สีหน้าหวังหยวนดำทะมึนมาก!เขาคิดว่าจักรพรรดิต้าเย่จะใช้วิธีการต่าง ๆ มาจัดการเขา!แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะใช้วิธีนี้!มันช่างโหดเหี้ยมและชั่วร้ายจริง ๆ!หลังจากจับเอ้อหู่ได้แล้ว ก็บังคับให้เขาไปที่เมืองหลวงด้วยตัวเอง!“พี่หวัง ฝ่าบาล เกรงว่าเขาจะบังคับให้เจ้าไปที่นั่น บางทีเขาอาจจะ…”ไป๋เฟยเฟยยังพูดไม่จบ แต่ความหมายมันชัดเจนจริง ๆ!หวังหยวนพยักหน้า “ข้าเกรงว่าคนคนนี้อยากจะฆ่าข้า!”ไป๋เฟยเฟยถอนหายใจและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "วิธีนี้น่ารังเกียจเกินไป! เขาจะทำตัวตรงไปตรงมากว่านี้ไม่ได้เลยหรือ ถ้าเขาอยากฆ่าเจ้า เรียกเจ้าเข้าไปในวังไม่ได้รึไง?"หวังหยวนส่ายหน้า “หากให้ข้าเข้าไปในวัง ข้าคงจะขัดขืนราชโองการนี้มากแน่ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นเพียงข้าราชบริพานตัวเล็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในวังอยู่แล้ว”“นอกจากนี้ นี่เป็นคำเตือนสำหรับข้าด้วย เป็นคำเตือนที่แสนอันตราย!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่มาก!เขาไม่คาดคิดเลยว่าจักรพรรดิต้าเย่จะเล่นลูกไม้เช่นนี้!พูดตามตรง เขารู้สึกถึงความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามจริง ๆ!อยากจะฆ่าเขายังจะใช้แผนการ และยังใช้กลอุบายสกปรกขนาดนี้อีกด้วย!คนเ
นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน เพราะนางก็รู้จักนิสัยของหวังหยวนเป็นอย่างดี จึงรู้ว่าหลังจากที่เขาตัดสินใจแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!หลังจากที่ไป๋เฟยเฟยจากไป หวังหยวนก็เล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะต้าหู่!เมื่อได้ยินดังนั้น ต้าหู่ก็เบิกตากว้างขึ้นทันที!“ฮ่องเต้สามานย์! กล้าดีอย่างไรมาสั่งจำคุกเอ้อหู่!”ต้าหู่คำราม ขณะพูด จิตสังหารแผ่ซ่านออกมาจากดวงตาของเขา!“ต้าหู่ ข้าจะพาเอ้อหู่กลับมาในระหว่างการเดินทางนี้ ไม่ต้องกังวล เป็นเพราะต้าเย่อยากให้ข้าตาย เอ้อหู่จึงต้องเดือดร้อนทั้งที่ไม่สมควร”หลังจากได้ฟังเช่นนี้ ต้าหู่ก็รีบพูดว่า “พี่หยวน ข้าจะไปกับท่านด้วย!”“ถ้าฮ่องเต้สามานย์นั่นต้องการฆ่าท่าน แม้ว่าข้าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่ข้าก็ยินดีจะตายไปพร้อมกับท่าน!”ต้าหู่พูดอย่างดุดันถังหม่างก็พูดทันทีว่า “พี่หยวน ข้าก็จะไปด้วย แม้ว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น ข้าก็จะพยายามหาทางออกให้พี่หยวน!”ส่วนเกาเล่อสูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตาเขาบ่งบอกว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่!“ไม่ต้องหรอก ไม่สะดวกให้พวกเจ้าไป ข้าไปคนเดียวจะดีกว่า”“พวกเจ้าแค่ต้องปก
เมื่อเกาเล่อส่งจดหมายเหล่านี้ออกไป ใช้เวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้น หลายคนก็ได้รับแล้ว!เมื่อวังไห่เทียนอ่านจดหมายนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดมนด้วยความโกรธจัด!“อู๋มู่เคยโดนเช่นนี้! ท่านหมิงถันก็จะโดนเช่นกันด้วยหรือ?”“ไม่... ข้าไม่ยอม!”ด้วยเหตุนี้วังไห่เทียนจึงเขียนจดหมายทันที เพื่อแจ้งให้สมาพันธ์ต้าถงทราบถึงทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับหวังหยวน!บัณฑิตคนอื่น ๆ ที่กู่โจวและจิ่วซานจึงได้รู้เรื่องนี้ทันที!ในเวลาเดียวกัน ทุกคนในพันธมิตรเส้นทางการค้าป่าเขียวต่างก็รู้เช่นกัน มีตระกูลหลี่และผู้คนมากมายที่ได้ธุรกิจของหวังหยวนคอยดูแลด้วยความช่วยเหลือของหวังหยวน พวกเขาจึงก่อตั้งพันธมิตรเส้นทางการค้าป่าเขียวขึ้นมา ทำให้ทุกคนรู้สึกขอบคุณหวังหยวน!เมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!ส่วนที่หุบเขาชิงหลง!ในขณะนี้ หลังจากที่หงเยี่ยได้อ่านจดหมาย จิตสังหารก็ฉายแววไปทั่วใบหน้านาง!“เจ้าคนสารเลว ฮ่องเต้สามานย์ คิดจะฆ่าหวังหยวนจริง ๆ! รนหาที่ตาย!”พวกผู้นำคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านล่าง ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเช่นกันจ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวว่า “นายท่านใหญ่ พวกเราต้องเริ่มฝึกกองกำลังเสียเดี๋ยวนี้เลย!
