ชายคนหนึ่งวิ่งอุ้มเด็กเข้ามา ตามหลังมาด้วยชายสองคนชายหนุ่มที่เห็น เขาก็หันหลังวิ่งหนีและปากก็บ่นด่าไม่หยุดว่า "ไอคนแซ่เฟยเอ้ย ไอเวร เรื่องดี ๆ มีไม่ทำ ก็สมควรที่บ่อเกลือเก่าตระกูลเฟยจะแห้งเหือดแบบนี้!"เมื่อรู้ว่าเขาเป็นคนโกหก เอ้อหู่โกรธมากอยากจะไล่ตามเขาไป แต่ถูกหวังหยวนห้ามไว้ เขามองไปที่ชายคนนั้นแล้วพูดว่า "เด็กเป็นยังไงบ้าง หมอว่าอย่างไร"กึกตุ้บ!ชายคนนั้นคุกเข่าลงอีกครั้งแล้วพูดว่า "ขอบคุณผู้มีพระคุณมากขอรับ เด็กไม่เป็นไรแล้ว หมอให้ยามากิน บอกว่ากินยาสักสามวัน เขาจะหายดีเป็นปกติ"“เด็กไม่เป็นไรก็ดีแล้ว!”เขาประคองชายคนนั้นขึ้นมา และแตะหน้าผากของเด็กรู้สึกว่าไข้ลดลงแล้ว หวังหยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ข้ายังไม่ได้ถามชื่อของเจ้าเลย!"“มิกล้า ๆ ข้าน้อยแซ่เฟย ชื่อเล่นหนิวเฉา คนอื่น ๆ ต่างเรียกข้าว่าเฟยหนิว!”เฟยหนิวดูประหม่า และชี้ไปที่ชายสองคนที่อยู่ข้าง ๆ "ข้าเป็นเจ้าของบ่อเกลือเก่าตระกูลเฟย นี่น้องชายของข้าหม่าเฉาและหลู่เฉา!"ชายทั้งสองยิ้มและก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย!เด็กในชนบทมักจะตายตั้งแต่ยังเด็ก มักจะถูกตั้งชื่อให้หยาบคายเข้าไว้ เพราะพวกเขาคิดว่าเป็นการแก้เคล็ดจ
หวังซื่อไห่พาคนไปซื้อของ ไม่นานนักพวกเขาก็ซื้อข้าว บะหมี่ เนื้อสัตว์ และผักมาครึ่งรถม้ากลุ่มคนและรถม้ามุ่งหน้าตรงไปยังหมู่บ้านเหล่าเฟย ซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบลี้!ถนนบนภูเขานั้นเดินทางลำบาก จึงใช้เวลาเดินทางครึ่งชั่วยามก่อนจะถึงหมู่บ้านเหล่าเฟยเมื่อเห็นรถม้า ชาวบ้านก็วิ่งหนีแต่ไกล ราวกับว่าพวกเขาเห็นเสือหรือหมาป่า!“คุณชายขอรับ พวกเขาไม่ได้กลัวท่านหรอก แค่คิดว่าพวกท่านเป็นคนของทางการเท่านั้น!”เฟยหนิวมีรอยยิ้มขมขื่น "บ่อเกลือเฟยจวงเก่าเหล่านี้แห้งเหือด ทุกครั้งที่ทางการมาเก็บเกลือและภาษี เราจ่ายไม่ได้ พวกเราทุกคนกลัวที่จะถูกจับไป!"หวังหยวนพยักหน้าเงียบ ๆ!เช่นเดียวกับหมู่บ้านต้าหวัง หากไม่สามารถชำระภาษีได้ เจ้าหน้าที่ก็จะจับตัวไปแทนอย่างไรก็ตาม บางบ้านในหมู่บ้านก็ออกมาแสร้งทำเป็นใจกล้าและถามว่า "หัวหน้า ยืมเงินไปรักษาเสี่ยวหนิวได้หรือเปล่า?"“ข้าไม่ได้ยืม!”เฟยหนิวชี้ไปที่หวังหยวน "คุณชายท่านนี้มีเมตตาให้เงินช่วยเสี่ยวหนิวไปหาหมอ"“ขอบคุณคุณชาย หัวหน้าของเราเป็นคนดี เดิมทีบ่อน้ำเกลือในหมู่บ้านแห้งแล้ว ถ้าหากเขาไปจากที่นี่เมื่อหลายปีก่อน เขาก็จะยังคงเป็นครอบครัวที่ร่ำรวย เขา
หวังหยวนยิ้มเล็กน้อย "แต่ข้ารู้วิธีขุดเจาะ!"วังฉงโหลวแทบจะร้องไห้ออกมา "ลุงหยวน อย่าล้อเล่นกันสิ การขุดบ่อนะ ไม่ใช่การเล่นของเล่น!"“คุณชาย เจ็ดพี่น้องใช้เวลาสามปีขุดได้ลึกสามฟุต!”หูเมิ่งอิ๋งยังเกลี้ยกล่อมต่อไปว่า "เราสามารถอยู่ที่นี่ได้นานที่สุดแค่สี่วัน ขุดไม่ได้ลึกมากหรอก!"แม้ว่าต้าหู่, เอ้อหู่ และคนอื่น ๆ จะประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีใครมีข้อสงสัยใด ๆหวังหยวนเลิกคิ้ว "หากใช้เวลาสามวัน แล้วสามารถขุดลึกได้มากกว่าที่พวกเขาเคยทำในสามปีล่ะ!"หูเมิ่งอิ๋งพูดอย่างจริงจัง "ถ้าท่านทำได้ หลังจากนี้ท่านว่ายังไงก็ว่าตามนั้นเลย!""ดี!"หวังหยวนกระพริบตา "หากถึงตอนนั้น ข้าอยากให้เจ้ารับปากข้าเรื่องหนึ่ง อาจเป็นเรื่องที่ลำบากเจ้าสักหน่อย!"เมื่อนึกถึงความหมายกำกวมของคำ ใบหน้างดงามของหูเมิ่งอิ๋งก็เปลี่ยนเป็นสีแดง "ถ้าคุณชายทำได้จริง ๆ เมิ่งอิ๋งจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณชายทำไม่ได้ คุณชายเองก็ต้องรับปากข้าเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้คุณชายลำบากใจมากเช่นกัน!”"ดี!"ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย!หูเมิ่งอิ๋งก็ตาเป็นประกายเช่นกัน!หากในสามวันคุณชายแพ้ นางจะยื่นข้อเสนอให้เขาเตรียมตั
“เจ้าคนชั้นต่ำนั้นจะมาเล่นกลอุบายไม้ไหนได้ เขาจะขุดหลุมพรางใหญ่ให้ตระกูลหยางได้!”หยางซั่วไม่สนใจ "หรือว่ามีใครกล้าขายเกลือให้เขา?""ไม่มีทาง!"หลิวจื้อผิงพูดอย่างระมัดระวัง "แต่ในวันแรกที่เขาไปที่เฟยชาง เขาซื้อเกลือในราคาสองหรือสามเท่าของราคาตลาด แม้ว่าในวันรุ่งขึ้น เขาจะไปที่หมู่บ้านเหล่าเฟย แต่เขาก็ยังให้คนไปที่เมือง ซื้อเกลือแล้วเสนอราคาไปสี่ห้าเท่า วันที่สามให้คนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ เสนอราคาไปหกเจ็ดเท่า วันนี้เป็นวันที่สี่ ไปตามโรงต้มเกลือเสนอราคาขึ้นไปอีกสิบเท่า”"ไอ้เวร!"หยางซั่วตบมือบนโต๊ะ ร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันสั่นกระเพื่อม “ไอคนชั่นต่ำนั่นจะทำอะไร เขาจะมาวุ่นวายกับรากฐานตระกูลหยางของข้างั้นหรือเปล่า บังอาจมาก หัวหน้าบ่อเกลือและจ้าวหู้ทำไมไม่ปฏิเสธ!”อย่าพูดสิบเท่าเลย แค่สองเท่า หากตระกูลหยางไม่ขัดขวางล่ะก็ หัวหน้าบ่อเกลือและจ้าวหู้จะเปลี่ยนข้างทันที“หัวหน้าบ่อเกลืออยากขายเกลือ แต่ไม่คิดถึงบุญคุณของตระกูลหยาง ช่างเนรคุณเหลือจะทน!”หลิวจื้อผิงกระซิบ "แต่ชีวิตของคนในบ่อเกลือนั้นยากลำบากมาก เมื่อพวกเขาได้ยินว่าได้ราคาเกลือสูงกว่าสิบเท่า พวกเขาจะเริ่มโวยวายประท้วงว่าจะ
หม่าเฉาและหลู่เฉาออกแรงหมุนกว้านด้วยรอกแบบประหยัด ทำให้หมุนยกหัวขุดเจาะขนาดสองร้อยกิโลกรัมขึ้นจากด้านล่างของบ่อลึกร้อยเมตรได้อย่างง่ายดาย!ตึงตึง...ทำซ้ำแบบนี้สามวันซ้ำแล้วซ้ำเล่า!สามคนจากน้องทั้งสี่ และชายหนุ่มอีกสองคนลงไปในบ่อน้ำตักหินกรวดใส่ถังไม้ส่งขึ้นไปให้ชายหนุ่มสองคนนั้นขนกรวดออกไป“ขุดได้ลึกลงไปอีกสิบฟุตแล้ว!”เสียงตื่นเต้นดีใจที่ดังมาจากก้นบ่อ!หกพี่น้องเหงื่อออกเต็มไปหมด ไม่สามารถซ่อนความเหนื่อยล้าได้ แต่ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุขเฟยหนิวลูบเอวด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อารมณ์หดหู่ของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อสามวันก่อน เขาคิดว่าหวังหยวนอยากจะทำ เลยตกลงเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณหลังจากที่หวังหยวนวาดพิมพ์เขียวเสร็จ และให้ช่างไม้และช่างตีเหล็กทำงานข้ามวันข้ามคืนสร้างชุดเครื่องมือนี้ขึ้นมัน มันเพิ่มประสิทธิภาพการขุดบ่อตามปกติได้มากกว่าร้อยเท่า!เมื่อวันก่อนมันขุดลึกลงไปได้ห้าฟุตในสองวันที่ผ่านมายิ่งทำก็ยิ่งชำนาญมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อวานได้ขุดลึกแปดฟุต วันนี้ขุดลึกห้าฟุตในเวลาเพียงครึ่งวัน!น้ำเกลือไหลออกมาจากบ่อเกลือมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่ายังไม่มีน้ำเกลือระลอกใหญ่
“ในที่สุดก็ล้างเสร็จแล้ว!”หลังจากล้างมือของเด็ก ๆ แล้ว หวังหยวนก็ลูบเอวและยักไหล่แก้เมื่อย!บรรดาจ้าวหู้รีบเข้ามาอุ้มเด็ก ๆ ที่ไม่ยอมกลับ พากลับบ้านไป!หวังหยวนโบกมือลาเด็ก ๆ!ทันใดนั้น มือเล็ก ๆ สองมือวางบนไหล่ และเริ่มนวดเบา ๆ “คุณชาย เหนื่อยไหม?”กลิ่นหอมจาง ๆ ที่ลอยเข้ามา มือเล็กนุ่ม ๆ ทำให้ร่างกายที่ปวดตึงของเขารู้สึกอบอุ่น หวังหยวนเกร็งไปทั้งตัว "ตอนนี้ข้าเหนื่อยนิดหน่อย แต่หลังจากที่เจ้านวดข้าแบบนี้ ข้าก็รู้สึกมีแรงขึ้นมาทันที!"“ถ้าอย่างนั้นข้าจะนวดมากกว่านี้!”หูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า "ชุดเครื่องมือขุดเจาะนั้นหายาก ดังนั้นควรให้พี่น้องตระกูลเฟยเก็บเป็นความลับ! ทางที่ดีควรลงนามในสัญญากับพวกเขา ถ้าน้ำเกลือถูกต้มออกมาแล้วให้ขายกับเราทั้งหมด ยกเว้นส่วนที่ส่งมอบให้ทางการเท่านั้น คำมั่นคนไม่น่าเชื่อถือเท่าหนังสือสัญญาหรอก เราต้องเตรียมตัว!"หวังหยวนหลับตา "เจ้าพูดถูก แต่ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสัญญาเลย ข้าไม่รู้ว่าต้องขุดบ่อนี้ลึกแค่ไหนถึงจะมีน้ำเกลือจะออกมา ถ้าขุดอีกวันแล้วยังไม่มีน้ำเกลือออกมา เราคงต้องกลับไปที่เมือง!”หูเมิ่งอิ๋งพยักหน้าเบา ๆ และนวดขมับของหวัง
หากไม่ขาดแคลนเงินทองจริง ๆ ข้าสามารถมอบให้คุณชายได้ฟรี ๆ!จ้าวหู้ที่ขายเกลือยังต้องขายในราคาสี่หรือห้าอีแปะต่อจิน และพวกเขายังจำเป็นต้องซื้อไม้และถ่านหินจำนวนมากเพื่อมาติดเตาด้วยแบ่งเกลือให้ทางการสามส่วน และจ่ายภาษีส่วนหนึ่งส่วนที่เหลือก็เป็นใช้เป็นเพียงค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารและเสื้อผ้าสำหรับครอบครัวเท่านั้น และการลดราคาก็ถึงขีดจำกัดแล้ว!หากลดเงินลงสองอีแปะ ครอบครัวจะต้องรัดเข็มขัดและคงจะขาดแคลนอาหารแต่ถ้าไม่มีคุณชาย ลูกชายก็คงไม่รอดและบ่อเกลือก็คงไม่มีน้ำเกลือ บุญคุณต้องตอบแทน!หวังหยวนส่ายหัว "เฟยหนิว เจ้าคิดผิดแล้ว ข้าไม่คิดว่ามันแพง แต่ข้าคิดว่ามันถูกไป! ตามราคาตลาด เกลือหนึ่งจินมีราคาสี่อีแปะ เจ้าจะซื้อได้แค่อาหารและเสื้อผ้าเท่านั้น ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจให้เจ้าแปดอีแปะต่อหนึ่งจิน จะซื้อเกลือหกแสนจินจากที่นี่ทุกปี!”ทุกคนในหมู่บ้านเหล่าเฟยต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ พวกเขาทั้งหมดคุกเข่าลงกับพื้น และโขกศีรษะไม่หยุด!พ่อค้าเกลือที่มาซื้อเกลือพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกดราคาพวกเขาให้ต่ำที่สุด ให้พวกเขาแค่พอซื้ออาหารและเสื้อผ้าได้!ไม่เคยมีพ่อค้าเกลือคนใดริเริ่มขึ้นราคาให้พว
หากทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบขุ่นเคือง เตาจะปิดเมื่อไหร่ก็ได้ และไม่สามารถแอบต้มเกลือได้อีกด้วยด้วยการควบคุมเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยในกรมขนส่งเกลือ และควบคุมการผลิตและจำหน่ายเกลือทางอ้อมเช่นนี้ ตระกูลหยางจึงได้ผูกขาดธุรกิจเกลือในเฟยชางมองไปที่หวังหยวน แววตาของหยางโม่ก็เย็นชาและทิ่มแทง เขาเดินไปข้างหน้าและปรบมือคนรับใช้สองคนวิ่งเข้ามา ถือกล่องเล็ก ๆ วางไว้บนพื้นและเปิดออก พบแท่งเงินวางอยู่ข้างในเจ็ดพี่น้องตระกูลเฟยและกลุ่มจ้าวหู้มองดูเงินอย่างงุนงงราวกับพวกเขาถูกกระชากวิญญาณไป!“เฟยหนิว นี่คือเงินหนึ่งพันตำลึง”หยางโม่เชิดหน้าขึ้น และพูดอย่างเย่อหยิ่ง "บ่อเกลือของเจ้าผลิตน้ำเกลือได้แล้ว ตระกูลหยางจึงตัดสินใจที่จะต้มเกลือต่อ หากเจ้าลงนามในสัญญากับตระกูลหยาง เกลือทั้งหมดที่ต้มแล้วในหมู่บ้านของเจ้าจะถูกขายให้กับตระกูลหยาง แล้วเงินนั้นก็จะเป็นของเจ้า!” เงินพันตำลึงนี้ แค่ซื้อบ่อเกลือขุดใหม่ของตระกูลเฟย แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่พูดออกมาตรง ๆ!เฮือก!จ้าวหู้หลายรายหายใจไม่ออก และใจเต้นทันที!เงินหนึ่งพันตำลึง หากตกลงและรับมันไว้ ต่อจากนี้ไปก็จะชีวิตที่สุขสบาย!จ้าวหู้หลายคนมองเฟยหนิวแล
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห