แชร์

บทที่ 630

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หวังหยวนไม่รู้จักคนผู้นี้ แต่เขาบอกได้เลยว่าเขาต้องโด่งดังมาก และเป็นคุณชายที่มีชื่อเสียงสำหรับทุกคน

“คุณชายฟ่าน จากธนาคารเทียนเซี่ยรึ?”

ไป๋เฟยเฟยตกใจจนหลุดพูดออกมา

“โอ้? คนนี้เป็นใครกันหรือ?”

หวังหยวนตกใจเล็กน้อย จึงถามออกไปตามตรง

“เจ้าของสำนักการเงินแห่งเฉิงโจว ฟ่านต้าเสียน นั่นคือลูกชายของฟ่านต้าเสียน ฟ่านซือเซวียน!”

ไป๋เฟยเฟยแนะนำให้เขารู้จัก หวังหยวนก็ให้ความสนใจทันที

"ธนาคารเทียนเซี่ยในโลกนี้ล้วนร่ำรวย ดีจริง ๆ"

หวังหยวนกล่าวพร้อมกับยกมือประสานทักทายและยิ้ม "คุณชายฟ่าน อยากได้ทั้งหมดเลยไหม?"

ฟ่านซือเซวียนพยักหน้า "แน่อยู่แล้ว ก็แค่หนึ่งแสนแปดหมื่นตำลึงทองเองมิใช่หรือ? ข้าอยากได้ วันหลังข้าเอาไปขายทำกำไรได้อีก"

หลังจากพูดเช่นนั้น ฟ่านซือเซวียนก็หยิบตั๋วทองคำกองหนึ่งออกมามอบให้

หวังหยวนหรี่ตาลงและยิ้ม "ในเมื่อคุณชายฟ่านชอบมากขนาดนี้ ก็ยิ่งดีเลย"

พูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็มอบถ้วยคริสตัล และส่งกองตั๋วทองคำให้กับต้าหู่

“พี่หวังไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ หากท่านมีเวลาไปที่สำนักการเงิน ข้าจะเชิญท่านมาดื่มชาท่องบทกวีด้วยกัน”

หลังจากที่ฟ่านซือเซวียนพูดจบ เขาก็นำถ้วยคริสตัลเหล่านี้จากไปอย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 631

    เฉิงอู๋จี้ส่ายหน้า ไม่ว่าอย่างไร บทกวีนี้ก็จะเผยแพร่ในวันพรุ่งนี้ และราชสำนักก็จะรู้เรื่องนี้แน่นอน!“ท่านพ่อ เราไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนี้ เมื่อฝ่าบาททรงทราบ ย่อมไม่ปล่อยเขาไป!”เฉิงเหลียวพยักหน้า “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น…”ในวันรุ่งขึ้น บทกวีนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเฉิงโจวแล้ว และหลายคนก็รู้เรื่องนี้!บัดนี้ในห้องตำราหลวงของพระราชวังต้าเย่ ฮ่องเต้ซิงหลงก็เห็นบทกวีนี้ด้วยนี่มัน...ใบหน้าของเขาบึ้งตึงยิ่งนัก“ฝ่าบาท หวังหยวนผู้นี้เต็มไปด้วยคำตำหนิ ไม่เคารพต่อราชสำนัก ไม่อาจเพิกเฉยต่อเขาได้ กระหม่อมขอแนะนำให้ตัดศีรษะเขาในที่สาธารณะทันทีพ่ะย่ะค่ะ!”สือเหยาเฉียน เจ้ากระทรวงกรมโยธาธิการพูดทันที ในขณะนี้เจ้ากรมทั้งหกอยู่ที่นี่ เช่นเดียวกับเสนาบดีฝ่ายซ้ายและเสนาบดีฝ่ายขวาใบหน้าของเสนาบดีฝ่ายซ้ายก็บึ้งตึงเช่นกัน!พวกเขาคิดว่าหวังหยวนเป็นคนที่เก่งกาจ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเขียนบทกวีเช่นนี้จริง ๆ!“ถูกต้องแล้ว ฝ่าบาท คนผู้นี้ดูหมิ่นราชสำนักมาก จนเราไม่อาจเพิกเฉยต่อเขาได้พ่ะย่ะค่ะ”เสนาบดีฝ่ายขวาพูดทันทีฮ่องเต้ซิงหลงเหลือบมองเสนาบดีฝ่ายซ้ายและคนอื่น ๆ เมื่อเห็นว่าพวกเขาเงียบ ก็พูดว่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 632

    หวังหยวนตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น!คาดไม่ถึงว่าจะได้รับตำแหน่งทางการจริง ๆ!เพียงแต่ตำแหน่งนี้จะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ เป็นข้าราชการตัวเล็กเท่าเมล็ดงา อย่างนายทะเบียนระดับเก้า ซึ่งมีสถานะไม่สูงเท่ากับข้าราชการอาวุโสในศาลาว่าการด้วยซ้ำหวังหยวนยกยิ้ม เขาคิดเรื่องนี้ แต่เขาไม่สนใจสำหรับตำแหน่งนายทะเบียน มันเป็นเพียงตำแหน่งไร้สาระ ไม่จำเป็นต้องเร่งด่วน แม้ว่าเขาจะอยากทำหน้าที่ให้ดี แต่เฉิงเหลียวก็คงไม่อาจทำให้เขาสบายใจได้หลี่ซื่อหานก็ประหลาดใจเช่นกัน นางไม่คาดคิดว่าฝ่าบาทจะมอบตำแหน่งทางการให้สามีของนางจริง ๆ!นี่...มันช่างน่าสับสนจริง ๆ!หวังหยวนยกยิ้ม ไม่พูดอะไร เพียงแค่ตรงไปที่จวนผู้ตรวจราชการมณฑลเมื่อเฉิงเหลียวเห็นหวังหยวน ก็พูดอย่างสงบ “หวังหยวน ฝ่าบาทได้กรุณาแต่งตั้งให้เจ้าเป็นนายทะเบียน ต่อไปเจ้าต้องรับใช้ราชสำนักให้ดี”ทัศนคติของเฉิงเหลียวที่มีต่อหวังหยวนนั้นไม่ค่อยดี เด็กคนนี้ยกหินขึ้นมา แต่กลับหล่นทับขาตัวเองเขาบอกว่าเขาไม่อยากยึดติดกับผู้มีอำนาจ แต่ตอนนี้เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการชั้นล่างระดับเก้า โดยผู้มีอำนาจมากที่สุดในโลก นี่เป็นเพียงการดูถูกหวังหยวนยกยิ้ม แล้วป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 633

    ดังนั้นจึงต้องการใช้วิธีนี้เพื่อทำให้เขาขายหน้าแต่หวังหยวนไม่สนใจเรื่องนี้ เขาแค่สนใจสถานะระดับนี้!ไม่ว่าเขาจะต้องการมอบตำแหน่งอะไรให้ก็ตาม หวังหยวนจะไม่ดำรงตำแหน่งนั้น และจะทำข้อตกลงกับเฉิงเหลียวยิ่งไปกว่านั้น ข้าราชการชั้นล่างระดับเก้าเช่นนี้มีก็เหมือนไม่มี เพราะคนทำหน้าที่คือผู้ตรวจราชการมณฑล ต่อให้หวังหยวนจะนอนอาบแดดทุกวัน ฮ่องเต้ก็ไม่รู้ ตราบใดที่เฉิงเหลียวไม่ว่าอะไร คนอื่นก็ไม่สามารถควบคุมเขาได้ด้วยวิธีนี้ จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะแสดงความปรารถนาดีต่อเฉิงเหลียวพูดตามตรง หวังหยวนและเฉิงเหลียวไม่มีความแค้นใด ๆ กันเลย และหวังหยวนก็ไม่ต้องการสร้างศัตรู แทนที่จะแอบต่อสู้กัน จะดีกว่าถ้าเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรเพราะโลกนี้เป็นของฮ่องเต้ พวกเขาอยู่สูงในท้องฟ้า สวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกล เกี่ยวอะไรกับพวกเขา?ไม่ต้องพูดถึงว่าหวังหยวนเดินทางข้ามเวลามา เขาไม่ได้มาจากโลกนี้ เขาจึงไม่สนใจราชสำนักของโลกนี้ เขาไม่อาจคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้อย่างจงรักภักดีได้ถึงแม้จะไม่ใช่ แต่ด้วยอุปนิสัยของเขา เขาไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมราชสำนัก และถูกบังคับให้เดินบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ ไปตลอดชีวิตอย่างนี้ราชส

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 634

    หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ หลี่ซื่อหานก็ประหลาดใจทันที!นางไม่เคยคิดเลยว่าจะมีการพลิกผันมากมายถึงเพียงนี้!“สามี นี่มันยุ่งเกินไปแล้ว… ข้าคิดว่าเป็นเศรษฐีดีกว่า”หลี่ซื่อหานเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ร่ำรวย นางย่อมรู้ว่าข้อพิพาทในราชสำนักนั้นโหดร้ายอย่างยิ่ง ไม่มีถูกหรือผิด แต่ชีวิตจะตกอยู่ในความเสี่ยง!เมื่อวานยังมีแนวโน้มที่จะได้นั่งตำแหน่งสูง แต่วันนี้กำแพงอาจพังลงเพราะถูกคนช่วยกันทำลายก็ได้เรื่องนี้มีตัวอย่างให้เห็นตั้งมากมาย!แทนที่จะทำเช่นนี้ จะดีกว่าถ้าเลือกใช้ชีวิตอย่างสงบและมีความสุขแม้ว่าอาจถูกคนเยาะเย้ยว่าไม่มีความทะเยอทะยาน แต่นางก็เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สิ่งที่นางหวังมากที่สุด ก็คือสามีของนางมีสุขภาพดีและมีความสุข ส่วนเรื่องอื่น ๆ นางไม่สนใจเลยหวังหยวนหัวเราะ และจับจมูกเล็ก ๆ น่ารักของนาง“ภรรยาของข้ามองได้ชัดเจนมาก บางครั้งอำนาจอาจทำให้คนประสบความสำเร็จ หรือทำร้ายคนคนหนึ่งได้ แทนที่จะเดินบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ จะดีกว่าหากเป็นอิสระและไม่ถูกควบคุม!”“อืม!”หลี่ซื่อหานพยักหน้าอย่างแรงเหตุการณ์ประชุมบทกวีหนานซานของหวังหยวน เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับทุกคน แต่หลังจากเหต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 635

    “พี่หวัง กรุณานั่งลงก่อน”ฟ่านซือเซวียนนอบน้อมดีมาก หลังจากพูดเช่นนี้ เขาก็รินชาให้หวังหยวนอีกถ้วย“วันนี้พี่หวังมาที่นี่เพื่อแลกตั๋วทองใช่หรือไม่?”จากนั้นฟ่านซือเซวียนก็พูดด้วยรอยยิ้ม หวังหยวนก็พยักหน้าทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก“ใช่แล้ว มาที่นี่วันนี้เพื่อแลกทองคำ”พูดจบ หวังหยวนก็บอกให้ต้าหู่เอากองตั๋วทองออกมา แล้วมอบให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มแต่เมื่อเห็นตั๋วทอง ฟ่านซือเซวียนก็ยกยิ้มแล้วพูดว่า “พี่หวัง ข้าขอบอกก่อนว่าตั๋วทองนี้ ไม่อาจแลกเป็นทองคำได้ในวันนี้”เมื่อได้ยินดังนั้น หวังหยวนก็ตกตะลึงหมายความว่าอย่างไร?แลกไม่ได้หรือ?เมื่อมาถึงที่นี่ครั้งแรก ก็เห็นคนนำทองมาแลกตั๋วทองกันมากมาย เหตุใดถึงแลกทองไม่ได้?“พี่ฟ่าน นี่หมายความว่าอย่างไร?” หวังหยวนถามทันทีฟ่านซือเซวียนยิ้มฝืดเฝื่อนแล้วพูดว่า “พี่หวัง ท่านต้องการแลกทองคำหนึ่งแสนแปดหมื่นตำลึง นี่ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย คือ... คือว่าธนาคารของเราไม่อาจจ่ายทองคำได้มากขนาดนี้ในคราวเดียว ดังนั้น... ท่านต้องรอก่อน...”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังหยวนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง รอหรือ...?ต้องรอนานเพียงใด!“พี่ฟ่าน โปรดบอกตามตรงหน่อยเถอะ ว่าข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 636

