“ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าท่านเตรียมจะยกทัพแล้วหรือเจ้าคะ?”เสวี่ยเชียนหลงถามขึ้นทันใด“เจ้าคงไม่คิดจะติดตามไปด้วยกระมัง?”หวังหยวนถามออกไปโดยไม่รู้ตัวเขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบหวงเจียวเจียวอย่างไร ไม่คาดคิดว่าตอนนี้จะมีเสวี่ยเชียนหลงเพิ่มเข้ามาอีกคน เรื่องนี้ชักจะยุ่งยากแล้วหากปฏิเสธทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนคงไม่ยอมปล่อยตนเองไปง่าย ๆ โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว คงจะคิดหาวิธีต่าง ๆ นานามาโน้มน้าวเขาเป็นแน่แต่หากไม่สามารถอธิบายอย่างยุติธรรมได้ ก็เกรงว่าเรื่องราวจะยิ่งยุ่งยากแต่เมื่อยกทัพออกไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต บวกกับสถานการณ์ในสนามรบที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หากเผลอพลาดเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้คนที่อยู่ข้างกายได้รับบาดเจ็บนี่คือเหตุผลหลักที่หวังหยวนไม่สามารถพาพวกนางไปด้วยได้ท่ามกลางความวุ่นวาย หมู่บ้านต้าหวังยังคงเป็นดินแดนที่สงบสุข การอยู่ที่นี่จึงปลอดภัยที่สุด...“พี่หยวน!”ขณะที่หวังหยวนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ก็ได้ยินเสียงของต้าหู่ดังมาแต่ไกล ในพริบตาต้าหู่ก็มาถึงข้างกายเขาแล้วช่างเป็นผู้ช่วยให้รอดจริง ๆ!“เป็นอะไรไป?”หวังหยวนถามขึ
ในห้องโถงประชุมใหญ่หลังจากที่หวังหยวนแยกจากเสวี่ยเชียนหลง ก็ตรงดิ่งมาที่นี่ทันที ส่วนคนอื่น ๆ ที่ได้รับข่าวและรีบตามมาทีหลัง“เกาเล่อ สถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไร?”“ช่วงนี้ข้าอยู่แต่ในหมู่บ้านต้าหวัง ไม่รู้เรื่องราวภายนอกมากนัก”“ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่บริเวณใกล้เคียงเมืองหลิงก็ยังมีโจรและผู้พลัดถิ่นปรากฏตัวแล้ว นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”สีหน้าของหวังหยวนแปรเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีเขาปกป้องชาวบ้านในหมู่บ้านต้าหวังอย่างดี และหมู่บ้านต้าหวังก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องผู้พลัดถิ่นเหล่านี้เท่านั้น...เนื่องจากสงคราม ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องพลัดถิ่นฐาน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่โบราณยิ่งไปกว่านั้น ความคิดนี้ก็ไม่สามารถย้อนกลับได้“นั่นเป็นเพราะในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมามีแต่ไฟสงครามไม่หยุดหย่อนขอรับ”“ไม่เพียงแค่การต่อสู้ระหว่างอาณาจักรต้าเป่ยกับอาณาจักรต้าเย่เท่านั้น แม้แต่เมืองหวงก็เข้าร่วมด้วย”“สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าเลวร้านอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และดินแดนสามแคว้นของเรายังคงสงบสุข ดังนั้นผู้พลัดถิ่นจากทุกหนแห่งจึงมุ่งหน้ามาที่นี่”“ข้ารู้ว่าท่านต้องการให้พวกเขาม
“ทหารที่เราเพิ่งเกณฑ์มาเหล่านี้มีความเชื่อมั่นในตัวข้าเป็นอย่างมาก”“ดังนั้นเมื่อถึงสนามรบ ข้าจะไม่ให้พวกเขาไปถมหลุมใหญ่ แต่กลับกัน...”หวังหยวนหรี่ตามองเล็กน้อย กลยุทธ์พลันผุดขึ้นมาในใจคนอื่นต่างก็แสดงสีหน้าสงสัย ต่างรอฟังคำพูดของหวังหยวนไม่ว่าจะเมื่อใด หวังหยวนก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอ คงไม่มีข้อยกเว้นในครั้งนี้!“ต่อจากนี้ไปข้าจะสร้างแบบแปลนขึ้นมา แล้วทุกคนก็สร้างชิ้นงานตามแบบแปลนที่ข้าทำขึ้นมา นี่จะกลายเป็นอาวุธลับขั้นสุดยอดของเราในสนามรบ!”“และจะสามารถลดการสูญเสียของกองทัพเราได้!”ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมากมีของดีเช่นนี้ด้วย!แต่หวังหยวนกลับจงใจเก็บงำความลับไว้ ไม่ได้บอกว่าสิ่งของในแบบแปลนมีประโยชน์อย่างไรในสังคมปัจจุบัน พวกเขาจะรู้ถึงอายุภาพของปืนใหญ่ได้อย่างไร!แต่เมื่อคิดค้นดินปืนขึ้นมาแล้ว การสร้างปืนใหญ่ก็ง่ายขึ้นมาก!และหากใช้ปืนใหญ่ในสนามรบ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบปักหลักหรือการบุกทะลวง ก็จะสามารถลดการสูญเสียได้อย่างมาก!นี่คือผลลัพธ์ที่หวังหยวนต้องการเห็น!แม้ในยามช่วงสงคราม การปกป้องชีวิตของฝ่ายตนเองก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ยังมีชาวบ้านจำนวนมากต้องพลัดถ
“ไม่อร่อยเลยสักนิด”เมื่อได้เคี้ยวข้าวสาลีผสมถั่ว หวังหยวนวางชามดินเผาลง รู้สึกเหมือนกินแกลบไม่มีผิด ตอนนี้ใครมาบอกว่าการข้ามกาลเวลามันดี เขาก็พร้อมที่จะบอกความในใจให้พวกเขา ข้ามกาลเวลามาถึงช่วงราชวงศ์ต้าเย่ คล้ายช่วงยุคสมัยโบราณของจีน เจ้าของร่างเดิมเป็นเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ ตอนเช้าได้กินข้าวต้มข้าวฟ่าง เที่ยงได้กินข้าวผสมข้าวฟ่าง ตอนเย็นได้กินเซาปิ่งพร้อมธัญพืชผสม ทุก ๆ สิบวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนในเมือง ถึงจะได้กลับมากินให้หายอยากได้สำหรับคนทั่วไป แต่ละวันกินข้าวต้มข้าวฟ่าง หรือข้าวสาลีผสมถั่ว ส่วนเนื้อนั้นในช่วงปกติอย่าไปคิดถึงมันเลย คงมีแค่ช่วงฉลองตรุษจีนเท่านั้นถึงจะได้กินเนื้อบ้าง ส่วนแป้งและข้าวสารนั้นเป็นที่นิยมของเจ้าของที่ดิน คหบดีและขุนนาง นึกถึงพวกไข่ เนื้อหมู ไก่ ปลา บนโลกที่ถูกทิ้ง หวังหยวนอดที่จะตีตัวเองไม่ได้ น้ำเสียงที่ฟังดูขลาดกลัวของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ขอโทษนะ ในบ้านไม่มีข้าวฟ่างแล้ว ให้ท่านที่เป็นบัณฑิตเพิ่งหายป่วยกินข้าวสาลีผสมถั่วเช่นนี้?” แววตาของหวังหยวนมีประกายขึ้นมา สาวน้อยคนสวยที่ท่าทางขี้ขลาดยืนอยู่หน้าห้องโ
หวังหยวนเลิกคิ้ว "ถ้าข้าทำได้ล่ะ?" หลิวโย่วไฉเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ "ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไม่คิดดอกเบี้ย! แต่ถ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องขายตัวเองเป็นคนรับใช้นายของข้า ว่าอย่างไรบ้าง?" หลี่ซื่อหานหน้าถอดสี “ท่านพี่ อย่ารับปากนะ!” เจ้าของที่ใจดำคนนี้ต้องการให้เขาขายตัวเองเป็นทาส หวังหยวนโกรธมาก แต่เขาเดินไปเขียนสัญญาสองฉบับและหยิบแผ่นหมึกสีแดงออกมา "เขียนชื่อและประทับนิ้วซะ!" “ได้!” หลังจากเขียนชื่อด้วยลายมือน่าเกลียด และประทับลายนิ้วมือสีแดงแล้ว หลิวโย่วไฉก็เดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ คนเสเพลเช่นนี้ เขาไม่มีหาเงินสี่สิบกว้านได้ภายในสามวันอย่างแน่นอน แม้ว่าครอบครัวของสาวน้อยจะร่ำรวย แต่พวกเขาก็อยากให้นางทิ้งคนเสเพลพรรค์นี้อยู่เสมอ ดังนั้นการยืมเงินคงจะเป็นไปไม่ได้แน่ การเดิมพันครั้งนี้ จะได้ทาสมาฟรี ๆ และสามารถขายได้ต่อในราคาหลายสิบกว้านด้วย! เข้าใกล้เป้าหมายที่ตระกูลหลิวจะครอบครองที่ดินพันหมู่ไปอีกหนึ่งเก้า 'สามีภรรยา' ยืนอยู่ตรงข้ามกันในลานบ้าน “ซื่อหาน” หวังหยวนอยากจะปลอบนาง หลี่ซื่อหานเช็ดน้ำตา และรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน หวังหยวนเข้าใจว่านี่เป็นทำร้าย
งานที่เหลือใช้แรงออกน้อยกว่ามาก แค่ล้างรากหญ้าแล้วบดในครกหิน หลังจากทำงานยุ่งมานาน หวังหยวนรู้สึกเหนื่อยมากจนปวดหลังไปหมด เขาจึงเอารากหญ้าที่ตำใส่ถังน้ำ จึงค่อย ๆ เดินทอดน่องไปที่ริมแม่น้ำ หวังหยวนเห็นพวกปลาแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เขาจึงโรยแป้งหมี่ถั่วเหลืองและน้ำลงไป ด้วยเหยื่อที่วางลงไป จำนวนปลาที่รุมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังหยวนค่อย ๆ เทของเหลวที่ได้จากการตำรากหญ้าลงไปอย่างระมัดระวัง เมื่อน้ำที่ได้จากการตำรากหญ้านั้นกระจายตัว ปลาที่ค่อย ๆ ลอยหงายท้องขึ้นมาจากน้ำ หนึ่งตัว! สองตัว! ... หลังจากนั้นสักพัก หวังหยวนก็จับปลาตัวใหญ่ได้แปดตัว และตัวเล็กอีกสิบห้าตัว ปลาตัวใหญ่หนักประมาณสองกิโลครึ่ง ตัวเล็กหนักประมาณสองร้อยห้าสิบกรัม ปลาที่เล็กกว่านี้ก็ปล่อยมันไป เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็กลับบ้านด้วยของที่เต็มตะกร้า ผ่านกระท่อมมุงหลังคาจากสี่หลัง คอกวัวและลานเล็ก ๆ ที่ล้อมรั้วทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน “ลุงหานซาน!” หวังหยวนตะโกนเรียกเขา เด็กน้อยน่ารักที่เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยสวมเสื้อคลุมยัดนุ่นวิ่งออกมาจากเรือน ไปมองดูหวังหยวนในชุดคลุมตัวอย่างสงสัยและเขินอาย "หวั
ในโลกนี้มีการตกปลา ตกเบ็ด จับปลา แต่ยังไม่มีใครวางยาปลา หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ข้าค้นพบเคล็ดลับการตกปลาและก็จับปลากลับมาได้ตั้งเยอะ รีบกินเร็วเข้า ระวังถูกก้างทิ่มเอาล่ะ!" “เคล็ดลับการตกปลา!” หลี่ซื่อหานที่สงสัยอยู่แล้วนั้น ยิ่งเจอความเป็นห่วงเอาใจใส่ของหวังหยวน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกวางที่ตกใจอีกครั้ง ทั้งสองคนก็กินปลาต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยได้กินปลาหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปลาสดใหม่ หวังหยวนพบว่าปลาที่ทอดในน้ำมันหมูสักพัก และใส่เกลืออบรอสักสิบห้านาที และโรยด้วยผักป่า มันจะอร่อยมากซะกินจนหมดเกลี้ยง มาดูทางหลี่ซื่อหาน นางกินเหมือนแมวดมไม่มีผิด กินไปเพียงแค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น “ท่านพี่ ข้าอิ่มแล้ว อีกครึ่งตัวนี้ข้ายังไม่ได้แตะมัน!” เห็นหวังหยวนมองมาที่นาง หลี่ซื่อหานก็วางตะเกียบลงแล้วผลักจานปลานั้นมา “ข้ากินอิ่มแล้ว แค่มองเจ้ากินปลาแบบนี้ก็น่ามองแล้ว รีบกินเถอะ!” หวังหยวนลุกขึ้นและออกจากห้องโถง เมื่อใดก็ตามที่มีเนื้ออยู่ในบ้าน หลี่ซื่อหานลังเลไม่กล้ากินมัน ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมกินก่อนเสมอ นี่จึงทำให้นางผอมลงจนผอมซูบ จนความงามแต่เดิมของนางก็หายไ
หวังซื่อไห่เอามือจับชายแขนเสื้อตัวเองยืนน้ำลายไหลอยู่หน้าประตูบ้านหวังหยวน หวังหยวนถามว่า "เจ้าทำอะไรน่ะ?" ต้าหู่และเอ้อหู่ก้าวออกมาล้อมขนาบหวังซื่อไห่ทั้งซ้ายและขวา มายืนน้ำลายไหลบ้านพี่หยวนแต่เช้า เจ้าอันธพาลนี่ต้องคิดเรื่องไม่ดีอยู่แน่ ๆ หวังซื่อไห่ตกใจจนสะดุ้ง แล้วจึงรีบถอยออกไปจากประตู “ข้า ข้าอยากกินปลา!" ช่างหน้าด้านได้อย่างตรงไปตรงมา หวังหยวนส่ายหน้า “เจ้ามาช้าไป ปลาถูกกินหมดแล้ว!” “เช้ากินหมดแล้ว ยังมีตอนเย็นอีก แค่อยากกินปลาเอง ให้ข้าไปขุดรากหญ้ากับเจ้าก็ได้นะ ไม่มีปัญหา” เมื่อวานที่เดินเตร็ดเตร่อยู่นั้น พบว่าที่บ้านหวังหยวนนั้นกินปลา และบ้านหวังหานซานก็ได้กินปลาเช่นกัน เดินมาแต่เช้าก็พบว่าบ้านหวังหยวนก็กินปลา และพ่อลูกหวังหานซานด้วย เมื่อนึกถึงที่หวังหยวนพูดถึงประโยชน์ เขาเข้าใจแล้วว่าเขาพลาดอะไรไป ปลาสองมื้อ! หวังหยวนกระพริบตา "งั้นไปเอาไข่สองฟองก่อน" ในชนบทแม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงไก่อยู่ไม่กี่ราย แต่ไข่ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้และขายเป็นเงิน กว่าจะได้ไข่สองฟองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ "...ตกลง!" หวังซื่อไห่กัดฟันและหันกลับมา หวังหานซานเตือนว่า "หวังหยว