โจรสองร้อยคนถือโล่ไม้ตามหงเยี่ยวิ่งนำไปที่กำแพงหิน!ท่าทีของหวังหยวนและพรรคพวกเปลี่ยนไปทันทีพวกโจรบุกมาแบบนี้ พวกเขามีหน้าไม้ขงเบ้ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยมากนัก!แต่ทันใดนั้นเอง เซี่ยซานหู่ก็ตะโกนขึ้นว่า "รองหัวหน้า พวกเจ้าระวังด้วย อย่ารีบร้อนเกินไป ระวังเท้าของเจ้าด้วย ตอนที่พี่ชายข้าบุกเข้าไปโจมตีหมู่บ้านต้าหวัง เขาก็วางกับดักม้าและกับดักสัตว์ต่างๆ ไว้ด้วย ต้องระวังฝีเท้าให้ดี จะต้องมีการซุ่มโจมตีแน่!”กึก--หงเยี่ยที่วิ่งไปข้างหน้าหยุดกะทันหัน และจ้องไปที่พื้นอย่างระมัดระวัง แล้วก้าวไปข้างหน้าต่อ!โจรคนอื่น ๆ ตามมาด้วย เพราะกลัวว่าจะถูกบัณฑิตชั่วร้ายซุ่มโจมตี!หวังหยวนทั้งโกรธและขำมาก!ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม พวกเขาเคลื่อนย้ายหินและศพได้เท่านั้นไม่มีเวลาขุดกับดักม้าหรือวางกับดักหมี อีกอย่างเขาไม่ได้เอามันมาด้วยซ้ำ!เซี่ยซานหู่คนนี้เป็นทั้งตัวซวยและตัวนำโชคในคราวเดียวกันจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบไหนนี่สิ!"อ้าก!"โจรที่ก้าวเข้ามาทันใดนั้นก็ล้มลงกับพื้น และกรีดร้องออกมา!“มีกับดักหมีจริง ๆ เหรอ?”“ไอเลวนั้นช่างร้ายกาจจริง ๆ!”“มีการวางกับดักใต้ดินจริง ๆ ด้วย!”โจรท
“เจ้าพวกโจรชั่ว จำชื่อข้าไว้ ข้าชื่อหวังพั่วหลู่! พั่ว แปลว่าทำลาย และหลู่ ที่เป็นนักรบ เจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของหวังพั่วหลู่!”เอ้อหู่ถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้าง ดาบนั้นที่วาดผ่านผู้คน กลายเป็นแสงและเงาสองสายพาดผ่านไปไม่ว่าเขาจะวาดดาบไปที่ไหน ใบดาบที่ปะทะมาก็หัก มีคนตายเป็นศพและเลือดก็พุ่งเป็นสาย ไม่มีใครหยุดยั้งเขาได้มีอาวุธฟันใส่เขา แต่พวกมันทั้งหมดถูกชุดเกราะสีดำป้องกันเอาไว้!เพียงครู่เดียว โจรยี่สิบหรือสามสิบคนก็ถูกสังหารด้วยดาบของเขาโจรที่อยู่รอบตัวเขาหวาดกลัวมาก จนอดไม่ได้ที่จะถอยและหลบ!“ท่านสี่ ท่านห้า ท่านหก ท่านแปด และท่านสิบ ตามข้ามา!”เมื่อเห็นว่าโจรธรรมดาทั่วไปเอาชีวิตเสี่ยงแบบนี้ พวกเขาก้าวออกไปข้างหน้า หงเยี่ยก็หยิบดาบยาวขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง โดยไม่มีท่าทีขลาดกลัวเลยทั้งห้าคนเห็นดังนั้น พวกเขาก็รีบรุดไปข้างหน้าทันที!ยอดฝีมือทั้งหกคนร่วมมือกัน เอ้อหู่ก็เริ่มล่าถอยทีละก้าว!เพียงครู่เดียว เขาก็ถูกดาบ ขวาน และลูกธนูโจมตี เขาก็เซถอยไป!แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรและฟันตัดดาบยาวของหงเยี่ยอีกครั้ง เกือบจะฆ่านางได้ในดาบเดียวหงเยี่ยถอยกลับด้วยความหวา
พลังมหาศาลระเบิดออกมาจากใต้เท้าของนาง จนนางกระแทกล้มลงกับพื้นปึก!ร่างในชุดเกราะสีดำพุ่งเข้ามา ดาบยาวที่ส่องด้วยแสงเย็นวาบสาดมาและวางบนคอของนาง "อย่าขยับ!""อึก!"สัมผัสที่เย็นวาบและแหลมคมที่รู้สึกได้จากคอระหง ร่างบางของหงเยี่ยก็หยุดแข็งตัวอยู่กับที่นางมองลงไป ทันใดนั้นนางโกรธมากจนอยากเคี้ยวฟันมีไม้กระดานและมีหลุมลึกอยู่ในพื้นดิน และชายคนนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในหลุมนั้นคนชั่วแซ่หวังนั้นช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอายมาก เขาใช้คนซุ่มโจมตีจากที่นี่!เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาสามารถคำนวณได้อย่างถูกต้อง และยืนอยู่ตรงนี้ได้!กึก!โจรทั้งหมดหยุดโจมตี ทำอะไรไม่ถูก!นี่คือน้องสาวแท้ ๆ ของหัวหน้า ใครกล้าลงมือให้นางขาดเป็นท่อนกันถ้าหัวหน้ากลับมาแล้ว เขาต้องสับคนคนนั้นให้เป็นชิ้น ๆ แน่ เขาคลั่งรักน้องสาวจะตายไป!ฟู้ว!คนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหันไปมองหวังหยวน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความยกย่อง!ตอนที่ทำตามแผนนี้ พี่หยวนก็อธิบายให้ฟังหากอีจั้งหงปรากฏตัวขึ้นเขาจะพูดยั่วโมโหนางให้นางรีบพุ่งไปข้างหน้าตามลำพัง แล้วปล่อยให้เอ้อหู่จัดการ!หากครั้งแรกล้มเหลว อย่าใจร้อน และให้รอโอกาส
บรรยากาศนิ่งเงียบไปชั่วขณะ!รวมถึงเซี่ยซานหู่ หัวหน้าทั้งห้าพูดคุยกันสักพักและให้คนคนหนึ่งมาเจรจาชายวัยกลางคนที่มีหนวดเครารุงรังกล่าวว่า "ไอหนุ่มแซ่หวัง ปล่อยรองหัวหน้าของเราไป เราจะปล่อยให้เจ้าออกจากค่ายอีเซี่ยนเทียน และในอนาคตเราสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้ารำคาญใจอีก!"นี่คือจินเฉียนสู่ หัวหน้าคนที่สี่ของค่ายอีเซี่ยนเทียน มีหน้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการเงินของค่ายอีเซี่ยนเทียนเขาเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาหัวหน้าสามอันดับแรกหวังหยวนจิ้ปากเบา ๆ : "สิ่งที่พวกโจรอย่างพวกเจ้าพูดเชื่อได้งั้นรึ?"จินเฉียนสู่โกรธเล็กน้อย “ไปถามในระยะหลายร้อยลี้นี้ได้เลย ไม่มีใครไม่รู้ว่าค่ายอีเซี่ยนเทียนของพวกเรามีชื่อเสียงที่ดีรักษาคำพูด พูดกันตามตรง เราบอกว่าเราเก็บค่าผ่านทางก็เป็นอันได้แล้ว เก็บค่าผ่านทางแล้วเรียบร้อยไม่มีอะไร ถือซะว่ารื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!”หวังหยวนแค่หายใจเบา ๆ "แล้ววันนี้สำหรับข้าล่ะ?"จินเฉียนสู่สำลัก "นั่นเป็นเพราะเจ้าทำร้ายพี่เฮยซินหู่ และหัวหน้าของเราสนิทกับเขา!"หวังหยวนหัวเราะเยาะอีกครั้ง "แล้วคุณหนูใหญ่ตระกูลหูล่ะ?"จินเฉียนสู่หน้าแดงเล็กน้อย "นั่นเป็นเพราะคุ
“ให้ตายเถอะ ใจกล้ามากจากไหน แค่คนผ่านทางจะมาปล้นพวกโจรอย่างเราเนี้ยนะ!”“ให้เงินเขาไม่ได้เด็ดขาด ถ้าข่าวแพร่ออกไป ค่ายอีเซี่ยนเทียนของเรายังจะมีหน้าอยู่อีกหรือ?”พวกโจรโกรธมากปล้นมาหลายปี มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ปล้นคนผ่านทาง มีคนผ่านทางที่ไหนมาปล้นพวกเขากัน?ปล่อยให้พวกเจ้าผ่านไปก็ดีแล้ว แต่เจ้ากลับมาปล้นพวกเรา ไม่มีจรรยาบัญเลยรึไง?“ทุกคนหุบปากไปเลย!”หลังจากตวาดโจรให้เงียบลง จินเฉียนสู่ก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "พวกเราจ่ายเงินให้เจ้าหนึ่งพันตำลึง จะถือเป็นค่าชดเชยของเจ้า โปรดปล่อยเจ้ารองหัวหน้าของเราไป!"“หนึ่งพันตำลึง!”หวังหยวนหัวเราะเยาะ "รองหัวหน้าของเจ้ามีค่าหนึ่งพันตำลึงทองงั้นหรือ?""มารดาเจ้าเถอะ!"จินเฉียนสู่อยากจะด่าสาป เขาพูดถึงเงิน แต่บัณฑิตใจร้ายคนนี้บอกว่าทอง แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธต่อหน้าผู้คน ไม่เช่นนั้นก็เหมือนเป็นการบอกว่ารองหัวหน้าไร้ค่า รองหัวหน้าอารมณ์รุนแรง ในอนาคตเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแน่ จำยอมกำหมัดและโค้งคำนับทำความเคารพเท่านั้น“ท่านบัณฑิต แม้ว่าค่ายอีเซี่ยนเทียนจะมีชื่อเสียงมาก แต่ก็มีคนกินอยู่ห้าถึงหกร้อยคน นอกจากนี้ซื้อขายก็ไม่สะดวก ในปีนี้เราใช้
“ใครมาช่วยข้า!”ตอนที่หูเมิ่งอิ๋งออกไปนางยังสับสนอยู่ แต่ในไม่ช้านางก็ตระหนักว่าไม่ใช่พี่เหลิ่งอวิ๋นที่ลงมือระหว่างทางลงภูเขาพร้อมกับพวกโจร ได้ยินพวกโจรพวกนี้สาปแช่งชายแซ่หวังจากหมู่บ้านต้าหวังมาตลอดทางด่าขาว่าขี้ขลาดเหมือนหนู น่ารังเกียจ ใจดำ เขามันโหดร้ายยิ่งกว่าโจร ด่าเขาว่าไอหนุ่มไร้ยางอาย!ในเขณะเดียวกัน จากข้อมูลที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่ได้ฟังก็พอะติดปะต่อได้ หวังหยวนสั่งให้คนสิบคนเอาชนะกลุ่มโจรด้วยการซุ่มโจมตี จับตัวหงเยี่ยและเรียกค่าไถ่เป็นทองคำ!ตลอดทางลงจากภูเขา นางนึกภาพการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย!ตอนนั้นคิดแค่ว่าเขาเป็นบัณฑิตรูปหล่อ ที่ค้นพบวิธีลับในการทำสบู่ต่อมาข้าได้ยินว่าเขาได้ทำลายล้างค่ายซานหู่ จึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านทั้งบุ๊นและบู๊!แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะสามารถจัดการกับโจรอีเซี่ยนเทียนได้ กล้าข่มขู่พวกโจรด้วย!อย่างไรก็ตาม ในเมืองได้ปล่อยข่าวชื่อเสียงของเขาออกไปอย่างเลวร้าย!เมื่อรวมข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกัน ดูเหมือนว่าชายแปลกหน้าคนนี้อยู่ในม่านหมอก!มันยากที่จะมองทะลุปรุโปร่ง!เมื่อมาถึงเชิงเขา ก็ไม่มีโจรมาขวางทางนาง หูเมิ่งอิ๋งเดินไ
จินเฉียนสู่ขมวดคิ้ว "ปล่อยคนซะ เงินก็ให้เจ้าแล้ว ถ้าเราไม่ปล่อยรองหัวหน้าของเราไป เจ้าออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!"หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้าส่งคนยี่สิบคนมาติดตามนาง หากออกจากเขตค่ายอีเซี่ยนเทียนได้ประมาณสามสิบลี้ ข้าจะปล่อยนางไป แบบนี้ทุกคนก็จะปลอดภัย!""ดี!"หลังจากปรึกษากับคนอื่นแล้ว จินเฉียนสู่ก็เลือกผู้ชายยี่สิบคน!ให้กลุ่มนี้เตรียมออกเดินทาง!"เดี๋ยวก่อน!"หูเมิ่งอิ๋งที่เงียบมาตลอด ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "คนรับใช้ตระกูลหูที่มากับข้าอยู่ที่ไหน"โจรคนหนึ่งลุกขึ้นยืน "คนของเจ้าทั้งหมดสิบคน สังหารพวกเขาไปแล้วห้าคน ศพของพวกเขาถูกโยนทิ้งที่หน้าผาแล้ว คนบาดเจ็บสี่คนกำลังพักฟื้นอยู่บนเขา!"ดวงตาของหูเทียนแดงก่ำ ทั้งสิบคนเติบโตมาด้วยกัน ไม่ใช่พี่น้องก็เหมือนเป็นพี่น้องกัน!หูเมิ่งอิ๋งผู้งดงามพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม "นำศพผู้ตายกลับมา และส่งพวกเขาไปที่จวนตระกูลหูที่เมืองฝูพร้อมกับผู้บาดเจ็บ หากเจ้าส่งคนไปที่นั่น และรับจดหมายที่ข้าเขียนให้เจ้าไปมอบให้ เจ้ารับเงินหนึ่งพันตำลึงไป"พวกโจรก็สงสัยหากส่งศพห้าศพและผู้บาดเจ็บสี่คนกลับไป จะได้เงินหนึ่งพันตำลึง!นี่คงเป็นกับดัก ผู้หญิงคนนี้เกลียดพวกเขา
ในชาติที่แล้วได้ดูถ่ายทอดสด มีสาวสวยมากมายเหลือเกินที่แต่งหน้าปกปิดใบหน้า แล้วพวกเธอก็ทำให้คนอื่นสับสน แต่เมื่อใบหน้าที่แท้จริงถูกเปิดเผย พวกเขาก็ทำให้คนกลัวจนวิ่งหนี!แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าหูเมิ่งอิ๋งสวย แต่เขาก็จะไม่คิดส่งเดชจนกว่าจะเห็นหน้านางแม้ว่าข้าจะถูกชน แต่ก็ยังรู้สึกสงบเหมือนน้ำได้!ปัง!ทันใดนั้นล้อก็ชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ และรถก็เขย่าอย่างแรง ร่างของหูเมิ่งอิ๋งเซมาชน มือนางปัดโดนผ้าคลุมหน้าแล้วซบไปในอ้อมแขนของหวังหยวนอีกครั้ง“โอ๊ะ...คุณหนูหู ไม่เป็นไรใช่ไหม?”หวังหยวนตกใจ เขาจับเอวนางอย่างประหม่า และช่วยประคองนางลุกขึ้นภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้น รูปหน้าอ่อนโยน ดวงตากลมโตน่ารัก คางเรียวได้รูป และแก้มกลมที่นุ่มเนียนเหมือนทารก เป็นใบหน้าที่ใสบริสุทธิ์และมีเสน่ห์เหมือนตัวร้ายที่สวยที่สุดในละครชาติก่อน ที่ถูกฆ่าตายเหลือเพียงชื่อเท่านั้น!ดวงตาช่างสวยงาม น่าสงสาร และไร้เดียงสา!"ไม่เป็นไร!"ร่างกายบอบบางของหูเมิ่งอิ๋งสั่นเทา นางลุกขึ้นนั่งตัวตรงและสวมผ้าคลุมอีกครั้งหวังหยวนถามอย่างสงสัย "ทำไมคุณหนูหูถึงสวมผ้าคลุมหน้า ไม่เปิดเผยใบหน้าให้คนอื่นเห็น?"หูเมิ่งอิ๋งยิ้มอย่างเศ
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห