Share

บทที่ 1618

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะไม่ใช่เพื่อนกัน แต่หลังจากที่เกิดเรื่องราวหลายอย่างขึ้น ทั้งสองก็ได้กลายเป็นดั่งพี่น้องกันแล้ว

นับว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วก็มาสนิทกันภายหลัง

ดูจากสถานการณ์นี้แล้ว ทั้งสองคนกำลังจะเตรียมลงมือต่อสู้กันอีกครั้งอย่างชัดเจน

เช่นนั้นนางจะช่วยใครดี?

เป็นคำถามที่ทำให้รู้สึกยากลำบากใจจริง ๆ!

“แค่ก แค่ก”

ขณะที่ทุกคนกำลังอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เสียงไอแผ่วเบาก็ดังขึ้น จากนั้นผู้นำตระกูลเจิ้งแห่งไท่หยวนก็เดินเข้ามา แล้วมายืนตรงหน้าของทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว

“ท่านพ่อ! ท่านไม่ได้สั่งให้ข้ามาเชิญเขากลับไปหรอกหรือขอรับ?”

“เหตุใดท่านจึงมาด้วยตนเอง?”

“หรือว่าท่านกังวลว่าข้าจะทำภารกิจไม่สำเร็จ?”

เจิ้งอู๋หมิ่นยืนกอดอกพูดว่า “ข้าเพิ่งจะอธิบายเจตนาของข้าให้เขาฟังไปเมื่อครู่ หากวันนี้เขาไม่ติดตามเราไปด้วย ข้าก็จะไม่ยอมปล่อยให้ไปหรอกขอรับ!”

“อย่างมากก็แค่เราทั้งสองจะยื้อเวลาอยู่ที่นี่ไปเรื่อย ๆ!”

“แม้ว่าเขาจะมีปืนคาบศิลาอยู่ในมือ แต่ข้าก็ไม่เชื่อหรอกขอรับว่าเขาจะลงมือกับข้า!”

ไม่รู้ว่าเขาเอาความมั่นใจมาจากไหน

หวังหยวนกลอกตาใส่เขา

แต่ก็ไม่ได้โต้เถียงกับเจ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Pongprom
ยื้อจนงง พ่อคนแซ่เจิ้ง กลายเป็นแซ่เสวี่ย 555
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1619

    “นั่นก็เป็นเรื่องของพวกท่าน ข้าไม่คิดจะยุ่งเกี่ยว”“เอาเป็นว่าข้าได้แสดงความคิดออกไปหมดแล้ว ส่วนในอนาคตพวกท่านจะทำอย่างไรนั้น เป็นเรื่องของพวกท่านทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวข้องกับข้า”หวังหยวนยักไหล่อย่างไม่สนใจผู้นำตระกูลเจิ้งแห่งไท่หยวนที่อยู่ตรงหน้าเมื่อสักครู่นี้แท้จริงแล้วเขาได้เปลี่ยนความตั้งใจแล้ว แต่เขากลับสังเกตเห็นผู้นำตระกูลหวังแห่งหลานยาซ่อนตัวอยู่ที่หัวมุมถนนผู้คนจากแปดตระกูลใหญ่ไม่มีใครเป็นคนดี เขาขี้เกียจจะคบค้าสมาคมด้วย เกรงว่าจะนำหายนะมาสู่ตัวกลับไปใช้ชีวิตสุขสบายในโลกมนุษย์ยังดีเสียกว่าอย่างไรเสีย เรื่องราวในซานไว่ซานนั้นก็มีผู้คนจากเทียนไว่เทียนคอยถ่วงสมดุลอยู่ คนพวกนี้ล้วนเห็นแก่ตัว จะไม่มีวันยอมให้ใครทำลายความสมดุลนี้ได้“สหายน้อย เมื่อครู่เจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้...”“เราสามารถพูดคุยกันต่อได้...”ผู้นำตระกูลเจิ้งแห่งไท่หยวนรีบเอ่ยปากแต่หวังหยวนไม่ได้ให้โอกาสเขาพูดเลย เขาหันหลังจูงมือเสวี่ยเชียนหลงจากไปณ เทียนไว่เทียน ในห้องโถงใหญ่“ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ให้เกียรติท่านเลยสินะ?”เมื่อเสวี่ยโส่วจุนเห็นผู้นำตระกูลเจิ้งแห่งไท่หยวนที่หน้าตาหมองหม่นก็หัวเราะออกมา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1620

    “ท่านคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่นักหรืออย่างไร?”แม้ว่าทั้งสองจะกลายเป็นดั่งพี่น้องกันแล้ว แต่เจิ้งอู๋หมิ่นก็ยังคงมีท่าทีหยอกเย้าหวังหยวนทำหน้ามุ่ยใส่เขา จากนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกายเจิ้งอู๋หมิ่นมีฝีมือพอสมควร หากสามารถเข้าร่วมกับหมู่บ้านต้าหวังได้ ก็จะเป็นประโยชน์กับเขาในหลายด้าน!“ตัดสินใจแล้วจริงหรือว่าจะติดตามข้าไป?”“แล้วจะอธิบายกับบิดาของเจ้าอย่างไร?”หวังหยวนถามขึ้นอย่างช้า ๆเจิ้งอู๋หมิ่นหัวเราะออกมาและพูดว่า “เหตุผลที่ข้าติดตามท่านไปด้วยนั้น ก็ล้วนเป็นความตั้งใจของบิดาข้าทั้งสิ้น”“เขาเบื่อหน่ายกับชีวิตในเทียนไว่เทียนมานานแล้ว”“แต่เนื่องจากสถานะที่มีอยู่ รวมถึงภาระหน้าที่บนบ่า จึงไม่สามารถออกจากเทียนไว่เทียนได้โดยง่าย”“การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจส่งผลกระทบต่อส่วนรวมได้ แต่ข้ากับเขานั้นต่างกัน ข้าเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ฟ้ากว้างแผ่นดินใหญ่ อยากไปที่ไหนก็ไปได้ ไม่มีใครสามารถควบคุมข้าได้!”“ดังนั้นเขาจึงให้ข้ารีบตามท่านมา จากนั้นก็ติดตามท่านไปด้วย!”“ถือโอกาสเป็นการไปฝึกฝนในโลกมนุษย์”ขณะที่พูด เจิ้งอู๋หมิ่นก็เดินมาอยู่ตรงหน้าหวังหยวนและเสวี่ยเชียนหลง“เมื่อเป็นเช่นนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1621

    แม้ว่าหวังหยวนเพียงปรารถนาจะตั้งมั่นอยู่ในหมู่บ้านต้าหวัง และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคนรอบข้าง แต่ก็ไม่อาจทนดูความวุ่นวายในแผ่นดินได้บัดนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายในแผ่นดินที่เหล่าผู้มีอำนาจต่างผงาดขึ้น“พี่หยวน!”“เหตุใดฝ่ายเราจึงไม่ยกทัพในเวลานี้ล่ะขอรับ?”“ด้วยกำลังของเราในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นต้าเย่หรือต้าเป่ย ต่างก็ไม่กล้าเป็นศัตรูกับเรา!”“หากเราเพียงแค่ฉวยโอกาสนี้ เราก็สามารถขึ้นครองแผ่นดินได้!”“ดินแดนทั้งเก้าก็จะตกอยู่ในมือของเราทั้งหมด!”“จากนั้นจะหนุนให้ท่านเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ เพียงท่านรวมแผ่นดินได้ ข้าก็เชื่อว่าท่านจะทรงเป็นฮ่องเต้ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมอย่างแน่นอน และเหล่าราษฎรในแผ่นดินก็จะได้พบกับความสงบสุขที่โหยหามานาน!”ต้าหู่รีบเสนอคนอื่น ๆ ก็ต่างพากันเห็นด้วยในใจล้วนตื่นเต้นเป็นอย่างมากแม้ว่าเวลานี้พวกเขาจะได้รับเกียรติยศอันไม่มีที่สิ้นสุดและยังมีชื่อเสียงในดินแดนทั้งเก้าไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ!หากหวังหยวนสามารถขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ได้ พวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้าผู้ครองนคร มีความรุ่งเรืองและความมั่งคั่งที่ไม่มีวันสิ้นส

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1622

    เขารู้เรื่องราวต่าง ๆ ในดินแดนทั้งเก้าเป็นอย่างดีแม้แต่ภูเขาใดบ้างที่มีโจร เขาก็รู้อย่างชัดเจน!“วางใจเถิด”“แม้แต่เทียนไว่เทียน ข้ายังเข้าออกได้ตามใจชอบ ในสายตาของข้านั้น เหล่าโจรกระจอกทั้งหลายย่อมไม่สามารถทำอะไรได้เลย”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม ขณะเดินไปถึงประตูเพิ่งกลับมาถึงหมู่บ้านต้าหวัง ยังไม่ได้ทันได้ไปหาพวกหลี่ซื่อหานเพื่อบอกข่าวดีว่าเขากลับมาแล้ว ก็ถูกคนอื่นดึงตัวไปเสียก่อนอย่างไรก็ต้องไปดูสักหน่อยภายในบ้านหวังหยวนเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากในลานบ้าน“พี่สาว! ได้ยินว่าหวังหยวนกลับมาแล้ว ตอนนี้กำลังปรึกษาหารือกับทุกคนอยู่ คาดว่าอีกไม่นานก็จะมาหาเรา”“เราจะกลับไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวให้ดีกันก่อนหรือไม่”“กล่าวกันว่าสตรีนั้นแต่งตัวเพื่อให้คนที่ตนรักพอใจ สามีของเราเองก็จะกลับมาแล้ว แต่งตัวกันไม่เรียบร้อยเช่นนี้คงจะไม่ดีนักกระมัง?”ผู้พูดนั้นคือหวงเจียวเจียวนางเป็นคนรักอิสระและเรียบง่ายมาโดยตลอด ปกติแล้วไม่ใส่ใจในรายละเอียดมากนักแต่กลับมีความคิดที่ลึกซึ้งเช่นนี้จากนั้นก็ได้ยินเสียงของหลี่ซื่อหานดังขึ้น“ในใจของสามีกำลังคิดถึงข้า เรื่องนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1623

    หวงเจียวเจียวจงใจยืดเสียง นางใช้นิ้ววาดวงกลมที่หน้าอกของหวังหยวนอย่างไม่หยุดยั้ง ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“สามี!”“เช่นนั้นท่านควรจะคุยกับข้าให้ชัดเจนเถิด ว่าถ้าพวกเราทำผิด ท่านจะลงโทษพวกเราอย่างไร?”“หรือว่าจะลงโทษพวกเราบนเตียง?”ใบหน้าของหลี่ซื่อหานแดงก่ำขึ้นมาทันทีหูเมิ่งอิ๋งก็กระแอมอย่างเขินอายสองสามครั้งแม่สาวแสบคนนี้ช่างไม่รู้จักยั้งคิด พูดอะไรออกไปก็ไม่รู้!ถ้าหากมีคนเดินผ่านไปมาข้างนอก จะไม่น่าอับอายขายหน้าไปถึงบ้านเกิดหรือ?“แค่ก ๆ”“เจ้ามีเรื่องทะลึ่งอะไรอยู่ในหัวเล็ก ๆ นี้บ้าง?”“ถ้าไม่ติดว่าวันนี้ข้ามีเวลาน้อย ข้าจะสั่งสอนเจ้าเสียให้เข็ด!”“ให้เจ้ารู้จักว่าคำว่าสามีเป็นใหญ่ในบ้านหมายความว่าอย่างไร!”วินาทีต่อมาหวังหยวนก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา แล้วคว้าไปที่ใต้วงแขนของหวงเจียวเจียวหวงเจียวเจียวหลบไม่ทัน นางหัวเราะเสียงใสกังวาน นางกลัวการถูกจั๊กจี้มากที่สุด ซึ่งหวังหยวนก็รู้จุดอ่อนของนางดี จึงจงใจแกล้งนางเช่นนี้“โอ๊ยโอ๊ย รู้แล้วเจ้าค่ะว่าผิด”หวงเจียวเจียวรีบพูดพลางดิ้นหลบไปอีกด้านหนึ่ง ไม่กล้าไปยั่วโมโหหวังหยวนต่ออีก“เช่นนี้ก็พอได้”“ถ้าเจ้ายังก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1624

    หวังหยวนขมวดคิ้วพลางเอ่ยถามเขาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีใครในใต้หล้าที่มีความแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้?“ยังไม่แน่ชัดขอรับ...”“ทุกอย่างต้องรอให้เราเข้าไปในเมืองหลวงก่อน แล้วค่อยสืบสวนต่อไป”“ตอนนี้สถานการณ์วุ่นวายมาก ไม่ทราบว่าจะต้องให้ทหารเกราะดำมาคุ้มกันพวกเราดีหรือไม่ขอรับ?”“เผื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน”“หากเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในเมืองหลวง อย่างน้อยก็จะรับรองได้ว่าพวกเราสองคนจะหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย...”เกาเล่อเตือนด้วยสีหน้าจริงจังแต่หวังหยวนกลับขมวดคิ้ว ก่อนจะโบกมือ “ ยังไม่จำเป็นต้องเรียกพวกเขามา หากทหารการที่มีทหารเกราะดำอยู่ข้างกาย ความปลอดภัยก็จะเพิ่มขึ้นมากทีเดียว เกราะดำทั้งหมดออกจากหมู่บ้านต้าหวัง ก็จะทำให้การป้องกันที่นั่นอ่อนแอลง...”“นั่นจะทำให้ศัตรูฉวยโอกาสเข้าโจมตีได้ง่าย”“ที่บ้านยังมีคนอีกมากที่ต้องปกป้อง อีกทั้งตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่วุ่นวาย เรื่องเหล่านี้ให้เราสองคนจัดการเองเถอะ”“อย่างไรเสีย ข้าก็เคยอยู่ในเมืองหลวงต้าเย่มาระยะหนึ่งแล้ว คงจะไม่มีปัญหาอะไรมากนักหรอก”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจของหวังหยวนก็ยังไม่มั่นใจเพราะแม้ว่าคนของทั้งสองฝ่ายจะ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1625

    ไม่นานนัก ทั้งสองก็เข้ามาถึงในโรงน้ำชาลมโชย“นายท่าน เชิญด้านในขอรับ!”“พวกท่านจะพักหรือว่าจะรับประทานอาหารหรือขอรับ?”เด็กในร้านคนหนึ่งรีบเข้ามาถามด้วยความเคารพ“ไปบอกเจ้าของร้านให้ออกมาพบข้า”“นำสิ่งนี้ไปให้เขา ไม่ต้องพูดอะไรมาก เขาจะออกมาพบเอง”เกาเล่อหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้วส่งให้เด็กในร้าน จากนั้นก็รินชาหนึ่งแก้วก่อนจะส่งให้หวังหยวนเด็กในร้านไม่กล้ารอช้า รีบเดินไปทางด้านหลังร้านทันทีแม้ว่าโรงน้ำชาลมโชยจะไม่ใหญ่โตนัก แต่เรื่องจิปาถะในแต่ละวันก็ให้พวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเจ้าของร้านนั้นเป็นคนลึกลับ แทบจะซ่อนตัวอยู่ในห้องด้านหลังทุกวันและยังไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในห้องของเขา ราวกับว่ามีอะไรเป็นความลับอยู่ในนั้น“พี่หวัง เจ้าของร้านที่นี่เป็นคนของเรา เชื่อใจได้แน่นอน”“เราแค่ให้เขาช่วยสืบข่าวให้สักหน่อย อาจจะได้ข่าวที่เราต้องการก็ได้ขอรับ”เกาเล่อรีบเอ่ยขึ้นมาตอนนี้สมาชิกสายลับในเมืองหลวงถูกฆ่าตายหมดแล้ว เรื่องนี้ต้องสืบสวนให้กระจ่าง!ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมาไม่รู้จบ!ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะแบ่งแยกอำนาจสามฝ่าย แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1626

    “โรงน้ำชาลมโชยแห่งนี้ช่างหรูหรายิ่งนัก”“ไม่เพียงแต่มีคนเล่าเรื่องเท่านั้น แต่ข้าเพิ่งสังเกตเห็นว่าชั้นสองยังมีคนเล่นกู่ฉินด้วย คงจะมีนักปราชญ์และกวีมากมายที่ชอบมาที่นี่ใช่หรือไม่?”“เจ้าเลือกที่นี่เป็นฐานที่มั่น คิดได้อย่างรอบคอบจริง ๆ”“นักปราชญ์และกวีเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพวกคุยโว ถึงแม้ว่าในแต่ละวันจะเหมือนทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ถ้าหากมีคนมาหาเรื่องที่โรงน้ำชาลมโชย คนเหล่านี้ก็คงจะไม่นิ่งเฉย ข้าพูดถูกหรือไม่?”หวังหยวนมองสำรวจทุกสิ่งในโรงน้ำชาลมโชยไม่มีอะไรที่หลุดรอดสายตาของเขาไปได้เกาเล่อเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้เอ่ยคำใดหวังหยวนมอบหมายให้เขารับผิดดูแลเครือข่ายสายลับ เขาก็จะไม่ยอมให้สายลับเกิดความผิดพลาดใด ๆ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สมกับที่หวังหยวนไว้วางใจเขาหวังหยวนคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้ เรื่องนี้เขาจะไม่มีวันลืมขณะที่กำลังคุยกัน พนักงานก็พาพวกเขามาที่ห้องห้องหนึ่งด้านหลัง เมื่อพนักงานเคาะประตู ประตูก็เปิดออกช้า ๆแม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงที่มีแดดจ้า แต่ภายในห้องกลับมืดมิด และเนื่องจากคนที่อยู่ในห้องเปิดประตูไว้เพียงเล็กน้อย จึงมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในได้ช่างน่าลึกล

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status