“ใครมาช่วยข้า!”ตอนที่หูเมิ่งอิ๋งออกไปนางยังสับสนอยู่ แต่ในไม่ช้านางก็ตระหนักว่าไม่ใช่พี่เหลิ่งอวิ๋นที่ลงมือระหว่างทางลงภูเขาพร้อมกับพวกโจร ได้ยินพวกโจรพวกนี้สาปแช่งชายแซ่หวังจากหมู่บ้านต้าหวังมาตลอดทางด่าขาว่าขี้ขลาดเหมือนหนู น่ารังเกียจ ใจดำ เขามันโหดร้ายยิ่งกว่าโจร ด่าเขาว่าไอหนุ่มไร้ยางอาย!ในเขณะเดียวกัน จากข้อมูลที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่ได้ฟังก็พอะติดปะต่อได้ หวังหยวนสั่งให้คนสิบคนเอาชนะกลุ่มโจรด้วยการซุ่มโจมตี จับตัวหงเยี่ยและเรียกค่าไถ่เป็นทองคำ!ตลอดทางลงจากภูเขา นางนึกภาพการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย!ตอนนั้นคิดแค่ว่าเขาเป็นบัณฑิตรูปหล่อ ที่ค้นพบวิธีลับในการทำสบู่ต่อมาข้าได้ยินว่าเขาได้ทำลายล้างค่ายซานหู่ จึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านทั้งบุ๊นและบู๊!แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะสามารถจัดการกับโจรอีเซี่ยนเทียนได้ กล้าข่มขู่พวกโจรด้วย!อย่างไรก็ตาม ในเมืองได้ปล่อยข่าวชื่อเสียงของเขาออกไปอย่างเลวร้าย!เมื่อรวมข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกัน ดูเหมือนว่าชายแปลกหน้าคนนี้อยู่ในม่านหมอก!มันยากที่จะมองทะลุปรุโปร่ง!เมื่อมาถึงเชิงเขา ก็ไม่มีโจรมาขวางทางนาง หูเมิ่งอิ๋งเดินไ
จินเฉียนสู่ขมวดคิ้ว "ปล่อยคนซะ เงินก็ให้เจ้าแล้ว ถ้าเราไม่ปล่อยรองหัวหน้าของเราไป เจ้าออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!"หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้าส่งคนยี่สิบคนมาติดตามนาง หากออกจากเขตค่ายอีเซี่ยนเทียนได้ประมาณสามสิบลี้ ข้าจะปล่อยนางไป แบบนี้ทุกคนก็จะปลอดภัย!""ดี!"หลังจากปรึกษากับคนอื่นแล้ว จินเฉียนสู่ก็เลือกผู้ชายยี่สิบคน!ให้กลุ่มนี้เตรียมออกเดินทาง!"เดี๋ยวก่อน!"หูเมิ่งอิ๋งที่เงียบมาตลอด ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "คนรับใช้ตระกูลหูที่มากับข้าอยู่ที่ไหน"โจรคนหนึ่งลุกขึ้นยืน "คนของเจ้าทั้งหมดสิบคน สังหารพวกเขาไปแล้วห้าคน ศพของพวกเขาถูกโยนทิ้งที่หน้าผาแล้ว คนบาดเจ็บสี่คนกำลังพักฟื้นอยู่บนเขา!"ดวงตาของหูเทียนแดงก่ำ ทั้งสิบคนเติบโตมาด้วยกัน ไม่ใช่พี่น้องก็เหมือนเป็นพี่น้องกัน!หูเมิ่งอิ๋งผู้งดงามพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม "นำศพผู้ตายกลับมา และส่งพวกเขาไปที่จวนตระกูลหูที่เมืองฝูพร้อมกับผู้บาดเจ็บ หากเจ้าส่งคนไปที่นั่น และรับจดหมายที่ข้าเขียนให้เจ้าไปมอบให้ เจ้ารับเงินหนึ่งพันตำลึงไป"พวกโจรก็สงสัยหากส่งศพห้าศพและผู้บาดเจ็บสี่คนกลับไป จะได้เงินหนึ่งพันตำลึง!นี่คงเป็นกับดัก ผู้หญิงคนนี้เกลียดพวกเขา
ในชาติที่แล้วได้ดูถ่ายทอดสด มีสาวสวยมากมายเหลือเกินที่แต่งหน้าปกปิดใบหน้า แล้วพวกเธอก็ทำให้คนอื่นสับสน แต่เมื่อใบหน้าที่แท้จริงถูกเปิดเผย พวกเขาก็ทำให้คนกลัวจนวิ่งหนี!แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าหูเมิ่งอิ๋งสวย แต่เขาก็จะไม่คิดส่งเดชจนกว่าจะเห็นหน้านางแม้ว่าข้าจะถูกชน แต่ก็ยังรู้สึกสงบเหมือนน้ำได้!ปัง!ทันใดนั้นล้อก็ชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ และรถก็เขย่าอย่างแรง ร่างของหูเมิ่งอิ๋งเซมาชน มือนางปัดโดนผ้าคลุมหน้าแล้วซบไปในอ้อมแขนของหวังหยวนอีกครั้ง“โอ๊ะ...คุณหนูหู ไม่เป็นไรใช่ไหม?”หวังหยวนตกใจ เขาจับเอวนางอย่างประหม่า และช่วยประคองนางลุกขึ้นภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้น รูปหน้าอ่อนโยน ดวงตากลมโตน่ารัก คางเรียวได้รูป และแก้มกลมที่นุ่มเนียนเหมือนทารก เป็นใบหน้าที่ใสบริสุทธิ์และมีเสน่ห์เหมือนตัวร้ายที่สวยที่สุดในละครชาติก่อน ที่ถูกฆ่าตายเหลือเพียงชื่อเท่านั้น!ดวงตาช่างสวยงาม น่าสงสาร และไร้เดียงสา!"ไม่เป็นไร!"ร่างกายบอบบางของหูเมิ่งอิ๋งสั่นเทา นางลุกขึ้นนั่งตัวตรงและสวมผ้าคลุมอีกครั้งหวังหยวนถามอย่างสงสัย "ทำไมคุณหนูหูถึงสวมผ้าคลุมหน้า ไม่เปิดเผยใบหน้าให้คนอื่นเห็น?"หูเมิ่งอิ๋งยิ้มอย่างเศ
"ธุระอะไร? มีธุระอะไรก็มาหาข้านี่!"เอ้อหู่ที่เพิ่งหลับตาพูดอย่างไม่ไยดี "ไม่เห็นรึไวว่าพี่หยวนเพิ่งเข้าไปในรถ และกำลังนอนอยู่กับคุณหนูหู ถ้าเจ้ารบกวนพวกเขาตอนนี้ เจ้านี่มันไม่เข้าใจอะไรเลย!"ในรถม้า ใบหน้างดงามหูเมิ่งอิ๋งกลายเป็นสีแดงก่ำด้วยความเขินอาย เจ้าโง่คนนี้พูดอะไรที่ไม่ควรพูดจริง ๆ!ขึ้นรถไปนอนกับนางหมายความว่าอย่างไร ทั้งสองคนนอนแยกกัน ไม่ได้อยู่ข้างกันสักหน่อย!หงเยี่ยเริ่มโกรธมากขึ้น เขามองไปที่ด้านข้างของเอ้อหู่ และในที่สุดก็อดไม่ไหวอีกต่อไป "ข้าอยากถ่ายเบา ให้หาเจ้า ให้เจ้าช่วยได้รึไง ไสหัวไปเลยไป!""อะแฮ่ม!"เอ้อหู่หน้าแดง “โจรสาวคนนี้พูดจาไม่ชัดเจน ถ้าบอกว่าจะไปฉี่ ข้าจะบอกให้เจ้าหาข้าทำไม ข้า หวังพั่วหลู่เป็นคนซื่อสัตย์และเที่ยงตรง ข้าจะทำเรื่องน่าละอายเช่นนี้ได้อย่างไร!อุ้บ คิก...ทุกคนที่ยังไม่ได้หลับก็หัวเราะออกมา!หูเมิ่งอิ๋งหน้าบูดบึ้งลงจากรถม้า "ข้าจะไปช่วยนาง!"“แก้เชือกรอบข้อเท้าของนางเท่านั้น!”หวังหยวนก็ลงจากรถม้า และนำหน้าไม้ขงเบ้งขึ้นสายเตรียมพร้อม“ข้าไปถ่ายเบา เจ้าตามข้ามาทำไม เจ้าหน้าด้านขนาดนั้นเลยเหรอ”เชือกที่เท้าของนางถูกมัดไว้ แต่มือขอ
หวังหยวนดึงจุกถุงน้ำออก “ล้างมือ!”“อ๊ะ ขอบคุณคุณชาย!”หูเมิ่งอิ๋งรู้สึกเขินอายและพึงพอใจ นางยื่นมือขาวเนียนนุ่มออกไป แล้วเริ่มล้างด้วยน้ำคุณชายคนนี้เข้าใจผู้หญิงจริง ๆผู้หญิงรักความสะอาด นางอยากล้างมือมานานแล้ว แต่กลัวโดนตำหนิว่าใช้น้ำเปลือง!ทั้งสองกลับขึ้นไปบนรถม้า!ต้าหู่ที่กำลังเฝ้ายามถอนหายใจด้วยความโล่งอกหงเยี่ยบ่นพึมพำ “เจ้าโจรบ้า หากเจ้ากล้าแย่งพี่สะใภ้ของข้าไปจากข้า ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าไม่ช้าก็เร็ว!”กรอด!ในรถม้า หวังหยวนกัดฟันกำหมัดแน่น นึกอยากจะรีบออกไปตีก้นแม่โจรสาวหูเมิ่งอิ๋งหน้าแดงและพูดว่า “คุณชายอย่าฟังเรื่องไร้สาระของนาง!”“พักผ่อนเถอะ!”ในค่ำคืนอันเงียบสงบ ทั้งสองจมดิ่งสู่ห้วงนิทรากลางดึกอากาศหนาวจัด ทั้งสองคนที่กำลังนอนหนาว เหน็บเบียดเสียดกันโดยไม่รู้ตัวในตอนเช้า ทั้งสองเปลี่ยนจากเบียดกันเป็นกอดกัน ร่างกายแนบชิดเพื่อใฝ่หาความอบอุ่น“อ๊ะ!”หวังหยวนตื่นขึ้นมาเห็นโฉมสะคราญในอ้อมแขน หัวใจของเขาเต้นแรง ค่อย ๆ ปล่อยมือ ขยับตัวออกไป ก่อนลงจากรถม้า แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกเฮ้อ!ในรถม้า หูเมิ่งอิ๋งถอนหายใจยาว ยกมือขึ้นปิดใบหน้างามอันร้อนผ่าวของตัว
หงเยี่ยตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันพูดว่า “เช่นนั้นก็กลับไปตัดต้นไม้ เพื่อสร้างโล่ขนาดใหญ่ เราจะให้คนสร้างโล่ขึ้นมาเอง เพื่อเตรียมตัวรับมือเจ้าคนสกุลหวังนั่น”...“พี่หยวน!”ด้านนอกรถม้า หวังซื่อไห่ขมวดคิ้วพูดว่า “เราปล่อยแม่โจรสาวไปแล้ว แล้วขากลับเราจะทำอย่างไร? นางต้องไม่ปล่อยเราไปแน่นอน!”ทุกคนกังวลเล็กน้อย!พูดตามตรง แม้ว่าจะเอาชนะอีเซี่ยนเทียนได้ในครั้งนี้ และยังได้รับผลประโยชน์มากมายด้วย!แต่ทุกคนรู้ถึงอันตราย เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านมาอีกเป็นครั้งที่สอง!ขากลับต้องทำอย่างไร!หวังหยวนเลิกคิ้ว แล้วพูดว่า “เจ้าต้องจำไว้ว่าการปฏิบัติตามข้อตกลง คือการสั่งสมชื่อเสียงของตน หากเจ้าต้องการรักษาชื่อเสียงที่ดีของตนเอง เจ้าต้องปฏิบัติตามข้อตกลง แม้ว่าเจ้าจะทำข้อตกลงกับศัตรูก็ตาม หากเจ้าปฏิบัติตามข้อตกลงกับศัตรู ก็จะไม่มีใครสงสัยเรื่องความน่าเชื่อถือของเจ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจคือความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นรากฐานของชีวิต!”ทุกคนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ!ดวงตาคู่งามของหูเมิ่งอิ๋งฉายแววประหลาดใจ นางไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะศึกษาวิถีของนักธุรกิจด้วย“ส่วนเรื่องขากลับนั้น!”
เมื่อถ่ายทอดเรื่องราวในสาส์นกราบทูล จ้าวเว่ยหมินได้ตัดทอนเนื้อหาไปมาก เช่นเรื่องสามร้อยปีแห่งราชวงศ์เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อส่งสาส์นกราบทูลนี้ แต่เขากลัวว่ามันจะเกี่ยวข้องกับหวังหยวน เขาจึงตัดเนื้อความนั้นทิ้งไป!แต่เนื้อหาที่เหลือก็ยังทำให้ทั้งราชสำนักตกใจ!“ข้อเสียของแผ่นดินอยู่ที่การผนวกดินแดน และความเหลื่อมล้ำของชนชั้นทางสังคม ขุนนางและชนชั้นสูงมีพื้นที่หลายพัน หลายแสนไร่ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เสียภาษี”“สามัญชนที่ยากจนมีที่ดินเพาะปลูกสามถึงห้าไร่ บางคนกลายเป็นผู้เช่า แต่ต้องเสียภาษีหนัก ทำให้พวกเขาไม่มีอาหารกิน ไม่มีแม้เสื้อผ้าคลุมร่างกาย ไม่มีเงินเลี้ยงดูในวัยชรา และไม่มีเงินรักษาอาการป่วยของตน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป แผ่นดินจะตกอยู่ในอันตราย”“การเก็บภาษีไม่มีอะไรมากไปกว่าวิธีการหาเงิน หัวใจสำคัญอยู่ที่ว่าใครมีเงิน คนจนควรได้รับการยกเว้นภาษี หรือจ่ายภาษีน้อยลง...”เจ้ากระทรวงหกคนมาถึง ถือสาส์นกราบทูลด้วยมือที่สั่นเทา และแอบด่าจ้าวเว่ยหมินในใจ ไม่รู้ว่าหาเรื่องใส่ตัวหรือเปล่าหลังจากนั้นไม่นาน เสนาบดีฝ่ายซ้ายและเสนาบดีฝ่ายขวาก็มาถึงหยางเฟิ่งกั๋วเปิดอ่าน รูม่านตาของเขาห
หลังจากอ่านข้อความที่ตัดตอนมาแล้ว ฮ่องเต้ซิงหลงก็ลุกขึ้นเดินไปรอบ ๆ โถงหย่างซิน!จากนั้นข้าก็อ่านข้อความที่ตัดตอนมาอีกครั้ง และเริ่มเดินในโถงหย่างซินอีกครั้ง!เพื่อให้สามารถแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งใหญ่ได้ ฮ่องเต้ซิงหลงมีความพิเศษ ในด้านพรสวรรค์และความสามารถหลังจากได้รับการศึกษาเพื่อเป็นฮ่องเต้แล้ว วิสัยทัศน์ของพระองค์ก็กว้างไกลมากกว่าเจ้ากระทรวง ในคณะเจ้ากระทรวงจัดสรรที่ดินทำกิน ขุนนางและชนชั้นสูงต่างก็ต้องจ่ายภาษี สามารถพลิกฟื้นต้าเย่ได้จริง!แต่เขารู้ว่าจ้าวเว่ยหมินไม่มีพรสวรรค์เช่นนั้น ถึงขนาดคิดแผนการใหญ่เช่นนี้ได้!ใครเป็นคนสั่งสอนเขา หรือว่าจะเป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อหวังหยวน จากสาส์นกราบทูลนั้นเด็กหนุ่มจะมีความเข้าใจลึกซึ้งเช่นนี้ได้อย่างไร ต้องมีปรมาจารย์อยู่เบื้องหลังเขาเป็นแน่!แต่แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะดี พร้อมดำเนินการได้ แต่สถานการณ์โดยรวมควรมุ่งเน้นไปที่เสถียรภาพ!เสนาบดีทั้งสองคนซ้ายและขวา และเจ้ากระทรวงทั้งหกก็กำลังสองจิตสองใจ!พวกเขาไม่มีใครอยู่ตามลำพัง เบื้องหลังมีครอบครัวนับหมื่นคนไม่มีใครเสียสละได้ถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมเฉือนเนื้อครอบครัวออก เพื่อเสียสละให้อาณาจัก