    เมื่อฟ่านซือเซวียนได้ยินดังนั้น เขาก็หัวเราะทันที และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ฮ่าฮ่า ว่ากันว่ารับมือได้ยาก แต่เขาก็ดูไม่เท่าไหร่นี่นา ท่านพ่อ แต่ท่านยังต้องระวังเจ้าเด็กคนนี้ไว้ด้วยนะขอรับ”คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น นอกจากฟ่านต้าเสียน เจ้าของร้านของธนาคารเทียนเซี่ยแห่งเฉิงโจวแม้ว่าธนาคารเทียนเซี่ยจะได้รับการจัดการร่วมกัน โดยตระกูลใหญ่หลายตระกูล แต่ธนาคารแต่ละสาขาก็มีเจ้าของร้านเป็นของตัวเอง และความมั่งคั่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับธนาคารแห่งนี้ตั้งแต่ตระกูลขุนนางไปจนถึงกลุ่มผู้มั่งคั่ง อาจกล่าวได้ว่าความมั่งคั่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของต้าเย่ อยู่ในกำมือของคนเหล่านี้“ประชาชนไม่กล้าสู้กับเจ้าหน้าที่ และคนจนก็ไม่กล้าสู้กับคนรวย เจ้าเด็กคนนี้ไม่เข้าใจ เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เขาสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงบัดนี้ แต่... เขาได้ทำให้ตระกูลขุนนางเหล่านี้ขุ่นเคือง ชีวิตของเด็กคนนี้จะอยู่ได้ไม่นานหรอก”ฟ่านต้าเสียนเยาะเย้ย แล้วพูดอย่างใจเย็น “คราวนี้เขาถูกพวกเราหลอกลวงอย่างหนัก ตั๋วทองในมือของเขาไม่อาจแลกเปลี่ยนเป็นทองคำได้ เขาคงไม่อาจยอมได้ มาดูกันว่าเขาจะมีกลอุบายอะไร”แม้ว่าหวังหยวนจะมีความพิเศษ แต่เขาก็ไม่สำ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 637

    “เอาล่ะ ต้องการหินประเภทนี้ ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี จากนั้นก็ไปส่งมันที่ป้อมหลิวเจีย แล้วเอาภาชนะกระเบื้องไปที่ป้อมหลิวเจียด้วยเช่นกัน”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่ก็ยังคงสับสนแต่เขาไม่ลังเล เริ่มปฏิบัติตามคำสั่งของหวังหยวนแต่สิ่งที่หวังหยวนอธิบาย...เขาก็ยังคิดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง!...ในเวลาเดียวกัน นกพิราบส่งสาส์นก็บินจากเฉิงโจวไปยังเมืองหวง!ในวังหลวง ไทเฮาทรงสวมชุดสีแดงและมงกุฎทองคำ จับนกพิราบบินไว้ในมือ แล้วเผยรอยยิ้มอ่อน“พลังแห่งต้าเย่หมดลงแล้ว คนมีความสามารถเช่นนี้จึงต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่... ชายผู้นี้ยังคงมีจิตใจเข้มแข็ง ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ยอมละทิ้งต้าเย่ ดังที่คาดไว้ เขาเป็นเหมือนขุนพลมู่ ภักดีต่อแผ่นดิน และเป็นผู้ประเสริฐ!”“ในเมื่อเจ้าไม่หมดหวัง เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้า…”ฮองเฮาเมืองหวงหลับตาไตร่ตรอง จากนั้นลืมตาขึ้น ราวกับว่านางได้ตัดสินใจบางอย่างแล้ว“บอกเหล่าองครักษ์เงาทมิฬว่าถึงเวลาลงมือแล้ว!”ชายในชุดเกราะสีแดงด้านล่างรับคำสั่ง แล้วเดินออกไปทันทีเซียวฉู่ฉู่ค่อย ๆ ยืนขึ้น ใบหน้ามีรอยยิ้ม“หวังหยวน คนที่ข้าหมายตาไว้ไม่เคยรอดจากเงื้อมมือของข้า ดังที่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 638

