แชร์

บทที่ 474

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ข้าจะกลับไปเอายาก่อน!”

เมื่อมองไปที่เหลิ่งอวิ๋น หูเมิ่งอิ๋งก็มองไปทางนั้นด้วยสายตาอันเจ็บปวดแล้วหันกลับมา

เหลิ่งอวิ๋นเป็นขอทานตัวน้อยที่นางรับอุปการะไว้ในตอนนั้น ถือว่าเป็นคนรับใช้ของตระกูลหู

เมื่อลุงรองบังคับให้นางแต่งงาน เหลิ่งอวิ๋นก็ช่วยนางจากสถานการณ์นั้นถึงสามครั้ง!

ถ้าไม่ใช่เพราะเหลิ่งอวิ๋น นางคงไม่ได้พบกับคุณชายและนางก็คงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ตอนนี้!

มิตรภาพความสัมพันธ์เก่าๆ ที่ทำให้นางอยากร้องขอความเมตตา

แต่เมื่อนึกถึงเขาที่วางกับดักใส่คุณชาย นางก็รู้สึกผิดหวัง และตัดสินใจแล้ว!

เขาจ้องมองไปที่รถม้าของตระกูลหูอย่างเอาเป็นเอาตาย แววตาของเหลิ่งอวิ๋นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผิดหวัง เย็นชา และมีจิตสังหาร!

ไปแล้ว คุณหนูใหญ่ไปแล้วจริง ๆ โดยไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ!

นี่ทำให้เขารู้สึกผิดหวังมาก!

กลุ่มนักโทษเข้ามาในอำเภอ ทำให้เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก และทั้งเมืองก็รู้สึกสบายใจ!

เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้ยินมาตลอดเลยว่าโจรกบฏหุบเขาชิงหลงได้บุกโจมตีเมืองเฮ่อ ทำให้หลายคนในเมืองฝูต่างเป็นกังวล!

ทั้งกลุ่มก็ตรงไปที่ที่ว่าการอำเภอ

เนื่องจากมีนักโทษจำนวนมาก เรือนจำประจำอำเภอจึงไม่สามารถรองรับคนจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 475

    “ท่านไม่เข้าใจคุณชายเลยสักนิด เขามีความสามารถ และความสามารถที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการได้”เมื่อได้ยินว่าเขาว่าร้ายคุณชายเช่นนี้ ใบหน้างดงามของหูเมิ่งอิ๋งก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา "แม้ว่าเขาจะตาย ข้าก็จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ข้าจะไม่แต่งงานกับใครอีก ส่วนท่านพี่เหลิ่งอวิ๋น ข้าไม่เคยชอบท่าน อย่างมากที่สุดข้าก็ถือว่าท่านเป็นแค่พี่ชายของข้าเท่านั้น!”"พี่ชาย พี่ชาย...ฮ่าฮ่าฮ่า!"เหลิ่งอวิ๋นพึมพำหัวเราะเสียงดังออกมา จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าดุร้ายว่า "เจ้าหลงใหลในเขา เขามันเป็นแค่ไอคนโกหกไร้ยางอาย อย่างเขานับว่าเป็นอะไรได้ เขาไม่เก่งเท่าข้า ข้าดีกว่าเขาเป็นหมื่นเท่า!”หูเมิ่งอิ๋งส่ายหน้าไม่พูดอะไร พี่เหลิ่งอวิ๋นเสียสติไปแล้วถึงได้พูดเหลวไหลออกมาเช่นนั้น"เจ้าไม่เชื่อรึ?"ท่าทีไม่แยแสเช่นนี้ยั่วให้เหลิ่งอวิ๋นโมโห เขาถลึงตามองและตะคอกออกมา "เจ้าคิดว่าข้าเป็นขอทานน้อยจริง ๆ รึ แต่จะมีขอทานน้อยที่ไหนที่มีวรยุทธ์ติดตัว และรู้วิธีฝึกทหารกับม้าตั้งแต่ยังเด็กได้"แววตาของหูเมิ่งอิ๋งสั่นไหวในช่วงแรก นางพบว่าเหลิ่งอวิ๋นมีความสามารถ และได้พิจารณาถึงปัญหาเรื่องนี้แต่ในตอนนั้นที่ถาม เหลิ่งอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 476

    หลังจากส่งหูเมิ่งอิ๋งออกไปแล้ว หวังหยวนที่กำลังจะนอน ต้าหู่เคาะประตูแล้วพูดว่า "พี่หยวน หงเยี่ย, อู่จั้งโหว และเซี่ยซานหู่พาคนจากหุบเขาชิงหลงมาที่นี่ พวกเขาอยากมาขอพบและมาคุยกับพี่"หวังหยวนขมวดคิ้ว "คนนอกไม่มีใครรู้สินะ!"แม้ว่าโจรพวกนี้จะไม่โด่งดังเท่าเหลิ่งอวิ๋น แต่พวกเขาก็เป็นโจรเช่นกันตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นการทำหยกเนื้อแก้วและเหมือนถ่านหินที่ใช้ทำเหล็กล้วนอยู่ในพื้นที่สันเขาเชียนเฮ่อเว้นแต่พวกโจรภูเขาเหล่านี้ไม่ยอมจำนน พวกหยกเนื้อแก้ว เหมืองถ่านหิน เมืองทางตอนใต้ก็ทำได้ไม่สะดวกนัก"ไม่มีขอรับ!"ต้าหู่กล่าวว่า "พวกเขามาตอนฟ้ามืด ข้าขอให้ลุงฉางเซิงจัดการให้ สมาชิกกลุ่มคุ้มกันและพวกทหารปลดประจำการไม่รู้เรื่องนี้!"“เจ้าทำได้ดีมาก!”หวังหยวนตบไหล่ต้าหู่และพยักหน้า "ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ!"ตามความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันนั้น สมาชิกของกลุ่มคุ้มกันเดิมทีเป็นแกนนำหลักของหวังหยวน!แต่ในความเป็นจริงนั้น คนที่หวังหยวนไว้วางใจมากที่สุดคือทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!คนเหล่านี้เพื่อแม่ทัพมู่แล้ว ยอมละทิ้งผลประโยชน์ และยังคงไม่เปิดเผยชื่อมาจนถึงทุกวันนี้คุณสมบัติได้รับการตรวจสอบแล้วแม้ว่าสมาชิ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 477

    เขาและเซี่ยซานหู่ต่างกังวลเกี่ยวว่าเสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนจินกังและกลัวว่าเถียนชีจะยึดครองเขานั้นเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงลากเขามาด้วย แต่คาดไม่ถึงว่า ท่านอาจารย์จ้าวหลังค่อมจ้าวป๋อเซียวก็มาด้วย ดังนั้นทุกคนมาด้วยกัน“พี่ชาย ข้าไม่อยากเจอเขา!”หงเยี่ยหน้าแดงด้วยความเขินอาย นางเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ข้าเป็นหัวหน้าของหุบเขาชิงหลงแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเจ้าว่า ต่อจากนี้ไป หากคนและขบวนรถของเจ้าผ่านหุบเขาชิงหลง เราจะไม่ขวางขบวนรถของเจ้า และเราต่างคนต่างอยู่..ไม่ต้องมายุ่งต่อกัน!”เมื่อได้ยินว่าไอคนชั่วนี้เป็นที่ปรึกษาทางทหาร นางก็แทบไม่อยากจะเชื่อ และอดไม่ได้ที่จะมาพบเขา และผลที่ได้ก็มีคนตามมาด้วย!"ได้สิ!"หวังหยวนเลิกคิ้ว "ยังมีอะไรอีกไหม?""ไม่ ไม่มีแล้ว!"หงเยี่ยเงยหน้าขึ้นแล้วเดินจากไปอันที่จริงนางยังมีเรื่องจะพูดกับไอคนชั่วนี้อีกมากมาย นางอยากถามเขาว่าทำไมเขาถึงรังแกผู้หญิงที่อ่อนแออย่างนาง ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นวีรบุรุษ แต่มีคนมากมายมองอยู่ ทำให้รู้สึกอายที่จะพูดออกมา!หวังหยวนหันกลับมาเซี่ยซานหู่ลุกขึ้นยืนทันทีและกล่าวว่า "ท่านเสนาธิการทหาร กลุ่มพันธมิตรถนนการค้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 478

    “ยกทัพ?”สีหน้าของหวังหยวนเปลี่ยนไป "นั่นเป็นการกบฏไม่ใช่หรือ? เจ้าล้อเล่นอยู่หรือ?"ตอนนี้เขามีเงินหลายสิบล้านตำลึง มีภรรยาที่น่ารัก และกำลังจะรับหูเมิ่งอิ๋งเป็นอนุ ชีวิตของเขาเป็นไปด้วยดีเกี่ยวกับเหล่าผู้คนที่น่าสงสารในต้าเย่ ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยพวกเขาด้วยมาตรการปฏิรูปได้ส่งถึงเหล่าขุนนาง เจ้ากระทรวงต้าเย่ ผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว!ตราบใดที่ยังดำเนินการปฏิรูปอยู่ ชีวิตของผู้คนจะดีขึ้นและต้าเย่จะคงอยู่ไปอีกร้อยปี!ส่วนเรื่องการกบฏช่วยชาตินั้น เขาไม่เคยคิด และไม่มีความสามารถด้วย!ด้านข้าง เถียนชีรองหัวหน้าหุบเขาชิงหลง มุมปากของเขาถึงกับกระตุกท่านหัวหน้าฟังอาจารย์จ้าวจึงได้ก่อกบฏ บุกเข้าไปในอำเภอ และสังหารนายอำเภอ ตอนนี้เขากำลังยุให้ท่านเสนาธิการทหารที่ปรึกษกบฏ!อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ตกใจมาก อาจารย์จ้าว ไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่าย ๆ จริง ๆ เขากล้ายุให้ท่านเสนาธิการทหารก่อกบฏ!“ท่านเสนาธิการทหาร ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ!”จ้าวป๋อเซียวเต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจกับความไม่เป็นธรรม "ตอนนี้ฝ่าบาทโง่เขลาเบาปัญญา เจ้าหน้าที่ขุนนางต่างก็ทุจริต ประชาชนก็อดอยากหิวโหยไม่มีอะไรจะใส่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 479

    นี่เป็นแผนที่เขาสร้างขึ้นตามเงื่อนไขพื้นฐานของหวังหยวน เรียกได้ว่าครอบคลุมและรัดกุมแล้ว!แต่กลับถูกบอกว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการก่อกบฏเลยสักนิด เขารับไม่ได้หรอก!หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าสำหรับราชวงศ์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมั่นคง เงื่อนไขที่จำเป็นอันดับแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้คืออะไร"พวกโจรทั้งหมดตกใจ!พวกเขาเป็นโจร แค่กล้าก่อกบฏก็พอแล้ว เงื่อนไขที่จำเป็นมันคืออะไรจำเป็นด้วยรึ?"..."จ้าวป๋อเซียวสะอึกอีกครั้ง และกำมือคารวะขั้น "เสนาธิการทหารได้โปรดชี้แนะด้วย!"หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม "สำหรับราชวงศ์ที่มีอำนาจค่อนข้างมั่นคง เงื่อนไขแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องเป็นปีหายนะครั้งใหญ่ของช่วงปลายราชวงศ์!"ในการกระจายข้อมูลของคนรุ่นต่อไป มีคนจำนวนมากมานนับไม่ถ้วนที่พูดถึงเกี่ยวกับการกบฏในสมัยโบราณเขาเคยเห็นมาบ้างเหมือนกันอู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ต่างครุ่นคิด หลังจากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย!หงเยี่ย, เถียนชี, เสี่ยวไท่ซุ่ย และเฮยเมี่ยนจินกังต่างสับสนไปหมด!“เสนาธิการทหารยอดเยี่ยมจริงๆ!”จ้าวป๋อเซียวยกนิ้วให้และกล่าวว่า "ในช่ว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 480

    ประโยคนี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่สาดลงมาดับไฟความทะเยอทะยานของทุกคน!ดูเหมือนเป็นเช่นนั้น สุดท้ายแล้วพวกที่ก่อกบฏก็ถูกราชสำนักกวาดล้างทั้งนั้น!ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว เมื่อมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ทางตอนใต้ อ๋องฝูซานก่อกบฏ และยึดครองทั้งสามเมือง และในท้ายที่สุดก็ถูกราชสำนักกวาดล้างไปในที่สุดจ้าวป๋อเซียวผู้คุ้นเคยการศึกษาประวัติศาสตร์ และรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ในช่วงที่ผ่านมา เขาพยักหน้าและถอนหายใจออกมา "แม้ในตอนท้ายของราชวงศ์ คนรวยผู้มีอำนาจลำบากยังไงก็สบายกว่าคนจน หากราชวงศ์ยังพอมีอำนาจอยู่บ้าง ก็ยังสามารถรวบรวมกำลังขึ้นมาได้ กองกำลังเหล่านี้สามารถกวาดล้างผู้ที่ก่อกบฏขึ้นมาก่อน กบฏกลุ่มแรกเหล่านี้ล้วนเป็นมังกรปลอมที่เปิดทางให้มังกรตัวจริง”"ใช่แล้ว!"“คนเราเมื่อมีชื่อเสียงแล้วก็จะนำพาความเดือนร้อนมาสู่ตนเอง!”“คนอยู่ข้างหน้าต้องตายก่อน!”“ต้นไม้ใหญ่โดนลมโค่นหัก!”“มีชื่อเสียงมากไปย่อมดึงดูดความโชคร้าย!”"บังคับให้คนอื่นฝืนใจทำชัด ๆ!"พวกโจรก็มีความคิดเห็นของตัวเองเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดล้วนคิดเหมือนกันกว่าใครออกหน้าก่อนตายก่อน!จ้าวป๋อเซียวกำหมัดของเขาคารวะอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 481

    หูเมิ่งอิ๋งตกตะลึงนิ่งอยู่กับที่ เมื่อเห็นเหลิ่งอวิ๋นผู้อาฆาตแค้น หัวใจของนางก็รู้สึกเหมือนถูกบีบ ในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกเศร้าที่จะไม่ได้เจอคุณชายอีก!ฉึก!ในช่วงเวลาวิกฤติ ลูกธนูหน้าไม้ก็พุ่งเข้ามาปักทะลุหัวใจของเหลิ่งอวิ๋น!ฟึ่บ!เหลิ่งอวิ๋นล้มลงกับพื้น มองปลายลูกศรที่แทงทะลุใจ เลือดสีแดงฉานไหลออกมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวังหูเมิ่งอิ๋งทนไม่ไหว อยากจะก้าวเข้าไปโดยสัญชาตญาณ แต่ถูกทหารผ่านศึกเกราะทมิฬรีบออกมาห้ามไว้ “คุณหนูหู นายท่านสั่งให้พวกข้าแอบปกป้องท่าน เขาบ้าไปแล้ว ท่านจะตกอยู่ในอันตรายหากเข้าใกล้เขา!”หูเมิ่งอิ๋งสะดุ้ง รีบถอยออกไป!สำหรับเหลิ่งอวิ๋น นางทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เป็นหนี้ติดค้างแต่อย่างใดแล้วโดยเฉพาะก่อนที่เหลิ่งอวิ๋นจะตาย เขาต้องการรั้งนางไว้ ซึ่งทำให้หัวใจของนางแทบจะแตกสลาย“เมิ่งอิ๋ง อย่าจากไปเลย ช่วย ช่วยข้าด้วย!”เลือดยังคงไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกลัวตาย เหลิ่งอวิ๋นยื่นมือออกไปไปหาฟางเส้นเดียวที่จะช่วยชีวิตเขาได้หูเมิ่งอิ๋งไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่มองทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแล้วพูดว่า “ช่วยเขาได้หรือไม่?”“ปกติแล้วคนจะไม่รอดจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 482

    “อู่จั้งโหว!”เหลิ่งอวิ๋นกัดฟันพูด “เจ้าหลอกลวงข้าอย่างชั่วร้าย!”“สหายชิงเมี่ยนโช่ว ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด!”อู่จั้งโหวถอนหายใจ “หากเจ้าขัดแย้งกับนายท่าน นี่ก็คือชะตากรรมของเจ้า แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้!”เหลิ่งอวิ๋นพูดด้วยความโกรธว่า “ข้าแค่ไว้ใจเจ้า ไม่เช่นนั้นด้วยกำลังทหารของข้า ข้าจะกลัวคนหลอกลวงที่ทำได้แค่เขียนบทกวีไร้สาระได้อย่างไร!”อู่จั้งโหวมองเหลิ่งอวิ๋นที่ยังคงดื้อรั้น แล้วส่ายหน้า!หงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ใหญ่เหลิ่งอวิ๋น เขาไม่ใช่คนหลอกลวง เขาเป็นเสนาธิการทหารที่เอาชนะชาวหวงได้ ร้อยละแปดสิบของชัยชนะในศึกทางตอนเหนือเป็นเพราะเขา แม้แต่แม่ทัพหนุ่มก็ต้องฟังเขา การที่ท่านพ่ายแพ้เขาก็ไม่ใช่เรื่องอยุติธรรม เลิกมั่นใจในตัวเองได้แล้ว!”“อะไรนะ?”เหลิ่งอวิ๋นจ้องมองด้วยความไม่เชื่อปากเล็ก ๆ ของหงเยี่ยเล่าถึงสงครามในเมืองจิ่วซานคร่าว ๆ แล้วถามว่า “ตอนนี้ท่านยังไม่พอใจอะไรอยู่อีก?”“...”เหลิ่งอวิ๋นทรุดตัวลงบนพื้น ความภาคภูมิใจเล็ก ๆ น้อย ๆ หายไปจนสิ้น น้ำตาก็ไหลพรากไม่น่าแปลกใจที่คุณหนูใหญ่เลือกเขา กลับกลายเป็นว่าเขาแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าตัวเขา

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status