"องค์ชายสี่...""ถ้าไม่อ่านก็ถอด..."เลือกมาสักอย่าง! เดี๋ยวจะหาว่าเขาเผด็จการไม่ให้สิทธิ์นางได้เลือก!กู้อวิ๋นซีมองค้อนเขาไปอย่างโกรธๆ นี่เรียกว่าให้สิทธิ์เลือกเหรอ?น่าเสียดายที่จวินเย่เสวียนก็ยังคงหลับตาพักผ่อนอยู่ ต่อให้นางจะมองค้อนจนตาแทบถลน ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเขาอยู่ดีกู้อวิ๋นซีทำใจสงบนิ่งลง ก่อนจะพูดต่อเสียงเบาๆ "จดหมายฉบับนี้ หน่วยสิบสองส่งข่าวมาบอกว่า...พบหลักฐานการแอบสร้างอาวุธของเจิ้งอ๋องบริเวณเทือกเขาอี๋หลิน"จวินเย่เสวียนเบิกตาขึ้นกู้อวิ๋นซีรีบปิดปากทันทีแล้วมองไปที่เขาถ้าหากบอกว่าเสวียนอ๋องในตอนปิดตาดูเกียจคร้านและเงียบสงบแล้วเช่นนั้นเขาในตอนเปิดตาก็ดูโหดเหี้ยมและเย็นชาแววตาของเขาปรากฎร่องรอยของความไม่พอใจ ทำให้กู้อวิ๋นซีรู้สึกเกร็งเครียดในใจในหนานหลิงของพวกเขาไม่อนุญาตให้มีการแอบสร้างโรงงานผลิตอาวุธแน่นอนว่า พวกร้านค้าเล็กๆ สามารถทำได้ ดาบ กระบี่ ธนู หอก มีอยู่มากมายในเมือง ร้านประเภทนี้ราชสำนักไม่สนใจแต่ถ้าเป็นเรื่องที่คนในหน่วยสิบสองหยิบยกขึ้นมาพูดถึงโดยเฉพาะแล้ว เรื่องนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอนยิ่งไม่ต้องพูดถึง สร้างอยู่ในเทือกเขาอี๋หลินด้วยแล
"อื้อออ" กู้อวิ๋นซีขัดขืนขึ้นทันทีมือที่วางอยู่บนร่างกายของจวินเย่เสวียน พยายามออกแรงผลัก แต่ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียวลมหายใจเผด็จการของเขา ปิดผนึกปากนางอย่างรวดเร็วคางของนางยังคงถูกเขาบีบรัดอยู่ ริมฝีปากของนางไม่สามารถมีที่ให้หนีได้ไม่นาน ขนาดริมฝีปากอ่อนนุ่มก็ยังสละอาวุธยอมศิโรราบ ไม่อาจต้านทานการรุกรานที่รุนแรงของเขาได้ถูกเขาบุกเข้ามาด้านในมือน้อยๆ คู่นั้นยังคงดันอยู่ที่หน้าอกของเขา เพียงแต่แรงที่ผลักออกไปค่อยๆ อ่อนลงก็เท่านั้นลมหายใจของเขาหนักหน่วงทุกครั้งที่หายใจกลิ่นอำพันบนร่างกายก็โอบรัดนางไว้อย่างแน่นหนาบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นกลิ่นอย่างไร แต่ว่ามันก็หอมอย่างประหลาดในหัวของกู้อวิ๋นซี กลายเป็นสีขาวโพลนอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่รู้สึกได้ว่ามือของเขาเริ่มทำหน้าที่ซุกซนบนร่างกายของนางอีกแล้ว แต่นางก็ไม่มีแรงที่จะปฏิเสธเขาได้เลยนางใช้มือกดข้อมือของเขาเอาไว้ แต่กลับไม่รู้ว่าต้องการจะผลักเขาออกหรือดึงเขาเข้าหาตัวเองกันแน่เป็นอารมณ์ที่ขัดแย้งกันอย่างมากร่างกายร้อนผ่าว แต่จิตใจกลับยิ่งเย็นยะเยือกขึ้นทุกที"เจ้าตัวเล็ก แลบลิ้นออกมาให้ข้าได้ชิมหน่อยสิ"น้
นางนอนกับจวินเย่เสวียน!ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ยิ่งไม่รู้ว่าก่อนที่จะหลับไป พวกเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่สรุปก็คือ ตอนนี้ทั้งคู่ กำลังนอนเอกขเนกกันอยู่บนเตียงด้วยเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อย มือข้างหนึ่งของเขายังคงประทับอยู่บนหน้าอกของนางแม้แต่ในความฝันก็ยังอาจหาญเพียงนี้!กู้อวิ๋นซีตกใจจนความง่วงงุนหายไปเป็นปลิดทิ้ง รู้สึกตัวได้สติขึ้นมาในทันทีจวินเย่เสวียนกลับยังหลับสนิทอยู่กู้อวิ๋นซีค่อยๆ ดึงมือของเขาออกจากระมัดระวัง จากนั้นค่อยๆ ย่องลงจากเตียงของเขาไม่ได้สนใจว่าเสื้อผ้าของตัวเองจะเรียบร้อยหรือไม่ นางจัดเสื้อผ้าของตัวเองไปพลางก็รีบหนีออกไปจากห้องของเขาพลางรู้สึกเจ็บตรงหน้าอกมาก ก็ไม่รู้เหมือนกับว่าคนสารเลวนั่นเมื่อคืนนี้ทำอะไรกับนางไปบ้างถึงอย่างไรด้านบนก็ยังมีรอยประทับจากนิ้วมือของเขาหลงเหลืออยู่ บวมๆ รู้สึกเจ็บๆหลังจากออกจากห้องนอนของเสวียนอ๋อง กู้อวิ๋นซีก็วิ่งก้มหน้าไปตลอดทาง ราวกับกำลังหนีกลับหอหนิงซีของตัวเองนางไม่รู้ว่าวันนั้นจะมีคนนำเอาข่าวเรื่องนี้ไปบอกให้พระสนมหรงรู้"ดังนั้น เสวียนเออร์ของข้าก็ไม่ได้ถูกวางยา แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเสนอ
อันเซี่ยตกใจจนสติสตังกระเกิดกระเจิง รีบเข้าไปดึงมือของกู้อวิ๋นซีออกมาทันทีแต่กู้อวิ๋นซีกลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า "อย่า...แตะต้องข้า อย่า..."นางดึงมือตัวเองกลับมา แล้วปิดกรงกลับไปเช่นเดิมก้าวถอยหลังมาสองก้าว ฝีเท้าสับสน ร่างกายเริ่มจะโงนเงนอันเซี่ยยกมือของนางขึ้นมาดู ที่หลังมือมีแผลอยู่สองรอยจริงๆ แผลนั้นเป็นสีดำสนิทคุณหนูถูกพิษแล้ว!อันเซี่ยกำลังจะวิ่งออกไปทันทีแต่กู้อวิ๋นซีกลับดึงตัวนางไว้ "อย่าไป..."แต่นางคิดไม่ถึงว่าตอนนี้ตัวเองจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ดึงอันเซี่ยไว้ แต่กลับถูกอันเซี่ยลากไปข้างหน้าจนล้มโครมลงไปบนพื้นอันเซี่ยรีบเข้าไปพยุงนางทันที "คุณหนู ท่านไม่ต้องกลัว ข้ารู้ว่าในจวนอ๋องมีหมอเทวดาอยู่ท่านหนึ่งชื่อว่าหลานโจว! ข้าจะไปขอร้องเสวียนอ๋องเดี๋ยวนี้ ให้ท่านหลานโจวมาช่วยถอนพิษให้กับท่าน""ไม่...ต้อง ข้า...กินยาถอนพิษไว้แล้ว"กู้อวิ๋นซีเหงื่อนเย็นออกไปทั่วร่าง ตอนนี้ร่างกายแทบจะไม่มีแรงหลงเหลืออยู่แล้ว แต่นางก็ยังดึงเสื้อของอันเซี่ยไว้แล้วพูดด้วยเสียงแหบพร่า"อย่าไป ข้า...ข้าจงใจทำเอง ข้าต้องการ...ปรุง...ซีรั่ม""คุณหนู!" อันเซี่ยไม่เข้าใจว่าซีรั่มคืออ
"เสด็จแม่จะให้ข้าย้ายไปอยู่ที่เขาชิงไถหรือเพคะ?" แววตาของกู้อวิ๋นซีไหวระริกน้อยๆพระสนมหรงจับจ้องสีหน้าของนางเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่เห็นร่อยรอยความประหลาดใจสักเท่าไรก็เพียงแค่สีหน้าดูแย่นิดหน่อย น้ำเสียงก็แหบแห้งนิดหน่อยเท่านั้นนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลยเด็กคนนี้ คิดไว้อยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ?"หลีเออร์จะไปอยู่กับเจ้าด้วย เขาชิงไถอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี พวกเจ้าก็ไปอยู่กันที่เขาชิงไถสักระยะ หลีเออร์จะได้รักษาตัวด้วย ซีเออร์ เจ้ามีความเห็นอย่างไรบ้าง?"เขาชิงไถเป็นสถานที่พักผ่อนชั้นดีของคนในราชวงศ์ ถ้าพูดแบบไม่น่าฟังก็คือคนที่ฐานะไม่สูงพอก็ไม่มีสิทธิ์ไปได้สถานที่นั้น เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆแต่กู้อวิ๋นซีกลับมีแผนเป็นของตัวเองหลายวันนี้ นางจำเป็นต้องใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อปรุงยา ในเวลานี้ ถ้าได้อยู่ในสถานที่เงียบสงบก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยนางพยักหน้าตกลงทันที "ขอเพียงเป็นเรื่องที่ดีต่ออาหลี ลูกย่อมยินดีที่จะทำอยู่แล้วเพคะ เสด็จแม่ ลูกจะไปจัดการเก็บสัมภาระเดี๋ยวนี้เลย พรุ่งนี้เช้าจะออกเดินทางไปเขาชิงไถกับอาหลีทันที"พระสนมหรงคิดไม่ถึงเลยว่านางจะตอบรับได้รวดเร็วเช่นนี้บทพู
ถึงอย่างไรกู้อวิ๋นซีก็ถือว่าเป็นนายหญิงของจวนเสวียนอ๋องเหมือนกันประตูห้องถูกคนผลักออกอย่างไร้มารยาทเช่นนี้ เท่าที่จำได้นี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้วปกติ บ่าวรับใช้ต่างให้ความเคารพนางกันทั้งสิ้น"แม่เฒ่าชิง..." อันเซี่ยตกใจตัวโยน รีบวางข้าวของในมือลงแล้วเข้าไปต้อนรับทันที"แม่เฒ่า ดึกดื่นป่านนี้ มาหาคุณหนูของข้าด้วยเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ?""ไม่มีอะไร ก็แค่มีเรื่องจะกำชับแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น"ฉับพลันแม่เฒ่าชิงก็ดึงตัวนาง โยนออกไปที่นอกประตูแม่เฒ่าชิงผู้นี้ เป็นคนที่เคยเรียนวรยุทธ์มาจริงๆ แรงดีเหลือเกิน!อันเซี่ยไม่ทันระวังก็เลยถูกนางจับโยนออกไปอย่างนี้เพิ่งจะออกไปก็มีทหารองครักษ์สองนายเดินเข้ามา คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา คุมตัวนางเอาไว้"นี่พวกเจ้าทำอะไรเนี่ย? ปล่อยข้านะ! คะ...อื้อ! อื้ออ..."กู้อวิ๋นซีวางกล่องยาลง มองดูแม่เฒ่าชิงที่กำลังเดินเข้ามาหาตัวเองไม่ไกล "แม่เฒ่า นี่เจ้าหมายความว่ายังไงกัน? อันเซี่ยไปทำความผิดอะไรมาอย่างนั้นเหรอ?""เด็กนั่นไม่ได้ทำผิดอะไร เพียงแต่มีมาเรื่องที่บ่าวอยากจะพูดกับพระชายาแค่สองคน เด็กนั่นอยู่ด้วยจะเกะกะเปล่าๆ"แม่เฒ่าชิงหันหน้ากลับไปมองหนึ่งที
กู้อวิ๋นซีมองน้ำแกงบุตรหลานในมือของแม่เฒ่าชิงถึงแม้สีหน้าจะแสดงออกว่ายังใจเย็นสงบนิ่ง แต่จริงๆ มือที่ถูกซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อได้กำแน่นไปเรียบร้อยแล้วที่ฝ่ามือ เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อเย็นวันนี้นางใช้ร่างกายตัวเองเพื่อปรุงยาพิษ ตอนนี้ในร่างกายยังมีสารพิษที่ยังตกค้างอยู่ช่วงพลบค่ำแต่งหน้าไปเล็กน้อยเพื่อให้สีหน้าของตัวเองไม่ดูขาวซีดถึงเพียงนั้น ฝืนลากสังขารตัวเองไปพบพระสนมหรงนี่ก็แทบจะใช้กำลังกายทั้งหมดที่นางมีไปหมดแล้วตอนนี้กลับมา คิดจะเก็บของง่ายๆ สักหน่อยจากนั้นก็จะนอนพักถ้าไม่พักรักษาตัวดีๆ พิษร้ายแรงของงูพิษอาจจะส่งผลร้ายย้อนกลับได้ทุกเมื่อ!แต่ในตอนนี้ แม่เฒ่าชิงกับพระสนมหรงยังไม่คิดที่จะปล่อยนางไปหากว่าน้ำแกงบุตรหลานชามนี้เข้าไปในท้องของนาง ก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดปฏิกริยาตอบสนองอะไรกับพิษงูในร่างกายของนางบ้างนางไม่อาจเสี่ยงอันตรายได้เด็ดขาด อาจจะตายได้ทุกเมื่อ"พระชายา?" แม่เฒ่าชิงขมวดคิ้ว แล้วเดินเข้ามาข้างหน้าอีกสองก้าว ตอนนี้ตัวนางได้เดินมาถึงตรงหน้าของกู้อวิ๋นซีแล้ว"พระชายา เหตุใดจึงแสดงสีหน้าไม่ยินยอมเช่นนั้น? หรือว่า ที่ท่านกับหลีอ๋องมีท่าทีรักกันเช่นนี้ ล้วนเป็
กู้อวิ๋นซีดื่มน้ำแกงบุตรหลานเข้าไปแล้วจริงๆแววตาของแม่เฒ่าชิงปรากฎร่อยรอยของความประหลาดใจแต่เมื่อคิดไปคิดมา สีหน้าก็กลับมาปกติอีกครั้งรับเอาชามเปล่าที่กู้อวิ๋นซียื่นมาให้ตัวเอง แม่เฒ่าชิงย่อตัวลงเล็กน้อย "บ่าวจะไปเร่งหลีอ๋องให้รีบมาเดียวนี้เพคะ"จากนั้นนางก็เดินจากไปด้านนอกยังมีทหารองครักษ์หลายนายเฝ้าอยู่ทางด้านอันเซี่ยก็ถูกคนเฝ้าไว้ ไม่ให้ออกมาสรุปก็คือ ถ้าจะออกไปหาคนมาช่วยในตอนนี้ ความเป็นไปได้ไม่สูงมากเมื่อรอให้แม่เฒ่าชิงจากไปแล้ว กู้อวิ๋นซีก็มองหากล่องยาของตัวเองแล้วหยิบเอาเข็มเงินออกมาแต่นางรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมากเหตุใดเมื่อดื่มน้ำแกงบุตรหลานชามนี้เข้าไป ถึงไม่เหมือนกับตอนที่ดื่มในวังหลวงก่อนหน้านี้เลย?นางไม่รู้สึกร้อนรุ่มเลยสักนิด แต่ร่างกายกลับเย็นขึ้นเรื่อยๆไม่สิ! นี่ไม่ใช่น้ำแกงบุตรหลาน!แม่เฒ่าชิงวางยาพิษนาง!นางบังอาจมาก!ที่หอหนิงซีของกู้อวิ๋นซีกู้อวิ๋นซีไม่ได้มียาดีอยู่มากนัก นางจะต้องไปเอาสมุนไพรมาจากคลังเก็บยาของจวนอ๋องแล้วปรุงยาแก้พิษขึ้นมาเองเพิ่งก้าวขาออกไปสองก้าวก็คิดขึ้นได้ ด้านนอกประตูมีแต่ทหารองครักษ์ของแม่เฒ่าชิงเฝ้าอยู่นางจงใจ