แชร์

บทที่ 1625

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ไม่นานนัก ทั้งสองก็เข้ามาถึงในโรงน้ำชาลมโชย

“นายท่าน เชิญด้านในขอรับ!”

“พวกท่านจะพักหรือว่าจะรับประทานอาหารหรือขอรับ?”

เด็กในร้านคนหนึ่งรีบเข้ามาถามด้วยความเคารพ

“ไปบอกเจ้าของร้านให้ออกมาพบข้า”

“นำสิ่งนี้ไปให้เขา ไม่ต้องพูดอะไรมาก เขาจะออกมาพบเอง”

เกาเล่อหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้วส่งให้เด็กในร้าน จากนั้นก็รินชาหนึ่งแก้วก่อนจะส่งให้หวังหยวน

เด็กในร้านไม่กล้ารอช้า รีบเดินไปทางด้านหลังร้านทันที

แม้ว่าโรงน้ำชาลมโชยจะไม่ใหญ่โตนัก แต่เรื่องจิปาถะในแต่ละวันก็ให้พวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเจ้าของร้านนั้นเป็นคนลึกลับ แทบจะซ่อนตัวอยู่ในห้องด้านหลังทุกวัน

และยังไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในห้องของเขา ราวกับว่ามีอะไรเป็นความลับอยู่ในนั้น

“พี่หวัง เจ้าของร้านที่นี่เป็นคนของเรา เชื่อใจได้แน่นอน”

“เราแค่ให้เขาช่วยสืบข่าวให้สักหน่อย อาจจะได้ข่าวที่เราต้องการก็ได้ขอรับ”

เกาเล่อรีบเอ่ยขึ้นมา

ตอนนี้สมาชิกสายลับในเมืองหลวงถูกฆ่าตายหมดแล้ว เรื่องนี้ต้องสืบสวนให้กระจ่าง!

ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมาไม่รู้จบ!

ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะแบ่งแยกอำนาจสามฝ่าย แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1626

    “โรงน้ำชาลมโชยแห่งนี้ช่างหรูหรายิ่งนัก”“ไม่เพียงแต่มีคนเล่าเรื่องเท่านั้น แต่ข้าเพิ่งสังเกตเห็นว่าชั้นสองยังมีคนเล่นกู่ฉินด้วย คงจะมีนักปราชญ์และกวีมากมายที่ชอบมาที่นี่ใช่หรือไม่?”“เจ้าเลือกที่นี่เป็นฐานที่มั่น คิดได้อย่างรอบคอบจริง ๆ”“นักปราชญ์และกวีเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพวกคุยโว ถึงแม้ว่าในแต่ละวันจะเหมือนทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ถ้าหากมีคนมาหาเรื่องที่โรงน้ำชาลมโชย คนเหล่านี้ก็คงจะไม่นิ่งเฉย ข้าพูดถูกหรือไม่?”หวังหยวนมองสำรวจทุกสิ่งในโรงน้ำชาลมโชยไม่มีอะไรที่หลุดรอดสายตาของเขาไปได้เกาเล่อเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้เอ่ยคำใดหวังหยวนมอบหมายให้เขารับผิดดูแลเครือข่ายสายลับ เขาก็จะไม่ยอมให้สายลับเกิดความผิดพลาดใด ๆ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สมกับที่หวังหยวนไว้วางใจเขาหวังหยวนคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้ เรื่องนี้เขาจะไม่มีวันลืมขณะที่กำลังคุยกัน พนักงานก็พาพวกเขามาที่ห้องห้องหนึ่งด้านหลัง เมื่อพนักงานเคาะประตู ประตูก็เปิดออกช้า ๆแม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงที่มีแดดจ้า แต่ภายในห้องกลับมืดมิด และเนื่องจากคนที่อยู่ในห้องเปิดประตูไว้เพียงเล็กน้อย จึงมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในได้ช่างน่าลึกล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1627

    “เจ้าเล่ามาให้ละเอียดหน่อยเถิด เรื่องนี้คงจะมีที่มาที่ไป ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่มีข่าวลือมาก่อน แล้วก็เกิดเรื่องมากมายถึงเพียงนี้ใช่หรือไม่?”หวังหยวนรีบสอบถามสิ่งที่ผิดปกติย่อมมีเหตุผลเรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่คนอื่นไม่รู้ จึงได้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ แล้วก็เกิดเรื่องมากมายถึงเพียงนี้ชายวัยกลางคนเพิ่งสังเกตเห็นหวังหยวนที่นั่งอยู่ข้าง ๆเมื่อสักครู่นี้เขาสนใจแต่เกาเล่อ จนไม่ได้สังเกตว่ามีคนเดินตามเกาเล่อเข้ามาด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาตื่นตระหนกมากแค่ไหนเขาเผลอหันไปมองเกาเล่อ ราวกับจะถามว่าหวังหยวนเป็นใคร“ท่านผู้นี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ หวังหยวน คงจะเคยได้ยินชื่อกระมัง?”ชื่อเสียงติดฟ้า ดั่งเงาไม้ยืนยงเกาเล่อพูดเพียงประโยคเดียว ชายวัยกลางคนก็รู้ตัวตนของหวังหยวนแล้ว เขารีบก้มลงคุกเข่าต่อหน้าหวังหยวน แล้วพูดอย่างรีบร้อน “ปรากฏว่าเป็นท่านหวังมาด้วยตนเอง”“ขออภัยที่เสียมารยาทขอรับ!”หวังหยวนโบกมือคล้ายจะไม่ถือสา เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมา แล้วเริ่มเข้าสู่ประเด็น “พูดมาตามตรงเถิด เมื่อไม่นานมานี้ในเมืองหลวงเกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นหรือ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1628

    “ฝ่ายตรงข้ามลงมืออย่างรวดเร็วและเฉียบขาด สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อทั้งหมดถูกฆ่าตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเตรียมการมาเป็นอย่างดี”“หลังจากนั้น ข้าก็สืบหาอยู่เบื้องหลัง แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น ข้าจึงไม่กล้าประกาศให้รู้โดยทั่วกัน การเคลื่อนไหวของข้ายังไม่เพียงพอ จึงไม่พบเบาะแสใด...”“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเองขอรับ!”เกาเล่อไม่ได้เอ่ยคำใด สายตาของเขากลับมองไปที่หวังหยวนในตอนนี้ อำนาจการตัดสินใจทั้งการให้ชีวิตและความตาย ล้วนตกอยู่ในมือของหวังหยวน จะปล่อยให้ชายตรงหน้ามีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับหวังหยวนหวังหยวนโบกมือช้า ๆ “ไม่เป็นอะไร เจ้าทำถูกแล้ว เมื่อเราเปิดเผยฐานที่มั่นแห่งหนึ่งแล้ว ก็ไม่สามารถเปิดเผยฐานที่มั่นที่เหลือให้คนอื่นล่วงรู้ได้”“โรงน้ำชาลมโชยก็ถือว่าเป็นหูเป็นตาของข้าในเมืองหลวง ตอนนี้เจ้ามีความกดดันมากขึ้นแล้ว ข่าวสารทั้งหมดก็ต้องพึ่งพาเจ้าในการรวบรวม”“แต่จำไว้ว่า ถ้าหากพบว่าตัวเองถูกคนอื่นล่วงรู้เบาะแส ให้รีบออกจากเมืองหลวงทันที ข่าวสารนั้นสำคัญ แต่ชีวิตคนสำคัญกว่า!”คำพูดของหวังหยวนทำให้ชายวัยกลางคนตรงหน้าถึงกับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1629

    ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ที่หน้าประตูวังหลวงหวังหยวนยืนสบาย ๆ อยู่หน้าทหารรักษาเมืองสองสามนาย แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบว่า “รีบไปบอกฮองเฮาไป๋ว่าเพื่อนเก่าอย่างหวังหยวนมาขอพบ หวังว่านางจะให้เกียรติข้าด้วยการออกมาพบหน้าสักหน่อย”ทหารนายหนึ่งพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในวังหลวงถ้าหากเป็นคนอื่นกล้าเรียกชื่อของฮองเฮาในที่สาธารณะคงจะไม่รอดตัวไปง่าย ๆแต่ตอนนี้คนที่พูดคือหวังหยวน สถานะย่อมต่างออกไป พวกเขาเองก็รู้ว่าหวังหยวนเป็นใคร จึงยินดีเปิดทางให้ผ่านไปชั่วธูปหนึ่งดอกไหม้หมด ทหารนายนั้นก็พาหวังหยวนไปที่วังหลวงชั้นในเพียงไม่นาน หวังหยวนและไป๋เหยียนเฟยก็ได้พบกันเพียงแต่ว่าตอนนี้ไป๋เหยียนเฟยได้เปลี่ยนมาสวมชุดสีเหลือง ดูสง่างามเป็นอย่างมาก“ดูเหมือนว่าท่านเตรียมจะขึ้นครองราชย์แล้วใช่หรือไม่?”ทันทีที่ได้พบหน้า หวังหยวนก็ถามขึ้นมา“ขึ้นครองราชย์แล้วจะเป็นอย่างไร? ใครบอกว่าสตรีจะครองราชย์ไม่ได้?”ไป๋เหยียนเฟยถามกลับ น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยความน่าเกรงขามของผู้ที่มีอำนาจตอนนี้นางไม่เหมือนเดิมแล้วก่อนหน้านี้ในราชวงศ์ต้าเย่ยังมีจีหย่งคอยต่อต้านนาง แต่ตอนนี้ นางได้กำจัดคนที่ขวางทางนางทั้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1630

    “ถ้าหากท่านยังไม่บอกความจริงกับข้า ก็อย่าโทษข้าที่ทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ...”ท่าทีของหวังหยวนก็แข็งกร้าวขึ้นมาไม่น้อยแม้ว่าไป๋เหยียนเฟยจะไม่เหมือนเดิม แต่เขาก็ยังเป็นหวังหยวนคนเดิมไป๋เหยียนเฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นโบกมือให้ข้าราชบริพารและนางกำนัลที่อยู่ข้าง ๆ ออกไป แล้วจึงเดินมาหาหวังหยวน และกล่าวว่า “บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะยุ่งได้...” “เหมือนกับคนที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าเป่ย”“ที่ไป๋ชิงชางสามารถควบคุมราชวงศ์ต้าเป่ยได้อย่างรวดเร็ว ทุกคนก็รู้ว่าเบื้องหลังของเขาคืออะไร”“และตอนนี้ข้าก็เป็นเช่นนั้น ข้าเองก็มีกองกำลังที่ท่านไม่สามารถเทียบได้อยู่เบื้องหลังเช่นกัน”“พวกเขาไม่ได้ต้องการลงมือกับคนของท่าน และข้ากับพวกเขาก็ไม่ได้เจตนาที่จะเป็นศัตรูกับท่าน ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษคนของท่านที่ไม่รู้จักกาลเทศะ พวกเขายื่นมือมาไกลเกินไป จึงทำให้เกิดเรื่องราวเช่นนี้...”“พูดแค่นี้ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่น ข้าจะไม่พูดอะไรอีก...”“รู้มากเกินไปก็ไม่ดีกับท่านหรอก ดังนั้นท่านรีบออกไปได้ซะเถอะ”สิ่งที่ควรพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว ไป๋เหยียนเฟยถือว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้วหวังหยวนยืนนิ่งอึ้งอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1631

    ตกกลางคืน หวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ได้กลับมายังหมู่บ้านต้าหวังอีกครั้งในเวลานี้บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของหวังหยวนได้มารวมตัวกันในห้องประชุม สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หวังหยวน รอให้เขาสั่งการในเวลานี้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ไม่ใช่แค่ความขัดแย้งระหว่างสองอาณาจักรแม้แต่คนของเมืองหวงก็เริ่มเข้ามาแทรกแซง เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวเลวร้ายลงไปเพียงใด“เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้แล้ว...”“ตามสถานการณ์ตอนนี้ อีกไม่นานก็คงจะกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจ”“ทั่วทั้งแผ่นดินอาจจะเปลี่ยนแปลงไป สถานการณ์ที่มั่นคงของดินแดนทั้งเก้าก็จะถูกทำลาย เมื่อบ้านแตกสาแหรกขาด คนในบ้านก็ย่อมเดือดร้อนไปด้วย” “ถึงแม้ว่าเมืองหลิงจะเป็นดินแดนที่สงบสุขมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้สถานการณ์แตกต่างออกไป”“ข้าได้พูดคุยกับไป๋เหยียนเฟยแล้ว จึงได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เบื้องหลังไป๋เหยียนเฟยและต้าเย่ดูเหมือนจะมีผู้สนับสนุนยิ่งใหญ่คอยผลักดัน และเติมเชื้อเพลิงในกองไฟ”“แต่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครหรือมาจากไหน เรายังไม่มีทางรู้ได้” “แม้แต่สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็ถูกกำจัดไปหมดสิ้น คงจะมีความสัมพันธ์

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1632

    พวกเขารู้นิสัยของหวังหยวนดี การติดตามหวังหยวนย่อมไม่ผิดพลาด!การเคลื่อนไหวของเมืองหลิงก็ทำให้หลายคนตกใจณ วังหลวงของอาณาจักรต้าเป่ย ไป๋ชิงชางได้รับข่าวเช่นกัน จึงงล่วงรู้แผนการเกณฑ์ทหารของหวังหยวน“ฝ่าบาท ปรากฏว่าหวังหยวนไม่ได้ซื่อสัตย์อย่างที่พระองค์ตรัส ตอนนี้เขาเริ่มเกณฑ์ทหารแล้ว เห็นได้ชัดว่าเตรียมจะแย่งชิงดินแดนทั้งเก้า...”“เช่นนี้แล้ว เราไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับราชวงศ์ต้าเป่ยและเมืองหวงเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรับมือกับหวังหยวน!”“ในบรรดากองกำลังทั้งหลายเหล่านี้ หวังหยวนมีกองกำลังที่จัดการได้ยากที่สุด กระหม่อมได้ยินมาว่าตอนนี้เขาจะเกณฑ์ทหารเป็นจำนวนมาก แต่ชาวบ้านในท้องถิ่นกลับสนับสนุนเขาอย่างล้นหลาม”“นี่เป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างยิ่ง...”ไป๋ฝูซานกล่าวด้วยใบหน้าขมวดคิ้ว ในอดีตเมื่อถึงเวลาเกณฑ์ทหาร ชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ก็จะหลบเลี่ยง เพราะไม่มีใครอยากไปเข้าร่วมสมรภูมิรบ!แต่สถานการณ์ของหวังหยวนเป็นอย่างไร?กลับตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา!ผู้คนต่างก็แห่แหนกันไปสมัครทหารเพื่อเข้าร่วมกับหวังหยวน นี่เป็นเรื่องแปลกประหลาด!ไป๋ชิงชางครุ่นคิด สีหน้าของเขาอดเปลี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1633

    “ขอบพระทัยฝ่าบาท”“กระหม่อมจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อฝ่าบาทอย่างสุดชีวิต ไม่ให้ฝ่าบาทผิดหวังในความไว้วางใจพ่ะย่ะค่ะ!”ไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาโค้งคำนับไป๋ชิงชาง แล้วรีบรุดออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ยังมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการหลังจากที่เขากลับมาที่อาณาจักรต้าเป่ย ไม่เพียงแต่จะมีภารกิจทางการทหารมากมายที่ต้องจัดการ แต่ยังต้องระวังอาณาจักรเพื่อนบ้านมารุกรานอีกด้วยในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ ต้องระวังเป็นพิเศษ!อีกด้านหนึ่ง ที่หมู่บ้านต้าหวังหลังจากเกณฑ์ทหารมาครึ่งเดือน หวังหยวนก็มีทหารในมือสองแสนนายโดยมีต้าหู่และเอ้อหู่กำลังฝึกทหารเหล่านี้ และด้วยความช่วยเหลือของทหารเกราะดำ เพียงแค่ให้เวลาพวกเขาอีกสักระยะ ก็จะสามารถสร้างกองทัพพยัคฆ์ได้ในไม่ช้า“ทหารในมือเรามีเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหารเพิ่มอีก”“จำไว้ว่าต้องให้เงินอุดหนุนพวกเขามากขึ้น เพื่อให้พวกเขารู้ว่าการเป็นทหารนั้นดีอย่างไร”“ยิ่งไปกว่านั้น ต้องให้พวกเขารู้ว่าการเป็นทหารมีความหมายอย่างไรด้วย”“ข้าไม่ได้ริเริ่มต้องการครองแผ่นดินเอง เหตุผลที่ข้าเตรียมจะนำทัพออกรบก็เพื่อปกป้องแผ่นดินและประชาชน”ขณะนี้ ห

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status