    เจิ้งเซิ่งพยักหน้า พวกเขารอวันนี้มานานแล้ว ตราบใดที่มีความเคลื่อนไหว กองทัพชิงชวนก็จะอยู่ในมือพวกเขาทันที“จากนั้นไปที่ค่ายต้าเฟิงเพื่อหาผู้นำ แม้ว่าค่ายต้าเฟิงจะมีคนไม่มากนัก แต่เราก็มีโอกาสที่จะดำเนินการได้ เรา... ต้องพึ่งพาชื่อเสียงของพวกเขาด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้น เจิ้งเซิ่งก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “แต่ว่า... พวกเขาจะยอมเห็นด้วยหรือขอรับ?”เขายังคงรู้ด้วยว่าคนเหล่านั้นในค่ายต้าเฟิง ล้วนเป็นคนดุร้าย“หากให้รางวัลอย่างงาม ย่อมมีผู้กล้าออกมาทำงานให้ ไม่ต้องกังวล เจ้าคิดว่าพวกเขามีความสุขในต้าเย่หรือ?”เจิ้งไท่ชิงพูดเบา ๆ หลังจากพูดเช่นนี้แล้ว เจิ้งเซิ่งก็พยักหน้า“ขอรับท่านพ่อ ข้าเข้าใจแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร”เจิ้งไท่ชิงพ่นลมหายใจ มองพระจันทร์เต็มดวง แล้วพูดว่า “พรุ่งนี้เมืองชิงชวนจะถูกควบคุม อย่าฆ่าจวิ้นโส่ว แค่กักขังไว้ก็พอ”“แม้ว่าเราจะมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน แต่เพื่อนร่วมงานเหล่านี้ก็ทำงานร่วมกันมาหลายปี และมีความสัมพันธ์ที่ดี”“ยิ่งกว่านั้น จวิ้นโส่วเมืองชิงชวนยังเป็นคนที่ไม่มีความทะเยอทะยาน เขาไม่ได้เป็นภัยกับเรา”เจิ้งไท่ชิงเตรียมทุกอย่างไว้อย่างสมบูรณ์ ด้วยใบหน้าเรี

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1879

    “ข้าบอกก็ได้...”“เหตุใดต้องโหดเหี้ยมกับข้าด้วย?”“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหวานมีเสน่ห์ “เจ้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่งทางตะวันตกที่ชื่อว่าเมืองผี หรือไม่?”“เมืองผี?”หวังหยวนส่ายหน้า ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่สายตาของเขามองไปที่เกาเล่อเกาเล่อเป็นหัวหน้าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ ข้อมูลทั่วหล้าล้วนอยู่ในมือเขา หากแม้แต่เกาเล่อยังไม่รู้จัก แสดงว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลับจริง ๆ!แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือหลิ่วหรูเยียนกำลังหลอกลวง!ทั้งหมดเป็นเพียงกลลวงของนาง!เกาเล่อเดินไปข้าง ๆ หวังหยวนแล้วกระซิบ “ข้ารู้จักเมืองผี...”“เดิมทีมันไม่ได้ชื่อเมืองผี ปัจจุบันมีชื่ออื่นแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนมีคนอดตายที่นั่นมากมาย มีข่าวลือว่ากลางดึกมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ จึงเรียกที่นั่นว่าเมืองผี”“แต่ที่จริงแล้วก็แค่เรื่องเล่าลือขอรับ”ฟังคำอธิบายของเกาเล่อแล้วหวังหยวนก็พยักหน้าจากนั้น ฃเขาก็มองไปที่หลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าฐานทัพใหญ่ของพรรคทมิฬอยู่ในเมืองผีหรือ?”หลิ่วหรู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1878

    ทันใดนั้นหวังหยวนก็ให้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อถอยไป ส่วนเขามานั่งยอง ๆ ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนมุมปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ต่อรองกับข้าหรือ?”“ตอนนี้เจ้าอยู่ในมือข้า ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าต้องการ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ไม่ให้ใครมารังแกเจ้าได้”“แต่ถ้าเจ้ายังกล้าต่อรอง เจ้าก็ลองดู ว่าข้าจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร”“แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากเจ้าท้าทายข้า ทำให้ข้าหมดความอดทน ผลลัพธ์สุดท้ายคงคาดเดาได้...”“เจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน”เมื่อเห็นแววตาจริงจังของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนก็อยากจะฆ่าเขานักเหตุใดนางจึงต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้ด้วย?ช่างโชคร้ายเสียจริง!“ตกลง!”“เช่นนั้นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน”“เจ้าจับข้าไว้ด้วยตาข่ายเช่นนี้ ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วพูดหวังหยวนรับมีดสั้นจากสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อมาตัดตาข่ายใหญ่ตรงหน้าออก หลิ่วหรูเยียนจึงเป็นอิสระหวังหยวนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข้าทำตามที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้าควรจะบอกสิ่งที่ข้าอยากรู้ได้แล้วกระมัง?”เขาเองก็ใจกว้างพอหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นผู้หญิง คงลงมือกับนางไปแล้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1877

    “เจ้าช่างเป็นคนต่ำทรามชั่วช้าเหลือเกิน!” หลิ่วหรูเยียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้อย่างไร ใบหน้านางซีดเผือดราวกับกระดาษ นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัวขณะตวาด!หญิงงามผู้มีชื่อเสียงในสถานเริงรมย์ แม้จะอยู่ในที่เช่นนั้น แต่ก็รักษาความบริสุทธิ์ไว้เสมอ ไม่เคยยอมให้ชายใดแตะต้องเรือนร่างอันงดงามของตน!แต่บัดนี้บุรุษผู้มีนามว่าหวังหยวนกลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง เป็นการกระทำที่ชั่วช้าที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา!เหตุใดไม่รู้มาก่อนเลยว่าหวังหยวนน่ารังเกียจถึงเพียงนี้?“เจ้าไม่สมควรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!” “เจ้าเป็นแค่คนเลวทรามต่ำช้า!”“เช่นนั้นก็สังหารข้าเสีย การที่เจ้ามาล่วงละเมิดสตรีเช่นนี้ เจ้ายังถือว่าตนเป็นบุรุษผู้กล้าหาญได้อยู่หรือ?” “หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”นางพยายามอย่างตะโกนเพื่อที่จะเปลี่ยนใจหวังหยวนให้ได้ ทว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด เขายืนกอดอกเอ่ยเสียงเรียบเฉย “เป็นเรื่องปกติที่จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อปฏิบัติต่อผู้คนที่แตกต่างกัน”“หากเจ้าไม่ดื้อดึง ข้าก็คงไม่ต้องทำรุนแรงเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นนี้กับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1876

    “ข้าอยากรู้ว่าปากของนางกับมือของข้า อะไรจะแข็งกว่ากัน!”แม้จะเป็นเด็กกำพร้าก็ต้องหาวิธีง้างปากนางให้ได้!ไม่บรรลุเป้าหมายย่อมไม่หยุดยั้ง!ไม่นานหวังหยวนกับเกาเล่อก็มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่หน้าศาลเจ้าเฉิงหวงหลิ่วหรูเยียนนั่งผิงไฟ ครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปที่นางมาเมืองอู่เจียงนั้นเป็นเพราะคำสั่งของผู้นำระดับสูงในพรรคทมิฬ!เพื่อแทรกซึมเข้ามาในดินแดนศัตรู แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอำนาจไปยังเมืองหลิง!สาเหตุที่สาวกพรรคทมิฬแทรกซึมเข้ามาในดินแดนของหวังหยวน ไม่ใช่เพียงเพราะดินแดนของหวังหยวนเล็ก แต่เป็นเพราะหวังหยวนผู้นี้เป็นคนชาญฉลาดและรอบคอบ!หากเขาพบเบาะแสใดๆ ก็จะตามสืบจนเจอ และอาจนำพาหายนะมาสู่พวกเขา!แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!หวังหยวนเพิ่งจะสังเกตเห็นร่องรอยของสาวกพรรคทมิฬ ไม่คิดเลยว่าจะพบตัวหลิ่วหรูเยียน!จากนั้นค่อยสืบหาความลับของพรรคทมิฬ!เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี!“เหตุใดนกพิราบสื่อสารยังไม่กลับมาอีกนะ?”“หรือว่าจะเกิดเรื่อง...”หลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่หน้ากองไฟ สำรวจสถานการณ์นอกประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักแม้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนาง!แต

DMCA.com Protection Status