หลังจากส่งหูเมิ่งอิ๋งออกไปแล้ว หวังหยวนที่กำลังจะนอน ต้าหู่เคาะประตูแล้วพูดว่า "พี่หยวน หงเยี่ย, อู่จั้งโหว และเซี่ยซานหู่พาคนจากหุบเขาชิงหลงมาที่นี่ พวกเขาอยากมาขอพบและมาคุยกับพี่"หวังหยวนขมวดคิ้ว "คนนอกไม่มีใครรู้สินะ!"แม้ว่าโจรพวกนี้จะไม่โด่งดังเท่าเหลิ่งอวิ๋น แต่พวกเขาก็เป็นโจรเช่นกันตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นการทำหยกเนื้อแก้วและเหมือนถ่านหินที่ใช้ทำเหล็กล้วนอยู่ในพื้นที่สันเขาเชียนเฮ่อเว้นแต่พวกโจรภูเขาเหล่านี้ไม่ยอมจำนน พวกหยกเนื้อแก้ว เหมืองถ่านหิน เมืองทางตอนใต้ก็ทำได้ไม่สะดวกนัก"ไม่มีขอรับ!"ต้าหู่กล่าวว่า "พวกเขามาตอนฟ้ามืด ข้าขอให้ลุงฉางเซิงจัดการให้ สมาชิกกลุ่มคุ้มกันและพวกทหารปลดประจำการไม่รู้เรื่องนี้!"“เจ้าทำได้ดีมาก!”หวังหยวนตบไหล่ต้าหู่และพยักหน้า "ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ!"ตามความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันนั้น สมาชิกของกลุ่มคุ้มกันเดิมทีเป็นแกนนำหลักของหวังหยวน!แต่ในความเป็นจริงนั้น คนที่หวังหยวนไว้วางใจมากที่สุดคือทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!คนเหล่านี้เพื่อแม่ทัพมู่แล้ว ยอมละทิ้งผลประโยชน์ และยังคงไม่เปิดเผยชื่อมาจนถึงทุกวันนี้คุณสมบัติได้รับการตรวจสอบแล้วแม้ว่าสมาชิ
เขาและเซี่ยซานหู่ต่างกังวลเกี่ยวว่าเสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนจินกังและกลัวว่าเถียนชีจะยึดครองเขานั้นเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงลากเขามาด้วย แต่คาดไม่ถึงว่า ท่านอาจารย์จ้าวหลังค่อมจ้าวป๋อเซียวก็มาด้วย ดังนั้นทุกคนมาด้วยกัน“พี่ชาย ข้าไม่อยากเจอเขา!”หงเยี่ยหน้าแดงด้วยความเขินอาย นางเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ข้าเป็นหัวหน้าของหุบเขาชิงหลงแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเจ้าว่า ต่อจากนี้ไป หากคนและขบวนรถของเจ้าผ่านหุบเขาชิงหลง เราจะไม่ขวางขบวนรถของเจ้า และเราต่างคนต่างอยู่..ไม่ต้องมายุ่งต่อกัน!”เมื่อได้ยินว่าไอคนชั่วนี้เป็นที่ปรึกษาทางทหาร นางก็แทบไม่อยากจะเชื่อ และอดไม่ได้ที่จะมาพบเขา และผลที่ได้ก็มีคนตามมาด้วย!"ได้สิ!"หวังหยวนเลิกคิ้ว "ยังมีอะไรอีกไหม?""ไม่ ไม่มีแล้ว!"หงเยี่ยเงยหน้าขึ้นแล้วเดินจากไปอันที่จริงนางยังมีเรื่องจะพูดกับไอคนชั่วนี้อีกมากมาย นางอยากถามเขาว่าทำไมเขาถึงรังแกผู้หญิงที่อ่อนแออย่างนาง ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นวีรบุรุษ แต่มีคนมากมายมองอยู่ ทำให้รู้สึกอายที่จะพูดออกมา!หวังหยวนหันกลับมาเซี่ยซานหู่ลุกขึ้นยืนทันทีและกล่าวว่า "ท่านเสนาธิการทหาร กลุ่มพันธมิตรถนนการค้า
“ยกทัพ?”สีหน้าของหวังหยวนเปลี่ยนไป "นั่นเป็นการกบฏไม่ใช่หรือ? เจ้าล้อเล่นอยู่หรือ?"ตอนนี้เขามีเงินหลายสิบล้านตำลึง มีภรรยาที่น่ารัก และกำลังจะรับหูเมิ่งอิ๋งเป็นอนุ ชีวิตของเขาเป็นไปด้วยดีเกี่ยวกับเหล่าผู้คนที่น่าสงสารในต้าเย่ ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยพวกเขาด้วยมาตรการปฏิรูปได้ส่งถึงเหล่าขุนนาง เจ้ากระทรวงต้าเย่ ผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว!ตราบใดที่ยังดำเนินการปฏิรูปอยู่ ชีวิตของผู้คนจะดีขึ้นและต้าเย่จะคงอยู่ไปอีกร้อยปี!ส่วนเรื่องการกบฏช่วยชาตินั้น เขาไม่เคยคิด และไม่มีความสามารถด้วย!ด้านข้าง เถียนชีรองหัวหน้าหุบเขาชิงหลง มุมปากของเขาถึงกับกระตุกท่านหัวหน้าฟังอาจารย์จ้าวจึงได้ก่อกบฏ บุกเข้าไปในอำเภอ และสังหารนายอำเภอ ตอนนี้เขากำลังยุให้ท่านเสนาธิการทหารที่ปรึกษกบฏ!อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ตกใจมาก อาจารย์จ้าว ไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่าย ๆ จริง ๆ เขากล้ายุให้ท่านเสนาธิการทหารก่อกบฏ!“ท่านเสนาธิการทหาร ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ!”จ้าวป๋อเซียวเต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจกับความไม่เป็นธรรม "ตอนนี้ฝ่าบาทโง่เขลาเบาปัญญา เจ้าหน้าที่ขุนนางต่างก็ทุจริต ประชาชนก็อดอยากหิวโหยไม่มีอะไรจะใส่
นี่เป็นแผนที่เขาสร้างขึ้นตามเงื่อนไขพื้นฐานของหวังหยวน เรียกได้ว่าครอบคลุมและรัดกุมแล้ว!แต่กลับถูกบอกว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการก่อกบฏเลยสักนิด เขารับไม่ได้หรอก!หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าสำหรับราชวงศ์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมั่นคง เงื่อนไขที่จำเป็นอันดับแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้คืออะไร"พวกโจรทั้งหมดตกใจ!พวกเขาเป็นโจร แค่กล้าก่อกบฏก็พอแล้ว เงื่อนไขที่จำเป็นมันคืออะไรจำเป็นด้วยรึ?"..."จ้าวป๋อเซียวสะอึกอีกครั้ง และกำมือคารวะขั้น "เสนาธิการทหารได้โปรดชี้แนะด้วย!"หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม "สำหรับราชวงศ์ที่มีอำนาจค่อนข้างมั่นคง เงื่อนไขแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องเป็นปีหายนะครั้งใหญ่ของช่วงปลายราชวงศ์!"ในการกระจายข้อมูลของคนรุ่นต่อไป มีคนจำนวนมากมานนับไม่ถ้วนที่พูดถึงเกี่ยวกับการกบฏในสมัยโบราณเขาเคยเห็นมาบ้างเหมือนกันอู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ต่างครุ่นคิด หลังจากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย!หงเยี่ย, เถียนชี, เสี่ยวไท่ซุ่ย และเฮยเมี่ยนจินกังต่างสับสนไปหมด!“เสนาธิการทหารยอดเยี่ยมจริงๆ!”จ้าวป๋อเซียวยกนิ้วให้และกล่าวว่า "ในช่ว
ประโยคนี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่สาดลงมาดับไฟความทะเยอทะยานของทุกคน!ดูเหมือนเป็นเช่นนั้น สุดท้ายแล้วพวกที่ก่อกบฏก็ถูกราชสำนักกวาดล้างทั้งนั้น!ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว เมื่อมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ทางตอนใต้ อ๋องฝูซานก่อกบฏ และยึดครองทั้งสามเมือง และในท้ายที่สุดก็ถูกราชสำนักกวาดล้างไปในที่สุดจ้าวป๋อเซียวผู้คุ้นเคยการศึกษาประวัติศาสตร์ และรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ในช่วงที่ผ่านมา เขาพยักหน้าและถอนหายใจออกมา "แม้ในตอนท้ายของราชวงศ์ คนรวยผู้มีอำนาจลำบากยังไงก็สบายกว่าคนจน หากราชวงศ์ยังพอมีอำนาจอยู่บ้าง ก็ยังสามารถรวบรวมกำลังขึ้นมาได้ กองกำลังเหล่านี้สามารถกวาดล้างผู้ที่ก่อกบฏขึ้นมาก่อน กบฏกลุ่มแรกเหล่านี้ล้วนเป็นมังกรปลอมที่เปิดทางให้มังกรตัวจริง”"ใช่แล้ว!"“คนเราเมื่อมีชื่อเสียงแล้วก็จะนำพาความเดือนร้อนมาสู่ตนเอง!”“คนอยู่ข้างหน้าต้องตายก่อน!”“ต้นไม้ใหญ่โดนลมโค่นหัก!”“มีชื่อเสียงมากไปย่อมดึงดูดความโชคร้าย!”"บังคับให้คนอื่นฝืนใจทำชัด ๆ!"พวกโจรก็มีความคิดเห็นของตัวเองเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดล้วนคิดเหมือนกันกว่าใครออกหน้าก่อนตายก่อน!จ้าวป๋อเซียวกำหมัดของเขาคารวะอ
หูเมิ่งอิ๋งตกตะลึงนิ่งอยู่กับที่ เมื่อเห็นเหลิ่งอวิ๋นผู้อาฆาตแค้น หัวใจของนางก็รู้สึกเหมือนถูกบีบ ในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกเศร้าที่จะไม่ได้เจอคุณชายอีก!ฉึก!ในช่วงเวลาวิกฤติ ลูกธนูหน้าไม้ก็พุ่งเข้ามาปักทะลุหัวใจของเหลิ่งอวิ๋น!ฟึ่บ!เหลิ่งอวิ๋นล้มลงกับพื้น มองปลายลูกศรที่แทงทะลุใจ เลือดสีแดงฉานไหลออกมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวังหูเมิ่งอิ๋งทนไม่ไหว อยากจะก้าวเข้าไปโดยสัญชาตญาณ แต่ถูกทหารผ่านศึกเกราะทมิฬรีบออกมาห้ามไว้ “คุณหนูหู นายท่านสั่งให้พวกข้าแอบปกป้องท่าน เขาบ้าไปแล้ว ท่านจะตกอยู่ในอันตรายหากเข้าใกล้เขา!”หูเมิ่งอิ๋งสะดุ้ง รีบถอยออกไป!สำหรับเหลิ่งอวิ๋น นางทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เป็นหนี้ติดค้างแต่อย่างใดแล้วโดยเฉพาะก่อนที่เหลิ่งอวิ๋นจะตาย เขาต้องการรั้งนางไว้ ซึ่งทำให้หัวใจของนางแทบจะแตกสลาย“เมิ่งอิ๋ง อย่าจากไปเลย ช่วย ช่วยข้าด้วย!”เลือดยังคงไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกลัวตาย เหลิ่งอวิ๋นยื่นมือออกไปไปหาฟางเส้นเดียวที่จะช่วยชีวิตเขาได้หูเมิ่งอิ๋งไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่มองทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแล้วพูดว่า “ช่วยเขาได้หรือไม่?”“ปกติแล้วคนจะไม่รอดจ
“อู่จั้งโหว!”เหลิ่งอวิ๋นกัดฟันพูด “เจ้าหลอกลวงข้าอย่างชั่วร้าย!”“สหายชิงเมี่ยนโช่ว ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด!”อู่จั้งโหวถอนหายใจ “หากเจ้าขัดแย้งกับนายท่าน นี่ก็คือชะตากรรมของเจ้า แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้!”เหลิ่งอวิ๋นพูดด้วยความโกรธว่า “ข้าแค่ไว้ใจเจ้า ไม่เช่นนั้นด้วยกำลังทหารของข้า ข้าจะกลัวคนหลอกลวงที่ทำได้แค่เขียนบทกวีไร้สาระได้อย่างไร!”อู่จั้งโหวมองเหลิ่งอวิ๋นที่ยังคงดื้อรั้น แล้วส่ายหน้า!หงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ใหญ่เหลิ่งอวิ๋น เขาไม่ใช่คนหลอกลวง เขาเป็นเสนาธิการทหารที่เอาชนะชาวหวงได้ ร้อยละแปดสิบของชัยชนะในศึกทางตอนเหนือเป็นเพราะเขา แม้แต่แม่ทัพหนุ่มก็ต้องฟังเขา การที่ท่านพ่ายแพ้เขาก็ไม่ใช่เรื่องอยุติธรรม เลิกมั่นใจในตัวเองได้แล้ว!”“อะไรนะ?”เหลิ่งอวิ๋นจ้องมองด้วยความไม่เชื่อปากเล็ก ๆ ของหงเยี่ยเล่าถึงสงครามในเมืองจิ่วซานคร่าว ๆ แล้วถามว่า “ตอนนี้ท่านยังไม่พอใจอะไรอยู่อีก?”“...”เหลิ่งอวิ๋นทรุดตัวลงบนพื้น ความภาคภูมิใจเล็ก ๆ น้อย ๆ หายไปจนสิ้น น้ำตาก็ไหลพรากไม่น่าแปลกใจที่คุณหนูใหญ่เลือกเขา กลับกลายเป็นว่าเขาแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าตัวเขา
ดวงตาของหงเยี่ยเป็นประกาย “เช่นนั้นท่านก็หมายความว่า เขาเองก็กำลังเตรียมจะกบฏด้วย!”จ้าวป๋อเซี่ยวหัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้า!หงเยี่ยขมวดคิ้วพูดว่า “แต่เมื่อกี้นี้ เหตุใดเขาถึงพยายามโน้มน้าวเราไม่ให้กบฏ!”“นั่นไม่ใช่การโน้มน้าวใจ นั่นเป็นการบอกเป็นนัย!”จ้าวป๋อเซี่ยวมีท่าทางมั่นใจ ขณะพูดว่า “บัณฑิตอย่างพวกข้ามักไม่พูดตรงไปตรงมา มีความหมายซ่อนเร้นอยู่ในคำพูด สามารถเดาได้ก็ต่อเมื่อพยายามอย่างหนัก จึงจะคิดออก!”“ใช่!”หงเยี่ยที่รู้สึกแบบเดียวกันก็พยักหน้าอย่างแรง “เขาไม่เคยทำอะไรตรงไปตรงมาเลย!”จ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวว่า “เสนาธิการทหารกล่าวว่าเขาไม่ต้องการให้เรากบฏ เนื่องจากยังไม่ถึงเวลา แต่เขาก็ยังบอกความลับของการกบฏมากมายแก่เรา หากเขาไม่เคยคิดเรื่องการกบฏ เขาจะคิดออกได้อย่างไร”ดวงตาของกลุ่มโจรเป็นประกาย!จ้าวป๋อเซี่ยวพ่นลมหายใจ “ข้าทุ่มเทให้กับการกบฏมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ความรู้ของข้าก็ยังไม่ดีเท่ากับเสนาธิการทหาร เขายังอายุน้อย แต่เข้าใจความลับของการกบฏจากหนังสือประวัติศาสตร์ เขาต้องเป็นมังกรสวรรค์ที่จะเปลี่ยนแปลงราชวงศ์แน่นอน การกบฏเป็นเรื่องของเวลา”กลุ่มโจรพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่