Share

บทที่ 1630

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“ถ้าหากท่านยังไม่บอกความจริงกับข้า ก็อย่าโทษข้าที่ทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ...”

ท่าทีของหวังหยวนก็แข็งกร้าวขึ้นมาไม่น้อย

แม้ว่าไป๋เหยียนเฟยจะไม่เหมือนเดิม แต่เขาก็ยังเป็นหวังหยวนคนเดิม

ไป๋เหยียนเฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นโบกมือให้ข้าราชบริพารและนางกำนัลที่อยู่ข้าง ๆ ออกไป แล้วจึงเดินมาหาหวังหยวน และกล่าวว่า “บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะยุ่งได้...”

“เหมือนกับคนที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าเป่ย”

“ที่ไป๋ชิงชางสามารถควบคุมราชวงศ์ต้าเป่ยได้อย่างรวดเร็ว ทุกคนก็รู้ว่าเบื้องหลังของเขาคืออะไร”

“และตอนนี้ข้าก็เป็นเช่นนั้น ข้าเองก็มีกองกำลังที่ท่านไม่สามารถเทียบได้อยู่เบื้องหลังเช่นกัน”

“พวกเขาไม่ได้ต้องการลงมือกับคนของท่าน และข้ากับพวกเขาก็ไม่ได้เจตนาที่จะเป็นศัตรูกับท่าน ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษคนของท่านที่ไม่รู้จักกาลเทศะ พวกเขายื่นมือมาไกลเกินไป จึงทำให้เกิดเรื่องราวเช่นนี้...”

“พูดแค่นี้ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่น ข้าจะไม่พูดอะไรอีก...”

“รู้มากเกินไปก็ไม่ดีกับท่านหรอก ดังนั้นท่านรีบออกไปได้ซะเถอะ”

สิ่งที่ควรพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว ไป๋เหยียนเฟยถือว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว

หวังหยวนยืนนิ่งอึ้งอ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
โห 1630ตอนเพิ่งจะคิดได้รึไงไอ้... ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแล้ว ยิ่งเขียนยิ่งขัดใจ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1631

    ตกกลางคืน หวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ได้กลับมายังหมู่บ้านต้าหวังอีกครั้งในเวลานี้บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของหวังหยวนได้มารวมตัวกันในห้องประชุม สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หวังหยวน รอให้เขาสั่งการในเวลานี้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ไม่ใช่แค่ความขัดแย้งระหว่างสองอาณาจักรแม้แต่คนของเมืองหวงก็เริ่มเข้ามาแทรกแซง เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวเลวร้ายลงไปเพียงใด“เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้แล้ว...”“ตามสถานการณ์ตอนนี้ อีกไม่นานก็คงจะกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจ”“ทั่วทั้งแผ่นดินอาจจะเปลี่ยนแปลงไป สถานการณ์ที่มั่นคงของดินแดนทั้งเก้าก็จะถูกทำลาย เมื่อบ้านแตกสาแหรกขาด คนในบ้านก็ย่อมเดือดร้อนไปด้วย” “ถึงแม้ว่าเมืองหลิงจะเป็นดินแดนที่สงบสุขมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้สถานการณ์แตกต่างออกไป”“ข้าได้พูดคุยกับไป๋เหยียนเฟยแล้ว จึงได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เบื้องหลังไป๋เหยียนเฟยและต้าเย่ดูเหมือนจะมีผู้สนับสนุนยิ่งใหญ่คอยผลักดัน และเติมเชื้อเพลิงในกองไฟ”“แต่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครหรือมาจากไหน เรายังไม่มีทางรู้ได้” “แม้แต่สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็ถูกกำจัดไปหมดสิ้น คงจะมีความสัมพันธ์

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1632

    พวกเขารู้นิสัยของหวังหยวนดี การติดตามหวังหยวนย่อมไม่ผิดพลาด!การเคลื่อนไหวของเมืองหลิงก็ทำให้หลายคนตกใจณ วังหลวงของอาณาจักรต้าเป่ย ไป๋ชิงชางได้รับข่าวเช่นกัน จึงงล่วงรู้แผนการเกณฑ์ทหารของหวังหยวน“ฝ่าบาท ปรากฏว่าหวังหยวนไม่ได้ซื่อสัตย์อย่างที่พระองค์ตรัส ตอนนี้เขาเริ่มเกณฑ์ทหารแล้ว เห็นได้ชัดว่าเตรียมจะแย่งชิงดินแดนทั้งเก้า...”“เช่นนี้แล้ว เราไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับราชวงศ์ต้าเป่ยและเมืองหวงเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรับมือกับหวังหยวน!”“ในบรรดากองกำลังทั้งหลายเหล่านี้ หวังหยวนมีกองกำลังที่จัดการได้ยากที่สุด กระหม่อมได้ยินมาว่าตอนนี้เขาจะเกณฑ์ทหารเป็นจำนวนมาก แต่ชาวบ้านในท้องถิ่นกลับสนับสนุนเขาอย่างล้นหลาม”“นี่เป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างยิ่ง...”ไป๋ฝูซานกล่าวด้วยใบหน้าขมวดคิ้ว ในอดีตเมื่อถึงเวลาเกณฑ์ทหาร ชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ก็จะหลบเลี่ยง เพราะไม่มีใครอยากไปเข้าร่วมสมรภูมิรบ!แต่สถานการณ์ของหวังหยวนเป็นอย่างไร?กลับตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา!ผู้คนต่างก็แห่แหนกันไปสมัครทหารเพื่อเข้าร่วมกับหวังหยวน นี่เป็นเรื่องแปลกประหลาด!ไป๋ชิงชางครุ่นคิด สีหน้าของเขาอดเปลี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1633

    “ขอบพระทัยฝ่าบาท”“กระหม่อมจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อฝ่าบาทอย่างสุดชีวิต ไม่ให้ฝ่าบาทผิดหวังในความไว้วางใจพ่ะย่ะค่ะ!”ไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาโค้งคำนับไป๋ชิงชาง แล้วรีบรุดออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ยังมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการหลังจากที่เขากลับมาที่อาณาจักรต้าเป่ย ไม่เพียงแต่จะมีภารกิจทางการทหารมากมายที่ต้องจัดการ แต่ยังต้องระวังอาณาจักรเพื่อนบ้านมารุกรานอีกด้วยในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ ต้องระวังเป็นพิเศษ!อีกด้านหนึ่ง ที่หมู่บ้านต้าหวังหลังจากเกณฑ์ทหารมาครึ่งเดือน หวังหยวนก็มีทหารในมือสองแสนนายโดยมีต้าหู่และเอ้อหู่กำลังฝึกทหารเหล่านี้ และด้วยความช่วยเหลือของทหารเกราะดำ เพียงแค่ให้เวลาพวกเขาอีกสักระยะ ก็จะสามารถสร้างกองทัพพยัคฆ์ได้ในไม่ช้า“ทหารในมือเรามีเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหารเพิ่มอีก”“จำไว้ว่าต้องให้เงินอุดหนุนพวกเขามากขึ้น เพื่อให้พวกเขารู้ว่าการเป็นทหารนั้นดีอย่างไร”“ยิ่งไปกว่านั้น ต้องให้พวกเขารู้ว่าการเป็นทหารมีความหมายอย่างไรด้วย”“ข้าไม่ได้ริเริ่มต้องการครองแผ่นดินเอง เหตุผลที่ข้าเตรียมจะนำทัพออกรบก็เพื่อปกป้องแผ่นดินและประชาชน”ขณะนี้ ห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1634

    “สามี ท่านออกศึกอย่างสบายใจเถิด เรื่องภายในบ้านไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย”“จะไม่ทำให้ท่านต้องกังวลใจอย่างแน่นอน”หลี่ซื่อหานเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นเป็นอย่างดี เพียงแค่มองจากสีหน้าของหวังหยวน ก็มองออกแล้วว่าหวังหยวนคิดอะไรอยู่ทันใดนั้นเสียงหัวเราะสดใสก็ดังขึ้น หวงเจียวเจียวเดินมาจากด้านหลังของหวังหยวน เมื่อเห็นท่าทางหวานชื่นของทั้งสอง ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ปรากฏว่าพวกท่านแอบมาจู๋จี๋กันที่นี่เองงั้นหรือ?”“โอ้โฮ เจ้าช่างน่าสนใจจริง ๆ ไม่เจอกันหลายวัน ไม่คิดว่าเจ้าจะรู้จักใช้สำนวนเป็นแล้ว ใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าจู๋จี๋หมายถึงอะไร?”หวังหยวนและหลี่ซื่อหานหันมาพูดติดตลกใบหน้าของหวงเจียวเจียวแดงก่ำขึ้นมาในทันทีจริง ๆ แล้วนางแค่เรียนรู้และนำมาใช้ นางเพิ่งได้ยินคนอื่นพูดคำนี้จึงได้จำไว้ในใจหลังจากนั้นก็เห็นหวังหยวนและหลี่ซื่อหานกำลังพลอดรักกันอยู่ที่นี่ จึงได้พูดคำนี้ออกมา แต่ไม่คิดว่าหวังหยวนจะไม่เพียงแต่ไม่ชื่นชมนางเท่านั้น แถมยังมาพูดจาถากถางนางอีก น่าโมโหจริง ๆ!“ข้าไม่สน ท่านทำให้ข้าโกรธแล้ว”“เช่นนั้นท่านต้องสัญญากับข้าอย่างหนึ่ง”หวงเจียว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1635

    “หากเซียวฉู่ฉู่ไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับข้า ทุกสิ่งก็คงจะง่ายดาย”“ทว่าในเมืองหวงยังคงมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนอีกมากมาย ซึ่งล้วนต้องนำมาพิจารณาให้ถี่ถ้วน”“ข้าจึงไม่ได้ปรารถนาจะพาเจียวเจียวไปด้วย เกรงว่าหากวันหน้าต้องเผชิญหน้ากันจริง ๆ นางจะลำบากใจ...”หวังหยวนครุ่นคิดอย่างรอบคอบในเมื่อพวกนางล้วนเป็นภรรยาของเขาแล้ว เขาย่อมต้องดูแลเอาใจใส่อย่างดีเพียงแค่ให้พวกนางมีชีวิตที่สุขสบายยังไม่เพียงพอ แต่ยังต้องทำให้พวกนางไม่มีความเสียใจด้วย!“สามี เจียวเจียวเป็นคนที่มีเหตุผล ตอนนี้ข้าทราบความคิดของท่านแล้ว วันหน้าข้าจะค่อย ๆ พูดคุยกับนาง”“จากนั้นจะช่วยสามีสืบหาความในใจของนาง สามีเพียงแค่คิดเรื่องฝึกฝนไพร่พลและวางแผนยึดครองแผ่นดินก็พอ ส่วนเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของข้าเองเถิด”หลี่ซื่อหานซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของหวังหยวนพลางเอ่ยอย่างแผ่วเบาความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในดวงใจของหวังหยวนได้ภรรยาดีเช่นนี้ ยังจะปรารถนาสิ่งใดอีก...ทั้งสองซาบซ่านดื่มด่ำไปกับความรักอันหวานชื่นอยู่ชั่วครู่ เนื่องจากลมพัดแรงข้างนอก หวังหยวนจึงพาหลี่ซื่อหานกลับเข้าไปในห้องแต่เมื่อก้าวพ้นลานบ้าน ก็พบเสว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1636

    “ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าท่านเตรียมจะยกทัพแล้วหรือเจ้าคะ?”เสวี่ยเชียนหลงถามขึ้นทันใด“เจ้าคงไม่คิดจะติดตามไปด้วยกระมัง?”หวังหยวนถามออกไปโดยไม่รู้ตัวเขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบหวงเจียวเจียวอย่างไร ไม่คาดคิดว่าตอนนี้จะมีเสวี่ยเชียนหลงเพิ่มเข้ามาอีกคน เรื่องนี้ชักจะยุ่งยากแล้วหากปฏิเสธทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนคงไม่ยอมปล่อยตนเองไปง่าย ๆ โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว คงจะคิดหาวิธีต่าง ๆ นานามาโน้มน้าวเขาเป็นแน่แต่หากไม่สามารถอธิบายอย่างยุติธรรมได้ ก็เกรงว่าเรื่องราวจะยิ่งยุ่งยากแต่เมื่อยกทัพออกไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต บวกกับสถานการณ์ในสนามรบที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หากเผลอพลาดเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้คนที่อยู่ข้างกายได้รับบาดเจ็บนี่คือเหตุผลหลักที่หวังหยวนไม่สามารถพาพวกนางไปด้วยได้ท่ามกลางความวุ่นวาย หมู่บ้านต้าหวังยังคงเป็นดินแดนที่สงบสุข การอยู่ที่นี่จึงปลอดภัยที่สุด...“พี่หยวน!”ขณะที่หวังหยวนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ก็ได้ยินเสียงของต้าหู่ดังมาแต่ไกล ในพริบตาต้าหู่ก็มาถึงข้างกายเขาแล้วช่างเป็นผู้ช่วยให้รอดจริง ๆ!“เป็นอะไรไป?”หวังหยวนถามขึ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1637

    ในห้องโถงประชุมใหญ่หลังจากที่หวังหยวนแยกจากเสวี่ยเชียนหลง ก็ตรงดิ่งมาที่นี่ทันที ส่วนคนอื่น ๆ ที่ได้รับข่าวและรีบตามมาทีหลัง“เกาเล่อ สถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไร?”“ช่วงนี้ข้าอยู่แต่ในหมู่บ้านต้าหวัง ไม่รู้เรื่องราวภายนอกมากนัก”“ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่บริเวณใกล้เคียงเมืองหลิงก็ยังมีโจรและผู้พลัดถิ่นปรากฏตัวแล้ว นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”สีหน้าของหวังหยวนแปรเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีเขาปกป้องชาวบ้านในหมู่บ้านต้าหวังอย่างดี และหมู่บ้านต้าหวังก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องผู้พลัดถิ่นเหล่านี้เท่านั้น...เนื่องจากสงคราม ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องพลัดถิ่นฐาน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่โบราณยิ่งไปกว่านั้น ความคิดนี้ก็ไม่สามารถย้อนกลับได้“นั่นเป็นเพราะในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมามีแต่ไฟสงครามไม่หยุดหย่อนขอรับ”“ไม่เพียงแค่การต่อสู้ระหว่างอาณาจักรต้าเป่ยกับอาณาจักรต้าเย่เท่านั้น แม้แต่เมืองหวงก็เข้าร่วมด้วย”“สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าเลวร้านอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และดินแดนสามแคว้นของเรายังคงสงบสุข ดังนั้นผู้พลัดถิ่นจากทุกหนแห่งจึงมุ่งหน้ามาที่นี่”“ข้ารู้ว่าท่านต้องการให้พวกเขาม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1638

    “ทหารที่เราเพิ่งเกณฑ์มาเหล่านี้มีความเชื่อมั่นในตัวข้าเป็นอย่างมาก”“ดังนั้นเมื่อถึงสนามรบ ข้าจะไม่ให้พวกเขาไปถมหลุมใหญ่ แต่กลับกัน...”หวังหยวนหรี่ตามองเล็กน้อย กลยุทธ์พลันผุดขึ้นมาในใจคนอื่นต่างก็แสดงสีหน้าสงสัย ต่างรอฟังคำพูดของหวังหยวนไม่ว่าจะเมื่อใด หวังหยวนก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอ คงไม่มีข้อยกเว้นในครั้งนี้!“ต่อจากนี้ไปข้าจะสร้างแบบแปลนขึ้นมา แล้วทุกคนก็สร้างชิ้นงานตามแบบแปลนที่ข้าทำขึ้นมา นี่จะกลายเป็นอาวุธลับขั้นสุดยอดของเราในสนามรบ!”“และจะสามารถลดการสูญเสียของกองทัพเราได้!”ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมากมีของดีเช่นนี้ด้วย!แต่หวังหยวนกลับจงใจเก็บงำความลับไว้ ไม่ได้บอกว่าสิ่งของในแบบแปลนมีประโยชน์อย่างไรในสังคมปัจจุบัน พวกเขาจะรู้ถึงอายุภาพของปืนใหญ่ได้อย่างไร!แต่เมื่อคิดค้นดินปืนขึ้นมาแล้ว การสร้างปืนใหญ่ก็ง่ายขึ้นมาก!และหากใช้ปืนใหญ่ในสนามรบ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบปักหลักหรือการบุกทะลวง ก็จะสามารถลดการสูญเสียได้อย่างมาก!นี่คือผลลัพธ์ที่หวังหยวนต้องการเห็น!แม้ในยามช่วงสงคราม การปกป้องชีวิตของฝ่ายตนเองก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ยังมีชาวบ้านจำนวนมากต้องพลัดถ

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status