รายงานแต่ละฉบับทำให้ฮ่องเต้ซิงหลงหน้าบึ้งตึง!เขาไม่เคยคิดเลยว่าหวังหยวนจะมีความสามารถเช่นนี้!เขาทำให้ทั้งต้าเย่ต้องลุกเป็นไฟได้ด้วยตัวเอง!ในเวลานี้ เสนาบดีฝ่ายขวาเป้าชิงสื่อ กล่าวตามตรงว่า “ฝ่าบาท หวังหยวนได้จัดตั้งกลุ่ม เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เขาได้ทำผิดมหันต์ คนคนนี้ไม่อาจเก็บไว้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”ในเวลานี้ สือเหยาเฉียนเจ้ากระทรวงกรมโยธาธิการ ก็รีบลุกขึ้นยืนเช่นกัน!“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท หวังหยวนผู้นี้มีอำนาจมากล้น เขาถูกเมืองหวงติดสินบนไปแล้ว และเขากำลังปลุกปั่นบ้านเมือง มันเป็นโทษที่ไม่อาจให้อภัยได้พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าเจ้ากระทรวงข้างล่างก็โกรธจัดทุกคน!เดิมทีหวังหยวนได้รับตำแหน่งอ๋องต่างแซ่ ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ขุ่นเคืองและอิจฉา!ราชสำนักยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แต่คนเช่นนี้กล้าขู่ราชสำนักต้าเย่ ซึ่งทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาโกรธมากแน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องเอ้อหู่ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ หลายคนก็จะยังอยากฆ่าหวังหยวน!ส่วนหยางเฟิ่งกั๋ว เสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่ได้พูดในขณะนี้ เพราะเขารู้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ ไม่ว่าเขาจะพูดหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อย ตอนนี้หวังหยวนก็ยังไม่ตกอยู่ในอันต
พระราชกฤษฎีกาของฮ่องเต้ซิงหลงออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการประกาศ ทุกคนก็รู้เรื่องนี้!ไม่ว่าจะเป็นอู๋หลิง วังไห่เทียน หงเยี่ย และคนอื่น ๆ!แม้ว่าพวกเขาจะรู้ แต่พวกเขาก็ยังคงไม่รู้สึกโล่งใจ!เพราะถ้าหวังหยวนยังไม่กลับไปที่หมู่บ้านต้าหวัง แม้เพียงหนึ่งวัน พวกเขาก็จะรู้สึกไม่สบายใจ แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ!ในขณะนี้หวังหยวนขี่ม้ามาถึงเมืองซ่างจิงแล้วเขาแปลกใจเล็กน้อย ที่ไม่มีการสกัดกั้นระหว่างทางในขณะนี้ ฮ่องเต้ซิงหลงได้ให้อู๋หลิงออกไปนอกเมืองเพื่อพบกับหวังหยวนแล้ว!เมื่ออู๋หลิงเห็นหวังหยวน เขาก็รีบพูดว่า “เสนาธิการทหาร ขออภัยขอรับ!”หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้าเองที่สร้างปัญหาให้เอ้อหู่”“ไม่ขอรับ... ถ้าข้าเดาความคิดของฝ่าบาทได้ และส่งเอ้อหู่กลับไปที่หมู่บ้านต้าหวังก็จะไม่เป็นเช่นนี้!”อู๋หลิงโทษตัวเองอย่างหนัก หากเอ้อหู่ไม่ถูกจำคุก หวังหยวนคงไม่มาที่เมืองซ่างจิงเพียงลำพัง และย่อมไม่มีวิกฤติใด ๆ !“เอาล่ะ ข้าอยู่นี่แล้ว พูดเช่นนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ว่า... ไม่มีใครขัดขวางข้าระหว่างทาง ทำให้ข้าประหลาดใจนิ
อู๋หลิงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่ทั้งสองต่างก็หนักใจ“เสนาธิการทหาร คราวนี้ท่านคิดจะทำอะไร?”อู๋หลิงพาหวังหยวนไปห้องตำรา ขณะนี้มีเพียงสองคนเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดคุยกัน!หวังหยวนเหลือบมองอู๋หลิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน เราต้องช่วยเหลือเอ้อหู่ก่อน ส่วนเรื่องอื่นก็จะคุยกันได้ง่ายขึ้น”อู๋หลิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เอ้อหู่น่าจะไม่เป็นอะไรหรอก แต่ท่าน... ฝ่าบาทจะไม่ฆ่าท่านตอนนี้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขากักขังท่าน? แล้วในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น?”