วันรุ่งขึ้น ไทเฮาทรงจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นปัญหาในราชสำนักหวงทั้งปัญหาภายในและปัญหาภายนอกได้รับแก้ไขแล้ว เซียวฉู่ฉู่จึงรู้สึกมีความสุขเป็นธรรมดา หวังหยวนได้รับเชิญมาดื่มเฉลิมฉลองสังสรรค์ในงานนี้เซียวฉู่ฉู่เหลือบมองหวังหยวน นางได้ให้สัญญากับหวังหยวนไว้ ว่านางจะทำให้หวังหยวนสามารถปกป้องตัวเองตอนอยู่ในต้าเย่ได้!แน่นอนว่านางรักษาคำพูดอยู่แล้ว!“ทุกท่าน วันนี้เป็นงานฉลองวันชาติ ข้ามีความสุขมากยิ่งนัก วันนี้ข้าจะประกาศราชโองการ”หลังจากพูดออกไป ขุนนางทุกคนก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง“ข้าได้ตัดสินใจแต่งตั้งหวังหยวนเป็นอ๋องเป่ยหลิงของราชสำนักหวง เขาจะเป็นอ๋องคนแรกที่ได้ราชทินานามจากราชสำนักหวง ตำแหน่งอ๋องนี้จะเท่าเทียมกับอ๋องทั้งสาม จะสืบทอดต่อไปให้ลูกหลานต่อไป และจะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล!”เซียวฉู่ฉู่พูดต่อหน้าทุกคน และประกาศราชโองการนี้ออกมา ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจกันไปหมด!อ๋องแห่งราชสำนักหวง!อ๋องคนแรกที่มีราชทินานาม!นี้...จะเป็นไปได้อย่างไร!ขุนนางคนอื่น ๆ ต่างก็รีบพูดแย่งขึ้นมา“ไทเฮา นั่นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ! ตำแหน่งอ๋องของราชสำนักหวงเรา ล้วนเป็นของสายเลือดเชื้อพระวงศ์ทั้งสิ้น หวั
“กระหม่อมอยากขออนุญาตจากไทเฮา ให้กระหม่อมทำธุรกิจในแคว้นหวงพ่ะย่ะค่ะ!”หวังหยวนค่อย ๆ พูดออกมา ทำให้ทุกคนตกตะลึงไปครู่หนึ่งเหตุผลที่เขาทำเช่นนี้ ก็เพื่อสะสมความมั่งคั่งร่ำรวยให้เพียงพอ!ยุคนี้คนมีเงินเท่านั้นถึงจะมีกำลังขัดขืนได้ หวังหยวนได้เริ่มลงมือแล้ว!เดิมทีเขาแค่อยากจะเป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวยแต่ตอนนี้...มีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้น หากหวังหยวนให้ตัวเองอยากมีชีวิตที่ดี มีอิสระ และมีความสุข ให้คนที่อยากแตะต้องเขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม!และเงินคือก้าวแรก!"อนุญาต!"ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ตกลงทันที!หวังหยวนทำธุรกิจในแคว้นหวง ย่อมเป็นการกระตุ้นช่วยเศรษฐกิจการค้าของราชสำนักหวง นี่เป็นสถานการณ์ที่มีแต่ได้กับได้มิใช่รึไม่นานงานฉลองก็จบลงอย่างไรก็ตาม ในเช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวงานฉลองครั้งนี้ก็ได้ไปถึงที่ต้าเย่!ข่าวไปถึงจักรพรรดิซิงหลง!เสนาธิการธิการขวาเป้าชิงสื่อกล่าวว่า "ฝ่าบาท หวังหยวนได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องเป่ยหลิงจากราชสำนักหวง กระหม่อมเกรงว่าเขาจะทรยศต่อต้าเย่ของเรา เราอย่าได้เมตตาต่อคนพรรคนี้นะพ่ะย่ะค่ะ!"เจ้ากรมกรมโยธาธิการ สือเหยาเฉียนก็รีบพูดทันที "ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ในเมื่อหว
เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในต้าเย่หวังหยวนไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ในตอนนี้ เขากำลังยุ่งอยู่จัดการธุรกิจของตัวเองในแคว้นหวง!หาเงิน!นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!ด้วยการสนับสนุนจากราชสำนัก การทำธุรกิจในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องง่าย!ที่แคว้นหวงแห่งนี้ หวังหยวนก่อตั้งธุรกิจขึ้นมา!ชื่อกลุ่มการค้าต้านป๋อ!ชื่อกิจการนี้ไว้ใช้สำหรับทำธุรกิจในแคว้นหวง!อย่างไรก็ตาม หวังหยวนไม่ได้มอบเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมให้กับราชสำนักหวง แต่วางแผนสร้างช่องทางธุรกิจเอาไว้ท้ายที่สุดแล้ว ระหว่างต้าเย่และราชสำนักหวงยังมีการทำธุรกิจต่อกันหวังหยวนในฐานะอ๋องเป่ยหลิง ก่อตั้งกลุ่มการค้าต้านป๋อในเมืองหลวง โดยมีอ๋องหลงซีมาทำการควบคุมและดูแลด้วยตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้หวังหยวนค่อนข้างโล่งอกทีเดียวหลังจากแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้ว หวังหยวนก็กระตือรือร้นที่จะกลับบ้าน หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เขาก็พาทุกคนกลับบ้านด้วย!“เดินทางรักษาตัวด้วย!”ท่านอ๋องทั้งสามจากราชสำนักหวงมาส่งเขา แม้แต่ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ก็ส่งคนไปส่งเขาด้วยการได้เห็นผู้คนมากมาย แม้ว่าหวังหยวนจะไม่ใช่คนที่มีสาเหตุสำคัญ แต่หวังหยวนก็เข้ากันได้มาระยะ
มีชายสวมชุดเกราะสีเงิน มีรูปร่างหน้าตาสง่างาม“ข้าน้อยผู้ใต้บังคับของแม่ทัพหนุ่มอู๋ หลิวกวนซาน คารวะท่านที่ปรึกษา!”หวังหยวนรู้สึกโล่งใจที่คนที่มาเป็นคนของอู๋หลิงในราชสำนักต้าเย่ทั้งหมด หวังหยวนคนเดียวที่สามารถไว้วางใจได้คืออู๋หลิง เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น!ขนาดเสนาการฝ่ายซ้ายเขายังไม่เชื่อใจเลย!“ข้าไม่ใช่ท่านที่ปรึกษาอีกต่อไป ต่อจากนี้ไปเรียกข้าว่าหวังหยวนเถอะ”หวังหยวนยิ้ม เนื่องจากชื่อเสียงของเขาในฐานะท่านที่ปรึกษา จึงสร้างปัญหาให้เขามากมายอย่างน้อยเริ่มจากตำแหน่งที่ปรึกษานี้ เขาก็คงจะถูกราชสำนักเกรงกลัวณ จุดนี้ เขาไม่มีวันสงบสุขอีกต่อไป“ท่านที่ปรึกษาพูดเล่นไปแล้ว ท่านจะเป็นท่านที่ปรึกษาของเราตลอดไป!”“ท่านที่ปรึกษา เชิญ!”หลิวกวนซานให้ความเคารพอย่างมาก และยังเป็นคนจูงม้าของหวังหยวนเองอีกด้วย“แม่ทัพหลิว ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ท่านเป็นแม่ทัพในกองทัพ จะมาจูงม้าข้าได้อย่างไร” หวังหยวนรีบหยุดเขา"ไม่ขอรับ! แม่ทัพหนุ่มอู๋เคยบอกไว้ว่าเมื่อเจอท่านก็เหมือนได้เจอเขา ท่านที่ปรึกษาอย่าปฏิเสธเลยนะขอรับ!"หลิวกวนซานตอบกลับทันที ด้วยท่าทีที่เคารพยกย่องเป็นอย่างยิ่งหวังหยวนถอนห
หวังหยวนก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน แต่ถ้าเขาจะกลับต้าเย่ เขาจะต้องผ่านที่นี่เขาไม่สนิทกับโฮ่วจือหยวนผู้นี้ แต่เขาเองก็ไม่อยากไปเจอด้วย!หากอยากจะผ่านกองทัพที่แข็งแกร่งถึงเก้าหมื่นนายนาย เกรงว่าจะต้องใช้วิธีการบางอย่างแล้ว!หลังจากเลี้ยงอาหารเสร็จ หวังหยวนก็กลับไปพักผ่อนต้าหู่, ถังหม่าง และเกาเล่อกำลังนั่งอยู่ในกระโจมที่หวังหยวนพักอยู่ ทุกคนมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล“พี่หยวน เราควรทำอย่างไรกับโฮ่วจือหยวนดี? ข้าเกรงว่าเขาอาจจะไม่ปล่อยเราไปจริง ๆ ก็ได้”ในเวลานี้ต้าหู่พูดออกมาด้วยสีหน้ากังวลหวังหยวนพยักหน้า “นั่นก็จริง ข้าเกรงว่าจะผ่านมันไปไม่ได้ด้วยวิธีปกตินี่สิ”“แต่ก็ไม่มีอะไรแน่นอน บางทีเขาอาจจะไม่อยากคุยกับข้า”เกาเล่อสูดหายใจเข้าลึก ๆ สถานการณ์ในต้าเย่เขาย่อมรู้ดี เขาได้ตรวจสอบสถานการณ์ของหวังหยวนแล้วและรู้ว่าราชสำนักไม่พอใจกับหวังหยวน และแม้แต่จักรพรรดิก็ยังสงสัยหวาดระแวงในตัวเขาดังนั้นหากเป็นเชื้อพระวงศ์ เกรงว่าจะผ่านไปได้ยากยิ่งนัก“พี่หยวน เขาไม่ปล่อยพวกเราไป มันเป็นแค่ปัญหาทางขั้นตอน นอกเหนือจากนั้น เขาไม่มีเหตุผลที่จะลงมือกับพวกเรา!”“เขาจะถ่วงเวลาหาแผนสำรอง
“บังอาจ ไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่ายงั้นเหรอ? ข้าคือโฮ่วจือหยวน เป็นเสาหลักแห่งต้าเย่ ชายคนนี้ยอมสวามิภักดิ์กับราชสำนักหวงแล้ว ทำไมข้าถึงจะจับเขาไม่ได้”“หลิวกวนซาน ข้ารู้ว่าหวังหยวนสนิทกับแม่ทัพหนุ่มของเจ้ามาก แต่เจ้ากล้าไม่ฟังคำพูดของข้าเหรอ? เจ้าจะฝ่าฝืนคำสั่งทหารงั้นหรือ?”หวังหลางตะคอกกลับอย่างขุ่นเคืองเมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลิวกวนซานก็ดำทะมึน“ท่านโฮ่ว ข้า เกี่ยวกับเรื่องนี้ข้ายังไม่ได้รับพระบัญชาจากฝ่าบาท ต้องขออภัยด้วย!”หลิวกวนซานทำได้เพียงกัดฟันและพูด เขารู้มาตลอดว่าหวังหลางไม่อยากเจอเขา แต่เพื่อผลประโยชน์ของที่ปรึกษาทางทหาร เขาไม่สนหรอกว่าเขาทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจมากแค่ไหน!“ดี! ถ้าเจ้าไม่จับเขา ข้าจะจับเอง!”“ทหาร! จับหวังหยวน!”ตอนที่หวังหลางสั่งออกไป ก็มีคนตอบรับคำสั่งทันที!ในไม่ช้า คนกลุ่มหนึ่งก็เดินออกจากค่าย และเห็นหวังหยวนจากระยะไกล“เจ้าคือหวังหยวนใช่ไหม จับตัวแล้วพาเข้าไป!”ชายคนนั้นชี้ดาบไปที่หวังหยวน และตะคอกใส่อย่างเย่อหยิ่งสีหน้าของหวังหยวนเปลี่ยนไป เขาคิดว่าโฮ่วจือหยวนจะปฏิบัติต่อเขาไม่ดีเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาไปพบแล้วจะถูกจับกุมทันที!
หลังจากได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของโฮ่วจือหยวน หวังหลางก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที!แน่นอนว่าเขาอยากจะฆ่าหวังหยวน ไม่ใช่แค่เป็นคนของอู๋หลิงเท่านั้น แต่เขายังเป็นเสี้ยนหนามตำใจของฝ่าบาท แน่นอนว่าเขาอยากช่วยพระองค์จัดการเรื่องนี้!เขาคิดว่ามีทหารเก้าหมื่นนายอยู่ในมือ การจะฆ่าหวังหยวนคงเป็นเรื่องง่ายดายแต่คิดไม่ถึงว่าไอหมอนี้จะมีปืนจริง ๆ!ในตอนนี้ เขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม!“หวังหยวน เจ้าจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าเป็นคนแคว้นหวง และได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋องเป่ยหลิง! ทำไมข้าถึงฆ่าเจ้าไม่ได้!?”หวังหลางพูดด้วยความโกรธ หวังหยวนที่ได้ยินก็หัวเราะออกมา“เจ้ารู้ว่าข้าเป็นอ๋องเป่ยหลิง แต่เจ้ารู้ไหมว่าราชสำนักหวงพูดอะไรอีก?”หวังหยวนมองไปที่หวังหลางและพูดอย่างเฉยชาหวังหลางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะถามว่า "เจ้าจะพูดอะไร?"“จะพูดอะไร เจ้าแค่รู้ว่าข้าได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องเป่ยหลิง หากเจ้าจำไม่ได้ ข้าก็จะเล่าให้ฟัง”“ข้าเป็นอ๋องเป่ยหลิง หนึ่งในสี่อ๋องของราชสำนักหวง ราชสำนักหวงกล่าวว่าใครก็ตามในโลกที่กล้าแตะต้องข้า จะต้องทนทุกข์กับความโกรธเกรี้ยวไม่รู้จบ เจ้าอยากให้กองทัพ
เขาไม่อยากยอมสักหน่อย!“หวังหลาง ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ เจ้าคิดว่าเบื้องบนเกลียดข้า ดังนั้นเจ้าจึงอยากจะจัดการข้าแทนเบื้องบน แต่เจ้าคิดว่าข้ามันตัวคนเดียวในราชสำนักจริงรึ ฝั่งเสนาธิการฝ่ายซ้าย พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อข้า ยังมีอู๋หลิงอีก”“แม้ว่าเจ้าจะฆ่าข้า และต้าเย่เลือกที่จะต่อสู้กับราชสำนักหวง แต่ในอนาคตก็เลี่ยงไม่ได้ที่เสนาธิการฝ่ายซ้ายจะจัดการเจ้า!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ หวังหลางก็นั่งลงบนที่นั่งของเขา และล้มเลิกความคิดในใจแล้ว!ท้ายที่สุดแล้ว ฝั่งเสนาธิการฝ่ายขวาก็ไม่มีอำนาจล้นฟ้า แม้ว่าฝ่าบาทจะเกลียดหวังหยวน แต่ก็ยังมีเสนาธิการฝ่ายซ้ายคอยควบคุมไว้อยู่หากวันหนึ่งฝั่งเสนาธิการฝ่ายซ้ายเข้าครองราชสำนัก หากเขาสังหารหวังหยวน พวกเขาจะรู้สึกแค้นใจอย่างแน่นอน!โดยเฉพาะอู๋หลิง!หากสงครามเริ่มขึ้น เขาจะเป็นแม่ทัพใหญ่ และตัวเองเป็นรองแม่ทัพ เมื่อถึงเวลา...จะเป็นหรือตายก็อยู่ในกำมือของเขา!เมื่อคิดเช่นนี้ จู่ ๆ เขาก็ไม่มีแรงจะโบกมือขึ้นมา“หวังหยวน เจ้าไปซะ!”หวังหยวนยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ตอนออกจากค่ายจากที่นี่ แม้ว่าจะน่าตกใจแต่ก็ไม่มีอันตรายอะไร แต่หวังหยวนรู
“ปกติพวกเจ้าล้วนองอาจกันไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คิดจะโจมตีราชวงศ์ต้าเย่ พวกเจ้าต่างก็อยากจะแบ่งปันดินแดนกันไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ล่ะ? แค่ทหารที่พวกนั้นเชิญมาก็ทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”“พวกเจ้าอย่าลืมว่าภูมิประเทศของที่นี่อันตราย หากพวกเราไม่ยอมออกจากภูเขา แม้หวังหยวนจะเก่งกาจและมียอดฝีมือมากมายก็ทำอะไรเราไม่ได้! หรือว่าเขาจะสามารถคุกคามเราได้จริง ๆ?”ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดการหลบอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่แผนการระยะยาว!“หากผู้ใดกล้าพูดจาบั่นทอนกำลังใจอีก อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน!”เจียงเซี่ยวตวาดอีกครั้ง ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยคนเราเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นย่อมต้องยอมก้มหัว!รุ่งเช้า หวังหยวนและกองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งนี้!ชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนได้รับข่าว บัดนี้หวาดผวาไปหมด เพียงแค่เสียงลมพัดก็คิดว่าเป็นศัตรู!ทุกคนต่างเกรงกลัวอำนาจของหวังหยวน ใครจะกล้าต่อกรกับเขา?แม้จะหลบอยู่ในภูเขา แต่หากหวังหยวนตีฝ่าแนวป้องกันมาได้จะทำเช่นไร?ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมเดาได้!เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหล่าหัวหน้าเผ่าจึงมารวมตัวกัน“พวก
“ส่วนเรื่องของตานสยงเฟย ข้าจะจัดการภายหลัง”ตานสยงเฟยเป็นคนดื้อรั้นและแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจไต่เต้าสร้างพรรคทมิฬขึ้นมาได้!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่โทษต่งอวี่“ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ!”ต่งอวี่รับคำ แล้วเดินออกไปพรุ่งนี้มีศึกใหญ่ ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ จึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาด!แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั้นหลับสนิท แต่ในเวลานี้ ชนเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูกับหวังหยวนกลับยังไม่พักผ่อน เหล่าหัวหน้าเผ่ารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้!แต่ทุกคนล้วนมีสีหน้ากังวล!“พวกท่านคงได้ยินแล้วกระมัง?”“หวังหยวนนำทัพมาเอง บัดนี้ใกล้จะเปิดศึกกับพวกเราแล้ว จะทำเช่นไรดี?”“ทุกคนคงรู้จักชื่อเสียงของหวังหยวนดี เขาไม่ใช่คนอ่อนแอเลย!”“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แม้มีความกล้าหาญกว่านี้สิบเท่า ข้าก็ไม่กล้าไปยั่วยุราชวงศ์ต้าเย่!”ตอนนี้ทุกคนต่างเสียใจ อยากถอนตัวกลับกันทั้งนั้นช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!เดิมทีคิดว่าราชวงศ์ต้าเย่ใกล้สิ้นอำนาจ แผ่นดินจะวุ่นวาย!แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขายังมีแผนสำรอง ยอมทุ่มเทกำลังคนและทรัพย์สินเพื่อเชิญหวังหย
หวังหยวนโบกมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “กองทัพไม่ได้อยู่ที่จำนวนมาก แต่อยู่ที่ความแข็งแกร่ง พวกนั้นเป็นแค่ชนเผ่าป่าเถื่อน จะทำอะไรข้าได้?”“เพียงทหารห้าหมื่นนายของข้าก็เพียงพอแล้ว!”“ท่านขุนพลแค่ประจำการอยู่ในเมือง รอฟังข่าวดีจากข้าก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจแน่นอนว่าหวังหยวนไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ดีว่าหากให้ซือฟางนำทหารออกรบพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาแบ่งปันดินแดนจะทำเช่นไร?ช่างยุ่งยากยิ่งนัก!สู้ให้เขานำทัพไปปราบชนเผ่าต่าง ๆ เอง เมื่อสำเร็จ ดินแดนเหล่านั้นก็ตกเป็นของเขาย่อมดีกว่า!แม้มีผู้ใดคิดแย่งชิงก็คงไม่มีโอกาส!ยิ่งกว่านั้น คาดว่าซือฟางคงไม่กล้าเช่นนั้น!หากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ผลลัพธ์ย่อมเป็นหายนะ!ยิ่งไป๋เหยียนเฟยประชวรหนักย่อมกระทบขวัญกำลังใจ ราชวงศ์ต้าเย่จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบ?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าก็จะรอฟังข่าวดี”“ขอให้ท่านหวังได้รับชัยชนะ!”ซือฟางประสานมือกล่าวทุกคนสนทนากันอีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปซือฟางต้องดูแลการป้องกันเมืองจึงกลับไปก่อน ส่วนไป๋ลั่วหลีอยู่ที่ค่าย คอยช่วยเหลือหวังหยวนวางแผนรบ!ต้องมีคนรู้จักภูมิประเทศนำทาง หวังหยวนจึงจะ
นอกเมืองหลวงหวังหยวนเดินทางพร้อมกับไป๋ลั่วหลีกลับมายังค่ายของตนทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านนอก ซือฟางในชุดเกราะเดินเข้ามาต้อนรับเนื่องจากไป๋ลั่วหลีได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันแล้ว หวังหยวนจึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ากำลังสงสัยว่าเป็นผู้ใด ที่แท้ก็เป็นท่านขุนพลนี่เอง! เชิญเข้ามาเถิด!”“ท่านหวังเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!”“ท่านมาไกล แถมยังช่วยข้าปราบกบฏทางเหนือ เชิญท่านเข้าไปก่อนเถิดขอรับ!”ซือฟางกล่าวตอบอย่างสุภาพไม่นาน ทุกคนต่างเข้าไปในกระโจมใหญ่ต้าหู่และต่งอวี่ยืนขนาบข้างหวังหยวน ดูองอาจน่าเกรงขาม!ซือฟางมองไปที่ทั้งสอง แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ทราบว่าสองท่านนี้คือใครหรือขอรับ?”ทั้งสองดูสง่างาม เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ คงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่!ซือฟางเป็นขุนพลมายาวนานย่อมมีสายตาที่เฉียบคม!หวังหยวนแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ท่านที่อยู่ทางซ้ายมือข้าคือต่งอวี่ นักธนูมือหนึ่งในใต้หล้า ยิงธนูไม่เคยพลาดเป้า เป็นขุนพลเอกในกองทัพ!”“กองกำลังพลธนูที่ข้าฝึกฝนล้วนอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขา!”ต่งอวี่พยักหน้าทักทาย“ส่วนท่านที่อยู่ทางขวาคือพี่น
“หรือว่าแผ่นดินนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น?”สิ้นคำพูด ซือฟางก็ซัดกำปั้นลงบนกำแพงเมืองอย่างเดือดดาล!เหล่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรือแม้แต่จะเอ่ยปาก!“ท่านขุนพลไม่ต้องกังวล!”ทันใดนั้น ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา บนใบหน้ามีเคราสีขาวโพลน เพียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน!คนผู้นี้คือที่ปรึกษาคนสำคัญของไป๋เหยียนเฟยนามว่า เจี๋ยงโฉ่วอี!ในราชสำนัก ผู้ที่อยู่เหนือเขามีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้น!บัดนี้ไป๋เหยียนเฟยป่วยหนัก ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนพึ่งพาเจี๋ยงโฉ่วอี ราชกิจสำคัญล้วนตกเป็นภาระให้เขาตัดสินใจทั้งสิ้น!เห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า!“ปรากฏว่าเป็นท่านเจี๋ยงนี่เอง!”“ท่านคงได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อครู่แล้วกระมัง?”ซือฟางประสานมือคารวะเจี๋ยงโฉ่วอี แล้วเอ่ยถามเจี๋ยงโฉ่วอีพยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้ารู้ว่าท่านขุนพลจงรักภักดี ย่อมคิดถึงฝ่าบาท แต่พระองค์ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลเช่นกัน!”“ครั้งนี้พระองค์ไม่เพียงต้องการให้หวังหยวนช่วยปราบปรามอริทางเหนือเท่านั้น แต่ยัง...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง เจี๋ยงโฉ่วอีก็หยุดพูด พร้อมกับเหลือบมองขุนพลน
“ท่านหวังมาแล้วหรือ?”เมื่อหวังหยวนและพรรคพวกเข้ามาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่แฝงด้วยความอ่อนแอดังมาจากด้านในไป๋ลั่วหลีรีบเข้าไปในกระโจม เปิดม่านทั้งสองข้าง หวังหยวนจึงเห็นไป๋เหยียนเฟยนอนอยู่บนเตียงอาการของไป๋เหยียนเฟยดูย่ำแย่กว่าที่เขาคิด ไม่เพียงแต่ใบหน้าซีดเผือดเท่านั้น แม้แต่ริมฝีปากไร้สีเลือดฝาด ดูอ่อนแรงมาก!หวังหยวนเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้พบกันนาน เหตุใดฝ่าบาทจึงเป็นเช่นนี้?”“ไม่ได้เชิญหมอมารักษาหรือ?”“แค่ก แค่ก”ไป๋เหยียนเฟยไอสองสามครั้ง ไป๋ลั่วหลีช่วยพยุงนางขึ้น นางเงยหน้ามองหวังหยวน แล้วส่ายหน้ายิ้มอย่างจนใจก่อนกล่าวว่า “เมื่อฟ้าลิขิตแล้ว จะทำเช่นไรได้?”“ข้าตามหาหมอมารักษา หมอชื่อดังทั่วดินแดนทั้งเก้าต่างบอกว่าหมดหนทาง บางทีนี่อาจเป็นเจตจำนงของสวรรค์ก็ได้ไม่ใช่หรือ?”“เมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้าตาย ข้าจะฝืนได้อย่างไร?”“แต่น่าเสียดาย กลุ่มกบฏทางเหนือกลับบุกอาณาจักรข้า! ประกอบกับอาณาจักรต้าเป่ยต่างจ้องมองพวกข้าอยู่ ข้าจึงให้ไป๋ลั่วหลีไปเชิญท่านมา หวังว่าท่านจะช่วยปราบกบฏพวกนั้นได้!”หวังหยวนรู้สึกสงสารในบรรดาสี่อาณาจักรใหญ่ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาณาจักรต้าเย่ และ
“ครั้งนี้คงไม่นาน ข้าจะรีบพาทุกคนกลับมา!”“ยิ่งกว่านั้น ยังมีต้าหู่และขุนพลต่งอยู่กับข้าด้วย พวกเจ้าไม่ต้องกังวล”“แค่รออยู่ที่บ้านก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเขารู้ว่าตนเองรู้สึกผิดต่อพวกนาง แต่บุรุษเกิดมาแล้วย่อมต้องสร้างฐานะไม่ใช่หรือ?สวรรค์ให้โอกาสเขาเกิดใหม่ จึงต้องใช้ความสามารถสร้างความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้!“น้องหรูเยียนยังไม่ค่อยสนิทกับพวกเจ้า ครั้งนี้ข้าจะพานางไปอาณาจักรต้าเย่ก่อน รอให้พวกเรากลับมาแล้วค่อยทำความรู้จักกัน”หลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีกในเมื่อหวังหยวนตัดสินใจแล้ว พวกนางก็ได้แต่ทำตามภรรยาย่อมต้องเชื่อฟังสามี!“ท่านตงฟาง!”หลังจากพูดคุยกับภรรยาแล้ว หวังหยวนก็มองไปที่ตงฟางฮั่น“หลังจากที่ข้าไปแล้ว ต้องรบกวนท่านและท่านถงช่วยดูแลที่นี่ด้วย”“ข้าได้สั่งเอ้อหู่ ให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของพวกท่าน ห้ามกระทำการโดยพลการ!”“เมืองหลิงคือรากฐานของข้า จึงมีความสำคัญยิ่ง ต้องไม่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นเด็ดขาด!”“คนของอาณาจักรต้าเป่ยจ้องมองพวกเราอยู่ หานเทาพร้อมจะสู้รบกับข้าทุกเมื่อ พวกท่านต้องระวังตัว!”หวังหยวนกำชับหลายครั้งตงฟางฮั่นแ
ทันใดนั้น เสียงไอก็ขัดจังหวะหวังหยวนเขาหันไปมองตามเสียงจึงเห็นตงฟางฮั่นทั้งสองแค่สบตากันก็เข้าใจความคิดของกันและกัน“คุณหนูไป๋”“ข้าขอคิดทบทวนก่อน จึงค่อยให้คำตอบ! วันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องหนักใจเช่นนี้เลย รอให้ดื่มกันให้หนำใจก่อน แล้วค่อยพูดคุยกันดีกว่า เจ้าว่าเช่นไร?”หวังหยวนให้เกียรติไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะรอฟังข่าวจากท่านหวังเจ้าค่ะ!”เมื่องานเลี้ยงเลิกราและจัดการเรื่องที่พักของไป๋ลั่วหลีแล้ว หวังหยวนก็รีบออกไปข้างนอกพร้อมกับตงฟางฮั่นริมถนน หวังหยวนและตงฟางฮั่นเดินเล่นไปพลางคุยกัน “ท่านตงฟาง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”“ข้าคิดว่าควรส่งกองกำลังไปช่วย!”“ตอนนี้ไม่ใช่ยุคสงคราม โครงการชลประทานทำให้อาณาจักรอื่น ๆ เห็นถึงประโยชน์ เท่าที่ข้ารู้ แม้แต่อาณาจักรต้าเป่ยก็กำลังเร่งสร้างโครงการชลประทานเหมือนกัน!”“ในเมื่อพวกเราสร้างเสร็จก่อน ก็ควรใช้โอกาสนี้ขยายอาณาเขต!”หืม?หวังหยวนเลิกคิ้ว รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย “ท่านตงฟาง ท่านลืมแล้วหรือ ครั้งก่อนที่พวกเราพบกันที่หอหลิวหลี ต่างให้สัญญากันว่าจะไม่ทำสงครามเพื่อให้โลกสงบสุข!”“หากข้ายกทัพตอน
ดูเหมือนว่าเมืองหลิงจะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในดินแดนทั้งเก้า!ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เป็นที่หมายปองของทุกคน!เมื่อทุกคนกลับถึงบ้านของหวังหยวน พวกหลี่ซื่อหานได้สั่งให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะแล้ว หวังหยวนจึงแนะนำหลิ่วหรูเยียนให้เหล่าภรรยารู้จักพวกนางชินกับเรื่องแบบนี้แล้วบุรุษมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ไม่นานพวกนางก็สนิทสนมกันดั่งพี่สาวน้องสาวเนื่องจากไป๋ลั่วหลีอยู่ที่นี่ด้วย หวังหยวนจึงไม่อาจอยู่พูดคุยกับภรรยาได้ เพราะต้องไปดูแลไป๋ลั่วหลีก่อนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทหวังหยวนกลับมานั่งที่โต๊ะ หลังจากดื่มกับไป๋ลั่วหลีสองสามจอกแล้วจึงกล่าวว่า “คุณหนูไป๋เดินทางมาไกล คงไม่ใช่แค่มาขอบคุณข้ากระมัง?”“ตอนนี้เราเป็นสหายกันแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็บอกมาตามตรงเถิด ไม่ต้องอ้อมค้อม! ข้าไม่ใช่คนใจแคบ! หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วย ข้าก็ยินดี”หวังหยวนเป็นคนใจกว้างไป๋ลั่วหลีได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าและถอนหายใจเป็นเช่นที่ร่ำลือกันจริง ๆ!หวังหยวนมีสายตาเฉียบแหลม แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง ไม่มีความคิดใดหลบเลี่ยงสายตาเขาไปได้!“ในเมื่อท