เขาไม่อยากยอมสักหน่อย!“หวังหลาง ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ เจ้าคิดว่าเบื้องบนเกลียดข้า ดังนั้นเจ้าจึงอยากจะจัดการข้าแทนเบื้องบน แต่เจ้าคิดว่าข้ามันตัวคนเดียวในราชสำนักจริงรึ ฝั่งเสนาธิการฝ่ายซ้าย พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อข้า ยังมีอู๋หลิงอีก”“แม้ว่าเจ้าจะฆ่าข้า และต้าเย่เลือกที่จะต่อสู้กับราชสำนักหวง แต่ในอนาคตก็เลี่ยงไม่ได้ที่เสนาธิการฝ่ายซ้ายจะจัดการเจ้า!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ หวังหลางก็นั่งลงบนที่นั่งของเขา และล้มเลิกความคิดในใจแล้ว!ท้ายที่สุดแล้ว ฝั่งเสนาธิการฝ่ายขวาก็ไม่มีอำนาจล้นฟ้า แม้ว่าฝ่าบาทจะเกลียดหวังหยวน แต่ก็ยังมีเสนาธิการฝ่ายซ้ายคอยควบคุมไว้อยู่หากวันหนึ่งฝั่งเสนาธิการฝ่ายซ้ายเข้าครองราชสำนัก หากเขาสังหารหวังหยวน พวกเขาจะรู้สึกแค้นใจอย่างแน่นอน!โดยเฉพาะอู๋หลิง!หากสงครามเริ่มขึ้น เขาจะเป็นแม่ทัพใหญ่ และตัวเองเป็นรองแม่ทัพ เมื่อถึงเวลา...จะเป็นหรือตายก็อยู่ในกำมือของเขา!เมื่อคิดเช่นนี้ จู่ ๆ เขาก็ไม่มีแรงจะโบกมือขึ้นมา“หวังหยวน เจ้าไปซะ!”หวังหยวนยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ตอนออกจากค่ายจากที่นี่ แม้ว่าจะน่าตกใจแต่ก็ไม่มีอันตรายอะไร แต่หวังหยวนรู
หวังหยวนยังย่างกระต่ายต่อ แต่ในตอนนี้เสียงกรีดร้องดังมาจากอีกทางหนึ่ง ถังหม่างยัดเนื้อคำสุดท้ายเข้าปากแล้วจิบเหล้าหนึ่งอึก“พี่หยวน ข้าไปสักประเดี๋ยว เดี๋ยวมา!”เมื่อพูดจบ ถังหม่างก็ออกไปมุ่งหน้าไปตามทิศทางของเสียงที่ดังขึ้นหวงเจียวเจียวยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก!ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขามีแค่ห้าสิบกว่าคนเท่านั้น และไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรต่อต้าเย่เลยสักนิด!ยิ่งไปกว่านั้น จักรพรรดิต้าเย่อยากจะฆ่าเขา สำหรับเขานี่เป็นสถานการณ์ที่ต้องตายอย่างแน่นอน!“พี่หยวน จะไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอ?”หวงเจียวเจียวกระเถิบไปข้าง ๆ หวังหยวนดึงแขนเสื้อเขาเบา ๆ และถามด้วยความกังวล“ไม่ต้องห่วง ข้าผ่านเรื่องแบบนี้มาเยอะ ไม่เป็นไรหรอก”“ยิ่งกว่านั้น ข้ารู้อยู่แล้วว่าจะมีการซุ่มโจมตี ข้าจึงชะลอความเร็วลง พักที่นี่แล้วปล่อยให้พวกเขาเข้ามาฆ่าข้า”หวังหยวนพูดอย่างช้า ๆ ตอนที่ออกจากชายแดน หวังหยวนให้ต้าหู่และถังหม่างเตรียมพร้อม ท้ายที่สุดพวกเขาไม่กล้าฆ่าเขาอย่างเปิดเผย แต่ต้องมีคนมากมายที่อยากจะมาลอบฆ่าเขา!หวังหยวนไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ!อย่างไรก็ตาม การฆ่าเขาอาจไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น!"เฮ้อ...อยู่ที่แคว้นหว
“เอาล่ะ จัดการเรื่องพวกนี้กันก่อน อย่างน้อยสักสองสามวัน เราก็จะปลอดภัยแล้ว”“เราอยู่ห่างจากหมู่บ้านต้าหวังนิดหน่อย อีกไม่กี่วันก็จะถึงแล้ว พอเรากลับถึงหมู่บ้านก็จะปลอดภัยแล้วจริง ๆ”หวังหยวนหาวหวอด ทุกคนก็พักผ่อนเอาแรงกันเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนก็มุ่งหน้าเดินทางไกลกันต่อไปร่องรอยของหวังหยวนนั้นคลุมเครือไม่แน่นอน บางครั้งก็ใช้เส้นทางเถนนเส้นหลัก บางครั้งก็ใช้เส้นทางถนนรกชัฏ ว่าง่าย ๆ อยากจะหาตัวเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขณะนี้หลายคนทราบข่าวการกลับมาของหวังหยวนแล้ว!