สีหน้าหวังหยวนดำทะมึนมาก!เขาคิดว่าจักรพรรดิต้าเย่จะใช้วิธีการต่าง ๆ มาจัดการเขา!แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะใช้วิธีนี้!มันช่างโหดเหี้ยมและชั่วร้ายจริง ๆ!หลังจากจับเอ้อหู่ได้แล้ว ก็บังคับให้เขาไปที่เมืองหลวงด้วยตัวเอง!“พี่หวัง ฝ่าบาล เกรงว่าเขาจะบังคับให้เจ้าไปที่นั่น บางทีเขาอาจจะ…”ไป๋เฟยเฟยยังพูดไม่จบ แต่ความหมายมันชัดเจนจริง ๆ!หวังหยวนพยักหน้า “ข้าเกรงว่าคนคนนี้อยากจะฆ่าข้า!”ไป๋เฟยเฟยถอนหายใจและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "วิธีนี้น่ารังเกียจเกินไป! เขาจะทำตัวตรงไปตรงมากว่านี้ไม่ได้เลยหรือ ถ้าเขาอยากฆ่าเจ้า เรียกเจ้าเข้าไปในวังไม่ได้รึไง?"หวังหยวนส่ายหน้า “หากให้ข้าเข้าไปในวัง ข้าคงจะขัดขืนราชโองการนี้มากแน่ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นเพียงข้าราชบริพานตัวเล็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในวังอยู่แล้ว”“นอกจากนี้ นี่เป็นคำเตือนสำหรับข้าด้วย เป็นคำเตือนที่แสนอันตราย!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่มาก!เขาไม่คาดคิดเลยว่าจักรพรรดิต้าเย่จะเล่นลูกไม้เช่นนี้!พูดตามตรง เขารู้สึกถึงความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามจริง ๆ!อยากจะฆ่าเขายังจะใช้แผนการ และยังใช้กลอุบายสกปรกขนาดนี้อีกด้วย!คนเ
นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน เพราะนางก็รู้จักนิสัยของหวังหยวนเป็นอย่างดี จึงรู้ว่าหลังจากที่เขาตัดสินใจแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!หลังจากที่ไป๋เฟยเฟยจากไป หวังหยวนก็เล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะต้าหู่!เมื่อได้ยินดังนั้น ต้าหู่ก็เบิกตากว้างขึ้นทันที!“ฮ่องเต้สามานย์! กล้าดีอย่างไรมาสั่งจำคุกเอ้อหู่!”ต้าหู่คำราม ขณะพูด จิตสังหารแผ่ซ่านออกมาจากดวงตาของเขา!“ต้าหู่ ข้าจะพาเอ้อหู่กลับมาในระหว่างการเดินทางนี้ ไม่ต้องกังวล เป็นเพราะต้าเย่อยากให้ข้าตาย เอ้อหู่จึงต้องเดือดร้อนทั้งที่ไม่สมควร”หลังจากได้ฟังเช่นนี้ ต้าหู่ก็รีบพูดว่า “พี่หยวน ข้าจะไปกับท่านด้วย!”“ถ้าฮ่องเต้สามานย์นั่นต้องการฆ่าท่าน แม้ว่าข้าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่ข้าก็ยินดีจะตายไปพร้อมกับท่าน!”ต้าหู่พูดอย่างดุดันถังหม่างก็พูดทันทีว่า “พี่หยวน ข้าก็จะไปด้วย แม้ว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น ข้าก็จะพยายามหาทางออกให้พี่หยวน!”ส่วนเกาเล่อสูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตาเขาบ่งบอกว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่!“ไม่ต้องหรอก ไม่สะดวกให้พวกเจ้าไป ข้าไปคนเดียวจะดีกว่า”“พวกเจ้าแค่ต้องปก
เมื่อเกาเล่อส่งจดหมายเหล่านี้ออกไป ใช้เวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้น หลายคนก็ได้รับแล้ว!เมื่อวังไห่เทียนอ่านจดหมายนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดมนด้วยความโกรธจัด!“อู๋มู่เคยโดนเช่นนี้! ท่านหมิงถันก็จะโดนเช่นกันด้วยหรือ?”“ไม่... ข้าไม่ยอม!”ด้วยเหตุนี้วังไห่เทียนจึงเขียนจดหมายทันที เพื่อแจ้งให้สมาพันธ์ต้าถงทราบถึงทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับหวังหยวน!บัณฑิตคนอื่น ๆ ที่กู่โจวและจิ่วซานจึงได้รู้เรื่องนี้ทันที!ในเวลาเดียวกัน ทุกคนในพันธมิตรเส้นทางการค้าป่าเขียวต่างก็รู้เช่นกัน มีตระกูลหลี่และผู้คนมากมายที่ได้ธุรกิจของหวังหยวนคอยดูแลด้วยความช่วยเหลือของหวังหยวน พวกเขาจึงก่อตั้งพันธมิตรเส้นทางการค้าป่าเขียวขึ้นมา ทำให้ทุกคนรู้สึกขอบคุณหวังหยวน!เมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!ส่วนที่หุบเขาชิงหลง!ในขณะนี้ หลังจากที่หงเยี่ยได้อ่านจดหมาย จิตสังหารก็ฉายแววไปทั่วใบหน้านาง!“เจ้าคนสารเลว ฮ่องเต้สามานย์ คิดจะฆ่าหวังหยวนจริง ๆ! รนหาที่ตาย!”พวกผู้นำคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านล่าง ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเช่นกันจ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวว่า “นายท่านใหญ่ พวกเราต้องเริ่มฝึกกองกำลังเสียเดี๋ยวนี้เลย!
รายงานแต่ละฉบับทำให้ฮ่องเต้ซิงหลงหน้าบึ้งตึง!เขาไม่เคยคิดเลยว่าหวังหยวนจะมีความสามารถเช่นนี้!เขาทำให้ทั้งต้าเย่ต้องลุกเป็นไฟได้ด้วยตัวเอง!ในเวลานี้ เสนาบดีฝ่ายขวาเป้าชิงสื่อ กล่าวตามตรงว่า “ฝ่าบาท หวังหยวนได้จัดตั้งกลุ่ม เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เขาได้ทำผิดมหันต์ คนคนนี้ไม่อาจเก็บไว้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”ในเวลานี้ สือเหยาเฉียนเจ้ากระทรวงกรมโยธาธิการ ก็รีบลุกขึ้นยืนเช่นกัน!“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท หวังหยวนผู้นี้มีอำนาจมากล้น เขาถูกเมืองหวงติดสินบนไปแล้ว และเขากำลังปลุกปั่นบ้านเมือง มันเป็นโทษที่ไม่อาจให้อภัยได้พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าเจ้ากระทรวงข้างล่างก็โกรธจัดทุกคน!เดิมทีหวังหยวนได้รับตำแหน่งอ๋องต่างแซ่ ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ขุ่นเคืองและอิจฉา!ราชสำนักยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แต่คนเช่นนี้กล้าขู่ราชสำนักต้าเย่ ซึ่งทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาโกรธมากแน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องเอ้อหู่ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ หลายคนก็จะยังอยากฆ่าหวังหยวน!ส่วนหยางเฟิ่งกั๋ว เสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่ได้พูดในขณะนี้ เพราะเขารู้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ ไม่ว่าเขาจะพูดหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อย ตอนนี้หวังหยวนก็ยังไม่ตกอยู่ในอันต
พระราชกฤษฎีกาของฮ่องเต้ซิงหลงออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการประกาศ ทุกคนก็รู้เรื่องนี้!ไม่ว่าจะเป็นอู๋หลิง วังไห่เทียน หงเยี่ย และคนอื่น ๆ!แม้ว่าพวกเขาจะรู้ แต่พวกเขาก็ยังคงไม่รู้สึกโล่งใจ!เพราะถ้าหวังหยวนยังไม่กลับไปที่หมู่บ้านต้าหวัง แม้เพียงหนึ่งวัน พวกเขาก็จะรู้สึกไม่สบายใจ แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ!ในขณะนี้หวังหยวนขี่ม้ามาถึงเมืองซ่างจิงแล้วเขาแปลกใจเล็กน้อย ที่ไม่มีการสกัดกั้นระหว่างทางในขณะนี้ ฮ่องเต้ซิงหลงได้ให้อู๋หลิงออกไปนอกเมืองเพื่อพบกับหวังหยวนแล้ว!เมื่ออู๋หลิงเห็นหวังหยวน เขาก็รีบพูดว่า “เสนาธิการทหาร ขออภัยขอรับ!”หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้าเองที่สร้างปัญหาให้เอ้อหู่”“ไม่ขอรับ... ถ้าข้าเดาความคิดของฝ่าบาทได้ และส่งเอ้อหู่กลับไปที่หมู่บ้านต้าหวังก็จะไม่เป็นเช่นนี้!”อู๋หลิงโทษตัวเองอย่างหนัก หากเอ้อหู่ไม่ถูกจำคุก หวังหยวนคงไม่มาที่เมืองซ่างจิงเพียงลำพัง และย่อมไม่มีวิกฤติใด ๆ !“เอาล่ะ ข้าอยู่นี่แล้ว พูดเช่นนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ว่า... ไม่มีใครขัดขวางข้าระหว่างทาง ทำให้ข้าประหลาดใจนิ
อู๋หลิงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่ทั้งสองต่างก็หนักใจ“เสนาธิการทหาร คราวนี้ท่านคิดจะทำอะไร?”อู๋หลิงพาหวังหยวนไปห้องตำรา ขณะนี้มีเพียงสองคนเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดคุยกัน!หวังหยวนเหลือบมองอู๋หลิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน เราต้องช่วยเหลือเอ้อหู่ก่อน ส่วนเรื่องอื่นก็จะคุยกันได้ง่ายขึ้น”อู๋หลิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เอ้อหู่น่าจะไม่เป็นอะไรหรอก แต่ท่าน... ฝ่าบาทจะไม่ฆ่าท่านตอนนี้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขากักขังท่าน? แล้วในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น?”หลังจากได้ยินดังนั้น หวังหยวนก็โบกมือแล้วพูดอย่างเฉยเมย “อย่ากังวล เขาจับข้าไว้ไม่ได้หรอก”อู๋หลิงไม่เข้าใจ อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เมืองหลวงแห่งนี้เป็นเหมือนกรง เกรงว่าจะบินหนีได้ยากจริง ๆ!”“มีปีกก็ยังยากที่จะบินหรือ? ฮ่า ฮ่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปไม่ใช่หรือ?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ อู๋หลิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ข้าแค่เปรียบเทียบ ถ้าท่านบินได้จริง ๆ ท่านก็สามารถไปมาได้อย่างอิสระ”“เช่นนั้นข้าจะบินออกไป”หวังหยวนยิ้มอ่อน ซึ่งทำให้อู๋หลิงสับสนมากยิ่งขึ้น“บิน...”เขาไม่เข้าใจว่าหวังหยวนหมายถึงอะไร ส่วนหวังหยวนก็ไม่ได้พูด
ในขณะนี้ ฮ่องเต้ซิงหลงกำลังรอหวังหยวนในห้องตำรา!ไม่อาจมองเห็นความสุข ความโกรธ ความโศกเศร้า หรือความกังวลจากสีหน้าของเขาได้เลย มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าตนกำลังสงบจริง ๆ เหมือนภายนอกหรือไม่!เหล่าราชองครักษ์อยู่ข้างนอก ตั้งแต่ตอนที่หวังหยวนเข้ามาในวัง ก็ไม่มีใครรู้สถานการณ์ของหวังหยวน!วังแห่งนี้เปรียบเสมือนกรงที่แน่นหนา ไม่มีใครสามารถงัดเข้าไปได้!ตอนนี้อู๋หลิงยืนอยู่ที่ลานกว้าง ความกังวลปรากฏทั่วใบหน้าของเขา!เขาไม่รู้ว่าหวังหยวนกับฮ่องเต้ซิงหลงกำลังพูดอะไรกัน!ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮ่องเต้ซิงหลงจะทำอะไร!จะฆ่าเขาหรือเปล่า...ไม่มีใครรู้!เขาทำได้เพียงยืนมองจากภายนอกด้วยสีหน้าเป็นกังวลเท่านั้น!ในเวลาเดียวกัน หวังหยวนได้เข้าไปในวังหลวงแล้ว และมาถึงห้องตำราหลวง!ได้พบแล้ว...ฮ่องเต้ซิงหลง!ทันทีที่เห็นฮ่องเต้ซิงหลง หวังหยวนก็หรี่ตาลง นี่คือฮ่องเต้แห่งต้าเย่หรือ?ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยอารมณ์หรืออะไรก็ตาม ทุกอย่างเผยให้เห็นถึงความสูงส่ง!แต่มีร่องรอยของความเย็นชาฉายแววจากดวงตาอีกฝ่าย หวังหยวนรู้สึกได้ว่าฮ่องเต้ที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ใช่คนใจกว้างเลยจริง ๆ!ฮ่องเ
“พูดอีกอย่างหนึ่ง ข้าควรเลือกอยู่กับใคร?”ฮ่องเต้ซิงหลงยกยิ้ม แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อคำพูดเหล่านี้ เขาพูดว่า “ใต้แผ่นฟ้าไม่มีที่มดที่ไม่ใช่ดินแดนของฮ่องเต้ ไม่มีใครไม่ใช่ราษฎรของฮ่องเต้ เจ้าคิดว่าเจ้าควรภักดีต่อใครล่ะ?”หวังหยวนกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม้ว่าท่านจะกล่าวเช่นนี้ แต่ข้าก็ยังอยากจะบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้ผิด!”“น้ำสามารถพยุงเรือให้ลอยได้ ก็สามารถคว่ำเรือให้จมได้เช่นกัน โลกนี้ไม่ใช่ของใคร แต่เป็นของราษฎร สรรพสิ่งใต้แผ่นฟ้าในตอนแรก เพราะราษฎรเคารพนับถือและไว้วางใจ ราชวงศ์และอำนาจของฮ่องเต้ จึงถูกสถาปนาขึ้น!”“ทุกคนล้วนเป็นเจ้าของโลกนี้ เจ้าของโลกที่ว่านั้นไม่ใช่เทพเจ้าที่จับต้องไม่ได้หรือมองไม่เห็น แต่เป็นทุกคนในโลกนี้!”“เพราะพวกเขาเทิดทูนว่าท่านเป็นฮ่องเต้ ท่านจึงได้เป็นฮ่องเต้ หากพวกเขาคิดว่าท่านเป็นเจ้าของโลกนี้ ท่านก็จะเป็นเจ้าของโลกนี้!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ดังขึ้น สีหน้าของฮ่องเต้ซิงหลงก็เปลี่ยนไปเป็นไม่พอใจทันที!คำพูดเหล่านี้ช่างหยิ่งผยองนัก!กล้าดีอย่างไรมาพูดจาราวกับกบฏเช่นนี้ ต่อหน้าฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน!รนหาที่ตาย!“หวังหยวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าด้วยคำพูดของเจ้า ข้าสามาร
ตอนนี้หวังหยวนกลับพูดจาเยาะเย้ยเช่นนี้ นางจะไม่โกรธได้อย่างไร?“ดีนัก!”“พวกเราเพิ่งจะอยู่ร่วมกันไม่ถึงครึ่งปี ท่านก็เริ่มรังเกียจข้าแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ข้าไปตอนนี้เลยแล้วกัน!”“ถือเสียว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกัน!”หลิ่วหรูเยียนยังคงแข็งกร้าวเช่นเดิม พูดจบนางก็ลุกขึ้น เตรียมจะกระโดดลงจากรถม้าหวังหยวนรีบคว้าแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้ พลางเอ่ยขอโทษอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าพูดผิดไป เจ้าเป็นคนใจกว้าง อย่าได้ถือสาข้าเลย!”“อีกอย่าง ต่อให้ร่างกายของเจ้าจะมีรอยแผลเป็น แล้วจะเป็นอย่างไร? ใจของข้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง!”“ข้ารู้ดีว่ารอยแผลเป็นบนร่างกายของเจ้าเกิดขึ้นเพราะข้า หากไม่มีรอยแผลเป็นนี้ บางทีข้าอาจจะลืมเลือนความดีของเจ้าที่มีต่อข้า แต่หากรอยแผลเป็นนี้ยังคงอยู่ ย่อมทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น!”“อย่างน้อยก็ทำให้ข้าจดจำความดีของเจ้าได้ตลอดไป!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีนางรู้ดีว่าหวังหยวนไม่ใช่คนอกตัญญู ไม่เช่นนั้นในคืนนั้นนางคงไม่ยืนหยัดต่อสู้เต็มที่อยู่เคียงข้างหวังหยวน!ความทุ่มเทถือว่าได้รับผลตอบแทน!หลายวันผ่านไป หวังหยวนและพรรคพวกได้เดินทางมาถึงเชิงเขา
ครึ่งเดือนผ่านไป เนื่องจากเกาเล่อได้รวบรวมช่างฝีมือมามากมาย การก่อสร้างหอไร้เทียมทานจึงคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วยามนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วคาดว่าอีกครึ่งเดือน หอไร้เทียมทานก็จะสร้างเสร็จสมบูรณ์!และในช่วงเวลานี้ อาการของหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ดีขึ้น หวังหยวนได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง เพื่อทำให้ทุกคนสบายใจตั้งแต่หลิ่วหรูเยียนล้มป่วย หวังหยวนนั้นไม่มีแก่ใจจะทำสิ่งใด ไม่ได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง ซึ่งทำให้ต้าหู่และเอ้อหู่สองพี่น้องร้อนใจยิ่งนัก!ยามนี้เมืองหลิงอยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขาทั้งสอง แม้ว่าจะมีถงจื่อเจี้ยนและคนอื่นช่วยเหลือ แต่ทั้งสองนั้นเป็นห่วงความปลอดภัยของหวังหยวนมากกว่าแม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด แต่ก็รักใคร่กันยิ่งกว่าพี่น้อง!แม้ว่ายามนี้จะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ!ขอเพียงพี่น้องได้อยู่ร่วมกัน ต่อให้ต้องสูญเสียแผ่นดินไป แล้วจะมีความหมายอะไร?เวลาผ่านไปครึ่งเดือน ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง และในช่วงครึ่งเดือนนี้ หอไร้เทียมทานสร้างเสร็จสมบูรณ์ หวังหยวนออกจากเผ่าแล้ว ยามนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเม
หากจะกล่าวให้ยิ่งใหญ่ขึ้นก็เพื่อปวงประชา!ดินแดนทั้งเก้าได้กลับคืนสู่ความสงบสุขได้ก็เพราะเขา เขาจึงต้องการให้ความสงบสุขนี้คงอยู่สืบไป ปวงประชาจะได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาล!“ไม่ทราบว่าท่านหมอเทวดาอันมีความคิดเห็นเช่นไร?”หวังหยวนเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาของเขา อันจูหมิงจึงรีบโบกมือเอ่ยว่า “ในเมื่อมีเรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะไม่เข้าร่วม? ข้าจะต้องมีที่นั่งในหอไร้เทียมทานนี้อย่างแน่นอน! ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถของข้าด้วยก็แล้วกัน!”“อีกอย่าง ข้ารู้ว่าท่านมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า ปวงประชาต่างเคารพท่านราวกับเป็นฮ่องเต้ แม้แต่คนของอาณาจักรต้าเป่ยก็คิดเช่นนั้น!”“หอไร้เทียมทานย่อมต้องเจริญรุ่งเรืองภายใต้การดูแลของท่าน แล้วชื่อเสียงของข้าก็จะยิ่งโด่งดัง!”“เรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะพลาด?”คิดไม่ถึงว่าอันจูหมิงจะตอบรับอย่างง่ายดาย!หวังหยวนยินดียิ่งนัก “เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านหมอเทวดาอันที่ให้เกียรติ!”เมื่อได้หมอเทวดาอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าเข้าร่วม คาดว่าอีกไม่นานหอไร้เทียมทานนี้ก็จะสามารถรวบรวมผู้มีความสามารถไว้ได้มากมายแน
“รับความไว้วางใจจากผู้อื่น ต้องรักภักดีต่องานของผู้อื่น”อันจูหมิงหยิบขวดยาออกมาจากอกเสื้อ พลางเอ่ยขึ้นว่า “นี่คือยาเม็ดที่ข้าปรุงให้ฮูหยิน ทานวันละหนึ่งเม็ด หลังอาหารเย็น ในนี้มียาสามสิบเม็ด หนึ่งเดือนต่อมา ฮูหยินก็จะหายดี!”หลังจากที่หวังหยวนและคนอื่น ๆ กลับมาเมื่อวาน ก็ให้เกาเล่อนำดอกหน้าผาชันมามอบให้อันจูหมิงเขาทำได้เพียงนำดอกหน้าผาชันกลับมา ส่วนการนำมาใช้เป็นยานั้นต้องอาศัยความสามารถของอันจูหมิงอีกทั้งอันจูหมิงก็ไม่ดื่มสุราเลย เพียงคืนเดียว ยาเม็ดนี้ก็ปรุงเสร็จ!“ยังต้องกินยาอีกหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเดินมาด้วยสีหน้าจนใจ เมื่อเห็นขวดยาอันสวยงามประณีตก็ไม่รู้สึกสนใจแม้แต่น้อยเนื่องจากนางยังมีบาดแผล ทุกวันนี้จึงต้องดื่มยามากมาย ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายคิดไม่ถึงเลยว่าอาการป่วยของนางยังไม่หายดี แต่ปริมาณยากลับเพิ่มขึ้น ช่างน่าเจ็บใจนัก!หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเราแลกมาด้วยชีวิต เจ้าต้องกินให้ดี ไม่เช่นนั้นทั้งข้า เกาเล่อ และเฉินอวิ่นจะเสียแรงเปล่า”“เกิดอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามด้วยความสงสัยส่วนอันจูหมิงที่อยู่ด้านข้างโบกมือ เมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ
หวังหยวนใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากของตน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นส่วนเกาเล่อยกยิ้ม แล้วเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นี่ก็เป็นเรื่องง่าย หากต้องการจะได้รับฉายาไร้เทียมทานย่อมต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดของด้านนั้นๆ ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญมาสองคน พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด สู้ให้พวกเขาทั้งสองประลองฝีมือกัน ผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ผู้อ่อนแอกว่า ย่อมรู้ได้ในพริบตา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นเช่นไรขอรับ?”หวังหยวนตบมือ เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?หากสามารถรวบรวมผู้ที่ไร้เทียมทานเหล่านี้มาอยู่เคียงข้างได้ เขาสามารถจินตนาการถึงภาพนั้นได้แล้ว!ต่อให้ภายภาคหน้าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองหลิงอีกต่อไป เพียงแค่หอไร้เทียมทานก็สามารถทำให้ผู้คนทั่วหล้ายังคงเคารพเขา และปกป้องแผ่นดินให้สงบสุขได้ด้วย!“ดื่มสุรา! ดื่มสุรา!”หวังหยวนอารมณ์ดียิ่งนัก เขายกจอกสุราขึ้น พลางโบกมือให้กับทุกคน ทุกคนจึงดื่มสุราตามเฉินอวิ่นไม่ได้ทำตัวเป็นคนนอก ในไม่ช้าก็สามารถเข้ากับทุกคนได้ดี ผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีที่สุดกับเขาคือไฉจวิ้นแม้ว่าไฉจวิ้นจะอายุน้อยกว่าเขามาก แต่ไฉจวิ้นมีนิสัยห้าวหาญ อีกทั้งยังไม่
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ดื่มสุรากับท่านสักสองจอกที่นี่ก็ถือว่าได้สหายเพิ่มอีกคน”“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากความร่ำรวยของท่านแล้ว ภายภาคหน้าหากต้องการเงินทอง ท่านคงเป็นผู้ช่วยที่ดี”ชายคนนั้นไม่เกรงใจ เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจหวังหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากไท่สื่อลี่ได้เตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของไท่สื่อลี่อย่างไรเสีย หวังหยวนก็ไม่อยากดื่มสุรากับคนทั้งเผ่า ประสบการณ์ครั้งก่อนยังคงแจ่มชัด เขาไม่อยากจะประสบพบเจออีก...อีกอย่าง ครั้งนี้ที่ต้องการจะดื่มสุราก็เพราะชายตรงหน้าคนนี้คนผู้นี้ช่างลึกลับยิ่งนัก แต่มีความสามารถที่แท้จริง หวังหยวนเป็นคนชอบคนเก่ง หากสามารถทำให้คนผู้นี้มาทำงานให้ตนได้ ภายภาคหน้าย่อมเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของเขา!“ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือ?”ขณะที่ทุกคนกำลังเดินไปยังบ้านของไท่สื่อลี่ สายตาของหวังหยวนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น“ท่านไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก เรียกข้าว่าเฉินอวิ่นก็พอ”เฉินอวิ่นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดตั้งแต่แรกว่าเขาเป็นคนคนพเนจร ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เฉินอ
หวังหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่กลับแต่งกายเรียบง่าย นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาใช้เงินเท่าที่จำเป็น คาดว่าเงินทองส่วนเกินคงจะมอบให้ผู้อื่นไปหมดแล้ว”“นี่อาจจะเป็นความหมายของคำว่าคุณธรรมก็เป็นได้”“แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ หากต้องการจะพิชิตใจคนผู้นี้ ดูท่าแล้วคงต้องใช้ความคิดมากกว่านี้”เกาเล่อพยักหน้าเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นจริงๆครึ่งชั่วยามผ่านไป ชายคนนั้นกระโดดลงมาจากที่สูงเพียงไม่กี่ครั้งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกหวังหยวน ในมือของเขาถือเกสรดอกไม้ที่ส่องประกาย“นี่คือเกสรของดอกหน้าผาชันหรือ?”ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขากำลังจะยื่นมือไปรับ แต่ชายคนนั้นหดมือกลับ“สหาย ท่านสัญญากับข้าว่าจะให้หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทอง จ่ายเงินแล้วค่อยรับของ เช่นนี้ถึงจะถูกต้อง”“หากข้าไม่เห็นเงิน ข้าก็ไม่อาจมอบสิ่งนี้ให้ท่านได้”ชายคนนั้นมีท่าทีที่หนักแน่นหวังหยวนจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทองนั้นมากมายยิ่งนัก แต่สำหรับข้าแล้วนั้นไม่นับว่ามากมาย เพียงแต่ว่าข้าไม่ได้พกทองติดตัวมามากมายเพียงนั้น หรือว่าท่านจะติดตามข้าไปยังเผ่
ดังเช่นที่ชายคนนั้นได้กล่าวไว้ บนหน้าผาสูงตระหง่านแห่งนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้ว่าเกาเล่อจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศและฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่อาจปีนป่ายหน้าผาได้!เมื่อครู่นี้เขาตั้งใจจะเสี่ยงอันตราย หากสามารถนำดอกหน้าผาชันกลับมาได้ย่อมเป็นเรื่องดีแต่หากไม่สำเร็จ คงต้องสูญเสียชีวิตไป...ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวผ่านจุดที่ยากลำบากที่สุด ก็เห็นชายคนนั้นมาถึงข้างกาย ใช้เถาวัลย์พันรอบเอวของเขา แล้วพาเขากลับลงสู่พื้นดินทุกอย่างราวกับความฝัน ทำให้เกาเล่อไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น!หลังจากที่ชายคนนั้นช่วยเหลือเกาเล่อแล้ว ก็ไม่ได้เสียเวลาพูดคุยกับพวกหวังหยวนอีก แต่กลับมุ่งหน้าไปยังหน้าผาอีกครั้ง!การเคลื่อนไหวนั้นช่างชำนาญยิ่ง ราวกับเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ!ทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนหน้าผารู้สึกราวกับกำลังชมการร่ายรำ เพียงแต่ว่าท่วงท่าอันงดงามนี้ หากเกิดความผิดพลาดเพียงครึ่งก้าวย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิต!ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นร้ายแรงยิ่งนัก!หวังหยวนและเกาเล่อสบตากัน เกาเล่อเอ่ยขึ้นว่า “ชาติที่แล้วเจ้านี่คงเกิดเป็นลิง ทักษะของเขาจะดีเยี่ยมปานนี้ได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นผู้มีวิชาที่เ
น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี