แชร์

บทที่ 477

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
เขาและเซี่ยซานหู่ต่างกังวลเกี่ยวว่าเสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนจินกังและกลัวว่าเถียนชีจะยึดครองเขานั้นเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงลากเขามาด้วย แต่คาดไม่ถึงว่า ท่านอาจารย์จ้าวหลังค่อมจ้าวป๋อเซียวก็มาด้วย ดังนั้นทุกคนมาด้วยกัน

“พี่ชาย ข้าไม่อยากเจอเขา!”

หงเยี่ยหน้าแดงด้วยความเขินอาย นางเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ข้าเป็นหัวหน้าของหุบเขาชิงหลงแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเจ้าว่า ต่อจากนี้ไป หากคนและขบวนรถของเจ้าผ่านหุบเขาชิงหลง เราจะไม่ขวางขบวนรถของเจ้า และเราต่างคนต่างอยู่..ไม่ต้องมายุ่งต่อกัน!”

เมื่อได้ยินว่าไอคนชั่วนี้เป็นที่ปรึกษาทางทหาร นางก็แทบไม่อยากจะเชื่อ และอดไม่ได้ที่จะมาพบเขา และผลที่ได้ก็มีคนตามมาด้วย!

"ได้สิ!"

หวังหยวนเลิกคิ้ว "ยังมีอะไรอีกไหม?"

"ไม่ ไม่มีแล้ว!"

หงเยี่ยเงยหน้าขึ้นแล้วเดินจากไป

อันที่จริงนางยังมีเรื่องจะพูดกับไอคนชั่วนี้อีกมากมาย นางอยากถามเขาว่าทำไมเขาถึงรังแกผู้หญิงที่อ่อนแออย่างนาง ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นวีรบุรุษ แต่มีคนมากมายมองอยู่ ทำให้รู้สึกอายที่จะพูดออกมา!

หวังหยวนหันกลับมา

เซี่ยซานหู่ลุกขึ้นยืนทันทีและกล่าวว่า "ท่านเสนาธิการทหาร กลุ่มพันธมิตรถนนการค้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 478

    “ยกทัพ?”สีหน้าของหวังหยวนเปลี่ยนไป "นั่นเป็นการกบฏไม่ใช่หรือ? เจ้าล้อเล่นอยู่หรือ?"ตอนนี้เขามีเงินหลายสิบล้านตำลึง มีภรรยาที่น่ารัก และกำลังจะรับหูเมิ่งอิ๋งเป็นอนุ ชีวิตของเขาเป็นไปด้วยดีเกี่ยวกับเหล่าผู้คนที่น่าสงสารในต้าเย่ ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยพวกเขาด้วยมาตรการปฏิรูปได้ส่งถึงเหล่าขุนนาง เจ้ากระทรวงต้าเย่ ผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว!ตราบใดที่ยังดำเนินการปฏิรูปอยู่ ชีวิตของผู้คนจะดีขึ้นและต้าเย่จะคงอยู่ไปอีกร้อยปี!ส่วนเรื่องการกบฏช่วยชาตินั้น เขาไม่เคยคิด และไม่มีความสามารถด้วย!ด้านข้าง เถียนชีรองหัวหน้าหุบเขาชิงหลง มุมปากของเขาถึงกับกระตุกท่านหัวหน้าฟังอาจารย์จ้าวจึงได้ก่อกบฏ บุกเข้าไปในอำเภอ และสังหารนายอำเภอ ตอนนี้เขากำลังยุให้ท่านเสนาธิการทหารที่ปรึกษกบฏ!อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ตกใจมาก อาจารย์จ้าว ไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่าย ๆ จริง ๆ เขากล้ายุให้ท่านเสนาธิการทหารก่อกบฏ!“ท่านเสนาธิการทหาร ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ!”จ้าวป๋อเซียวเต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจกับความไม่เป็นธรรม "ตอนนี้ฝ่าบาทโง่เขลาเบาปัญญา เจ้าหน้าที่ขุนนางต่างก็ทุจริต ประชาชนก็อดอยากหิวโหยไม่มีอะไรจะใส่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 479

    นี่เป็นแผนที่เขาสร้างขึ้นตามเงื่อนไขพื้นฐานของหวังหยวน เรียกได้ว่าครอบคลุมและรัดกุมแล้ว!แต่กลับถูกบอกว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการก่อกบฏเลยสักนิด เขารับไม่ได้หรอก!หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าสำหรับราชวงศ์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมั่นคง เงื่อนไขที่จำเป็นอันดับแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้คืออะไร"พวกโจรทั้งหมดตกใจ!พวกเขาเป็นโจร แค่กล้าก่อกบฏก็พอแล้ว เงื่อนไขที่จำเป็นมันคืออะไรจำเป็นด้วยรึ?"..."จ้าวป๋อเซียวสะอึกอีกครั้ง และกำมือคารวะขั้น "เสนาธิการทหารได้โปรดชี้แนะด้วย!"หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม "สำหรับราชวงศ์ที่มีอำนาจค่อนข้างมั่นคง เงื่อนไขแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องเป็นปีหายนะครั้งใหญ่ของช่วงปลายราชวงศ์!"ในการกระจายข้อมูลของคนรุ่นต่อไป มีคนจำนวนมากมานนับไม่ถ้วนที่พูดถึงเกี่ยวกับการกบฏในสมัยโบราณเขาเคยเห็นมาบ้างเหมือนกันอู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ต่างครุ่นคิด หลังจากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย!หงเยี่ย, เถียนชี, เสี่ยวไท่ซุ่ย และเฮยเมี่ยนจินกังต่างสับสนไปหมด!“เสนาธิการทหารยอดเยี่ยมจริงๆ!”จ้าวป๋อเซียวยกนิ้วให้และกล่าวว่า "ในช่ว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 480

    ประโยคนี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่สาดลงมาดับไฟความทะเยอทะยานของทุกคน!ดูเหมือนเป็นเช่นนั้น สุดท้ายแล้วพวกที่ก่อกบฏก็ถูกราชสำนักกวาดล้างทั้งนั้น!ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว เมื่อมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ทางตอนใต้ อ๋องฝูซานก่อกบฏ และยึดครองทั้งสามเมือง และในท้ายที่สุดก็ถูกราชสำนักกวาดล้างไปในที่สุดจ้าวป๋อเซียวผู้คุ้นเคยการศึกษาประวัติศาสตร์ และรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ในช่วงที่ผ่านมา เขาพยักหน้าและถอนหายใจออกมา "แม้ในตอนท้ายของราชวงศ์ คนรวยผู้มีอำนาจลำบากยังไงก็สบายกว่าคนจน หากราชวงศ์ยังพอมีอำนาจอยู่บ้าง ก็ยังสามารถรวบรวมกำลังขึ้นมาได้ กองกำลังเหล่านี้สามารถกวาดล้างผู้ที่ก่อกบฏขึ้นมาก่อน กบฏกลุ่มแรกเหล่านี้ล้วนเป็นมังกรปลอมที่เปิดทางให้มังกรตัวจริง”"ใช่แล้ว!"“คนเราเมื่อมีชื่อเสียงแล้วก็จะนำพาความเดือนร้อนมาสู่ตนเอง!”“คนอยู่ข้างหน้าต้องตายก่อน!”“ต้นไม้ใหญ่โดนลมโค่นหัก!”“มีชื่อเสียงมากไปย่อมดึงดูดความโชคร้าย!”"บังคับให้คนอื่นฝืนใจทำชัด ๆ!"พวกโจรก็มีความคิดเห็นของตัวเองเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดล้วนคิดเหมือนกันกว่าใครออกหน้าก่อนตายก่อน!จ้าวป๋อเซียวกำหมัดของเขาคารวะอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 481

    หูเมิ่งอิ๋งตกตะลึงนิ่งอยู่กับที่ เมื่อเห็นเหลิ่งอวิ๋นผู้อาฆาตแค้น หัวใจของนางก็รู้สึกเหมือนถูกบีบ ในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกเศร้าที่จะไม่ได้เจอคุณชายอีก!ฉึก!ในช่วงเวลาวิกฤติ ลูกธนูหน้าไม้ก็พุ่งเข้ามาปักทะลุหัวใจของเหลิ่งอวิ๋น!ฟึ่บ!เหลิ่งอวิ๋นล้มลงกับพื้น มองปลายลูกศรที่แทงทะลุใจ เลือดสีแดงฉานไหลออกมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวังหูเมิ่งอิ๋งทนไม่ไหว อยากจะก้าวเข้าไปโดยสัญชาตญาณ แต่ถูกทหารผ่านศึกเกราะทมิฬรีบออกมาห้ามไว้ “คุณหนูหู นายท่านสั่งให้พวกข้าแอบปกป้องท่าน เขาบ้าไปแล้ว ท่านจะตกอยู่ในอันตรายหากเข้าใกล้เขา!”หูเมิ่งอิ๋งสะดุ้ง รีบถอยออกไป!สำหรับเหลิ่งอวิ๋น นางทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เป็นหนี้ติดค้างแต่อย่างใดแล้วโดยเฉพาะก่อนที่เหลิ่งอวิ๋นจะตาย เขาต้องการรั้งนางไว้ ซึ่งทำให้หัวใจของนางแทบจะแตกสลาย“เมิ่งอิ๋ง อย่าจากไปเลย ช่วย ช่วยข้าด้วย!”เลือดยังคงไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกลัวตาย เหลิ่งอวิ๋นยื่นมือออกไปไปหาฟางเส้นเดียวที่จะช่วยชีวิตเขาได้หูเมิ่งอิ๋งไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่มองทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแล้วพูดว่า “ช่วยเขาได้หรือไม่?”“ปกติแล้วคนจะไม่รอดจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 482

    “อู่จั้งโหว!”เหลิ่งอวิ๋นกัดฟันพูด “เจ้าหลอกลวงข้าอย่างชั่วร้าย!”“สหายชิงเมี่ยนโช่ว ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด!”อู่จั้งโหวถอนหายใจ “หากเจ้าขัดแย้งกับนายท่าน นี่ก็คือชะตากรรมของเจ้า แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้!”เหลิ่งอวิ๋นพูดด้วยความโกรธว่า “ข้าแค่ไว้ใจเจ้า ไม่เช่นนั้นด้วยกำลังทหารของข้า ข้าจะกลัวคนหลอกลวงที่ทำได้แค่เขียนบทกวีไร้สาระได้อย่างไร!”อู่จั้งโหวมองเหลิ่งอวิ๋นที่ยังคงดื้อรั้น แล้วส่ายหน้า!หงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ใหญ่เหลิ่งอวิ๋น เขาไม่ใช่คนหลอกลวง เขาเป็นเสนาธิการทหารที่เอาชนะชาวหวงได้ ร้อยละแปดสิบของชัยชนะในศึกทางตอนเหนือเป็นเพราะเขา แม้แต่แม่ทัพหนุ่มก็ต้องฟังเขา การที่ท่านพ่ายแพ้เขาก็ไม่ใช่เรื่องอยุติธรรม เลิกมั่นใจในตัวเองได้แล้ว!”“อะไรนะ?”เหลิ่งอวิ๋นจ้องมองด้วยความไม่เชื่อปากเล็ก ๆ ของหงเยี่ยเล่าถึงสงครามในเมืองจิ่วซานคร่าว ๆ แล้วถามว่า “ตอนนี้ท่านยังไม่พอใจอะไรอยู่อีก?”“...”เหลิ่งอวิ๋นทรุดตัวลงบนพื้น ความภาคภูมิใจเล็ก ๆ น้อย ๆ หายไปจนสิ้น น้ำตาก็ไหลพรากไม่น่าแปลกใจที่คุณหนูใหญ่เลือกเขา กลับกลายเป็นว่าเขาแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าตัวเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 483

    ดวงตาของหงเยี่ยเป็นประกาย “เช่นนั้นท่านก็หมายความว่า เขาเองก็กำลังเตรียมจะกบฏด้วย!”จ้าวป๋อเซี่ยวหัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้า!หงเยี่ยขมวดคิ้วพูดว่า “แต่เมื่อกี้นี้ เหตุใดเขาถึงพยายามโน้มน้าวเราไม่ให้กบฏ!”“นั่นไม่ใช่การโน้มน้าวใจ นั่นเป็นการบอกเป็นนัย!”จ้าวป๋อเซี่ยวมีท่าทางมั่นใจ ขณะพูดว่า “บัณฑิตอย่างพวกข้ามักไม่พูดตรงไปตรงมา มีความหมายซ่อนเร้นอยู่ในคำพูด สามารถเดาได้ก็ต่อเมื่อพยายามอย่างหนัก จึงจะคิดออก!”“ใช่!”หงเยี่ยที่รู้สึกแบบเดียวกันก็พยักหน้าอย่างแรง “เขาไม่เคยทำอะไรตรงไปตรงมาเลย!”จ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวว่า “เสนาธิการทหารกล่าวว่าเขาไม่ต้องการให้เรากบฏ เนื่องจากยังไม่ถึงเวลา แต่เขาก็ยังบอกความลับของการกบฏมากมายแก่เรา หากเขาไม่เคยคิดเรื่องการกบฏ เขาจะคิดออกได้อย่างไร”ดวงตาของกลุ่มโจรเป็นประกาย!จ้าวป๋อเซี่ยวพ่นลมหายใจ “ข้าทุ่มเทให้กับการกบฏมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ความรู้ของข้าก็ยังไม่ดีเท่ากับเสนาธิการทหาร เขายังอายุน้อย แต่เข้าใจความลับของการกบฏจากหนังสือประวัติศาสตร์ เขาต้องเป็นมังกรสวรรค์ที่จะเปลี่ยนแปลงราชวงศ์แน่นอน การกบฏเป็นเรื่องของเวลา”กลุ่มโจรพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 484

    ด้วยร่างอันอ่อนนุ่มและมีกลิ่นหอมในอ้อมแขน และคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผลดังกล่าว หวังหยวนรู้สึกใจอ่อนลงเล็กน้อย เมื่อเห็นใบหน้างามที่น่าสงสาร แต่ยังคงหันหน้ามองไปที่อื่นด้วยความยากลำบาก “เจ้าเจอหลายเรื่องมามากเกินไป พักผ่อนให้เต็มที่ รอจนกว่าเจ้าจะสงบลงก่อน ค่อยคุยกันอีกครั้ง!”“คุณชาย ท่านคิดว่าข้ามีมลทิน เพราะแต่งงานสามครั้งหรือเปล่า?”คำปฏิเสธนั้นส่งผลให้ร่างกายนุ่มนิ่มของหูเมิ่งอิ๋งสั่นสะท้าน น้ำตาไหลอาบแก้ม ใบหน้างามของนางเป็นดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝน “ข้า ข้า... ฮือฮือ!”เมื่อเป็นเช่นนี้ หวังหยวนก็ทนไม่ไหว เขาก้มศีรษะลงจุมพิตนางเขาไม่ได้เกลียดหูเมิ่งอิ๋งเลย หลังจากเข้าใจการเติบโตและนิสัยของนางแล้ว เขาก็ชอบความมีน้ำใจ และยิ่งสนิทกับนางมากยิ่งขึ้นเขาแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้ควรหารือกับหลี่ซื่อหานก่อน จึงตัดสินใจเลื่อนออกไป และไม่กล้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์“อืม อืม...”“ฮือฮือ...”ทั้งสองโอบกอดแนบชิด!จิตใจกำลังว้าวุ่น ในช่วงเวลาวิกฤติ จู่ ๆ ก็มีคนมาเคาะประตู “พี่หยวน คนจากหุบเขาชิงหลงกำลังจะไปแล้ว พวกเขามาที่นี่เพื่อบอกลาท่าน!”“ก๊อก ก๊อก!”หวังหยวนอ้าปากค้าง หยุดเคลื่อนไหว “บอก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 485

    จ้าวป๋อเซี่ยว อาจารย์จ้าวหลังค่อมกำประสานมือคำนับด้วยความตื้นตันเซี่ยซานหู่ อู่จั้งโหว เถียนชี เสี่ยวไท่ซุ่ย และเฮยเมี่ยนจินกัง ก็ค่อนข้างตื้นตันเช่นกันเดินทางยามค่ำคืนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หมายถึงความยากลำบากในการกบฏ ต้องระวังตัวให้ดี ก็คือบอกให้พวกเขาดำเนินการด้วยความระมัดระวังตราบใดที่เดินทางยามค่ำคืนเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ย่อมจะเป็นวันที่แตกต่างออกไป!คำแนะนำของเสนาธิการทหารคือการให้กำลังใจพวกเขา!หวังหยวนโบกมือ แค่พูดอะไรบางอย่างที่สุดแสนจะธรรมดา เพื่อเตือนให้พวกเขาระวังตัว เหตุใดคนพวกนี้ถึงมีท่าทีแปลกนักทั้งหกคนหันหลังเตรียมเดินจากไป แต่หงเยี่ยยังคงยืนอยู่ข้างหลัง ทำให้เสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนจินกังหันกลับไปมองบ่อย ๆ จากนั้นจ้าวป๋อเซี่ยว อาจารย์หลังค่อมก็มาลากนางออกไปหวังหยวนมองหงเยี่ยที่เหมือนลังเลที่จะพูด “เจ้ามีอะไรหรือเปล่า?”หงเยี่ยกัดฟันตอบว่า “ข้าได้ยินชิงเหอบอกว่าท่านรักภรรยาของท่านมาก และได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง แล้วเหตุใดท่านถึงทำอย่างนี้กับคุณหนูหู?”นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ จึงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวบางอย่างในห้อง!ความสัมพันธ์ระ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status