หลังจากได้ยินดังนั้น หวังหยวนก็โบกมือแล้วพูดอย่างเฉยเมย “อย่ากังวล เขาจับข้าไว้ไม่ได้หรอก”อู๋หลิงไม่เข้าใจ อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เมืองหลวงแห่งนี้เป็นเหมือนกรง เกรงว่าจะบินหนีได้ยากจริง ๆ!”“มีปีกก็ยังยากที่จะบินหรือ? ฮ่า ฮ่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปไม่ใช่หรือ?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ อู๋หลิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ข้าแค่เปรียบเทียบ ถ้าท่านบินได้จริง ๆ ท่านก็สามารถไปมาได้อย่างอิสระ”“เช่นนั้นข้าจะบินออกไป”หวังหยวนยิ้มอ่อน ซึ่งทำให้อู๋หลิงสับสนมากยิ่งขึ้น“บิน...”เขาไม่เข้าใจว่าหวังหยวนหมายถึงอะไร ส่วนหวังหยวนก็ไม่ได้พูด
ในขณะนี้ ฮ่องเต้ซิงหลงกำลังรอหวังหยวนในห้องตำรา!ไม่อาจมองเห็นความสุข ความโกรธ ความโศกเศร้า หรือความกังวลจากสีหน้าของเขาได้เลย มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าตนกำลังสงบจริง ๆ เหมือนภายนอกหรือไม่!เหล่าราชองครักษ์อยู่ข้างนอก ตั้งแต่ตอนที่หวังหยวนเข้ามาในวัง ก็ไม่มีใครรู้สถานการณ์ของหวังหยวน!วังแห่งนี้เปรียบเสมือนกรงที่แน่นหนา ไม่มีใครสามารถงัดเข้าไปได้!ตอนนี้อู๋หลิงยืนอยู่ที่ลานกว้าง ความกังวลปรากฏทั่วใบหน้าของเขา!เขาไม่รู้ว่าหวังหยวนกับฮ่องเต้ซิงหลงกำลังพูดอะไรกัน!ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮ่องเต้ซิงหลงจะทำอะไร!จะฆ่าเขาหรือเปล่า...ไม่มีใครรู้!เขาทำได้เพียงยืนมองจากภายนอกด้วยสีหน้าเป็นกังวลเท่านั้น!ในเวลาเดียวกัน หวังหยวนได้เข้าไปในวังหลวงแล้ว และมาถึงห้องตำราหลวง!ได้พบแล้ว...ฮ่องเต้ซิงหลง!ทันทีที่เห็นฮ่องเต้ซิงหลง หวังหยวนก็หรี่ตาลง นี่คือฮ่องเต้แห่งต้าเย่หรือ?ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยอารมณ์หรืออะไรก็ตาม ทุกอย่างเผยให้เห็นถึงความสูงส่ง!แต่มีร่องรอยของความเย็นชาฉายแววจากดวงตาอีกฝ่าย หวังหยวนรู้สึกได้ว่าฮ่องเต้ที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ใช่คนใจกว้างเลยจริง ๆ!ฮ่องเ
“พูดอีกอย่างหนึ่ง ข้าควรเลือกอยู่กับใคร?”ฮ่องเต้ซิงหลงยกยิ้ม แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อคำพูดเหล่านี้ เขาพูดว่า “ใต้แผ่นฟ้าไม่มีที่มดที่ไม่ใช่ดินแดนของฮ่องเต้ ไม่มีใครไม่ใช่ราษฎรของฮ่องเต้ เจ้าคิดว่าเจ้าควรภักดีต่อใครล่ะ?”หวังหยวนกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม้ว่าท่านจะกล่าวเช่นนี้ แต่ข้าก็ยังอยากจะบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้ผิด!”“น้ำสามารถพยุงเรือให้ลอยได้ ก็สามารถคว่ำเรือให้จมได้เช่นกัน โลกนี้ไม่ใช่ของใคร แต่เป็นของราษฎร สรรพสิ่งใต้แผ่นฟ้าในตอนแรก เพราะราษฎรเคารพนับถือและไว้วางใจ ราชวงศ์และอำนาจของฮ่องเต้ จึงถูกสถาปนาขึ้น!”“ทุกคนล้วนเป็นเจ้าของโลกนี้ เจ้าของโลกที่ว่านั้นไม่ใช่เทพเจ้าที่จับต้องไม่ได้หรือมองไม่เห็น แต่เป็นทุกคนในโลกนี้!”“เพราะพวกเขาเทิดทูนว่าท่านเป็นฮ่องเต้ ท่านจึงได้เป็นฮ่องเต้ หากพวกเขาคิดว่าท่านเป็นเจ้าของโลกนี้ ท่านก็จะเป็นเจ้าของโลกนี้!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ดังขึ้น สีหน้าของฮ่องเต้ซิงหลงก็เปลี่ยนไปเป็นไม่พอใจทันที!คำพูดเหล่านี้ช่างหยิ่งผยองนัก!กล้าดีอย่างไรมาพูดจาราวกับกบฏเช่นนี้ ต่อหน้าฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน!รนหาที่ตาย!“หวังหยวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าด้วยคำพูดของเจ้า ข้าสามาร
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห