ที่ว่าการอำเภอ เมืองฝู!ผู้ตรวจการสวี่ผู้ที่สงบมั่นคงอยู่เสมอ รีบวิ่งตรงไปที่ห้องโถงด้านหลังของที่ว่าการอำเภอแล้วตะโกนว่า "นายท่าน ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีจริง ๆ ท่านหมิงถันถล่มหุบเขาชิงหลง และจับชิงเมี่ยนโช่วได้แล้ว เขาแจ้งให้พวกเราไปเก็บศพ!""อะไรนะ!"ผู้บัญชาการซุน ซึ่งรักษาการแทนนายอำเภอตกใจ จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างลังเลขึ้นมาว่า "ผู้ตรวจการสวี่ ข่าวนี้น่าเชื่อถือหรือไม่? เป็นไปได้ไหมว่าหวังหยวนจะไม่ชนะการต่อสู้ แต่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ติดกับและพ่ายแพ้ให้กับหุบเขาชิงหลง หลอกให้พวกเรานำกองกำลังไปช่วยเหลือเขา!"กบฏโจรภูเขาหลายพันคนได้เข้าสู่เมืองเฮ่อแล้ว เมืองหลงหนานต้องส่งกองกำลังออกไปอย่างไม่มีทางเลือก!หวังหยวนยืมชุดเกราะไปหนึ่งร้อยห้าสิบชุด และพาคนสองร้อยคนไปที่นั่น เขาสามารถจับชิงเมี่ยนโช่วเป็น ๆได้ เขาที่มีความรู้ทางการทหาร เชื่อไม่ได้!ผู้ตรวจการสวี่อดไม่ได้ที่จะพูดว่า "นายท่าน ท่านฉลาดมากที่คิดไปถึงขั้นนั้นได้จริง ๆ!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้บัญชาการซุน รักษาการแทนนายอำเภอก็ขมวดคิ้ว "เจ้าหมายความว่ายังไง"ผู้ตรวจการสวี่ถอนหายใจเบา ๆ "คนอื่นอาจพ่ายแพ้ แต่ท่านหมิ
การเกาะขาท่านอาจารย์ไว้ย่อมได้ประโยชน์มากมายแน่นอน!“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แนะขอรับ!”ผู้บัญชาการซุนก็หลั่งน้ำตาแสดงความขอบคุณเช่นกันหากส่งฎีกานี้ขึ้นไป เขาที่เป็นรักษาการแทนนายอำเภอ อย่างน้อยก็จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ประจำได้!สำหรับการปราบกบฏนั้น พวกเขาสามารถเลื่อนขั้นได้อย่างน้อยสักสามขั้นเป็นแน่!หวังหยวนโบกมือ ทั้งสองก็รีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ แล้วถอยกลับไปจัดการเก็บศพให้เรียบร้อย!เอ้อหู่ที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างไม่เข้าใจ "พี่หยวน เราต่อสู้ครั้งนี้ ทำไมเราต้องรวมพวกเขาไว้ด้วย? พวกเขาไม่ได้ให้ยืมชุดเกราะมาสักหน่อย!"หวังหยวนพูดอย่างจริงจัง "เอ้อหู่ เจ้าต้องจำไว้อย่างนึงนะว่า คนคนหนึ่งไม่สามารถรับผลประโยชน์ทั้งหมดได้ เจ้าต้องแบ่งปันผลประโยชน์กับผู้อื่น แล้วคนอื่นถึงจะช่วยเหลือเจ้า"จู่ ๆ เอ้อหู่ก็นึกออก และเข้าใจว่าทำไมตอนที่หวังหยวนอยู่ในอำเภอถึงได้แจกเงินไปมากมายขนาดนั้น! “นี่ก็ถือเป็นหว่านแหเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไว้หลายช่องทางด้วย!”หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "เจ้ากำลังจะไปเมืองหลวง หากเจ้าแบ่งผลประโยชน์ได้ก็แบ่งไป แต่เจ้าไม่มีกำลังพลทหาร การปราบกบฏเช่นนี้มันดูไม่สมเหตุสมผล หาก
“ข้าจะกลับไปเอายาก่อน!”เมื่อมองไปที่เหลิ่งอวิ๋น หูเมิ่งอิ๋งก็มองไปทางนั้นด้วยสายตาอันเจ็บปวดแล้วหันกลับมาเหลิ่งอวิ๋นเป็นขอทานตัวน้อยที่นางรับอุปการะไว้ในตอนนั้น ถือว่าเป็นคนรับใช้ของตระกูลหูเมื่อลุงรองบังคับให้นางแต่งงาน เหลิ่งอวิ๋นก็ช่วยนางจากสถานการณ์นั้นถึงสามครั้ง!ถ้าไม่ใช่เพราะเหลิ่งอวิ๋น นางคงไม่ได้พบกับคุณชายและนางก็คงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ตอนนี้!มิตรภาพความสัมพันธ์เก่าๆ ที่ทำให้นางอยากร้องขอความเมตตาแต่เมื่อนึกถึงเขาที่วางกับดักใส่คุณชาย นางก็รู้สึกผิดหวัง และตัดสินใจแล้ว!เขาจ้องมองไปที่รถม้าของตระกูลหูอย่างเอาเป็นเอาตาย แววตาของเหลิ่งอวิ๋นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผิดหวัง เย็นชา และมีจิตสังหาร!ไปแล้ว คุณหนูใหญ่ไปแล้วจริง ๆ โดยไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ!นี่ทำให้เขารู้สึกผิดหวังมาก!กลุ่มนักโทษเข้ามาในอำเภอ ทำให้เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก และทั้งเมืองก็รู้สึกสบายใจ!เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้ยินมาตลอดเลยว่าโจรกบฏหุบเขาชิงหลงได้บุกโจมตีเมืองเฮ่อ ทำให้หลายคนในเมืองฝูต่างเป็นกังวล!ทั้งกลุ่มก็ตรงไปที่ที่ว่าการอำเภอเนื่องจากมีนักโทษจำนวนมาก เรือนจำประจำอำเภอจึงไม่สามารถรองรับคนจ
“ท่านไม่เข้าใจคุณชายเลยสักนิด เขามีความสามารถ และความสามารถที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการได้”เมื่อได้ยินว่าเขาว่าร้ายคุณชายเช่นนี้ ใบหน้างดงามของหูเมิ่งอิ๋งก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา "แม้ว่าเขาจะตาย ข้าก็จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ข้าจะไม่แต่งงานกับใครอีก ส่วนท่านพี่เหลิ่งอวิ๋น ข้าไม่เคยชอบท่าน อย่างมากที่สุดข้าก็ถือว่าท่านเป็นแค่พี่ชายของข้าเท่านั้น!”"พี่ชาย พี่ชาย...ฮ่าฮ่าฮ่า!"เหลิ่งอวิ๋นพึมพำหัวเราะเสียงดังออกมา จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าดุร้ายว่า "เจ้าหลงใหลในเขา เขามันเป็นแค่ไอคนโกหกไร้ยางอาย อย่างเขานับว่าเป็นอะไรได้ เขาไม่เก่งเท่าข้า ข้าดีกว่าเขาเป็นหมื่นเท่า!”หูเมิ่งอิ๋งส่ายหน้าไม่พูดอะไร พี่เหลิ่งอวิ๋นเสียสติไปแล้วถึงได้พูดเหลวไหลออกมาเช่นนั้น"เจ้าไม่เชื่อรึ?"ท่าทีไม่แยแสเช่นนี้ยั่วให้เหลิ่งอวิ๋นโมโห เขาถลึงตามองและตะคอกออกมา "เจ้าคิดว่าข้าเป็นขอทานน้อยจริง ๆ รึ แต่จะมีขอทานน้อยที่ไหนที่มีวรยุทธ์ติดตัว และรู้วิธีฝึกทหารกับม้าตั้งแต่ยังเด็กได้"แววตาของหูเมิ่งอิ๋งสั่นไหวในช่วงแรก นางพบว่าเหลิ่งอวิ๋นมีความสามารถ และได้พิจารณาถึงปัญหาเรื่องนี้แต่ในตอนนั้นที่ถาม เหลิ่งอ
หลังจากส่งหูเมิ่งอิ๋งออกไปแล้ว หวังหยวนที่กำลังจะนอน ต้าหู่เคาะประตูแล้วพูดว่า "พี่หยวน หงเยี่ย, อู่จั้งโหว และเซี่ยซานหู่พาคนจากหุบเขาชิงหลงมาที่นี่ พวกเขาอยากมาขอพบและมาคุยกับพี่"หวังหยวนขมวดคิ้ว "คนนอกไม่มีใครรู้สินะ!"แม้ว่าโจรพวกนี้จะไม่โด่งดังเท่าเหลิ่งอวิ๋น แต่พวกเขาก็เป็นโจรเช่นกันตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นการทำหยกเนื้อแก้วและเหมือนถ่านหินที่ใช้ทำเหล็กล้วนอยู่ในพื้นที่สันเขาเชียนเฮ่อเว้นแต่พวกโจรภูเขาเหล่านี้ไม่ยอมจำนน พวกหยกเนื้อแก้ว เหมืองถ่านหิน เมืองทางตอนใต้ก็ทำได้ไม่สะดวกนัก"ไม่มีขอรับ!"ต้าหู่กล่าวว่า "พวกเขามาตอนฟ้ามืด ข้าขอให้ลุงฉางเซิงจัดการให้ สมาชิกกลุ่มคุ้มกันและพวกทหารปลดประจำการไม่รู้เรื่องนี้!"“เจ้าทำได้ดีมาก!”หวังหยวนตบไหล่ต้าหู่และพยักหน้า "ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ!"ตามความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันนั้น สมาชิกของกลุ่มคุ้มกันเดิมทีเป็นแกนนำหลักของหวังหยวน!แต่ในความเป็นจริงนั้น คนที่หวังหยวนไว้วางใจมากที่สุดคือทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!คนเหล่านี้เพื่อแม่ทัพมู่แล้ว ยอมละทิ้งผลประโยชน์ และยังคงไม่เปิดเผยชื่อมาจนถึงทุกวันนี้คุณสมบัติได้รับการตรวจสอบแล้วแม้ว่าสมาชิ
เขาและเซี่ยซานหู่ต่างกังวลเกี่ยวว่าเสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนจินกังและกลัวว่าเถียนชีจะยึดครองเขานั้นเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงลากเขามาด้วย แต่คาดไม่ถึงว่า ท่านอาจารย์จ้าวหลังค่อมจ้าวป๋อเซียวก็มาด้วย ดังนั้นทุกคนมาด้วยกัน“พี่ชาย ข้าไม่อยากเจอเขา!”หงเยี่ยหน้าแดงด้วยความเขินอาย นางเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ข้าเป็นหัวหน้าของหุบเขาชิงหลงแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเจ้าว่า ต่อจากนี้ไป หากคนและขบวนรถของเจ้าผ่านหุบเขาชิงหลง เราจะไม่ขวางขบวนรถของเจ้า และเราต่างคนต่างอยู่..ไม่ต้องมายุ่งต่อกัน!”เมื่อได้ยินว่าไอคนชั่วนี้เป็นที่ปรึกษาทางทหาร นางก็แทบไม่อยากจะเชื่อ และอดไม่ได้ที่จะมาพบเขา และผลที่ได้ก็มีคนตามมาด้วย!"ได้สิ!"หวังหยวนเลิกคิ้ว "ยังมีอะไรอีกไหม?""ไม่ ไม่มีแล้ว!"หงเยี่ยเงยหน้าขึ้นแล้วเดินจากไปอันที่จริงนางยังมีเรื่องจะพูดกับไอคนชั่วนี้อีกมากมาย นางอยากถามเขาว่าทำไมเขาถึงรังแกผู้หญิงที่อ่อนแออย่างนาง ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นวีรบุรุษ แต่มีคนมากมายมองอยู่ ทำให้รู้สึกอายที่จะพูดออกมา!หวังหยวนหันกลับมาเซี่ยซานหู่ลุกขึ้นยืนทันทีและกล่าวว่า "ท่านเสนาธิการทหาร กลุ่มพันธมิตรถนนการค้า
“ยกทัพ?”สีหน้าของหวังหยวนเปลี่ยนไป "นั่นเป็นการกบฏไม่ใช่หรือ? เจ้าล้อเล่นอยู่หรือ?"ตอนนี้เขามีเงินหลายสิบล้านตำลึง มีภรรยาที่น่ารัก และกำลังจะรับหูเมิ่งอิ๋งเป็นอนุ ชีวิตของเขาเป็นไปด้วยดีเกี่ยวกับเหล่าผู้คนที่น่าสงสารในต้าเย่ ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยพวกเขาด้วยมาตรการปฏิรูปได้ส่งถึงเหล่าขุนนาง เจ้ากระทรวงต้าเย่ ผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว!ตราบใดที่ยังดำเนินการปฏิรูปอยู่ ชีวิตของผู้คนจะดีขึ้นและต้าเย่จะคงอยู่ไปอีกร้อยปี!ส่วนเรื่องการกบฏช่วยชาตินั้น เขาไม่เคยคิด และไม่มีความสามารถด้วย!ด้านข้าง เถียนชีรองหัวหน้าหุบเขาชิงหลง มุมปากของเขาถึงกับกระตุกท่านหัวหน้าฟังอาจารย์จ้าวจึงได้ก่อกบฏ บุกเข้าไปในอำเภอ และสังหารนายอำเภอ ตอนนี้เขากำลังยุให้ท่านเสนาธิการทหารที่ปรึกษกบฏ!อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ตกใจมาก อาจารย์จ้าว ไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่าย ๆ จริง ๆ เขากล้ายุให้ท่านเสนาธิการทหารก่อกบฏ!“ท่านเสนาธิการทหาร ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ!”จ้าวป๋อเซียวเต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจกับความไม่เป็นธรรม "ตอนนี้ฝ่าบาทโง่เขลาเบาปัญญา เจ้าหน้าที่ขุนนางต่างก็ทุจริต ประชาชนก็อดอยากหิวโหยไม่มีอะไรจะใส่
นี่เป็นแผนที่เขาสร้างขึ้นตามเงื่อนไขพื้นฐานของหวังหยวน เรียกได้ว่าครอบคลุมและรัดกุมแล้ว!แต่กลับถูกบอกว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการก่อกบฏเลยสักนิด เขารับไม่ได้หรอก!หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าสำหรับราชวงศ์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมั่นคง เงื่อนไขที่จำเป็นอันดับแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้คืออะไร"พวกโจรทั้งหมดตกใจ!พวกเขาเป็นโจร แค่กล้าก่อกบฏก็พอแล้ว เงื่อนไขที่จำเป็นมันคืออะไรจำเป็นด้วยรึ?"..."จ้าวป๋อเซียวสะอึกอีกครั้ง และกำมือคารวะขั้น "เสนาธิการทหารได้โปรดชี้แนะด้วย!"หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม "สำหรับราชวงศ์ที่มีอำนาจค่อนข้างมั่นคง เงื่อนไขแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องเป็นปีหายนะครั้งใหญ่ของช่วงปลายราชวงศ์!"ในการกระจายข้อมูลของคนรุ่นต่อไป มีคนจำนวนมากมานนับไม่ถ้วนที่พูดถึงเกี่ยวกับการกบฏในสมัยโบราณเขาเคยเห็นมาบ้างเหมือนกันอู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ต่างครุ่นคิด หลังจากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย!หงเยี่ย, เถียนชี, เสี่ยวไท่ซุ่ย และเฮยเมี่ยนจินกังต่างสับสนไปหมด!“เสนาธิการทหารยอดเยี่ยมจริงๆ!”จ้าวป๋อเซียวยกนิ้วให้และกล่าวว่า "ในช่ว
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห