หวังหยวนตะโกน "เตรียมตัว!"จับโจรก็ต้องจัดการหัวหน้าก่อน ที่พูดจาทะเล้นบ้ากามเช่นนี้ เพื่อยั่วโมโหให้รองหัวหน้าค่ายโกรธเท่านั้น!ตอนนี้นางโกรธมาก นางทิ้งพวกโจรและพุ่งเข้ามาหาคนเดียวทั้งกลุ่มรู้สึกตื่นเต้นมาก พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าแผนการของหวังหยวนจะดำเนินไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้แต่สิ่งที่หวังหยวนพูดไป ผู้หญิงคนไหนก็รับไม่ได้หรอก!น่าเจ็บปวดเหลือเกิน ผู้หญิงสวยขนาดนี้บอกไม่เอาเป็นอนุ!พวกโจรตกใจ แต่ไม่มีใครกล้าหยุดไว้ พวกเขาต่างรู้ดีถึงอารมณ์รองหัวหน้าในตอนนี้!ฟิ้วตุ้บ!ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานนั้น เซี่ยซานหู่ก็รีบเข้ามาดึงหงเยี่ยลงจากหลังม้าหงเยี่ยหงายหลังล้มลงกับพื้น และชักดาบชี้ดาบไปทางเขา "เซี่ยซานหู่ เจ้ากล้าขวางข้า เจ้าอยากตายใช่ไหม!"ล้มกลิ้งลงมาเหมือนลาม้วนตัว เซี่ยซานหู่ก็ตะโกนว่า "รองหัวหน้าอย่าหุนหันพลันแล่น ลืมสิ่งที่ข้าเพิ่งบอกเจ้าไปแล้วเหรอ เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก เขาแค่ยั่วโมโหให้เจ้าโกรธเท่านั้น เจ้าจะได้พุ่งไปหาเขา แล้วจับเจ้าไว้มาขู่พวกเรา คนของเขาสังหารท่านเก้าได้ในดาบเดียว เขาเป็นยอดฝีมือนะ!”“ใช่ ๆ รองหัวหน้าอย่าวู่วาม ไอสารเลวคนนี้จงใจยั่วโมโหท่าน!”“ท่
โจรสองร้อยคนถือโล่ไม้ตามหงเยี่ยวิ่งนำไปที่กำแพงหิน!ท่าทีของหวังหยวนและพรรคพวกเปลี่ยนไปทันทีพวกโจรบุกมาแบบนี้ พวกเขามีหน้าไม้ขงเบ้ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยมากนัก!แต่ทันใดนั้นเอง เซี่ยซานหู่ก็ตะโกนขึ้นว่า "รองหัวหน้า พวกเจ้าระวังด้วย อย่ารีบร้อนเกินไป ระวังเท้าของเจ้าด้วย ตอนที่พี่ชายข้าบุกเข้าไปโจมตีหมู่บ้านต้าหวัง เขาก็วางกับดักม้าและกับดักสัตว์ต่างๆ ไว้ด้วย ต้องระวังฝีเท้าให้ดี จะต้องมีการซุ่มโจมตีแน่!”กึก--หงเยี่ยที่วิ่งไปข้างหน้าหยุดกะทันหัน และจ้องไปที่พื้นอย่างระมัดระวัง แล้วก้าวไปข้างหน้าต่อ!โจรคนอื่น ๆ ตามมาด้วย เพราะกลัวว่าจะถูกบัณฑิตชั่วร้ายซุ่มโจมตี!หวังหยวนทั้งโกรธและขำมาก!ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม พวกเขาเคลื่อนย้ายหินและศพได้เท่านั้นไม่มีเวลาขุดกับดักม้าหรือวางกับดักหมี อีกอย่างเขาไม่ได้เอามันมาด้วยซ้ำ!เซี่ยซานหู่คนนี้เป็นทั้งตัวซวยและตัวนำโชคในคราวเดียวกันจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบไหนนี่สิ!"อ้าก!"โจรที่ก้าวเข้ามาทันใดนั้นก็ล้มลงกับพื้น และกรีดร้องออกมา!“มีกับดักหมีจริง ๆ เหรอ?”“ไอเลวนั้นช่างร้ายกาจจริง ๆ!”“มีการวางกับดักใต้ดินจริง ๆ ด้วย!”โจรท
“เจ้าพวกโจรชั่ว จำชื่อข้าไว้ ข้าชื่อหวังพั่วหลู่! พั่ว แปลว่าทำลาย และหลู่ ที่เป็นนักรบ เจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของหวังพั่วหลู่!”เอ้อหู่ถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้าง ดาบนั้นที่วาดผ่านผู้คน กลายเป็นแสงและเงาสองสายพาดผ่านไปไม่ว่าเขาจะวาดดาบไปที่ไหน ใบดาบที่ปะทะมาก็หัก มีคนตายเป็นศพและเลือดก็พุ่งเป็นสาย ไม่มีใครหยุดยั้งเขาได้มีอาวุธฟันใส่เขา แต่พวกมันทั้งหมดถูกชุดเกราะสีดำป้องกันเอาไว้!เพียงครู่เดียว โจรยี่สิบหรือสามสิบคนก็ถูกสังหารด้วยดาบของเขาโจรที่อยู่รอบตัวเขาหวาดกลัวมาก จนอดไม่ได้ที่จะถอยและหลบ!“ท่านสี่ ท่านห้า ท่านหก ท่านแปด และท่านสิบ ตามข้ามา!”เมื่อเห็นว่าโจรธรรมดาทั่วไปเอาชีวิตเสี่ยงแบบนี้ พวกเขาก้าวออกไปข้างหน้า หงเยี่ยก็หยิบดาบยาวขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง โดยไม่มีท่าทีขลาดกลัวเลยทั้งห้าคนเห็นดังนั้น พวกเขาก็รีบรุดไปข้างหน้าทันที!ยอดฝีมือทั้งหกคนร่วมมือกัน เอ้อหู่ก็เริ่มล่าถอยทีละก้าว!เพียงครู่เดียว เขาก็ถูกดาบ ขวาน และลูกธนูโจมตี เขาก็เซถอยไป!แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรและฟันตัดดาบยาวของหงเยี่ยอีกครั้ง เกือบจะฆ่านางได้ในดาบเดียวหงเยี่ยถอยกลับด้วยความหวา
พลังมหาศาลระเบิดออกมาจากใต้เท้าของนาง จนนางกระแทกล้มลงกับพื้นปึก!ร่างในชุดเกราะสีดำพุ่งเข้ามา ดาบยาวที่ส่องด้วยแสงเย็นวาบสาดมาและวางบนคอของนาง "อย่าขยับ!""อึก!"สัมผัสที่เย็นวาบและแหลมคมที่รู้สึกได้จากคอระหง ร่างบางของหงเยี่ยก็หยุดแข็งตัวอยู่กับที่นางมองลงไป ทันใดนั้นนางโกรธมากจนอยากเคี้ยวฟันมีไม้กระดานและมีหลุมลึกอยู่ในพื้นดิน และชายคนนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในหลุมนั้นคนชั่วแซ่หวังนั้นช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอายมาก เขาใช้คนซุ่มโจมตีจากที่นี่!เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาสามารถคำนวณได้อย่างถูกต้อง และยืนอยู่ตรงนี้ได้!กึก!โจรทั้งหมดหยุดโจมตี ทำอะไรไม่ถูก!นี่คือน้องสาวแท้ ๆ ของหัวหน้า ใครกล้าลงมือให้นางขาดเป็นท่อนกันถ้าหัวหน้ากลับมาแล้ว เขาต้องสับคนคนนั้นให้เป็นชิ้น ๆ แน่ เขาคลั่งรักน้องสาวจะตายไป!ฟู้ว!คนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหันไปมองหวังหยวน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความยกย่อง!ตอนที่ทำตามแผนนี้ พี่หยวนก็อธิบายให้ฟังหากอีจั้งหงปรากฏตัวขึ้นเขาจะพูดยั่วโมโหนางให้นางรีบพุ่งไปข้างหน้าตามลำพัง แล้วปล่อยให้เอ้อหู่จัดการ!หากครั้งแรกล้มเหลว อย่าใจร้อน และให้รอโอกาส
บรรยากาศนิ่งเงียบไปชั่วขณะ!รวมถึงเซี่ยซานหู่ หัวหน้าทั้งห้าพูดคุยกันสักพักและให้คนคนหนึ่งมาเจรจาชายวัยกลางคนที่มีหนวดเครารุงรังกล่าวว่า "ไอหนุ่มแซ่หวัง ปล่อยรองหัวหน้าของเราไป เราจะปล่อยให้เจ้าออกจากค่ายอีเซี่ยนเทียน และในอนาคตเราสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้ารำคาญใจอีก!"นี่คือจินเฉียนสู่ หัวหน้าคนที่สี่ของค่ายอีเซี่ยนเทียน มีหน้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการเงินของค่ายอีเซี่ยนเทียนเขาเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาหัวหน้าสามอันดับแรกหวังหยวนจิ้ปากเบา ๆ : "สิ่งที่พวกโจรอย่างพวกเจ้าพูดเชื่อได้งั้นรึ?"จินเฉียนสู่โกรธเล็กน้อย “ไปถามในระยะหลายร้อยลี้นี้ได้เลย ไม่มีใครไม่รู้ว่าค่ายอีเซี่ยนเทียนของพวกเรามีชื่อเสียงที่ดีรักษาคำพูด พูดกันตามตรง เราบอกว่าเราเก็บค่าผ่านทางก็เป็นอันได้แล้ว เก็บค่าผ่านทางแล้วเรียบร้อยไม่มีอะไร ถือซะว่ารื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!”หวังหยวนแค่หายใจเบา ๆ "แล้ววันนี้สำหรับข้าล่ะ?"จินเฉียนสู่สำลัก "นั่นเป็นเพราะเจ้าทำร้ายพี่เฮยซินหู่ และหัวหน้าของเราสนิทกับเขา!"หวังหยวนหัวเราะเยาะอีกครั้ง "แล้วคุณหนูใหญ่ตระกูลหูล่ะ?"จินเฉียนสู่หน้าแดงเล็กน้อย "นั่นเป็นเพราะคุ
“ให้ตายเถอะ ใจกล้ามากจากไหน แค่คนผ่านทางจะมาปล้นพวกโจรอย่างเราเนี้ยนะ!”“ให้เงินเขาไม่ได้เด็ดขาด ถ้าข่าวแพร่ออกไป ค่ายอีเซี่ยนเทียนของเรายังจะมีหน้าอยู่อีกหรือ?”พวกโจรโกรธมากปล้นมาหลายปี มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ปล้นคนผ่านทาง มีคนผ่านทางที่ไหนมาปล้นพวกเขากัน?ปล่อยให้พวกเจ้าผ่านไปก็ดีแล้ว แต่เจ้ากลับมาปล้นพวกเรา ไม่มีจรรยาบัญเลยรึไง?“ทุกคนหุบปากไปเลย!”หลังจากตวาดโจรให้เงียบลง จินเฉียนสู่ก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "พวกเราจ่ายเงินให้เจ้าหนึ่งพันตำลึง จะถือเป็นค่าชดเชยของเจ้า โปรดปล่อยเจ้ารองหัวหน้าของเราไป!"“หนึ่งพันตำลึง!”หวังหยวนหัวเราะเยาะ "รองหัวหน้าของเจ้ามีค่าหนึ่งพันตำลึงทองงั้นหรือ?""มารดาเจ้าเถอะ!"จินเฉียนสู่อยากจะด่าสาป เขาพูดถึงเงิน แต่บัณฑิตใจร้ายคนนี้บอกว่าทอง แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธต่อหน้าผู้คน ไม่เช่นนั้นก็เหมือนเป็นการบอกว่ารองหัวหน้าไร้ค่า รองหัวหน้าอารมณ์รุนแรง ในอนาคตเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแน่ จำยอมกำหมัดและโค้งคำนับทำความเคารพเท่านั้น“ท่านบัณฑิต แม้ว่าค่ายอีเซี่ยนเทียนจะมีชื่อเสียงมาก แต่ก็มีคนกินอยู่ห้าถึงหกร้อยคน นอกจากนี้ซื้อขายก็ไม่สะดวก ในปีนี้เราใช้
“ใครมาช่วยข้า!”ตอนที่หูเมิ่งอิ๋งออกไปนางยังสับสนอยู่ แต่ในไม่ช้านางก็ตระหนักว่าไม่ใช่พี่เหลิ่งอวิ๋นที่ลงมือระหว่างทางลงภูเขาพร้อมกับพวกโจร ได้ยินพวกโจรพวกนี้สาปแช่งชายแซ่หวังจากหมู่บ้านต้าหวังมาตลอดทางด่าขาว่าขี้ขลาดเหมือนหนู น่ารังเกียจ ใจดำ เขามันโหดร้ายยิ่งกว่าโจร ด่าเขาว่าไอหนุ่มไร้ยางอาย!ในเขณะเดียวกัน จากข้อมูลที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่ได้ฟังก็พอะติดปะต่อได้ หวังหยวนสั่งให้คนสิบคนเอาชนะกลุ่มโจรด้วยการซุ่มโจมตี จับตัวหงเยี่ยและเรียกค่าไถ่เป็นทองคำ!ตลอดทางลงจากภูเขา นางนึกภาพการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย!ตอนนั้นคิดแค่ว่าเขาเป็นบัณฑิตรูปหล่อ ที่ค้นพบวิธีลับในการทำสบู่ต่อมาข้าได้ยินว่าเขาได้ทำลายล้างค่ายซานหู่ จึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านทั้งบุ๊นและบู๊!แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะสามารถจัดการกับโจรอีเซี่ยนเทียนได้ กล้าข่มขู่พวกโจรด้วย!อย่างไรก็ตาม ในเมืองได้ปล่อยข่าวชื่อเสียงของเขาออกไปอย่างเลวร้าย!เมื่อรวมข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกัน ดูเหมือนว่าชายแปลกหน้าคนนี้อยู่ในม่านหมอก!มันยากที่จะมองทะลุปรุโปร่ง!เมื่อมาถึงเชิงเขา ก็ไม่มีโจรมาขวางทางนาง หูเมิ่งอิ๋งเดินไ
จินเฉียนสู่ขมวดคิ้ว "ปล่อยคนซะ เงินก็ให้เจ้าแล้ว ถ้าเราไม่ปล่อยรองหัวหน้าของเราไป เจ้าออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!"หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้าส่งคนยี่สิบคนมาติดตามนาง หากออกจากเขตค่ายอีเซี่ยนเทียนได้ประมาณสามสิบลี้ ข้าจะปล่อยนางไป แบบนี้ทุกคนก็จะปลอดภัย!""ดี!"หลังจากปรึกษากับคนอื่นแล้ว จินเฉียนสู่ก็เลือกผู้ชายยี่สิบคน!ให้กลุ่มนี้เตรียมออกเดินทาง!"เดี๋ยวก่อน!"หูเมิ่งอิ๋งที่เงียบมาตลอด ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "คนรับใช้ตระกูลหูที่มากับข้าอยู่ที่ไหน"โจรคนหนึ่งลุกขึ้นยืน "คนของเจ้าทั้งหมดสิบคน สังหารพวกเขาไปแล้วห้าคน ศพของพวกเขาถูกโยนทิ้งที่หน้าผาแล้ว คนบาดเจ็บสี่คนกำลังพักฟื้นอยู่บนเขา!"ดวงตาของหูเทียนแดงก่ำ ทั้งสิบคนเติบโตมาด้วยกัน ไม่ใช่พี่น้องก็เหมือนเป็นพี่น้องกัน!หูเมิ่งอิ๋งผู้งดงามพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม "นำศพผู้ตายกลับมา และส่งพวกเขาไปที่จวนตระกูลหูที่เมืองฝูพร้อมกับผู้บาดเจ็บ หากเจ้าส่งคนไปที่นั่น และรับจดหมายที่ข้าเขียนให้เจ้าไปมอบให้ เจ้ารับเงินหนึ่งพันตำลึงไป"พวกโจรก็สงสัยหากส่งศพห้าศพและผู้บาดเจ็บสี่คนกลับไป จะได้เงินหนึ่งพันตำลึง!นี่คงเป็นกับดัก ผู้หญิงคนนี้เกลียดพวกเขา
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น
หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง
แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้
ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม
ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย