวินฉู่หลีก็รีบพูดอย่างร้อนใจ "หลานโจว เจ้าเร็วหน่อยสิ!"หลานโจวไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น? เมื่อถูกลากตัวมาถึงข้างเตียง ก็รีบยื่นมือออกไปจับข้อมือของกู้อวิ๋นซีทันทีถึงอย่างไรเขาก็เป็นหมอ ลากตัวเขามาก็คงเพื่อจะให้เขาตรวจชีพจรให้นี่แหละดูท่าทางแล้ว ถึงแม้สีหน้าของเสวียนอ๋องจะยังซีดขาวอยู่บ้าง ส่วนหลีอ๋องก็ยังไม่
กู้อวิ๋นซีรู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้แล้วตอนนี้มันเป็นความสัมพันธ์อะไรกัน!นางแต่งงานเข้าจวนอ๋อง เป็นภรรยาของจวินฉู่หลีอย่างเป็นทางการ แต่กลับเป็นผู้หญิงของจวินเย่เสวียนเนี่ยนะ?พระสนมหรงล่ะ?พวกเขาเคยคิดกันบ้างไหม พระสนมหรงจะมองนางยังไง?พระสนมหรงไม่มีทางยอมรับความสัมพันธ์สุดแปลกแบบนี้ได้แน่ขนาดตัวนางเองยังรับไม่ได้เลย!"พระชายา ให้กระหม่อมจับชีพจรให้ท่านเถอะพ่ะย่ะค่ะ" จิตใจของหลานโจวในตอนนี้สับสนว้าวุ่นอย่างมากแต่กู้อวิ๋นซีกลับส่ายหน้าหลังจากที่เงียบอยู่สักพัก นางก็ผลักมือของจวินฉู่หลีออก แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า "ไม่จำเป็น ข้าท้องจริงๆ นั่นแหละ"ภายในห้อง ตกอยู่ในความเงียบสนิททุกคนต่างมองมาที่นางอย่างระมัดระวังขนาดหายใจยังไม่กล้าหายใจแรงๆฝ่ามือใหญ่ของจวินเย่เสวียนสั่นน้อยๆ จ้องมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวในอ้อมกอด อยากจะกอดนางแรงๆ แต่ก็ไม่กล้าหลานโจวมองที่กู้อวิ๋นซี กู้อวิ๋นซีเองก็กำลังมองเขาอยู่หลานโจวเผยอปากออกคล้ายจะพูดอะไรแต่กู้อวิ๋นซีกลับพูดว่า "ชะตาลูกของข้า ข้าจะเป็นคนกำหนดเอง ท่านหมอหลาน ข้าขอเตือนว่าท่านอย่ายุ่งจะดีกว่า"ไม่ม