ฮ่องเต้ซิงหลงรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหวังหยวน!ชายหญิงเท่าเทียมกัน!นี่มันเรื่องไร้สาระอะไร!ในความคิดของเขา ชายหญิงไม่ได้เท่าเทียมกันเลย!เขาไม่รู้ว่าหวังหยวนต้องการจะแสดงละครอะไร เขาจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพียงแค่มองหวังหยวน แล้วพูดอย่างใจเย็น“หวังหยวน เจ้าบอกว่าเจ้ากำลังทำเพื่อต้าเย่ แต่การกระทำของเจ้า ส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมายในต้าเย่ เจ้ามีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?”ฮ่องเต้ซิงหลงมองหวังหยวน แล้วพูดตามตรงหวังหยวนส่ายหน้า “ข้าไม่มีอะไรจะพูด พวกเขา... แค่ไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับข้า”“ฝ่าบาท ท่านจะปล่อยเอ้อหู่ไปเมื่อใด”เมื่อได้ยินดังนั้น ฮ่องเต้ซิงหลงก็หัวเราะ “เอ้อหู่ ข้าย่อมปล่อยเขาไปอยู่แล้ว”“แต่ว่า... ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้”หวังหยวนไม่แปลกใจ ตอบกลับเบา ๆ ว่า “เรื่องนี้ข้าคิดไว้แล้ว แต่ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงคลางแคลงใจข้า เป็นเพราะอู๋หลิง ข้ากับวังไห่เทียนสนิทกันอย่างนั้นหรือ?”ฮ่องเต้ซิงหลงไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะพูดตรงประเด็นเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมา แต่ฮ่องเต้ซิงหลงก็ใช่ว่าจะไม่มีความรู้สึกใด ๆ ในใจเลย คำพูดนี้ทำให้เขากังวลเ
แต่ฮ่องเต้ซิงหลงไม่ได้สนใจเลย กลับบอกให้คนพาทั้งสองคนไปยังสถานที่ที่หวังหยวนอยู่!แม้ว่าบ้านที่อยู่ลึกเข้าไปในวังหลวงแห่งนี้ จะดูหรูหรายิ่งนัก!แต่นี่คือกรงทอง!ในขณะนี้ ประตูบ้านของหวังหยวนมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และมีสาวใช้รออยู่ที่ลานบ้านเสื้อผ้าอาภรณ์งดงาม อาหารรสเลิศนับไม่ถ้วน!ในขณะนี้ หวังหยวนกำลังนั่งอยู่ในบ้าน ที่เขาได้รับเป็นรางวัล กำลังลิ้มรสสุรา และรับประทานอาหาร“พี่หยวน!”“ท่านเสนาธิการทหาร!”ทันทีที่ทั้งสองเห็นหวังหยวน ก็รู้สึกกังวลมาก ร่องรอยของความโกรธฉายแววในดวงตาของพวกเขา!“พวกเจ้ามาถึงแล้ว มาหาอะไรกินดื่มกันก่อนเถอะ”หวังหยวนไม่สนใจเลย ช่วงนี้เขาค่อนข้างเหนื่อยมาก ดังนั้นการพักผ่อนที่นี่สักสองสามวันก็ไม่เสียหายอะไร!“ฮึ่ม! ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้ได้อย่างไร!”อู๋หลิงโกรธมาก รีบตรงไปที่ห้องตำราของฮ่องเต้ซิงหลง โดยไม่พูดอะไรเลย!เมื่อราชองครักษ์ที่เฝ้าประตูเห็นอู๋หลิง ก็รีบพูดว่า “ท่านแม่ทัพ ฝ่าบาท... ไม่ได้เรียกตัวท่าน ท่านไม่อาจเข้าไปได้”อู๋หลิงก็รู้เช่นกัน เขายืนอยู่ที่ประตู แล้วพูดเสียงดัง “อู๋หลิงถวายบังคมฝ่าบาท โปรดให้กระหม่อมเข้าเฝ้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่อง
ฮ่องเต้ซิงหลงไม่สนใจว่าอู๋หลิงจะจากไปเมื่อใด เพราะเขารู้ว่าเขาจะชนะ!ไม่มีใครสามารถยื่นมือมาช่วยหวังหยวนได้!แม้ว่าคนเหล่านั้นอาจจะโกรธมาก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าบุกเข้ามาในวังหลวง!ถึงบุกเข้ามาก็ไม่หวั่น!ใบหน้าของอู๋หลิงบึ้งตึงมาก เขาโศกเศร้ามาก เมื่อเขากลับมาเห็นหวังหยวนกับเอ้อหู่กำลังดื่มสุรากัน ความเจ็บปวดในใจของเขาก็รุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อหวังหยวนเห็นอู๋หลิงกลับมา เขาก็ถอนหายใจ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ความจริงแล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องไปเลย! ฝ่าบาทได้ตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีใครสามารถทัดทานได้!”อู๋หลิงรู้สึกเสียใจมากขึ้น เมื่อเห็นหวังหยวนพูดเช่นนี้!หากเขารู้เรื่องนี้ก่อนหน้านี้ เขาน่าจะส่งเอ้อหู่ออกไปเร็วกว่านี้!“เป็นความผิดของข้าเอง!”อู๋หลิงอดไม่ได้ที่จะพูดหวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “แม้ว่าเจ้าจะส่งเอ้อหู่กลับไปที่หมู่บ้านต้าหวัง เขาก็ยังจะหาทางให้ข้ามาที่เมืองซ่างจิงจนได้อยู่ดี หากไม่มีเอ้อหู่ เจ้าก็จะไม่อยู่ด้วยหรือ?”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา อู๋หลิงก็รู้สึกเศร้าและโกรธมากยิ่งขึ้น!เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ท่านเสนาธิการทหาร เนื่องจากท่านไม่อาจออกจากเมืองหลวงแห่งนี้ได้ ท่
“ดังนั้น...เราควรเลือกที่จะเชื่อเขา!”แม้ว่าหงเยี่ยจะโกรธมาก แต่ในตอนนี้นางก็รู้เช่นกัน ว่าเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะโน้มน้าวคนอื่นให้โจมตีเมืองหลวง!ในเวลาเดียวกัน ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่แห่งเมืองหวงก็ได้รับจดหมายเช่นกัน!“ต้าเย่... ช่างไร้สาระเสียจริง ช่างน่าขันนัก ฮ่องเต้ไร้ประโยชน์สั่งจำคุกขุนนางที่ดี!”“หวังหยวน... ในเมื่อเจ้าขอให้ข้าถอนกำลังทหารกลับ เช่นนั้นข้าก็จะเชื่อใจเจ้าสักครั้ง มาดูกันว่าเจ้าจะออกจากต้าเย่ได้อย่างไร!”“ข้าจะให้เวลาเจ้าครึ่งปี หากเจ้าไม่อาจออกจากต้าเย่ได้ภายในครึ่งปี ข้าจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากนำกองทหารเข้าโจมตีต้าเย่ อย่างไรก็ต้อง... ช่วยเจ้าให้ได้!”“สั่งให้กองทหารชายแดนถอนตัว จัดระเบียบทางการทหารใหม่อย่างจริงจัง เตรียมพร้อมสำหรับ... ครึ่งปีข้างหน้า!”เซียวฉู่ฉู่ไม่เชื่อว่าหวังหยวนจะสามารถออกจากเมืองหลวงนั้นได้!ดังนั้น...นางรู้สึกว่าเพื่อให้หวังหยวนปลอดภัย ต้าเย่ต้องผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่!ด้วยอำนาจของผู้ครองแผ่นดิน คนคนเดียวจะรอดพ้นจากการจำคุกได้อย่างไร!แม้ว่านางจะรู้สึกว่าหวังหยวนเป็นอัจฉริยะในใต้หล้า มีน้อยคนที่จะเทีย
ฮ่องเต้ซิงหลงไม่รู้ความคิดของหวังหยวน เพียงแค่คิดว่าเขาคงยอมแพ้แล้ว เพราะถึงจะมีปีก ก็ยากที่จะบินหนีไปจากวังหลวงแห่งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ และยังคงมีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ แต่เขาจะทำอย่างไรได้?เมื่อคิดได้ดังนั้น ฮ่องเต้ซิงหลงก็จากไปทันทีแต่เสนาบดีฝ่ายซ้ายกับพรรคพวกรู้สึกกังวลมาก เขายิ่งเสียใจเมื่อเห็นหวังหยวนถูกคุมขังในเมืองหลวง และไม่อาจแสดงความสามารถที่มีได้แต่พวกเขาก็รู้ด้วยว่าไม่อาจทัดทานความมุ่งมั่นของฝ่าบาทได้!แต่แม้ว่าจะไม่อาจเปลี่ยนความคิดของฮ่องเต้ได้ แต่หยางเฟิ่งกั๋วก็ยังคงมาห้องตำราหลวงของฮ่องเต้ซิงหลง!ฮ่องเต้ซิงหลงเหลือบมองหยางเฟิ่งกั๋ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชายคนนี้ไม่ได้พูดอะไรเลย เขาไม่รู้ว่าเหตุใดวันนี้จึงมาพบเขาแต่จะเป็นเพราะเรื่องอะไรได้ นอกจากเรื่องหวังหยวน!“เสนาบดีฝ่ายซ้าย นั่งลงเถิด”ฮ่องเต้ซิงหลงพูดอย่างสงบ หยางเฟิ่งกั๋วสูดลมหายใจเข้า ก่อนนั่งตรงข้ามฮ่องเต้ซิงหลง แล้วค่อย ๆ พูดว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมาที่นี่วันนี้ เพื่อขอความเมตตาจากฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ซิงหลงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “มันไม่สำคัญว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะขออะไร ตราบใดที่มันเป็นไปเพื่อ
หลังจากที่เหตุการณ์นี้สงบลงแล้ว เขาก็จะต้องตายแน่นอน!แต่เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ยังคงดูไม่กังวลหรือควรจะบอกเขา...ผิดพลาดแล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ให้เขาใช้ชีวิตให้เพลิดเพลินในวาระสุดท้ายดีหรือไม่?หวังหยวนไม่รู้ว่าหยางเฟิ่งกั๋วมาแล้ว เพราะกำลังง่วนอยู่กับการสร้างอาวุธลับ ตามความทรงจำของเขา!นี่คือกุญแจสำคัญในการออกจากเมืองซ่างจิงของเขา!ในเวลานี้หยางเฟิ่งกั๋วกระแอมเบา ๆ จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีท่านหวังหยวน”หวังหยวนจึงสังเกตเห็นว่ามีชายชราคนหนึ่ง เดินมาถึงลานบ้านแล้วเมื่อเห็นเช่นนี้ หวังหยวนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขามีท่าทางไม่ธรรมดา และมีรัศมีของผู้สูงศักดิ์ในทุกท่วงท่าคนผู้นี้...จะต้องอยู่ในตำแหน่งที่สูงศักดิ์!“ท่านผู้เฒ่าท่าทางไม่ธรรมดา หากเดาไม่ผิด เกรงว่าจะอยู่ในตำแหน่งสูงส่ง และคนเดียวที่จะมาหาข้าด้วยท่าทางเช่นนี้ได้ ก็คือเสนาบดีฝ่ายซ้าย ดังนั้นท่านคือเสนาบดีฝ่ายซ้าย ใช่หรือไม่?”หวังหยวนพูดการคาดเดาของตัวเองด้วยรอยยิ้มหลังจากที่หยางเฟิ่งกั๋วได้ยินดังนั้น เขาก็หัวเราะทันที“ข้าได้ยินมานานแล้วว่าท่านหวังหยวนเป็นอัจฉริยะ แล้วท่านก็เดาไ
คำพูดเหล่านี้เหมือนกับคำพูดของกบฏที่มีโทษร้ายแรง!หากแพร่งพรายออกไป ฮ่องเต้จะโกรธมากถ้ารู้เรื่องนี้ และเขาอาจจะถูกตัดหัวเลยก็ได้!“พี่หยาง พูดตามตรง ข้ารู้สึกประหลาดใจมากที่ท่านพูดเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงใจ ก็คงไม่พูดเช่นนี้ออกมา”“แต่ข้ารู้อยู่แล้วว่าเมื่อข้ากลับมา ผลจะเป็นอย่างไร แต่ข้าก็ยังกลับมา เพราะครอบครัวของข้าอยู่ในต้าเย่ ถ้าข้าไม่กลับมา พวกเขาอาจต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัส”“ยิ่งกว่านั้น ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถออกจากเมืองซ่างจิงได้”หลังจากพูดจบ หวังหยวนก็หัวเราะ หยางเฟิ่งกั๋วจึงประหลาดใจมาก“สหายน้อยหวัง เจ้า... เจ้ามีวิธีออกไปจากที่นี่หรือ?”“จะเป็นไปได้อย่างไร!!”เขารู้จักฮ่องเต้ดีที่สุด ฮ่องเต้จะไม่มีทางปล่อยหวังหยวนไป!“ฮ่าฮ่า คนเราย่อมมีแผนอันชาญฉลาดเป็นของตัวเอง ให้ข้าลองจัดการเองเถอะขอรับ”หวังหยวนยิ้มและไม่พูดอะไรอีก โดนไม่ได้บอกว่าเขาจะออกจากเมืองซ่างจิงอย่างไรแต่หยางเฟิ่งกั๋วรู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเหตุใดหวังหยวนถึงมั่นใจถึงเพียงนี้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเชื่อมันเพราะหวังหยวนสามารถรอดกลับมาได้ หลังจากไปเยือนราชสำนักเมืองหวง ทั้งยังได้ยศอ๋องเ
หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าพี่จะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว แล้วเหตุใดถึงมาถามข้าอีกล่ะขอรับ?”หยางเฟิ่งกั๋วถอนหายใจ แล้วส่ายหน้า จากนั้นยกยิ้มฝืดเฝื่อน“บางครั้งก็รู้ชัดเจน แต่ก็ยังคงมีความหวังอยู่ในใจ แค่หวังว่าจะมีโอกาส…”หยางเฟิ่งกั๋วรู้สึกเศร้าใจมาก แต่หวังหยวนไม่ได้พูดอะไรมากในขณะนี้พวกเจ้านายใหญ่โต...เมื่อเทียบกับเมืองหวง สิ่งเดียวที่ดีกว่าก็คือดินแดนนี้อุดมสมบูรณ์!ถ้าพูดถึงราชสำนัก ก็คงสู้ไม่ได้!ต้องบอกว่าต้าเย่เข้มแข็งน้อยกว่า!แต่คนในต้าเย่มีความสามารถมากมาย!ไม่ว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายหรือเสนาบดีฝ่ายขวา ล้วนเป็นคนที่ไม่ธรรมดา แต่กลับไม่ทำงานร่วมกัน!แน่นอนว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุด คือฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน!เขาคือตัวปัญหา!ฝ่ายราชการไม่อาจปกครองได้ด้วยการแต่งตั้งยศตามการเล่นพรรคเล่นพวกแม้ว่าเขาจะถือได้ว่าเป็นฮ่องเต้ที่มีความสามารถ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ!อย่างน้อยก็ใจกว้างไม่พอ!ในฐานะฮ่องเต้ หากจัดการกิจการแผ่นดินไม่ได้ แล้วจะครองแผ่นดินได้อย่างไร!?จะทำให้ทุกคนในแผ่นดินนี้บุกน้ำลุยไฟเพื่อตนได้อย่างไร!มีคำกล่าวที่ว่าท้องของมหาเสนาบดีสามารถบรรจุเรือ แล้วฮ่องเต้ล่ะ? ต้อ