ขณะนี้อู๋หลิงอยู่ในเมืองหลวง นั่งกังวลอยู่ในจวนของเขา“แม่ทัพหนุ่ม พี่หยวนตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ เราควรทำอย่างไรดี?”เอ้อหู่ยืนอยู่ข้างอู๋หลิง หลังจากอยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้ว เอ้อหู่ก็ฉลาดขึ้นมาก บนใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ“เอ้อหู่ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงท่านที่ปรึกษา ข้าก็เหมือนกัน แต่... เราถูกย้ายกลับมาที่เมืองหลวง พวกเราจะยื่นมือไปช่วยได้ยากจริง ๆ!”อู๋หลิงหดหู่อย่างมาก ทุกครั้งที่เขาอยากจะช่วยหวังหยวน แต่พบว่าเขาเองก็ช่วยไม่ได้ทุกครั้ง!ครั้งล่าสุดที่ไปเป็นทูตที่ราชสำนักหวงก็เป็นแบบนี้ ครั้งนี้เมื่อกลับมาที
จักรพรรดิซิงหลงรู้อยู่แล้วว่าทำไมอู๋หลิงถึงมา แต่เขาก็แค่ยิ้มออกมาเท่านัั้น“เรื่องนั้นสินะ งั้นว่ามาเถอะ ข้า... ฟังอยู่!”อู๋หลิงเงยหน้าขึ้นเห็นว่าสีหน้าจักรพรรดิซิงหลงดูไม่ดีนัก แต่เขาก็ยังจะพูดต่อไป แม้ว่าจะกดดันก็ตาม“ฝ่าบาท กระหม่อมจะไม่พูดถึงสิ่งที่หวังหยวนทำและผลงานที่เขาทำในวันนี้ วันนี้กระหม่อมจะพูดถึงภารกิจของเขาเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ จักรพรรดิซิงหลงก็พยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร“การไปราชสำนักหวงในฐานะทูตนั้นย่อมเสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว ใคร ๆ ก็ล้วนมองออกว่ามีอันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่งในราชสำนักหวง ยิ่งไปกว่านั้น เขาคือคนที่วางแผนสังหารอ๋องถูหนาน!”“แค่จุดนี้จุดเดียว อย่างอากู่ฉาที่จะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ ความแค้นจากการฆ่าพ่อของเขาไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ ดังนั้นแค่คิดจินตนาการดู สถานการณ์ของหวังหยวนในแคว้นหวงจะเป็นอย่างไร!”หลังจากพูดเช่นนี้ จักรพรรดิซิงหลงก็ไม่ได้ปฏิเสธโต้แย่งอะไรอ๋องถูหนานถูกฆ่า อากู่ฉาในฐานะอ๋องถูหนานคนใหม่ก็ย่อมอยากจะฆ่าหวังหยวนเป็นธรรมดา!อย่างไรก็ตาม เขาไม่เข้าใจว่าหวังหยวนทำอะไรให้อากู่ฉาล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าเขา และมีความสามารถอะไรให้ร
“กระหม่อมรู้จักหวังหยวนดี เขาไม่ใช่คนแบบนั้น ยิ่งกว่านั้นถ้าเขาเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมเขาถึงเลือกกลับมาล่ะพ่ะย่ะค่ะ? ใช้ชีวิตที่นั่นอย่างมีความสุข อย่างมั่งคั่งสูงศักดิ์ไม่ดีกว่าหรือ?”“เหตุผลที่เขากลับมาก็เพราะเขาเป็นห่วงคนในครอบครัว ดังนั้นเขาจึงกลับมาที่ต้าเย่ และเขาจะไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน!”“ฝ่าบาท! ต้าเย่สงสัยในตัวหวังหยวนอยู่แล้ว ทำไมราชสำนักหวงถึงเลือกเขาเป็นสายลับ? นี่เป็นไปไม่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ จักรพรรดิซิงหลงก็ไม่ได้พูดอะไร แต่อู๋หลิงก็เตือนสติเขาเรื่องหนึ่ง!นั่นคือครอบครัว!เขาไม่เคยทำอะไรกับครอบครัวของหวังหยวน เหตุผลที่เขาไม่ทำก็เพราะไม่จำเป็น!เขาเป็นจักรพรรดิของต้าเย่ ไม่รู้สึกรังเกียจที่จะทำเช่นนี้แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว!เนื่องจากมีคนสองคนและอีกมากมายมาร้องขอความเมตตา หวังหยวนเองก็เป็นคนที่เขาไม่ชอบ เขารู้สึกเกลียดท่าทีที่เหมือนอู๋มู่นั่น!ยิ่งรู้สึกเกลียดท่าทีอู๋หลิงมากยิ่งขึ้น และก็ยิ่งเกลียดท่าทีของวังไห่เทียนมากขึ้นด้วยเช่นกัน!ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็จะไม่เอาหวังหยวนมาใช้อีก นี่คือความตั้งใจเดิมของเขา!แต่ตอนนี้เขามีความค
อู๋หลิงเมาอยู่คนเดียว เขากลับบ้านและนอนหลับจนถึงรุ่งสางเขาปวดหัวแทบแตกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อเขาตื่นขึ้นมา สีหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความกังวล!“ข้าไม่รู้อยู่ดีว่าฝ่าบาทคิดอะไรอยู่!”อู๋หลิงถอนหายใจ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ!หลังจากเดินออกจากห้อง อู๋หลิงก็รับประทานอาหารเช้าตามปกติ และไปที่สนามฝึกซ้อมทำการฝึกซ้อมฝีมือมาตลอดสิบปีไม่เคยหยุดเลยสักวันแต่วันนี้เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป!หลังจากใช้เวลาสองชั่วยามในสนามฝึกซ้อมนี้ เขาก็ถอนหายใจ "เมื่อไหร่ข้าจะไปถึงจุดสูงสุดได้เหมือนท่านพ่อสักทีนะ"อู๋หลิงไม่พอใจกับระดับวรยุทธ์ของตัวเอง หลังจากส่ายหน้า เขาก็มองไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว และสะดุ้งเล็กน้อย "หืม? เอ้อหู่อยู่ไหน?"เมื่อก่อนตอนที่เขาฝึกซ้อมอยู่ในสนามแห่งนี้ เอ้อหู่ก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วย เช่นเดียวกับกับตัวเขาเอง เขาฝึกฝนวรยุทธ์ทุกวันไม่หยุดแต่วันนี้กลับไม่เห็นเขาเลย“เจ้าขี้เกียจงั้นเหรอ?”อู๋หลิงตกใจอยู่ครู่หนึ่ง และรีบให้คนไปเรียกเอ้อหู่มาคนที่มารายงานกลับมา และพบว่าเอ้อหู่ไม่อยู่ในห้อง!อู๋หลิงที่ได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจ!“เอ้อหู่ไม่อยู่ที่นี่เหรอ?”เขารีบไปห้อ
ใช้เอ้อหู่เป็นเหยื่อล่อเพื่อฆ่าหวังหยวน!จักรพรรดิซิงหลงทำแบบนี้ได้อย่างไร!หน้าเขายิ่งซีดลงไปอีก เขาไม่พูดอะไร และรีบเขียนจดหมายทันที แล้วให้คนรีบไปส่งให้หวังหยวน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามก็ต้องไปส่งให้ถึงมือหวังหยวนให้ได้!เขาจะหาทางช่วยเอ้อหู่ แต่หวังหยวนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเมืองหลวงนี่สิ!...หวังหยวนไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมดนี้ หลังจากที่เดินทางอยู่นาน ก็มาเพิ่งถึงเฉิงโจวหลังจากมาถึงเฉิงโจว อีกไม่กี่วันก็จะถึงหมู่บ้านต้าหวังแล้ว!ครั้งก่อนนั้นที่เจิ้งไท่ชิงทรยศ และกองทัพชิงโจวล้อมรอบเฉิงโจวเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่ตอนนี้ก็ฟื้นฟูได้แล้วหวังหยวนมาถึงเมืองเฉิงโจว และตรงไปยังบ้านที่เขาซื้อเอาไว้หลังจากเข้าไปพบว่าสถานที่นั้นสะอาดสะอ้านมาก ดูเหมือนว่าไป๋เฟยเฟย และผู้หญิงคนนั้นจะมาช่วยเขาทำความสะอาดที่นี่ช่างใส่ใจจริง ๆ!"พักผ่อนสักหนึ่งวัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางกลับชิงโจวกัน!"หวังหยวนยิ้มและรู้สึกโล่งใจอย่างน้อยในเมืองนี้ คิดอยากจะฆ่าเขา ก็ไม่ได้ง่ายขึ้นนั้น!ในขณะเดียวกัน ไป๋เฟยเฟยก็ได้รับข่าวทันทีที่หวังหยวนกลับมาถึงบ้านทันใดนั้นนางก็หัวเราะขึ้นมา "ท่านหมิงถันช
สีหน้าหวังหยวนดำทะมึนมาก!เขาคิดว่าจักรพรรดิต้าเย่จะใช้วิธีการต่าง ๆ มาจัดการเขา!แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะใช้วิธีนี้!มันช่างโหดเหี้ยมและชั่วร้ายจริง ๆ!หลังจากจับเอ้อหู่ได้แล้ว ก็บังคับให้เขาไปที่เมืองหลวงด้วยตัวเอง!“พี่หวัง ฝ่าบาล เกรงว่าเขาจะบังคับให้เจ้าไปที่นั่น บางทีเขาอาจจะ…”ไป๋เฟยเฟยยังพูดไม่จบ แต่ความหมายมันชัดเจนจริง ๆ!หวังหยวนพยักหน้า “ข้าเกรงว่าคนคนนี้อยากจะฆ่าข้า!”ไป๋เฟยเฟยถอนหายใจและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "วิธีนี้น่ารังเกียจเกินไป! เขาจะทำตัวตรงไปตรงมากว่านี้ไม่ได้เลยหรือ ถ้าเขาอยากฆ่าเจ้า เรียกเจ้าเข้าไปในวังไม่ได้รึไง?"หวังหยวนส่ายหน้า “หากให้ข้าเข้าไปในวัง ข้าคงจะขัดขืนราชโองการนี้มากแน่ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นเพียงข้าราชบริพานตัวเล็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในวังอยู่แล้ว”“นอกจากนี้ นี่เป็นคำเตือนสำหรับข้าด้วย เป็นคำเตือนที่แสนอันตราย!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่มาก!เขาไม่คาดคิดเลยว่าจักรพรรดิต้าเย่จะเล่นลูกไม้เช่นนี้!พูดตามตรง เขารู้สึกถึงความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามจริง ๆ!อยากจะฆ่าเขายังจะใช้แผนการ และยังใช้กลอุบายสกปรกขนาดนี้อีกด้วย!คนเ
ตอนนี้หวังหยวนกลับพูดจาเยาะเย้ยเช่นนี้ นางจะไม่โกรธได้อย่างไร?“ดีนัก!”“พวกเราเพิ่งจะอยู่ร่วมกันไม่ถึงครึ่งปี ท่านก็เริ่มรังเกียจข้าแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ข้าไปตอนนี้เลยแล้วกัน!”“ถือเสียว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกัน!”หลิ่วหรูเยียนยังคงแข็งกร้าวเช่นเดิม พูดจบนางก็ลุกขึ้น เตรียมจะกระโดดลงจากรถม้าหวังหยวนรีบคว้าแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้ พลางเอ่ยขอโทษอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าพูดผิดไป เจ้าเป็นคนใจกว้าง อย่าได้ถือสาข้าเลย!”“อีกอย่าง ต่อให้ร่างกายของเจ้าจะมีรอยแผลเป็น แล้วจะเป็นอย่างไร? ใจของข้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง!”“ข้ารู้ดีว่ารอยแผลเป็นบนร่างกายของเจ้าเกิดขึ้นเพราะข้า หากไม่มีรอยแผลเป็นนี้ บางทีข้าอาจจะลืมเลือนความดีของเจ้าที่มีต่อข้า แต่หากรอยแผลเป็นนี้ยังคงอยู่ ย่อมทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น!”“อย่างน้อยก็ทำให้ข้าจดจำความดีของเจ้าได้ตลอดไป!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีนางรู้ดีว่าหวังหยวนไม่ใช่คนอกตัญญู ไม่เช่นนั้นในคืนนั้นนางคงไม่ยืนหยัดต่อสู้เต็มที่อยู่เคียงข้างหวังหยวน!ความทุ่มเทถือว่าได้รับผลตอบแทน!หลายวันผ่านไป หวังหยวนและพรรคพวกได้เดินทางมาถึงเชิงเขา
ครึ่งเดือนผ่านไป เนื่องจากเกาเล่อได้รวบรวมช่างฝีมือมามากมาย การก่อสร้างหอไร้เทียมทานจึงคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วยามนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วคาดว่าอีกครึ่งเดือน หอไร้เทียมทานก็จะสร้างเสร็จสมบูรณ์!และในช่วงเวลานี้ อาการของหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ดีขึ้น หวังหยวนได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง เพื่อทำให้ทุกคนสบายใจตั้งแต่หลิ่วหรูเยียนล้มป่วย หวังหยวนนั้นไม่มีแก่ใจจะทำสิ่งใด ไม่ได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง ซึ่งทำให้ต้าหู่และเอ้อหู่สองพี่น้องร้อนใจยิ่งนัก!ยามนี้เมืองหลิงอยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขาทั้งสอง แม้ว่าจะมีถงจื่อเจี้ยนและคนอื่นช่วยเหลือ แต่ทั้งสองนั้นเป็นห่วงความปลอดภัยของหวังหยวนมากกว่าแม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด แต่ก็รักใคร่กันยิ่งกว่าพี่น้อง!แม้ว่ายามนี้จะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ!ขอเพียงพี่น้องได้อยู่ร่วมกัน ต่อให้ต้องสูญเสียแผ่นดินไป แล้วจะมีความหมายอะไร?เวลาผ่านไปครึ่งเดือน ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง และในช่วงครึ่งเดือนนี้ หอไร้เทียมทานสร้างเสร็จสมบูรณ์ หวังหยวนออกจากเผ่าแล้ว ยามนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเม
หากจะกล่าวให้ยิ่งใหญ่ขึ้นก็เพื่อปวงประชา!ดินแดนทั้งเก้าได้กลับคืนสู่ความสงบสุขได้ก็เพราะเขา เขาจึงต้องการให้ความสงบสุขนี้คงอยู่สืบไป ปวงประชาจะได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาล!“ไม่ทราบว่าท่านหมอเทวดาอันมีความคิดเห็นเช่นไร?”หวังหยวนเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาของเขา อันจูหมิงจึงรีบโบกมือเอ่ยว่า “ในเมื่อมีเรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะไม่เข้าร่วม? ข้าจะต้องมีที่นั่งในหอไร้เทียมทานนี้อย่างแน่นอน! ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถของข้าด้วยก็แล้วกัน!”“อีกอย่าง ข้ารู้ว่าท่านมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า ปวงประชาต่างเคารพท่านราวกับเป็นฮ่องเต้ แม้แต่คนของอาณาจักรต้าเป่ยก็คิดเช่นนั้น!”“หอไร้เทียมทานย่อมต้องเจริญรุ่งเรืองภายใต้การดูแลของท่าน แล้วชื่อเสียงของข้าก็จะยิ่งโด่งดัง!”“เรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะพลาด?”คิดไม่ถึงว่าอันจูหมิงจะตอบรับอย่างง่ายดาย!หวังหยวนยินดียิ่งนัก “เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านหมอเทวดาอันที่ให้เกียรติ!”เมื่อได้หมอเทวดาอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าเข้าร่วม คาดว่าอีกไม่นานหอไร้เทียมทานนี้ก็จะสามารถรวบรวมผู้มีความสามารถไว้ได้มากมายแน
“รับความไว้วางใจจากผู้อื่น ต้องรักภักดีต่องานของผู้อื่น”อันจูหมิงหยิบขวดยาออกมาจากอกเสื้อ พลางเอ่ยขึ้นว่า “นี่คือยาเม็ดที่ข้าปรุงให้ฮูหยิน ทานวันละหนึ่งเม็ด หลังอาหารเย็น ในนี้มียาสามสิบเม็ด หนึ่งเดือนต่อมา ฮูหยินก็จะหายดี!”หลังจากที่หวังหยวนและคนอื่น ๆ กลับมาเมื่อวาน ก็ให้เกาเล่อนำดอกหน้าผาชันมามอบให้อันจูหมิงเขาทำได้เพียงนำดอกหน้าผาชันกลับมา ส่วนการนำมาใช้เป็นยานั้นต้องอาศัยความสามารถของอันจูหมิงอีกทั้งอันจูหมิงก็ไม่ดื่มสุราเลย เพียงคืนเดียว ยาเม็ดนี้ก็ปรุงเสร็จ!“ยังต้องกินยาอีกหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเดินมาด้วยสีหน้าจนใจ เมื่อเห็นขวดยาอันสวยงามประณีตก็ไม่รู้สึกสนใจแม้แต่น้อยเนื่องจากนางยังมีบาดแผล ทุกวันนี้จึงต้องดื่มยามากมาย ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายคิดไม่ถึงเลยว่าอาการป่วยของนางยังไม่หายดี แต่ปริมาณยากลับเพิ่มขึ้น ช่างน่าเจ็บใจนัก!หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเราแลกมาด้วยชีวิต เจ้าต้องกินให้ดี ไม่เช่นนั้นทั้งข้า เกาเล่อ และเฉินอวิ่นจะเสียแรงเปล่า”“เกิดอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามด้วยความสงสัยส่วนอันจูหมิงที่อยู่ด้านข้างโบกมือ เมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ
หวังหยวนใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากของตน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นส่วนเกาเล่อยกยิ้ม แล้วเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นี่ก็เป็นเรื่องง่าย หากต้องการจะได้รับฉายาไร้เทียมทานย่อมต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดของด้านนั้นๆ ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญมาสองคน พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด สู้ให้พวกเขาทั้งสองประลองฝีมือกัน ผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ผู้อ่อนแอกว่า ย่อมรู้ได้ในพริบตา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นเช่นไรขอรับ?”หวังหยวนตบมือ เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?หากสามารถรวบรวมผู้ที่ไร้เทียมทานเหล่านี้มาอยู่เคียงข้างได้ เขาสามารถจินตนาการถึงภาพนั้นได้แล้ว!ต่อให้ภายภาคหน้าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองหลิงอีกต่อไป เพียงแค่หอไร้เทียมทานก็สามารถทำให้ผู้คนทั่วหล้ายังคงเคารพเขา และปกป้องแผ่นดินให้สงบสุขได้ด้วย!“ดื่มสุรา! ดื่มสุรา!”หวังหยวนอารมณ์ดียิ่งนัก เขายกจอกสุราขึ้น พลางโบกมือให้กับทุกคน ทุกคนจึงดื่มสุราตามเฉินอวิ่นไม่ได้ทำตัวเป็นคนนอก ในไม่ช้าก็สามารถเข้ากับทุกคนได้ดี ผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีที่สุดกับเขาคือไฉจวิ้นแม้ว่าไฉจวิ้นจะอายุน้อยกว่าเขามาก แต่ไฉจวิ้นมีนิสัยห้าวหาญ อีกทั้งยังไม่
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ดื่มสุรากับท่านสักสองจอกที่นี่ก็ถือว่าได้สหายเพิ่มอีกคน”“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากความร่ำรวยของท่านแล้ว ภายภาคหน้าหากต้องการเงินทอง ท่านคงเป็นผู้ช่วยที่ดี”ชายคนนั้นไม่เกรงใจ เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจหวังหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากไท่สื่อลี่ได้เตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของไท่สื่อลี่อย่างไรเสีย หวังหยวนก็ไม่อยากดื่มสุรากับคนทั้งเผ่า ประสบการณ์ครั้งก่อนยังคงแจ่มชัด เขาไม่อยากจะประสบพบเจออีก...อีกอย่าง ครั้งนี้ที่ต้องการจะดื่มสุราก็เพราะชายตรงหน้าคนนี้คนผู้นี้ช่างลึกลับยิ่งนัก แต่มีความสามารถที่แท้จริง หวังหยวนเป็นคนชอบคนเก่ง หากสามารถทำให้คนผู้นี้มาทำงานให้ตนได้ ภายภาคหน้าย่อมเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของเขา!“ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือ?”ขณะที่ทุกคนกำลังเดินไปยังบ้านของไท่สื่อลี่ สายตาของหวังหยวนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น“ท่านไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก เรียกข้าว่าเฉินอวิ่นก็พอ”เฉินอวิ่นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดตั้งแต่แรกว่าเขาเป็นคนคนพเนจร ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เฉินอ
หวังหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่กลับแต่งกายเรียบง่าย นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาใช้เงินเท่าที่จำเป็น คาดว่าเงินทองส่วนเกินคงจะมอบให้ผู้อื่นไปหมดแล้ว”“นี่อาจจะเป็นความหมายของคำว่าคุณธรรมก็เป็นได้”“แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ หากต้องการจะพิชิตใจคนผู้นี้ ดูท่าแล้วคงต้องใช้ความคิดมากกว่านี้”เกาเล่อพยักหน้าเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นจริงๆครึ่งชั่วยามผ่านไป ชายคนนั้นกระโดดลงมาจากที่สูงเพียงไม่กี่ครั้งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกหวังหยวน ในมือของเขาถือเกสรดอกไม้ที่ส่องประกาย“นี่คือเกสรของดอกหน้าผาชันหรือ?”ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขากำลังจะยื่นมือไปรับ แต่ชายคนนั้นหดมือกลับ“สหาย ท่านสัญญากับข้าว่าจะให้หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทอง จ่ายเงินแล้วค่อยรับของ เช่นนี้ถึงจะถูกต้อง”“หากข้าไม่เห็นเงิน ข้าก็ไม่อาจมอบสิ่งนี้ให้ท่านได้”ชายคนนั้นมีท่าทีที่หนักแน่นหวังหยวนจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทองนั้นมากมายยิ่งนัก แต่สำหรับข้าแล้วนั้นไม่นับว่ามากมาย เพียงแต่ว่าข้าไม่ได้พกทองติดตัวมามากมายเพียงนั้น หรือว่าท่านจะติดตามข้าไปยังเผ่
ดังเช่นที่ชายคนนั้นได้กล่าวไว้ บนหน้าผาสูงตระหง่านแห่งนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้ว่าเกาเล่อจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศและฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่อาจปีนป่ายหน้าผาได้!เมื่อครู่นี้เขาตั้งใจจะเสี่ยงอันตราย หากสามารถนำดอกหน้าผาชันกลับมาได้ย่อมเป็นเรื่องดีแต่หากไม่สำเร็จ คงต้องสูญเสียชีวิตไป...ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวผ่านจุดที่ยากลำบากที่สุด ก็เห็นชายคนนั้นมาถึงข้างกาย ใช้เถาวัลย์พันรอบเอวของเขา แล้วพาเขากลับลงสู่พื้นดินทุกอย่างราวกับความฝัน ทำให้เกาเล่อไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น!หลังจากที่ชายคนนั้นช่วยเหลือเกาเล่อแล้ว ก็ไม่ได้เสียเวลาพูดคุยกับพวกหวังหยวนอีก แต่กลับมุ่งหน้าไปยังหน้าผาอีกครั้ง!การเคลื่อนไหวนั้นช่างชำนาญยิ่ง ราวกับเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ!ทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนหน้าผารู้สึกราวกับกำลังชมการร่ายรำ เพียงแต่ว่าท่วงท่าอันงดงามนี้ หากเกิดความผิดพลาดเพียงครึ่งก้าวย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิต!ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นร้ายแรงยิ่งนัก!หวังหยวนและเกาเล่อสบตากัน เกาเล่อเอ่ยขึ้นว่า “ชาติที่แล้วเจ้านี่คงเกิดเป็นลิง ทักษะของเขาจะดีเยี่ยมปานนี้ได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นผู้มีวิชาที่เ
น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี