แชร์

บทที่ 176

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ให้ตายเถอะ ใจกล้ามากจากไหน แค่คนผ่านทางจะมาปล้นพวกโจรอย่างเราเนี้ยนะ!”

“ให้เงินเขาไม่ได้เด็ดขาด ถ้าข่าวแพร่ออกไป ค่ายอีเซี่ยนเทียนของเรายังจะมีหน้าอยู่อีกหรือ?”

พวกโจรโกรธมาก

ปล้นมาหลายปี มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ปล้นคนผ่านทาง มีคนผ่านทางที่ไหนมาปล้นพวกเขากัน?

ปล่อยให้พวกเจ้าผ่านไปก็ดีแล้ว แต่เจ้ากลับมาปล้นพวกเรา ไม่มีจรรยาบัญเลยรึไง?

“ทุกคนหุบปากไปเลย!”

หลังจากตวาดโจรให้เงียบลง จินเฉียนสู่ก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "พวกเราจ่ายเงินให้เจ้าหนึ่งพันตำลึง จะถือเป็นค่าชดเชยของเจ้า โปรดปล่อยเจ้ารองหัวหน้าของเราไป!"

“หนึ่งพันตำลึง!”

หวังหยวนหัวเราะเยาะ "รองหัวหน้าของเจ้ามีค่าหนึ่งพันตำลึงทองงั้นหรือ?"

"มารดาเจ้าเถอะ!"

จินเฉียนสู่อยากจะด่าสาป เขาพูดถึงเงิน แต่บัณฑิตใจร้ายคนนี้บอกว่าทอง แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธต่อหน้าผู้คน ไม่เช่นนั้นก็เหมือนเป็นการบอกว่ารองหัวหน้าไร้ค่า รองหัวหน้าอารมณ์รุนแรง ในอนาคตเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแน่ จำยอมกำหมัดและโค้งคำนับทำความเคารพเท่านั้น

“ท่านบัณฑิต แม้ว่าค่ายอีเซี่ยนเทียนจะมีชื่อเสียงมาก แต่ก็มีคนกินอยู่ห้าถึงหกร้อยคน นอกจากนี้ซื้อขายก็ไม่สะดวก ในปีนี้เราใช้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 177

    “ใครมาช่วยข้า!”ตอนที่หูเมิ่งอิ๋งออกไปนางยังสับสนอยู่ แต่ในไม่ช้านางก็ตระหนักว่าไม่ใช่พี่เหลิ่งอวิ๋นที่ลงมือระหว่างทางลงภูเขาพร้อมกับพวกโจร ได้ยินพวกโจรพวกนี้สาปแช่งชายแซ่หวังจากหมู่บ้านต้าหวังมาตลอดทางด่าขาว่าขี้ขลาดเหมือนหนู น่ารังเกียจ ใจดำ เขามันโหดร้ายยิ่งกว่าโจร ด่าเขาว่าไอหนุ่มไร้ยางอาย!ในเขณะเดียวกัน จากข้อมูลที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่ได้ฟังก็พอะติดปะต่อได้ หวังหยวนสั่งให้คนสิบคนเอาชนะกลุ่มโจรด้วยการซุ่มโจมตี จับตัวหงเยี่ยและเรียกค่าไถ่เป็นทองคำ!ตลอดทางลงจากภูเขา นางนึกภาพการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย!ตอนนั้นคิดแค่ว่าเขาเป็นบัณฑิตรูปหล่อ ที่ค้นพบวิธีลับในการทำสบู่ต่อมาข้าได้ยินว่าเขาได้ทำลายล้างค่ายซานหู่ จึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านทั้งบุ๊นและบู๊!แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะสามารถจัดการกับโจรอีเซี่ยนเทียนได้ กล้าข่มขู่พวกโจรด้วย!อย่างไรก็ตาม ในเมืองได้ปล่อยข่าวชื่อเสียงของเขาออกไปอย่างเลวร้าย!เมื่อรวมข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกัน ดูเหมือนว่าชายแปลกหน้าคนนี้อยู่ในม่านหมอก!มันยากที่จะมองทะลุปรุโปร่ง!เมื่อมาถึงเชิงเขา ก็ไม่มีโจรมาขวางทางนาง หูเมิ่งอิ๋งเดินไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 178

    จินเฉียนสู่ขมวดคิ้ว "ปล่อยคนซะ เงินก็ให้เจ้าแล้ว ถ้าเราไม่ปล่อยรองหัวหน้าของเราไป เจ้าออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!"หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้าส่งคนยี่สิบคนมาติดตามนาง หากออกจากเขตค่ายอีเซี่ยนเทียนได้ประมาณสามสิบลี้ ข้าจะปล่อยนางไป แบบนี้ทุกคนก็จะปลอดภัย!""ดี!"หลังจากปรึกษากับคนอื่นแล้ว จินเฉียนสู่ก็เลือกผู้ชายยี่สิบคน!ให้กลุ่มนี้เตรียมออกเดินทาง!"เดี๋ยวก่อน!"หูเมิ่งอิ๋งที่เงียบมาตลอด ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "คนรับใช้ตระกูลหูที่มากับข้าอยู่ที่ไหน"โจรคนหนึ่งลุกขึ้นยืน "คนของเจ้าทั้งหมดสิบคน สังหารพวกเขาไปแล้วห้าคน ศพของพวกเขาถูกโยนทิ้งที่หน้าผาแล้ว คนบาดเจ็บสี่คนกำลังพักฟื้นอยู่บนเขา!"ดวงตาของหูเทียนแดงก่ำ ทั้งสิบคนเติบโตมาด้วยกัน ไม่ใช่พี่น้องก็เหมือนเป็นพี่น้องกัน!หูเมิ่งอิ๋งผู้งดงามพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม "นำศพผู้ตายกลับมา และส่งพวกเขาไปที่จวนตระกูลหูที่เมืองฝูพร้อมกับผู้บาดเจ็บ หากเจ้าส่งคนไปที่นั่น และรับจดหมายที่ข้าเขียนให้เจ้าไปมอบให้ เจ้ารับเงินหนึ่งพันตำลึงไป"พวกโจรก็สงสัยหากส่งศพห้าศพและผู้บาดเจ็บสี่คนกลับไป จะได้เงินหนึ่งพันตำลึง!นี่คงเป็นกับดัก ผู้หญิงคนนี้เกลียดพวกเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 179

    ในชาติที่แล้วได้ดูถ่ายทอดสด มีสาวสวยมากมายเหลือเกินที่แต่งหน้าปกปิดใบหน้า แล้วพวกเธอก็ทำให้คนอื่นสับสน แต่เมื่อใบหน้าที่แท้จริงถูกเปิดเผย พวกเขาก็ทำให้คนกลัวจนวิ่งหนี!แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าหูเมิ่งอิ๋งสวย แต่เขาก็จะไม่คิดส่งเดชจนกว่าจะเห็นหน้านางแม้ว่าข้าจะถูกชน แต่ก็ยังรู้สึกสงบเหมือนน้ำได้!ปัง!ทันใดนั้นล้อก็ชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ และรถก็เขย่าอย่างแรง ร่างของหูเมิ่งอิ๋งเซมาชน มือนางปัดโดนผ้าคลุมหน้าแล้วซบไปในอ้อมแขนของหวังหยวนอีกครั้ง“โอ๊ะ...คุณหนูหู ไม่เป็นไรใช่ไหม?”หวังหยวนตกใจ เขาจับเอวนางอย่างประหม่า และช่วยประคองนางลุกขึ้นภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้น รูปหน้าอ่อนโยน ดวงตากลมโตน่ารัก คางเรียวได้รูป และแก้มกลมที่นุ่มเนียนเหมือนทารก เป็นใบหน้าที่ใสบริสุทธิ์และมีเสน่ห์เหมือนตัวร้ายที่สวยที่สุดในละครชาติก่อน ที่ถูกฆ่าตายเหลือเพียงชื่อเท่านั้น!ดวงตาช่างสวยงาม น่าสงสาร และไร้เดียงสา!"ไม่เป็นไร!"ร่างกายบอบบางของหูเมิ่งอิ๋งสั่นเทา นางลุกขึ้นนั่งตัวตรงและสวมผ้าคลุมอีกครั้งหวังหยวนถามอย่างสงสัย "ทำไมคุณหนูหูถึงสวมผ้าคลุมหน้า ไม่เปิดเผยใบหน้าให้คนอื่นเห็น?"หูเมิ่งอิ๋งยิ้มอย่างเศ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 180

    "ธุระอะไร? มีธุระอะไรก็มาหาข้านี่!"เอ้อหู่ที่เพิ่งหลับตาพูดอย่างไม่ไยดี "ไม่เห็นรึไวว่าพี่หยวนเพิ่งเข้าไปในรถ และกำลังนอนอยู่กับคุณหนูหู ถ้าเจ้ารบกวนพวกเขาตอนนี้ เจ้านี่มันไม่เข้าใจอะไรเลย!"ในรถม้า ใบหน้างดงามหูเมิ่งอิ๋งกลายเป็นสีแดงก่ำด้วยความเขินอาย เจ้าโง่คนนี้พูดอะไรที่ไม่ควรพูดจริง ๆ!ขึ้นรถไปนอนกับนางหมายความว่าอย่างไร ทั้งสองคนนอนแยกกัน ไม่ได้อยู่ข้างกันสักหน่อย!หงเยี่ยเริ่มโกรธมากขึ้น เขามองไปที่ด้านข้างของเอ้อหู่ และในที่สุดก็อดไม่ไหวอีกต่อไป "ข้าอยากถ่ายเบา ให้หาเจ้า ให้เจ้าช่วยได้รึไง ไสหัวไปเลยไป!""อะแฮ่ม!"เอ้อหู่หน้าแดง “โจรสาวคนนี้พูดจาไม่ชัดเจน ถ้าบอกว่าจะไปฉี่ ข้าจะบอกให้เจ้าหาข้าทำไม ข้า หวังพั่วหลู่เป็นคนซื่อสัตย์และเที่ยงตรง ข้าจะทำเรื่องน่าละอายเช่นนี้ได้อย่างไร!อุ้บ คิก...ทุกคนที่ยังไม่ได้หลับก็หัวเราะออกมา!หูเมิ่งอิ๋งหน้าบูดบึ้งลงจากรถม้า "ข้าจะไปช่วยนาง!"“แก้เชือกรอบข้อเท้าของนางเท่านั้น!”หวังหยวนก็ลงจากรถม้า และนำหน้าไม้ขงเบ้งขึ้นสายเตรียมพร้อม“ข้าไปถ่ายเบา เจ้าตามข้ามาทำไม เจ้าหน้าด้านขนาดนั้นเลยเหรอ”เชือกที่เท้าของนางถูกมัดไว้ แต่มือขอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 181

    หวังหยวนดึงจุกถุงน้ำออก “ล้างมือ!”“อ๊ะ ขอบคุณคุณชาย!”หูเมิ่งอิ๋งรู้สึกเขินอายและพึงพอใจ นางยื่นมือขาวเนียนนุ่มออกไป แล้วเริ่มล้างด้วยน้ำคุณชายคนนี้เข้าใจผู้หญิงจริง ๆผู้หญิงรักความสะอาด นางอยากล้างมือมานานแล้ว แต่กลัวโดนตำหนิว่าใช้น้ำเปลือง!ทั้งสองกลับขึ้นไปบนรถม้า!ต้าหู่ที่กำลังเฝ้ายามถอนหายใจด้วยความโล่งอกหงเยี่ยบ่นพึมพำ “เจ้าโจรบ้า หากเจ้ากล้าแย่งพี่สะใภ้ของข้าไปจากข้า ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าไม่ช้าก็เร็ว!”กรอด!ในรถม้า หวังหยวนกัดฟันกำหมัดแน่น นึกอยากจะรีบออกไปตีก้นแม่โจรสาวหูเมิ่งอิ๋งหน้าแดงและพูดว่า “คุณชายอย่าฟังเรื่องไร้สาระของนาง!”“พักผ่อนเถอะ!”ในค่ำคืนอันเงียบสงบ ทั้งสองจมดิ่งสู่ห้วงนิทรากลางดึกอากาศหนาวจัด ทั้งสองคนที่กำลังนอนหนาว เหน็บเบียดเสียดกันโดยไม่รู้ตัวในตอนเช้า ทั้งสองเปลี่ยนจากเบียดกันเป็นกอดกัน ร่างกายแนบชิดเพื่อใฝ่หาความอบอุ่น“อ๊ะ!”หวังหยวนตื่นขึ้นมาเห็นโฉมสะคราญในอ้อมแขน หัวใจของเขาเต้นแรง ค่อย ๆ ปล่อยมือ ขยับตัวออกไป ก่อนลงจากรถม้า แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกเฮ้อ!ในรถม้า หูเมิ่งอิ๋งถอนหายใจยาว ยกมือขึ้นปิดใบหน้างามอันร้อนผ่าวของตัว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 182

    หงเยี่ยตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันพูดว่า “เช่นนั้นก็กลับไปตัดต้นไม้ เพื่อสร้างโล่ขนาดใหญ่ เราจะให้คนสร้างโล่ขึ้นมาเอง เพื่อเตรียมตัวรับมือเจ้าคนสกุลหวังนั่น”...“พี่หยวน!”ด้านนอกรถม้า หวังซื่อไห่ขมวดคิ้วพูดว่า “เราปล่อยแม่โจรสาวไปแล้ว แล้วขากลับเราจะทำอย่างไร? นางต้องไม่ปล่อยเราไปแน่นอน!”ทุกคนกังวลเล็กน้อย!พูดตามตรง แม้ว่าจะเอาชนะอีเซี่ยนเทียนได้ในครั้งนี้ และยังได้รับผลประโยชน์มากมายด้วย!แต่ทุกคนรู้ถึงอันตราย เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านมาอีกเป็นครั้งที่สอง!ขากลับต้องทำอย่างไร!หวังหยวนเลิกคิ้ว แล้วพูดว่า “เจ้าต้องจำไว้ว่าการปฏิบัติตามข้อตกลง คือการสั่งสมชื่อเสียงของตน หากเจ้าต้องการรักษาชื่อเสียงที่ดีของตนเอง เจ้าต้องปฏิบัติตามข้อตกลง แม้ว่าเจ้าจะทำข้อตกลงกับศัตรูก็ตาม หากเจ้าปฏิบัติตามข้อตกลงกับศัตรู ก็จะไม่มีใครสงสัยเรื่องความน่าเชื่อถือของเจ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจคือความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นรากฐานของชีวิต!”ทุกคนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ!ดวงตาคู่งามของหูเมิ่งอิ๋งฉายแววประหลาดใจ นางไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะศึกษาวิถีของนักธุรกิจด้วย“ส่วนเรื่องขากลับนั้น!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 183

    เมื่อถ่ายทอดเรื่องราวในสาส์นกราบทูล จ้าวเว่ยหมินได้ตัดทอนเนื้อหาไปมาก เช่นเรื่องสามร้อยปีแห่งราชวงศ์เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อส่งสาส์นกราบทูลนี้ แต่เขากลัวว่ามันจะเกี่ยวข้องกับหวังหยวน เขาจึงตัดเนื้อความนั้นทิ้งไป!แต่เนื้อหาที่เหลือก็ยังทำให้ทั้งราชสำนักตกใจ!“ข้อเสียของแผ่นดินอยู่ที่การผนวกดินแดน และความเหลื่อมล้ำของชนชั้นทางสังคม ขุนนางและชนชั้นสูงมีพื้นที่หลายพัน หลายแสนไร่ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เสียภาษี”“สามัญชนที่ยากจนมีที่ดินเพาะปลูกสามถึงห้าไร่ บางคนกลายเป็นผู้เช่า แต่ต้องเสียภาษีหนัก ทำให้พวกเขาไม่มีอาหารกิน ไม่มีแม้เสื้อผ้าคลุมร่างกาย ไม่มีเงินเลี้ยงดูในวัยชรา และไม่มีเงินรักษาอาการป่วยของตน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป แผ่นดินจะตกอยู่ในอันตราย”“การเก็บภาษีไม่มีอะไรมากไปกว่าวิธีการหาเงิน หัวใจสำคัญอยู่ที่ว่าใครมีเงิน คนจนควรได้รับการยกเว้นภาษี หรือจ่ายภาษีน้อยลง...”เจ้ากระทรวงหกคนมาถึง ถือสาส์นกราบทูลด้วยมือที่สั่นเทา และแอบด่าจ้าวเว่ยหมินในใจ ไม่รู้ว่าหาเรื่องใส่ตัวหรือเปล่าหลังจากนั้นไม่นาน เสนาบดีฝ่ายซ้ายและเสนาบดีฝ่ายขวาก็มาถึงหยางเฟิ่งกั๋วเปิดอ่าน รูม่านตาของเขาห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 184

    หลังจากอ่านข้อความที่ตัดตอนมาแล้ว ฮ่องเต้ซิงหลงก็ลุกขึ้นเดินไปรอบ ๆ โถงหย่างซิน!จากนั้นข้าก็อ่านข้อความที่ตัดตอนมาอีกครั้ง และเริ่มเดินในโถงหย่างซินอีกครั้ง!เพื่อให้สามารถแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งใหญ่ได้ ฮ่องเต้ซิงหลงมีความพิเศษ ในด้านพรสวรรค์และความสามารถหลังจากได้รับการศึกษาเพื่อเป็นฮ่องเต้แล้ว วิสัยทัศน์ของพระองค์ก็กว้างไกลมากกว่าเจ้ากระทรวง ในคณะเจ้ากระทรวงจัดสรรที่ดินทำกิน ขุนนางและชนชั้นสูงต่างก็ต้องจ่ายภาษี สามารถพลิกฟื้นต้าเย่ได้จริง!แต่เขารู้ว่าจ้าวเว่ยหมินไม่มีพรสวรรค์เช่นนั้น ถึงขนาดคิดแผนการใหญ่เช่นนี้ได้!ใครเป็นคนสั่งสอนเขา หรือว่าจะเป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อหวังหยวน จากสาส์นกราบทูลนั้นเด็กหนุ่มจะมีความเข้าใจลึกซึ้งเช่นนี้ได้อย่างไร ต้องมีปรมาจารย์อยู่เบื้องหลังเขาเป็นแน่!แต่แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะดี พร้อมดำเนินการได้ แต่สถานการณ์โดยรวมควรมุ่งเน้นไปที่เสถียรภาพ!เสนาบดีทั้งสองคนซ้ายและขวา และเจ้ากระทรวงทั้งหกก็กำลังสองจิตสองใจ!พวกเขาไม่มีใครอยู่ตามลำพัง เบื้องหลังมีครอบครัวนับหมื่นคนไม่มีใครเสียสละได้ถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมเฉือนเนื้อครอบครัวออก เพื่อเสียสละให้อาณาจัก

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status